ประกันรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Fri, 17 Jul 2020 06:10:46 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ประกันรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 5 สิ่งไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Fri, 17 Jul 2020 06:10:46 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12445 หลายคนมักจะอุ่นใจในการขับขี่รถบนท้องถนนมากขึ้นเมื่อมีประกันรถยนต์คุ้มครองอยู่ เพราะไม่ว่าเราจะขับขี่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ทางประกันก็จะให้ความคุ้มครองแก่เราและคู่กรณี แต่ใช่ว่าทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองเสมอไป วันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่า 5 สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง 

The post 5 สิ่งไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลายคนมักจะอุ่นใจในการขับขี่รถบนท้องถนนมากขึ้นเมื่อมีประกันรถยนต์คุ้มครองอยู่ เพราะไม่ว่าเราจะขับขี่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ทางประกันก็จะให้ความคุ้มครองแก่เราและคู่กรณี แต่ใช่ว่าทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองเสมอไป วันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่า 5 สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง  จะมีอะไรกันบ้าง

เมาแล้วขับ

อย่างที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่า เมาแล้วขับเท่ากับอันตราย หลายบริษัทประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองกรณีนี้ หากเพื่อนๆ มีระดับแอลกอฮอลล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังผิดกฏหมายอีกด้วย
สิ่งไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง

ไม่มีใบขับขี่

หากคนขับไม่มีใบขับขี่รถยนต์ หรือไม่เคยสอบใบขับขี่เลย ต่อให้มีประกันคุ้มครองอยู่แต่ทางบริษัทก็ไม่สามารถให้ความคุ้มครองแก่เราได้นะ และอีกกรณีที่เรามีใบขับขี่ แต่ดันลืมพกติดตัวไว้จะยังได้รับความคุ้มครองอยู่ เพียงแต่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกค่าปรับได้ ดังนั้น เราควรพกติดตัวไว้ตลอดจะดีกว่า

นำรถยนต์เพื่อใช้ลากจูง

ถ้าเพื่อนๆ นำรถของตัวเองไปใช้ลากจูงช่วยรถคันอื่นนั้น ทางบริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองด้วย  เพราะถือว่าเป็นการใช้งานรถแบบผิดประเภท หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างนี้จะไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ เลย ยกเว้นอย่างเดียวคือ รถลากจูงที่ทางบริษัทออกแบบมาใช้งานเฉพาะเท่านั้น

ใช้ในทางผิดกฎหมาย

สำหรับการนำรถยนต์ของเราไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เช่น การนำรถไปเพื่อปล้นทรัพย์หรือขนส่งของที่ผิดกฏหมาย จนเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง หรือความเสียหายกับตัวรถ แบบนี้ทางบริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองใดๆ ทั้งสิ้น
สิ่งไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง

ใช้งานนอกเหนือกรมธรรม์ไว้

กรณีที่เพื่อนๆ นำรถยนต์ที่ทำประกันไว้เรียบร้อยแล้วไปใช้งานที่อยู่นอกเหนือกรมธรรม์นั้น หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายขึ้นมาจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกัน  สมมติว่า นาย ก. จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่กลับนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
เมื่อเรารู้ทันข้อห้ามที่กล่าวมาแล้วก็ควรปฎิบัติตามข้อตกลงตามบริษัทประกันกันด้วยนะ ส่วนใครที่ยังไม่มีระกันรถยนต์แนะนำให้มีติดรถเผื่อไว้ก่อน เพราะถ้าหากเป็นฝ่ายผิดขึ้นมา เราจะได้มีประกันไว้คอยเจรจา ช่วยคุ้มครองความเสียหายให้กับเราและคู่กรณีด้วย
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com
 

The post 5 สิ่งไม่ควรทำ เพราะประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
คู่กรณีหัวร้อน เราจะรับมืออย่างไรดี https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b8%b5%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b0%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b5?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2593%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5 Mon, 16 Mar 2020 03:10:41 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11014 เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ว่าจะเป็นรถชนกัน หรือรถเฉี่ยวชนกัน ทั้งต่อให้มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็มักเป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่รถไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากลับพบกับคู่กรณีที่หัวร้อน ไม่รับฟังความคิดเห็น แบบนี้เราจะรับมืออย่างไรกันดีล่ะ สำหรับคู่กรณีที่เราหรือเขาเผลอขับรถไปชนกัน โดยที่ยังไม่ท

