ทำไมต้องไปงาน Motor Show 2024 ?

อัปเดตเทรนด์รถครั้งยิ่งใหญ่ที่มัดรวมมาให้แล้ว! พบกับรถใหม่ล่าสุดจากค่ายรถชั้นนำ เปิดตัวรถใหม่มากมาย เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์พลังงานทางเลือก รถไฮบริด มอเตอร์โซค์ บิ๊กไบค์ พร้อมสัมผัสเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่มากกว่าแค่รถใหม่ ได้พบกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) หรือระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) ตื่นตาตื่นใจแน่นอน

มีโปรโมชันสุดพิเศษ! จากค่ายรถต่างๆ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกิจกรรมสนุกๆ ภายในงาน Motor Show 2024 เพื่อลุ้นรับรางวัลพิเศษ พร้อมของแถมที่ร่วมรายการมากมาย

แบรนด์รถยนต์ ในงาน Motor Show 2024

ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 มีรถหลายรุ่นให้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็น Aion, Audi, Bentley, BMW, BYD, Changan, Ford, GWM, Honda, Hyundai, Honri, Isuzu, Jeep, KIA, Lexus, Lotus, Maserati, Mazda, Mercedes-Benz, MG, MINI, Mitsubishi, Neta, Nissan, Peugeot, Pocco, Porsche, Rolls-Royce, Suzuki, Toyota, Vinfast, Volvo, Xpeng และ Zeekr

นอกจากนี้ยังมีแสดงรถยนต์ไฟฟ้าด้วย เช่น New GWM ORA Good Ca, ORA 07, Volvo EX30, AION Y Plus, BYD-Dolphin, BYD Seal Premium, Tesla Model Y Rear-Wheel Drive, BMW iX2 xDrive30 M Sport, NETA V II และรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ สามารถเข้ามาทดลองชมได้ที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 - 7 เมษายน 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่งาน Motor Show 2024

พิเศษไปกว่านั้น! มีงานแสดงรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย เช่น New GWM ORA Good Cat, ORA Good Cat 07, Volvo EX30, AION Y Plus, BYD-Dolphin, BYD Seal Premium, Tesla Model Y Rear-Wheel Drive, BMW iX2 xDrive30 M Sport, NETA V II และรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ หากใครกำลังเล็งรุ่นไหนอยู่ เข้ามาเลือกชมกันก่อนได้

Motor Show 2024 เหมาะกับใคร

มอเตอร์โชว์ 2024 เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหารถใหม่ ในงานจะมีรถจากค่ายรถชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมาจัดแสดงครบครัน ให้เปรียบเทียบรุ่น ราคา ฟีเจอร์ ได้อย่างสะดวก รวมถึงโปรโมชันพิเศษจากค่ายรถต่างๆ สามารถรับสิทธิพิเศษมากมายได้ก่อนใคร

วิธีเดินทางไปงาน Motor show 2024

• รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีหมอชิต แล้วต่อรถแท็กซี่ รถสองแถวสาย 1015 หรือรถตู้สายสวนจตุจักร – เมืองทองธานี
• รถไฟฟ้า MRT ลงสถานีหลักสี่ ต่อรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารประจำทาง สาย 52, 150 และ 356 มาลงที่หน้าอิมแพคฯ
• รถเมย์ สาย 52, 150, 356, 504, 510, 538

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Bangkok International Motor Show หรือบนเว็บไซต์ https://www.motorshow.in.th/ 

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่ bolttech.co.th

หลังจากซื้อรถใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 อย่าลืมเตรียมพร้อมซื้อประกันรถยนต์ แนะนำ ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งรถสูญหายจากการโจรกรรม รถน้ำท่วม รถไฟไหม้ และความคุ้มครองอื่นๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ อุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม ว่าแล้วมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ภายในงาน Motor Show 2024 งานแสดงยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขอให้ทุกท่านสนุกและได้จับจองรถที่ถูกใจกันด้วยนะ

หมายเหตุ: ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากช่องทาง official ของงานมอเตอร์โชว์ 2024

The post งานมอเตอร์โชว์ 2024 รถใหม่ที่น่าจับจอง! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

• เป็นมอไซค์บิ๊กไบค์ตัวแรง 500 ซีซี ขึ้นไป
• เลือกมาทุกประเภท ทั้งทัวริ่ง ครูซ สปอร์ต
• ราคาเริ่มตั้งแต่ 3 แสน น่าซื้อ

1. Honda Africa Twin

เริ่มกันที่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จากแบรนด์ฮอนด้าที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากสุด ๆ ในงานมอเตอร์โชว์ 2020 อย่าง Africa Twin อาฟริกา ทวิน บิ๊กไบค์แนวทัวริ่งคันงามตัวนี้ก่อนเลยครับ โดยฮอนด้า อาฟริกา ทวิน มาพร้อมดีไซน์แนวมอไซค์แรลลี่ดุดันจัดเต็ม ตัวเฟรมดีไซน์ใหม่น้ำหนักเบาขึ้น ที่ใส่เครื่องยนต์ตัวใหญ่ขนาด 1100 ซีซี แบบ Parallel Twin พร้อมโหมดการขับขี่ 6 แบบ เสริมความมั่นใจด้วยระบบ HSTC ป้องกันรถลื่นไถลขณะขับขี่ พร้อมระบบเบรก ABS เร็วแรงแและมั่นใจ แสดงผลด้วยหน้าจอสัมผัส TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่โชว์ข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดความเร็ว แผนที่ และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปในสาย Bigbike เลยครับ
ราคา 559,000 บาท

2. Triumph TIGER 900 Rally Pro

อ๊ะๆ ใครทำผ้าเช็ดหน้าตกแถวนี้นะ เพราะบิ๊กไบค์คันที่สองที่แฟรงค์จะพาทุกคนไปดูก็คือ TIGER 900 Rally Pro บิ๊กไบค์จากค่าย Triumph ที่สายแอดเวนเจอร์ไบค์ใจออฟโรดต้องชอบแน่นอน โดยไทรอัมป์รุ่นออลนิวนี้ มาพร้อมแชสซีและเฟรมโมดูลาร์แบบใหม่ ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม เพิ่มเติมคือเครื่องยนต์ขนาด 888 ซีซี 3 สูบ สูบแถวเรียงแบบ DOHC 12 วาล์ว แถมยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย เช่น โหมดการขับขี่ทั้ง 6 โหมด ช่วยให้นักบิดพิชิตทุกเส้นทาง ได้แก่ Rain, Road, Sport, Rider, Off-Road, และในรุ่น Pro จะมีโหมด Off-Road Pro ควิกชิฟเตอร์ 2 ทาง เพิ่มขึ้นมาด้วย แถมยังปลอดภัยด้วย ระบบเบรก Cornering ABS และแทร็คชั่นคอนโทรลที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดแรงเฉื่อย ช่วยให้การเบรกแต่ละครั้งปลอดภัยแบบเหนียวแน่นหนึบ นอกจากนั้นยังมี หน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่บอกสถานะการขับขี่ เรือนไมล์ ความเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธได้ดว้ย แฟนๆ ไทรอัมป์ ไม่ควรพลาด แต่ถ้าใครเป็นแฟนไทรอัมป์คิงดอม ต้องรีบเก็บผ้าเช็ดหน้านะครับ (เกี่ยวกันไหมนิ)
ราคา 659,00 บาท

