Our Beloved King Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Sat, 27 Aug 2022 09:18:35 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico Our Beloved King Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ครบรอบวันสวรรคตพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พ่อยังอยู่ในใจพวกเราตลอดไป https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%95%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%8a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-9-%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%9e%e0%b8%a7%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b9%84%e0%b8%9b?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588-9-%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259b Thu, 12 Oct 2017 10:54:17 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=3390   อ่านเร็วๆ ครบรอบ 1 ปีที่เราได้สูญเสียพ่อของแผ่นดิน ึคือ วันที่ 13 ตุลาคม 2560 เรื่องราวของพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทาง BBC News ได้สัมภาษณ์พระองค์ไว้ สรุปให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าทำไมคนไทยถึงรักพระองค์</span พ่อยังคงอยู่ในใจของพวกเราเสมอและตลอดไป   วันที่ 13 ตุลาคม ได้กลายเป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่งของคนไทยทั

The post ครบรอบวันสวรรคตพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พ่อยังอยู่ในใจพวกเราตลอดไป appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Mitr');.entry-thumbnail > .wp-post-image{cursor:pointer;}.entry-thumbnail>.img-responsive{width:100%;}.speed_text{border-left:8px solid #FFc22c;padding:16px 16px 16px 30px;color:#215BA7;}.speed_text>.title{font-size:2em;color:#FFC22c;}.quote_text{text-align:center;padding:30px;border-width:0;border-radius:12px;background-color:#fbfbfb;}.quote_text:before,.quote_text:after{display:inline-block;width:66px;height:48px;content:"";background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_start.png);background-size:cover;}.quote_text:after{background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_end.png);}.quote_text>p{margin-top:24px;margin-bottom:24px;font-family:'Mitr',sans-serif;font-size:2em;color:#215BA7;}.entry-content{font-size:16px}

 

อ่านเร็วๆ

  • ครบรอบ 1 ปีที่เราได้สูญเสียพ่อของแผ่นดิน ึคือ วันที่ 13 ตุลาคม 2560
  • เรื่องราวของพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทาง BBC News ได้สัมภาษณ์พระองค์ไว้ สรุปให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าทำไมคนไทยถึงรักพระองค์</span
  • พ่อยังคงอยู่ในใจของพวกเราเสมอและตลอดไป

 
วันที่ 13 ตุลาคม ได้กลายเป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่งของคนไทยทั้งประเทศ เพราะเป็นคล้ายวันสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 หรือพ่อหลวงของพวกเราทุกคน เป็นวันที่หลายคนร้องไห้อย่างไม่อายใครรวมถึง Frank ด้วย หลังจากรู้ข่าวจากโทรทัศน์แล้วรู้สึก อึ้ง งง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเองโดยที่เราไม่รู้ตัวเพราะว่าเป็นความสูญเสียแบบหาที่เปรัยบไม่ได้ และอดคิดไม่ได้ว่า นักปราชญ์ที่เก่งที่สุดในแผ่นดินไทยได้จากพวกเราไปแล้ว
ในวันนัั้น Frank อาจจะไม่ได้มีโอกาสไปร่วมรับเสด็จพระองค์ท่าน แต่ก็ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกสูญเสียที่สำผัสได้อยู่ทุกที่ของประเทศไทยและไม่เว้นแม้แต่ในต่างประเทศด้วย เพื่อนชาวต่างชาติหลายคนทีรู้จักเมืองไทยแบบผิวเผินอกถาม Frank ไม่ได้ว่า ทำไมคนไทยดูเสียใจและเศร้ามากถึงขนาดนี้ Frank จึงอาสาเล่าให้พวกเขาฟังว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนไทยทั่วโลกรักพระองค์มากขนาดนั้น
ระหว่างเล่าเรื่องราวต่างๆ เท่าที่รู้มาตั้งแต่เด็ก เรื่องราวที่ค้นหาเจอจากอินเตอร์เน็ต เปิดคลิปต่างๆ ใน Youtube ไปด้วย Frank ก็ร้องไห้ไปด้วยและพบว่า ยังมีอีกหลายเรื่องมากที่เราไม่เคยรู้เดี่ยวกับพระองค์มากก่อนเลยและยิ่งทำให้รู้ว่าเราโชคดีจริงๆ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกๆ ของพ่อและเป็นวาสนาของพวกเราจริงๆ ที่ได้มีพระราชาที่รักประชาชนของท่านอย่างแท้จริง เพื่อนๆ ลองดูคลิปนี้นะครับ แม้จะเป็นตอนสั้นๆ แต่คำตอบที่พ่อตอบนักข่าวไปนั้น บ่งบอกอย่างแท้จริงว่า ท่านไม่เคยมองลูกๆ ของท่านเป็นผู้ร้ายหรือคนไม่ดีเลย สิ่งที่ท่านทำไปทั้งหมดเพื่อการสร้างเขื่อนให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นเพื่อพวกเขาจะได้ไม่ขาดแคลนน้ำและไม่เคยมีคอมมิวนิสหรือฝ่ายใดๆ ที่แบ่งแยกลูกๆ ของท่านจากคำว่า ประชาชนชาวไทยเลย แม้แต่เสี้ยวเดียวของความคิดของพ่อของพวกเรา (Frank คิดถึงพ่อมากครับ)

แต่ก็เป็นกฎของธรรมชาติ ที่มีพบก็ต้องมีจากเป็นเรื่องธรรมดา พวกเราที่เคยมีพระราชาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกมายาวนานถึง 70 ปี ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราควรต้องเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น เพื่อสานต่องานต่างๆ ที่พ่อตั้งตนไว้ให้เราเพื่อสืบต่อไปยังลูกหลานให้เป็นมรดกของประเทศสืบต่อไปกันเถอะครับ
 
ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ทีมงาน Frank.co.th
 

Frank’s Box

 
Credit: https://www.m-culture.go.th, https://www.youtube.com, https://www.youtube.com, https://www.facebook.com

The post ครบรอบวันสวรรคตพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พ่อยังอยู่ในใจพวกเราตลอดไป appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สรุปงานแก้ปัญหาจราจรของพ่อ (ร.9) ที่เราไม่รู้มาก่อน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%9b%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad-%e0%b8%a3-9-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad-%25e0%25b8%25a3-9-%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599 Wed, 27 Sep 2017 11:48:05 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=3297 อ่านเร็วๆ สรุปโครงการพระราชดำริของพ่อเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจรที่เราไม่เคยรู้มาก่อนแต่แต่ปี 2520 จนถึงโครงการสุดท้าย พ่อเริ่มมองเห็นปัญหาและหาทางแก้ให้พวกเราล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อ 40 ปีก่อนโดยเริ่มจากโครงการถนนรอบบางกระเจ้าจนถึงการแก้ปัญหาจราจรรอบถนนศิริราช ถนนวงแหวนรอบนอกหรือถนนกาญจนาภิเษกคือ พระราชดำริของพ่อที่ต้องการใ

The post สรุปงานแก้ปัญหาจราจรของพ่อ (ร.9) ที่เราไม่รู้มาก่อน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Mitr');.entry-thumbnail > .wp-post-image{cursor:pointer;}.entry-thumbnail>.img-responsive{width:100%;}.speed_text{border-left:8px solid #FFc22c;padding:16px 16px 16px 30px;color:#215BA7;}.speed_text>.title{font-size:2em;color:#FFC22c;}.quote_text{text-align:center;padding:30px;border-width:0;border-radius:12px;background-color:#fbfbfb;}.quote_text:before,.quote_text:after{display:inline-block;width:66px;height:48px;content:"";background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_start.png);background-size:cover;}.quote_text:after{background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_end.png);}.quote_text>p{margin-top:24px;margin-bottom:24px;font-family:'Mitr',sans-serif;font-size:2em;color:#215BA7;}.entry-content{font-size:16px}
อ่านเร็วๆ

  • สรุปโครงการพระราชดำริของพ่อเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจรที่เราไม่เคยรู้มาก่อนแต่แต่ปี 2520 จนถึงโครงการสุดท้าย
  • พ่อเริ่มมองเห็นปัญหาและหาทางแก้ให้พวกเราล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อ 40 ปีก่อนโดยเริ่มจากโครงการถนนรอบบางกระเจ้าจนถึงการแก้ปัญหาจราจรรอบถนนศิริราช
  • ถนนวงแหวนรอบนอกหรือถนนกาญจนาภิเษกคือ พระราชดำริของพ่อที่ต้องการให้ลูกๆ ได้รับประโยชน์มากกว่าการสร้างอนุเสาวรีย์ให้พระองค์ท่าน
  • การสร้างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมจากพระราชดำริของพ่อเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากท่าเรือกรุงเทพต่อเนื่องไปถึงจังหวัดสมุทรปราการบรรเทารถติดจากรถบรรทุก
  • สะพานพระราม 8 เป็นอีก 1 ในโครการพระราชดำริของพ่อเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครช่าวยลดปัญหารถติดอย่างมากบนสะพานพระปิ่นเกล้า
  • แก้ปัญหาจราจรรอบถนนศิริราชตามแนวพระราชดำริของพ่อด้วยการขยายสะพานอรุณอัมรินทร์และสะพานข้ามแยกศิริราชเพื่อแก้ปัญหารถติดจากผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลศิริราชและประชาชนในระแวกนั้น

 
เดืือนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับทุกคนแล้วนะครับในการเข้ากราบพระบรมศพของพ่อ ร.9 ที่พระบรมหาราชวัง ใครยังไม่ได้ไปก็รีบหน่อยนะครับ และด้วยความคิดถึงพ่อที่อยุ่ในใจ Frank ตลอดเวลาเลยอยากเขียนบทความเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพ่อ ที่ท่านทรงงานเพื่อพวกเราล่วงหน้ามากว่า 40 ปีเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพที่บางโครงการไม่รู้มาก่อนเลยครับว่าเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพ่อหลวงของเรา คิดดูแล้วพวกเราโชคดีมากนะครับที่เกิดมาบนแผ่นดินไทยที่มีกษัตริย์ที่ทรงงานเพื่อพวกเรามาโดยตลอด 50 ปีและเวลานี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องสานต่องานที่พ่อทำและเล่าเรื่องราวต่อไปยังลูกหลานเพื่อให้พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยกันครับ
Timeline-แก้ปัญหา-จราจร-ของพ่อ-ร.9
 

โครงการพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาจราจรของพ่อ

Frank อยากให้เรารู้ที่มาของโครงการพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาที่ว่านี้กันก่อนนะครับ ว่าพ่อของเราได้มองเห็นอะไรก่อนที่ท่านจะพระราชทานแนวคิดในการแก้ปัญหาให้พวกเราตามลำดับเหตุการณ์เพื่อให้เห็นพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในการแก้ปัญหาอย่างนักปราชญ์ที่ Frank ขอชื่นชมอย่างสุดหัวใจที่มีการค้นคว้าข้อมูลอย่างฉลาด วางแผนที่สามารถทำได้จริง และทรงอธิบายแนวคิดด้วยภาษาที่ข้าราชบริพารอย่างเราเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและรู้สึกทึ่งกับแนวความคิดของพระองค์ท่านที่แสนจะเรียบง่ายแต่แก้ปัญหาได้จริงกันครับ
นอกจากการอ่านในรูปแบบของ Blog แล้วเพื่อนๆ สามารถฟังได้จากหนังสือเสียงของ facebook  page สานต่อที่พ่อทำ เพิ่มเติมได้ด้วยนะครับ เป็นโครงการอ่านหนังสือเสียงที่มีชื่อว่า “The Visionary ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต” ซึ่งเป็นของล้ำค่าที่พ่อมอบไว้ให้พวกเราเลยล่ะครับ

 

ปี 2514 ทรงวางศิลาฤกษ์ถนนรัชดาภิเษก

ถือเป็นโครงการแก้ปัญหาจราจรโครงการอันดับแรกและเป็นถนนวงแหวนแห่งแรกของเราที่พระองค์ท่านที่มีที่ที่มาอย่างซาบซึ้งใจ Frank ที่สุดครับ เพราะที่จริงแล้วโครงการนี้จะเป็นการสร้างอนุเสาวรีย์ถวายท่านเนื่องในโอกาสที่พระองค์ท่านทรงครองราชย์ครบ 25 ปี แต่พระองค์ท่านได้ตรัสกับคณะที่ถวายงานว่า  
“ขอเถิด อนุสาวรีย์อย่าเพิ่งสร้าง สร้างถนนดีกว่า สร้างถนนเรียกว่าวงแหวน เพราะมันเป็นความฝัน เป็นความฝันมาตั้งนานแล้ว เกือบ 40 ปี อยากสร้างถนนวงแหวน...”
เพื่อนๆ ครับพวกเราช่างโชคคีเหลือเกินครับที่ได้เกิดเป็นประชาชนของพระองค์ท่าน และด้วยเหตุนี้จึงได้เกิดโครงการแก้ปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯ-ธนบุรีขึ้นเป็นโครงการแรกในปี พ.ศ. 2514 เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญให้กับประชาชนแทนการสร้างพระบรมราชนุสาวรีย์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษกที่เป็นชื่อของถนนเส้นนี้ครับ
ในหลวง-ร.9-เสด็จวางศิลาฤกษ์-ถนน-กาญจนาภิเษก

พระองค์ท่านและสมเด็จพระราชินีทรงวางศิลาฤกษ์ถนนรัชดาภิเษกเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2514   

ถนนเส้นนี้เป็นถนนวงแหวนที่มีถนนเก่าบางช่วงเชื่อนต่ออยู่ด้วยมีความยาว 45 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่ ถนนวงศ์สว่างและเชื่อมต่อถนนต่างจนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์และยังเป็นที่มีของโครงการสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีที่ขนานคู่ไปกับถนนบรมราชชนนีซึ่งมีที่มาจากในช่วงที่สมเด็จย่าทรงประชวรและทรงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชหลายครั้ง เมื่อพระองค์ท่านเสด็จไปทรงเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอได้ทรงทอดพระเนตรเห็นปัญหารถติดครั้งละนานมากๆ จึงได้ทรงพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจรนี้เพื่อบรรเทารถติดจากย่านฝั่งธนและถนนย่านชานเมืองซึ่งก็คือถนนบรมราชชนนีที่ว่าครับ
 

ปี 2020 กระเพาะหมู “บางกระเจ้า”

