ประโยคคำถามยอดฮิตในตม. พร้อมแนวคำตอบ

เวลาจะผ่านตม.เกาหลี ถ้าคุณโดนกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเรียกพบ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตาม ขอย้ำว่า! อย่าตื่นตกใจไปเชียวนะ เพราะทางเจ้าหน้าที่จะคิดว่าคุณไปทำอะไรผิดมา เพียงแค่คุณเตรียมรับมือกับคำถาม และตอบไปตามความจริงเท่านั้น  ก็จะช่วยให้คุณไม่ถูกส่งตัวกลับไทย ว่าแล้วคำถามที่พบบ่อยมีอะไรบ้างนะ เราลองมาลิสทั้งภาษาไทย และอังกฤษกันเถอะ

1. Where are you from (คุณมาจากประเทศอะไร)

แนวคำตอบ: ถือเป็นคำถามคลาสสิกเลย เพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องการทราบว่า คุณมาจากประเทศอะไร หากคุณเป็นคนไทยให้ตอบว่า Thailand บอกเพียงแค่ชื่อประเทศก็พอ

2. What’s the purpose of your visit? (วัตถุประสงค์อะไรที่คุณมาเยือนที่นี่)

แนวคำตอบ: ให้ตอบตามความจริง หากคุณเดินทางเพื่อมาเที่ยวก็ตอบว่า Travel หรือมาเยี่ยมคนรู้จักอย่างเช่นเพื่อนก็ตอบว่า visit my friends หรือพ่อแม่ก็ตอบว่า visit my parents หรือใครก็ว่าไป แต่กรณีที่คุณมาทำงานหรือทำธุรกิจก็ตอบว่า work, business นั่นเอง ส่วนถ้ามาเดินทางเพื่อมาเรียนต่อต่างประเทศ ก็ตอบว่า Study ง่ายๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจได้

3. Is this your first time here? (มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่า)

แนวคำตอบ: หากคุณมาเยือนที่นี่เป็นครั้งแรก ก็ให้ตอบว่า Yes แค่นั้นก็ได้ แต่ถ้าคุณเคยเดินทางมาแล้วหลายครั้งก็อาจจะตอบว่า  first time, second time, third time หรืออาจจะบอกเป็นตัวเลขตามปกติ ไม่ก็ใช้ภาษานิ้วมือเป็นตัวช่วย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจมากขึ้น

4. Are you travelling alone? or with someone? (คุณมาคนเดียวหรือมากับใคร)

แนวคำตอบ: สมมติว่าคุณเดินทางมาเที่ยวคนเดียว ก็ตอบว่า Alone สั้นๆ ก็ได้นะ แต่ถ้ามากับเพื่อนก็ตอบว่า with my friend หรือถ้ามากับครอบครัวก็บอกว่า with my family แล้วก็รอเข้าแถวพร้อมกันตามคิว

5. Where will you be staying? (คุณจะพักที่ไหนล่ะ)

แนวคำตอบ: เพียงแค่บอกชื่อที่พักอาศัยของคุณให้กับทางเจ้าหน้าที่ เช่นชื่อโรงแรม ชื่อเมือง แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ขอดูที่อยู่ด้วย ก็อาจจะต้องหยิบเอกสารที่พัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเท่านั้น

6.  Where do you plan to go? (คุณวางแผนไปเที่ยวที่ไหน)

แนวคำตอบ: อันนี้ก็ให้ตอบสถานที่ หรือชื่อเมืองที่คุณจะไปเที่ยว แต่กรณีที่ยังคิดไม่ออกจริงๆ แฟรงค์แนะนำให้บอกชื่อเมืองที่คุณจะไปอาศัยอยู่ก็ได้

7.  How long will you be staying? (คุณจะมาอยู่นานแค่ไหน)

แนวคำตอบ: บางครั้งทางเจ้าหน้าที่อาจจะถามว่า เราเดินทางมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน เป็นจำนวนกี่วันกี่เดือน ก็ให้ตอบตามความจริงเลย เช่น Five days (7 วัน) หรือ One month (1 เดือน) เป็นต้น

8. What do you do? (คุณทำอาชีพอะไร)

แนวคำตอบ: ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสุ่มคำถามด้วยว่า คุณทำอาชีพอะไรอยู่ตอนนี้ ก็ให้ตอบชื่ออาชีพตามความจริง อย่างเช่น  I’m a teacher (คุณครู) I’m a doctor (คุณหมอ) หรือถ้ากำลังเรียนอยู่ก็ให้บอกว่า I’m a student นั่นเอง แต่กรณีที่คุณแพลนจะมาทำงานในต่างประเทศ ก็อย่าลืมเช็กประเภทของวีซ่าให้ดีด้วยนะ

