ประกันอุบัติเหตุ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Wed, 24 Apr 2024 08:24:05 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ประกันอุบัติเหตุ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ขับรถชนคนข้ามทางม้าลาย ประกันคุ้มครองไหม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2 Fri, 15 Mar 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=33381 ขับรถชนคนข้ามทางม้าลาย ถือเป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และมักก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ หลายคนอาจสงสัยว่าหากเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้นมา ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่?! คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ที่คุณทำ ตามข้อกฎหมาย ตามพระราชบัญ

The post ขับรถชนคนข้ามทางม้าลาย ประกันคุ้มครองไหม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ขับรถชนคนข้ามทางม้าลาย ถือเป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และมักก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ หลายคนอาจสงสัยว่าหากเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้นมา ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่?! คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ที่คุณทำ

ตามข้อกฎหมาย

ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 32 ระบุว่า "ในการใช้ทางเดินรถ ผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้รถชนหรือโดนคนเดินเท้า ไม่ว่าจะอยู่ ณ ส่วนใดของทาง ต้องให้สัญญาเตือนคนพิการ ที่กำลังใช้ทาง ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการควบคุมรถของตน"

หมายความว่า ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องหยุดรถให้ข้ามทางก่อนเสมอ  หากไม่หยุดรถให้ข้ามทางและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้ขับขี่จะเป็นฝ่ายผิดตามกฎหมาย และต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

อุบัติเหตุชนคนข้ามทางม้าลาย ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองไหม

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นประเภทที่คุ้มครองอุบัติเหตุมีคู่กรณี ได้แก่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ โดยประกันรถชั้น 1 จะคุ้มครองตัวรถจากอุบัติเหตุทั้งมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ ประกันรถชั้น 3+ จะคุ้มครองตัวรถจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น หากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดกฎหมาย ขับรถชนคนได้รับบาดเจ็บ ประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน ร่างกายและชีวิตของคู่กรณีเช่นกัน

สรุปได้ว่า ประกันรถยนต์ คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก หรือคู่กรณีหากคู่กรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต  บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินจาก พ.ร.บ.รถยนต์ โดยจะชดเชยตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

Tips ขับรถปลอดภัย ทำได้ไม่ยาก!

สิ่งสำคัญคือ ผู้ขับขี่ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ควรมองซ้าย มองขวาให้รอบคอบก่อนขับรถข้ามทางม้าลาย และ หยุดรถให้คนข้ามทางก่อนทุกครั้ง แล้วที่สำคัญควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่ bolttech.co.th เพิ่มความอุ่นใจขณะขับขี่ ขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองคุ้มค่า ราคาประหยัด นอกจากคุ้มครองอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีแล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังคุ้มครองกรณี รถสูญหาย รถไฟไหม้ รวมถึงคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และความรับผิดชอบต่อคู่กรณีเมื่อคู่กรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตด้วย มีประกันไว้อุ่นใจกว่า มีโปรโมชันพิเศษด้วยนะ

The post ขับรถชนคนข้ามทางม้าลาย ประกันคุ้มครองไหม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ฝันว่างูกัด ทำนายฝันบอกอะไรบ้าง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9d%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%94-%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%9d%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594-%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Wed, 28 Oct 2020 04:50:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13951 หากฝันว่างูกัด ฝันเห็นงูกัด จากตำราทำนายฝันจะบอกอะไรบ้าง มีความหมายเรื่องดีหรือไม่ดี แนะนำให้สังเกตตำแหน่งที่ฝันว่าโดนงูกัด จะบอกคำทำนายฝันได้ชัดเจนมาก

The post ฝันว่างูกัด ทำนายฝันบอกอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อคืน ฝันว่าโดนงูกัด ตำราทํานายฝันไม่ได้บอกว่าคุณจะเจอเนื้อคู่อย่างเดียว หากคุณฝันเห็นงูกัด ไม่ว่าจะฝันเห็นงูเห่า งูจงอาง งูเหลือม งูเขียว หรืองูชนิดอื่นๆ เลื้อยเข้ามากัดคุณ จากตำราทำนายฝันเตือนให้คุณระวังอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และการเปลี่ยนแปลงในชีวิตตามมา โดยจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่คุณฝันว่าโดนงูกัดด้วย (โปรดใช้วิจารญาณและความเชื่อส่วนบุคคล) เอาเป็นว่าใครที่อยากจะลองเช็กทำนายฝันงู มาอ่านพร้อมๆ กันเลย

1. ฝันว่างูกัดแขน

จากทำนายฝันเห็นงูกัดแขนข้างซ้าย อาจจะได้เจออุปสรรคทั้งการงานและการเงิน โดยเฉพาะกับญาติพี่น้องที่ทำงานร่วมกันให้ระวังเรื่องการเจรจา ส่วนถ้าคุณฝันว่างูกัดแขนขวา จะมีเกณฑ์แอบชอบคนที่มีเจ้าของ การลงทุนอาจจะไม่เน้นผลกำไรดีมากนัก แต่อาจได้รับความช่วยเหลือจากทางผู้ใหญ่

2. ฝันว่างูกัดคอ

หากคุณฝันว่างูกัดคอ ให้ระวังอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน และการทำของมีค่าสูญหาย คุณจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงให้ระวังการทำสัญญาเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ เพื่อป้องกันการโดนเอารัดเอาเปรียบ ส่วนดวงความรักของคุณอาจมีเเววได้เจอเนื้อคู่ หรือคนพิเศษเร็วๆ นี้

3. ฝันว่างูกัดมือ

การที่ฝันว่างูกัดมือ ทำนายว่าในช่วงนี้คุณจะต้องดูแลตัวเองให้ดี อาจจะมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาให้คุณเตรียมรับมือ กรณีคุณฝันว่างูกัดมือขวาจะมีเกณฑ์ได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงานหรือคนที่รู้จัก แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าฝันว่างูกัดมือซ้ายให้ระวังเรื่องการโดนหลอกได้ง่าย

4. ฝันว่างูกัดนิ้ว

จากคำทำนายฝันเห็นงูกัดนิ้ว ในช่วงนี้ใครที่กำลังวางเแผนธุรกิจ การลงทุน หรือการเล่นหุ้น อาจจะยังไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจำเป็นให้คุณคิดอย่างรอบคอบ หรือมองหากลยุทธ์ดีๆ เพื่อทำธุรกิจก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ แล้วที่สำคัญให้ระวังเรื่องความเครียดที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วยนะ

5. ฝันว่างูกัดขา

กรณีฝันว่างูกัดขาซ้าย ทำนายว่ามีเกณฑ์ได้พบเจอคนจำนวนมาก ไม่ควรทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป เพราะอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ แต่ถ้าฝันว่างูกัดขาขวาแล้วไม่รู้สึกเจ็บ แสดงว่าคุณอาจจะตกหลุมรักกับใครสักคน หรือพบมิตรภาพที่ดีเข้ามาในชีวิต ส่วนถ้าคุณฝันว่างูกัดขาขวาแล้วรู้สึกเจ็บให้ระวังบุคคลที่เข้ามาเป็นพิเศษ

6. ฝันว่างูกัดเท้า

สุดท้ายฝันว่างูกัดเท้า อาจจะเจออุบัติเหตุหรือเคราะห์เล็กๆ น้อยๆ ให้ระวังตัวเป็นพิเศษ และมีสติอยู่เสมอ ส่วนคนที่ฝันว่างูกัดที่เท้าซ้ายจะมีเกณฑ์เดินทางไกลยังต่างประเทศ  แต่ถ้าคุณฝันว่างูกัดเท้าขวาอาจเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือข่าวที่ทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจได้

ถึงอย่างไรก็ตาม “ทํานายฝันเห็นงูเป็นความเชื่อส่วนบุคคล” อาจจะมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีบ้าง แต่ถ้าในชีวิตจริงเราเกิดโดนงูกัดขึ้นมา อันตรายถึงชีวิตเลย เราต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี และรีบไปโรงพยาบาลใกล้เคียงที่สุด เพื่อทำการรักษาทันที ทั้งนี้หากคุณพบว่า งูเข้าบ้านจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรดี แนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ หรือติดต่อหน่วยภู้ภัยที่ 199 ให้มาจัดการดีกว่า จะได้ไม่เป็นอันตรายด้วย

เพื่อความอุ่นใจมากขึ้น เพื่อนๆ อย่าลืมทำประกันอุบัติเหตุ ให้ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ รวมไปจนถึงโดนงูรัด งูฉก งูกัด ประกันอุบัติเหตุคุ้มครองทั่วโลก ตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังมีค่าชดเชยรายขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลให้ด้วยนะ หมดห่วงทุกการใช้ชีวิต!!

ประกันรถยนต์ชั้น 1

The post ฝันว่างูกัด ทำนายฝันบอกอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง วิธีการปฐมพยาบาล https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2 Mon, 28 Sep 2020 03:24:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13081 อาการข้อเท้าพลิก มักเกิดจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เช่น หกล้ม เตะบอล ผู้บาดเจ็บจะมีอาการอักเสบเท้า ฟกช้ำ ปวดบวม แล้วนี่ก็คือวีธีการรักษาข้อเท้าพลิกเบื้องต้น!!