โครงการถัดมาที่ Frank อยากแนะนำให้รู้จักเป็นโครงการที่การเป็นกระแสการท่องเที่ยวแบบฮิปส์เตอร์ในปัจจุบันนั่นก็คือ สวนสาธารณะที่อยู่ใกล้กรุงเทพที่กลายเป็นปอดให้พวกเราในปัจจุบันนั่ก็คือ โครงการปรับปรุงสาวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์ และพื้นที่บริเวณกระเพาะหมู อ.บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจราจรทางอ้อมแต่แก้ปัญหาเรื่องระบบนิเวศโดยตรงให้กับชาวกรุงเทพครับ
โครงการ-พระราชดำริ-บางกระเจ้า
ที่มาของโครงการนี้เกิดจากวิสัยทัศน์พระองค์ท่านในขณะที่ทรงได้ทอดพระเนตรเห็นพื้นที่สีเขียวที่แสนอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ใกล้กรุงเทพในขณะที่พระองค์ทรงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งผ่านบางกระเจ้า ในปีพ.ศ. 2520 ซึ่งคาดเดาว่ามาจากคำว่า “กะเจ้า” ที่หมายถึงนกกระยางอาศัยอยู่เยอะ แล้วทรงมีพระราชดำรัสว่าสมควรสงวนพื้นที่นี้ไว้เป็นพื้นที่สีเขียวและเป็นปอดให้กรุงเทพ พื้นที่นี้จึงได้อยู่ภายใต้การดูแลของ “สวนกลางมหานคร” ในปี พ.ศ. 2534 ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบนมราชกุมารีได้ทรงให้ความสนพระทัยและเสด็จเยี่ยมพื้นที่นี้ และเมื่อสร้างเสร็จก็โปรดฯ ให้สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ มาทอดพระเนตร พร้อมกับฝากพระราชดำริมาด้วยว่า
“...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องการให้มาขี่จักรยานชมสวน เพราะทราบว่าสวนศรีนครเขื่อนขันธ์นี้มีเส้นทางจักรยานสวยงามและชมทัศนียภาพตามร่องสวนชาวบ้านเป็นระยะทางยาว ตั้งใจจะมาเยี่ยมสวนศรีฯ โดยเฉพาะขี่จักรยานพายเรือคะยัก และชมหอดูนก...”
และที่น่าสนใจที่สุดคือ บางกระเจ้าได้รับยกย่องให้เป็นปอดกลางเมืองทีดีที่สุดในเอเชีย (The Best Urban Oasis) จากนิตยาสาร Time ในปี 2549 ที่ผ่านมาด้วยนะครับ
 

ปี 2521 เริ่มสร้างถนนวงแหวนรอบนอก (ถ.รัชดาภิเษก)

หลังจากนั้นก็ได้เริ่มก่อสร้างถนนรัชดาภิเษกขึ้น เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางกลางเมืองเข้าด้วยกันตามหลักการของ Free Way ในต่างประเทศที่พระองค์ท่านได้นำมาเป็นแบบอย่าง โดยที่รถทุกคันไม่จำเป็นต้องขับรถผ่านกลางเมืองเสมอไปอีกแล้ว และพระองค์ท่านยังมองว่าการแก้ปัญหาจราจรนั้นต้องทำเป็นระบบจึงควรมีเส้นทางอื่นมาเชื่อมโยงกันให้เกิดโครงข่ายของเส้นทางเพื่อให้เดินทางได้สะดวกจากจุดใดก็ได้โดยเฉพาะในกรุงเทพและแถบปริมณฑล ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Mega Project ในระยะยาวอีก 20 ปีถัดต่อมาเลยครับ
ถนนกาญจาภิเษก
 

ปี 2536 ถ.รัชดาภิเษกสร้างเสร็จ

และในปีพ.ศ. 2536 ถนนวงแหวงที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านก็แล้วเสร็จ เพื่อแก้ปัญหาจราจรที่แสนจะแออัดและมีรถติดอย่างหนาแน่นกลางกรุงเทพ เริ่มโครงการตำรวจจราจรตามพระราชดำริที่ใช้มอร์เตอร์ไซต์เป็นพาหนะในการเดินทางที่มีวัตถุประสงค์เป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ช่วยเหลือประชาชนในงานช่างได้เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสีย หรือเมื่อต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินอย่างการคลอดลูกบนรถโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับการอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อเบอร์สายด่วน 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะครับ  

นอกจากนั้นแล้วยังเริ่มสร้างถนนสุทธาวาสเพื่อระบายรถจากถ.จรัญสนิทวงศ์ โดยพระองค์ท่านได้สังเกตปัญหาจราจรที่ติดขัดเมื่อตอนที่พระองค์เสด็จเยี่ยมสมเด็จย่าตอนที่ท่านประทับที่โรงพยาบาลศิริราชในช่วงนั้น
ถนนสุทธาวาส
และยังเป็นช่วงที่เริ่มสร้างถนนหยดน้ำหรือการขยายพื้นผิวจราจรหน้ากรมประชาสัมพันธ์ เพื่อแก้ปัญหาคอขวดตรงสะพานพระปิ่นเกล้าเพื่อแก้ปัญหาจราจรจากสะพานพระปิ่นเกล้าเกล้าเพื่อไปยังถนนราชดำเนินกลางที่ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 1 ปีก็แล้วเสร็จ
ถนนหยดน้ำ
 

ปี 2537 ขยายสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

และในปีนี้เองพะรองค์ท่านก็ยังโปรดให้มีการขยายสะพานผ่านฟ้าลีลาศเพื่อเพิ่มช่องทางจราจรไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดขึ้นในการเดินทางบริเวณถนนราชดำเนิน โดยพระองค์พระราชทานพระราชดำริสรุปความว่า สะพานแห่งนี้คือมรดกที่มีคุณค่าทางศิลปกรรมและประวัติศาสตร์ของชาวไทย ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็น "โบราณสถานของชาติ" กรุงเทพมหานครจึงต้องพิจารณาวิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างละเอียดรอบคอบเป็นพิเศษ
ทรงกำชับให้ระมัดระวังในเรื่องการอนุรักษ์รูปแบบประติมากรรมให้เหมือนเดิมด้วยมิใช่มุ่งแต่ขยายผิวการจราจรเพื่อแก้ปัญหาจราจรเพียงอย่างเดียว และได้พระราชทานแนวคิดในการแก้ไขแบบแปลนที่จะปรับปรุงและขยายสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยให้ขยายผิวถนนออกไปทั้ง 2 ช่องจราจรมีความยาวประมาณ 25 เมตรเลยล่ะครับ
ถนนผ่านฟ้าลีลาส
 

ปี 2538 สร้างถนนวงแหวงอุตสาหกรรม (สะพานภูมิพล 1 และ 2)

เป็นถนนวงแหวนเส้นที่ 3 ที่พรงองค์ทรงวางแนวทางไว้เพื่อให้รถบรรทุกเดินทางขนส่งจากท่าเรือคลองเตยไปยังในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดข้างเคียงโดยไม่ต้องขับรถเข้าเมืองเป็นสะพานขึงด้วยสายเคเบิลแบบสมมาตร มีความยาวตามวงแหวน 25 กิโลเมตร มีทั้งหมด 7 ช่องทางจราจร สะพานมีความสูงจากระดับน้ำ 54 เมตร เพื่อให้เรือขนส่งสินค้านั้นสามารถผ่านได้ ซึ่งนอกจากแก้ปัญหาจราจร ลดเวลาในการขนส่งให้รวดเร็วมากขึ้นแล้วยังได้สวนสาธารณะบริเวณใต้สะพานเพื่อทุกๆ คนที่อยู่บริเวณข้างเคียงด้วย
ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
ในปีพระองค์ท่านยังให้แนวคิดการทำฟลัดเวย์ และแนวคิดแก้มลิง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วย เพราะ “น้ำ” ถือเป็นสิ่งที่มีค่าของประเทศเราแต่เราก็ยังคงเจอปัญหาจากน้ำกันอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะน้ำแล้งในบางปี หรือในช่วงหลังๆ ที่เราเจอปัญหาน้ำท่วมกันเกือบทั่วประเทศ พระองค์จึงทรงจัดทำโครงการจัดการน้ำเพื่อให้เกิดความสมดุลย์ของน้ำขึ้น
แนวคิดฟลัดเวย์นั้นคือการจัดสรรพื้นที่ที่สามารถเป็นทางผ่านของน้ำซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันได้ตลอดแนวเมื่อตอนที่มีน้ำมากเกิดความต้องการจนกระทั่งกลายเป็นท่วมเราก็สามารถใช้เส้นทางนี้ในการผันน้ำตามเส้นทางออกไปจนออกทะเลได้ แต่โครงการนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จทั้งประเทศนะครับ เพราะยังมีปัญหาจากทั้งการเวนคืนที่ดินและการรุกล้ำที่ดินที่เตรียมไว้ทำฟลัดเวย์เองด้วย ตัวอย่างเดียวในประเทศไทยที่เราสมควรได้เห็นความสำเร็จกันคือ “สะพานระบายน้ำ” ที่แก้ปัญหาจราจรของน้ำอยู่ที่จังหสวัดสมุทรปราการลงสู่อ่าวไทยที่ อ.คลองด่านที่เป็นฟลัดเวย์จากสนามบินสุวรรณภูมินั่นเองครับ
ฟลัดเวย์-1
ฟลัดเวย์-2
ส่วนแนวคิดแก้มลิงนั้นเป็นการเก็บน้ำที่มีมากเกินไปในบางช่วงไว้แล้วค่อยๆ ระบายน้ำออกมาใช้ตอนที่น้ำขาดแคลนตามนิสัยของลิงที่เก็บกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มเมื่อตอนที่มีอาหารเยอะ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ โครงการแก้มลิงทุ่งมะขามหย่อง จ.อยุธยาครับ
แก้มลิง
 

ปี 2539 ขยายผิวจราจรรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

อีกหนึ่งจุดรถติตมากบนถนนราชดำเนิน คือ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งแต่ก่อนนั้นมีช่องทางจราจรแค่ 3 ช่องทาง แล้วพระองค์ท่านก็ได้มีพระราชดำรัสให้ลดขนาดของอนุสาวรีย์ลงด้านละ 1 เมตรทำให้ช่องทางจราจรเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ช่องทางเพื่อการจราจรที่สะดวกมากขึ้นในปัจจุบันนี้ครับ
ขยายช่องทาง-อนุสาวรีย์-ประชาธิปไตย
นอกจากนั้นเรื่องของการสร้างถนนสายรองบนถนนระราม 9 ก็เป็นพระองค์ท่านอีกเช่นเดียวกันที่ทรงมองเห็นปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากของถนนพระราม 9 ในตอนนั้น จนถึงขั้นทรงมีพระราชดำริอย่างติดตลกว่า
"ถนนที่แน่นที่สุดคือถนน...น่าเสียใจนะ...ถนนชื่อพระราม 9 เราคือพระราม 9 ก็แย่ พระราม 9 มีแฟนมาก เมื่อมีแฟนมาก ถนนก็เต็ม แล้วเราก็แก้ไข"
ซึ่งนี่คือที่มาของถนนสายรองพระราม 9 ที่พวกเราบางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน Frank เองก็เพิ่งรู้ความจริงตอนหาข้อมูลเพื่อเขียนบทความให้เพื่อนๆ นี่ล่ะครับ พวกเรานี่โชคดีจริงงๆ เลยนะครับ
โครงการ-เชื่อมต่อ-ช่องทาง-ถนนพระราม-9-ตามพระราชดำริ
โครงการ-ถนนสายรอง-พระราม-9-ตามพระราชดำริ
 

ปี 2541 เปิดใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี

หลังจากทรงมีพระดำเริิ่มก่อสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี และแล้วก็เสร็จเรียบร้อยในปี 2541 เพื่อแก้ปัญหาจราจรที่ติดขัดบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าจากพระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ว่า
“... หากสร้างสะพานยกระดับขาออกให้ยาวเลยไปจากขนส่งสายใต้ จะมีประโยชน์มาก ....”
ในที่สุดพวกเราก็ได้ใช้ทางคู่ขนานนี้กันแล้วครับ สารภาพว่าครั้งแรกที่ใช้ทาง ยังอดคิดในใจว่าดีจังที่มีทางคู่ขนานนี้ ไม่งั้นกว่าจะไปถึงสายใต้ต้องรถติดมากแน่ๆ เลย
ถนนคู่ขนานบรมราชชนนี-ตามพระราชดำริ
 

ปี 2545 เปิดใช้สะพานพระราม 8

สะพานที่มีที่มาจากชั้น 6 โรงพยาบาลศิริราช ตอนที่พระองค์เสด็จเยี่ยมสมเด็จย่าที่โรงพยาบาลศิริราชอีกเช่นเดียวกันครับ โดนสะพานนี้สร้างในช่วงความกว้างของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ 300 เมตรจึงเป็นสะพานแขวนที่ไม่เปลืองพิืนที่ก่อสร้างตอม่อสะพานเพื่อให้เรือบรรทุกยังคงสัญจรไปมาได้ สะพานนี้นอกจากช่วยแก้ปัญหาจราจรแล้วในปัจจุบันยังกลายเป็นอีกหนึ่งที่มท่องเที่ยวในกรุงเทพไปแล้วด้วยครับ ใครอยากเต้นแอโรบิครอที่ใต้สะพานได้เลยนะครับ
สะพานพระราม-8
 

ปี 2550 ถนนวงแหวนรอบนอก หรือถนนกาญจนภิเษก  สร้างเสร็จ

ถนนเส้นนี้คือ ถนนเส้นโปรดของ Frank เลยครับนอกจากไม่ต้องเข้าเมืองเวลาเดินทางแล้วยังเชื่อมต่อไปได้หลายจังหวัดเลยด้วยนะครับ เป็นถนนวงแหวนเส้นที่ 2 ที่อยู่ใน Mega Project ของพระองค์ท่านเพื่อทำให้การเดินทางรอบนอกเมืองสะดวกมากขึ้นเยอะ นอกจากแก้ปัญหาจราจรได้แล้วยังทำให้เกิดการขยายตัวของเมืองออกไปยังชาญเมืองด้วย ยืนยันอีกครั้งว่าถนนเส้นนี้ขับเพลินจริงๆ นะครับ
ถนนกาญนาภิเษก
 

ปี 2553 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรมสร้างเสร็จ

หลังจากที่พระองค์ท่านมีพระราชดำริถนนวงแหวนเส้น 3 ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็น “ถนนลัด” ให้รถบรรทุกแล้ว ก้ได้มีการเรียกชื่อตามชนิดการใช้งานว่า ถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่รวมสะพานภูมิพล 1 และ 2 ไว้ด้วยกันที่ทำให้การเดินทางไปสมุทรปราการง่ายขึ้นและประหยัดเวลาไปได้เยอะมากเลยครับ นอกจากกนี้ยังเป็นช่วงเวลาในการเชื่อมต่อถนนวงแหวนทั้ง 3 เส้นเข้าด้วยกัน ทำให้ Mega Project ของพระองค์ท่านเสร็จสมบรูณ์ ทั้งหมดก็เพื่อประชาชนของพระองค์ท่านทั้งนั้นเลยนะครับ  
ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม-สะพานภูมิพล-1-2
 

ปี 2554 รับสั่งให้แก้ปัญหาจราจรรอบถนนศิริราช   

งานแก้ปัญหาสุดท้ายตามแนวพระราชดำริที่ Frank จะพูดถึงคือ การแก้ปัญหาจราจรรอบโรงพยาบาลศิริราชที่ถือเป็นโครงการต่อเนื่องจากทางคู่ขนานบรมราชชนนีและสะพานพระราม 8 เพราะโรงพยาบาลเองก็มีผู้ป่วยมาใช้บริการเป็นจำนวนมากยังไม่รวมประชาชนที่เดินทางในระแวกนั้นด้วยทำให้เกิดปัญหารถติดสะสมเป็นที่สุด โดยมีพระดำริใช้พื้นที่ของโรงพยาบาล การรถไฟ และกองทัพเรือมาร่วมกันแก้ปัญหา  
โดยการการเพิ่มโครงข่ายถนนที่เชื่อมโยงพื้นที่ฝั่งตะวันตกและตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจร บริเวณแยกอรุณอัมรินทร์ แยกศิริราช แยกพรานนก สามแยกไฟฉาย และทางแยกอื่นๆ ที่ต่อเนื่องกันและลดจุดตัดและทางแยกสัญญาณไฟจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวนรัชดาภิเษก ซึ่งทำให้ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกฝั่งธนบุรีเดินทางได้สะดวกขึ้นด้วย
พระองค์ท่านยังทรงซักถามเกี่ยวกับการจัดทำระบบรถไฟฟ้าบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราชรวมทั้งทรงซักถามเกี่ยวกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไปในส่วนภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศใจความตอนหนึ่งว่า
      "ที่จริงรถไฟนี้จะได้ประโยชน์มาก เพราะว่าดีกว่าการคมนาคมทางถนน ทางถนนมันแพงมาก รถไฟจะถูกลงไปมาก ดีสำหรับการเศรษฐกิจของไทยถ้าทำได้สำเร็จโดยเร็ว"
การแก้ปัญหาจราจร-รอบโรงพยาบาลศิริราช-ตามพระราชดำริ
 
อ่านแล้ว Frank รู้สึกรักพระองค์ท่านมากขึ้นเรื่อยๆ เลยครับ เพราะท่านทรงห่วยใยพวกเราไว้ล่วงหน้าเลย ยังทรงคำนวณความคุ้มค่าในการลงทุนระบบคมนาคมให้พวกเราอีกต่างหาก ก็ได้แต่หวังว่าแนวพระราชดำริเหล่านี้จะกลายเป็นความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราออกเดินทาง ของให้เราระลึกไว้เสมอนะครับว่า พ่อทรงทำเพื่อพวกเราไว้อย่างไรและเราจะตอบแทนพ่อด้วยการสานต่อโครงการทั้งหลายที่พ่อทำไว้อย่างไรบ้าง
 
กราบแทบฝ่าพระบาทส่งเวสด็จสู่สวรรคาลัย
ร่วมถวายความอาลัยแด่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
Frank Insurance Broker (Thailand) Co., Ltd.
 
