1. การบำรุงดูแลรักษารถยนต์

เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่นำรถเข้าอู่ เช็กระยะ และตรวจสภาพรถเบื้องต้น แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลานำรถไปเข้าอู่ สามารถเช็กได้ตามขั้นตอนนี้

• เช็กแบตเตอรี่ ตรวจสภาพแบตเตอรี่ และน้ำกลั่นให้อยู่ระดับที่กำหนด หรือเช็กจะว่าแบตเตอรี่ใกล้เสื่อมหรือยัง อยากรู้วิธีเช็ก อ่านต่อที่นี้ th.carro.co/blog/car-battery
• เช็กลมยาง ควรเช็กขณะที่รถยังไม่ได้ใช้งาน ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติ ควรตรวจสอบก่อนว่า มีตะปูตำ หรือมีรอยบาดไม่ ดูสภาพยางด้วยตา ดูที่ผิวยางว่ามีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่ หรือถ้าดอกยางมีการสึกมาก ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่
• เช็กระดับน้ำมันเครื่อง อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วค่อยดับเครื่อง และเช็กระดับน้ำมันเครื่อง โดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง
• เช็กระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่าง ๆ เปิดไฟทั้งหมด ดูว่าทำงานตามปกติหรือไม่ มีหลอดไฟไหนไม่ติดหรือไม่ ถ้าพบว่ามีไฟหลอดไหนไม่ติด ควรเปลี่ยนให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน

2. จัดระเบียบภายในรถ

หลายคนอาจลืมดูแลรถของตัวเองไป ดังนั้น ไหน ๆ ก็ตรุษจีนปีใหม่แล้วได้ฤกษ์เก็บกวาด และจัดระเบียบข้าวของภายในรถครั้งใหญ่ไปเลย ซึ่งเริ่มต้นจากเก็บของที่ไม่จำเป็นออกไป และอะไรที่ไม่ใช้แล้ว ก็นำไปทิ้ง ถ้าอยากให้เป็นระเบียบมากขึ้น ก็หาอุปกรณ์เสริมมาใส่ไว้ในรถ เช่น กล่อง หรือตะกร้า ที่มีฝาปิดใส่สัมภาระของคุณได้
หลังจากเคลียร์ของแล้ว ก็ดูดฝุ่นสักหน่อย หรือถ้าใครไม่มีเครื่องดูดฝุ่น หรือไม่อยากทำเอง ก็ไปเข้าร้านล้างรถที่มีบริการดูดฝุ่นให้ เพียงเท่านี้ก็สะอาดเอี่ยมอ่องแน่นอน และช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วย

3. ล้างรถ

ถ้าใครไม่อยากเสียเงินเอารถไปล้างที่ร้านอัดฉีด หรือร้านล้างรถ ก็สามารถทำความสะอาดรถด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน และแนะนำว่าไม่ควรล้างรถกลางแดด เนื่องจากแสงแดดจะทำให้น้ำ และน้ำยาแห้งเร็วจนเช็ดรถไม่ทัน อาจทำให้เกิดคราบบนสีผิวรถได้ รวมถึงทำให้คนล้าง อาจจะเป็นลมแดดจนหน้ามืดซะก่อน เพราะอย่างที่รู้กันว่า แดดเมืองไทยร้อนแรงขนาดไหน ฮาๆ
ดังนั้น ควรล้างรถในที่ร่ม และใช้วิธีเช็ดหรือเป่ารถให้แห้งหลังจากล้างเสร็จ เพื่อป้องกันความชื้นและสนิมนะจ๊ะ

4. ขายรถเพื่อซื้อคันใหม่

ข้อนี้อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆ คน คงต้องเป็นจังหวะชีวิตพอดีที่อยากจะเปลี่ยนรถคันใหม่ ด้วยเหตุผลประกอบการซื้อหลาย ๆ ข้อ เช่น รถเล็กไปสำหรับครอบครัว, รถเก่ามากแล้ว อยากเปลี่ยนรถใหม่, รถใหม่มีคุณสมบัติล่อตาล่อใจ และอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญเลย ก่อนจะซื้ออยากให้คิดให้รอบคอบที่สุด และคำนวณเงินในกระเป๋าให้ดีตลอดการผ่อนรถใหม่ เพราะระยะการผ่อน มันไม่ใช่แค่ 10 เดือน หรือ 1 ปี
เอาล่ะ ถ้าใครตัดสินใจจะซื้อรถคันใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะขายรถคันเก่าที่ไหน สามารถมาขายได้ที่นี่นะคะ> (th.carro.co/sell-car/express) รวดเร็ว และรับรองได้เงินไปดาวน์รถคันใหม่ ทันตรุษจีนแน่นอนจ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก Carro
Rewrite by Butter Cutter

The post ตรุษจีนปีนี้ มาอัพเกรดรถคันเก่าให้เป็นคันใหม่ด้วย 4 วิธีนี้ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เรียนรู้เรื่องเบรคเพิ่มความปลอดภัย

