ยางรถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Wed, 17 Mar 2021 04:54:20 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ยางรถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ยางแบบไหนที่ทนทาน และ เหมาะสมกับการใช้งานของรถเรา https://www.bolttech.co.th/blog/which-is-best-tire?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=which-is-best-tire Thu, 04 Mar 2021 08:32:57 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=14907 ทำไมยางรถยนต์รับน้ำหนักรถได้หลายตัน ชั้นผ้าใบมีผลอย่างไร กับผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ไทร์บิด

The post ยางแบบไหนที่ทนทาน และ เหมาะสมกับการใช้งานของรถเรา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับ วันนี้ไทร์บิดกลับมาอีกครั้งกับความเข้าใจที่ไม่ถูกซะทีเดียวกับเรื่องชั้นผ้าใบกับการรับน้ำหนักของยาง เพื่อนๆหลายท่านมีคำถามที่ว่ายางยางผ้าใบกี่ชั้น ซึ่งเข้าใจว่ายิ่งชั้นผ้าใบเยอะจะยิ่งรับน้ำหนักได้มาก แต่จริงๆแล้วนั้นก็มีถูกส่วนหนึ่งครับ เพราะจริงๆแล้วการรับน้ำหนักของยางนั้นมีหลายๆส่วนประกอบที่จะทำให้ยางนั้นรับน้ำหนักได้ดี โดยทางเราจะมาอธิบายแต่ละอย่างก่อนว่าต่างกันยังไงครับ

ชั้นผ้าใบ 4PR 6PR 8PR หรือเพื่อนๆอาจจะพูดว่าชั้นผ้าใบ 4 ชั้น 6 ชั้น 8 ชั้น ซึ่งชั้นผ้าใบเวลาผู้ผลิตนั้นจะทำการทดสอบโดยการใช้เหล็กแท่งกดบริเวณหน้ายาง ซึ่งการคำนวนแต่ละกี่ชั้นผ้าใบนั้นจะมีผลมาจากหน้ายางนั้นสามารถทนแรงกดได้กี่แรงนิวตัน ซึ่งการทดสอบนี้จะเป็นการทดสอบดูว่าโครงยางนั้นมีความแข็งแรงมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้งานอยู่ ว่ายางนั้นสามารถรับแรงกระแทกเมื่อใช้งานได้มากน้องเท่าใด โดยเมื่อมาเปรียบเทียบกับการใช้งานจริงก็จะเป็นเมื่อตอนถูกกระแทกหรือตกหลุมยางจะมีโอกาสเสี่ยงต่อความคงทนมากน้องเพียงไหน โดยอิงจากชั้นผ้าใบยิ่งเยอะก็แปลว่ายิ่งแข็งแรงมากกว่า

ซึ่งสำหรับเพื่อนๆที่ใช้รถเพื่อการบรรทุกของนั้นไทร์บิดเชื่อว่าอย่างแรกเลยทุกท่านๆต้องเติมลมเยอะๆไว้ก่อนซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับหากยิ่งเพื่อนๆเติมลมมากเท่าไหร่ ลมจะช่วยส่งเสริมให้ยางสามารถรับน้ำหนักได้ดีขึ้น โดยเมื่อเพื่อนๆเลือกเลือกยางที่มีชั้นผ้าใบเยอะเป็นสิ่งที่ถูกโดยจะช่วยในการลดโอกาสเสี่ยงจากการระเบิดเสียหายจากแรงกระแทกได้ดีขึ้นแต่ว่าต้องบอกว่ายางก็เหมือนลูกโป่งครับ ยิ่งเราเติมให้เปร่งมากเท่าไหร่เวลายางโดนกระแทกก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ยางจะแตกได้มากขึ้นเท่านั้นเพราะนั้นการที่เราเติมลมให้อยู่ในค่าที่ยางรับได้สูงสุดตามที่ผู้ผลิตเขียนไว้จะเป็นการปลอดภัยต่อการใช้งานที่ดีที่สุด แต่ถ้าบรรทุก overload เกินไปก็ต้องบอกว่ามีโอกาสเสี่ยงยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆกับการใช้งานอาจเกิดเหตุระเบิดเมื่อไหร่ก็เป็นไปได้ครับพี่ 

แล้วเราจะมาดูยังไงว่ายางที่เราเลือกใช้ควรดูที่ไหนถ้าไม่ใช่ดูที่ชั้นผ้าใบ แน่นอนครับยางทุกเส้นจะมีดัชนีการรับน้ำหนักถ้ายิ่งมีดัชนีที่สูงมากขึ้นก็จะแปลว่ายางนั้นจะสามารถรับน้ำหนักได้สูงขึ้นครับ โดยย้ำนะครับว่าดัชนีรับน้ำหนัก ซึ่งต้องเอาไปเปรียบเทียบกับตารางอีกทีว่าดัชนีที่อยู่บนแก้มยางเทียบเท่ากับการรับน้ำหนักเท่าไหร่ เพื่อนๆหาเช็กและดูได้ครับว่ายางรุ่นไหนไซส์ไหนเหมาะสมกับการใช้งานของรถเราได้ดีที่สุดครับ

เพราะฉะนั้นเพื่อนๆจะเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า ถ้าเพื่อนๆอยากได้ยางที่แข็งแรงทนทานต่อการกระแทกและลดปัญหายางระเบิดเสียหายต้องเลือกยางที่มีชั้นผ้าใบเยอะๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่ขับรถบรรทุกสินค้า ก็ต้องเลือกยางที่เหมาะสำหรับการบรรทุกจริงๆ มีชั้นผ้าใบเยอะ และมีค่าดัชนีรับน้ำหนักให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้ยางของเพื่อนๆนั้นทนต่อการใช้งานได้ โดยจากการคำนวณต้องคำนวณรถรวมคอกและน้ำหนักบรรทุกของ ส่วนสำหรับเพื่อนๆที่ใช้งานกระบะแบบออฟโรดก็เน้นว่ารถหลังจากตกแต่งช่วงล่างมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเท่าใด และมาเทียกับดัชนีรับน้ำหนัก ส่วนชั้นผ้าใบก็อาจจะดูว่าเราลุยขนาดไหนเพื่อให้ยางคงทนพอ แต่ถ้าส่วนเพื่อนๆที่เป็นรถเก๋งรถและอเนกประสงค์ยางไซส์ที่ติดรถส่วนมากจะมีความสามารถในการรองรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักในการบรรทุกและการใช้งานปกติได้แน่นอนครับ 

ไทร์บิดอยากจะลองยกตัวอย่างสำหรับรถกระบะบรรทุกของให้นิดนึงครับ เช่นรถกระบะโดยปกติจะมีน้ำหนักรถเปล่าอยู่ประมาณ 1.5 ตัน และ น้ำหนักตู้ อยู่ประมาณ 1 ตัน ซึ่งจะเทียบเท่ากับรถรวมตู้จะอยู่ที่ 2.5 ตันครับ สมมติเราเลือกใช้ยางไซส์ 215/70R15 นั้นจะมีดัชนีรับน้ำหนักอยู่ที่ 106 ซึ่งเทียบเท่ากับรับน้ำหนักได้ที่ 950 กิโลกรัม ซึ่งเรานำมาคูณ 4 จะเทียบเท่ายางสามารถรับน้ำหนักได้อยุ่ที่ 3.8 ตัน แปลว่า การที่เราบรรทุกของ ก็ไม่ควรที่จะเกิน 1.3 ตัน ก็จะเป็นการใช้งานที่พอดีกับตัวยางที่สามารถรับน้ำหนักได้ดี และ มีอัตราการรับแรงกระแทกได้ดีครับ

หากเพื่อนๆสงสัยหรือไม่แน่ใจว่ายางที่เราเลือกนั้นเหมาะสมกับการใช้งานของเราไหม สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ทางไทร์บิดได้ที่ Line official : @tiresbid หรืออ่านบทความรู้ยางรถยนต์ และลองเข้าไปเช็กสเปกยางได้ที่ www.tiresbid.com ทางเรามียางครบทุกกลุ่มการใช้งาน หลากหลายยี่ห้อให้ทางเพื่อนๆได้เลือกใช้ครับผม 