The post ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง วิธีการปฐมพยาบาล appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง  ถือเป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่อาการข้อเท้าพลิกมักมาจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ตกบันได เดินสะดุด หกล้ม เตะบอล หรือเล่นกีฬาชนิดที่ใช้ข้อเท้า บางรายก็อาจจะบาดเจ็บเล็กน้อย แต่บางรายอาจพบว่ากระดูกข้อเท้าหัก ข้อเท้าพลิกเอ็นฉีก หากไม่รีบทำการรักษาอาจจะเป็นอันตรายต่อข้อเท้าได้ วันนี้เราเลยนำข้อมูลเกี่ยวกับ อาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง และวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น มาฝากทุกคนกัน

อาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

ข้อเท้าพลิก
อาการข้อเท้าพลิก ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางรายก็สามารถเดินได้ตามปกติ หรือบางรายก็ไม่สามารถเดินได้เลย ซึ่งอาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงจะมีลักษณะตามนี้ 

  • มีอาการเจ็บปวดข้อเท้า โดยเฉพาะเวลากดหรือลงน้ำหนักลงที่ข้อเท้า
  • มีอาการข้อเท้าบวม ข้อเท้าอักเสบ 
  • มีอาการข้อเท้าฟกช้ำ หรือมีรอยช้ำเลือด
  • มีอาการข้อเท้ายึดตึง
  • มีอาการปวดเจ็บเท้ามาก ไม่สามารถเดินได้

ระดับความรุนแรงข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

ข้อเท้าพลิก
กรณีผู้บาดเจ็บที่มีอาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งทางการแพทย์ได้แบ่งระดับความรุนแรงข้อเท้าพลิก ออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

  • ระดับที่ 1 จะมีการยืดหรือข้อเท้าพลิกเอ็นฉีกเพียงเล็กน้อย อาจจะมีอาการข้อเท้าบวมและกดเจ็บบริเวณที่ข้อเท้าพลิก แต่ยังสามารถเดินลงน้ำหนักได้ตามปกติ มักจะหายภายใน 2 สัปดาห์หลังจากเข้ารับการรักษา
  • ระดับที่ 2 มีลักษณะข้อเท้าพลิกเอ็นฉีกบางส่วน (ไม่เกินร้อยละ 50) ผู้บาดเจ็บจะเริ่มมีอาการเจ็บปวดข้อเท้ามากกว่าระดับแรก เดินลงน้ำหนักได้ไม่ค่อยดีนัก และมักจะหายภายใน 4-6 สัปดาห์หลังจากเข้ารับการรักษา
  • ระดับที่ 3 เป็นอาการรุนแรงและอันตราย เนื่องจากข้อเท้าพลิกเอ็นฉีกทั้งหมด บางรายข้อเท้าหัก มีอาการปวดเท้ามากและมีเลือดคลั่ง จะต้องรีบเข้ารับการรักษาหรือผ่าตัด 

วิธีการรักษาข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงเบื้องต้น

ข้อเท้าพลิก
หลังจากพบว่าประสบอุบัติเหตุ ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง อย่างแรกผู้บาดเจ็บจะต้องเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิกก่อน เพื่อจะได้รีบทำการรักษาก่อนนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นกรณีหกล้ม แล้วข้อเท้าพลิกให้รีบทำตามขั้นตอน ดังนี้ก่อน

  • ผู้บาดเจ็บจะต้องพยายามไม่เคลื่อนไหวข้อเท้าที่พลิก เพราะเราไม่ทราบว่าข้อเท้ากระดูกหัก หรือเอ็นฉีกขาดมากน้อยแค่ไหน
  • ให้นำไม้มาวางประคบแล้วใช้ผ้าพันแทนเฝือกไปก่อน หากจำเป็นต้องเคลื่อนที่ให้ใช้เปล หรือไม้เท้าเพื่อเป็นตัวช่วยพยุงในการเดิน

ข้อเท้าพลิก

  • กรณีข้อเท้าพลิกให้ประคบด้วยน้ำเเข็ง หรือแผ่นเจลเย็นตรงบริเวณที่เกิดอาการข้อเท้าพลิก โดยประคบครั้งละ 20-30 นาที จะช่วยลดอาการเจ็บปวดหรืออาการข้อเท้าบวม (หลังจากพ้น 48 ชั่วโมงไปแล้วให้ใช้ประคบร้อนสลับกับประคบเย็นได้)
  • หาหมอนหรือเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย เพียงนำมาหนุนขาให้สูงขึ้น จะช่วยให้อาการข้อเท้าบวมลดน้อยลง
  • สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดเจ็บข้อเท้ามาก แนะนำให้ทานยาแก้ปวดและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อบรรเทาอาการปวด แต่ไม่ควรใช้ยาหม่องหรือครีมนวด  เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและมีอาการบวม
  • หากปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง แต่ผู้บาดเจ็บมีอาการไม่ดีขึ้น เช่น ปวดข้อเท้ารุนแรง มีรอยเลือดฟกช้ำ หรือไม่สามารถลงน้ำหนักที่ข้อเท้าได้ เราควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเช็กดูอาการทันที เพราะอาจจะกระดูกหักร่วมด้วย หรือสามารถอ่าน วิธีปฐมพยาบาลกรณีกระดูกหัก เพิ่มเติมกันได้

หมายเหตุ : การใช้ผ้าพันแผลควรพันในแรงตึงที่พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป แล้วอย่าพันเป็นวงๆ เพราะจะทำให้ข้อเท้าบวมมากขึ้นกว่าเดิม แนะนำให้พันเป็นเลข 8 หรือพันไขว้ เพื่อประคองข้อเท้าเอาไว้ให้พอดี

การป้องกันตัวเองจากข้อเท้าพลิก

ข้อเท้าพลิก
อย่างที่รู้กันดีว่า “อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา”  ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุภายในบ้าน หรืออุบัติเหตุนอกบ้าน เราก็สามารถป้องกันตัวเองกรณีข้อเท้าพลิกได้ ถ้าเรารู้จักวิธีป้องกันตัวเองแล้วก็จะช่วยไม่ให้ร่างกายบาดเจ็บ หรือเกิดภาวะเเทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ซึ่งวิธีป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง ดังต่อไปนี้

  • ระมัดระวังตัวก่อนออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาทุกครั้ง
  • ไม่เล่นกีฬาผาดโผด หรือเสี่ยงภัย
  • สวมใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับประเภทกีฬา
  • ไม่ควรวิ่ง หรือทำกิจกรรมบนพื้นผิวที่ขรุขระ
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางในที่มืด เพราะจะมองไม่เห็นทาง
  • ไม่อยู่ในบริเวณที่สูง เช่น ปีนต้นไม้ ปีนบันได เป็น
  • หากรู้สึกเมื่อย เหนื่อยล้าให้หยุดพักทันที
  • พยายามไม่ใส่รองเท้าส้นสูง เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกได้ง่าย
  • บริหารกล้ามเนื้อและข้อเท้า เพื่อให้ร่างกายเเข็งแรงและให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น แต่สำหรับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกหลังจากข้อเท้า และเส้นเอ็นที่ไม่มีอาการบวม หรืออาการเจ็บปวดลดลงแล้ว สามารถบริหารกล้ามเนื้อข้อเท้าได้ แต่จะต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ถูกต้องเท่านั้น

ข้อเท้าพลิก
เพราะค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่น้อยๆ เราอย่าลืมซื้อประกันอุบัติเหตุจาก frank.co.th ให้ดูแลค่ารักษาเมื่อเกิดอุบัติเหตุกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง จากอุบัติเหตุ ประกันก็จะเข้ามาช่วยจ่ายให้ทันที ไม่ต้องสำรองจ่ายเองกว่า 400 แห่งในโรงพยาบาล และยังคุ้มครองทั่วโลกตลอด 24 ชม. อุ่นใจกันไปเลย แต่เราอย่าลืมอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุนะ เพื่อให้ได้แผนความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ และเหมาะกับไลฟสไตล์ของคุณที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : bangpakokhospital.com
                                   siphhospital.com
ประกันอุบัติเหตุ

The post ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง วิธีการปฐมพยาบาล appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
"ฟ้าผ่า" ป้องกันอย่างไร ประกันอุบัติเหตุคุ้มครองหรือไม่ ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259c%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Mon, 08 Jun 2020 05:00:45 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11955 ฟ้าผ่า เป็นปรากฎการที่พบเห็นได้บ่อยครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งฟ้าผ่านับเป็นภัยอันตรายร้ายแรงต่อมนุษย์เป็นอย่างมากและเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง จากสถิติพบว่าในแต่ละปีมีชาวไทยโดนฟ้าผ่าเป็นจำนวนหลายร้อยรายเลยทีเดียว แม้ว่าการโดนฟ้าผ่าอาจฟังเป็นอุบัติเหตุรุนแรง แต่กลับพบว่าผู้ที่โดนฟ้าผ่านั้นมีอัตรารอด