Credit: http://www.posttoday.com, https://www.facebook.com, http://www.chaipat.or.thl, https://www.pttep.com, http://203.155.220.238/dpw/index.php, http://www.manpattanalibrary.com, https://www.loveisan.com/, http://mediastudio.co.th, http://203.155.220.238/dpw/index.php, https://www.home.co.th, http://www.thaihealth.or.th, https://www.thetrippacker.com, http://thinkofliving.com, http://www.manpattanalibrary.com, http://www.manager.co.th, https://www.facebook.com/fulfillingfatherslegacy/
 
 

The post สรุปงานแก้ปัญหาจราจรของพ่อ (ร.9) ที่เราไม่รู้มาก่อน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรรัชกาลที่ 10 และรถยนต์พระที่นั่ง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%88%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c-%e0%b8%9a%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%9e%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b8%a3-%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%8a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-10-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2593%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588-10-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587 Wed, 07 Dec 2016 05:30:05 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1516 รัชกาลที่ 10 ของเราเป็น “กษัตริย์นักรบและกษัตริย์นักบิน” ทรงโปรดด้านการทหารและด้านการบินเป็นพิเศษ สำหรับรถยนต์พระที่นั่งของรัชกาลที่ 10 ส่วนมากเป็นยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ สังกัดกองพระราชพาหนะ วังศุโขทัย ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ของพวกเราแล้วรึยังครับ? frank จึงอยากหยิบยกเรื่องราวในอีกหนึ่งแง่มุมของพระองค์ท่านมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟ

The post สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรรัชกาลที่ 10 และรถยนต์พระที่นั่ง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รัชกาลที่ 10 ของเราเป็น “กษัตริย์นักรบและกษัตริย์นักบิน” ทรงโปรดด้านการทหารและด้านการบินเป็นพิเศษ สำหรับรถยนต์พระที่นั่งของรัชกาลที่ 10 ส่วนมากเป็นยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ สังกัดกองพระราชพาหนะ วังศุโขทัย ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ของพวกเราแล้วรึยังครับ? frank จึงอยากหยิบยกเรื่องราวในอีกหนึ่งแง่มุมของพระองค์ท่านมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันครับ

พระราชประวัติของรัชกาลที่ 10

 
the-king-Bhumiphol-royal-family
 
หลายๆ เว็บไซต์คงมีข้อมูลมาให้เพื่อนๆ อ่านกันบ้างแล้วนะครับ frank จึงขอสรุปให้เพื่อนๆ ฟังเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระองค์ท่านว่าทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2495 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตซึ่ง frank ว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อน

พระราชประวัติด้านศึกษารัชกาลที่ 10

อีกมุมที่ frank อยากพูดถึงคือ สิ่งที่เราเรียกว่าหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งบางทีก็ถูกกำหนดมาตั้งแต่วันที่เราลืมตาดูโลกใบนี้และคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับลูกที่มีพ่อหรือแม่ที่มีความสามารถเข้าขั้นอัจฉริยะที่จะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปครับ
 
king-rama-10-and-his-commercial-flight
 
ส่วนด้านการศึกษาพระองค์ทรงโปรดด้านการศึกษาทางทหารโดยทรงสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการทหารดันทรูน แคนเบอร์รา ออสเตรเลีย และด้านการบินเป็นพิเศษจนได้รับการขนานนามว่า “กษัตริย์นักบิน” โดยเฉพาะเครื่องบินพาณิชย์ในตำแหน่งนักบินที่ 1 ทั้งนี้พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นพลเอกสามเหล่าทัพด้วยกัน ได้แก่ พลเอกกองทัพบกไทย พลเรือเอกกองทัพเรือไทย และพลอากาศเอกแห่งกองทัพอากาศไทย
 
king-rama-10-and-his-air-force-flight

รถยนต์ส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 10

ในเรื่องของรถยนต์ส่วนพระองค์ของท่านนั้น frank สืบทราบมาว่าส่วนมากเป็น โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม VI เลขทะเบียน ร.ย.ล.904 ที่เราน่าจะเห็นกันมาบ้างแล้วในช่วงงานพระราชพิธีต่างๆ
 
royal-car-of-king-rama-10-rolls-royce-phantom-vi
 
หรือจะเป็น โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม VI เลขทะเบียน ร.ย.ล.2 ซึ่งจะเป็นตามแบบด้านล่าง
 
royal-car-of-king-rama-10-rolls-royce-phantom-vi
 
ส่วนโรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ สปอร์ ลิมูซีน เลขทะเบียน ร.ย.ล.4 และโรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ สปอร์ ลิมูซีน เลขทะเบียน ร.ย.ล.5 นั้นก็เป็รถยนต์ส่วนพระองค์ด้วยครับ
 
royal-car-of-king-rama-10-rolls-royce-silver-sport-limousine
 
เมอร์ซิเดส-เบนซ์ เอส 600 LWB รหัสตัวถัง ดับเบิลยู 221 พร้อมชุดแต่ง เอเอ็มจี เลขทะเบียน ร.ย.ล.8 ก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 10 สังกัดกองพระราชพาหนะ วังศุโขทัย เช่นเดียวกันครับ
 
royal-car-of-king-rama-10-mercedes-benz-S-600-LWB
 
ทรงพระเจริญ
 

frank Box

  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงขึ้นครองราชอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559
  • ที่มา http://www.matichon.co.th
Credit: http://www.posttoday.com, http://www.tlcthai.com/fatherday, http://www.posttoday.com/social/royal/468290, https://th.wikipedia.org

 

The post สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรรัชกาลที่ 10 และรถยนต์พระที่นั่ง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
จากพระราชดำริกังหันชัยพัฒนาสู่ไอเดีย Start Up https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%94%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2-start-up?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2592%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2-start-up Tue, 15 Nov 2016 11:07:59 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1382 กังหันชัยพัฒนา เป็นนวัตกรรมที่เรื่องชื่อของพระราชดำริส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นโครงการที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ยังเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ ด้วยรางวัลเหรียญทองจาก The Belgian Chamber of Inventor องค์กรทางด้านนวัตกรรมที่เก่าแก่ของเบลเยียมอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเอาหลักการ

The post จากพระราชดำริกังหันชัยพัฒนาสู่ไอเดีย Start Up appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
กังหันชัยพัฒนา เป็นนวัตกรรมที่เรื่องชื่อของพระราชดำริส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นโครงการที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ยังเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ ด้วยรางวัลเหรียญทองจาก The Belgian Chamber of Inventor องค์กรทางด้านนวัตกรรมที่เก่าแก่ของเบลเยียมอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเอาหลักการพระราชดำริของพระองค์มาใช้กับธุรกิจ Start Up เช่นกัน

การเล็งเห็นถึงปัญหา (find pain point)

ปัญหาน้ำเน่าเสียใจในเมืองอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกับน้ำในคลองแสนแสบที่คนคิดทำใจแล้วเรียกมันว่าคลองน้ำสีดำ แต่พระองค์ทรงเล็งเห็นว่าน้ำในแม่น้ำลำคลองเราไม่ใช่แค่น้ำสีดำ แต่เป็นน้ำเน่า ต้องแก้ไข
กังหันชัยพัฒนา
ในมุมธุรกิจนอกจากการปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามชีวิตประจำวันของเรา ถ้าเราหยุดคิด แล้วสังเกตเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตเราและคนรอบข้าง แล้วหา Pain Point ให้เจอ เพราะบางทีปัญหาไม่มี ถ้าเราไม่เริ่มมองหา ถ้ามองในทางธุรกิจการเล็งเห็นถึง Pain Point นั่นก็เหมือนกับการเล็งเห็นถึงโอกาสในธุรกิจ
วิธีง่ายๆ แต่ให้ผลประโยชน์สูงสุด (lean process)
เมื่อทรงเล็งเห็นถึงปัญหาน้ำเน่าเสียใจกรุง ทุกคนต่างร่วมกันหาทางออก ทางแก้ปัญหาน้ำเน่าคือการเพิ่มออกซิเจนให้น้ำ มีการนำเขากังหันจากต่างประเทศหลายรุ่น ทั้งรุ่นที่มีมอเตอร์แรงๆ เพื่อที่จะตีน้ำให้เร็ว ออกซิเจนจะได้เข้าสู่น้ำเยอะขึ้น การนำเข้ามอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นดีมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่พระองค์กลับทรงมีแนวพระราชดำริที่แตกต่างกันอกไป ถ้าเราต้องการให้น้ำกระจายเพื่ออกซิเจนจะได้มากขึ้น แทนที่เราจะเพิ่มความเร็วการตีน้ำ พระองค์ทรงประดิษฐ์กังหันชัยพัฒนาเพื่อเปลี่ยนที่วิดน้ำที่สัมผัสกับน้ำแทนแทน พระองค์ทรงใช้ซองวิดน้ำที่เป็นรูพรุน เพื่อให้น้ำกระจายมากขึ้น ผลออกมาว่า
เมื่อเรามองในมุมธุรกิจ หลายคนอาจจะเห็นปัญหาเช่นเดียวกับเรา แต่เราจะแก้ปัญหาหาทางแก้ปัญหาให้ตรงจุดได้อย่างไร ทั้งตรงจุด ทั้งใช้ต้นทุนที่น้อยกว่า ซึ่งนี่ถือว่าเป็นพระอัฉริยภาพของในหลวงของเราจริงๆ
ทำมันต่อไป (keep doing it)
นอกจากจะมองเห็นปัญหา แก้ไขปัญหา การมองไปข้างหน้า มองหาโอกาส และ pain point ต่อๆ ไปก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ปัญหาอาจจะไม่ได้มีแค่ปัญหาเดียว ทางแก้ก็อาจจะไม่ได้มีแค่ทางออกเดียว เช่นเดียวกับธุรกิจถึงแม้เราจะแก้ปัญหาครั้งนี้ไม่ได้ กลับมาทบทวน ว่าเรามองปัญหาทะลุปรุโปร่งหรือยัง ทางแก้ของเราแก้ถูกจุดหรือยัง ทำมันต่อไป แล้วเราจะได้คำตอบเอง

The post จากพระราชดำริกังหันชัยพัฒนาสู่ไอเดีย Start Up appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
จากเรือใบสู่แก้มลิงและแกล้งดินกับพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทย https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b9%8c%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%2590%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a2 Tue, 15 Nov 2016 02:00:51 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1368   อ่านเร็วๆ ต้นกำเนิดของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของประเทศไทยมาจากการอบรมของครอบครัว คือ สมเด็จย่าและสมเด็จพระบิดา ทรงเป็นกษัตริย์พระองเดียวในโลกที่ทรงประดิษฐ์เรือใบด้วยพระองค์เองและภายหลังยังทรงปรับแบบให้เป็นต้นแบบเรือตรวจการใกล้ฝั่งของกองทัพเรือไทยอีกด้วย ทรงเป็นปราชญ์ด้านการบริหารจัดการน้ำในโครงการแก้มลิงเพื่อประช

The post จากเรือใบสู่แก้มลิงและแกล้งดินกับพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 

อ่านเร็วๆ

  • ต้นกำเนิดของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของประเทศไทยมาจากการอบรมของครอบครัว คือ สมเด็จย่าและสมเด็จพระบิดา
  • ทรงเป็นกษัตริย์พระองเดียวในโลกที่ทรงประดิษฐ์เรือใบด้วยพระองค์เองและภายหลังยังทรงปรับแบบให้เป็นต้นแบบเรือตรวจการใกล้ฝั่งของกองทัพเรือไทยอีกด้วย
  • ทรงเป็นปราชญ์ด้านการบริหารจัดการน้ำในโครงการแก้มลิงเพื่อประชาชนของพระองค์ที่ต้องใช้น้ำในการทำเกษตรและยังแก้ปัญหาน้ำท่วมขังและมลพิษทางน้ำได้ในตัวอีกด้วย
  • ทรงเป็นปราชญ์ด้านการจัดการดิน โดยเฉพาะโครงการแกล้งดิน ที่ไม่เคยมีใครทดลองมาก่อนในโลก

 
การที่เราได้เล่าเรื่องราวดีๆ เรื่องราวที่น่าประทับใจ หรือเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่เกิดจากบุคคลอันเป็นที่รักของชาวไทยตลอดกาลสำหรับ frank นั้น เป็นสิ่งที่ภูมิใจและยินดีทำที่สุดครับ เพราะนอกจากเป็นการระลึกถึงสิ่งที่ท่านทรงทำแล้ว frank จะคิดเสมอว่าแล้วเราล่ะ ได้นำเอาสิ่งที่ท่านทรงงานเพื่อพวกเรามาปรับใช้ในชีวิตของเรารึยัง? 
 
