เริ่มต้นเช้าวันทำงานอย่างร่าเริงแจ่มใส เตรียมจะขับรถออกไปทำงาน แต่รถสตาร์ทไม่ติดซะงั้น เอาล่ะรถสตาร์ทไม่ติดทำไงดี? รถเสียตรงส่วนไหนกันเนี่ย?! เพนกวินว่าหลายๆ คนก็คงเคยเจอกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะรถยนต์ที่จอดอยู่กับบ้านแบบนานๆ ถ้าเรามีคนให้ความช่วยเหลือหรือสามารถเรียกช่างมาช่วยดูให้ที่บ้านก็ดีไป .แต่คงมีค่าบริการเยอะอยู่หน่อยครับ ซึ่งที่จริงเราสามารถหาสาเหตุของการสตาร์ทรถไม่ติดได้ด้วยตัวเอง มาลองบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ และฟังเสียงเครื่องยนต์ดูครับว่าทำได้ยังไงนะ

บิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์เงียบๆ มีเสียงดังแชะๆ

มาเริ่มกันจากเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบมีแต่เสียงแชะๆ กันก่อน ด้วยความที่เครื่องยนต์เงียบ ลองดูที่หน้าปัดด้วยครับว่าไฟขึ้นไหม ถ้าไม่ก็น่าจะคาดเดาได้ว่ากำลังไฟของรถน่าจะมีปัญหาซึ่งก็คือ แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพ  นั่นเอง

อาการรถสตาร์ทติดยาก สามารถสังเกตได้ล่วงหน้า เช่น รถสตาร์ทไม่ติด มีเสียงแชะนานขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เครื่องยนต์จะติด ซึ่งก็เป็นไปได้ที่น่าจะเกิดจากไดร์สตาร์ทเสื่อมสภาพ ก็คือ เครื่องยนต์มักจะดับเองในขณะที่รอบต่ำ หรือขับไปดีๆ แล้วเครื่องยนต์เกิดดับไปเอง

หากปัญหารถสตาร์ทไม่ติดมาจากแบตเตอรี่เสื่อม แนะนำให้ให้ลองพ่วงเเบตเตอรี่รถยนต์กับคันอื่นที่มีเเบตเตอรี่อยู่ จะช่วยแก้ปัญหารถสตาร์ทติดยากได้ครับ แต่ถ้าคุณยังสตาร์ทรถไม่ติด แนะนำให้เปลี่ยนเเบตเตอรี่ใหม่ดีกว่า

บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ และมีเสียงสตาร์ท

แบบที่สองใกล้เคียงแบบแรกเลยครับ แต่มีเสียงหมุนของเครื่องยนต์ด้วย ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด  น่าจะเกิดจากแบตเตอรี่กำลังไฟเริ่มอ่อน หรือจะเป็นที่การทำงานของไดสตาร์ทผิดปกติ วิธีนี้แก้ไขให้ขับไปก่อนได้ ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาให้เข้าเกียร์สองแล้วออกแรงเข็นกันหน่อย ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว

แต่ถ้าเป็นรถสตาร์ทไม่ติด เกียร์ออโต้ ให้ลองใช้สายจั้มแบตเตอรี่จากรถยนต์คันที่มีประจุไฟในแบตเตอรี่ ก็จะแก้ปัญหาเรื่องรถสตาร์ทไม่ติดได้ เมื่อเครื่องติดแล้วมาสังเกตหน่อยครับว่าไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัดในรถสว่างขึ้นรึเปล่า ถ้ามันสว่างขึ้นมาก็ไปเข้าศูนย์โดยด่วนเพื่อตรวจสอบไดชาร์ท เพราะปัญหารถสตาร์ทไม่ติด อาจจะเกิดจาก ไดชาร์จหมดอายุงานใช้งาน  ส่งผลให้รถสตาร์ทติดยากนั่นเอง

บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็ว แต่เครื่องไม่ติด 

หลายคนอาจคิดว่ารถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากแบตเตอรีหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องยนต์หมุน ไม่มีเสียงสตาร์ทรถ อาจเกิดจากตัว เครื่องยนต์มีปัญหา

ทั้งนี้สามารถตรวจเบื้องต้น ด้วยการพ่วงแบตเตอรี่กับรถยนต์คันอื่นดูก่อน ถ้านิ่งสนิทอาจต้องพารถไปเข้าศูนย์ซ่อม เพื่อให้ช่างตรวจสอบการทำงานของระบบเครื่องยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการสตาร์ทรถ มอเตอร์สตาร์ท หรือ ระบบไฟของรถยนต์ บางทีอาจมีหนูเข้ามากัดสายไฟขาดทำให้ไฟฟ้าในรถเสียหาย ทำให้สตาร์ทรถไม่ติดได้ อันนี้คงต้องติดต่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาจัดการเอง

วิธีแก้ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด หรือ รถสตาร์ทติดยาก ที่แนะนำทั้งหมดนี้ หวังว่าจะช่วยให้เราสามารถสรุปอาการรถสตาร์ทไม่ติดเบื้องต้นได้ก่อนที่จะโทรเรียกช่าง อย่างน้อยๆ เราก็จะได้เข้าใจว่ารถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เผื่อจะได้เตรียมตัวติดต่อที่ศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมรถใกล้บ้านของคุณด้วย

The post รถสตาร์ทไม่ติด ให้ลองทำแบบนี้ดูก่อน! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.