The post ยางแบบไหนที่ทนทาน และ เหมาะสมกับการใช้งานของรถเรา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
4 สิ่งที่ควรรู้เรื่องก่อนซื้อแม็กซ์ใหม่ https://www.bolttech.co.th/blog/4-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=4-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258b%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588 Thu, 19 Nov 2020 04:07:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14311 สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งกับเรื่องของยางๆ ยางก็ต้องคู่กับแม็กซ์ใช่ไหมครับแต่เพื่อนๆรู้กันไหมครับว่าจริงๆแล้วเมื่อการที่เราจะใช้แม็กซ์ต้องดูที่อะไรบ้าง วันนี้ไทร์บิดมีคำแนะนำให้เพื่อนๆครับ ความกว้างของหน้าแม็ก แม็กซ์นั้นเวลาเพื่อนๆต้องการหาแม็กซ์เราก็อาจจะหาคำว่าแม็กซ์ กี่นิ้ว เช่น  15” , 17” , 18” แต่สิ่งที่

The post 4 สิ่งที่ควรรู้เรื่องก่อนซื้อแม็กซ์ใหม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งกับเรื่องของยางๆ ยางก็ต้องคู่กับแม็กซ์ใช่ไหมครับแต่เพื่อนๆรู้กันไหมครับว่าจริงๆแล้วเมื่อการที่เราจะใช้แม็กซ์ต้องดูที่อะไรบ้าง วันนี้ไทร์บิดมีคำแนะนำให้เพื่อนๆครับ

ความกว้างของหน้าแม็ก

แม็กซ์นั้นเวลาเพื่อนๆต้องการหาแม็กซ์เราก็อาจจะหาคำว่าแม็กซ์ กี่นิ้ว เช่น  15” , 17” , 18” แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือความกว้างของหน้าแม็กซ์นั้นต้องสัมพันธ์กับหน้ายางครับ เพราะว่าถ้าไม่สัมพันธ์กันจะทำให้มีอาการดึงยางเกิดขึ้นและจะทำให้ยางใช้งานได้ไม่ได้เต็มสมรรถนะ แถมยังส่งผลให้ยางจะมีอาการสึกผิดปกติอีกด้วยครับเช่น ยาง 195/55R15 นั่น จะใช้กับแม็กซ์หน้ากว้างตั้งแต่ 5.5 – 7 นิ้วครับซึ่งจะทำให้ยางใช้งานได้เต็มสมรรรถนะได้ดีที่สุดครับ

เพราะฉะนั้นการการเลือกซื้อแม็กซ์นั้นก็ต้องคำนึงถึงหน้ากว้างของแม็กซ์ด้วยนะครับเพื่อนๆ

ความกว้างของหน้าแม็ก

ค่าออฟเซท

ส่วนต่อมาที่ต้องคำนึงถึงก็คือค่าออฟเซตครับ ค่าออฟเซตจะเป็นค่าของหน้าแปลนนั้นอยู่บริเวณกึ่งกลางของล้อแม็กซ์หรือไม่ ซึ่งค่าออฟเซตนั้นในแม็กซ์บางรุ่นอาจจะมีค่าบวกเพิ่มมากขึ้น อาจจะส่งผลให้หน้าแปลนที่ติดกับดุมล้อนั่นไม่อยู่ในตำแหน่งเดิมอาจจะส่งผลทำให้แม็กซ์นั้นไปขูดกับซุ้มล้อด้านใน หรือด้านนอกได้ครับ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแม็กซ์นั้นเราต้องคำนึงถึงในส่วนนี้ด้วยครับ เพื่อป้องกันปัญหาการติดซุ้มล้อด้านในและด้านนอกครับ

ค่าออฟเซท

รูน็อตแม็ก

ส่วนต่อมาก็คือเรื่องของรูน็อต แม็กซ์ ในแต่ละวงจะมีรูน็อตที่มีช่องไฟที่แตกต่างกันถึงแม้ว่าจะมีสแตนดาร์ดอยู่แล้วก็ตามนะครับ แต่อย่างน้อยๆก็ควรเช็คไว้ครับเพราะรถบางยี่ห้อมี 6 รูน็อต บางยี่ห้อมี 5 รูน็อต แถมบางยี่ห้อมีรูน็อตที่มีช่องไฟไม่ตรงกับยี่ห้ออื่นๆโดยเฉพาะรถยุโรปบางยี่ห้อ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆก่อนที่จะเลือกซื้อแม็กซ์ใหม่นั้นต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยครับ

เพราะฉะนั้นจะมี 3 ข้อหลักๆที่อยากให้เพื่อนๆคำนึงถึงนอกจากขนาดของแม็กซ์กี่นิ้วแล้ว ก็ต้องมีเรื่องของหน้ากว้างของแม็กซ์ต้องสัมพันธ์กับไซส์ยาง ค่าออฟเซตต้องให้พอดีไม่ให้ใส่ประกอบแล้วติดซุ้ม และรูน็อตของแม็กซ์วงใหม่ต้องเท่ากับรูน็อตเดิมของรถ ถ้ามี 4 อย่างครบทุกอย่างนั้นก็ถือว่าครบองค์ประกอบในการเลือกซื้อแม็กซ์ใหม่ครับ แต่ถ้าเพื่อนๆอยากหายางไซส์ไหนที่ตรงกับแม็กซ์ของตัวเองสามารถติดต่อสอบถามทางไทร์บิดได้ที่ Line Official : @tiresbid หรืออ่านบทความรู้ยางรถยนต์มีมากมาย หากซื้อเช็กยางรุ่นต่างๆได้ที่ www.tiresbid.com เลยครับ ที่ไทร์บิดเราเป็นผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ พร้อมให้คำแนะนำกับเพื่อนๆทุกท่านครับ

The post 4 สิ่งที่ควรรู้เรื่องก่อนซื้อแม็กซ์ใหม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ยางปีเก่า แต่เก๋าอยู่ ใช้งานเหมือนยางใหม่เอี่ยม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%8b%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b9%e0%b9%88-%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%258b%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588-%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a1 Mon, 09 Nov 2020 03:23:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14069 ยางใหม่ปีเก่า มีผลต่อแค่ไหน ราคาคุ้มหรือเสี่ยง ผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ไทร์บิด

The post ยางปีเก่า แต่เก๋าอยู่ ใช้งานเหมือนยางใหม่เอี่ยม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับ ไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับผม วันนี้จะขอพูดถึงเรื่องปีผลิตยางว่ามีผลต่อการใช้งานไหมครับ ยางปีเก่า ผ่านไป 1 ปี จริงๆแล้วไม่มีผลต่อการใช้งานอะไรเลยครับ และโดยปกติแบรนด์ยางแทบจะทุกแบรนด์นับวันรับประกันจากวันที่ใส่ครับ ในเรื่องการรับประกันการผลิตอย่างน้อยๆก็ต้องมี 2 ปีขึ้นไป ถ้าแบรนด์ใหญ่ๆก็ 5-6 ปีก็ว่ากันไปครับ แต่เพื่อนๆก็ยังเป็นห่วงเหมือนเดิมใช่ไหมครับ ว่ายังไงก็อยากได้ยางใหม่เอี่ยมที่สุดไว้ก่อนซึ่ง งั้นไทร์บิดเรามาจำลองเหตุการณ์ดูครับ ว่ากรณีที่เป็นยางปีเก่านั้นเก่าถึงปีไหมกันนะครับ

ยางอายุ 1 ปี แทบไม่มีผล

กรณีเราซื้อยางเดือนมีนาคม แล้วยางที่เรากำลังจะซื้อนั้น เป็นยางผลิตสัปดาห์ที่ 40 ของปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นยางที่เพื่อนๆได้มานั่นเพิ่งผลิตมาแค่ 5 เดือน ซึ่งไม่เกินปีเลยครับ แต่แค่ปีผลิตเป็นของปีที่แล้วครับ และกรณีที่การรับประกันจากการผลิตที่ทางแจ้งไว้จะรับประกันนับจากวันติดตั้งก็แปลว่ายางที่รับประกันจากเดือนมีนาคม บวกไปอีก 5 ปี สมมติเพื่อนๆใช้รถปีละ 20,000 กิโลเมตร เท่ากับเพื่อนๆสามารถใช้งานยังไงก็ไม่ถึงห้าปีแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะซื้อยางปีเก่า แต่เก่าแค่ไม่กี่เดือนเพื่อนๆสบายใจแน่นอนครับ