The post "ฟ้าผ่า" ป้องกันอย่างไร ประกันอุบัติเหตุคุ้มครองหรือไม่ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ฟ้าผ่า เป็นปรากฎการที่พบเห็นได้บ่อยครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งฟ้าผ่านับเป็นภัยอันตรายร้ายแรงต่อมนุษย์เป็นอย่างมากและเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง จากสถิติพบว่าในแต่ละปีมีชาวไทยโดนฟ้าผ่าเป็นจำนวนหลายร้อยรายเลยทีเดียว แม้ว่าการโดนฟ้าผ่าอาจฟังเป็นอุบัติเหตุรุนแรง แต่กลับพบว่าผู้ที่โดนฟ้าผ่านั้นมีอัตรารอดชีวิตมากกว่าเสียชีวิตเสียอีก
เมื่อฟ้าผ่าเป็นภัยใกล้ตัว และมีผู้ประสบเหตุโดนฟ้าผ่าบ่อยครั้ง Frank จึงขอนำเกร็ดความรู้วิธีป้องกันตนเองจากฟ้าผ่า รวมถึงตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่าหากโดนฟ้าผ่าจะสามารถเบิกค่ารักษาจากประกันได้หรือไม่ มาให้ทุกท่านได้รับทราบ ดังนี้ครับ

ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร

ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ทราบกันก่อนว่าวัตถุทุกชนิดมีประจุไฟฟ้าอยู่ในตัว จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับประเภทวัตถุนั้น ๆ ซึ่งเมฆฝนเป็นวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าลบสะสมอยู่ในตัวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณใต้ก้อนเมฆ เมื่อก้อนเมฆเคลื่อนตัวจะทำให้เกิดการแตกตัวของประจุไฟฟ้า ทำให้ประจุลบใต้ก้อนเมฆวิ่งแหวกอากาศลงไปสัมผัสกับพื้นหรือวัตถุด้านล่างที่เป็นประจุบวก จึงเกิดเป็นเส้นสายฟ้ายาวเป็นแนวหรือเรียกว่าฟ้าผ่านั่นเอง ฟ้าผ่าสามารถเกิดได้ทุกพื้นที่และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งในแต่ละปีก็มีฟ้าผ่าทั่วโลกรวมกันมากถึง 16 ล้านครั้งเลยทีเดียว

ฟ้าผ่าป้องกันอย่างไร

ฟ้าผ่า
แม้ว่าฟ้าผ่ามักจะเกิดในวันที่มีฝนฟ้าคะนอง แต่บางกรณีก็พบว่าฟ้าผ่าอาจเกิดในวันที่ท้องฟ้าโล่งสดใสก็ได้เช่นกัน โดยอันตรายของฟ้าผ่าคือเมื่อประจุไฟฟ้าปะทะวัตถุหรือพื้นดิน กระแสไฟฟ้าจะแพร่กระจายเป็นคลื่นรอบวัตถุหรือจุดปะทะ หากเราไปอยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวก็อาจถูกกระแสไฟฟ้าจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งวิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าสามารถทำได้ดังนี้
1. เมื่ออยู่ในสภาพอากาศฝนฟ้าคะนองและมีฟ้าผ่า อย่าอยู่ในที่โล่งแจ้ง เช่นทุ่งนา ชายหาด สนามฟุตบอล เป็นต้น เนื่องจากฟ้าผ่าอาจเกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเราอาจเป็นเป้าได้ง่ายหากอยู่ในพื้นที่โล่ง แต่ให้ไปหลบอยู่ในบ้านหรืออาคาร โดยอยู่ห่างจากหน้าต่างและประตูให้มากที่สุด
2. อย่าเดินกางร่มในบริเวณที่โล่งหากอยู่ในภาวะฟ้าผ่า และที่สำคัญอย่ายืนหลบใต้ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า เพราะอาจเป็นเป้าให้ฟ้าผ่าได้ง่ายขึ้น
3. หากอยู่ในบ้านให้ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าให้หมด เพราะถ้าฟ้าผ่าลงบ้านอาจทำให้เกิดไฟกระชากและทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ ทั้งนี้การติดตั้งสายล่อฟ้าในอาคารสูงก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากฟ้าผ่าได้เช่นกัน
4. หากอยู่ในที่โล่งและไม่สามารถหาที่หลบได้ ให้ก้มนั่งยอง ๆ ทำตัวให้ต่ำ เขย่งเท้าให้ส้นเท้าทั้งสองชิดกัน และเอามือปิดหู
5. เราสามารถหลบหนีฟ้าผ่าด้วยการเข้าไปหลบในรถยนต์ได้ โดยปิดประตูและกระจกให้มิดชิด หากฟ้าผ่าลงที่รถกระแสไฟฟ้าจะไหลลงดินหมด เราจะปลอดภัย

ฟ้าผ่า..เรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด

ฟ้าผ่าโทรศัพท์
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสื่อนำไฟฟ้า เมื่อใช้โทรศัพท์มือถือขณะฝนตกจะทำให้ฟ้าผ่าลงมาที่โทรศัพท์มือถือจนเกิดอันตรายต่อชีวิต ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด เพราะจริง ๆ แล้ว โทรศัพท์มือถือไม่ใช่สื่อล่อฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่สามารถทำให้ประจุในอากาศแตกตัวเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือขณะฝนตกอยู่ดีเพราะน้ำฝนอาจเข้าไปในโทรศัพท์ทำให้แบตเตอรี่ลัดวงจรได้

โดนฟ้าผ่า เคลมประกันได้หรือไม่?

ต้องเข้าใจก่อนว่าการโดนฟ้าผ่านั้นเป็นภัยจากอุบัติเหตุครับ (ซึ่งอุบัติเหตุเป็นการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ตามข้อมูลที่เคยชี้แจงไปในบทความประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลคืออะไร) ดังนั้นผู้ที่โดนฟ้าผ่าจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากประกันอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้หากโดนฟ้าผ่าเราก็สามารถเบิกค่ารักษาจากประกันสุขภาพได้เช่นกัน เพราะประกันสุขภาพจะครอบคลุมการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุด้วยครับ แต่..ต้องพึงระวังไว้ว่า ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น และวงเงินค่ารักษาพยาบาลจะน้อยกว่าประกันอุบัติเหตุครับ
คาดว่าหลาย ๆ คนคงเคลียร์ข้อสงสัยเรื่องฟ้าผ่าไปกันแล้วนะครับ ทั้งนี้ฟ้าผ่าเป็นเรื่องอันตรายและเป็นภัยที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่าก็ต้องระมัดระวังให้ดีนะครับ
ประกันอุบัติเหตุ
ขอบคุณข้อมูลจาก : springnews
                                   pobpad
                                   maanow

The post "ฟ้าผ่า" ป้องกันอย่างไร ประกันอุบัติเหตุคุ้มครองหรือไม่ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โดนหมากัดแมวข่วน เบิกประกันอุบัติเหตุได้ไหม? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8 Mon, 11 May 2020 03:28:49 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11069 เพราะว่าหมาแมวเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน เวลาไปไหนต้องคอยระวังตัวให้ดี อย่างที่เคยมีข่าวหมาแมวจรจัดกัดคนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าหมาแมวตัวนั้นมีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่  แล้วเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ไม่รู้จะเอาผิดที่ใครด้วย หากมีเคสเเบบนี้ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) จะช่วยคุ้มครองในกรณีนี้หรือไม่? สามารถเบิกค่า

The post โดนหมากัดแมวข่วน เบิกประกันอุบัติเหตุได้ไหม? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เพราะว่าหมาแมวเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน เวลาไปไหนต้องคอยระวังตัวให้ดี อย่างที่เคยมีข่าวหมาแมวจรจัดกัดคนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าหมาแมวตัวนั้นมีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่  แล้วเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ไม่รู้จะเอาผิดที่ใครด้วย หากมีเคสเเบบนี้ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) จะช่วยคุ้มครองในกรณีนี้หรือไม่? สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไหมนะ เเฟรงค์มีคำตอบไว้ให้คุณแล้ว...

ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองกรณีแมวข่วนหมากัดหรือไม่

หมากัดแมวข่วน
หลายคนสงสัยว่า ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะคุ้มครองกรณีถูกหมากัดแมวข่วนหรือไม่? คำตอบก็คือ ประกันอุบัติเหตุจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลสุนัขกัดหรือแมวข่วนให้ด้วย เพราะถือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดมาจากความไม่ได้ตั้งใจ  เราสามารถแจ้มเคลมค่ารักษาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลที่ถูกกัด หรือมีริ้วรอยจากการถูกข่วน ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ตามวงเงิน หากเรามีประกันอุบัติเหตุให้ช่วยคุ้มครองอยู่แล้ว ไปเที่ยวไหนก็สบายใจมากขึ้น

แล้วประกันอุบัติเหตุ จ่ายค่ารักษากรณีหมากัดอย่างไร

หมากัดแมวข่วน
อย่างในกรณีที่เราทำประกันอุบัติเหตุ (PA) กับ Frank.co.th ก็มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทันที แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในเครือ คนไข้อาจจะต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วค่อยนำใบเสร็จมาเบิกทีหลัง ซึ่งจะให้ความคุ้มครองกรณีถูกหมากัดแมวข่วน ดังต่อไปนี้

  • คุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
  • คุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล (ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง)
  • ผลประโยชน์การชดเชยรายได้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล (สูงสุด 365 วันต่ออุบัติเหตุ)
  • รักษาในโรงพยาบาลกว่า 400 แห่งไม่ต้องสำรองจ่าย
  • คุ้มครองทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

สมมติว่านาย เอ กำลังเดินออกจากบ้านไปยังตลาด แล้วจู่ๆ มีสุนัขจรจัดเข้ามากัดที่ขาจนเลือดไหลซิบๆ เลยต้องรีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อทำการรักษา และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วย หากนายเอทำประกันอุบัติเหตุไว้อยู่แล้ว ก็สามารถเบิกค่ารักษาในส่วนตรงนี้ได้เลย

การเบิกประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA)

หมากัดแมวข่วน
ถึงแม้การโดนหมากัดแมวข่วนเพียงครั้งเดียว เราอาจจ่ายค่ารักษาไม่ใช่น้อยๆ ก็ได้นะ ไหนจะค่าล้างแผล ค่าวัคซีนฉีดยากันโรคพิษสุนัขบ้า ค่าอุปกรณ์พันแผล รวมถึงค่ายารักษาต่อเนื่อง พอรวมๆ กันแล้วก็หลายบาททีเดียว แต่ถ้าเราทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ก่อน ก็หมดห่วงเรื่องค่ารักษาตรงนี้ทันที  ซึ่งขั้นตอนการเคลมประกันอุบัติเหตุเคสโดนหมากัด แบ่งออกเป็น 2 กรณีก็คือ ใช้บัตรประกันอุบัติเหตุกับโรงพยาบาลในเครือ และกรณีสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน 

  • กรณีใช้บัตรประกันอุบัติเหตุกับโรงพยาบาลตามสัญญา ทั้งนี้เราสามารถเช็กสิทธิ์สถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลในเครือก่อนได้ แล้วยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุ พร้อมบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ให้กับทางเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
  • กรณีสำรองจ่ายไปแล้วเคลมประกันอุบัติเหตุทีหลัง หากเรามีเหตุจำเป็นต้องเข้ารักการรักษาโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่โรงพยาบาลนั้นไม่ได้อยู่ในเครือ ก็ให้สำรองค่าใช้จ่ายไปก่อนแล้วค่อยนำใบเสร็จมาเบิกเคลมทีหลัง แต่ต้องเป็นใบเสร็จฉบับจริงเท่านั้น และมีใบรับรองแพทย์มายืนยันด้วย หลังจากนั้นทางบริษัทประกันจะจ่ายคืนเป็นเช็ค หรือโอนเงินเข้าทางบัญชีแทน

 
หมากัดแมวข่วน
นอกจากนี้ยังรวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ทำร้ายร่างกายอีกด้วย เช่น กระต่าย กระรอก หนู หรือลิงข่วน ประกันอุบัติเหตุก็ยังให้ความคุ้มครองเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นอุบัติเหตุด้วย หลังจากถูกข่วนหรือถูกกัดแล้วเราต้องรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งกับทางโรงพยาบาลตามสิทธิ์ เพื่อทำการรักษาได้เลย  แต่ทั้งนี้เราเองก็ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็อย่าลืมศึกษาหนทางเอาตัวรอดถ้าไม่อยากถูกหมากัดกันด้วยนะ
อย่างเคสที่โดนหมาแมวกัดบางรายก็เจ็บเพียงเล็กน้อย บางรายก็เจ็บหนักจนสาหัสเลย ดังนั้น เราอย่าชะล่าใจเด็ดขาด! ควรทำประกันอุบัติเหตุเสริมไว้ด้วย ก็สามารถช่วยในกรณีเคสนี้ได้ ซึ่งประกันอื่นๆ จะให้ความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าคุณจะโดนหมากัด หรือแมวข่วนขณะอยู่ในต่างประเทศ ก็สามารถเบิกเคลมได้ทั่วโลกตลอด 24 ชม. ไม่ต้องคอยกังวลใจอีกด้วย
 
ประกันอุบัติเหตุ

The post โดนหมากัดแมวข่วน เบิกประกันอุบัติเหตุได้ไหม? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%87%e0%b8%88%e0%b8%9a%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%8d%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a1 Mon, 04 May 2020 03:01:12 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10566 รู้หรือไม่ว่า? นอกจากเราจะได้รับ ประกันสังคมว่างงาน ประกันสังคมค่ารักษากรณีบาดเจ็บ และประกันสังคมคนท้องแล้ว เงินประกันสังคมที่เราจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือนนั้น เรายังสามารถรับเงินเมื่อยามแก่ชราได้ด้วย หรือเรียกกันว่า “เงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพ” นั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อให้เก็บเงินเอาไว้ใช้หลังเกษีย

The post เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รู้หรือไม่ว่า? นอกจากเราจะได้รับ ประกันสังคมว่างงาน ประกันสังคมค่ารักษากรณีบาดเจ็บ และประกันสังคมคนท้องแล้ว เงินประกันสังคมที่เราจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือนนั้น เรายังสามารถรับเงินเมื่อยามแก่ชราได้ด้วย หรือเรียกกันว่า “เงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพ” นั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อให้เก็บเงินเอาไว้ใช้หลังเกษียณ ถึงแม้ในอนาคตคุณจะไม่มีรายได้ก็ตาม แต่ทั้งนี้สิทธิประกันสังคมกรณีชราภาพ เราจะได้รับเงินคืนตอนอายุเท่าไหร่ แล้วคำนวณอย่างไรบ้าง ลองมาเช็คสิทธิประกันสังคมเลย....

ประกันสังคมกรณีชราภาพ คืออะไร?

เงินสมทบชราภาพ
คำว่า เงินชราภาพประกันสังคม” หมายถึง กองทุนที่ผู้ประกันตนเลือกจ่ายสมทบให้ทางประกันสังคมตามที่กำหนด เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำบาญยามชราภาพ  ทั้งนี้สามารถใช้สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 (มนุษย์เงินเดือน) หรือผู้ประกันตนมาตรา 39  (คนที่ลาออกจากงานประจำแล้ว) ได้เหมือนกัน แต่การเบิกประกันสังคมชราภาพก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่ายสมทบ อายุ และสถานะความเป็นผู้ประกันตนด้วย

การเบิกเงินสมทบชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่า “เงินสมทบชราภาพ” จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เงินบำเหน็จที่จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว กับเงินบำนาญชราภาพที่จ่ายให้รายเดือนตลอดชีวิต  ซึ่งจะมีการเบิกจ่ายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประกันสังคมแตกต่างกัน

1. เงินบำเหน็จชราภาพ ประกันสังคม

หากใครที่ต้องการรับเงินก้อนโตทีเดียวเป็นเงินบำเหน็จ ผู้ประกันตนสามารถเบิกประกันสังคมชราภาพ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการทำงานเมื่อยามเกษียนได้ แต่ผู้ประกันตนต้องมีคุณสมบัติตามที่ประกันสังคมกำหนดไว้
1.1 เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย

1.2 ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ 
ถึงแม้จะอยู่ในเงื่อนไขประกันสังคมชราภาพตามที่กำหนดข้างต้น ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ  แต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันด้วย ดังต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสบทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินที่เราจ่ายสมทบเท่านั้น 
  • กรณีจ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้เงินบำเหน็จมาจากเงินสบทบที่เราจ่าย เงินสมทบของนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
  • กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับครั้งสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย

1.3 การคำนวณเงินบำเหน็จชราภาพ
เอาเป็นว่า!! เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น เราลองมาเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำเหน็จ) กันเถอะ สมมติว่านายกวิ้นเป็นผู้ประกันตนอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นลูกจ้าง ซึ่งนายกวิ้นจ่ายเงินสบทบ 450 บาทต่อเดือน เป็นเวลารวม 10 เดือน (น้อยกว่า 12 เดือน) ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินเงินบำเหน็จ 450x10 = 4,500 บาท
แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และอายุครบ 55 ปี จะได้รับได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับจำนวนเงินสมทบของตนเอง + เงินสมทบของนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน (ผลกำไรจากกองทุนประกันสังคมนำเงินไปลงทุน) 
อย่างเช่น นายกวิ้นจ่ายเงินสมทบเดือนละ 450 บาท ส่วนนายจ้างสบทบให้อีกเดือนละ 450 บาท แล้วนายกวิ้นจ่ายเงินสมทบชราภาพมา 10 ปี ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เป็นจำนวน (450 + 450) x 12 เดือน x 10 ปี = 108,000 บาท และบวกกับผลดอกจากการลงทุนประกันสังคม

2. เงินบำนาญชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
แต่ถ้าใครที่อยากได้เงินบำนาญชราภาพ เพื่อแบ่งใช้เป็นรายเดือนยาวๆ ตลอดชีวิต ก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ่ายเงินสบทบและฐานเงินเดือนเป็นหลัก รวมถึงข้อตกลงที่ทางประกันสังคมกำหนดไว้เช่นกัน
2.1 เงื่อนไขการรับเงินบำนาญตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

2.2 ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ
หลังจากอ่านสิทธิการรับเงินบำนาญ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็ต้องศึกษา ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ  เพื่อเอาไว้ใช้เมื่อยามเกษียณด้วยนะ ผลประโยชน์การรับสิทธิ์จะแบ่งออกเป็น 3 กรณีต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนพอดี มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคมเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง 
  • กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
  • กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน

2.3 การคำนวณเงินบำนาญชราภาพ
ทั้งนี้เราสามารถเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำนาญ) ได้เหมือนกัน หากคุณเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มนุษย์เงินเดือน จะกำหนดฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท แต่ถ้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 คนที่ลาออกจากงานประจำ คิดเป็นเงินเดือน 4,800 บาท

  • กรณีที่คุณจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนเป๊ะ ตามสูตรก็คือ 20% x ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 

ตัวอย่างเช่น : นายแฟรงค์ เป็นผู้ประกันตนมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป จ่ายเงินสบทบ 180 เดือนพอดี ครบอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นผู้ประกันตน นายแฟรงค์จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็น 20% x 15,000 = 3,000 บาทต่อเดือน

  • แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบเกิน 180 เดือน ใช้สูตร 20% + [1.5% x (จำนวนปีจ่ายเงินสมทบ - 15 ปี)]

ตัวอย่างเช่น : กรณีจ่ายเงินสบทบมาแล้ว 20 ปี จะคิดเป็น 20% + [1.5x(20-15)] = 20% + [1.5x5] เท่ากับ 27.5% แล้วนำมาคูณกับฐานเงินเดือนอีกครั้ง เช่น นางจริงใจมีรายได้ 15,000 บาท/เดือนขึ้นไป = 15,000 x 27.5% = 4,125 บาท/เดือนตลอดชีวิต
หรือกรณีที่นางจริงใจได้รับเงินบำนาญชราภาพ แล้วเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน คิดเป็น 4,125 x 10 เท่า เป็นเงินทั้งหมด 41,250 บาท

การรับเงินเกษียณต้องทำเมื่อไหร่?

เงินสมทบชราภาพ
หากคุณจ่ายเงินสมทบประกันสังคมตามที่กำหนด พออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ คุณก็ต้องลาออกจากประกันสังคมก่อน  แล้วยื่นเรื่องเบิกเงินค่าบำเหน็จหรือบำนาญภายใน 1 ปีหลังจากลาออกจากกองทุนประกันสังคม นั่นหมายความว่าคุณจะหมดสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลบาดเจ็บ ค่าทำฟัน และค่าคลอดบุตร เป็นต้น ดังนั้น กรณีประสบอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเอง หรือเลือกทำประกันอุบัติเหตุเพื่อช่วยให้ดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณได้ 
เพราะฉะนั้น การจ่ายเงินประกันสังคมชราภาพทุกๆ เดือนนั้น ถือเป็นประโยชน์ให้กับคุณในอนาคตได้ดีเลยล่ะ ยามวัยเกษียณก็มีเงินบำเหน็จก้อนโตไว้ใช้ หรือเงินบำนาญเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อุ่นใจเท่าคุณมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับ Frank.co.th ให้ช่วยดูแลอีกทาง หากเกิดประสบอุบัติเหตุ ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ทันทีกว่า 400 แห่งในโรงพยาบาล (ไม่ต้องสำรองจ่าย) แถมยังคุ้มครองกรณีกระดูกหัก ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีความเสี่ยงมากๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่ามีคนช่วยคุ้มครองคุณนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sso.go.th

ประกันอุบัติเหตุ

The post เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อุบัติเหตุในบ้าน ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม https://www.bolttech.co.th/blog/6%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=6%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 Wed, 22 Apr 2020 10:31:15 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11434 ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุในบ้านเกิดขึ้นกับคุณได้เสมอ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่ทันคาดคิด กว่าจะตั้งสติได้ก็ได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว หากโชคดีก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่บางทีก็อาจได้รับบาดเจ็บหนักจนพิการหรือเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ลองมาดูกันว่าเมื่ออยู่ในบ้านจะมีควา

The post อุบัติเหตุในบ้าน ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุในบ้านเกิดขึ้นกับคุณได้เสมอ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่ทันคาดคิด กว่าจะตั้งสติได้ก็ได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว หากโชคดีก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่บางทีก็อาจได้รับบาดเจ็บหนักจนพิการหรือเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ลองมาดูกันว่าเมื่ออยู่ในบ้านจะมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอะไรได้บ้าง
 

พื้นลื่น

พื้นลื่น
เป็นอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นบ่อยที่สุด เพราะเราต้องใช้ชีวิตเคลื่อนที่ไปมาอยู่ภายในบ้านเป็นประจำ หากพื้นบ้านของเราเป็นพื้นขัดมันหรือปูกระเบื้องด้วยแล้วก็จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ลื่นได้ง่ายขึ้น รวมถึงพื้นห้องน้ำก็เป็นสถานที่ที่มีโอกาสลื่นล้มบ่อยเช่นกัน เมื่อคุณอยู่ในบ้านควรเดินอย่างระมัดระวัง อย่าวิ่งในบ้าน เมื่อทำของเหลวหกลงบนพื้นก็อย่าปล่อยไว้ ให้หาผ้ามาเช็ดหรือทำความสะอาดทันที และถ้าจะให้ดีควรหาซื้อรองเท้าเดินในบ้านมาใส่ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงลื่นล้มในบ้านได้
 

ไฟดูด

ไฟดูด
ไฟดูดเป็นอุบัติเหตุในบ้านที่อันตรายถึงชีวิต อุปกรณ์ในบ้านส่วนใหญ่มักเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หากไม่ได้มาตรฐานหรือใช้งานมานานอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ต้องจำไว้เสมอว่าตอนมือเปียกน้ำอย่าเสียบปลั๊กไฟ และที่สำคัญหากบ้านของคุณมีเด็กเล็กก็ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเด็กอาจซุกซนเอามือแหย่เข้าไปในรูปลั๊กไฟได้เช่นกัน ควรจะติดตั้งฝาครอบปลั๊กไฟเพื่อกันอันตรายจากเด็กด้วย นอกจากนี้หากบ้านของคุณติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟก็จะช่วยลดปัญหาไฟดูดได้ หมั่นตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าบ่อย ๆ และติดตั้งสายดินให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าแรงสูง
 

น้ำร้อนลวก

น้ำร้อนลวก
น้ำร้อนลวกเป็นอุบัติเหตุในบ้านที่เกิดขึ้นเป็นประจำและเกิดขึ้นได้ทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ส่วนมากเกิดจากความไม่ระวัง และหากคุณชอบเข้าครัวทำอาหารรับประทานเองด้วยแล้ว ก็มีโอกาสที่จะโดนน้ำร้อนลวกหรือน้ำมันกระเด็นใส่บ่อยครั้ง สำหรับวิธีปฐมพยาบาลเมื่อโดนน้ำร้อนลวกคือล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเหลือแล้วซับด้วยผ้าให้แห้ง จากนั้นทายาปฏิชีวนะที่แผล หากแผลสาหัสก็ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
 

พลัดตกจากที่สูง

ตกบันได
เป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุในบ้านที่เกิดจากความประมาท ไม่ว่าจะเป็นการตกบันได การตกจากระเบียง ตกจากเก้าอี้ขณะเก็บของหรือทำคามสะอาด ตกจากบันไดพับขณะเปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งจะทำให้คุณได้รับบาดเจ็บหนัก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการหากอวัยวะส่วนสำคัญได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ทางแก้ก็คือต้องมัดระวังให้มากขึ้น และไม่เสียงทำงานบ้านที่อันตรายจนเกินไป
 

สะดุดสิ่งของ ของหล่นใส่

สะดุด
หลายคนคงเคยมีประสบการณ์เดินเตะหรือสะดุดสิ่งของที่ตั้งอยู่ในบ้าน ตลอดจนทำสิ่งของหล่นใส่เท้าขณะเคลื่อนย้าย ซึ่งอาการบาดเจ็บก็จะมีตั้งแต่ได้รับแผลฟกช้ำเล็กน้อย ไปจนถึงเกิดบาดแผลเลือดออก ดังนั้นเวลาเคลื่อนย้ายสิ่งของต้องทำด้วยความระมัดระวังเสมอ และหมั่นเก็บของให้เป็นระเบียบ อย่าวางเกะกะ เพราะคุณอาจเดินสะดุดได้
 