3. Honda Goldwing

Honda Goldwing คันนี้ ถือเพรชยอดมงกุฏในวงการมอไซค์บิ๊กไบค์เลยครับ เพราะนอกจากความหรูหราหมาเห่าด้านภายนอก ความใหญ่ ความเท่ของตัวรถแล้ว สนนราคาของบิ๊กไบค์คันนี้ยังสูงไปได้ถึง 1,340,000 บาท เรียกได้ว่าถอยเก๋งได้คันนึงเต็มๆ เลย
ที่ราคาสูงแบบนี้ก็มีเหตุผลนะครับ เพราะ Honda Goldwing ตัวนี้คือสุดยอดของมอไซค์บิ๊กไบค์สายครูซซิ่งของฮอนด้าเขาแล้วครับ จัดเต็มตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่ปราดเปรียวหรูหรา ขับขี่คลอง โดยในรุ่นใหม่ 2020 นี้ก็มีได้ทำการจูนจุดศูนย์ถ่วงใหม่ ทำให้เบาะขยับมาด้านหน้ามากยิ่งขึ้น ทำให้นั่งสบาย นั่งนานๆ ก็ไม่เมื่อย ส่วนเครื่องยนต์มีขนาด 1,833 ซีซี 4 วาลว์ต่อ 1 ลูกสูบ ขับเคลื่อนด้วยระบบบบเกียร์ Dual-Clutch Transmission (DCT) ความเร็ว 7 สปีด ซึ่งทางฮอนด้าเขาเคลมว่านี่คือระบบเกียร์ที่ดี่ที่สุดของฮอนด้าเขาเลยครับ
นอกจากสมรรถภาพที่สุดยอด ดีไซน์ที่สุดหรู เรื่องของเทคโนโลยี ทางฮอนด้า โกลด์วิงก็ไม่กั๊กครับ จัดมาให้ทั้งหน้าจอ TFT ขนาดเจ็ดนิ้ว เชื่อมต่อกับแอพลิเคชั่นความบันเทิง พร้อม Navigation Map หรือแผนที่นำทางเวอร์ชั่นล่าสุด จะขึ้นเหนือลงใต้ ขับไปไหนก็บ่หยั่น เรียกได้ว่าแม้จะแพง แต่สิ่งที่ได้รับรองว่าคุ้มค่าครับ
ราคา 1,297,560 บาท

4. Ducati Panigale V4

ถ้าพูดถึงบิ๊กไบค์ จะไม่มีรถจาก Ducati หรือ ดูคาติ ก็คงจะยังไงอยู่นะครับ และรถบิ๊กไบค์ที่แฟรงค์อยากนำเสนอในวันนี้คือ Ducati Panigale V4 บิ๊กไบค์รุ่นเรือธง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,103 ซีซี ประกอบด้วย Front Frame ด้ เฟรมแบบใหม่ที่ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มความเพรียวลมให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น พร้อมดีไซน์ใหม่แทบยกคัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายยิ่งขึ้น ขับขี่มั่นใจไม่เหนื่อย เช่น การเพิ่มปีกคาร์บอนไฟเบอร์ และการปรับแฟริ่งด้านข้าง ซึ่งทางดูคาติ เคลมว่าสามารถเพิ่มแรงกดได้ถึง 30 กก. เมื่อขับในความเร็ว 270 กม./ชั่วโมง หมดปัญหารถส่ายได้เลย
นอกจากการออกแบบภายนอกแล้ว ดูคาติยังยกเครื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในใหม่ ทั้งประมวลผล IMU 6 แกน ที่ทำงานร่วมกับ Ducati Traction Control (DTC) EVO 2 รวมถึง Ducati Quick Shift up/down (DQS) EVO 2 ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นจากรุ่นก่อนถึงหลายเท่า ใครชอบบิ๊กไบค์สายสปอร์ตไม่ควรพลาด
ราคา 969,000 บาท

5. Kawasaki Versys 650

มาถึงแบรนด์ขวัญใจไบค์เกอร์ไทยแลนด์ กับ คาวาซากิ โดยรถรุ่นที่แฟรงค์นำมาเสนอในวันนี้ ก็คือ Kawasaki Versys 650 บิ๊กไบค์สไตล์ทัวริ่งแอดเวนเจอร์แนวดุดันแต่งบมุ้งมิ้ง ซิ่งได้พร้อมมีเงินเหลือ ภายนอกมาพร้อมดีไซน์แนวสปอร์ตเน้นเหลี่ยมมนเพิ่มความเข้ม มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 650 ซีซี 6 เกียร์ แบบ Return ตอบสนองเร็ว พร้อมความสามารถในการปรับตั้งค่าตามสภาพถนน ไม่ว่าจะเรียบ ขรุขระ หลุม บ่อ เนิน Kawasaki Versys 650 คันนี้ เอาอยู่ทุกสถานการณ์เลยครับ
ราคา 326,000 บาท
และนี่ก็คือ 5 อันดับรถบิ๊กไบค์น่าสนใจที่แฟรงค์นำมาเสนอให้ชาวสองล้อคันใหญ่ได้เก็บไว้เป็นตัวเลือก ถึงแม้มอไซค์บิ๊กไบค์แต่ละคันจะถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ใช้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจแล้ว แต่เราก็ต้องมีประกันมอไซค์ไว้คุ้มครองยามขับขี่ด้วยนะครับ หรือจะให้มั่นใจสองต่อ ก็ต้องมี ประกันอุบัติเหตุไว้ดูแลค่ารักษาพยาบาลด้วยนะ จะได้ขับขี่ถึงไหนถึงกัน อุ่นใจสองต่อกันไปเลย

The post 5 BigBike น่าสนใจในปี 2020 ราคาดี มีเงินต้องโดน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1.  แยกทางเข้าออก และสแกน ไทยชนะ ทุกครั้ง

เริ่มแรกก่อนเข้างาน งานมอเตอร์โชว์ปี 2020 ครั้งนี้มีการแบ่ง โซนเข้า ออก แบบชัดเจน จากเดิมที่เข้าออกประตูเดียวกันได้ โดยประตูทางเข้าจะมีเครื่องตรวจจับอุณหภูมิร่างกาย ถ้าใครมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสจะถูกห้ามเข้างาน นอกจากนั้น ผู้เข้าชมงานต้องมีการสแกนแอป ไทยชนะ เพื่อเข้างาน และเมื่อออกก็ต้องเช็กเอาท์อย่างเคร่งครัด เวลาเกิดเหตุการอะไรจะได้ตามตัวได้ครับ

2. ทุกบูธจะมีสายกั้น

เมื่อเข้ามาถึง สิ่งแรกที่เห็อย่างชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงก็คือ ทุกบูธจะมีการตั้งสายกั้นรอบบูธ จากเดิม ที่เราสามารถเดินเข้าชมรถจากตรงไหนก็ได้ เปลี่ยนมาเป็นต้องเดินเข้า ออก ในทางที่บูธกำหนดไว้เท่านั้น ที่ทำแบบนี้ ก็เพื่อกำจัดผู้เข้าชมบูธให้อยู่ในมาตราการเว้นระยะห่างทางสังคมนั่นเองครับ

3. สแกนก่อนเข้าบูธ “ทุกครั้ง”

เมื่อถึงทางเข้าบูธ ก็ใช่ว่าเราจะเข้าไปชมได้เลยนะครับ เพราะทุกบูธจะมีการตั้ง QR code สำหรับสแกนเข้าบูธอยู่ คือสแกนเข้างานแล้ว ก็ต้องมาสแกนเข้าบูธอีกรอบนะครับ 

4. พริตตี้ with เฟสชิลด์

อันนี้สร้างความฮือฮาได้มากเลยครับ เพราะสีสันในงานมอเตอร์โชว์ที่หนุ่มๆ หลายคนหมายปอง อย่าง “นางฟ้าหน้ารถ” หรือ "พริตตี้" ที่นอกจาก ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันอย่่าง “เฟสชิลด์” เหมาะกับยุคโควิดจริงๆ

5. รถผ่านการฆ่าเชื้อ

ส่วนรถทุกคัน นอกจากจะมีการแปะสเปคชีตที่บอกรายละเอียดของรถแล้วจะมีการติดสติกเกอร์เพื่อให้มั่นใจว่ามีการล้างรถค่าเชื้อเป็นประจำด้วย 

6. รักษาระยะห่าง

สำหรับบูธไหนที่ได้รับความนิยม คนอยากเข้าเยี่ยมชมมากๆ ก็ต้องรอต่อคิวนะครับ โดยแต่ละบูธจะมีการจัดคิวแบบเว้นระยะห่างไว้ด้วย ซึ่งแอบถามมา เขาบอกว่าจะมีกำจัดผู้เข้าชมบูธด้วย เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถดูรถได้โดยยังเว้นระยะห่างทางสังคมอยู่