สภาพแวดล้อม ส่งผลต่อเนื้อยาง

เรามาดูตามความจริงกันว่าจริงๆแล้วโครงสร้างยางแต่ละส่วนนั้น ปีผลิตมีผลต่อการใช้งานจริงๆไหมครับ ข้อแรกเลยก็คือเรื่องของเนื้อยางกรณีที่เป็นยางปีเก่าเพื่อนๆอาจกลัวว่ายางนั้นอาจจะมีปัญหาใช่ไหมครับ แต่ถ้าร้านที่เพื่อนๆซื้อนั้นมีคลังเก็บสต็อกในที่ร่ม เพื่อนๆหายห่วงได้เลยครับว่าเนื้อยางที่อยู่ในโกดังนั้นมีสภาพใช้งาน 100% แน่นอนครับ ส่วนต่อมาคือเรื่องของโครงยางเมื่อยางเก่าเก็บ 1 ปี ไทร์บิดกล้ารับประกันเลยครับว่าโครงยางนั้นไม่มีการคลายตัวหรือคลายความแข็งแรงแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ว่ายางปีเก่าที่ซื้อจะมีปัญหาความแข็งแรงในการใช้งานครับ

ยางปีเก่า ราคาถูกลง

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งในปัจจุบันเลยก็คือ ยางปีเก่าราคาจะถูกลง 10-20% จากราคาปกติเพราะฉะนั้นเพื่อนๆที่อยากใช้งบอย่างประหยัดกับค่ายางแต่ได้ยางที่มีคุณภาพดีลองหาร้านที่รู้จักใกล้บ้านท่าน หรือ ลองมาสอบถามกับทางไทร์บิดได้ครับว่ามีไซส์นี้รุ่นนี้ยางปีเก่าไหมเพื่อเพื่อนๆจะได้ของดีกันครับ

หากเพื่อนๆต้องการคำปรึกษาเรื่องยางสามารถสอบถามทางไทร์บิดได้ผ่าน Line official : @tiresbid หรือเข้าเช็กราคายางได้ที่ www.tiresbid.com ได้ครับ สนใจจะอ่านบทความรู้ยางรถยนต์ก็มีให้อ่านฟรีๆ แถมทางเรายินดีให้บริการเพื่อนๆทุกท่านอย่างเต็มที่แน่นอนครับ

ประกันรถยนต์

The post ยางปีเก่า แต่เก๋าอยู่ ใช้งานเหมือนยางใหม่เอี่ยม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การปะยางที่ถูกต้องทำให้ยางกลับมาใช้งานได้ 100% https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89-100?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589-100 Fri, 16 Oct 2020 03:59:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13835 หมดปัญหายางรั่วบาดตำ 4 วิธีปะยางดีที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ไทร์บิด

The post การปะยางที่ถูกต้องทำให้ยางกลับมาใช้งานได้ 100% appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับ วันนี้ ไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ มีเพื่อนๆหลายคนถามคิมว่าถ้าเราปะยางแล้ว ยางรถของเราจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% เหมือนเดิมไหม คิมต้องบอกว่าถ้าเราปะยางอย่างถูกวิธีการใช้งานจะกลับมา 100% แน่นอนครับ แต่ว่าก็มีหลายๆกรณีโดยคิมจะจำแนกไว้ตามนี้เลยครับ

เรามาจำแนกก่อนเลยครับ ว่าบริเวณไหนที่เราสามารถปะซ่อมได้ และปะซ่อมไม่ได้ บริเวณที่ปะซ่อมยางได้จะเป็นบริเวณหน้ายางครับบริเวณที่แข็งแรงที่สุดโดยเป็นบริเวณที่มีเข็มขัดรัดหน้ายางครับ ส่วนบริเวณที่ปะซ่อมได้แต่ปะซ่อมได้ยากก็จะเป็นบริเวณไหล่ยางที่เป็นส่วนลอยต่อระหว่างหน้ายางกับแก้มยาง ซึ่งบริเวณนี้ถ้าแผ่นปะสามารถติดได้เต็มแผ่นโดยไม่ไปแปะบริเวณที่ติดกับแก้มยางนั้นก็ยังสามารถปะได้อยู่ครับ เพราะบริเวณนี้ยังมีการขยับตัวที่เยอะและไม่มีโครงสร้างรองรับให้มีความแข็งแรงเหมือนเดิม และบริเวณที่ปะซ่อมไม่ได้แน่นอนก็คือบริเวณแก้มยางครับผม ซึ่งเหตุผลที่ไม่สามารถปะซ่อมได้ก็เพราะว่าบริเวณแก้มยางนั้นไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรงประกอบกับมีการยืดหดตัวตลอดเวลาทำให้การปะนั้นจะปะไม่อยู่ และจะส่งผลให้แผลรั่วหรือรอยบาดนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆครับ 

เรามาจำแนกต่อว่าวิธีการปะในบ้านเราปัจจุบันมีการซ่อมกี่แบบ ถ้าเพื่อนๆรู้จักกันก็จะมี 4 แบบหลักๆ แทงใยไหม ปะสตรีมร้อน ปะสตรีมเย็น ปะดอกเห็ด ซึ่งการปะแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อไม่ดีแตกต่างกันไป เดี๋ยวคิมไทร์บิดจะอธิบายเป็นแต่ละอย่างเลยว่าข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไรบ้าง

1.แทงใยไหม

แทงใยไหมเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดครับ ไม่ต้องยางออกจากล้อแค่เอาใยไหมเสียบลงไปบริเวณที่รั่วแล้วปล่อยคาไว้ถือว่าจบ ข้อดี ก็คือรวดเร็ว ใช้ได้สำหรับรูรั่วเล็กๆ ข้อเสียคือ มีโอกาสเสี่ยงที่ปะไม่อยู่บ่อย มีโอกาสทำให้แผลหรือรูรั่วมีรูที่ใหญ่ขึ้น จึงเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับชั่วคราวเท่านั่น

2.ปะสตรีมร้อน

ปะสตรีมร้อนเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในบ้านเราครับ ไปร้านไหนๆก็จะปะสตรีมร้อนให้เพราะว่าเป็นวิธีที่ปะได้อยู่ที่สุดเพราะการปะสตรีมร้อนจะทำให้ยางที่นำไปปะกับเนื้อยางเก่าติดกันแน่นที่สุด แต่ไม่ถึงกับเป็นยางชิ้นเดียวกันนะครับ แต่ข้อเสียก็ยังมีอยู่ครับเพราะว่ากรณีที่ปะสตรีมร้อนจะทำให้ยางบริเวณนั้นอาจมีโอกาสเสียหายได้หรือทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มสมรรถนะ 100% ครับ 

3.ปะสตรีมเย็น

ปะสตรีมเย็น จะมีสองรูปแบบโดยเป็นการใช้แค่แผ่นปะกับการใช้วัสดุที่ชื่อว่าดอกเห็ด (การแปะแบบ PRP) ซึ่งการปะสตรีมเย็นในแบบแผ่นปะนั่นดีในแง่ของทำให้โครงยางไม่เสียครับ แต่ว่ารูด้านนอกที่ไม่ได้ปะนั่นเป็นข้อเสียของการเฉพาะแผ่นปะด้านในเพราะความชื้นจะเข้าไปในรูดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้โครงยางนั้นเกิดสนิมและอาจทำให้ยางบวมได้ ส่วนการปะแบบดอกเห็ดหรือ PRP นั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะว่าทำให้โครงยางนั่นไม่เสียหายและยังมีเดือยที่มาปิดบริเวณรูรั่วซึ่งทำให้ไม่มีความชื้นเข้าในโครงยางไม่ส่งผลเสียต่อยาง ซึ่งจะส่งผลให้ยางนั้นกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% 