The post คู่กรณีหัวร้อน เราจะรับมืออย่างไรดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ว่าจะเป็นรถชนกัน หรือรถเฉี่ยวชนกัน ทั้งต่อให้มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็มักเป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่รถไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากลับพบกับคู่กรณีที่หัวร้อน ไม่รับฟังความคิดเห็น แบบนี้เราจะรับมืออย่างไรกันดีล่ะ
สำหรับคู่กรณีที่เราหรือเขาเผลอขับรถไปชนกัน โดยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเราหรือเขาที่เป็นฝ่ายผิด แต่กลับมีท่าทางพฤติกรรมหัวร้อนกับเรา แบบนี้เราจะปฎิบัติตัวกับเขาอย่างไรล่ะ และต้องทำอย่างไรจึงสามารถเจรจาต่อรองกันได้ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้แล้วก็ตามกันมาเลย

1. หายใจเข้า-ออก ลึกๆ

หากรู้สึกว่าเราไม่สามารถต่อกับอีกฝ่ายได้ ให้เราลองหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ ให้สมาธิของเราจดจ่ออยู่กับลมหายใจ  เพราะการที่เราสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นั้นจะช่วยให้สมองเราโล่ง และทำงานได้ดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมถึงลดอาการหัวร้อนได้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทกับอีกฝ่าย

2. โทรหาประกัน


การให้บริษัทประกันรถยนต์เข้ามาช่วยเจรจาต่อรอง และตรวจสอบความถูกต้องนั้นถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด  เพราะถ้าหากว่าคู่กรณีของเรานั้นไม่สามารถพูดคุยกันได้จริงๆ การเลือกเรียกเจ้าหน้าที่พนักงานประกันที่มีความรู้เชี่ยวชาญเข้ามาเจรจาจะทำให้อีกฝ่ายสามารถสงบความหัวร้อนได้

3. มีสติ

การมีสติอยู่ตลอดเวลามักเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะไม่ว่าเราจะหัวร้อนจากการโดนรถของอีกฝ่ายฉี่ยวชน หรือคู่กรณีมีอาการหัวร้อน เราก็ควรที่จะตั้งสติและพยายามใจเย็นให้มากที่สุด  เนื่องจากอาการโมโหหรือหัวร้อนเรามักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ รวมถึงอาจจะทำให้ขาดสติอีกด้วย
ส่วนเรื่องใครผิด ใครถูก ก็ควรปล่อยให้ทางประกันเข้ามาตรวจสอบเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหาย โดยที่เราอย่าเพิ่งตัดสินใจไปก่อนเอง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเรายอมรับผิดไปแล้ว
หวังว่า 3 เทคนิคที่เรานำมาฝาก จะเป็นแนวทางแก้ไขในกรณีที่เพื่อนๆ หัวร้อน หรือคู่กรณีหัวร้อนใส่เราได้นะ และการเลือกทำประกันรถยนต์นั้นไม่ได้แค่ช่วยในการเจราต่อรองเพียงอย่างเดียว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ทางบริษัทประกันช่วยคุ้มครองเราและคู่กรณีอย่างหายห่วงแน่นอน
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com
 
ประกันรถยนต์

The post คู่กรณีหัวร้อน เราจะรับมืออย่างไรดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 วิธีขับรถหน้าฝนตามระดับความแรงของฝน https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9d%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599 https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9d%e0%b8%99#comments Thu, 18 May 2017 08:26:03 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=2596 อ่านเร็วๆ ระดับความแรงของฝนเราแบ่งได้แบบง่ายๆ คือ ฝนตกเล็กน้อย, ฝนตกหนัก และฝนตกหนักมากพร้อมลมแรง 5 เทคนิกสุดยอดปลอดภัยในการขับรถเมื่อฝนตก คือ 1.เปิดที่ปัดน้ำฝนระดับปานกลาง เพื่อให้มองเห็นเส้นทางในการขับรถ 2.เปิดไฟหน้ารถ เพื่อให้ไฟท้ายทำงานรถคันที่ขับตามเรามาจะได้กะระยะห่างรถได้ถูก และการเปิดไฟหน้ารถทำให้เรามองเห็นได้ด

