1. เส้นทางถนนดอกคูณ จ.ขอนแก่น

ดอกไม้ประจำจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ ดอกคูณ หรือ ดอกราชพฤกษ์ นั่นเอง ดอกไม้แสนสวยสีเหลืองอร่ามจะบานงดงามในช่วงหน้าร้อน ตลอดเดือนเมษายนของทุกปี และเบ่งบานยาวนานจนกว่าจะหมดหน้าร้อนเลยล่ะ
ปักหมุด

• ถนนมะลิวัลย์ ทั้งเข้าและออก จาก สามเหลี่ยม ถึง สนามบิน
• ถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้กับหอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

2. เส้นทางดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ กำแพงแสน จ.นครปฐม

ดอกไม้สวยสีชมพูหวานต้องตาต้องใจผู้พบเห็น ได้แก่ ชมพูพันธุ์ทิพย์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน โดยปกติดอกชมพูพันธุ์ทิพย์จะเริ่มบานในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี ยาวไปถึงเดือนเมษายน และบางครั้งนานจนกว่าจะหมดหน้าร้อน เส้นทางนี้เป็นที่นิยมอย่างมากของนักศึกษา และนักท่องเที่ยวยุค 4.0 ที่สามารถถ่ายภาพสวย ๆ ลงโซเชียลได้จุใจเลยทีเดียว
ปักหมุด

• ถนนหลังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน หรือถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์
• ถนนหลังโรงเรียนสาธิตเกษตรฯ กำแพงแสน

3. เส้นทางถนนดอกกัลปพฤกษ์ จ.ขอนแก่น

ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นก็ได้ชมดอกไม้สีขาวสลับชมพูสวยที่ได้ฉายาว่าดอกซากุระอีสาน นั่นก็คือ ดอกกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจะเบ่งบานเป็นสีชมพูอ่อนระเรื่อสลับสีขาว สวยหวานละมุนในสายลมที่พัดโชยอ่อนช่วงหน้าร้อน 
ปักหมุด

• ถนนรอบวงเวียนสนามกีฬา 50 ปี ยาวไปจนถึงหอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก

4. เส้นทางชมดอกบัว จ.นครปฐม 

ดอกบัว เป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า และมีความงดงามที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน สำหรับเส้นทางชมดอกบัวในฤดูร้อนนั้น คุณสามารถขับรถแวะชมดอกบัวสวย ๆ ได้ที่นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งจะสามารถชมได้ราว ๆ เดือนเมษายนเป็นต้นไป ยิ่งถ้าปลายฤดูร้อนดอกจะยิ่งบานสะพรั่งสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งแก่การใช้เวลาในช่วงเวลาหน้าร้อนด้วยการชมความสดใสของสีสันดอกบัวที่โดดเด่นในแสงแดดจ้า
ปักหมุด

• นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

5.เส้นทางดอกตะแบก อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี 

หากคุณอยากดื่มด่ำไปกับความงดงามของดอกไม้สีม่วงแซมสลับขาวสดใส ที่พร้อมเบ่งบานอวดโฉมเอาใจนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ เราแนะนำเส้นทางดอกตะแบกที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ต.บางพระ อ.ศรีราชา ชลบุรี  ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงหน้าร้อน โดยคุณสามารถขับรถชมเส้นทางดอกตะแบกสวยในถนนสายโรแมนติกสายนี้ เป็นระยะทางประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร
ปักหมุด

• ถนนเรียบอ่างเก็บน้ำบางพระ ต.บางพระ อ.ศรีราชา ชลบุรี

ทุกเส้นทางมีความงดงาม และมีความน่าประทับใจในแบบที่แตกต่างกัน สำหรับการเดินทางในช่วงหน้าร้อนต้องใจเย็น ๆ เข้าไว้ ลืมเรื่องเครียด ๆ ชมวิวสวย ๆ ชิล ๆ ดีกว่า และหากคุณอยากมั่นใจในทุกเส้นทางและการขับขี่ หรือหากคุณสนใจประกันภัยรถยนต์สามารถคลิกที่นี่ หรือโทร. 02 710 3100 กันได้เลยค่ะ
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com
Rewrite by Butter Cutter

The post 5 เส้นทางที่น่าขับรถเที่ยวช่วงหน้าร้อน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. วัดใหญ่ชัยมงคล อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