เพราะฉะนั้น บริเวณที่สามารถปะได้ กับ การปะที่ดีที่สุดนั่นมีส่วนสำคัญที่ทำให้ยางนั้นกลับมาใช้งานได้ 100% เหมือนเดิมครับ ปะยางบริเวณหน้ายาง และ ปะแบบดอกเห็ดนั้นยางกลับมาได้ 100%  ประยางบริเวณไหล่ยางและปะแบบดอกเห็ดยางอาจกลับมาใช้ได้ 50-80% (ขึ้นอยู่กับความใกล้ของแก้มยาง หรือถ้าไม่อยากจะเปลี่ยนยางใหม่แล้วนำไปปะสตรีมร้อนอาจจะเป็นวิธีที่สุดที่ให้ยางใช้ได้ต่อแต่ว่าอาจมีโอกาสเสี่ยงในการที่ปะไม่อยู่หรือว่ายางบวมได้)

แถมให้อีกนิดครับสำหรับยางรันแฟลตนั้น จะสามารถปะซ่อมได้ครั้งเดียวเพราะว่ายางประเภทรันแฟลตนี้ นั้นต้องการความแข็งแรงของโครงยางมากที่สุด ถ้ามีการปะซ่อมบ่อยๆโอกาสทำให้โครงยางรันแฟลตนั้นไม่อยู่ในสภาพใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหากเกิดการยางระเบิดหรือรั่วโครงยางรันแฟลตอาจจะใช้งานไม่ได้ก็อาจเป็นได้ แต่ถ้าเป็นยางธรรมดาก็ไม่ควรปะซ่อมเกิน 3 แผล และเป็นแผลที่ต้องไปใกล้กัน 

แถมสุดท้าย จริงๆแล้วรูรั่วนั้นก็มีผลต่อการใช้งาน ถ้ารูรั่วใหญ่เกินกว่า 6 มม. ก็จะส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงยาง และ ถ้าใหญ่กว่ากว่า 1 เซนติเมตรก็ไม่แนะนำให้ปะซ่อม (ถึงแม้ปะซ่อมได้แต่ก็อาจทำให้ยางไม่แข็งแรงเหมือนเดิมมีโอกาสยางเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ) เพราะก่อนที่จะปะซ่อมเราต้องประเมินก่อนว่ารูรั่วของเราเป็นไซส์ขนาดความกว้างเท่าไหร่ครับ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเรื่องยางหรือต้องการคำปรึกษาเรื่องยางติดต่อเลย Line Official : @tiresbid และสามารถอ่านบทความรู้ไทร์บิดได้ที่ www.tiresbid.com หรือโทรเลย 090-986-8762 วันนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆมากครับ

ประกันรถยนต์

The post การปะยางที่ถูกต้องทำให้ยางกลับมาใช้งานได้ 100% appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ยางแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร อยากรู้ ต้องอ่านๆ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25aa%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Tue, 15 Sep 2020 03:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13366 ยางสำคัญกว่าที่คิด ยางส่วนต่างๆ มีความสำคัญอย่างไร เรื่องยางเรื่องง่ายกับผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ไทร์บิดออนไลน์

The post ยางแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร อยากรู้ ต้องอ่านๆ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับไทร์บิด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางกลับมาอธิบายว่าจริงๆแล้ว ส่วนประกอบอะไรบ้าง และ ทำหน้าที่อะไรบ้างครับ ที่ไทร์บิดอยากอธิบายให้ทราบก็เพราะว่าเพื่อนชาวไทร์บิดทุกท่านจะได้รู้ว่าส่วนไหนสำคัญอย่างไรเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ เรามาเริ่มกันเลยครับว่าส่วนไหนมีหน้าที่อะไรบ้าง

1.ขอบยาง

อย่างแรกที่ อยากจะพูดถึงก็คือบริเวณขอบยาง ยางทุกเส้นจะมีขอบยางที่ทำจากเส้นลวด ส่วนนี้จะช่วยทำให้ยางนั้นสามารถเกาะติดกับกระทะล้อให้อยู่แน่น และเป็นตัวช่วยที่ทำให้ยางนั้นมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดีครับยิ่งแข็งแรงมากยิ่งรับน้ำหนักได้มากครับ

2.แก้มยาง

ส่วนที่สอง คือ แก้มยางมีจะเป็นบริเวณที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดและมีความบ่อบบางมากที่สุดครับ เพราะฉะนั้นหากมีการบาด ตะปูทิ่ม หรือ มีอาการบวมบริเวณแก้มควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัย ซึ่งแก้มยางนั้นมีหน้าที่คอยช่วยพยุงน้ำหนักและช่วยซัพแรงกระแทกของรถครับ หากเพื่อนๆอาจใช้ส่วนนี้ในการเพิ่มซีรียแก้มยางเพื่อให้รถของเพื่อนๆมีความนุ่มขึ้นแต่ ยิ่งแก้มยางสูงยิ่งโยนตัวเยอะนะครับ เวลาเข้าโค้งอาจจะไม่ได้ฟิลลิ่งเดิมครับ

3.เข็มขัดรัดหน้ายาง

ส่วนที่สาม คือ เข็มขัดรัดหน้ายางจะทำมาจากหลายส่วนประกอบไม่ว่าจะเป็นเส้นลวด หรือโพลเอสเตอร์ครับ เข็มขัดรัดหน้ายางจะเป็นส่วนที่เพื่อนๆอาจจะมองไม่เห็นครับ แต่ว่าส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญมากครับ เพราะเป็นส่วนที่ช่วยทำให้หน้ายางขึงตึงกับพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ยางเกาะถนนได้ดีครับ ยิ่งเข็มขัดรัดหน้ายางยิ่งมีคุณภาพความแข็งแรงมากๆยิ่งทำให้เกาะถนนดี และ ทำให้ยางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเร็วขึ้น และ หน้าที่สำคัญอีกอย่างของเข็มขัดรัดหน้ายางก็คือช่วยทำให้หน้ายางแข็งแรงขึ้นลดอัตราการเจาะทะลุของตะปูตำได้ดีขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่ายิ่งแข็งแรงตะปูจะไม่เจาะเข้านะครับ แต่ก็เป็นหน้าที่สำคัญๆสองข้อของเข็มขัดรัดหน้ายางครับ

4. ลายดอกยาง

ส่วนที่สี่ คือ ลายดอกยาง จะมีหน้าที่หลักๆอยู่หลายข้อแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการรีดน้ำครับ ลายดอกยางจะช่วยในการระบายน้ำออกจากหน้ายางหากยิ่งเป็นลายดอกยางที่แบบทิศทางเดียวจะยิ่งช่วยทำให้ระบายน้ำได้ดีขึ้นครับ ส่วนต่อมาคือเรื่องเสียงครับ ลายดอกยางจะเป็นตัวที่ทำให้เสียงที่ออกจากยางนั้น มีเสียงเงียบลดโดยการทำหน้าที่ของลายดอกยางก็จะช่วยให้เสียงหลายๆเสียงกลบกันจะทำให้มีเสียง เดซิเบลที่ต่ำครับ และหน้าที่สุดท้ายของลายดอกยางแต่ละประเภทจะช่วยทำให้การใช้งานแต่ละฟังก์ชันนั้นใช้งานได้ดีครับ อาทิ กรณีใช้งานลุยๆก็จะเป็นลายดอกยางก้อนๆเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการตะกรุยถนนได้ดีครับ หรือว่าจะเป็นดอกยางแบบไม่สมมาตรจะช่วยทำให้การเกาะถนนเวลาเข้าโค้งทำได้ดีขึ้นครับ

5. ชั้นในของยาง

 ส่วนสุดท้าย ก็คือส่วนชั้นในของยางครับเป็นส่วนที่อยู่ภายในท้องยาง หน้าที่ของยางส่วนนี้ก็จะทำหน้าที่ช่วยกักเก็บลมยางไม่ให้มีการซึมออกได้ครับ เพราะฉะนั้นชั้นนี้จะเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ยางนั้นกักเก็บลมได้ครับ แต่ เวลาเมื่อรั่วเมื่อเข้าร้านปะยาง ทางร้านจะมีการเจียรยางออกในพื้นที่ตรงนั้นเพราะว่าชั้นยางส่วนนี้จะไม่ถูกกับแผ่นปะครับ เพราะจะติดกันไม่สนิท เพราะฉะนั้นต้องมีการเจียรยางส่วนนี้ออกก่อนแล้วถึงทำการปะยางได้ครับ