และนี่ก็คือการเดินเที่ยวชมงานมอเตอร์โชว์แบบนิว โนมอล ในห้วงเวลาที่มีการระบาดของโรคโควิด - 19 แบบนี้ แฟรงค์ก็ขอให้ทุกคนเที่ยวชมงานอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ และถ้าอย่างอุ่นใจหายห่วง ก็อย่าลืมทำประกันสุขภาพ และ ประกันโคโรน่าไว้ดูแลนะครับ ถ้าดูแลสุขภาพคนแล้ว อย่าดูแลสุขภาพรถก็อย่าลืม "ประกันรถยนต์" ของแฟรงค์นะ เบี้ยดี คุ้มครองเยี่ยม ทักมาเช็กเบี้ยเลย

The post เดินชมงาน มอเตอร์ โชว์ 2020 ยุคโควิดแบบ New-Normal appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. เช็กดอกยางให้มั่นใจ

การควบคุมรถให้เกาะถนนแบบเหนียว แน่น หนึบนั้น ดอกยางนั้นสำคัญมากครับ ยิ่งในวันที่ถนนลื่นจากน้ำฝนด้วยแล้ว ยิ่งต้องดูให้มั่นใจว่าดอกยางบนยางของเรานั้นชัดเจน พร้อมเกาะถนน วิธีเช็กก็คือ ดูให้ร่องดอกยางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 3 - 4 มิลลิเมตร ง่ายๆ ก็คือลองใช้นิ้วก้อยวัด ถ้าลึกถึงครึ่งข้อนิ้วก้อยก็ถือว่าโอเคครับ เทคนิคเล็กน้อย คือควรลดลมยางลงประมาณ 1-2 ปอนด์ เพื่อเพิ่มช่วยการยึดเกาะถนนให้มากขึ้น

2. ระบบเบรกต้องพร้อม

แน่นอนว่าในภาวะถนนลื่น ระบบเบรกต้องทำงานมากกว่าปกติ ดังนั้นก่อนจะขับขี่มอไซค์ในวันฝนตก แฟรงค์แนะนำให้ตรวจเช็กระบบเบรกในมอไซค์ของเราให้ทำงานเต็มร้อย ทั้ง ผ้าเบรก น้ำมันเบรก สายเบรก เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกทั้งหมดพร้อมใช้งาน เบรกแล้วหยุดทันที ไม่มีดีเลย์ สั่งหยุดเป็นหยุด แบบส้มหยุดเลยนะครับ!

3. ระบบไฟก็สำคัญ

ในวันฝนตก นอกจากถนนลื่นจากน้ำฝนแล้ว ฝนยังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่น้อยลงด้วย ควรมั่นใจว่า ระบบไฟ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยวในมอไซค์ของเราทำงานเต็มร้อย ที่สำคัญ แฟรงค์แนะนำว่า ห้ามใช้ไฟสูงนะครับ เพราะไฟสูงจะไปสะท้อนกับเม็ดฝนและน้ำที่ขังอยู่ จนฟุ้งและทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง ควรใช้ไฟต่ำในการขับขี่แทนนะครับ เพราะจะทำให้รถที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถเห็นรถของเราชัดเจนขึ้น

4. ลดความเร็ว เผื่อระยะเบรก

แน่นอนว่าถนนลื่นแบบนี้ ย่อมทำให้รถของเราลื่นไถลได้มากขึ้น ดังนั้น เราควรลดความเร็วขณะขับมอไซค์ลง นอกจากนั้น ยังควรเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าและหลังให้มากขึ้นด้วยนะครับ

5. ถ้าน้ำท่วมสูง ห้ามดับเครื่อง

เป็นอันรู้กันว่า ประเทศไทย ยิ่งกรุงเทพมหานครนั้น ฝนตกชั่วโมงเดียวก็มีน้ำท่วมขังสูงซะแล้ว ซึ่งปัญหาที่หลายคนพบเจอ น้ำเข้าท่อจนเครื่องดับ วิธีแก้ก็คือ ห้ามดับเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด ให้เราใช้เกียร์ต่ำแทน และรักษาความเร็วให้คงที่ตอนลุยน้ำ เพื่อให้มีแรงดันจากท่อไอเสียดันน้ำออก แต่ถ้าน้ำมันท่วมขังสูงเกิน 30 เซนติเมตร แนะนำว่าอย่าลุยดีกว่าครับ

6. มีประกันให้พร้อม

นอกจากจะเตรียมตัว เตรียมรถมอไซค์ฝั่งเราให้พร้อมแล้ว ก็อย่ามองข้าม ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ด้วยนะครับ เพราะแม้เราจะเตรียมพร้อม ระมัดระวังอย่างเต็มที่ในการขับรถมอไซค์ลุยฝนแล้ว เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเพื่อนร่วมถนนของเราระมัดระวังดีเหมือนกับเรา ขับอยู่ดีๆ อาจเจอรถคันอื่นไถลมาชนก็เป็นได้ ดังนั้น การมีประกันภัยไว้ดูแลย่อมดีกว่าแน่นอนครับ

The post ฝนตก ถนนลื่น ขับมอไซค์ยังไงให้ปลอดภัย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

จากสถานการณ์โควิด-19 ทางกรมขนส่งทางบกได้เปิดให้ลงทะเบียน ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ 2566 ต่อภาษีรถมอเตอร์ไซค์ออนไลน์ ทำให้คุณสะดวก สบายมากขึ้น แต่สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปี สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน

มาดูขั้นตอนการต่อภาษีรถออนไลน์กันเลย

• ให้คลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
• สมาชิกใหม่ให้ลงทะเบียน เพื่อขอรับรหัสผ่าน (กรณีเคยลงทะเบียนแล้ว ให้เข้าสู่ระบบโดยกรอก รหัสประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ)

• ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ที่เมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
• กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนแล้วยื่นชำระภาษีรถออนไลน์
• กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตามพ.ร.บ. (กรณี พ.ร.บ. ที่คุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) สามารถซื้อพ.ร.บ. ได้จากระบบ หรือถ้าอยากได้พรบที่ราคาถูกใจสามารถซื้อกับเราได้เช่นกัน
• เลือกช่องทางการชำระเงินตามที่ต้องการ ได้แก่ ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก, ชำระเงินโดยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต, ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระ ณ เคาน์เตอร์ ตู้ ATM หรือ Application ของธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
• ตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลข กรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน”
• หลังจากนั้นกรมขนส่งทางบกจะจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ เช่น ใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี หรือกรมธรรม์พ.ร.บ.ที่ซื้อภายในระบบ เป็นระยะเวลาประมาณ 7-15 วันทำการ หากท่านติดขัดเรื่องเอกสาร หรือเอกสารจัดส่งล่าช้า ก็สามารถติดตามเรื่องได้ที่ โทร. 1584 

ค่าใช้จ่ายสำหรับต่อภาษีรถออนไลน์

• ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ 2566 หรือ ต่อภาษีรถมอเตอร์ไซค์ โดยจะพิจารณาการจัดเก็บภาษีรถตามความจุรถ (หน่วย: ซีซี) เป็นหลัก เช่น 600 ซีซีแรก ซีซีละ 0.50 บาท, 601 - 1,800 ซีซี ๆ ละ 1.50 บาท หรือเกิน 1,800 ซีซี ๆ ละ 4.00 บาท
• ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ รายการละ 32 บาท 
• ค่าธรรมเนียมธนาคาร (กรณีชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ หรือหักบัญชีเงินฝาก) รายการละ 20 บาท
• ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) 2% และ VAT 7% ของผลรวมยอดเงินทั้งหมด