เรามาเริ่มกันที่วัดแรกเลยดี ๆ ว่า วัดนี้เป็นวัดชื่อดังแห่งจังหวัดอยุธยา ที่พุทธศาสนิกชนต่างก็มาไหว้พระกันเป็นจำนวนมาก หรือไม่ก็มาปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างเช่นวันมาฆบูชานี้ ผู้คนยังมานิยมมาเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ และโบราณสถานเจดีย์พระชัยมงคลอีกด้วย

2. วัดบางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

อีกหนึ่งวัดที่ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ที่เราสามารถขับรถหนีฝุ่นมาได้อย่างใกล้ ๆ เลย วัดนี้จะมีสถานที่ Unseen แห่งหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเพิ่งถูกค้นพบครับ ที่วัดบางกุ้งเราจะพบกับ โบสถ์ปรกโพธิ์ ที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ทั้งต้นโพธิ์ ต้นไกร และต้นกร่าง ภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี หรือ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของคนในท้องถิ่น

3. วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

จังหวัดอ่างทองเป็นจังหวัดในเมืองรอง ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพครับ ที่วัดแห่งนี้ เราจะพบกับหลวงพ่อใหญ่ หรือพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเรียกว่าใครๆต่างก็มากันไหว้พระขอพรที่นี่ และหลวงพ่อใหญ่มีความสูงจากฐานองค์พระถึงยอดเกศา 95 เมตร หน้าตักกว้าง 63.05 เมตร ซึ่งเรียกว่าใหญ่สมคำร่ำลือกันจริง ๆ ครับ แถมยังมีความสง่างามอีกด้วย

4. วัดโกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่จังหวัดสมุทรสาครก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ไม่ไกลกรุงเทพ แต่สำหรับที่วัดนี้ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลาแลงปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัยตอนปลาย ที่โดดเด่นไปด้วยความวิจิตรสวยงาม แล้วยังมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นพระพุทธรูปสวมแว่นตาดำ เพราะในสมัยก่อนมีชาวบ้านจะมาบนบานให้หายจากโรคตาแดง และเมื่อหาย ก็จะนำแผ่นทองมาปิดเป็นจำนวนมาก เจ้าอาวาสจึงนำแว่นตามาใส่ให้พระศิลาแลงนั่นเอง

5. วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

ถ้าพูดถึงวัดโสธรวรารามวรวิหาร หลายคนคงนึกถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร อันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวแปดริ้ว ทำให้ผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธาต่างนิยมมากราบไหว้สักการะและขอพรกันเป็นจำนวนมาก เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต

6. วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ขับรถห่างจากกรุงเทพไม่ไกลนัก ก็จะมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งที่นี่จะมีวัดป่าเลไลยก์ครับ นอกจากจะได้มาไหว้พระขอพรกันแล้ว ภายในวัดยังมีบ้านขุนช้าง ที่มีการแสดงภาพบรรยายเรื่องขุนช้างขุนแผน และการจัดแสดงเครื่องใช้ในสมัยก่อนให้ทุกคนได้เยี่ยมชมกันอีกด้วย

7. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

สำหรับวัดพระพุทธบาท มีปูชนียสถานสำคัญ คือ รอยพระพุทธบาท ขนาดกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ทั้งยังมีพระมณฑปที่มีความสวยงาม ช่วงทางขึ้นเป็นบันไดนาคสามสาย หมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงมาจากสวรรค์ พร้อมหัวนาค 5 เศียรตรงเชิงบันได ที่หล่อด้วยทองสำริด

8. วัดเขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

อีกหนึ่งวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ยิ่งช่วงวันมาฆบูชานี้มีงานปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดเขาวงพระจันทร์ด้วย แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไปสู่ยอดเขา 3,790 ขั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง นอกจากจะได้ไปไหว้พระขอพรแล้ว ยังได้สัมผัสวิวธรรมชาติข้างทาง และยังถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วยครับ