ประกันรถยนต์

ก็จะเป็นส่วนสำคัญๆของยางที่ทางไทร์บิดอยากจะอธิบายให้เพื่อนๆฟังว่าแต่ละส่วนของยางมีหน้าที่ทำงานอย่างไรบ้างครับ และถ้าหากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเรื่องยางสามารถหาบทความยางหรือเกี่ยวกับความรู้เรื่องยางได้ที่ www.tiresbid.com หรืออยากสอบถามโดยตรงกับทางผู้เชี่ยวชาญสามารถติดต่อได้ที่ Line Official : @tiresbid หรือ โทร 090-986-8762 ได้ครับ ไทร์บิดผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางยินดีให้คำแนะนำเพื่อนๆอย่างเต็มที่ครับ

The post ยางแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร อยากรู้ ต้องอ่านๆ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ขับทางไกลสบายๆ ไม่เหนื่อยง่าย ต้องใช้ยางแบบไหน ?? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599 Fri, 14 Aug 2020 03:17:35 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12725 ขับทางไกลเมื่อไหร่เหนื่อยง่ายทุกที มีวิธีไหนบ้างทั้งปลอดภัยและเหนื่อยน้อยลง

The post ขับทางไกลสบายๆ ไม่เหนื่อยง่าย ต้องใช้ยางแบบไหน ?? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับ จอร์จ จากไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ วันนี้อยากมาแนะนำว่าทำไมเราถึงขับรถทางไกลแล้วเหนื่อย แล้วมีวิธีไหนที่จะทำให้เราลดอาการเหนื่อยล้าจากการขับรถได้บ้างครับ จริงๆแล้วการขับรถก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการออกกำลังกาย โดยใช้เครื่องสั่นบริเวณท้องที่ทำให้ช่วยลดน้ำหนักที่เราเห็นตามทีวีกันครับ เพราะยิ่งเครื่องสั่นจะช่วยทำให้เราใช้พลังงานเยอะขึ้น ถ้าใช้พลังงานเยอะขึ้นก็จะยิ่งทำให้เราเหนื่อยล้าด้วยครับ เพราะฉะนั้นการที่ทำให้เราเหนื่อยน้อยลง เราก็ควรเลือกยางรถยนต์ที่ทำให้เพื่อนๆขับสบาย นุ่ม ลดอาการสั่นให้มากที่สุดครับ เพื่อลดการใช้พลังงานของร่างกายจะทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าน้อยลงครับ

จริงๆแล้วยางมีให้เลือกหลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งานครับ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆควรเลือกยางประเภทนุ่ม ซึ่งเป็นยางที่สามารถซึมซับแรงกระแทกได้ดีจะช่วยลดอาการสั่นได้ดีครับโดย จอร์จ จะมาแนะนำเป็นแต่ละประเภทการใช้งานของรถให้เพื่อนๆกันครับพี่

1. รถเก๋ง

ยางขับทางไกล

โดยรถเก๋ง กลุ่มนี่ จอร์จ แนะนำว่ามีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายรุ่นมาก แต่จอร์จ จะเรียงจากระดับพรีเมี่ยมๆลงไปถึงยางราคาประหยัดที่มีความนุ่มขับสบายครับ โดย แบรนด์ชั้นนำ ก็จะมี Yokohama V552 , Michelin Primacy 4 , Bridgestone T005A , Continental UC6 , Goodyear Triplemax2 , Dunlop LM705 , Apollo Alnac4g , Maxxis MS800 ฯลฯ

2. รถ SUV และ รถกระบะ

ยางรถกระบะ และ SUV

ต่อมาก็จะเป็นกลุ่มรถ SUV และรถกระบะครับ ซึ่ง จอร์จ ก็จะแนะนำยางจากพรีเมี่ยม ลง ไปถึงราคาประหยัดครับ โดยเริ่มจาก Michelin Primacy SUV , Yokohama G056 , Bridgestone HL001 , continental UC6 SUV , Goodyear Efficient grip performance SUV , Dunlop PT3 , Apollo apterra HT2 , Maxxis HT770 ฯลฯ

โดยจริงๆ มีแบรนด์อื่นที่จอร์จไม่ได้พูดถึงอีกครับ แต่ขอแนะนำว่าถ้าเพื่อนๆที่ต้องการลดอาการเหนื่อยล้าจากการขับรถระยะทางไกลนั่นยางที่มีความนุ่มลดอาการสั่นในการขับขี่ก็เป็นส่วนช่วยส่วนหนึ่ง ไม่มากก็น้อยที่จะทำให้เพื่อนๆนั่นลดอาการเหนื่อยได้ครับ แต่ก็จะมีส่วนอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพที่คอยช่วยซึมซับแรงกระแทก หรือ จะเป็นรถที่เหมาะสมกับการขับขี่ทางไกลเช่นรถที่มีกำลังเครื่องที่ใหญ่ตั้งแต่ 1800 ขึ้นไปก็จะยิ่งช่วยลดการขับแบบเหยียบตลอดเวลา และยังช่วยลดอาการสึกหรอของรถได้อีกด้วย เพราะถ้าเรายิ่งเร่งเครื่องตลอดเวลา ก็อาจจะยิ่งทำให้เครื่องยนต์ หรือ รถ ของเพื่อนๆชำรุดได้เร็วขึ้นครับ

หากเพื่อนๆที่ต้องการสอบถาม หรือ ต้องการคำแนะนำเรื่องยาง ที่ไทร์บิดออนไลน์ของเรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำเรื่องยางเพื่อให้ตรงกับประเภทการใช้งานของเพื่อนๆครับเพราะบางครั้งเพื่อนๆอาจจะเลือกยางผิดแล้วไม่ตรงกับฟังก์ชั่นการใช้งานเช่นต้องการยางนุ่มเงียบแต่กลับไปใช้ยางสไตล์สปอร์ตทำให้มีความกระด้างมากกว่าครับ หรือเพื่อนๆจะเข้าอ่านรีวิวยางรุ่นต่างๆผ่านเว็บไซต์ของไทร์บิด www.tiresbid.com ได้ครับผม หรือแอดไลน์เข้ามาสอบถามที่ Line Official : @tiresbid ทางไทร์บิดเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะคอยให้คำแนะนำกับเพื่อนๆครับ โอกาสหน้าติตามบทความใหม่ๆของไทร์บิดอีกครับ ขอบคุณครับ

The post ขับทางไกลสบายๆ ไม่เหนื่อยง่าย ต้องใช้ยางแบบไหน ?? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีทำอย่างไรให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ??? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c Mon, 07 Oct 2019 03:56:17 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8578 หลังจากเพื่อนๆเปลี่ยนยางใหม่มาแล้วคงอยากทดสอบยางใหม่โดยขับด้วยความเร็วมากๆอัดโค้งแรงๆใช่ไหมครับ งานนี้เพนกวินแฟรงค์ได้รับคำแนะนำจากไทร์บิด Tiresbid แนะนำเลยว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ผิดมากๆหลังจากเปลี่ยนยางใหม่ เพราะการกระทำนี้อาจสร้างความเสียหายต่อยางของคุณ และความปลอดภัยในการขับขี่ของเพื่อน ๆ อีกด้วยครับ ก่อนอื่นเลยครับ

The post เปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีทำอย่างไรให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ??? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลังจากเพื่อนๆเปลี่ยนยางใหม่มาแล้วคงอยากทดสอบยางใหม่โดยขับด้วยความเร็วมากๆอัดโค้งแรงๆใช่ไหมครับ งานนี้เพนกวินแฟรงค์ได้รับคำแนะนำจากไทร์บิด Tiresbid แนะนำเลยว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ผิดมากๆหลังจากเปลี่ยนยางใหม่ เพราะการกระทำนี้อาจสร้างความเสียหายต่อยางของคุณ และความปลอดภัยในการขับขี่ของเพื่อน ๆ อีกด้วยครับ ก่อนอื่นเลยครับอย่างแรกเมื่อเราเปลี่ยนยางใหม่สิ่งที่เราต้องเช็กก่อนก็ออกจากร้านยางก็คือ

เช็กประเภทของยาง ?