ของมีคมบาด

มีดบาด
มีดทำครัว คัตเตอร์ กรรไกร ล้วนเป็นของมีคม ที่ทำอันตรายให้กับคุณได้ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีพอ ของมีคมทั้งหลายควรเก็บให้เป็นระเบียบหลังจากใช้งานแล้วทุกครั้ง และไม่ควรนำไปวางรวมกับสิ่งของอื่น ๆ เพราะถ้าเรารื้อหาของอาจมีโอกาสถูกบาดได้ ส่วนเวลาใช้งานของมีคมเหล่านี้ก็ต้องระมัดระวังให้ดีเช่นกัน
จากอุบัติเหตุภายในบ้านที่เกิดขึ้นทั้งหมด ล้วนมีสาเหตุจากความประมาททั้งสิ้น แม้ว่าเราจะระมัดระวังแค่ไหนการเกิดอุบัติเหตุก็ยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่เช่นกัน และการเกิดอุบัติเหตุหนัก ๆ บางครั้ง อาจต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ซึ่งคุณต้องรับภาระจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แสนแพงด้วยเช่นกัน เพื่อความอุ่นใจของคุณลองหาประกันอุบัติเหตุดีดีสักตัวคุ้มครอง ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลได้อีกทางหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก :  gurubaan, shera, theasianparent
ประกันอุบัติเหตุ

The post อุบัติเหตุในบ้าน ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
กรณีบาดเจ็บขณะทำงาน กองทุนเงินทดแทนช่วยจ่ายค่ารักษายังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b8%88%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2587 Wed, 26 Feb 2020 03:00:29 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10164 ไม่ว่าจะทำอาชีพไหน ก็ย่อมเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานได้เสมอ แม้กระทั่งพนักงานออฟฟิศที่ดูเหมือนจะเซฟโซน แต่ถ้าวันนึงจู่ๆ คุณรีบไปทำงานแล้วถูกรถชนปัง! หรือโดนประตูลิฟท์หนีบ เราจะทำยังไงล่ะ? ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องมีประกันสังคมไว้ก่อน เพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณครับ ไม่ว่าจะบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ผู้ประกันตน

The post กรณีบาดเจ็บขณะทำงาน กองทุนเงินทดแทนช่วยจ่ายค่ารักษายังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ไม่ว่าจะทำอาชีพไหน ก็ย่อมเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานได้เสมอ แม้กระทั่งพนักงานออฟฟิศที่ดูเหมือนจะเซฟโซน แต่ถ้าวันนึงจู่ๆ คุณรีบไปทำงานแล้วถูกรถชนปัง! หรือโดนประตูลิฟท์หนีบ เราจะทำยังไงล่ะ? ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องมีประกันสังคมไว้ก่อน เพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณครับ ไม่ว่าจะบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ผู้ประกันตนจะต้องได้รับผลประโยชน์จากการทำงานด้วย ว่าแล้วกองทุนเงินทดแทนคืออะไร แล้วจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลยังไงบ้าง ลองเช็กกองทุนเงินทดแทน 2563 กันเลย!

สิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเงินทดแทน

กองทุนเงินทดแทน
หลายคนอาจยังสงสัยว่า กองทุนเงินทดแทนคืออะไร เข้าใจง่ายนิดเดียวครับ! มันก็คือ กองทุนที่อยู่ภายใต้การดูแลของประกันสังคม  เพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงินชดเชยกรณีเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย เสียชีวิตหรือสูญหายจากการทำงานโดยเฉพาะ  ซึ่งกองทุนเงินทดแทนจะเก็บเงินสบทบจากนายจ้างเพียงฝ่ายเดียว เราก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บจากการทำงานได้ตามกฎหมาย แล้วแต่กรณีดังนี้ครับ
1) หากลูกจ้างประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน เบิกค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเงินทดแทน ได้ไม่เกิน 50,000 บาท 
2) กรณีค่ารักษาพยาบาลเกิน 50,000 บาท ก็ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงเพิ่มอีกไม่เกิน 100,000 บาท แต่จะต้องมีเงื่อนไขกำหนด ดังนี้

  • บาดเจ็บอย่างรุนแรงของอวัยวะภายใน และต้องผ่าตัดทันที
  • บาดเจ็บอย่างรุนแรงของกระดูกหลายแห่ง และต้องผ่าตัดทันที
  • บาดเจ็บอย่างรุนแรงของศีรษะ และต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ
  • บาดเจ็บอย่างรุนแรงของกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือรากประสาท
  • ประสบภาวะที่ต้องผ่าตัดต่ออวัยวะที่ยุ่งยาก ซึ่งต้องใช้วิธีจุลศัลยกรรม
  • ประสบอุบัติเหตุจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ความร้อน ความเย็น สารเคมี รังสี ไฟฟ้าหรือระเบิด จนถึงขั้นสูญเสียผิวหนังลึกถึงหนังแท้ตั้งแต่ร้อยละ 25 ของพื้นที่ผิวของร่างกาย
  • ประสบอุบัติเหตุอันตรายหรือเจ็บป่วยอย่างอื่นรุนแรงหรือเรื้อรัง

3) ถ้าค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายไม่เพียงพอข้างต้น ให้นายจ้างจ่ายเพิ่มเท่าที่จ่ายจริงอีก โดยรวมต้องข้อ 1 และ 2 ต้องไม่เกิน 300,000 บาท แต่ต้องเข้าเกณฑ์ที่กำหนดด้วย เช่น เป็นผู้ป่วยหนักที่พักรักษาตัว หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น
4) แต่กรณีค่ารักษาพยาบาลไม่เพียงพออีก ก็ให้นายจ้างจ่ายตามจริง แต่รวมกันแล้วทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาท
5) หากค่ารักษาพยาบาลทุกกรณีไม่เพียงพอ ให้นายจ้างจ่ายเพิ่มขึ้นอีก โดยรวมทุกข้อต้องไม่เกิน 1,000,000 บาท ยกเว้นกรณีลูกจ้างเข้ารักษาในสถาพยาบาลของรัฐตั้งแต่แรกจนสิ้นสุดการรักษา ให้นายจ้างจ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 2,000,000 บาท
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยระหว่างทำงาน เราจะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งหมดไม่เกิน 2,000,000 บาท โดยกองทุนเงินทดแทนจะต่างกับประกันสังคมนะ เพราะกองทุนทดแทนจะดูแลกรณีบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยจาการทำงานเท่านั้น แต่สิทธิประกันสังคมจะดูแลค่ารักษาที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน แยกกันคนละส่วนครับ!!

แล้วค่าใช้จ่ายทางแพทย์ทั่วไป กองทุนเงินทดแทนดูแลยังไง?

นอกจากค่ารักษาพยาบาลทั่วไปแล้ว เรายังได้รับสิทธิกองทุนเงินทดแทนเกี่ยวกับค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล และค่าบริการทั่วไปได้ แต่ต้องไม่เกินวันละ 1,300 บาทเท่านั้นนะ

เงื่อนไขในการรับสิทธิกองทุนเงินทดแทน

กองทุนเงินทดแทน
1) หากลูกจ้างประสบอุบัติเหตุ แล้วจำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล จะต้องอยู่ในสถานพยาบาลของกองทุนทดแทนครับ แต่ถ้ารักษาในสถานพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในเครือ ก็จะต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วค่อยมาเบิกกองทุนเงินทดแทนภายหลัง โดยไม่เกิน 90 วัน
2) ทางนายจ้างจะมีหน้าที่ส่งแบบแจ้งการประสบอุบัติเหตุ พร้อมแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่นายจ้างทราบ
ทั้งนี้ทางกองทุนเงินทดแทน 2563 ยังชดเชยรายได้ให้กับลูกจ้างเพิ่มด้วย ได้แก่ ค่ากรณีไม่สามารถทำงานได้ ค่ากรณีเสียสมรรถภาพการทำงาน ค่ากรณีทุพพลภาพ ค่ากรณีเสียชีวิต ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพอีกต่างหาก

เอกสารในการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเงินทดแทน

กองทุนเงินทดแทน

  • หลักฐานแจ้งประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือสูญหาย
  • แบบฟอร์มส่งตัวเข้ารักษาพยาบาล กรณีที่ต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาล ทั้งต้นฉบับและสำเนาครับ
  • ใบรับรองแพทย์
  • กรณีประสบอุบัติเหตุไม่ชัดเจน เช่น ถูกรถชน หรือเกิดเหตุนอกสถานที่ ให้เตรียมเอกสารลงเวลาทำงาน บันทึกประจำวันเจ้าหน้าที่ด้วย
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • กรณีเสียชีวิตหรือสูญหาย จะต้องมีหลักฐานการเสียชีวิต ใบชันสูตรศพ ใบมรณบัตร และบันทึกประจำวันตำรวจชัดเจน พร้อมหลักฐานของผู้รับผลประโยชน์

 
กองทุนเงินทดแทน
ถึงแม้กองทุนเงินทดแทนจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาระหว่างทำงาน แล้วมีค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาตัวค่อนข้างสูง เเฟรงค์ว่า เราควรทำประกันอุบัติเหตุเผื่อไว้ดีกว่า อย่างน้อยจะช่วยขยายความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าพักรักษาตัว รวมถึงการขับขี่รถหรือโดยสารรถจักรยานต์มาทำงานเราก็คุ้มครอง ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคุณแน่นอนครับ แต่เราก็อย่าลืมอ่านเงื่อนไข 10 อาชีพประกันอุบัติเหตุไม่ครอบคลุมด้วยนะ แล้วที่สำคัญต่อให้มีประกันช่วยดูแลยังไง เราก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sso.go.th
 