เงื่อนไขการยื่นชำระภาษีรถออนไลน์ มีดังนี้

• สำหรับประเภทรถ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) และรถจักรยานยนต์ (รย.12)
• สำหรับประเภทรถ รย.1 รย.2 และ รย.3 อายุรถไม่เกิน 7 ปี (ถ้าอายุรถเกินให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
• รถจักรยานยนต์ อายุรถไม่เกิน 5 ปี (ถ้าอายุรถเกินให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
• รถค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี (รถค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี ให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
• ชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนสิ้นอายุภาษีได้ไม่เกิน 90 วัน
• ประเภทรถ รย.1 รย.2 และ รย.3 น้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม (ถ้าน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม ให้ดำเนินการตรวจสภาพรถและยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
• รถที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด (รถติดตั้งแก๊สให้ดำเนินการตรวจสภาพถังแก๊สตามประกาศกรมฯ และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
• รถทุกจังหวัดทะเบียน
• สถานะรถ “ปกติ” เท่านั้น
• รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี/ ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ
• รถที่ไม่ถูกอายัด (อายัดโดยระบบงานของกรมการขนส่งทางบก)

หลังจาก ต่อภาษีรถยนต์ 2566 ต่อภาษีมอเตอร์ไซค์ออนไลน์ และชำระเงินเรียบร้อย ทางกรมขนส่งทางบกจะจัดส่งเอกสารให้ตามที่อยู่ที่คุณระบุไว้ภายใน 7-15 วันทำการ  สิ่งสำคัญก่อนที่คุณจะยื่นภาษีต้องทำพ.ร.บ.ก่อน หากไม่มีพ.ร.บ. หรือพ.ร.บ.หมดอายุ จะไม่สามารถยื่นชำระภาษีรถได้ ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ที่ bolttech.co.th จ่ายปุ๊บ! รับกรมธรรม์ทันที

The post ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ 2566 ง่ายนิดเดียว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ขั้นตอนต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ 2565

• ลงทะเบียนเข้ารับการอบรม
• ชมวิดีโอการอบรม
• ยืนยันตัวตน
• ตรวจสอบผลการอบรม

1. ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมใบขับขี่

เริ่มด้วยการลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์ ผ่าน www.dlt-elearning.com เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์แล้วให้คลิกปุ่ม “ลงทะเบียนเข้ารับการอบรม” หลังจากนั้นกรอกข้อมูล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ใบอนุญาตขับรถ วันอนุญาตและวันสิ้นอายุใบอนุญาตขับรถเลือกการอบรมตามใบขับขี่รถที่ต้องการจะต่ออายุ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “ขั้นตอนต่อไป”

หมายเหตุ: ในช่องเลือกการอบรม จะต้องระบุการอบรมต่ออายุใบขับขี่ที่คุณต้องการด้วย ดังนี้

• การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถจักรยานยนต์)
• การอบรมต่อใบอนุญาตขับรถขนส่ง 
• การอบรมต่อใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ หรือTAXI, รถยนค์สามล้อสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ)

2. รับชมวิดีโอจนจบ

ต่อมาเป็นขั้นตอนการรับชมวิดีโอตามที่เลือก ระหว่างรับชมวิดีโอจะมีการสุ่มคำถามทั้งหมด 3 ครั้ง  เมื่อกดปุ่มตอบครบแล้ว ระบบจะแจ้งว่าคุณได้ตอบคำถามเรียบร้อย หลังจากนั้นรับชมวิดีโอเสร็จก็ให้คลิกปุ่ม “ขั้นตอนสุดท้าย” เพื่อเข้าสู่หน้าจอหลักที่คุณจะต้องกรอกข้อมูลยืนยัน  หากคุณรับชมวิดีไม่จบ ปิดหน้าต่างเว็บไซต์ก่อน หรือไม่ได้กรอกข้อมูลยืนยัน คุณจะต้องกลับเข้ามาลงทะเบียนต่ออายุใบขับขี่ใหม่ และรับชมวิดีโอตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นเราจะต้องชมวิดีโอให้จบก่อน!!

ระยะเวลาการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านวิดีโอ

• สำหรับรถส่วนบุคคล เช่น ต่อใบขับขี่รถยนต์ ต่อใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ใช้เวลาอบรม 1 ชั่วโมง
• สำหรับรถขนส่ง ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง
• สำหรับรถสาธารณะ ใช้เวลาอบรม 3 ชั่วโมง

ข้อจำกัดในการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์นี้

• เฉพาะผู้ที่มีใบขับขี่หมดอายุแล้วไม่เกิน 1 ปี 
• ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน
• การต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี จะต้องรับชมวิดีโอ และตอบคำถามให้ครบ
• การต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ไม่ต้องอบรมใบขับขี่

3. ยืนยันตัวตนอีกครั้ง

พอเข้าสู่หน้าจอให้กรอกข้อมูล เราก็ต้องกรอกยืนยันตัวตนอีกครั้ง โดยให้เตรียมกรอกข้อมูลเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ใบอนุญาตขับรถ เพื่อรับผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “เสร็จสิ้นการอบรม” หากทำตามเงื่อนไขทุกข้อแล้วจะปรากฎข้อความให้ “กลับไปยังหน้าแรก” เพื่อตรวจสอบสถานะการอบรมใบขับขี่ออนไลน์

4. ตรวจสอบผลการอบรมใบขับขี่

หลังจากนั้นให้ตรวจสอบผลการอบรมใบขับขี่ที่หน้าแรกของเว็บไซต์ คลิกที่ปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการอบรมออนไลน์” แล้วกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน และกรอกเลขที่ใบอนุญาตขับรถตามลำดับ จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม “ตรวจสอบสถานะ”

อบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านแล้ว ต้องทำอะไรต่อ?

เมื่อตรวจสอบสถานะการอบรมใบขับขี่ผ่านแล้ว  ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี จะต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายที่กรมขนส่งด้วยนะ เพื่อออกใบอนุญาตขับรถภายในเวลา 90 วันนับตั้งแต่วันที่ผ่านการอบรม  ทั้งนี้อย่าลืมเตรียมตัวก่อนต่อใบขับขี่กันด้วย เช่น เอกสารสำคัญ ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถยนต์ เป็นต้น ซึ่งสามารถต่ออายุใบขับขี่ได้ที่กรมขนส่งทั่วประเทศหลังจากมีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือมีประกาศเป็นอื่นจากกรมขนส่งทางบกอีกครั้ง
หมายเหตุ : การต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์เป็นเพียงลดขั้นตอนการอบรมเท่านั้น แต่เราจะต้องเข้ารับการทดสอบร่างกายเบื้องต้น ได้แก่ การทดสอบสายตา การตอบสนองของเท้า เป็นต้น และชำระค่าธรรมเนียมใบขับขี่ตามปกติ
ทั้งหมดนี้ก็คือ ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ออนไลน์ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อใบขับขี่หมดอายุ หรือต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน แถมช่วยให้ปลอดภัยในช่วงโควิด 19 ระบาดด้วย แล้วที่สำคัญคุณยังสามารถต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ ประกันรถจักรยานยนต์ ผ่านทางออนไลน์กับ Frank.co.th ได้เช่นกัน เปรียบเทียบเบี้ยได้สบายๆ ไม่ต้องออกจากบ้าน พร้อมรับประกันโดยบริษัทประกันภัยชั้นนำ และข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

The post วิธีต่อใบขับขี่ออนไลน์ ในช่วงโควิด-19 appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

“ มันก็จริงอยู่ที่ว่าการจ่าย พรบมอเตอร์ไซค์ ต้องจ่ายทุกปี ไม่ได้เคลมก็เสียเงินทิ้งเปล่า แต่คุณก็ต้องต่อ พรบ ตามกฎหมาย ”

หากอยู่ดีๆ เกิดประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำบนท้องถนน แล้วใครจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลเมื่อบาดเจ็บ ค่าชดเชยพักรักษาตัว หรือถ้าโชคร้ายเกิดสูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิตขึ้นมา ใครจะมาช่วยรับผิดชอบตรงนี้ให้ เป็นภาระให้กับคนข้างหลังแน่นอน

แล้วไม่เพียงแค่นั้น ทางกฎหมายก็บังคับให้รถรถยนต์และจักรยายนต์ทุกคัน มีป้ายภาษีติดรถ เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าชำระภาษีเช่นกัน และก่อนจะต่อภาษีรถก็ต้องต่อ พ.ร.บ. รถมอเตอร์ไซค์ก่อน จึงย้ำอีกทีว่า !!