9. วัดพราหมณี อ.เมือง จ.นครนายก

วัดพราหมณี หรือ วัดหลวงพ่อปากแดง วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ จุดเด่นของวัดนี้ที่ทำให้ผู้คนต่างมากราบไหว้ นั่นก็คือ ความแปลกของพระพุทธรูปที่มีปากสีแดงสดคล้ายทาลิปสติก ใครที่ผ่านไปแถวเส้นน้ำตกสาริกา ก็อย่าลืมแวะมาไหว้พระที่วัดนี้กันนะครับและแน่นอนว่าการขับรถเดินทางไปยังต่างจังหวัดแบบนี้ นอกจากผู้ขับรถควรขับขี่อย่างปลอดภัย และมีสติอยู่ตลอดเวลาแล้ว ก็ควรที่จะต้องทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อสวัสดิภาพของตัวเองและผู้อื่น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็มั่นใจได้ว่ายังมีประกันภัยรถยนต์คุ้มครอง สำหรับใครที่สนใจ ก็สามารถ คลิกที่นี่ หรือโทร 02 710 3100 หรือแอด LINE: @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้เลยครับ
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com
Rewrite by Butter Cutter

The post ขับรถหนีฝุ่น ไปทำบุญใกล้กรุงเทพ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. สระน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ

ก่อนอื่นต้องย้ำว่า Frank.co.th ยังเป็นเว็บไซต์โบรกเกอร์ขายประกันออนไลน์อยู่นะครับ ยังไม่ได้เป็นเว็บไซต์หาคู่ (555+) เปิดกันที่พิกัดแรกที่รั้วสีชมพู จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริเวณหน้าสระน้ำพระบรมอนุสาวรีย์ เห็นว่า ถ้าลอยกระทงกับคนแอบชอบจะได้คบกัน แต่คนเป็นแฟนกันจะเลิกกัน เอ้า ! จริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ ไหนชาวจุฬาขอคำตอบหน่อยครับ

2. สะพานดาว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี

หาแฟนในวันลอยกระทง พิกัดสะพานดาว มธ. กันบ้าง ย้ำอยู่กับการลอยกระทงครับ เชื่อกันว่า การลอยกระทงที่นี่เสร็จแล้ว เดินไปสุดสะพานดาว พร้อมกับตะโกนชื่อคนที่เราแอบชอบ !! ให้สุดเสียง คุณจะสมหวังในความรัก อะแฮ่ม ๆ เพนกกวินแฟรงค์ขออนุญาตวอร์มเสียง พร้อมกับจิบน้ำอุ่นพลาง ๆ ก่อนลอยกระทงครับ  

3. ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม

อื้ม !! มากันที่จังหวัดนครปฐม เตรียมกระทงสวย ๆ มาที่สระแก้ว มหาวิทยาลัยศิลปากรกันครับผม เห็นว่า คนโสดที่มาคนเดียวจะได้คู่กลับบ้าน แบบไม่เหงาและเดียวดายอีกต่อไป ยังมีข้อควรระวังคือคนมีคู่หากมาลอยกระทงกันที่นี่อาจมีเหตุจะต้องเลิกรา เฮ้ย แบบนี้มันยังไง ๆ อยู่นะครับ ไหนใครเคยลอยกระทงที่นี่บ้าง Frank.co.th ขอซาวน์เสียงอีกครั้งครับผม  

4. มาลอยที่บางมด รักไม่มีวันหมดแน่นอน

อย่างที่บอกว่าเป็นพิกัดหาเนื้อคู่ เราขอเอาใจคนมีแฟนกันบ้างนะ พิกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หรือบางมดแห่งนี้มาพร้อมความเชื่อที่ว่าลอยกระทงด้วยกันแล้วจะรักกันตลอดไป เรียกว่า สวีทหวานฝุด ๆ กับโลเคชั่นลอยกระทงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แนะนำว่า พาแฟนลอยกระทงที่นี่ก็โอเคครับ
ทั้งนี้ เพนกวินแฟรงค์ก็ไม่รู้ว่าไปลอยกระทงตามพิกัดนี้จะได้แฟนจริง ๆ ไหม ? อย่างไรก็ดี นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และหากใครไปลองมาแล้วได้ความเป็นอย่างไร แชร์กับ Frank.co.th ได้เช่นเคยนะครับ เราพร้อมฟังทุกเรื่องของคุณเลยล่ะจ้ะ หรือถ้าอยากซื้อประกันไว้ดูแลคุณทุกเหตุการณ์ซื้อกับแฟรงค์นะ เพราะเราเป็นประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณสุด ๆ เลยล่ะครับ  
 

Content by Butter Cutter

The post ลอยกระทงที่ไหนดี? กับพิกัดตามหาเนื้อคู่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

รู้ยังว่าเทศกาลกินเจเริ่มกันช่วงไหนกัน?

เทศกาลกินเจเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม จนไปถึงวันที่ 17 ตุลาคมครับ
 

เริ่มไว้เทพเจ้ากันที่ไหนก่อนดี?

นอกจากจะได้รับประทานเจพร้อมได้บุญแล้ว (อ่านเพิ่มเติม 5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกินเจ และผู้สูงอายุุ) เรามาขับรถเล่นเข้าวัดกราบไหว้เทพเจ้าด้วย 10 สถานที่ไหว้เจ้าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ตามคนไทยเชื้อสายจีนกันฮะ
 

1. วัดเล่งเน่ยยี่

วัดจีนที่ไม่มีใครไม่รู้จัก และ เชื่อว่าหลายคนได้เข้าไปกราบไหว้ขอพรที่แห่งนี้กันมาบ้างแล้ว มาอ่านประวัติกันเล็กน้อยนะฮะ วัดเล่งเน่ยยี่เป็นวัดจีนสังกัดคณะสงฒ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ ถนนเจริญกรุงซอย 19 ส่วนวัดเล่งเน่ยยี่ 2 นั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีซึ่งที่นี่มีวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอย่างมากพร้อมสถาปัตยกรรมบนผนังสวยงามบนชั้น 2 วัดเล่งเน่ยยี่แห่งนี่หลายคนมักนิยมไปแก้ชง และเสริมดวงกัน ยังไงนี่ก็เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเลยในช่วงเทศกาลกินเจ

ไปวัดเล่งเน่ยยี่ยังไง?

วัดเล่งเน่ยยี่ 1: 423 ถนน เจริญกรุง เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย แขวง ป้อมปราบ จังหวัดกรุงเทพ

วัดเล่งเน่ยยี่ 2: ตั้งอยู่ที่ซอยเทศบาล 9 ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ ปิด 5 โมงเย็น ส่วนเสาร์ถึงอาทิตย์ เปิดถึง 6 โมงเย็น

2. ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม)

ขับรถห่างไปเพียง 2 ชั่วโมงคุณก็จะได้เจอกับวิหารสถิตพระกิติเฉลิมที่สวยงาม ภายในศาลเจ้านี้ คุณจะได้พบกับการตกแต่งที่สวยงามใหญ่โต ซึ่งสมัยก่อนที่นี่มีพื้นที่เพียง 200 ตาราวาง แต่หลังจาก 5 ปีอาจารย์สมชายก็ได้ทุ่มเงิน 300 ล้านบาทขยายบนพื้นที่ 5 ไร่ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีนที่ดึงดูดทั้งคนไทย และ คนต่างชาวเข้ามาชื่นชมความสวยงาม และ สักการะบูชาเทพเจ้า

ไปศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม)ยังไง?

ที่อยู่ 113 หมู่ 5 ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. เสาร์เปิดถึง 18.00 น. อาทิตย์เปิดถึง 20.00 น.

3. ศาลเจ้าแม่กวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า)

ศาลเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ได้ถูกอัญเชิญมาจากประเทศจีนเมื่อปี พ.ศ. 2501 ซึ่งศาลเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ตั้งอยู่ในมูลนิธิเทียนฟ้า หรือ มูลนิธิแห่งแรกในประเทศไทยที่เกิดจากการรวมตัวกันของชาวจีน 5 ภาษา การที่พวกเขาได้อัญเชิญเจ้าแม่กวนอิม หรือ พรโพธิสัตว์อวโรกิเตศวรปางประทานพรก็เพื่อวงเคราะห์ผู้ป่วย และ ผู้ยากไร้ เพราะเจ้าแม่กวนอิมเปรียบเสมือนเทพแห่งความเมตตา

ไปศาลเจ้าแม่กวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า) ยังไง?

ที่อยู่ ซอย เยาวราช 7  เขต/แขวง เขตสัมพันธวงศ์ จังหวัดกรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

4. ศาลเจ้าพ่อเสือ

ศาลเจ้าพ่อเสือ หรือ ศาลเจ้าพ่อใหญ่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณควรไปสักการะบูชาหลังจากวัดเล่งเน่ยยี่สถานที่ศักดิ์สิทธ์ และ มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงหมอลักษณ์ยังต้องฟันธงเพราะอยู่ทางสามแพร่งที่เราทราบกันดีว่าเป็นสถานที่มีพลังมาก ศาลเจ้าพ่อเสือมีอายุนานมาถึง 100 ปี

ไปศาลเจ้าพ่อเสือยังไง?