ประกันอุบัติเหตุ

The post กรณีบาดเจ็บขณะทำงาน กองทุนเงินทดแทนช่วยจ่ายค่ารักษายังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เช็กด่วน! ปีชง 2563 พร้อมวิธีแก้ชงตลอดปี https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%8a%e0%b8%872563-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%8a%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%b5?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25872563-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5 Fri, 10 Jan 2020 02:50:36 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10201 เผลอแป๊ปเดียว! เข้าสู่ปี 2563 กันแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่ดี แถมยังตรงกับปีชวด หรือปีหนูอีกด้วย หากพูดถึงเรื่องโหราศาสตร์ของคนจีน เขาจะเชื่อเกี่ยวกับปีชงหรือเทพเจ้าไท้ส่วยมากๆ ครับ เพราะเป็นเทพที่คุ้มครองดวงชะตาของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเงิน ค้าขาย ความรัก การเดินทาง หรือชีวิตครอบครัว ว

The post เช็กด่วน! ปีชง 2563 พร้อมวิธีแก้ชงตลอดปี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เผลอแป๊ปเดียว! เข้าสู่ปี 2563 กันแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่ดี แถมยังตรงกับปีชวด หรือปีหนูอีกด้วย หากพูดถึงเรื่องโหราศาสตร์ของคนจีน เขาจะเชื่อเกี่ยวกับปีชงหรือเทพเจ้าไท้ส่วยมากๆ ครับ เพราะเป็นเทพที่คุ้มครองดวงชะตาของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเงิน ค้าขาย ความรัก การเดินทาง หรือชีวิตครอบครัว ว่าแล้วปีชง 2563 จะมีปีไหนชงบ้าง? ต้องลองมาดูกัน! พร้อมเผยวิธีแก้ปีชง ทำบุญเสริมดวงตลอดปี

ปีชง 2563 และปีชงร่วม

วิธีแก้ปีชง
ก่อนที่เราจะหาวิธีแก้ปีชง เราควรเช็กตามปีเกิดก่อนครับ ว่ามีปีไหนชงและร่วมชงบ้าง ซึ่งเราลองเปิดตำราดวงปีชง 2563 ตามความเชื่อของคนจีนไว้แล้ว สรุปมาให้อ่าน ดังนี้
1. ปีชง 2563 (100%) คือ ปีนักษัตรมะเมีย หรือคนที่เกิดในปีม้า พ.ศ. 2473, 2485, 2497, 2509, 2521, 2533, 2545 และ 2557 เรียกได้ว่าเป็นปีที่ได้รับผลกระทบมากสุด อาจจะต้องระวังปัญหารอบด้าน แนะนำให้คนที่เกิดปีมะเมียหมั่นทำบุญบ่อยๆ หรือลองไปไหว้องค์ไท้ส่วยเอี้ย เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตาที่ชาวจีนนับถือ เพื่อเสริมสิริมงคลชีวิต มันจะช่วยเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี
2. ปีชงร่วม 2563 ได้แก่ ปีนักษัตรชวด ปีระกา และปีเถาะ ซึ่งจะมีคำทำนายตามโหราศาสตร์จีนแตกต่างกัน ดังนี้

  • ปีชวด (ปีหนู) :นที่เกิดในพ.ศ. 2455, 2467, 2479, 2491, 2503, 2515, 2527, 2539 และ 2551 ถึงแม้จะเป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนี้ แต่ก็เป็นปีชงร่วมกันด้วยครับ ให้ระวังเรื่องของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน และการปลูกบ้านเป็นพิเศษ  ไม่ควรคิดการใหญ่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้คุณเจอกับทางตัน! หากคุณอยากให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้น ก็ลองไปทำบุญแก้ปีชงสักครั้ง จะช่วยทำให้ประสบความสำเร็จ
  • ปีระกา (ปีไก่) :นที่เกิดในพ.ศ. 2464, 2476, 2488, 2500, 2512, 2524, 2536, 2548 และ 2560 ก็เป็นอีกหนึ่งปีชงร่วมกัน มักจะได้รับผลกระทบเรื่องปัญหาสุขภาพ และครอบครัวเป็นหลัก  ดังนั้น คุณต้องดูแลสุขภาพมากขึ้น แล้วที่สำคัญให้กำลังใจครอบครัวด้วยครับ อย่างน้อยจะทำให้คุณก้าวผ่านเรื่องร้ายต่างๆ ไปได้ 
  • ปีเถาะ (ปีกระต่าย) : คนที่เกิดในพ.ศ. 2458, 2470, 2482, 2494, 2506, 2518, 2530, 2542 และ 2554 สำหรับดวงชะตาของคนที่เกิดปีเถาะ ตามฉบับความเชื่อของคนจีน จะมีทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย แต่ต้องระวังผลกระทบเคราะห์กรรม  แนะนำให้ชาวปีกระต่ายหมั่นทำบุญเข้าวัด หรือสวดมนต์เป็นประจำ อาจจะช่วยเสริมชะตาชีวิตให้ดีขึ้น

วิธีแก้ปีชง 2563 ทำบุญเสริมดวง

วิธีแก้ปีชง
หลังจากทราบว่า ปีไหนเป็นปีชงแล้ว ต่อมาเราก็ต้องหาวิธีแก้ปีชงกันด้วย เพื่อพลิกเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ส่วนใครที่ไม่ได้เกิดในปีชงหรือปีชงร่วม ก็สามารถเสริมดวงตัวเองได้นะ ลองมาดูกันครับ 
1. ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย คนจีนเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่คุ้มครองดวงชะตาของแต่ละคน หรือถ้าใครยังไม่มีแพลนสถานที่ไหว้พระปีชงที่ไหนดี ก็สามารถมาที่วัดมังกรกมลาวาสหรือวัดเล่งเน่ยยี่ได้ครับ เพราะคนส่วนใหญ่นิยมมาแก้ปีชงกันที่นี่ โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

  • เริ่มจากเช่าชุดสะเดาะเคราะห์ที่ทางวัดจัดเตรียมให้ เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต 
  • ต่อมาให้เขียนชื่อ-นามสกุล อายุ วัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิดลงในใบฝากดวงแก้ชง 
  • นำชุดฝากดวงทั้งหมด พร้อมหยิบธูป 3 ดอกไหว้อธิษฐานต่อองค์เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย
  • แล้วอธิษฐานขอบารมีองค์เทพเจ้าไท้ส่วนเอี๊ย เพื่อช่วยให้คุ้มครองดวงชะตาแคล้วคลาดจากอันตรายตลอดปี
  • หลังจากนั้นนำชุดฝากดวงปัดจากตัวเอง 12 ครั้ง (กรณีทำแทนคนอื่นไม่ต้องปัดตัว)
  • เสร็จแล้วให้นำชุดฝากดวงวางไว้หน้าองค์เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อเป็นการฝากดวงชะตาชีวิตให้ท่านคอยคุ้มครอง

 
วิธีแก้ปีชง
** ทั้งนี้แต่ละสถานที่จะไหว้ต่างกันด้วย เช่น บางที่ก็นิยมถวายดอกไม้ ผลไม้มงคล ขนมถ้วยฟู  หรือน้ำมันตะเกียง แนะนำให้ลองสอบถามทางวัด หรือป้ายแนะนำวิธีแก้ปีชงกันก่อน
2. เดินทางไปไหว้พระ 9 วัด จะเป็นวัดไหนก็ได้ โบราณเชื่อว่าถ้าเราไปทำบุญครบ 9 วัด ถือเป็นบุญกุศลครั้งใหญ่ ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของคุณ และครอบครัว
3. ทำบุญช่วยเหลือสัตว์ อันนี้สามารถทำเองได้หลายวิธีเลย เช่น การไถ่ชีวิตโค กระบือ ปล่อยนกปล่อยปลา หรือบริจาคเลือด ผลบุญจะช่วยให้คุณมีบริวาร มีคนคอยช่วยเหลือ และต่อดวงชะตาชีวิต
เอาเป็นว่า !! ใครสะดวกวัดไหนใกล้บ้าน ก็ไปทำบุญกันได้เลย อย่างน้อยบุญกุศลจะช่วยส่งเสริมชีวิตให้ดีขึ้น ยิ่งคนที่เกิดในปีชงหรือปีร่วมชง 2563 อย่าลืมหมั่นไปทำบุญกันบ่อยๆ นะ เพราะจะช่วยสะเดาะเคราะห์ตลอดทั้งปี แต่ถ้าคุณยังไม่สบายใจ เเฟรงค์ว่า ทำประกันอุบัติเหตุเผื่อไว้ก็ดีนะครับ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นอุบัติเหตุ ทางประกันจะช่วยสำรองค่าใช้จ่ายให้ก่อนตลอด 24 ชม. ไม่ต้องทุบกระปุกจ่ายเอง (กรณีในเข้าโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ) เหมาะกับคนที่มีความเสี่ยง และเป็นห่วงคนข้างหลังมากๆ อีกอย่างเราจะได้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องกังวลอีกด้วย
 