ไม่ทำพ.ร.บ. “ไม่ได้เด็ดขาด” เนื่องจากพ.ร.บ.เป็นกฎหมายภาคบังคับที่ให้รถทุกคันทำอยู่แล้ว ถ้าใครขาดต่อ พ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ ก็จะเสียเงินค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เกิน 10,000 บาท

ถ้าไม่มี พรบ รถจักรยานยนต์ จะเป็นยังไง?

เอาเป็นว่า bolttech ขอสรุปกรณีไม่มี พรบ รถจักรยานยนต์ และไม่ต่อ พรบ รถจักรยานยนต์ จะส่งผลอย่างไรบ้าง

1. เกิดอุบัติเหตุต้องจ่ายเอง

“ไม่มีพ.ร.บ.ต้องชดเชยค่าเสียหายให้คู่กรณีเอง ยังไม่รวมทรัพย์สิน (กรณีเป็นฝ่ายผิด)”

ถึงแม้ว่าเราขับรถดีแล้ว แต่ความเสี่ยงก็เกิดขึ้นได้เสมอ หากจู่ ๆ คุณขับรถมอเตอร์ไซค์ชนแต่ดันไม่มีพ.ร.บ. คุณพระ!! เราจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คู่กรณีเองทั้งหมดเลยนะ (ไม่รวมทรัพย์สิน) และถ้าคุณไม่มีเงินจ่ายฝ่ายคู่กรณีก็สามารถขอเบิกกองทุนผู้ประสบภัยก่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาทตามจริง แล้วทางกองทุนจะไล่เบี้ยคืนจากคุณภายหลัง โดยบวกเงินเพิ่มอีก 20% คิดเป็นเงินประมาณ 18,000 บาท มีแต่เสียกับเสีย!!

2. เจ็บก็จ่ายเองอีก

“ไม่มีพ.ร.บ. ก็ต้องรักษาพยาบาลตัวเอง และผู้โดยสารในรถ”

สำหรับใครที่มี พรบ รถมอเตอร์ไซค์ อยู่แล้วก็โชคดีไป เพราะว่าพ.ร.บ.จะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ แต่สำหรับที่ พรบ มอเตอร์ไซค์หมดอายุ แล้วดันเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จนบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล คุณจะต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายค่ารักษาเอง ขอบอกเลยว่า ค่ารักษาสมัยนี้แพงไม่ใช่ย่อยนะ

3. ไม่ได้รับเงินชดเชย

“ เจ็บหนักจากอุบัติเหตุจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลก็ขาดรายได้ ”

ถ้าไม่มีพ.ร.บ. เจ็บหนักก็ขาดรายได้ ไม่ได้รับเงินชดเชยรายวันกรณีคุณต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หมายความว่าคุณต้องจ่ายค่าห้องเอง แต่ถ้าคุณมีพ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์ ก็จะช่วยจ่ายค่าชดเชยให้ 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน โดยคิดเป็นมูลค่ารวม ๆ สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท แต่ถ้าคุณไม่มี พ.ร.บ. ก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนตรงนี้ เสียดายแย่เลย!!

4. ไม่มีวงเงินดูแลหากเสียชีวิตหรือพิการ

“เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ หรือพิการก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง”

อย่างที่รู้กันดีว่า อุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ สมมติว่า นาย ก. เกิดโชคร้ายขับรถมอเตอร์ไซค์แหกโค้งจนเสียชีวิต แล้วขาดต่อพ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ เขาก็จะไม่ได้รับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือพิการ อาจจะเป็นภาระให้กับคนในครอบครัวได้

5. ถูกจับปรับแน่นอน

“หากไม่มี พ.ร.บ. รถมอเตอร์ไซค์ จะต้องจ่ายค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท”

แน่นอนถ้าคุณไม่มี พรบ รถมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว อีกทั้งโดนปรับไม่เกิน 10,000 บาท เพราะประโยชน์หลักของการทำ พ.ร.บ. หรือประกันภัยภาคบังคับเพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บขณะเกิดเหตุ ดังนั้นกฎหมายจึงบังคับให้รถทุกคันทำพ.ร.บ. ถ้าใครฝ่าฝืนกฎไม่ต่อพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ล่วงหน้า จะต้องเสียค่าปรับนั่นเอง

6. ไม่ต่อพ.ร.บ. ก็ต่อภาษีรถไม่ได้

“หากไม่มีเอกสาร พรบมอเตอร์ไซค์ เราก็ไม่สามารถต่อภาษีรถประจำปีได้ แล้วต้องเสียค่าปรับเพิ่มขึ้น”

ขอย้ำก่อนว่า พ.ร.บ.กับป้ายภาษีจะไม่เหมือนกันนะ เวลาเราจะไป “ต่อภาษีรถ” หรือที่เรียกกันว่า “ป้ายวงกลม” ต้องยื่นเรื่องขอทำพ.ร.บ.ก่อน กรณีที่เราไม่มีพ.ร.บ. หรือ พรบ หมดอายุ นั่นก็หมายความว่า เราจะไม่สามารถต่อภาษีได้

แล้วถ้าคุณ ไม่ได้ต่อภาษีรถประจำปี ต้องเสียค่าปรับ 400 - 1,000 บาท  ส่วนใครที่ต่อภาษีรถช้าก็จะต้องเสียค่าปรับอีกเดือนละ 1% อาจส่งผลให้ทะเบียนรถของคุณถูกระงับการใช้งานด้วย

อ่านเพิ่มเติม : หากป้ายวงกลมหรือป้ายภาษีติดรถสูญหายต้องทำไงดี!?

เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะ?! ถ้าเราไม่มี พรบ.รถมอเตอร์ไซค์ ก็จะไม่มีใครมาช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาล หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากนี้ถ้าเกิดโชคร้ายมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพบเห็น ก็จะต้องเสียค่าปรับอีกด้วย

ถ้าคุณสนใจ ซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อรับความคุ้มครองนอกเหนือจาก พรบ.รถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บ คุ้มครองรถชน รถหาย รถไฟไหม้ เลือกได้ตามแผนประกันที่คุณต้องการ จ่ายเงินปุ๊บ! รับความคุ้มครองทันที เคลมได้ตลอด 24 ชม.

The post พรบ มอเตอร์ไซค์ ไม่มีไม่ต่อได้ไหม?! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. Yamaha Filano

มองเผิน ๆ นึกว่าเป็นเวสป้าเลยครับ เพราะเหมือนทุกกระเบียดนิ้วเลยครับสำหรับรถมอไซค์ยามาฮ่า ฟีลาโน่ ความจิ๊ดของมอไซค์ออโตเมติกขับง่ายเหมาะกับใช้ในเมืองที่มีมาแล้วหลายรุ่น !! Frank ขอพูดถึงเฉพาะรุ่นที่มีตัวถังใกล้เคียงกับเวสป้าฝุด ๆ อย่าง New Grand Filano Hybrid 125 ซีซี 4 จังหวะ สนนราคา 57,500 บาท เห็นว่า เป็นรุ่นประหยัดน้ำมันด้วยนะ และออกตัวไม่อืดละ เพราะนำระบบไฮบริดมาใช้ให้การส่งตัวดีขึ้น โดยเฉพาะด้านในเนี๊ยะเก็บของได้เพียบเลย น่าโดนเหมือนกัน นำมาแต่งรถได้สบาย ๆ 

2. Scomadi

หากคุณมีงบประมาณเรือนแสนแต่อยากลองอย่างอื่นนอกจากเวสป้า จะไม่พูดมอไซค์ยี่ห้อนี้คงไม่ได้เลยจริง ๆ ครับกับสโคมาดิ (Scomadi) เสือดำแห่งวงการนักบิด สกู๊ตเตอร์รูปหล่อจากเกาะอังกฤษคงความคลาสสิกเกินใครมาพร้อมกับตัวถังเหล็ก 60% ตอนนี้กำลังฮิตในหมู่คนไทย มีให้เลือกเช่น Scomadi TT 125i, Scomadi TT200i, Scomadi TL 125 รุ่นที่พบบ่อย ๆ บนท้องถนนครับ ข้อดีคือเท่ ส่วนข้อด้อยอาจจะเป็นเพราะมีศูนย์ซ่อมไม่มาก ส่วนเรื่องราวอื่น ๆ ของสโคมาดิแนะนำอ่านจากพันทิปดีกว่าครับ อิอิ

• บทความที่คุณอาจจะชอบ : ย้อนยุคสุดเก๋า! 15 รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิค !!