The post 5 วิธีขับรถหน้าฝนตามระดับความแรงของฝน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

  • ระดับความแรงของฝนเราแบ่งได้แบบง่ายๆ คือ ฝนตกเล็กน้อย, ฝนตกหนัก และฝนตกหนักมากพร้อมลมแรง
  • 5 เทคนิกสุดยอดปลอดภัยในการขับรถเมื่อฝนตก คือ
  • 1.เปิดที่ปัดน้ำฝนระดับปานกลาง เพื่อให้มองเห็นเส้นทางในการขับรถ
  • 2.เปิดไฟหน้ารถ เพื่อให้ไฟท้ายทำงานรถคันที่ขับตามเรามาจะได้กะระยะห่างรถได้ถูก และการเปิดไฟหน้ารถทำให้เรามองเห็นได้ดียิ่งขึ้น
  • 3.ลดความเร็วลงและเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เพื่อระยะการเบรคที่มากขึ้นจากถนนเปียกและลื่น
  • 4.ไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อเวลาใช้ไฟเลี้ยวรถคันอื่นจะได้ทราบว่าเราต้องการเลี้ยว
  • 5.การลดฝ้าที่กระจก ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลังเพื่อลดฝ้าเกาะกระจกและอย่าปิดแอร์
  • ถ้าขับรถไปเจอพายุลมแรง เมื่อขับผ่านต้นไม้ให้ระวังกิ่งไม้หักหรือลมพัดกิ่งไม้ขวางถนนและป้ายโฆษณาข้างถนนที่จะปลิวมาใส่รถได้
  • ถ้าขับรถไปเจอพายุลูกเห็บ ให้หาที่หลบข้างทางที่กำบังรถได้ เช่น ที่มีหลังคาหรือใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อทั้งป้องกันความเสียหายกับตัวรถและอันตรายบนผิวถนน และประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายส่วนนี้ด้วย

 
5-tips-for-raining-season-drive
 
เราเข้าสู่การขับรถหน้าฝนกันอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ โดยปกติแล้ววันแรกของฤดูฝนคือ วันแรกนาขวัญ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ วันพืชมงคล ซึ่งเป็นวันหยุดในปฏิทินที่เรามักจะไม่ได้หยุดถ้าเราไม่ได้ทำงานราชการอ่ะนะครับ เป็นสัญญาณให้พี่ๆ เกษตกรรู้ว่า เริ่มเข้าสู่ฤดูการไถหว่านหรือเริ่มต้นการทำนากันแล้วนะ แต่ถ้าเราอยู่ในเมืองวันนี้มักจะกลายเป็นวันเปิดเทอมใหม่สำหรับน้องๆ และความหมายที่เรากลัวกันที่สุดคือ วันแรกของรถติดหฤโหดของหน้าฝนนั่นเอง…...ง
 
เรามาเริ่มกันที่ระดับความแรงของฝนกันก่อนเลยครับ ตามที่เรารู้กันไม่ว่าจะเป็นฝนกตกแบบไหนก็สามารถทำให้เกิดน้ำรอระบายได้ทั้งนั้นเพราะงั้นเราต้องเตรียมรับมือกันการขับรถหน้าฝนไว้ให้ดีครับ
 

1.ฝนตกเล็กน้อย

 
ลักษณะเป็นฝนพรำ หรือเม็ดเล็กหน่อย ซึ่งมักจะตกแบบยาวนานหรือบางครั้งตกทั้งวัน สิ่งที่เราต้องระวังเป็นพิเศษคือ พื้นผิวถนนจะลื่นง่ายมากโดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่มอร์เตอร์ไซต์ ดังนั้นรถเก๋งเมื่อขับรถหน้าฝนจึงควรเว้นระยะห่างเวลาขับขี่ให้มากขึ้น หรือลดความเร็วลงเพื่อให้มีระยะเบรกมากขึ้นและป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้
 