บ่อยครั้งที่ที่พวกเราได้ยินจากสารคดี ข่าวในพระราชสำนัก หรือแม้แต่สกู๊ปพิเศษต่างๆ แต่เราก็ฟังแล้วก็ปล่อยให้ผ่านเลยไป และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะนำสิ่งที่ทรงคุณค่าเหล่านั้นมาใช้งานจริงกันซะที เรามาทำความรู้จักกับพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของประเทศเรากันครับ
 
วิศวกรรมศาสตร์จุดเริ่มต้นของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์
 
his-majesty-the-king-bhomibhol-adulyadej-patent-for-thai-people
 
คือ สาขาวิชาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษเท่าที่ frank อ่านเจอมาสืบเนื่องมาจากตอนที่ทรงพระเยาว์เมื่อทรงประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทรงโปรดการประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง เช่น เครื่องร่อน และเรือรบจำลอง ที่นอกจากประหยัดแล้วยังเกิดความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเมื่อทรงทำได้สำเร็จ ซึ่งสมเด็จย่าได้ทรงสอนลูกได้อย่างน่ายกย่องเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของความประหยัด รู้จักใช้สิ่งของให้คุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย ของเล่นที่ทรงอยากได้ต้องทรงออมเงินจากเงินค่าขนมของพระองค์เองด้วย ตัวอย่างจากเรื่องของจักรยานคันแรกที่ทรงอยากได้และสมเด็จย่าให้ท่านทรงออมเงินด้วยพระองค์เองโดยการหยอดกระปุกออมสินไว้แล้วทรงสมทบเงินเพิ่มเติมให้จนกระทั่งสามารถทรงซื้อเจ้าจักรยานคันนั้นได้และนี่คือจุดเริ่มต้นของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของประเทศไทยครับ
 
his-majesty-the-king-bhumobhol-adokyadej-invent-his-own-toys
 
จากเรื่องราวนี้ทำให้ frank หวนคิดถึง วิธีการสอนลูกของพ่อแม่ในปัจจุบันว่า ได้สอนให้ลูกรู้จักและเข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่เด็กๆ จะได้ของเล่นพวกเขาเคยให้เหตุผลเพื่อมาขอจากเราก่อนไหม หรือแค่รู้สึกอยากเล่นแล้วต้องได้เล่นเท่านั้น รู้จักการอดทนรอคอยไหม เพราะการฝึกให้รอคอยเป็นนี่คือแบบฝึกหัดสำคัญที่ทำให้เด็กๆ มีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
 

แล้วเราล่ะ ได้นำเอาสิ่งที่ท่านทรงงานเพื่อพวกเรามาปรับใช้ในชีวิตของเรารึยัง?

และในเรื่องของการประดิษฐ์ของเล่นนั้นยิ่งให้ประโยชน์อย่างมหาศาลเลยล่ะครับ ทั้งสอนให้เด็กมีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักหาความรู้ในสิ่งที่จะทำเพราะก่อนจะทำได้เราย่อมให้คำแนะนำแก่พวกเขาก่อน ได้ลงมือทำด้วยตัวเองที่ฝึกทั้งสมาธิ ความอดทน ปลูกฝังให้เกิดความกล้าที่จะลองทำ และแม้ว่าจะไม่สำเร็จในทุกครั้งก็ยังได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ได้ รู้จักแพ้ให้เป็นเพื่อกลับมาพัฒนาตวเองจนเมื่อทำมันสำเร็จก็จะได้รับความรู้สึกอันยอดเยี่ยมจากความสำเร็จที่เราได้ลงมือทำอย่างเต็มที่ด้วยครับ
 
เรือใบตระกลูมดผลงานชิ้นเอกของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์
 

 
ถามตรงๆ นะครับ คุณว่าจะมีซักกี่คนที่ชอบเล่นกีฬาแล้วลงมือสร้างเครื่องมือขึ้นมาเอง? คำตอบคือ มีครับคนนั้นคือพ่อหลวงของเราเองครับ ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่ทรงต่อเรือใบขึ้นเองเพื่อใช้ทรงกีฬาเรือใบเพราะไม่ทรงโปรดซื้อเรือราคาแพงจากต่างประเทศประกอบกับรูปร่างของคนเอเชียมีความแตกต่างจากชาวยุโรปและพระองค์ทรงโปรดการประดิษฐ์เรือรบจำลองตั้งแต่ทรงพระเยาว์อยู่แล้ว จึงทรงศึกษาตำราการต่อเรือตามหลักสากลอย่างผู้รู้จริงเรียกได้ละเอียดถึงหลักมิลลิเมตรเลยล่ะครับ
 
his-majesty-the-king-sailboat-mod-family
 
และนั่นคือที่มาของเรือใบฝีพระหัตถ์ลำแรกที่ทรงต่อด้วยพระองค์เองเป็นเรือใบพระที่นั่งเอ็นเตอร์ไพรส์ โดยพระราชทานชื่อเรือว่า “ราชปะแตน” และต่อมาทรงต่อเรือใบประเภท โอ เค ขึ้นอีก พระราชทานชื่อว่า “นวฤกษ์” ซึ่งเรือนวฤกษ์นี้เอง ทรงนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงคิดค้น ออกแบบ และสร้างเรือใบขึ้นมาด้วยพระองค์เองอีก เป็นเรือใบประเภทม็อธ (Moth) ทรงพระราชทานชื่อว่า “เรือใบแบบมด” ทรงมีรับสั่งว่า “ที่ชื่อมดนั้นเพราะมันกัดเจ็บ ๆ คัน ๆ ดี”
 
his-majesty-the-king-sailboat-mod-family
 
ต่อมาทรงพัฒนาเรือแบบมดขึ้นมาใหม่โดยได้พระราชทานชื่อว่า เรือใบ “แบบซูเปอร์มด” และเรือใบในตระกูลมดนี้ลำสุดท้ายที่ทรงออกแบบคือเรือใบ “แบบไมโครมด” ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักแล่นเรือใบทั้งหลายพระองค์ท่านทรงออกแบบเรือใบเหล่านี้ให้เหมาะสมกับสรีระของคนไทย ได้มาตรฐาน น้ำหนักเบา แล่นเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน และทรงจดลิขสิทธิ์เรือใบมดเป็นสากลประเภท International Moth Class ที่ประเทศอังกฤษ พระองค์ท่านทรงปรับปรุงแก้ไขเรือใบตระกูลมดเหล่านี้จนกลายเป็นเรือยนต์รักษาฝั่งชื่อว่า "ต. 91" ปัจจุบันเรียกว่า "เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง" และนี่คือจุดเริ่มต้นของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทยครับ
 
แนวพระราชดำริ“โครงการแก้มลิง”ในการบริหารจัดการน้ำ
 
 
โครงการแก้มลิง คือ การจัดให้มีสถานที่เก็บกักน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อเป็นบึงพักน้ำในหน้าน้ำหรือพื้นที่หน่วงน้ำ (detention basin)โดยจะทำหน้าที่รองรับน้ำฝนไว้ชั่วคราว ก่อนจะระบายลงทางระบายน้ำสาธารณะ เวลาฝนตกหนักน้ำฝนจึงไม่ไหลลงสู่ทางระบายน้ำในทันที แต่จะถูกขังไว้ในพื้นที่พักน้ำเพื่อรอเวลาให้คลองต่างๆ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักพร่องน้ำพอจะรับน้ำได้เสียก่อนจึงค่อยๆ ระบายน้ำลง เป็นการช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขังได้ในระดับหนึ่งครับ
 
his-majesty-the-king-kam-leng-project
 
แนวคิดของโครงการแก้มลิง เกิดจากการที่พ่อหลวงมีพระราชดำริถึง ลิงที่อมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มได้คราวละมากๆ จึงมีพระราชกระแสอธิบายว่า "ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อยๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง"
 
นอกจากวัตถุประสงค์เพื่อการระบายน้ำแล้ว แนวพระราชดำริแก้มลิงที่พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทยทรงคิดค้นขึ้นยังผสานแนวคิดในการอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมเข้าไปด้วย กล่าวคือ เมื่อน้ำที่ถูกเก็บกักไว้ถูกส่งเข้าไปในคลองต่างๆ ก็จะเข้าไปเจือจางน้ำเน่าเสียในคลองเหล่านี้ให้จางลง แล้วในที่สุดก็จะผลักน้ำเสียที่เจือจางแล้วลงสู่ทะเล หรือแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป
 
his-majesty-the-king-kam-leng-project
 
ลักษณะและวิธีการของโครงการแก้มลิง
      1.ดำเนินการระบายน้ำออกจากพื้นที่ตอนบนให้ไหลไปตามคลองในแนวเหนือ-ใต้ลงคลอง พักน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณชายทะเล เช่น คลองชายทะเลของฝั่งตะวันออก ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ คือ แก้มลิง ต่อไป
      2.เมื่อระดับน้ำทะเลลดต่ำลงกว่าระดับน้ำในคลอง ก็ทำการระบายน้ำจากคลองดังกล่าวออกทางประตูระบายน้ำ โดยใช้หลักการทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลก (Gravity Flow) ตามธรรมชาติ
      3.สูบน้ำออกจากคลองที่ทำหน้าที่แก้มลิงนี้ ให้ระบายออกในระดับต่ำที่สุดออกสู่ทะเล เพื่อจะได้ทำให้น้ำตอนบนค่อยๆ ไหลมาเองตลอดเวลาส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมพื้นที่ลดน้อยลง
      4.เมื่อระดับน้ำทะเลสูงกว่าระดับน้ำในลำคลองให้ทำการปิดประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันมิให้น้ำย้อนกลับ โดยยึดหลักน้ำไหลทางเดียว(One Way Flow)
 
จากข้อมูลที่ frank สรุปมาให้ฟังเกี่ยวกับพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทยนี้ จะเห็นถึงการเอาพระทัยใส่ความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างพวกเรามากเพียงใด ทรงศึกษาเรื่องน้ำอย่างละเอียดจนเรียกได้ว่าเป็นผู้รู้จริงเรื่องน้ำ ทั้งทางเดินของน้ำ แนวการไหลของน้ำ ความลาดเอียงของพื้นที่ เพื่อหาทางระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่ง frank ว่าเราสามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตได้นะครับ เช่นว่า ถ้าเราจะทำอะไรให้เรารู้สาเหตุที่แท้จริง ค้นคว้าข้อมูลให้รู้จริงว่าควรทำแแบบนั้นเพราะอะไร ถ้าไม่ทำล่ะเรามีทางอื่นแก้ไขไหม ทดสอบทดลองจนได้ผลลัพธ์ในที่สุดด้วยความเพียรด้วยนะครับ
 
“โครงการแกล้งดิน”ในการแก้ปัญหาความเป็นกรดของดิน  
 

 
อีกหนึ่งโครงการที่ frank ชื่นชมพระปรีชาของพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทยเป็นอย่างยิ่งก็คือเรื่อง การแก้ปัญหาดินเป็นกรด หรือที่เรารู้จักกันว่า โครงการแกล้งดิน โดยหลักในการแก้ปัญหานี้ยังไม่เคยอ่านเจอจากวรสารวิทยาศาสตร์ระดับโดลกที่ไหนมาก่อนเลย แต่พ่อหลวงของเราทรงพระปรีชาเป็นอย่างมาก ทรงแนะนำให้แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและได้ผลดีอย่างที่เราเห็นตัวอย่างที่จังหวัดนราธิวาสกันมาแล้ว ว่าปัจจุบันสามารถปลูกข้าวได้แล้วจริงๆ ส่วนขั้นตอนนั้นเราสามารถดูจาก Clip ด้านล่างได้เลยครับ
 

 
สรุปวิธีการสำคัญที่ใช้ในการแกล้งดิน
 
ใช้วิธีการปรับปรุงดินที่เปรี้ยวจัดให้สามารถใช้เพาะปลูกได้ โดยมีหลายวิธีการด้วยกันในการ"แกล้งดิน" ดังนี้
-ใช้ปูน เช่น ปูนขาว หินปูนฝุ่น ใส่ลงไปในดิน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปูนจะทำปฏิกริยากับกรดกำมะถันในดิน เกิดสารสะเทิน ปริมาณกรดในดินจะลดลง ซึ่งหากใส่ในปริมาณที่มากพอจะช่วย ให้ดินมีสภาพเป็นกลาง
-ใช้น้ำจืด ล้างกรดและสารพิษออกจากดินโดยตรง วิธีการนี้ใช้เวลานานกว่าวิธีใช้ปูน เนื่องจากกรดจะชะล้างออกไปอย่างช้าๆ แต่ได้ผลเช่นกัน ซึ่งวิธีนี้พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทยได้ทรงแนะนำพวกเราครับ
-ยกร่อง เพื่อปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น โดยมีคูน้ำอยู่ด้านข้าง ให้นำหน้าดินจากดินในบริเวณที่เป็นคูมา เสริมหน้าดินเดิมที่เป็นคันร่อง ก็จะได้หน้าดินที่หนาขึ้น ส่วนดินที่มีสารไพไรท์จะใช้เสริมด้านข้าง เมื่อใช้น้ำชะล้างกรดบนสันร่อง กรดจะถูกน้ำชะล้างไปยังคูด้านข้าง แล้วระบายออกไป  
-ควบคุมระดับน้ำใต้ดิน ให้อยู่เหนือชั้นดินเลนตะกอนทะเล ป้องกันไม่ให้สารไพไรท์ทำปฎิกริยากับออกซิเจน กรดกำมะถันจึงไม่ถูกปลดปล่อยเพิ่มขึ้น
-ใช้พืชพันธุ์ทนทานต่อความเป็นกรด มาปลูกในดินเปรี้ยว  โดยใช้วิธีการต่างๆ ข้างต้นร่วมกัน
 
his-majesty-the-king-klang-din-project
 
แค่ชื่อโครงการ ก็เหมาะสมแล้วที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์” (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) ของโครงการพัฒนาแห่งองค์การสหประชาชาติในปี 2549 พระองค์ท่านเป็นนักปราชญ์แห่งการพัฒนาดินและแหล่งน้ำตัวจริงเลยครับ
 
จากที่อ่านเรื่องโครงการนี้ สิ่งที่ frank ได้เรียนรู้น่าจะเป็นเรื่องของความกล้าที่จะทดลอง ทดสอบ โดยอาศัยการค้นคว้าข้อมูลเบื้องต้นอย่างถ่องแท้ ไม่จำเป็นว่าตำราหรือความรู้ต้องมาจากต่างประเทศเท่านั้นเช่นเดียวกันกับการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ที่เราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญได้ทางอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน เราเองก็สามารถหาทางแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวของเราเองโดยอาศัยการสังเกตและประยุกต์สิ่งต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด ดังพระราชดำรัสของพ่อในปี 2535 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินตรวจแปลงศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของดินกำมะถันว่า
 

"...นี่เป็นเหตุผลอย่างหนึ่ง ที่พูดมาสามปีแล้วหรือสี่ปี ว่าต้องการน้ำสำหรับมาให้ดินทำงาน ดินทำงานแล้วดินจะหายโกรธ อันนี้ไม่มีใครเชื่อ แล้วก็มาทำที่นี้แล้วมันได้ผล... อันนี้ผลงานของเราที่ทำที่นี่ เป็นงานที่สำคัญที่สุด เชื่อว่าชาวต่างประเทศ เขามาดูเราทำอย่างนี้แล้ว เขาก็พอใจ เขามีปัญหานี่แล้วเขาก็ไม่ได้ แก้หาตำราไม่ได้ ..."