3. Lambretta

เกริ่นแต่แรกว่าจะพาคุณรู้จักมอเตอร์ไซค์ที่หน้าตาเหมือนกับเวสป้าแบบคร่าว ๆ มาถึงแลมเบรตต้า (Lambretta) รถสกู๊ตเตอร์ในตำนานมาจากอิตาลีเริ่มต้นการผลิตคันแรกในช่วงปี ค.ศ. 1947-1948 ดีไซน์รถก็เก๋าได้ใจอยู่นะ ถึงจะเพิ่งเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2018 นี้เอง จึงไม่แปลกที่ไม่ค่อยเห็นวิ่งบนถนนเท่าไหร่นัก ถูกไบคเกอร์ไทยขนานนามให้เป็น “พี่แหลม” เพี้ยนมาจากชื่อยี่ห้อนั้นเอง

4. Honda Giorno

รถป๊อบรุ่นจิ๋ว !!! ดีไซน์เหมือนรถเวสป้า มาพร้อมกับน่าร๊ากตะมุตะมิ กับฮอนด้า จีออโน่ (Honda Giorno) 50 ซีซี 2 จังหวะ เครื่องออโต้เมติก ราคาเบา ๆ มือสองเริ่มต้นที่ 9,500 บาท!! เหมาะจะขับในหมู่บ้านนะครับ หรือจะเป็นคนหัดขับมอไซค์ใหม่ ๆ ก็ใช้ได้ น่าเสียดายครับเป็นมอไซค์ซีซีเครื่องไม่ถึง และไม่สามารถจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ได้ หมายความว่า ไม่ควรขับบนถนนใหญ่เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิปรับจับได้นะคร้าบ 

• บทความที่คุณอาจจะชอบ : พ.ร.บ.รถยนต์และจักรยานยนต์ คืออะไร? เกิดเหตุแล้วเคลม พ.ร.บ. ได้อย่างไรบ้าง?

5. Moto Parilla

https://www.instagram.com/p/BgNcRG2AU-R

รถมอไซค์สกู๊ตเตอร์พรีเมียมคลาสสิกจากอิตาลี นั่งแท่นบริหารโดยพี่รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ตั้งแต่ปี 2560 น่าจะถูกใจคนชอบแต่งนะครับ สามารถแต่งบังลม แร๊กตะแกรงหน้า ตะแกรงหลัง คิ้วกระโปรง คิ้วบังลม กันชนหน้าได้ทั้งนั้น ราคาเริ่มต้นที่ 72,000 บาท หากต้องการอ่านรีวิวการใช้งานแนะนำอ่านความเห็นจากชาวพันทิปเพิ่มเติมครับ หรือถ้ากระแสดีมีคนอ่านเยอะแฟรงค์จะเล่าเรื่องราวให้ฟังแบบเจาะลึกอีกทีนะ หากไม่เต็มอิ่มกับรีวิวมอเตอร์ไซค์แนะนำ 10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด ไม่เกิน 5 หมื่น
อ่านมาถึงตรงนี้ เราขอย้ำว่า!! เป็นบทความเล่ารายละเอียดคร่าว ๆ เท่านั้น Frank ไม่ได้มีเจตนาชักชวนหรือชี้แนะให้ซื้อแต่อย่างใดนะครับ แต่ถ้าคุณต้องการความคุ้มครองเพิ่มให้กับรถมอไซค์ใหม่ของคุณสามารถซื้อประกันมอไซค์กับ Frank นะครับ เบี้ยหลักพันคุ้มครองตลอดปี
Content by Butter Cutter

The post เปิดโผ! ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมือนกับรถเวสป้า appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

“ย้ำว่าบทความนี้ Frank.co.th หยิบยกเฉพาะเวสป้ารุ่นที่หาซื้อมือ 1 ได้นะครับ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คนที่กำลังครุ่นคิดว่าจะซื้อเวสป้าดีไหมได้ตัดสินใจง่ายขึ้น”

Vespa LX 125 ก็ถูกพูดถึงเยอะ

มีชาวเน็ตค้นหาและตั้งกระทู้ถามถึงรุ่น Vespa LX 125 เยอะเลยครับ เนื่องจากเป็นรถเวสป้าราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แม้ความแรงจะไม่มาก แต่ก็สวยบาดด้วยไฟหน้ากลม ส่วนใหญ่ Vespa LX 125 จะถูกรีวิวถามถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก เช่น มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดว่าไม่แย่ถ้าเราต้องการรถมอไซค์สำหรับขับขี่ไปทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เครื่องยนต์อาจจะออกตัวช้านิดนึง
อ้างอิงจากกระทู้หัวข้อ “สนใจที่จะออกรถ Vespa NEW LX125 I-GET ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”

ขอบคุณความเห็นจากกระทู้หมายเลข 39113553 ที่ระบุว่า

“ 125CC บวกกับความหนักของยี่ห้อนี้ จะส่งผลให้ออกตัวช้านิดนึงค่ะ นอกจากนั้นไม่เจอปัญหาอะไรนะคะ”

ดังนั้น คนที่สนใจจับจองเจ้า Vespa LX 125 ต้องยอมรับในข้อจำกัด คือ “อัตราเร่งที่เหมาะกับคนที่ขับเรื่อย ๆ ไม่เน้นเร่งรีบ” อ้างอิงจากกระทู้หมายเลข 38617734 โดยคุณ parkandwin สอบถามไว้ ดังนี้ “สอบถามอัตราเร่ง VESPA LX 125 เทียบกับ มอไซค์ 125 ตลาด” 

และมีคำตอบจากชาวเน็ตที่น่าสนใจ คือ “อัตราเร่งมาช้ากว่ารถญี่ปุ่น 125cc แบบรู้สึกได้เลย แต่ถ้ามองแค่การขับขี่ตามสภาพการจราจรทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้วล่ะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเจ้า LX125 เป็นรถที่ขับเรื่อย ๆ แล้วได้อารมณ์สุนทรีย์มาก ๆ แต่ก็มักจะรู้สึกอึดอัดเสมอในเวลาเร่งรีบครับ” โดยคุณ JTtogether  

ล่าสุด New Vespa LX 125 i-get (2019) ราคาประมาณ 87,000 บาท จัดว่าอยู่ในงบประมาณเงินแสนมีทอน (555+) และไม่ต้องกังวลครับ สูง 160 ก็ขับรุ่นนี้ได้ ขณะที่หลายความเห็นบน Pantip ยังกังวลใจปัญหาดับเบาเช่นกัน แต่ก็มีชาว Pantip การันตีว่า “ปัญหาดับเบาของเวสป้าลดลงแล้ว ตั้งแต่มีรุ่น i-get ไม่ต้องกังวลแล้ว” 

Vespa Sprint 125 หรือ 150 ก็ตัวจิ๊ด

ยอมรับว่า ผู้เขียนก็มอง ๆ รุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ ว่าจะจับจองไว้ใช้สักคัน อิอิ และต้องยอมรับว่า ก่อนซื้อเราก็ต้องหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจจากผู้ใช้จริง ฟังเสียงชาวเน็ตเพื่อพิจารณาครับ ด้วยความที่มอไซค์ Vespa Sprint มีทีเด็ด คือ ทรงปราดเปรียวเหมาะจะซอกแซกบนท้องถนนกรุงเทพมหานคร ด้วยความกว้างนับจากแฮนด์มอไซค์อยู่ที่ 69.5 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 79 เซนติเมตร ตัวเล็กก็ขับได้ครับผม โดดเด่นด้วยไฟหน้าหกเหลี่ยมสไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับเวสป้าสกู๊ตเตอร์รุ่น Sprint 
ส่วนใหญ่ชาวเน็ต Pantip มักจะนำมอเตอร์ไซค์เวสป้าระหว่าง Vespa Sprint 150CC หรือ 125CC มาเทียบกันว่า จะซื้อแบบไหนดีหนอ ? แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน เช่นกระทู้หมายเลข 37604326 ระบุว่า 
“Vespa Sprint 125 vs Sprint 150 จะซื้อ เวสป้า ช่วยแนะนำหน่อยคะ ระหว่างตัว 125 กับ ตัว 150 ตัวไหนดีกว่ากัน"