ประกันอุบัติเหตุ

The post เช็กด่วน! ปีชง 2563 พร้อมวิธีแก้ชงตลอดปี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีหกล้มขณะเดินทาง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%90%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b8%b5%e0%b8%ab%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%2590%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2593%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1 Wed, 25 Dec 2019 08:00:04 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10066 ใกล้เข้าช่วงเทศกาลวันหยุดยาวแล้ว เพื่อนๆ คงเเพลนไปเที่ยวกันใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าจะสนุกทั้งที เราก็อย่าลืมเรื่องของความปลอดภัยกันด้วยนะครับ เพราะอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ วันนี้เพนกวินเเฟรงค์เลยอยากจะนำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาฝากทุกคนก่อน อย่างเช่น กรณีหกล้มที่พบเจอกันบ่อย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาระหว

The post วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีหกล้มขณะเดินทาง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ใกล้เข้าช่วงเทศกาลวันหยุดยาวแล้ว เพื่อนๆ คงเเพลนไปเที่ยวกันใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าจะสนุกทั้งที เราก็อย่าลืมเรื่องของความปลอดภัยกันด้วยนะครับ เพราะอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ วันนี้เพนกวินเเฟรงค์เลยอยากจะนำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาฝากทุกคนก่อน อย่างเช่น กรณีหกล้มที่พบเจอกันบ่อย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาระหว่างเดินทาง เพื่อนๆ จะได้รู้วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้องด้วยล่ะ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นกรณีหกล้ม

เวลาเดินทางไปเที่ยวไหน มาไหน เรามักจะซุ่มซ่ามอยู่ตลอดเวลา บ้างก็เดินสะดุด หกล้ม ตกขั้นบันได หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราต้องรีบปฐมพยาบาลโดยด่วน อย่าปล่อยทิ้งไว้นะครับ เพราะถ้าแผลเกิดถลอกแล้วคุณไม่รีบทำการรักษา ก็อาจจะทำให้แผลเปิด หรือเกิดการติดเชื้อได้ เพื่อความปลอดภัย แบบหายห่วง! เพื่อนๆ ลองทำตามคำแนะนำที่เพนกวิน Frank บอกก่อน!

1. บาดแผลฟกช้ำ

ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เป็นอาการของการถูกกระแทก ไม่มีบาดแผลฉีกขาด หรือเลือดออกให้เห็นจากภายนอก แต่จะมีลักษณะเป็นรอยช้ำบวม หรือที่เราเห็นเป็นสีเขียวอมสีม่วงนั่นเอง ซึ่งมาจากการฉีกขาดของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง และหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง สำหรับกรณีบาดแผลฟกช้ำให้เราลองวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน ดังนี้

  • นำผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบรอบๆ บริเวณบาดเเผล หรือสามารถใช้ผ้าห่อน้ำเเข็งมาประคบได้เหมือนกัน เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • หากบาดแผลเกิดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว เช่น ข้อมือ ข้อเท้า และข้อศอก ควรใช้ผ้าพันแผลชนิดยืดพันไปที่แผลฟกช้ำ จะช่วยลดแรงกดทับ หรือแรงเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี 

หลังจากนั้นก็อย่าลืมหายาทาแก้เคล็ด แก้ฟกช้ำกันด้วยนะครับ จะช่วยให้ลดอาการบวมได้เร็วขึ้น หรือควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเช็กอาการเบื้องต้น ว่าบาดแผลรุนแรงพอที่ทำให้ร่างกายภายในบาดเจ็บหรือไม่

2. บาดเเผลถลอก

ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เวลาเราเดินสะดุดจนหกล้ม อาจจะทำให้ผิวหนังชั้นนอกของเราไปขีดข่วน ทำให้เกิดแผลถลอกตามมา โดยจะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อย หากไม่รีบทำการรักษาก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และแผลติดเชื้อได้ เราจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้พร้อม เพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตามนี้

  • ล้างบาดแผลให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือเปล่าที่สะอาด โดยค่อยๆ เปิดน้ำให้ไหลผ่านแผลอย่างช้าๆ
  • ใช้สำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดบริเวณรอบๆ บาดเเผล ไม่แนะนำให้เช็ดลงบาดแผลโดยตรง เพราะจะทำให้บาดแผลเกิดการระคายเคืองได้
  • แล้วค่อยใช้สำลีชุบไอโอดีน หรือยาทาแผลสด หลังจากนั้นหาผ้าก๊อซสะอาดปิดแผล เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากการสัมผัส
  • กรณีที่แผลยังไม่หายดี ก็ต้องทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง หรือควรไปพบแพทย์ทันที 

ข้อควรระวัง: อย่าให้แผลเปียกน้ำ ไม่ควรแกะหรือเกาบาดแผล เพราะอาจจะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม

3. บาดแผลฉีกขาด

ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
กรณีที่เราล้มลงพื้นอย่างแรง อาจส่งผลให้ผิวหนังชั้นนอกเกิดอาการฉีกขาดได้ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแผลตัดลึกและมีผิวหนังฉีกขาด และเลือดไหลออกมาเห็นได้ชัด เราต้องรีบทำการปฐมพยาบาลทันที โดยจะใกล้เคียงกับวิธีปฐมพยาบาลกรณีมีดบาดเลือดไหลไม่หยุดเลยครับ 

  • รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดรอบๆ บาดแผล เราควรล้างให้สะอาดความระมัดระวัง แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดจนกว่าจะแห้ง
  • ใช้ครีมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย หรือไอโอดีน ทาบริเวณบาดเเผล 
  • ปิดพลาสเตอร์ หรือใช้ผ้ากอซพันแผลให้มิดชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ต้องเปลี่ยนผ้าพันแพลต่อเนื่อง และระวังอย่าให้เปียกน้ำ

** ทั้งนี้ถ้าเลือดไหลไม่หยุดทำไงก็ยังไม่หาย แสดงว่าบาดแผลอาจจะโดนหลอดเลือดแดง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ระหว่างทางก็ควรหาผ้าสะอาดมาปิดแผลที่กำลังเลือดไหลด้วย

4. บาดแผลกระดูกหัก

ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สำหรับเคสนี้จะต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากขณะที่เราหกล้มอาจทำให้กระดูกเคลื่อนตัวออกจากกัน เช่น ขาส่วนบน กระดูกสันหลัง ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด บวมช้ำ หรือเคลื่อนไหวไม่ได้ ดังนั้น เราจะต้องศึกษาวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กันดีก่อน

  • วางอวัยวะที่กระดูกหักลงบนแผ่นไม้ หรือหาหนังสือหนาๆ มาเป็นตัวช่วย
  • ใช้ผ้าเย็นหรือถุงใส่น้ำแข็งประคบ เพื่อลดอาการเจ็บปวด
  • นำผ้าพันแผลพันรอบๆ บริเวณที่กระดูกหัก จะช่วยไม่ให้บาดแผลเคลื่อนไหว
  • เคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวังและถูกต้อง อันนี้สำคัญมากๆ นะครับ หากเราไม่รู้วิธีเคลื่อนย้ายก็ควรรอจนกว่ารถโรงพยาบาลจะมาถึง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ข้อควรระวัง : หากคุณจำเป็นจริงๆ ต้องถอดเสื้อผ้าออก ควรหากรรไกรตัดตามตะเข็บดีกว่า อย่าฝืนเคลื่อนไหวบริเวณที่กระดูกหักเด็ดขาด!! กรณีที่ปวดมากๆ แล้วต้องรอรถพยาบาลนานเกิน 1 ชั่งโมง สามารถรับประทานยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะจะไม่เหมาะกับการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน
ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้นนะครับ ทางที่ดีเราควรพบแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบด้วยว่า เรามีบาดแผลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้ามีเราจะได้รักษาอย่างถูกวิธี หรือใครที่ยังกังวลเรื่องอุบัติเหตไม่คาดคิด ก็สามารถซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลให้ช่วยคุ้มครองคุณได้นะ ไม่ว่าจะบาดเจ็บกรณีหกล้ม เดินสะดุด หรือตกบันได จนเป็นเหตุให้แผลถลอก หรือกระดูกหักประกันอุบัติเหตุก็ช่วยดูแล อีกทั้งยังรักษาในโรงพยาบาลกว่า 400 แห่ง แบบไม่ต้องสำรองจ่ายด้วย มีแผนประกันให้เลือกตามที่ต้องการเลย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณแน่นอน 
แต่อย่าลืมอ่านเงื่อนไขประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) คุ้มครองและไม่คุ้มครองอะไรด้วยนะ
ขอบคุณข้อมูล

  • pobpad.com
  • thaitravelclinic.com

 
ซื้อประกันอุบัติเหตุ

The post วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีหกล้มขณะเดินทาง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>