เช็กประเภทของยางให้ถูกต้องก่อนครับ โดยเฉพาะ ยางที่เป็นแบบทิศทางเดียวโดยลูกศรควรที่จะหันหัวไปทิศทางข้างหน้าครับ เพราะหากทิศทางสวนกันจะทำให้สมรรถนะของยางทำได้ไม่เต็มร้อยครับ ยางอีกประเภทก็คือยางที่ไม่สมมาตรครับยางประเภทนี้จะมีคำว่า Outside Inside อยู่ครับเพื่อน ๆ ควรเช็คก่อนเลยครับว่า

คำว่า “Outside” อยู่ฝั่งหันออกนอกตัวถังรถครับเพื่อให้ใช้สมรรถนะในการเข้าโค้งได้ดีที่สุดครับ

เช็กจุ๊บลมยางว่าสะอาดไหม ?

อย่างต่อมาก็คือเราควรเช็กในเรื่องของจุ๊บลมยางครับ ซึ่งเพื่อน ๆ อาจจะเห็นว่าเป็นสิ่งเล็กน้อยใช่ไหมครับแต่ก็เป็นสิ่งเล็กน้อย ๆ ที่ร้านยางบางร้านลืมเช่นกันครับซึ่งจุ๊บลมค่อนข้างมีความสำคัญมากครับ เพราะหากเราไม่มีจุ๊บลมยางมีสิทธิ์ที่จะมีฝุ่นเศษหินเศษดินเข้าไปฝั่งอยู่ในจุ๊บลมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลมจะค่อย ๆ ซึมออกครับ และทำให้ยางแบนและอาจเกิดความเสียหายต่อยางได้ครับผม

เช็กลมยางรถยนต์ว่าเหมาะสมหรือไม่ ?

และส่วนสุดท้ายก่อนออกจากร้านเราควรที่จะสอบถามช่างว่าเติมลมยางมาให้เท่าไหร่ ? โดยการเติมลมยางก็ให้เหมาะสมที่สุดกับรถก็คือดูที่สติกเกอร์ข้างประตูรถฝั่งคนขับครับผม เมื่อเช็คครบทั้ง 3 อย่างก็ออกจากร้านเพื่อทดลองยางได้เลยครับผม
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์

เช็กอาการสั่นของพวงมาลัย

หลังออกจากร้านสิ่งต่อมาก็คืออยากให้สังเกตุครับในเรื่องของอาการสั่นของยางครับโดยปกติแล้วหากร้านยางนั้นถ่วงไม่ดี โอกาสที่ยางรถของเพื่อน ๆ จะทำให้พวงมาลัยสั่นผิดปกติ นั่นจะเริ่มสั่นโดนประมาณตั้งแต่ความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับผม หากมีอาการสั่นผมแนะนำว่า เราอาจจะต้องกลับไปที่ร้านและให้ทางร้านตรวจสอบการถ่วงล้ออีกที เพื่อให้ยางมีน้ำหนักที่สมดุลทั้งวงและขับแล้วรู้สึกนิ่งขึ้นครับ

เช็กและทดสอบอีกครั้ง

และไฮไลท์ก็อยู่ที่ตรงนี้ครับเมื่อเราเปลี่ยนยางเสร็จเราจะทดสอบสมรรถนะของยางนั่นเราอาจจะไม่สามารถทดสอบได้เต็ม 100 ได้ในทันทีก็เป็นเพราะอะไรน่ะเหรอครับ ยางยิ่งผลิตมาใหม่เอี่ยมที่เพื่อน ๆ ชอบกันสารเคมีส่วนผสมของยางหลังจากการผลิตนั่นยังไม่ผสมผสานกันได้ในทันทีทางผู้ผลิตหลายเจ้าก็นำออกมาจำหน่ายครับ
จริง ๆ แล้ว เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า ? ยางรถยนต์ควรทิ้งไว้หลังจากวันที่ผลิตประมาณ 3 เดือนกว่าส่วนผสมในยางถึงจะเซตตัวกันได้ดีครับ และหลังจากเปลี่ยนใส่รถของเราแล้วนั่นเราก็ต้องมีการวอร์มอัพให้ยางได้โดยความร้อนและเซตตัวได้ดีขึ้นครับซึ่งจะเป็นยางที่พร้อมใช้งานมากที่สุดครับ
เปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีทำอย่างไรให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ???
เปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีทำอย่างไรให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ???
ส่วนต่อมาคือเมื่อยางถูกใส่ไปที่รถของเรา ก่อนที่ยางจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพยางนั่นจะต้องมีการรันยางหรือเรียกว่าช่วงเวลาวอร์มอัพครับ โดยเมื่อยางนั่นได้รับความร้อนจะทำให้ส่วนผสมของยางนั่นมีความสมดุลเพิ่มมากขึ้นครับโดยวิธีการรันยางนั่นมีวิธีง่าย ๆ ครับ

  • โดยการใช้ยางอยู่ที่ความเร็ว 80-120 เป็นระยะเวลาประมาณ 800-1000 กิโลเมตร
  • ไม่แนะนำให้ขับเร็วกว่านี้หรือเข้าโค้งแรง ๆ ครับ เพราะอาจทำให้ยางนั่นเสียหายบริเวณไหล่หรือยางไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขับขี่ในระยะยาวได้ครับ

เพราะฉะนั้น การรันยางเพื่อให้ยางนั่นสมดุลเพื่อเค้นสมรรถนะของยางได้เต็ม 100% ครับขอให้เพื่อน ๆ อดใจสำหรับการรันยางเพียง 800-1000 กิโลเมตรแรกครับ เพียงเท่านี้ ยางรถยนต์ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เดินทางไกลใกล้ก็ปลอดภัยคร้าบบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก Tiresbid.com
Rewrite by Butter Cutter

The post เปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีทำอย่างไรให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ??? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เซฟเงินง่าย ๆ ด้วยวิธีการเติมลมยาง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b8%9f%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%87%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b9%86-%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%a1%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2-%25e0%25b9%2586-%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Thu, 05 Sep 2019 11:08:33 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8229 เพราะยางรถยนต์คืออะไหล่สำคัญพาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งมีรถยนต์คันแรก อาจจะสงสัยว่า “เราควรเติมลมยางเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมไม่มากไปไม่น้อยเกิน ?” ในฐานะที่ Frank เป็นเพนกวินประกันภัยออนไลน์ เราได้คำตอบจาก TIRESBID ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านยางรถยนต์และการดูแลรถยนต์ มาบอกเล่าไขข้อข้องใจให้ฟังครับ เติมลมยางเ

The post เซฟเงินง่าย ๆ ด้วยวิธีการเติมลมยาง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เพราะยางรถยนต์คืออะไหล่สำคัญพาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งมีรถยนต์คันแรก อาจจะสงสัยว่า “เราควรเติมลมยางเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมไม่มากไปไม่น้อยเกิน ?” ในฐานะที่ Frank เป็นเพนกวินประกันภัยออนไลน์ เราได้คำตอบจาก TIRESBID ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านยางรถยนต์และการดูแลรถยนต์ มาบอกเล่าไขข้อข้องใจให้ฟังครับ

เติมลมยางเท่าไหร่เราต้องรู้สิ่งเหล่านี้

1. สังเกตค่ามาตรฐานลมยางที่เหมาะสมกับรถยนต์คันนั้น ๆ

ถามว่า “ควรเติมลมเท่าไหร่ดี ?” คำตอบที่ดีที่สุดอยู่ในรถยนต์คุณครับ แนะนำให้สังเกต คำแนะนำการเติมลม ซึ่งจะแปะแจ้งใกล้ ๆ ประตูคนขับแทบทุกคันครับ มองหาสติกเกอร์สี่เหลี่ยมที่ระบุ ค่าการเติมลมหน่วย PSI (ปอนด์ตอนตารางนิ้ว) ซึ่งจะระบุชี้ชัดเลยว่า เราควรเติมลมทั้งล้อหน้าและล้อหลังเท่าไหร่ รถยนต์บางคันระบุละเอียดมาก ๆ เช่น ควรเติมลมเท่านี้เมื่อมีผู้โดยสารกี่คน หรือต้องเติมลมเท่าไหร่ดีหากจะบรรทุกของขึ้นหลังรถ 
ควรเติมลมเท่าไหร่ดี
ทำความเข้าใจเพิ่มจากภาพประกอบ : รถยนต์คันนี้จะต้องเติมลมล้อหน้าและล้อหลัง 33 PSI นั้นเอง ดังนั้น เซทเลขให้เป๊ะนะครับ