พวกเรานี่ช่างโชคดีจริงๆ เลยนะครับ นับจากพระปฐมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นต้นมา พ่อได้ทรงอุทิศพระวรกายและทรงงานมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อพัฒนาชีวิตให้ปวงชนชาวไทย โดยมิเลือกเชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา จึงทรงได้รับการขนานนามจากชาวโลกว่า “ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา” อย่างสมพระเกียรติที่สุดเลยครับ

ร่วมถวายความอาลัย

frank Box

  • เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิการยน พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา“พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (สกว.) เสนอ โดยกำหนดให้วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันนักประดิษฐ์ โดยอยู่บนพื้นฐานการใช้เทคโยโลยีแบบง่าย ๆ ใช้ภูมิปัญญาของเราเอง ใช้วัสดุภายในประเทศ เน้นความง่ายต่อการใช้งาน การซ่อมบำรุงและราคาถูก เช่น เครื่องสีข้าว กังหันน้ำ
  • “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ๙ ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตร และเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรับจดทะเบียน และออกสิทธิบัตรให้แก่พระบรมราชวงศ์ด้วย จึงนับได้ว่าเป็น “สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย ของพระมหากษัตริย์ พระองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก”
  • ทรงได้รับการสดุดี เทิดพระเกียรติจากคณะกรรมการจัดงานบรัสเซลส์ ยูเรก้า (Brussels Eureka) โดย The Belgian Chamber of Inventors ซึ่งเป็นสมาคมส่งเสริมและคุ้มครองนักประดิษฐ์ ของราชอาณาจักรเบลเยียม ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในยุโรป ทูลเกล้าฯ รางวัลใน พ.ศ. ๒๕๔๓ และ พ.ศ. ๒๕๔๔ ผลงานประดิษฐ์และพระอัจฉริยะภาพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านเทคโนโลยีวืมยาศาสตร์
  • พ.ศ. ๒๕๔๓ สภาวิจัยแห่งชาติ ได้นำผลงาน “เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย” หรือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ในพระองค์เข้าประกวดในสิ่งประดิษฐ์ประเภที่ ๑ เกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ และสิ่งแวดล้อม (Pollution Control - Environment) ปรากฏว่า ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการจัดงานว่าเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์ อย่างยิ่งในการบำบัดน้ำเสีย ทรงได้รับทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลรวมทั้งสิ้น ๕ รางวัล คือ
  • เหรียญรางวัล Prix OMPI (Organisation Mondiale De La Propriete Intelietuelle) หรือรางวัลสิ่งประดิษฐ์เด่นระดับโลก พร้อมประกาศนียบัติ และรางวัลจำนวน ๒,๐๐๐ เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
  • เหรียญรางวัล Gold Medal with Mention หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโยโลยี อย่างมีประสิทธิภาพ และประกาศนียบัติเกียรตินิยม จากบรัสเซลส์ ยูเนก้า ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๓
  • ถ้วยรางวัล Grand Prix International (International Grand Prize หรือรางวัลผลงานประดิษฐ์ดีเด่นสูงสุด
  • ถ้วยรางวัล Minister J. CHABERT (Minister of Economy of Brussels Capital Region)หรือรางวัลผลงานประดิษฐ์
  • ถ้วยรางวัล Yugosiavia หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพด้านประดิษฐ์
  • พ.ศ. ๒๕๔๔ ทรงได้รับทูลเกล้าฯ รางวัลจาก ๓ โครงการ ตามที่สภาวิจัยแห่งชาติได้จัดแสดงผลงานตามโครงการอันเนื่องมาจกพระราชดำริ คือ ผลงานเรื่องทฤษฏีใหม่ (The New Theory) ผลงานเรื่องน้ำมัน ไบโอดีเซล สูตรสกัดจากน้ำมันปาร์ม (Palm Oil Formula) และผลงานเรื่องฝนหลวง (Royal Rain Making) โดยทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลถึง ๕ รางวัล คือ
  • รางวัล D’Un Concept Nouveau de Development de la Thailande พร้อมถ้วยรางวัลทำด้วยเงิน
  • รางวัล Gold Medal With Mention หรือ รางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยี อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประกาศเกียรติคุณเทิดพระเกียรติให้แกผลงานประดิษฐ์คิดค้นโครงการน้ำมันไอโอดีเซล สูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม
  • รางวัล Gold Medal with Mention หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประกาศเกียรติคุณเทิดพระเกียรติ ให้กับผลงานประดิษฐ์คิดค้นโครงการทฤษฏีใหม่
  • รางวัล Gold Medal with Mention หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประกาศเกียรติคุณเทิดพระเกียรติ ให้กับผลงานประดิษฐ์คิดค้นโครงการฝน หลวง
  • ถ้วยรางวัล SPECIAL PRIX for His Majesty The King of Thailand พร้อมประกาศนียบัตรมอบให้ผลงานประดิษฐ์คิดค้นทฤษฏีใหม่ ปาล์มน้ำมัน ฝนหลวง และประกาศนียบัตร Honored Member of BACCI โดยเป็นรางวัลจาก Bulgarina American Chamber of Commercial and Industry (BACCI)

 

Credit: http://www.xn--12co9drbac8a9as5aiidh8isei1npa.com,
 http://www.matichon.co.th,
 http://bangkok-today.com,
 http://www.toplinediamond.com,
 http://www.klongthom.co.th,
 http://www.manager.co.th,
http://panyayan.tnews.co.th,
 https://topapw.wordpress.com,
 http://dit.dru.ac.th,
 http://km.rdpb.go.th,
 http://positioningmag.com

The post จากเรือใบสู่แก้มลิงและแกล้งดินกับพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
พระบิดาแห่งการประดิษฐ์“ฝนหลวง”ของไทย https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b9%8c%e2%80%9c%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e2%80%9d%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%2590%25e0%25b9%258c%25e2%2580%259c%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e2%2580%259d%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a2 https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b9%8c%e2%80%9c%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e2%80%9d%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2#comments Wed, 02 Nov 2016 10:30:04 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1241   สรุปรายละเอียด (สำหรับอ่านเร็วๆ)   พ่อหลวงทรงเป็นนักประดิษฐ์ที่ทรงทำให้เทคนิกการใช้สารเคมีกระตุ้นให้เกิดฝนทำได้จริงในสภาพธรรมชาติตั้งแต่เมื่อ 60 ปีที่แล้ว พ่อหลวงทรงจดสิทธิบัตรฝนหลวงทั้งในประเทศไทยและในสหภาพยุโรปเพื่อประชาชนชาวไทย ทรงจัดทำ “ตำรงฝนหลวง” ในรูปแบบของการ์ตูน ซึ่งก็คือ  infographic ในปัจจุบันนั่

The post พระบิดาแห่งการประดิษฐ์“ฝนหลวง”ของไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 
สรุปรายละเอียด (สำหรับอ่านเร็วๆ)
 

  • พ่อหลวงทรงเป็นนักประดิษฐ์ที่ทรงทำให้เทคนิกการใช้สารเคมีกระตุ้นให้เกิดฝนทำได้จริงในสภาพธรรมชาติตั้งแต่เมื่อ 60 ปีที่แล้ว
  • พ่อหลวงทรงจดสิทธิบัตรฝนหลวงทั้งในประเทศไทยและในสหภาพยุโรปเพื่อประชาชนชาวไทย
  • ทรงจัดทำ “ตำรงฝนหลวง” ในรูปแบบของการ์ตูน ซึ่งก็คือ  infographic ในปัจจุบันนั่นเอง

 
 
ตั้งแต่ตอนเด็กๆ เรื่องที่ frank จำได้อย่างแม่นยำจนมาถึงตอนนี้ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงก็เห็นจะเป็นเรื่อง “ฝนหลวง” นี่ล่ะครับ ตอนนั้นที่จำได้ก็เป็นเพราะได้ดูภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติเกี่ยวกับความยากลำบากของชาวบ้านที่ทำการเกษตรในหน้าแล้งและน้ำในการทำการเกษตรก็เริ่มไม่เพียงพอต่อทุกๆ คน จนท้ายที่สุดเกือบเกิดการทำร้ายร่างกายกันถึงชีวิตเพราะเรื่องของการแย่งน้ำ ในตอนนั้นคิดว่า โห..เรื่องของน้ำนี่มันสำคัญมากขนาดนี้เลยเหรอทำให้คนฆ่ากันได้เลยนะเนี่ย และในตอนท้ายของเรื่องก็มีหยาดฝนค่อยๆ ตกลงมาทำให้ทุกๆ คนชะงักนิ่งไป พร้อมกับเสียงที่เปล่งขึ้นมาว่า “ทรงพระเจริญ พวกเรารอดแล้ว” นั่นเป็นความทรงจำตอน frank อายุ 12 ขวบครับ
 
 
และในตอนนี้ frank อยากนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโครงการหลวงของพ่อที่ทำให้ frank ตระหนักว่า การเรียนรู้วิทยาศาสตร์นั้นมีประโยชน์อย่างไร และที่น่าสนใจที่สุดคือการนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้งานให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ได้จริงเพื่อเทิดพระเกียรติพ่อหลวงของเราครับ
 
 
พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ของไทย
 
 
micro-mod-sailboat-of-his-majesty-the-king-bhumibhol-adulyadej
 
 
ด้วยความสนพระทัยในด้านวิศวกรรมศาสตร์ของพระองค์ท่าน ที่เราน่าจะเคยได้ยินกันมาแล้วทุกคนว่าทรงต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง ย้ำอีกรอบ ต่อเรือใบด้วยพระองค์เองเลยนะครับ ที่เราได้รู้จักกันในนามของเรือใบตระกูลมด “เรือมด, เรือซูเปอร์มด และไมโครมด”  จนกระทั่งกลายเป็นที่มาของ “เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง” ของกองทัพเรือไทยในปัจจุบัน ทำให้ frank รู้สึกทึ่งมากในความสนพระทัยจริง ศึกษาจนถ่องแท้ แล้วยังทรงสร้างสิ่งต่างๆ ได้ด้วยพระองค์เองอีก ท่านทรงเป็นอัจฉริยะจริงๆครับ
 
 
Low-Speed-Surface-Aerator
 
 
ยังมีเรื่องของทรงจดสิทธิบัตร กังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเป็นต้นแบบของสิ่งประดิษฐ์ในการเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง (การที่นักวิทยาศาสตร์หรือนักประดิษฐ์ซักคนจะได้จดสิทธิบัตรในระดับโลกนั้นนั้นไม่ง่ายนะครับ ต้องเป็นผู้รู้จริงในเรื่องนั้นที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในโลกนี้เลยล่ะฮะ) และแน่นอนว่าทรงจดสิทธิบัตรการทำฝนหลวง (The Royal rainmaking Technology) เมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วทั้งในประเทศไทยและสหภาพยุโรปด้วยครับ
 
 
สิทธิบัตรที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตร ภายใต้ชื่อการดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝน ทรงมีพระราชกระแสในวันที่โปรดเกล้าฯ ให้รัฐบาลเข้าเฝ้าฯ ถวายสิทธิบัตรฝนหลวง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2548..ว่า “สิทธิบัตรนี้….เราคิดเอง…..คนไทยทำเอง…..เป็นของคนไทย…..มิใช่เพื่อพระเจ้าอยู่หัว…..ทำฝนนี้ทำสำหรับชาวบ้าน…..สำหรับประชาชน…..ไม่ใช่ทำสำหรับพระเจ้าอยู่หัว…..พระเจ้าอยู่หัวอยากได้น้ำ ก็ไปเปิดก๊อกเอาน้ำมาใช้ อยากได้น้ำสำหรับการเพาะปลูกก็ไปสูบจากน้ำคลองชลประทานได้ แต่ชาวบ้านชาวนาที่ไม่มีโอกาสมีน้ำสำหรับเกษตรก็ต้องอาศัยฝน ฝนไม่มีก็ต้องอาศัยฝนหลวง
the-royal-rainmaking-technology-patent      the-royal-rainmaking-technology-patent
 
 
 
ตำราฝนหลวง
 
 
the-royal-rainmaking-technology-infographic
 
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระบิดาแห่งฝนหลวง ยังทรงประดิษฐ์ภาพ “ตำราฝนหลวง” ด้วยคอมพิวเตอร์ด้วยพระองค์เอง เพื่อแสดงขั้นตอนและกรรมวิธีการดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝนจากเมฆอุ่นและเมฆเย็น พระราชทานแก่นักวิชาการฝนหลวงถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกันเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2542 เมื่อ 17 ปีที่แล้วครับ
 
 
ส่วนเทคโนโลยีฝนหลวงนั้น frank ขออธิบายง่ายๆ นะครับว่าคือการ ดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝนจากเมฆอุ่น และเมฆเย็น  โดยใช้สารฝนหลวง (ซึ่งก็เป็นพวกเกลือแกง หรือยูเรียที่ใช้ทำปุ๋ยนั่นเองล่ะฮะ แต่เรียกรวมว่า สารฝนหลวง เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจากสารเคมี) เป็นตัวเร่งเร้าทั้งในบรรยากาศหรือเมฆที่มีอุณหภูมิสูงกว่าและต่ำกว่าจุดเยือกแข็งให้กระบวนการเกิดฝนเกิดเร็วขึ้นโดยพระองค์ทรงจำแนกการทำฝนเทียมว่ามี 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
 
 

  • ขั้นตอนที่ 1 “ก่อกวน” เป็นการกระตุ้นให้เมฆรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเพื่อใช้เป็นแกนกลางในการสร้างกลุ่มเมฆฝนในระยะต่อมา สารเคมีที่ใช้ได้แก่ แคลเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคาร์ไบด์ แคลเซียมออกไซด์ หรือส่วนผสมระหว่างเกลือแกงกับสารยูเรีย หรือสารผสมระหว่างสารยูเรียกับแอมโมเนียไนเตรต ซึ่งสารผสมดังกล่าวจะก่อให้เกิดกระบวนการกลั่นตัวของไอน้ำในอากาศ

 

  • ขั้นตอนที่ 2 “เลี้ยงให้อ้วน” ใช้สารเคมี คือ เกลือแกง สารประกอบสูตร ท.1 สารยูเรีย แอมโมเนียไนเตรต น้ำแข็งแห้ง และอาจใช้สารแคลเซียมคลอไรด์ร่วมด้วยเพื่อให้เกิดแกนเม็ดไอน้ำให้กลุ่มเมฆมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น

 

  • และขั้นที่ 3 “โจมตี” สารเคมีที่ใช้ในขั้นตอนนี้เป็นสารเย็นจัด คือ ซิลเวอร์ไอโอได และน้ำแข็งแห้งเพื่อให้เกิดภาวะไม่สมดุลมากที่สุด ซึ่งจะเกิดเป็นเม็ดน้ำที่มีขนาดใหญ่มากและตกลงเป็นฝนในที่สุด

 
 
โดยมีข้อควรระวังในการทำฝนเทียม คือทุกขั้นตอนจะต้องอาศัย ความรู้และประสบการณ์การตัดสินใจ ที่จะเลือกใช้สารเคมีในปริมาณที่พอเหมาะ และต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ ทิศทางและความเร็วของลม ตลอดจนการกำหนดบริเวณหรือแนวพิกัดที่จะโปรยสารเคมีด้วย
 
 
เรามาทำความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของตำราฝนหลวงกันเลยดีกว่าครับ
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวบนสุด (แถวแรก) ของตำราฝนหลวงพระราชทาน
ช่องที่ 1. “นางมณีเมฆขลา” เป็นเครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์ของโครงการ เป็นหัวหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยา แห่งเขาไกรลาศ หรือเขาพระสุเมรุ วิเทศะสันนิษฐานว่าอยู่ในทะเล สื่อความเป็นไทยเรื่องของฟ้าแลบฟ้าร้องดีจังครับ
 
ช่องที่ 2. “พระอินทร์ทรงเกวียน” พระอินทร์เป็นพระสักกะเทวราช เป็นราชาของเทวดา ที่ทรงมาช่วยทำฝน frank ชอบจังฮะ รู้สึกถึงพระราชอารมณ์ขันของพระองค์ท่าน
 