ที่อยู่ ใกล้เสาชิงช้า เขต พระนคร จังหวัดกรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.

5. ศาลเจ้ากวนอู

หากใครเคยอ่านเรื่องสามก๊กต้องจำชื่อ “กวนอู” ที่เป็นรูปปั้นผู้ชายนักรบโบราณ ใบหน้าดุดัน ไว้เคราและมีผมยาง ถืออาวุข้างกายที่เรียกว่า ทวน ความพิเศษของที่นี่ก็คือ เทพเจ้ากวนอู หรือ เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตว์แล้วยังประดิษฐานเทพเจ้าม้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นม้าเทา ม้าโลหิตประจำกายของเทพเจ้ากวนอูนะครับ

ไปศาลเจ้ากวนอูยังไง?

ที่อยู่ ซอย สมเด็จเจ้าพระยา 3 ซอย กลังอุทยานสมเด็จย่า จังหวัดกรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.

6. วัดทิพยวารีวิหาร

วัดทิพยวารีวิหาร หรือ วัดกัมโล่วยี่เป็นวัดสมัยกรุงธนบุรี ที่อยู่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อปี พ.ศ. 2439 พระอาจารย์ไหซัน พระภิกษุจีนชาวมณฑลหูหนานได้มาจำพรรษาอยู่ที่วิหารแห่งนี้ เหตุที่ได้ตั้งชื่อวัดทิพยวารีวิหารนั้นก็เพราะในวัดนี้มี “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์”  หรือ “บ่อน้ำทิพย์” อยู่นั่นเอง วัดนี้เป็นวัดที่มีคนจีนแต้จิ๋วนับถือกันมากที่สุก หลังจากที่หลายคนเดินทางขอพรและสมดังใจปราถนา โดยเฉพาะการเสริมบารมี และ เสริมบารมี

ไปวัดทิพยวารีวิหารยังไง?

ที่อยู่ 119 ซอยทิพย์วารี ตรีเพชร เขตพระนคร จังหวัด กรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.

7. ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ

การก่อสร้างที่มาด้วยการก่อสร้างศิลปะจีนแบบแต้จิ๋วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยการตกแต่งสถานที่ด้วยวัตถุโบราณล้ำค่า หากคุณเป็นนักเดินทาง หรือ นักท่องเที่ยว จะต้องเขามากราบไหว้สักการะสั่งครั้งเพื่อให้การเดินทางของคุณลื่นไหล โดยภายในศาลมีแท่นบูชาเล่งบ๊วยเอี๊ยะ หรือ เทพเจ้าหางมังกรเป็นประธานพร้อมภริยา ด้านซ้ายมือตั้งแท่นบูชาเทพเจ้ากวนอู และ ฝั่งขวามือเป็นแท่นบูชาพระแม่สวรรค์

ไปศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะยังไง?

ที่อยู่  125 ซอย เยาวราช 6 จังหวัด กรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.

8. วัดบำเพ็ญจีนพรต (ย่งฮกยี่)

หากคุณไปย่านเยาวราช เที่ยวชมเทศกาลกินเจ ก็อย่าลืมเข้าไปกราบไหว้สักการะบูชาเทพเจ้าที่วัดบำเพ็ญจีนพรตกันนะครับ สถานที่แห่งนี้เดิมเป็นวิหารพระอวโลกิดตศวรโพธิสัตว์ร้าง  ต่อมามีพระอาจารย์เข้ามาปฎิสังขรณ์วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “ย่งฮกยี่” ภายในวัดแห่งนี้อาจจะมีพื้นที่จำกัด แต่ก็มีประชาชนเข้ามาสักการะอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน

ไปวัดบำเพ็ญจีนพรต (ย่งฮกยี่) ยังไง?

ที่อยู่  324 ซอย เยาวราช 8 จังหวัด กรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.

9. วัดจีจินเกาะ

อีกสถานที่หนึ่งที่หลายคนเคยเห็นกันริมแม่น้ำเจ้าพระยากันใช่ไหมครับ วัดแห่งนี้เรียกว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ และ มีความสำคัญในระดับชาติ หากคุณได้เดินทางเข้าไปในวัดก็จะเห็นโบสถ์จีนสูง 9 ชั้น เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัดที่มีอีกชื่เรียกว่า “พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมชาตรีไทยจีนเฉลิม” เพราะ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นโบสถ์จีนได้ในระยะไกลได้

ไปวัดจีจินเกาะยังไง?