สรุปง่าย ไม่วกวน !!! ระหว่าง Sprint 125cc VS 150cc ส่วนใหญ่แนะนำว่า 

• Vespa Sprint 125 CC เหมาะกับคนที่ใช้งานทั่วไป เดินทางไม่ไกล ขับใกล้ ๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องพอเหมาะครับ หล่อ ๆ ขับเน้นสุนทรียภาพ แว่ว ๆ มาว่า ค่าบำรุงรักษาประหยัดกว่านิดหน่อย
• Vespa Sprint 150 CC เหมาะกับสายเที่ยวชอบออกทริปทางไกล อัตราเร่งขึ้นง่าย เร่งแซงดีกว่า แพงกว่านิดหน่อยประมาณ 20,000 บาท (ค่าประมาณนะครับ)

บทความที่อาจจะถูกใจ : มอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งอย่างไรให้เหมาะกับคุณ ?

Vespa GTS 150cc & 300cc ถูกรีวิวเหมือนกัน

เวสป้าที่คลาสสิกมากได้ใจคนทั่วโลก เครื่องแรงขึ้นมาอีกนิด ตัวเครื่องใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย มาพร้อมไฟหน้ากลมโตน่าร๊ากกกกที่สุด ขับไปไหนสาวก็เหลียวมองอ่ะ อิอิ กับเวสป้ารุ่น GTS ที่มีให้เลือกทั้ง 150CC และ 300CC (เราจะไม่กล่าวถึงรุ่นลิมิเตดนะครับ เดี๋ยวจะยืดยาวเกิน) ในที่นี้ขอพูดคุยถึงเรื่องราว GTS คร่าว ๆ แบบไม่เจาะลึกถึงปีผลิตนะครับ ไว้ถ้าบทความนี้ได้รับความนิยมจากชาวแฟรงค์จะหามาเขียนเพิ่ม อิอิ เพราะยังมีเรื่องราวเจาะลึกอีกมากสำหรับ GTS ปี 2017 - 2019 
กลับมาที่ประเด็ดความเห็นของชาวเน็ต Pantip พูดถึงบ่อย ๆ คือ รุ่น GTS 150cc บอดี้ใหญ่มั่นคงตอนขับทางไกล เพื่อให้เห็นภาพเรานำข้อมูลเบื้องต้นของเวสป้า GTS Super 150 i-get ABS มาแชร์กันวัดความกว้างแฮนด์มอเตอร์ไซค์ประมาณ 74 เซนติเมตร วัดความสูงล้อถึงเบาะประมาณ 80 เซนติเมตร คนที่สูงราว 160 เซนติเมตรคงต้องเขย่งขับหน่อย ๆ 
ขณะที่ Vespa GTS 300 เป็นมอเตอร์ไซค์ออโต้บอดี้ใหญ่แรงใกล้เคียงบิ๊กไบค์บางรุ่นเลยครับ เช่น Honda Rebel 300 เกียร์ 6 สปีช หรือรถมอเตอร์ไซค์สไตล์แอดแวนเจอร์ Kawasaki Versys X 300 เกียร์ 6 สปีด ทว่าต้องยอมรับนะครับว่า เกียร์ออโต้อาจจะมีอัตราเร่งที่อืดกว่าระบบเกียร์ธรรมดานิด ๆ ส่วนราคานั้นก็ไม่เบาครับ หลักแสนไม่มีทอน (555+)   

สรุปเลือก Vespa รุ่นไหนดี ?

ย้อนกลับมาตอบกันดีกว่าว่า Vespa รุ่นไหนดี Pantip แบบไหนดีหนอ Frank ขออนุญาตหยิบยกความเห็นของคุณ -zzz- ได้คอมเมนต์ในกระทู้หมายเลข 38812857 ว่า

“ขี่ Sprint 150 ABS i-get อยู่ครับ รุ่นปีใหม่ ๆ เป็น ABS หมดแล้วครับ แต่เป็นเฉพาะล้อหน้านะครับ ล้อหลังเป็นดรัมเบรคอยู่ สัมผัสก็ต้องบอกว่าเหมือนขับรถยุโรปครับ เพราะตัวถังเป็นเหล็กทั้งก้อนทำให้มีน้ำหนักมากอยู่ จะยกจะจอดในที่แคบ ๆ ลำบากหน่อย พอรถหนักมันก็กินน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดาแต่เครื่อง i-get เค้าเคลมว่าประหยัด+มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา 
ข้อดีของน้ำหนักมากก็คือเวลาขี่เร็ว ๆ รถเสถียรดี ไม่ปลิวเหมือนรถญี่ปุ่น ส่วนเรื่องเบาะ ถ้าเบาะมาตรฐานคือสีดำครับ แต่ Vespa นี่เค้าจะทำตลาดแบบ Limited Edition คือมักจะมีสีพิเศษ ออฟชั่นพิเศษออกมาเป็นช่วง ๆ (ล่าสุดคือรุ่น NOTTE EDITION คือสีดำทั้งคัน รวมถึงส่วนที่เป็นโลหะอาทิขอบข้าง กระจก ตะแกรง) และรุ่นที่ Vespa เล่นมุขนี้เป็นประจำคือ Primavera ที่บอดี้เดียวกะสปริ้นท์ต่างกันที่เป็นไฟกลม ที่เห็นเบาะแดงน่าจะรุ่น Primavera ครับ
ส่วน GTS ถ้าซื้อแนะนำรุ่น 300 cc ไปเลย (ถ้าเงินถึงอ่ะนะ) เพราะถึงแม้จะมีรุ่น 150 cc ที่บอดี้เดียวกันเปี๊ยบ แต่อย่าลืมว่าGTS อ้วนและหนักกว่า สปริ้นท์พอสมควรดังนั้นจึงจะกินน้ำมันมากกว่าสปริ้นท์ในซีซีเท่ากันแน่นอน แต่สิ่งที่ได้ก็คือเบรคABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง กะโช้คล้อหลังที่เป็นแบบคู่ GTS 150 ระบายความร้อนพัดลมระบายความร้อน ส่วน GTS 300 ระบายความร้อนด้วยน้ำครับ”
อย่างไรก็ดี นี้เป็นความเห็นของชาวพันทิปนะครับใช้เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกซื้อรถเพียงเท่านั้น 

สรุปว่า รถเวสป้าอาจจะมีน้ำหนักเยอะกว่ารถมอไซค์ทั่วไป ช่วยให้การขับขี่เสถียรกว่าไม่ปลิว แบบแน่นหนึบกว่า และถ้ามีเงินหนาซื้อ GTS 300cc ด้วยระบบระบายความร้อนที่เนียบกว่า Sprint แต่อย่าลืมนะครับว่า งบประมาณสำคัญที่สุด ซื้อรถตามงบนะครับ อย่าให้ความเท่ทำให้เราต้องอับจนนะคร๊าบ 
หรือถ้าเวสป้ายังไม่ใช่ ยังไม่โดนใจ ยังไม่อยากได้ ลองอ่านรถมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด ไม่เกิน 5 หมื่นได้ครับ 

ทั้งนี้ เราคงต้องยอมรับนะครับว่า ค่าซ่อมบำรุงรถเวสป้าอาจจะค่อนข้างสูงนิดหน่อย เพราะอะไหล่แพงกว่าใครเพื่อน ยิ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นจำต้องเปลี่ยนอะไหล่ซ่อมใหม่ หากเราไม่มีประกันมอเตอร์ไซค์ไว้ดูแล นอกจากเจ็บใจแล้วยิ่งเจ็บหนักเรื่องค่าใช้จ่ายเลยแหละ เอาเป็นว่า ได้รุ่นเวสป้าที่ใช่อย่าลืมซื้อประกันรถจักรยานยนต์ด้วยนะครับ Frank.co.th เรามีความคุ้มครองทุกชั้นตั้งแต่ ประกันมอไซค์ชั้น 1, 2+ และ 3+ ช่วยดูแลเหตุไม่คาดฝันได้ครับ เช็กเบี้ยประกันรถจักรยานยนต์ที่ใช่คุณ หรือจะโทรสอบถามเราก็ได้ครับที่โทร 02-106-5800 ยินดีเสมอ
แหล่งข้อมูล : pantip.com

Content by Butter Cutter

The post ซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี... ความเห็นชาวเน็ต Vespa รุ่นไหนดีจาก Pantip appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

การต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี ต้องทำไง ?