 

2. เติมลมให้ตรงกับคำแนะนำของรถแต่ละคัน

เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและมีสมรรถนะที่ดีที่สุดตลอดทั้งการเดินทาง เราจะต้องเติมลมให้ตรงกับคำแนะนำที่ติดอยู่ที่ข้างรถยนต์อย่างเคร่งครัด แต่ถ้าทำตามคำแนะนำของรถยนต์แล้วรู้สึกไม่ชอบ! ไม่ถูกใจ! เพราะยางรถยนต์แข็งเกินหรืออ่อนไป ทางไทร์บิดแนะนำว่า “สามารถบวกลบค่าเติมลมไม่ควรเกิน 3 PSI จะยังถือว่าเป็นค่าการเติมลมที่เหมาะสมกับรถยนต์ครับ” 
ควรเติมลมเท่าไหร่ดี
ย้ำเลยว่า ห้ามเติมลมมากกว่าหรือน้อยกว่า 6 PSI เพราะจะส่งผลเสียต่อยางรถยนต์และส่งผลร้ายโดยตรงกับสมรรถนะของรถยนต์สุดที่รักของคุณ

3. ไม่เติมลมยางน้อยเกิน

แน่นอนว่า ไม่ควรเติมลมยางน้อยเกิน หรือจอดรถยนต์ทิ้งไว้ปล่อยให้ลมยางอ่อนเกิน เพราะแรงดันลมยางที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลเสียต่อยางรถยนต์เป็นอย่างมากเลยครับ เช่น 

  • ยางรถยนต์จะรับน้ำหนักไม่ไหว
  • เสี่ยงต่อเหตุยางรถยนต์ระเบิด เนื่องจากแรงดันในยางที่น้อยเกิน ทำให้เกิดความร้อนภายในท้องยางสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเอง 
  • ยางรถยนต์เสื่อมไว มีอายุการใช้งานลดลงกว่าที่ควรเป็น
  • ยางรถยนต์อ่อนเกินจะทำให้การควบคุมทิศทางของรถยนต์ตอบสนองช้า จะเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวาก็ไม่เป็นดั่งใจหวัง เป็นสาเหตุให้รถยนต์เสียหลักแหกโค้งและท้ายปัดได้ครับ ถือว่าอันตรายต่อชีวิต และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนเลยล่ะ 

ควรเติมลมเท่าไหร่ดี

4. ไม่เติมลมยางเยอะเกิน

บางครั้งการเติมลมยางแบบอัดแน่น เติมแบบจัดเต็ม เติมลมยางสูง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเพราะยิ่งเติมลมมากเกินควร เมื่อคุณขับรถตกหลุมหรือขับชนกระแทกสิ่งของที่ร่วงหล่นบนถนน ยางรถยนต์ก็ยิ่งเสี่ยงเกิดเหตุแตกระเบิดได้ง่ายเลยล่ะ นอกจากนี้ การเติมลมเยอะเกินทำให้หน้ายางรถยนต์สัมผัสกับพื้นถนนน้อยลงตามลำดับ ส่งผลต่อการยึดเกาะถนนเป็นอย่างมาก
ควรเติมลมเท่าไหร่ดี
เรียนรู้กันแล้ว! รู้แล้วว่าควรจะต้องเติมลมรถยนต์แบบไหน เท่าไหร่ดี สามารถทำตามได้เลย รับรองว่า “ปลอดภัยตลอดการเดินทางแน่นอนครับ”   
ขอบคุณข้อมูลจาก : tiresbid.com
Rewrite by Butter Cutter
 ประกันรถยนต์

The post เซฟเงินง่าย ๆ ด้วยวิธีการเติมลมยาง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5-%e2%80%9c%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e2%80%9d-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5-%25e2%2580%259c%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e2%2580%259d-%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589 Fri, 30 Dec 2016 04:43:50 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1796 อ่านเร็วๆ 5 วิธีดูยางรถยนต์ของคุณ เติมลมยางให้พอดี สลับยางรถยนต์ เช็คลมยาง ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์ ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ สำหรับการขับรถนั้น การดูแล “ยางรถยนต์” คืออีกหนึ่งด้านของการดูแลรถยนต์ที่สำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมยางรถยนต์ให้อยู่กับเราได้นานๆ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแพงๆ แล้ว

The post 5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

5 วิธีดูยางรถยนต์ของคุณ

  • เติมลมยางให้พอดี
  • สลับยางรถยนต์
  • เช็คลมยาง
  • ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์
  • ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

สำหรับการขับรถนั้น การดูแล “ยางรถยนต์” คืออีกหนึ่งด้านของการดูแลรถยนต์ที่สำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมยางรถยนต์ให้อยู่กับเราได้นานๆ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแพงๆ แล้ว ยังมีในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วยครับ frank ขอเอาเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการดูแลยางรถยนต์มาฝากกันครับ

1. เติมลมยางให้พอดี

ในหนังสือคู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีบอกเสมอครับว่ารถยนต์รุ่นนั้นๆ ควรเติมลมยางเท่าไหร่ ยางหน้าเท่าไหร่ ยางหลังเท่าไหร่ ซึ่งปริมาณลมยางที่เหมาะสมนอกจากเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้อีกด้วยล่ะครับ แต่ถ้าหากไม่มั่นใจเรื่องขนาดลมยางจริงๆ ควรเติมให้ต่างจากปริมาณเดิม บวกลบไม่เกิน 1-4 ปอนด์เท่านั้นนะครับ

2. สลับยางรถยนต์

ยางรถยนต์ เมื่อใช้รถไประยะหนึ่ง ยางจะเกิดการสึกกร่อนเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะยางรถยนต์คือส่วนที่สัมผัสกับหน้าถนนในทุกๆ วัน เพราะฉะนั้น หากเราขับรถไปนานๆ และไม่ทำการสลับยางเลย จะทำให้ยางสึกกร่อนไม่เท่ากันตลอดทั้งเส้น เคล็ดลับก็คือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ของการใช้รถ ควรให้ช่างสลับยางครับ แต่ควรระวังในเรื่องของลมยางหน้า และลมยางหลังที่มักจะไม่เท่ากัน อย่าลืมปรับให้พอดีเพื่อความปลอดภัยด้วย

3. เช็คลมยาง

การเช็คลมยาง เช็คยิ่งบ่อย ก็ยิ่งดีครับ เพราะยางรถยนต์ของรถแต่ละรุ่น แต่ละขนาด จะมีความจุลมที่พอเหมาะพอควรเพื่อความปลอดภัยแตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้เช็คอาทิตย์ละครั้ง และให้เช็คลมยางขณะที่ยางรถยนต์เย็นเท่านั้นนะครับ หากพึ่งขับรถมาใหม่ๆ ยางจะมีความร้อน และทำให้ค่าไม่นิ่งและสูงกว่าปกติ ไม่เหมาะกับการหาค่าลมยางนั่นเอง

4. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์

ต่อมา เคล็ดลับการดูแลอีกข้อคือเรื่องของการถ่วงล้อรถยนต์ครับ การตั้งศูนย์ล้อ หรือถ่วงล้อนั้น คือการสร้างความสมดุลให้กับล้อรถยนต์ของเราครับ เพราะมิฉะนั้นล้อจะมีความสั่นสะเทือน ทำให้ยางเกิดการสึกเร็วกว่าปกติ พวงมาลัยสั่นเวลาขับรถ ควบคุมรถได้ยาก และอาจจะทำให้เกิดอันตรายขณะใช้รถใช้ถนนได้นะครับ ซึ่งปกติแล้ว เวลาที่เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทุกๆ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ก็จะต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อทันที หรือหากเวลาที่เพื่อนๆ เช็คระยะรถยนต์ จะให้ทางศูนย์เช็คด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
5. ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เพื่อการยืดอายุการใช้งานของยางของคุณให้ได้นานที่สุด และปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด ข้อสุดท้ายก็คือการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานครับ โดยหลักๆ จะมียางที่เหมาะกับการใช้รถใช้ถนนในเมือง ที่ขับกับถนนเรียบๆ และยางที่เหมาะกับการใช้งานหนักๆ ตามต่างจังหวัดที่อาจจะมีถนนขรุขระ หินคลุก ทางลูกรัง ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเป็นต้น ซึ่งเพื่อนๆสามารถปรึกษาได้ที่ร้านผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องยางได้เลยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ กับเคล็ดลับการดูแลรักษายางให้อยู่กับเราไปนานๆ ทั้ง 5 ข้อนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ข้อมูลจาก gobear.com,

The post 5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เปลี่ยนยางอะไหล่เอง ง่ายนิดเดียว!! ใน 8 ขั้นตอน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%87%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587-%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7 Sun, 20 Nov 2016 03:21:30 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1398 อ่านเร็วๆ จอดรถชิดขอบฟุตบาทแล้วเข้าเกียร์ P จอดสนิทข้างทาง เปิดสัญญานฉุกเฉิน หยิบยางอะไหล่ออกมาจากกระโปรง พร้อมตรวจเช็กสภาพยาง งัดฝาครอบยางออก หรือใช้ประแจหมุนน็อตออกถ้าเป็นล้อแม็กซ์ วางแม่แรงไว้ใต้จุดยกแม่แรง เสียบก้านหมุนแล้วหมุนจนล้อลอยพื้น คลายน็อตออกจากล้อ แล้วใส่ล้ออะไหล่เข้าไป ขันน็อตใส่ล้ออะไหล่เข้าที่เดิม แล้ว

The post เปลี่ยนยางอะไหล่เอง ง่ายนิดเดียว!! ใน 8 ขั้นตอน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

  • จอดรถชิดขอบฟุตบาทแล้วเข้าเกียร์ P จอดสนิทข้างทาง
  • เปิดสัญญานฉุกเฉิน
  • หยิบยางอะไหล่ออกมาจากกระโปรง พร้อมตรวจเช็กสภาพยาง
  • งัดฝาครอบยางออก หรือใช้ประแจหมุนน็อตออกถ้าเป็นล้อแม็กซ์
  • วางแม่แรงไว้ใต้จุดยกแม่แรง เสียบก้านหมุนแล้วหมุนจนล้อลอยพื้น
  • คลายน็อตออกจากล้อ แล้วใส่ล้ออะไหล่เข้าไป
  • ขันน็อตใส่ล้ออะไหล่เข้าที่เดิม
  • แล้วขับรถไปร้านปะยาง เพื่อนำยางรั่วแบนไปซ่อม

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเจอเหตุการณ์ขับรถแล้วเจอยางแบนมาก่อน ก็คงรู้อยู่ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ โดยเฉพาะถ้ายางเกิดแบนตอนที่กำลังรีบ เพราะต้องเสียเวลาจัดการเปลี่ยนยางอะไหล่ ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง หรือคนที่ไม่เคยเปลี่ยนยางเอง ก็ต้องโทร. เรียก ช่างมาช่วยจัดการให้ ทำให้เสียเวลารออีก กว่าช่างจะเดินทางมาถึง หรือถ้าช่างไม่มา ทำเองก็ไม่เป็น วันนี้เรามาดูขั้นตอนง่าย ๆ ในการเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองกันดีกว่า รู้เทคนิคคร่าว ๆ ไว้ก่อนนะครับ ถ้าเจอเหตุฉุกเฉินจะได้แก้ปัญหาได้
แม่แรงเปลี่ยนยาง

1. จอดรถข้างทาง

ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนยางรถยนต์ คุณต้องแน่ใจว่าได้จอดรถให้ชิดขอบฟุตบาท หรือขอบถนนให้มากที่สุด และจอดในพื้นราบ ไม่ได้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่อย่างนั้นแล้ว รถของคุณอาจไหลมาทับคุณแบนได้ ขณะที่กำลังเปลี่ยนยางอยู่ก็ได้ ดีที่สุดคือต้องเลื่อนเกียร์ไปไว้ที่ P และดึงเบรกมือเพื่อเป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง หากยังกลัวรถจะเลื่อนมาทับตัวเองให้ลองหาก้อนหินมาขัดไว้ที่ล้อรถข้างที่ไม่ได้เปลี่ยนยาง

2. ตั้งป้ายฉุกเฉิน/เปิดไฟผ่าหมาก

หากจำเป็นต้องเปลี่ยนยางในที่มีรถยนต์อื่น ๆ สวนไปมา ให้เปิดสัญญาณฉุกเฉิน และตั้งป้ายฉุกเฉินเพื่อเตือนด้วย จะได้ไม่มีรถยนต์วิ่งมาเสยคุณในขณะที่ก้มหน้าก้มตาเปลี่ยนยางรถยนต์อยู่

3. เตรียมอุปกรณ์

เปิดกระโปรงท้ายรถยนต์เพื่อหยิบยางอะไหล่ออกมา พร้อมกับอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเปลี่ยนยางอื่นๆ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์จะให้มาพร้อมกับรถอยู่แล้ว โดยยางอะไหล่นั้นอาจจะต้องมีการออกแรงงัดขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นจึงตรวจเช็กให้ดีเสียก่อนว่ายางอะไหล่ของคุณมีลมเต็มหรือเปล่า

4. ค่อย ๆ ถอดชิ้นส่วน

หากรถคุณมีฝาครอบล้อหรือกระทะล้อที่เป็นโลหะ ให้งัดฝานั้นออกก่อน แต่ถ้าล้อรถคุณเป็นล้อแม็กซ์ ให้ถอดน็อตที่ยืดล้อแม็กซ์ออกก่อน โดยใช้ประแจหมุนน็อตทวนเข็มนาฬิกาทีละตัว

5. บรรจงถอดล้อ

เมื่อน็อตเริ่มหลวมแล้ว ให้วางแม่แรงไว้ใต้จุดยกแม่แรงที่กำหนดไว้ (ใกล้ๆ ล้อที่ยางแบน) เสียบก้านหมุนแม่แรงเข้าไปในรูเพื่อหมุนแม่แรงขึ้น ให้หมุนจนรถยกขึ้นและล้อลอยเหนือพื้น

6. เตรียมล้ออะไหล่ใส่แทนที่

คลายน็อตที่ล้อออกให้หมดทุกตัวแล้วจึงถอดล้อรถออก วางล้อเก่าไว้ใต้รถ ข้างๆ แม่แรงเพื่อป้องกันรถตกลงมาจากแม่แรง แล้วจึงใส่ล้ออะไหล่เข้าไปแทนที่

7. ประกอบกลับที่เดิม

นำน็อตเข้าไปใส่ในที่เดิม แล้วค่อย ๆ ขันทีละตัวจนครบ ขันน็อตตัวไหนก่อนก็ได้ แต่น็อตตัวต่อไปต้องขันในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเสมอ

8. นำยางรั่วไปซ่อม

เสร็จแล้วจึงเก็บข้าวของ เท่านี้คุณก็จะสามารถขับพารถไปเข้าร้านปะยางได้แล้ว
เปลี่ยนยาง
เห็นหรือเปล่าว่าการเปลี่ยนยางอะไหล่ ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คุณคิด แต่ทางที่ดีก่อนออกจากบ้านควรตรวจดูให้ดีก่อนว่ายางรถยนต์ของเรามีการรั่วซึมอยู่หรือเปล่า แล้วอย่าลืมตรวจเช็กลมของยางอะไหล่อย่างน้อยเดือนละครั้งนะครับ คราวนี้รถจะไปยางแบนที่ไหนก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ
ข้อมูลจาก: grandprix.co.th
grandprix_logo_black

The post เปลี่ยนยางอะไหล่เอง ง่ายนิดเดียว!! ใน 8 ขั้นตอน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>