ช่องที่ 3. “21 มกราคม 2542” เป็นวันที่ทรงประทับบนเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จไปประกอบพระราชกรณียกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเส้นทางพระราชดำเนินกลับ ทรงสังเกตเห็นกลุ่มเมฆปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างที่น่าจะทำฝนได้ทรงบันทึกภาพเมฆเหล่านั้นพระราชทานลงมา และมีพระราชกระแสรับสั่งให้ส่งคณะปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษออกไปปฏิบัติการกู้ภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และภาคเหนือตอนล่าง โดยเร่งด่วน วันที่แห่งประวัติศาสตร์ที่มาของฝนหลวงเลยนะครับเนี่ย
 
ช่องที่ 4. “เครื่องบิน 3 เครื่อง” เป็นตัวอย่างของเครื่องบินที่เหมาะสมกับการปฏิบัติการตามตำราฝนหลวงพระราชทานตามขั้นตอนที่ 1 – 6 ประกอบด้วย

  • เครื่องบินเมฆเย็น (BEECHCRAFT KING AIR)
  • เครื่องบินเมฆอุ่น (CASA)
  • เครื่องบินเมฆอุ่น (CARAVAN)

 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 1 ช่องที่ 1-4 เป็นขั้นตอนที่ 1
เป็นการเร่งให้เกิดเมฆโดยใช้เครื่องบินเมฆอุ่น 1 เครื่อง โปรย เกลือแกง หรือที่เรียกว่าโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ที่ระดับความสูง 7,000 ฟุต ในขณะที่ท้องฟ้าโปร่งหรือมีเมฆเดิมก่อตัว อยู่บ้าง ความชื้นสัมพัทธ์ไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นแกนกลั่นตัว (Cloud Condensation Nuclei เรียกย่อว่า CCN) ความชื้นหรือไอน้ำจะถูกดูดซับเข้าไปเกาะรอบแกนเกลือแล้วรวมตัวกันเกิดเป็นเมฆ ซึ่งเมฆเหล่านี้จะพัฒนาเจริญขึ้นเป็นเมฆก้อนใหญ่ อาจก่อยอดถึงระดับ 10,000 ฟุต ได้
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 2 ช่องที่ 1-4 เป็นขั้นตอนที่ 2
เป็นการเร่งการเจริญเติบโตของเมฆที่ก่อขึ้นหรือเมฆเดิมที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และก่อยอดขึ้นถึงระดับ 10,000 ฟุต ฐานเมฆสูงไม่เกิน 7,000 ฟุต ใช้เครื่องบินแบบเมฆอุ่นอีกหนึ่งเครื่อง โปรยสารเคมีผงแคลเซี่ยมคลอไรด์ (CaCl2) เข้าไปในกลุ่มเมฆที่ระดับ 8,000 ฟุต (หรือสูงกว่าฐานเมฆ 1,000 ฟุต) ทำให้เกิดความร้อนอันเนื่องมาจากการคายความร้อนแฝง จากการกลั่นตัวรอบ CCN รวมกับความร้อน ที่เกิดจากปฏิกิริยาของไอน้ำกับสารเคมี CaCl2 โดยตรง และพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ตามธรรมชาติ จะเร่งหรือเสริมแรงยกตัวของมวลอากาศภายในเมฆยกตัวขึ้นและเร่งกิจกรรมการกลั่นตัวของไอน้ำและการรวมตัวกัน ของเม็ดน้ำภายในเมฆ ทวีความหนาแน่นจนขนาดของเมฆใหญ่ก่อยอดขึ้นถึงระดับ 15,000 ฟุต ได้เร็วกว่าที่จะปล่อยให้เจริญขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งยังเป็นส่วนของเมฆอุ่น จนถึงระดับนี้ การยกตัวขึ้นลงของมวลอากาศ การกลั่น และการรวมตัวของเม็ดน้ำยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบปฏิกิริยาลูกโซ่แต่บางครั้งอาจมีแรงยกตัวเหลือพอที่ยอดเมฆพัฒนาขึ้นถึงระดับ 20,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับเมฆเย็น ซึ่งเริ่มตั้งแต่ระดับประมาณ 18,000 ฟุตขึ้นไป (อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส)
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 3 ช่องที่ 1-4 เป็นขั้นตอนที่ 3
เป็นการเร่งหรือบังคับให้เกิดฝนเมื่อเมฆอุ่นเจริญเติบโตขึ้นจนเริ่มแก่ตัวจัด ฐานเมฆลดระดับต่ำลงประมาณ 1,000 ฟุต และเคลื่อนตัวใกล้เข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย ทำการบังคับให้ฝนตกโดยใช้เทคนิคการโจมตีแบบ Sandwich โดยใช้เครื่องบินเมฆอุ่น 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งโปรยผงโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ทับยอดเมฆหรือไหล่เมฆที่ระดับ 9,000 ฟุต หรือไม่เกิน 10,000 ฟุต ทางด้านเหนือลม อีกเครื่องหนึ่ง โปรยผงยูเรีย (Urea) ที่ระดับฐานเมฆด้านใต้ลม ให้แนวโปรยทั้งสองทำมุมเยื้องกัน 45 องศา (ดังในแผนภาพ) เมฆจะทวีความหนาแน่นของเม็ดน้ำขนาดใหญ่และปริมาณมากขึ้น ตกลงสู่ฐานเมฆทำให้ฐานเมฆหนาแน่นจนฝน ใกล้ตกเป็นฝนหรือเริ่มตกเป็นฝนแต่ยังไม่ถึงพื้นดิน หรือตกถึงพื้นดินแต่ปริมาณยังเบาบาง
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 4 ช่องที่ 1-3 เป็นขั้นตอนที่ 4
เป็นการเสริมการโจมตีเพื่อเพิ่มปริมาณฝนให้สูงขึ้นเมื่อกลุ่มเมฆฝนตามขั้นตอนที่ 3 ยังไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายทำการเสริมการโจมตีเมฆอุ่นด้วยสารเคมีสูตรเย็นจัด คือ น้ำแข็งแห้ง (Dry ice) ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำระดับ -78 องศาเซลเซียส ที่ใต้ฐานเมฆ 1,000 ฟุต จะทำให้อุณหภูมิของมวลอากาศ ใต้ฐานเมฆลดต่ำลง และความชื้นสัมพัทธ์สูงขึ้น และจะยิ่งทำให้ฐานเมฆยิ่งลดระดับต่ำลง ปริมาณฝนตกหนาแน่นยิ่งขึ้นและชักนำให้กลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายหวังผลได้แน่นอนและเร็วยิ่งขึ้น (หากกลุ่มเมฆฝนปกคลุม ภูเขาก็จะเป็นวิธีชักนำให้กลุ่มฝนพ้นจากบริเวณภูเขาเข้าสู่พื้นที่ราบ)
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 5 ช่องที่ 1-3 เป็นขั้นตอนที่ 5
เป็นการโจมตีเมฆเย็นด้วย Agl ขณะที่เมฆพัฒนายอดสูงขึ้นในขั้นที่ 2 ถึงระดับเมฆเย็น และมีแค่เครื่องบินเมฆเย็นเพียงเครื่องเดียว ทำการโจมตีเมฆเย็น โดยการยิงพลุสารเคมีซิลเวอร์ไอโอไดด์ (AgI) ที่ระดับความสูงประมาณ 21,500 ฟุต ซึ่งมีอุณหภูมิระดับ -8 ถึง -12 องศาเซลเซียส มีกระแส มวลอากาศลอยขึ้นกว่า 1,000 ฟุตต่อนาที และมีปริมาณน้ำเย็นจัดไม่ต่ำกว่า 1 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นเงื่อนไขเหมาะสมที่จะทำให้ไอน้ำระเหยจากเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวด (Super cooled vapor) มาเกาะตัวรอบแกน Agl กลายเป็นผลึกน้ำแข็งได้ด้วยประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ไอน้ำที่แปรสภาพเป็นผลึกน้ำแข็งจะทวีขนาดใหญ่ขึ้นจนร่วงหล่นลงมา และละลายเป็นเม็ดน้ำเมื่อเข้าสู่ระดับเมฆอุ่น และจะทำให้ไอน้ำและเม็ดน้ำในเมฆอุ่นเข้ามาเกาะรวมตัวกันเป็นเม็ดใหญ่ขึ้นทะลุฐานเมฆเป็นฝนตกลงสู่พื้นดิน
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวที่ 6 ช่องที่ 1-3 เป็นขั้นตอนที่ 6
เป็นการโจมตีแบบ Super Sandwich จะทำได้ต่อเมื่อมีเครื่องบินปฏิบัติการทั้งเมฆอุ่นและเมฆเย็นสามารถใช้ปฏิบัติการได้ครบ ขณะที่ทำการโจมตีเมฆอุ่นตามขั้นตอนที่ 3 และ 4 ทำการโจมตีเมฆเย็นตามขั้นตอนที่ 5 ควบคู่ไปในขณะเดียวกัน เครื่องบินเมฆอุ่นอีกเครื่องหนึ่งโปรยสารเคมีผงโซเดียมคลอไรด์ที่ระดับไหล่เมฆจะทำให้ฝนตกหนักและต่อเนื่องนานให้ปริมาณน้ำฝนสูงยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการประสานประสิทธิภาพของการโจมตีเมฆอุ่นในขั้นตอนที่ 3 และ 4 และโจมตีเมฆเย็นในขั้นตอนที่ 5 ควบคู่กันไปในระดับเดียวกัน เทคนิคการโจมตีนี้โปรดเกล้าฯ ให้เรียกว่า SUPER SANDWICH เป็นเทคนิคที่ทรงคิดค้นขึ้นมาปฏิบัติการในประเทศไทยเป็นประเทศแรก ยังไม่มีประเทศใดในโลกเคยถือปฏิบัติมาก่อนอย่างแน่นอน
 
 
the-royal-rainmaking-infographic
 
 
แถวล่างสุด (แถวสุดท้ายของตำราฝนหลวงพระราชทาน)
เป็นแถวที่ frank ชอบมากที่สุดเลยครับ อ่านไปยิ้มไปเลย
ช่องที่ 1. “แห่นางแมว” (CAT PROCESSION) เป็นการรวมผลหรือประชาสัมพันธ์ (บำรุงขวัญ) แมวเกลียดน้ำ (The cat hates water) เป็นพิธีกรรมขอฝนที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล เป็นพิธีกรรมด้านจิตวิทยา เมื่อฝนแล้งเกิดความเดือดร้อน ปั่นป่วน วุ่นวาย จึงต้องมีจิตวิทยา บำรุงขวัญให้ประชาชน และเจ้าหน้ามีกำลังใจ
 
ช่องที่ 2. “เครื่องบินทำฝน” เครื่องบินปฏิบัติการ (เป็นพาหะในการประยุกต์เทคโนโลยีฝนหลวง) เครื่องบินต้องกล้าบินเข้าเมฆฝน เพื่อสำรวจและติดตามผล นักบินและนักวิชาการฝนหลวงต้องร่วมมือกัน (The pilot and the rainmakers must cooperate)
 
ช่องที่ 3. “กบ” เลือกนาย หรือขอฝน และเลือกฝน กบร้องแทนอุตุนิยม ถ้าไม่มีความชื้นกบเดือดร้อนและกบเตือนให้มีความพยายาม มิฉะนั้นกบตาย ไม่มีฝนเกษตรกรตาย ท่านต้องจูบกบหลายตัว ก่อนที่จะพบเจ้าชายเพียงหนึ่งองค์ (You have kiss to a lot of frogs before you meet a prince) หมายความว่า ต้องมีความพยายามทำซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อให้เกิดฝนได้สักครั้ง
 
ช่องที่ 4. “บ้องไฟ” แทนเครื่องบิน (ทำหน้าที่เสมือนเครื่องบินที่เป็นพาหะนำเทคโนโลยีฝนหลวงขึ้นไปประยุกต์ในท้องฟ้า เป็นประเพณีเรียกฝน ไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นของจริง ทำฝนด้วยการยิงบ้องไฟ บ้องไฟขึ้นสูงปล่อยควันเป็นแกน ความชื้นเข้ามาเกาะแกนควัน ทำให้เกิดเมฆเกิดฝน บ้องไฟจึงเป็นพิธีการอย่างหนึ่งเป็นวิทยาศาสตร์
 
 
จากเรื่องราวที่ frank เล่าให้ฟังมาทั้งหมดนี้ เพื่อให้พวกเราได้รู้จักนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยมาโดยตลอดและอย่างต่อเนื่องเกือบ 70 ปี
 
 
วันนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราแล้วที่ต้องกลับมาศึกษาและทำความเข้าใจสิ่งที่พ่อทำไว้ให้อย่างถ่องแท้ เพราะการศึกษาและทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น ดิจิตอลเทคโนโลยี นั้นจะช่วยเปิดมุมมองใหม่และการแก้ปัญหาที่น่าสนใจเสมอ เพราะงั้นถ้าเราเอามาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตออนไลน์ เช่น เรื่องของการทำประกันรถออนไลน์ก็น่าสนใจเช่นกันครับ
 
 
ร่วมถวายความอาลัย  

 

Credit:
www.thedarknesshero.com/2014/08/18/ฝนหลวง-ในหลวง/,
www.เรารักพระเจ้าอยู่หัว.com,
m.naewna.com/view/agriculture/114527,
huahin.royalrain.go.th/prabidaday.php,
www.manpattanalibrary.com/newsdetail.php?id=31,
www.thaigoodview.com,
oknation.nationtv.tv/blog/ooddee/2012/01/20/entry-1

The post พระบิดาแห่งการประดิษฐ์“ฝนหลวง”ของไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b9%8c%e2%80%9c%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e2%80%9d%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2/feed 1
ทำไม ? ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้รับการยกย่องระดับโลก https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%8a%e0%b8%8d%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%9e%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b6%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a8%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%2590%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b6%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2581 Fri, 28 Oct 2016 05:44:08 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1200     เรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเราคงได้ยินกันมาซักพักนึงแล้ว frank เองคิดว่าน่าจะกว่าเกือบ 40 ปีได้แล้วมั้งครับ เคยคิดว่าเป็นหลักการที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรเท่านั้นเลยคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรา แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย frank เลยอยากนำข้อมูลที่ frank ได้อ่านเพิ่มเติมมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ทั้งด้วยความ

The post ทำไม ? ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้รับการยกย่องระดับโลก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 
 
เรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเราคงได้ยินกันมาซักพักนึงแล้ว frank เองคิดว่าน่าจะกว่าเกือบ 40 ปีได้แล้วมั้งครับ เคยคิดว่าเป็นหลักการที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรเท่านั้นเลยคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรา แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย frank เลยอยากนำข้อมูลที่ frank ได้อ่านเพิ่มเติมมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ทั้งด้วยความระลึกถึงในพระเมตตาของพ่อหลวงต่อปวงชนชาวไทยและอยากให้เรานำสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของเราให้ได้ด้วยกันครับ
 

ที่มาของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง   

 

 
 