แน่นอนว่า ผู้ใช้รถยนต์และใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนจะต้องมีใบขับขี่ สำหรับคนที่มีใบขับขี่ 5 ปีอยู่แล้ว คุณอาจจะสงสัยว่า เอกสารการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีมีอะไรบ้าง เราจะต้องทำยังไงบ้างหากต้องการต่อใบขับขี่ให้สามารถใช้งานได้ต่อไป และไม่ถูกปรับจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามนี้

• เตรียมเอกสารต่อใบขับขี่
• เตรียมเงิน 
• เตรียมตัวเดินทางไปกรมขนส่ง
• เตรียมนั่งอบรม สอบสมรรถภาพร่างกาย ถ่ายรูป

1. เตรียมเอกสารต่อใบขับขี่ให้พร้อม

เอกสารพื้นฐานเลยครับสำหรับการทำใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี เตรียมง่าย ๆ ตามนี้

• ใบอนุญาตขับรถ 5 ปีที่กำลังจะหมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว
• บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) 
• อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เอกสารรับรองหากคุณเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ให้นำหลักฐานมาด้วย หากคุณแต่งงาน หรือหย่า มีการเปลี่ยนคำนำหน้านามในกรณีสมรสก็ต้องเตรียมมาเช่นกัน

กรณีต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี แบบไม่ขาดต่อ หรือต่อใบขับขี่ล่วงหน้า คุณไม่ต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ครับ

2. เตรียมเงินมาต่อใบขับขี่

หลังจากเตรียมเอกสารจำเป็นเสร็จแล้ว เตรียมเงินมาให้พอดีกับค่าต่อใบขับขี่ด้วยนะ อัตราค่าธรรมเนียมใบขับขี่แบ่งเป็น

• อัตราค่าธรรมเนียมใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จะต้องจ่ายค่าคำขอ 5 บาท ค่าใบขับขี่ 250 รวมเป็น 255 บาท
• ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปีเป็น 5 ปี เราต้องจ่ายค่าคำขอ 5 บาท รวมกับค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ราคา 500 บาท รวมเป็น 505 บาท

ทำใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีเตรียมเงินให้พร้อม และเตรียมเดินทางต่อใบขับขี่ได้เลย

3. เดินทางไปกรมขนส่ง

มีเอกสารต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีครบแล้ว ยุค Thailand 4.0 ทั้งทีเราสามารถจองคิวทำใบขับขี่กับกรมขนส่งทางบกได้ที่เว็บไซต์ ebooking.dlt.go.th ซึ่งจองได้ 1 ครั้งพร้อมกับระบุวันที่เราต้องการต่อใบขับขี่ และต้องรายงานตัวก่อนเวลา 07.45 น. (เช้ามาก ๆ ) เพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อน 
หากจองคิวอบรมขอรับใบอนุญาตขับรถผ่านออนไลน์ เราจะต้องเดินทางมาถึงก่อนเวลานัด 30 นาที หากไม่มาติดต่อภายในเวลาที่กำหนด กรมขนส่งทางบกถือว่าท่าน สละสิทธิ์ และต้องทำการจองคิวใหม่นะจ้ะ 
หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากจองออนไลน์ เราไปต่อคิวติดต่อกรมขนส่งทางบกใกล้บ้านก็ได้ สำหรับการต่อใบขับขี่ชนิดนี้ ไม่ต้องทำข้อสอบใบขับขี่สำหรับรถยนต์และมอไซค์ ไม่ต้องสอบปฏิบัติลงขับรถหรือสอบขับมอเตอร์ไซค์ แต่ต้องสอบสมรรถภาพร่างกายอีกครั้ง ตั้งแต่  

• ทดสอบการมองเห็นสีเขียว แดง เหลืองที่จำเป็นต่อการขับรถ
• ทดสอบสายตาทางลึก 
• ทดสอบสายตาทางกว้าง
• ทดสอบปฏิกิริยาเท้า เหยียบเบรกให้ทันประมาณนั้น 
• เราต้องสอบสมรรถภาพร่างกายเหมือนกันทั้งใบขับขี่รถยนต์และใบขับขี่มอไซค์เลยนะ

คุณต้องสอบทุกอย่างให้ผ่านถึงจะต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีได้ “ไม่ต้องกลัวนะ” แฟรงค์เชื่อว่าคุณทำได้ครับ

4. นั่งอบรม ถ่ายภาพ และรอรับใบขับขี่ 

สอบสมรรถภาพร่างกายเสร็จสิ้น เราอาจจะต้องนั่งฟังอบรมต่ออีก 1 ชั่วโมงครับ ตามด้วยการถ่ายภาพใบขับขี่ 
แนะนำถ่ายภาพใบขับขี่ใส่เสื้อสีไรดี : 

• การถ่ายภาพนั้นคุณจะต้องเตรียมเสื้อให้ดีหากต้องการให้หน้าสว่างกระจ่างใสควรสวมเสื้อโทนสีน้ำเงิน สีฟ้า สีม่วง 
• อยากให้ดูธรรมชาติเลือกสีขาว สีครีม สีน้ำตาลอ่อน 
• หากอยากให้หน้าเรียวดูผอมใส่สีดำ สีกรมท่า น้ำตาลเข้ม 
• ส่วนสาว ๆ ที่ต้องการให้ใบขับขี่ของคุณ สวยเลิศใส่เสื้อสีส้มหรือชมพูบานเย็นก็ได้ตามใจชอบ เพราะโดดเด่นเห็นง่าย

ปล. งดเสื้อแขนกุด รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้น และต้องสวมใส่ชุดสุภาพเท่านั้น
ถ่ายภาพเสร็จก็ชำระเงินที่เราเตรียมไว้ตามประเภทใบขับขี่เลย ย้ำว่า ใบขับขี่มอไซค์ 255 บาท, ส่วนใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท (ข้อมูลปี 2562 อ้างอิงข้อมูลจากกรมขนส่งทางบก)   
ข้อควรรู้ : 

• ถ้าขาดต่อใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 3 ปี เราต้องสอบข้อเขียนใหม่อีกครั้ง 
• หากขาดต่อใบขับขี่มากกว่า 3 ปี คุณจะต้องสอบใบขับขี่ใหม่ ใช้ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล หรือจากคลินิกก็ได้, สอบข้อเขียน และสอบปฏิบัติขับรถร่วมด้วย

นี้เป็นข้อมูลการทำใบขับขี่แบบ 5 ปีเป็น 5 ปี ภายใน 4 ขั้นตอนสบาย ๆ ง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ จะบอกว่า “ง๊าย...ง่าย” เหมือนทำประกันออนไลน์กับ Frank เลยครับ อยากรู้ว่า ประสบการณ์ซื้อประกันออนไลน์ที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณเป็นไง เปรียบเทียบเบี้ยกับแฟรงค์เลยสิ 🙂 
แหล่งข้อมูล : dlt.go.th
Content by Butter Cutter


 

The post 4 เตรียมก่อนต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.