5-tips-for-raining-season-drive
 

2.ฝนตกหนัก

 
จะเป็นฝนที่เม็ดหนากว่าแบบแรกแต่ไม่มีลมแรง การขับรถหน้าฝนแบบนี้เราควรระวังน้ำรอระบายบริเวณท่อน้ำต่างๆ หรือน้ำกระเด็นจากการขับเร็วของรถคันที่อยู่ข้างๆ หรือคันที่ขับสวนทางมาทำให้เรามองไม่เห็นทางจึงไม่ควรขับรถเร็วเป็นอย่างยิ่ง และอาจมีฝ้าขึ้นที่กระจกเพราะอากาศจะค่อนข้างนิ่งและความชื้นสูงจึงไม่ควรปิดแอร์และเปิดการทำงานของปุ่มไล่ฝ้าที่กระจกหลัง
 
5-tips-for-raining-season-drive
 

3.ฝนตกหนักมากและมีลมแรง

 
แบบสุดท้ายอารมณ์ประมาณพายุฝนลมแรง เราจึงควรขับรถหน้าฝนกันแบบสังเกตข้างทางไปด้วย เพราะลมที่แรงมากๆ นอกจากทำให้รถเราโคลงไปมาเวลาขับแล้วยังสามารถพัดเอากิ่งไม้หรือป้ายโฆษณาข้างทางมาใส่รถเราเพื่ออ่านอย่างใกล้ชิดหรือพัดเอากิ่งไม้มาขวางถนนได้ด้วย หรือถ้าทัศนวิศัยเลยร้ายจริงๆ อยากแนะนำให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยข้างทางรอให้ฝนซาลงก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อเพื่อความปลอดภัยครับ
 
5-tips-for-raining-season-drive
 
ในบางภาคเช่น ภาคเหนือหรือภาคอีสานยังมีโอกาสที่จะเกิดพายุลูกเห็บได้ด้วยนะครับ และเจ้าพายุลูกเห็บนี่ล่ะน่าตื่นเต้นสุดๆ เวลาขับรถ เพราะนอกจากทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถแล้วยังทำให้พื้นผิวถนนลื่นมากกว่าปกติอีกด้วย ถ้าขับรถหน้าฝนอยู่ดีๆ แล้วไปเจออยากให้หาที่จอดที่ปลอดภัยข้างทางเช่นเดียวกันครับ
 
หลังจากที่เราแยกประเภทของฝนตกแบบต่างๆ ไปแล้ว เรามาดูเรื่องเทคนิคการขับรถหน้าฝนกันต่อเลยดีกว่าครับ 5 วิธีที่ Frank จะแนะนำต่อไปนี้ เราเอาไปใช้ได้ทุกเส้นทางการเดินทางเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆ ทุกคนเลยครับ
 
5-tips-for-raining-season-drive
 

5 วิธีขับรถหน้าฝนตามระดับความแรงของฝนให้ปลอดภัย

 
เมื่อเราขับไปเจอฝนตกกลางทางไม่ว่าจะเป็นฝนตกหนักหรือพายุฝนก็ตาม 5 วิธีขับรถต่อไปนี้จะช่วยให้เราขับรถอย่างปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเราควรทำให้ติดเป้นนิสัยไว้เลยนะครับเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยทุกเส้นทาง
 

1.เปิดที่ปัดน้ำฝนระดับปานกลาง

 
เมื่อฝนเริ่มตก “ที่ปัดน้ำฝน” เป็นอุปกรณ์แรกที่เราควรเปิดใช้งานควรเริ่มจากระดับกลางก่อนแล้วปรับความหน่วงตามระดับของฝนอีกทีในรถยุโรปและรถญี่ปุ่นที่ปัดน้ำฝนจะอยู่คนละด้านกัน (Frank เคยเปิดไฟเลี้ยวแล้วกลายเป็นที่ปัดน้ำฝนมาแล้วครับ -_-’ ก่อนออกรถควรสำรวจว่าอะไรอยู่ตรงไหนนะฮะ)
 