เบรคนั้นสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการดูแลรักษารถยนต์เลยนะครับ เพราะรถยนต์ต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็วจึงจะถึงที่หมายและเราต้องหยุดที่จุดหมายให้ได้อย่างปลอดภัยด้วยนะครับ เราถึงมีคำว่าเดินทางอย่างสวัสดิภาพซึ่งก็คือเดินทางปลอดภัยนั่นเอง ยิ่งถ้าทำประกันรถไว้ด้วยยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
เวลาขับรถเคยมีใครสังเกตเสียงต่างๆ เวลาขับรถหรือเปล่าฮะ? Frank เคยขับแล้วได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ เวลาที่เหยียบเบรคหรือชะลอความเร็ว วันรุ่งขึ้นรีบโทรนัดศูนย์บริการเพื่อเอารถเข้าตรวจสอบทันที เพราะการใช้เบรคนั้นสำคัญเท่าชีวิตกับเลย ว่าแต่เสียงหรืออาการต่างๆ ที่เราได้ยินนั้น มันบ่งบอกถึงอะไรบ้างล่ะ มาดูรายละเอียดกันครับ   

การทำงานที่ผิดปกติของเบรค

มาเริ่มจากอาการผิดปกติต่างๆ ของเบรคกันก่อนเลยครับ

1. เบรคแล้วมีเสียง

ไม่ว่าจะเริ่มจากเสียงเอี๊ยดๆ อี๊ดๆ หรือจะเป็นเสียงเหมือนโลหะครูดกันก็ตาม นั่งคือสัญญาณเตือนของผ้าเบรคกับจานเบรคที่น่าจะเกิดการเสียดสีกันจนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาแต่เราก็ไม่ควรซ่อมเองนะครับ เอารถไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโดยตรงดีกว่า เพียงแต่เราต้องเล่าอาการให้ช่างทราบหรือได้ยินเสียงด้วยตอนขับยิ่งดี เพื่อการหาสาเหตุให้ตรงจุดที่สุดครับ

2. เบรคแล้วรถลอยหรือสั่น

แบบที่สองเมื่อเราเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่ารถลอยๆ หรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือเหยียบแล้วรู้สึกได้ถึงความสั่นทั้งจากแป้นเบรคหรือจะสั่นขึ้นมาจนถึงพวงมาลัยก็ตามแต่ นั่นแสดงว่าเรากำลังเจออาการเบรคเฟดหรือเริ่มเบรคไม่อยู่ที่ความเร็วสูง งานนี้ควรให้ช่างตรวจสอบน้ำมันเบรคและจานเบรคด่วนๆ เลยครับ และอาการที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากที่เราขับรถไปลุยน้ำมาก็ได้นะครับ

3. เบรคไม่ค่อยอยู่

ไม่ว่าจะเป็นเบรคตื้อ คือเบรกแข็งต้องใช้แรงมากกว่าปกติ หรือเบรคต่ำ คือเหยียบเบรคแล้วจมมากกว่าปกติก็ตามอาการเหล่านี้กำลังบอกเราว่ารถของคุณกำลังมีปัญหาที่ลูกยางแม่ปั้นเบรค หม้อลม หรือปั้มไดชาร์จ วาล์ว และสายลม โอ...ศัพท์เทคนิคล้วนๆ เอาเป็นว่ารีบนำรถยนต์เข้าตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในทันทีนะครับ

4. เบรคแล้วมีกลิ่นไหม้

เรื่องนี้เราได้เคยแนะนำเรื่องการขับรถขึ้นลงเขาว่าอาการนี้มักจะเกิดกับรถเกียร์ออร์โต้ หรือคนขับรถที่ขับขึ้นลงเขาแล้วแช่เบรคจนเกิดปัญหาเบรคติดจนเกิดเบรคไหม้ตามมาในที่สุด อาการสังเกตง่ายมากครับ กลิ่นไหม้ มาก่อนเลย บางคันอาการหนักหน่อยก็จะมีควันลอยขึ้นมาด้วยจากกระโปรงหน้ารถให้ตื่นเต้นด้วย เพราะงั้นตอนขับรถพยายามหลีกเลี่ยงการเหยียบเบรคแช่นะครับ อาการนี้ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั้มเบรคให้ครับ

5. สัญญาณไฟเบรคเตือน

สัญญาณเตือนขึ้นแล้วแสดงว่าเราน่าจะเข้าขั้นโคม่ากันแล้ว อย่ารอให้ถึงขั้นเบรคแตกก่อนแล้วค่อยเอารถไปตรวจสอบเลยนะครับ ส่วนอาการเบรคแตกนั้นก็จะคล้ายๆ ในละครที่เราเคยดูกันมาเลย คือเมื่อเราเหยียบเบรคจนแป้นเบรคชนพื้นรถแล้วความเร็วไม่ลดลงเลยซึ่งเราไม่อยากให้ใครได้เจออาการนี้เลยครับ ส่วนการตรวจสอบสัญญาณไปเบรคเตือนนั้น คือตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อเช็คระบบเบรคอย่างละเอียดเป็นการดีที่สุดครับ    

หลังจากเรียนรู้เสียงเบรคบอกอะไรเราแล้ว การขับและเบรคอย่างมีสติก็ช่วยให้เราถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยนะ 🙂

The post เสียงเบรคบอกอะไรเราบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.