ที่อยู่  494 ซอย สมเด็จเจ้าพระยา 17 จังหวัด กรุงเทพ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.

10. วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)

หากพูดถึงวัดจจีนแถวเยาวราช หลายคนคงนึกถึงวัเล่งฮกยี่ วัดจีนแห่งนี้เรียกว่าเป็นสถานที่รวบรวมคนไทยเชื้อสายจีนมายาวนาน ภายในวิหารมีหลักความเชื่อศรัทธาแบบจีน ผู้คนมักเดินทางมาที่นี่เพื่อมาสักการะ ขอพร เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องเป็นสิริมงคลในชีวิต สถานที่นี้มีพื้นที่จำกัดแต่ก็มีจุดกราบสักการะถึง 20 จุดด้านในที่ทางวัดได้ติดตัวเลขจัดลำดับการไหว้ไว้ให้เรียบร้อย ไม่ต้องกลัวการกราบไหว้ผิดจุดเลยทีเดียว

ไปวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)ยังไง?

ที่อยู่  291 ถนน ศุภกิจ หน้าเมือง จังหวัด ฉะเชิงเทรา

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

 
 
ขับรถเล่นวันหยุดกราบไหว้สักการะบูชาวัดจีนเพิ่มสิริมงคลแก่ตัวใกล้กรุงเทพกับครอบครัว และ คนที่คุณรักกันดีกว่า ได้ทั้งบุญและความสุขที่คุณสามารถทำได้กับคนที่คุณรัก อย่าลืมทำความเข้าใจประกันรถยนต์ดูแลเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยนะครับ

The post กินเจ 2561 เที่ยววัดจีนไหนดีใกล้กรุงเทพ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

จะเที่ยว Roadtrip หรือขับรถเที่ยวเป็นเรื่องสนุกของใครหลายๆ คน แต่ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันยาวๆ ที่อยู่ด้วยกันบนรถอาจจะเป็นกลายเป็นเรื่องสุดแสนจะน่าเบื่อหรือช่วงเวลาแห่งความทุกข์ก็ได้ ถ้าเราไม่ระวังตัวและอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งจิตใจกันและกัน จน Roadtrip ของเราจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากจดจำ
เทคนิคสำหรับคนขับ

1.  ความเป็นสุภาพบุรุษซื้อใจสาวๆได้เสมอ: เปิดประตูให้สาวๆ หรือช่วยยกของขึ้นรถ น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมทางของเราได้ เมื่อทุกคนอารมณ์ดี ทริปก็สนุกครับ
2. เป็นเจ้าของรถที่ดี: ผู้โดยสารอาจไม่คุ้นเคยกับวิธีการขับขี่ของคุณ คุณอาจช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายได้โดยการพาทัวร์ก่อนเพื่อให้แขกรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โดยการแนะนำการใช้รถเช่น การปรับระดับเบาะที่นั่งและหน้าต่าง บอกตำแหน่งปลั๊กสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ย้ำให้มั่นใจว่าผู้โดยสารทุกคนได้รับข้อมูลที่ควรจะทราบก่อนออกเดินทาง
3. อย่าท้อแท้ต่อความเบื่อหน่าย: เมื่อต้องติดอยู่ในสภาพการจราจรแสนย่ำแย่ การเตรียมการล่วงหน้าเล็กๆ น้อยๆ สามารถช่วยป้องกันความเบื่อหน่ายได้ ก่อนที่ขึ้นรถ เตรียมความพร้อมสำหรับทริปด้วยออดิโอบุ๊ค หรือแม้กระทั่งคลาสออนไลน์ต่างๆ เดินทางไปกับเพื่อนๆ ลองสร้างเพลย์ลิสต์สมัยเรียนมหาวิทยาลัยดู ขอแนะนำหนังซีรี่ย์ หรือไม่ก็เรียนรู้อะไรสักอย่างไปพร้อมๆ กันระหว่างทางไปจุดหมาย

 