ในการขับรถหน้าฝนเป็นเหมือนดวงตาของเราที่ช่วยให้เรามองเห็นทางจึงควรดูแลยางที่ก้านปัดน้ำฝนให้กวาดน้ำออกจากกระจกหน้าให้สะอาดอยู่เสมอและพร้อมใช้งาน สังเกตได้จากมีเสียงดังเกิดขึ้นเวลาที่เราปัดน้ำออกหรือไม่ ถ้าเริ่มมีเสียงเอี๊ยดดังสนั่นก็ควรเปลี่ยนยางที่ก้านปัดน้ำฝนได้แล้วนะครับ
 

2.เปิดไฟหน้ารถทันที

 
เพื่อให้ไฟท้ายของรถเราทำงานให้รถคันที่ขับตามเรามามองเห็นท้ายรถเราและกะระยะห่างจากรถเราได้ถูก ที่สำคัญการเปิดไฟหน้ารถตอนขับรถหน้าฝนทำให้เรามองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้นแต่ถ้าฝนตกหนักมากบางครั้งควรเปิดไฟสูงเพื่อเพิ่มระยะในการมองเห็นให้มากยิ่งขึ้น และถ้าฝนตกหนักมากจริงๆ จนมองไม่เห็นทางแนะนำให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยข้างทางก่อน รอจนฝนซาแล้วค่อยเดินทางต่อครับ
 

3.ลดความเร็วลงและเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น

 
เพื่อเพิ่มระยะการเบรคให้มากขึ้นจากถนนเปียกลื่น การขับรถหน้าฝนควรอย่างยิ่งที่เราจะลดความเร็วจากการขับตอนเวลาปกติส่วนความเร็วควรจะเป็นเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมรถของเพื่อนๆ เลยครับ
 
โดยเฉพาะรถมอร์เตอร์ไซต์ที่เสี่ยงต่อการเสียหลักง่ายกว่ารถเก๋ง ถ้าขี่รถไปเจอฝนตกหนักอยากแนะนำให้หาที่จอดหลบฝนก่อนดีกว่าครับเพราะทัศนวิสัยของรถเก๋งหรือรถบรรทุกจะน้อยลงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายครับ
 

4.ไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน

 
ตอนที่เราขับรถฝ่าฝนตกหนักไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินนะครับ เพราะเวลาเราจะใช้ไฟเลี้ยวรถคันอื่นจะไม่ทราบว่าเราต้องการเลี้ยวด้านไหนและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ารถเสียแทน เปิดแค่ไฟหน้ารถก็เพียงพอแล้วครับ
 
เช่นเดียวกับการขับรถผ่านสี่แยกที่เราต้องการขับตรงไปก็ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเช่นเดียวกันครับ เราแค่มองทางให้ปลอดภัยก่อนขับไปตามปกติได้เลย
 

5.การลดฝ้าที่กระจก

 
สิ่งที่เรามักจะเจอเมื่อขับรถหน้าฝนอีกเรื่องคือ “ฝ้าขึ้นกระจกหน้าหรือหลัง” ซึ่งก็เกิดจากอุณภูมิในรถเราร้อนกว่าอากาศภายนอกที่เย็นกว่าที่อาจเกิดจากการที่เราปรับแอร์ให้ร้อนขึ้นหรือบางคนปิดแอร์ขับรถ ให้แก้ไขด้วยการเปิด ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง เพื่อลดฝ้าเกาะกระจกและอย่าปิดแอร์ให้ปรับแอร์ให้เย็นขึ้นอีกเล็กน้อยก็ช่วยลกฝ้าได้แล้วครับ
 
วิธีง่ายๆ ที่ Frank แนะนำนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ขับรถหน้าฝนได้สนุกมากขึ้น เพราะวิวหน้าฝนที่เห็นนาข้าวเขียวขจีสุดสายตา สายหมอกที่ลอยตัวอยู่เหนือภูเขา ความเขียวสดชื่นของต้นไม้ข้างทาง และภาพสะท้อนจากน้ำฝนหลังฝนตกก็เป็นวิวที่น่าขับรถเที่ยวเช่นเดียวกันนะครับ (ที่พักช่วง Low Season นี้ก็ลดราคาซะด้วยอ่ะนะครับ)
 
ว่าแล้วก็...วางโปรแกรมขับรถเที่ยวกันเถอะครับ
 
 

The post 5 วิธีขับรถหน้าฝนตามระดับความแรงของฝน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9d%e0%b8%99/feed 1