จุดเริ่มต้นที่ frank ทราบนั้น ด้วยพระปรีชาของพระองค์ท่านได้ทรงมองการณ์ไกลไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 โน่นแล้วล่ะครับและพระองค์ท่านยังคงเตอนสติพวกเรามาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2544 ที่ทรงตรัสถึง  Self-Sufficiency of Economy ว่ามีคนนำไปตีความได้ไม่ถูกต้องนัก คำว่า พอเพียงนั้นไม่ได้หมายถึงตามยถากรรมหรือห้ามไม่ให้มีของฟุ่มเฟือยเลย แต่หมายความถึง การรู้จักประมาณตนและรู้จักใช้เหตุผลและสร้างภูมิคุ้มกันโดยยึดถือความรู้และคุณธรรมเป็นหลัก และด้วยประเทศของเรานั้นมีรากฐานจากการเกษตรกรรม เรามีของดีอยู่กับตัวเองอยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องของอาหาร เราควรกลับมามองจุดยืนของตัวเราเองมากกว่าการมุ่งพัฒนาให้เจริญทางอุตสาหกรรมให้เท่ากับประเทศอื่น เพราะเมื่อเจริญมากเข้าย่อมเข้าสู่วัฏจักรการเสื่อมถอยนั่นเองครับ
 
ซึ่งต้องขอบคุณนโยบายของทางราชการในช่วงหลังมานี้ที่ต้องการทำให้เราเป็น ครัวของโลก เพียงแต่ยังไม่ตรงตามที่พระองค์ท่านแนะนำไว้นัก หลักการที่แท้จริงของเศรษฐกิจพอเพียงคือ “ความสุข” ครับ งงกันไหมครับ ว่าทำไมเป็นคำคำนี้ frank ของสรุปแนวพระราชดำริให้อ่านกันนะครับ
 

แนวพระราชดำริในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

 
1.ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการใช้ชีวิต
เราต้องรู้จักประมาณตนเอง อย่าฟุ่มเฟือย ค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดมันออกไปเลยครับ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเวลาเลือกซื้ออะไรให้เราดูที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก อย่าเห็นกับของลดราคาจนทำให้เราซื้อของมากเกินความจำเป็นไปซะ หรืออย่าไปยึดติดกับภาพลักษณ์จนทำให้เราต้องจ่ายเงินราคาแพงเพื่อรักษาเพื่อมันไว้
 
2.ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต
การเลือกอาชีพนั้น frank ว่าหลักคำสอนตามศาสนาก็ได้สอนเราไว้แล้วด้วยนะครับ และเราเลือกได้ว่าเราควรหาเลี้ยงชีพแบบสุจริต ไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่เอาเปรียบ คดโกงใคร เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นเกิดวัฏจักรครับ และกฎแห่งกรรมก็มีอยู่จริงซะด้วย
 
3.ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง
เหมือนหลักการทางการตลาดในระดับโลกเลยเลยฮะ Red Ocean ที่ท้ายสุดแล้วจะกลายเป็นสงครามราคา ซึ่งก็ทำให้เราสูญเสียทางธุรกิจกันทุกฝ่ายในท้ายที่สุด  
 
4.ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้น จนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ
Knowledge is power ความรู้ คืออำนาจครับ เมื่อเรามีความรู้เราก็จะเกิดปัญญาสามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง การตั้งมั่นในเรื่องของการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน และความรู้นี่ล่ะครับที่จะทำให้เรามีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพียงแต่เราต้องรู้จักพอดีด้วยนะครับอย่าโลภครับ  
 
5.ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละสิ่งชั่ว ประพฤติตนตามหลักศาสนา
คำสอนของทุกศาสนามุ่งสอนให้เราเป็นคนดี ตั้งมั่นในความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นครับ นอกจากการสวดมนต์และเข้าวัดทำบุญแล้ว ลองเอาหลักคำสอนมาพิจารณากันด้วยนะครับว่า แก่นแท้ของคำสอนนั้นคืออะไร เราต้องรู้จักการใช้เหตุผลด้วยนะครับ
 

คุณสมบัติของเศรษฐกิจพอเพียง มีอะไรบ้างล่ะ?

 
ย้อนกลับมามองเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงกันบ้าง ว่าหลักการที่ว่านั้นมีอะไร และพระปรีชาของพ่อหลวงของเรานั้นเหมาะสมแล้วที่ทั่วโลกให้การยกย่องในระดับสูงสุด ด้วยเพราะความเรียบง่าย แต่แยบคาย สมเหตุสมผลกับวิถีชีวิต ในคำสอนเหล่านี้ล่ะครับ
 
1.ความพอประมาณ
ความพอดี คือใจความสำคัญของทุกอย่างจริงๆ นะครับ หรือในบางคนเรียกคำคำนี้ว่า ความสมดุลย์ นั่นเอง เราต้องรู้จักพอ รู้จักความเหมาะสม รู้ว่าตัวเราพอดีที่ตรงไหน รู้จักพอประมาณอย่ามากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
 
2.ความมีเหตุผล
นี่คือเป็นธรรมชาติของโลกเลยนะครับ ด้วยเพราะสาเหตุอะไรจึงทำให้เกิดผลลัพธ์เหล่านั้นขึ้น สมแล้วที่ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์ของโลกจริงๆ ถ้าเราตอบตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาว่าเราทำสิ่งต่างๆ เพราะอะไร ตั้งคำถามกับตัวเองให้ได้ก่อนที่จะลงมือทำ เราจะพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ
 
3.มีภูมิคุ้มกัน
อีกข้อของเศรษฐกิจพอเพียงจากการเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดย คำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ในเรื่องความมีเหตุผลแล้วนั้นเราจะรับมือปัญหาได้อย่างมีสติมากขึ้นครับ และเกิดความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตของเราด้วย
 
โดยทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมานั้น จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ใช้ในการตัดสินใจ 2 ประการ คือ
 
-เงื่อนไขความรู้
ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในการปฏิบัติ
 
-เงื่อนไขคุณธรรม
ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
 
จากหลักของเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าเราพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องคอยกังวลว่าเรามีข้าวกินหรือเปล่า เลี้ยงดูครอบครัวไม่ให้อดอยาก มีรายได้เสริมจากการทำงานของเรา และเกิดความภูมิใจในตัวเอง นี่มันคือ อิสรภาพในชีวิตที่เราตามหากันอยู่ชัดๆ และสิ่งที่จะตามมาในท้ายที่สุดก็คือ “ความสุข” นั่นเองล่ะครับ
 
frank จึงอยากชวนเพื่อนๆ ให้เรานำคำสอนของพ่อหลวงมาปรับใช้ในชีวิตของเรากันเถอะครับ มาทำให้หลักการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักการของชาติเราเพื่อรอยยิ้มของพ่อกันนะครับ
 
ร่วมถวายความอาลัย
 

Credit: http://www.chaipat.or.th/site_content/34-13/3579-2010-10-08-05-24-39.html, http://www.chaipat.or.th/site_content/34-13/3579-2010-10-08-05-24-39.html, http://www.omsschools.com/school/school_teacher/index.php?id_teacher=464&lesson_id=415

The post ทำไม ? ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้รับการยกย่องระดับโลก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
มหาราชของปวงชนชาวไทย https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a2 Wed, 26 Oct 2016 11:03:54 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1170   ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกๆ พระองค์ Frank อยากสรุปพระราชกรณียกิจของทุกพระองค์มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แต่ก็เกรงว่าเราจะอ่านกัน 3 วัน 7 วันก็ไม่จบ จึงขอรวบรวม “มหาราช” ของชาวไทยมาให้อ่านกันก่อนนะครับ มาถึงวันนี้แล้วหลายคนคงสงสัยว่าเรามีมหาราชากี่องค์กัน? Frank เองก็หาคำตอบจากหลายแหล่งที่มาน

The post มหาราชของปวงชนชาวไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกๆ พระองค์ Frank อยากสรุปพระราชกรณียกิจของทุกพระองค์มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แต่ก็เกรงว่าเราจะอ่านกัน 3 วัน 7 วันก็ไม่จบ จึงขอรวบรวม มหาราชของชาวไทยมาให้อ่านกันก่อนนะครับ มาถึงวันนี้แล้วหลายคนคงสงสัยว่าเรามีมหาราชากี่องค์กัน? Frank เองก็หาคำตอบจากหลายแหล่งที่มานะครับ จนทราบจากข้อมูลล่าสุดว่า รวมแล้ว 8 พระองค์ นั่นคือ
 
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (King Ramkhamhaeng the great)
 
King-Ramkhamhaeng-the-great
 
พระองค์แรกของพวกเราเริ่มในยุคที่เรายังเป็นประเทศสยามอยู่ครับ และเป็นช่วงที่มีศึกสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดนกันอยู่ ดังนั้นขอย้อนอดีตกันไปสมัยอาณาจักรสุโขทัย พระองค์ทรงขยายอณาจักร และทรงใช้หลัก “พ่อปกครองลูก” ในการปกครองประชาชนเพื่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้น ทรงรับพระพุทธศาสนาจากทวีปลังกามาเป็นศาสนาประจำชาติ นอกจากนั้นทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเอง ซึ่งก็คือที่เราใช้อ่าน เขียน กันมาจนถึงทุกวันนี้ล่ะครับ
 
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (King Naresuan the Great)
 
King-Naresuan-the-Great
 
ด้วยหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ให้กับพม่านั้น ท่านคือพระมหากษัตริย์ผู้ทรงประกาศเอกราชใน พ.ศ. 2135 และกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมา ซึ่งในขณะนั้นเรายังอยู่ในยุคที่ต้องทำศึกสงครามมากมายเพื่อทั้งปกป้องดินแดนของเราเองและขยายอาณาเขตให้เกิดความมั่นคง โดยพระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีบนคอช้างและทรงฟันพระมหาอุปราชาจนสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นการศึกกับพม่าก็ได้ลดน้อยลง ไม่ยกทัพมารุกรานเราอีก เรายังมีประเทศอยู่ได้ก็เพราะพระองค์ท่านเลยนะครับ ล่าสุด frank ได้ทราบที่มาของเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ที่เกี่ยวกับพระสุบินของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เกี่ยวกับพระองค์ท่านที่ทรงตรัสถึงประชาชนที่ยินดีรับใช้ชาติจนตัวตายโดยไม่เสียดายชีวิตแล้วยื่งรู้สึกขอบคุณพระองค์ท่านมากขึ้นไปอีก  
 
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (King Narai the Great)
 
King-Narai-the-Great
 
ท่านทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ทรงพระปรีชามากเรื่องของการปกครอง โดยมีการส่งราชฑูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสเพื่อถ่วงดุลอำนาจของประเทศฮอลันดา ซึ่งในขณะนั้นได้มีการยึดครองชวาหรืออินโดนีเซียไปแล้วในยุคของการล่าอาณานิคม ทำให้เรายังรักษาดินแดนไว้ได้ในตอนนั้น นอกจากนี้ยังถือเป็นยุคเริ่มต้นที่ทรงติดต่อการค้ากับชาวต่างชาติ  ทรงพระปรีชาในด้านกวี และทรงส่งเสริมการกวี จนเป็นเหตุให้เกิดมีกวีที่มีชื่อเสียงหลายคน มีวรรณคดีเกิดขึ้นหลายเล่ม นับเป็นยุคทองแห่งวรรณคดีไทยเลยครับ
 
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (King Taksin the Great)
 
King-Taksin-the-Great
 
 
พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในอาณาจักรธนบุรี ทรงเป็นลูกจีนคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ทรงครองราชและทรงกอบกู้เอกราชจากพม่าจากการเสียกรุงศรีอยุธยาในครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 และยังทรงทำศึกสงครามตลอดรัชสมัยของท่านเพื่อรวบรวมแผ่นดินที่อยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่างๆ และทรงโปรดเกล้าให้สร้างกรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีใหม่ อีกทั้งยังทรงขยายอาณาเขตของประเทศออกไปอย่างกว้าขวางอีกด้วย ที่สำคัญพระองค์เป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเชื้อชาติไทยและจีน  
 
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 (His Majesty King Phra Buddha Yodfa the Great)
 
His-Majesty-King-Phra-Buddha-Yodfa-the-Great
 
ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงโปรดเกล้าให้ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ให้เป็นราชธานีแห่งใหม่และทรงพระราชทานนามว่า  กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรา ยุทธยา มหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต  สักกะทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์ รวมถึงโปรดเกล้าให้สร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมายเพื่อทำนุบำรุงบ้า้นเมืองหลังจากยุคสงคราม ได้โปรดฯให้มีการตราขึ้นเป็นครั้งแรก คือ กฎหมายตราสามดวง และยังได้ทรงจัดการเรื่องการปกครองให้เป็นระบบแบบแผนกรมกองมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นครั้งแรกที่เราได้มีการสังคายนาพระไตรปิฎก รวมถึงการฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมที่ถูกทำลายไปในช่วงสงคราม ที่โดดเด่นที่สุดคือ พระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ อันเป็นสุดยอดวรรณคดีเอกของไทย
 
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  (สมเด็จพระปิยะมหาราช) รัชกาลที่ 5
(His Majesty King Chulalongkorn the Great)  
 
His- Majesty-King-Chulalongkorn-the-Great
 
พระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชายิ่งอีกพระองค์หนึ่งของคนไทย ที่นอกจากเปลี่ยนโฉมหน้าความเจริญของประเทศเราแบบก้าวกระโดดให้ทัดเทียมกับนานาประเทศทั้งระบบไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ การรถไฟ การประปา การไฟฟ้า โรงเรียนกฎหมาย ระบบการวางระบบการปกครองแบบกระทรวง ทบวง กรม เริ่มใช้ระบบเงินตราธนบัตรและเหรียญกษาปน์แทนเงินพดด้วงแล้ว
 
thai-bank-note             thai-bank-note
 
พระราชกรณียกิจสำคัญที่สุดอีกประการนั้นคือ การเลิกทาส ที่สามารถทำได้อย่างปราศจากความขัดแย้ง และเนื่องจากในช่วงเวลานั้นอยู่ในยุคล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตก ด้วยอ้างถึงความไม่เจริญทัดเทียมนานาประเทศ ด้วยพระปรีชายิ่งของพระองค์ในปี พ.ศ. 2433 เราจึงได้มีแขกบ้านแขกเมืองที่เป็นราชวงศ์ชั้นสูงจากยุโรปเสด็จมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก นั่นก็คือสมเด็จพระราชมกุฏราชกุมารของรัสเซียซึ่งต่อมาได้ครองราชเป็นสมเด็จพระราชานิโคลัสที่สอง รวมถึงทรงเสด็จประพาสประเทศทางฝั่งยุโรปเพื่อแสดงว่าเรามิใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนและได้ตีพิมพ์พระฉายลักษณ์ในหนังสือพิมพ์ยุโรปจนได้รับการยอมรับจากประเทศอื่นๆ ทำให้เราสูญเสียดินแดนไปบางส่วนแทนที่สูญเสียอาณานิคม
 
europian-news-paper-image-of-king-rama-v
 
ในเรื่องของศาสนานั้นพระองค์ทรงโปรดเกล้าให้มีการประกาศให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระ และด้านสาธารณสุขนั้นเราได้มีโรงพยาบาลศิริราชเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงพระปรีชาด้านวรรณกรรมทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง
 
siriraj-hospital
 
ปวงชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญาว่า พระปิยะมหาราช อันหมายถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักนั่นเองครับ
 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า) รัชกาลที่ 6
(His Majesty King Vajiravudh the Great)  
 
His-Majesty-King-Vajiravudh-the-Great
 
สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ท่านทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายด้านที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของการจัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงซึ่งก็คือวชิราวุธวิทยาลัยนั่นเอง ทรงก่อตั้งกองลูกเสือไทย จัดตั้งธนาคาร รวมถึงโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประกาศใช้พระราชบัญญัตินามสกุล ทรงออกแบบธงไตรรงค์ ที่สำคัญที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง กระทั่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า "สมเด็จพระมหาธีราชเจ้า" พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ใน พระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่ไม่มีวัดประจำรัชกาล
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช  (สมเด็จพระภัทรมหาราช) รัชกาลที่ 9
(His Majesty King Bhumibhol Adulyadej the Great)  
 