เทคนิคสำหรับผู้โดยสาร

1. เรื่องคุยกันระหว่างทางก็สำคัญ: เลี่ยงความตึงเครียดจากการบทสนทนาประเภท “เราจะถึงหรือยัง” เป็นระยะๆ โดยการวางเส้นทางและพูดคุยกันเกี่ยวกับแผนการเดินทางก่อน ลองปรึกษากันเกี่ยวกับจุดพักรถเพื่อรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อที่ทุกคนจะได้คาดการณ์ได้ เด็กๆ ยังสามารถเข้าใจเส้นทางและรอคอยสถานที่อันโปรดปรานหรือแม้กระทั่งกะเวลาถึงจุดหมายได้ด้วยตนเอง
2. ช่วยคนขับดูทาง: ถ้าคุณได้นั่งตรงเบาะผู้โดยสารด้านหน้าระหว่างการเดินทางอันแสนยาวไกล ลองช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ ควรตื่นตัวอยู่เสมอและคอยมองดูป้ายสัญญาณบนท้องถนน เหนือสิ่งอื่นใด หลีกเลี่ยงการวิจารณ์การขับขี่ของผู้ขับ ไม่มีใครชอบผู้โดยสารที่ก้าวก่ายหน้าที่ของคนขับหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์การขับขี่เริ่มตึงเครียด
3. คุณกับมนุษย์มากกว่าเครื่องยนต์: เปลี่ยนจากการหาร้านอร่อยด้วยการถามคนรู้จักมากกว่าเปิดหาในอินเตอร์เน็ตเพราะอาจะได้ร้านอร่อยมากกว่าด้วยซ้ำ
4. แบ่งกันฟังเพลง: เพราะเราไม่ได้เดินทางคนเดียว เราก็เลยต้องแบ่งกันฟังเพลง จะให้ตลอดทางเป็นเพลงโปรดของคุณคนเดียวแต่เป็นเพลงที่คนอื่นร้องตามไม่ได้เลยสักคำก็ไม่ได้ ขึ้นรถคันเดียวกันแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันความสุขด้วยนะ

เราต้องรู้ตัวว่ามาขับรถเที่ยวอย่ามัวปล่อยตัวปล่อยใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
 

ร่วมมือกันทั้งคนขับ ทั้งผู้โดยสาร 

1. เตรียม Playlist ไว้เลย: เพราะระหว่างทางอาจจะมีช่วงที่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ แล้วอาจจะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อหาเพลงฟังได้ เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางเตรียมเพลงไว้ก่อนเดินทางเลยครับ ช่วยๆ กันเตรียม Playlist ของตัวเอง ระหว่าง Roadtrip จะได้สลับกันฟังเพลงโปรดของแต่ละคน
2. ช่วยกันหาเรื่องคุย: ระยะทางมันยาว อาจจะมีการง่วงเหงาหาวนอนกันบ้าง ถ้าผู้ขับง่วงก็หาเรื่องชวนคุยเลยครับ เพื่อที่จะได้ขับขี่ปลอดภัย หรือแม้แต่ผู้โดยสายเอง ถ้าเห็นรถเงียบๆ เหงาๆ ก็อย่าลืมผลัดกันชวนคุย เพื่อบรรยากาศที่สนุกสนานครึกครื้นครับ
3. ใจกว้างและเคารพกฎจราจร: อย่าไปมัวแต่หัวเสียกับการจารจรในช่วงเทศกาลวันหยุด เรามาเที่ยวครับ มองว่ามันเป็นเรื่องขำๆ แล้วสนุกไว้ก่อนดีกว่าครับ

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ จากเพนกวินผู้เสพติดการขับรถเที่ยวชื่อ frank นะคร้าบบบ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนเที่ยวคือ เราต้องรู้ว่าเรามาเที่ยว จะมัวแต่ทำให้ตัวเองหัวเสียก็ไม่ใช่เรื่อง หาเรื่องสนุกๆ คุย หาเรื่องสนุกๆ ทำ หาเพลงเพราะๆ ฟังดีกว่า ส่วนตัว frank เอง จะเพิ่มความมั่นใจด้วยการเช็คประกันรถยนต์ว่าเรายังไม่หมดอายุใช่ไหม หมดแล้วก็ต่อประกันออนไลน์ไปเลยครับ สะดวกและเข้าใจง่ายมากครับ วันหยุดปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย ขับรถเที่ยวสุขใจกันนะครับ
 
ข้อมูลจาก grandprix.co.th

The post เทคนิคขับรถเที่ยวให้สุขช่วงหยุดยาว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.