His-Majesty-King-Bhumibhol-Adulyadej-the-Great
 
พระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชยาวนานที่สุด พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "สมเด็จพระภัทรมหาราช" หมายความว่า "พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่ง" แต่ประชาชนชาวไทยนิยมเรียกท่านว่า "ในหลวง" ซึ่งคาดว่าย่อมาจาก "ใน(พระบรมมหาราชวัง)หลวง" หรืออาจออกเสียงเพี้ยนมาจากคำว่า "นายหลวง" ซึ่งแปลว่าเจ้านายผู้เป็นใหญ่ ด้วยพระอัจฉริยภาพในหลายๆ ด้านที่ท่านทรงงานให้ประชาชนชาวไทยมาตลอด ทำให้พสนิการพร้อมใจกันขานนามพระองค์ท่านว่า “พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย”  
 
พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมีความครอบคลุมหลายด้าน ทั้งด้านภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย สถาปัตยกรรม จิตรกรรม นาฏศิลป์ การดนตรีและศิลปะอื่น ด้านวรรณศิลป์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บทความและทรงแปลหนังสือไว้หลายเล่ม ด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนจนเกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการ ตัวอย่างเช่น
 
-โครงการฝนหลวงที่แก้ปัญหาภัยแล้ง
-โครงการแก้มลิงที่แก้ปัญหาน้ำท่วม
-โครงการแกล้งดินที่แก้ปัญหาความเป็นกรด-ด่างของดิน
-มูลนิธิโครงการหลวงที่ส่งเสริมการปลูกพืชเมื่องหนาวแก่ชาวเขาแทนการปลูกฝิ่น
 
chaipattana-water-turbine
 
โดยเฉพาะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทางองค์กรสหประชาชาติได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระองค์ และยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์กังหันน้ำชัยพัฒนาอีกด้วยครับ  
 
his-majesty-king-bhumibol-adulyadej-royal-vehicles-for-rural-areas-visits
 
ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักมากที่สุดของโลก และทรงเป็น“พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย” ตลอดกาลครับ
 
ร่วมถวายความอาลัย
 
Credit:
bit.ly/2DqyYNn,
http://bit.ly/2HB9qkP,
http://bit.ly/2Dp2PW8
http://pantip.com/topic/33831990l,
http://bit.ly/2FAT35G,
http://bit.ly/2Hm5BQk
,
http://bit.ly/2U7AIR6,
http://bit.ly/2RE57cN,
http://bit.ly/2DqwTRD
http://bit.ly/2T56xdb,
http://bit.ly/2R3gA0q
http://bit.ly/2FOl1ub

The post มหาราชของปวงชนชาวไทย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ปลานิลกับความพระอัจฉริยภาพทางการฑูตของพ่อ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%88%e0%b8%89%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a2%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%91%e0%b8%b9%e0%b8%95%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%2589%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2591%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad Tue, 25 Oct 2016 06:22:31 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1161   อีกเรื่องที่ frank เกิดความประทับใจมากๆ คือเรื่องของ ปลานิล และที่มาที่แสนจะไม่ธรรมดาจากพระอัจฉริยภาพของพ่อซึ่ง frank ไปค้นเจอมา ที่นอกจากทำให้รู้จักพ่อของพวกเราในอีกแง่มุมแล้วยังแสนจะภูมิใจในสายพระเนตรอันยาวไกลทีทำเพื่อคนไทย จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่อยากหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่อยากรู้เรื่องรา

The post ปลานิลกับความพระอัจฉริยภาพทางการฑูตของพ่อ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 
อีกเรื่องที่ frank เกิดความประทับใจมากๆ คือเรื่องของ ปลานิล และที่มาที่แสนจะไม่ธรรมดาจากพระอัจฉริยภาพของพ่อซึ่ง frank ไปค้นเจอมา ที่นอกจากทำให้รู้จักพ่อของพวกเราในอีกแง่มุมแล้วยังแสนจะภูมิใจในสายพระเนตรอันยาวไกลทีทำเพื่อคนไทย จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่อยากหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่อยากรู้เรื่องราวของพ่อในแง่มุมอื่นๆ คลิ๊กอ่านเพิ่มได้เลยนะครับ
 
เราคงรู้ที่มาของปลานิลกันแล้วว่าเป็นปลาอิมพอร์ทมาจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยการพระราชทานจากพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ซึ่งในตอนนั้นดำรงพระยศเป็นมกุฏราชกุมาร และที่สำคัญทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านปลาโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า “มีนกร” (ศัพท์ของเด็กประมงเค้านะครับ) ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนฮะ ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ต้องมีใจรักเรื่องปลาเป็นอย่างมากทีเดียว โดยที่มาของปลานิลนั้นเกิดจาก “ปลาบู่” มาก่อนครับ
 
his-majesty-the-king-bhumibhol-adulyadej-and-her-majesty-the-queen-sirikit-royal-visit-japan
 
จุดเริ่มต้นของปลานิลนั้น เริ่มจากการเสด็จประพาสญี่ปุ่นของพระองค์ในปี พ.ศ. 2506 ซึ่งในตอนนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะและพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นทุกพระองค์เสด็จฯ มาถวายการต้อนรับถึงสนามบินฮาเนดะเลยทีเดียว และได้ทรงกราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯ ทอดพระเนตรโรงงานผลิตกล้องถ่ายรูปของบริษัทแคนนอน โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า NEC และกิจการด้านโทรคมนาคมและการผลิตวิทยุทรานซิสเตอร์ ตามความสนพระทัยของพระองค์ท่านด้านเทคโนโลยี
 
crown-prince-akihito-and-his-queen-visit-thailand
 
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2507 มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและพระมเหสีได้เสด็จฯ แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และในช่วงเวลานี้เองที่เกิด “ปลาบู่การฑูต” ขึ้นก่อนปลานิล โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงวางแผนพาผู้เชี่ยวชาญด้านปลาที่เสด็จมาเมืองไทยครั้งแรก ไปทอดพระเนตรปลาที่ พิพิธภัณฑ์ประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 
ซึ่งก็มีของเด็ดอยู่ด้วย นั่นก็คือ “ปลาบู่มหิดล” เป็นปลาบู่ในเมืองไทยที่ค้นพบเป็นแห่งแรกของโลก และได้รับการตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมชนกตั้งแต่ พ.ศ. 2496 โดย ดร.ฮิว แมกคอร์มิค สมิธ (ดร.สมิธ ถือว่าเป็นระดับเทพ ของวงการอนุกรมวิทาน ด้านมีนวิทยา จากอเมริกา ที่เดินทางมาที่สยามตั้งแต่สมัยรัชการที่ 6 เพื่อมาดูแล กรมรักษาสัตว์น้ำ ในขณะนั้น) นั่นจึงเป็นหนึ่งในความประทับใจของมกุฎราชกุมารในขณะนั้นเป็นอย่างมาก ถึงกับมีบันทึกว่าทรงตรัสว่า “นี่เป็นปลาที่ ดร.สมิธเก็บหรือ?” ซึ่งทำให้ได้ใจคนรักปลาไปเต็มๆ   
 
หลังจากนั้นมกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและพระมเหสีได้เสด็จฯ ได้ทรงเสด็จประพาสเมืองไทยอีกครั้ง และในครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เชิญเสด็จที่ภาคเหนือเพื่อให้ทราบถึงการขาดแคลนโปรตีนในแหล่งห่างไกล จึงกลายเป็นที่มาที่ทรงประทาน ปลานิล จำนวน 50 ตัว ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา
 
his-majesty-the-king-bhumibhol-adulyadej-royal-project-nile-fish
 
หลังจากนั้นคงเป็นอย่างที่หลายคนทราบดี คือ พระองค์ทรงเลี้ยงปลานิลที่เหลือรอดชีวิตเพียง 10 ตัวที่สระน้ำในวังสวนจิตรดา จนกลายเป็นชื่อเรียกว่า “ปลานิลสวนจิตรดา” ทรงดูแลอย่างใกล้ชิดจาก 10 ตัว อย่างที่เรารู้กันว่า ทรงไม่โปรดเสวยปลานิลนักตามที่เราได้ยินทรงรับสั่งว่า “เลี้ยงมาเหมือนลูก จะไปกินลงได้อย่างไร” กลายเป็น 10000 ตัวในระยะเวลา 1 ปีและได้ทรงมอบให้กรมประมงทำการเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธ์ุให้ประชาชนต่อไป จนเราได้กินโปรตีนจากปลาที่ย่อยง่าย ราคาถูก หาซื้อได้จากทุกที่ รวมถึงส่งออกได้อีกปีละ เกือบ 200,000 ตัน ในปัจจุบัน
 
Nile-fish-from-the-royal-project
 
Nile-fish-from-the-royal-project
 
จากที่ frank เล่าให้ฟังมานั้น frank ชื่นชมพระองค์ท่านสุดหัวใจครับ ทรงเป็นต้นแบบของการคิดนอกกรอบ ในการเชิญเสด็จมกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและพระมเหสีมาชมปลาตั้งแต่ 50 ปีที่แล้ว ทรงเป็นต้นแบบของการวางแผนระยะยาวด้วยการจัดหาโปรตีนที่มีราคาย่อมเยาว์จากแหล่งน้ำจืดซึ่งก็คือ ปลานิล ที่มีอยู่ทุกชุมชนโดยไม่ต้องเสียค่าเดินทาง และทรงใส่ใจรายละเอียดในงานที่พระองค์ทรงด้วยการสร้างความประทับใจแก่แขกบ้านแขกเมืองอย่างตรงจุดที่สุด ลูกๆ อย่างเราควรเอาเป็นแบบอย่างและศึกษาจากงานที่ท่านทรงเพื่อพวกเรากันเถอะนะครับ
 
ร่วมถวายความอาลัย
 
Credit :
http://somkaithoon.blogspot.com/2013/01/blog-post_9115.html,

http://www.matichon.co.th/news/87248,
www.chaoprayanews.com/2017/03/06/เมื่อ-สองกษัตริย์-ชวนก,
http://www.marumura.com/king-bhumibol/

The post ปลานิลกับความพระอัจฉริยภาพทางการฑูตของพ่อ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนั้นของในหลวง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587 Fri, 21 Oct 2016 11:17:08 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1191 เป็นที่รู้กันว่า พ่อหลวงของเราทรงงานหนัก เพื่อประเทศของเรา สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวไทยทำความดี เป็นคนดี และพอใจในสิ่งที่เรามี พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบของเราชาวไทย สมบูรณ์แบบจนพวกเราแทบลืมไปแล้วว่า ตลอดมาพระองค์ทรงงานด้วยพระเนตรเพียงดวงเดียว ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา (มีพระเนตรข้างซ้ายปกติเพียงข้างเดียว) ทรง

The post อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนั้นของในหลวง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เป็นที่รู้กันว่า พ่อหลวงของเราทรงงานหนัก เพื่อประเทศของเรา สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวไทยทำความดี เป็นคนดี และพอใจในสิ่งที่เรามี พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบของเราชาวไทย สมบูรณ์แบบจนพวกเราแทบลืมไปแล้วว่า ตลอดมาพระองค์ทรงงานด้วยพระเนตรเพียงดวงเดียว
ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา (มีพระเนตรข้างซ้ายปกติเพียงข้างเดียว) ทรงงานมาตลอดระยะเวลา 60 ปี สาเหตุของการสูญเสียพระเนตรมาจากอุบัติเหตุรถยนต์ Fiat Topolino ณ ที่แห่งหนึ่งใกล้ๆ เมืองโลซานน์
 
อุบัติเหตุครั้งนั้น
วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2491 รถยนต์ตอนเดียวเล็กๆ คันหนึ่ง แล่นอย่างรวดเร็วตามถนนผ่านเมืองมอร์จมุ่งสู่นครเจนีวา โดยผู้ขับมิได้คาดการณ์ว่า รถบรรทุกที่อยู่ข้างหน้าจะหยุดอย่างกะทันหันเพื่อมิให้ชนผู้ขี่จักรยานสองคนบนถนน แม้ผู้ขับรถยนต์คันเล็กจะเหยียบห้ามล้อทันควันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เสียงห้ามล้อดังสนั่น แล้วรถยนต์คันเล็กก็ปะทะท้ายรถบรรทุกเข้าอย่างจัง ผู้ขับรถยนต์คันเล็กนั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงได้รับบาดแผลฉกรรจ์ที่พระเนตรข้างขวา ผู้โดยเสด็จในรถพระที่นั่งคือ นายอร่าม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บกะโหลกศีรษะร้าว
ps_frank_accident_1019_870x570_peach_gp_full-2
 
รถยนต์ที่ท่านทรงใช้ประทับขับก็คือ Fiat 500 Topolino  ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Topolino ในภาษาอิตาลีแปลว่า Little Mouse ที่มาของชื่อเจ้าหนูน้อยนี้มาจากครื่องยนต์ที่เล็กจิ๋วเพียง 500 cc  
ที่ยุโรปรถ Fiat 500 ยังเป็นที่นิยมกันจนถึงปัจจุบัน เพราะด้วยความเล็กกระทัดรัดของตัวรถและเครื่องยนต์ การทำประกันรถคันนี้ก็ราคาสบายกระเป๋าเพราะว่าเครื่องยนต์ที่เล็ก แต่ถ้าอยู่ในเมืองไทย ดูตามตารางแบ่งกลุ่มรถยนต์แล้ว รถรุ่นนี้ราคาประกันไม่สบายกระเป๋าเลยครับ เพราะเป็นรถนำเข้า อะไหล่แท้ต้องสั่งมาจากอิตาลีเท่านั้น
 
fiat-tapolino
thailand-king-car
 
ถึงแม้พระองค์ทรงสูญเสียพระเนตรด้านขวา แต่สายพระเนตรกลับกว้างไกล
จากอุบติเหตุครั้งนั้น พระองค์ทรงพักฟื้นและกลับมาทำหน้าที่ปกครองประเทศไทยของเราอย่างดีที่สุด ถึงแม้พระองค์จะทรงมีพระเนตรเพียงข้างเดียว แต่สายพระเนตรของพระองค์นั้นกว้างไกลนัก ทั้งพระราชกรณียกิจต่างๆ เราต่างก็รู้ว่าสายพระเนตรของท่าน เห็นถึงพวกเราชาวไทยทุกคน ไม่ว่าเราจะอยู่ภาคใด จังหวัดใด พระองค์ทรงไม่ทอดทิ้งเรา
หากเราลองใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดตา แล้วจะรู้ว่ายากเพียงใดที่จะทำงาน…นั่นคือความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของในหลวงเพื่อราษฎรที่รักยิ่งของพระองค์……  
เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าไม่ว่าเราจะเป็นใคร เราจะลำบากแค่ไหน เราก็ต้องทำทุกวันของเราให้ดีที่สุดเพื่อตัวของเราเองและเพื่อทุกๆ คน เอาพ่อหลวงของเราเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าเจอเหตุการณ์ใดก็ไม่ท้อย่อ ก้าวข้ามผ่านปัญหาไปอย่างกล้าหาญ

The post อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนั้นของในหลวง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>