9. Do you plan to work here? (คุณวางแผนจะมาทำงานที่นี่ไหม)

แนวคำตอบ: กรณีที่คุณแพลนมาเที่ยวเฉยๆ ก็ตอบว่า No ไปเลย ถ้าเลือกตอบว่า Yes อาจจะโดนสอบสวนยาวแน่ๆ แต่ถ้าเเพลนจะมาทำงานอยู่แล้ว แนะนำให้ตอบตามตรงกับวีซ่าทำงานที่คุณได้รับ

10. How much money are you bringing? (คุณพกเงินติดตัวมาเท่าไหร่)

แนวคำตอบ: ทราบหรือไม่ว่า? ในบางประเทศจะให้นำเงินติดตัวไม่เกินกำหนดด้วยนะ สมมติว่าถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวไทยต้องการไปเยือนอังกฤษ จะกำหนดให้นำเงินติดตัวได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และต้องแสดงรายการเงินตราต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรขณะผ่านด่านศุลกากรด้วย (กรณีเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ) ซึ่งอัตราการนำเงินติดตัวไปต่างประเทศจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างประเทศด้วย

เมื่อตอบคำถามเสร็จแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะให้คุณถ่ายรูป หรือกรณีผ่านตม.เกาหลีจะมีแสกนนิ้วเป็นหลักฐาน หลังจากนั้นทางตม.เกาหลีจะปริ้นใบวีซ่าเล็กๆ คล้ายกับใบเสร็จมาให้ หรือบางประเทศก็เลือกแสตมป์วีซ่าให้ด้วย ซึ่งเป็นขั้นตอนทั่วไปของด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่บางคำถามอาจจะไม่เหมือนกันนะ พยายามจับประเด็นคำถามแต่ละคำให้ได้ พร้อมกับเตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน  เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องผ่านตม.ได้อย่างง่าย แล้วอย่าลืมแต่งกายให้สุภาพ เรียบร้อย และมีความมั่นใจกันด้วยนะ จะได้ไม่ตื่นเต้นนั่นเอง

ถ้าอยากให้ทริปของคุณสนุกมากขึ้น ซื้อประกันเดินทาง กับ bolttech.co.th ให้ช่วยคุ้มครองคุณขณะท่องเที่ยว เช่น ค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินดีเลย์ กระเป๋าเดินทางสูญหายหรือเสียหาย พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลืออีกด้วย เที่ยวแบบไม่ต้องกังวลเลย

The post คำถามที่พบบ่อยในตม. พร้อมวิธีตอบให้ผ่านฉลุย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเดินทาง

หลังจากได้ทริปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวงบน้อยและอย่างที่บอกว่าต้องเดินทางคนเดียว เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพให้พร้อม ได้แก่

• กล้องถ่ายภาพที่คุณมี ยิ่งสมัยนี้มีกล้องแบบพับจอ LCD ด้านหลังได้แล้วยิ่งใช้งานง่าย หรือสมาร์ทโฟนของคุณ
• แบตเตอรี่สำรอง หากต้องเที่ยวพิกัดหนาวยิ่งต้องเตรียมไปเพราะแบตหมดเร็วมาก
• ขาตั้งกล้องที่ขนาดเหมาะสม จะเลือกแบบขาเดียว (Monopod) หรือขาตั้งกล้องแบบสามขา (Tripod) ก็ได้ตามความชอบ เดี๋ยวนี้มีขาตั้งกล้องเล็ก ๆ ใช้งานง่ายให้เลือกเพียบเลย อย่างไรก็ดี ต้องเช็กก่อนนะ เพราะบางสถานที่อาจไม่อนุญาตให้นำขาตั้งกล้องเข้านะครับ 
• หรือถ้าไม่อยากแบก แนะนำให้ DIY วางกล้องบนกระเป๋า หรือวางกล้องตามสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องใช้ทักษะเอาตัวรอดพอสมควร อิอิ
• หากมีรีโมทช่วยถ่ายภาพจะดีมาก เพราะถ้าใช้โหมดจับเวลาอาจจะต้องวิ่งไปมาทำให้หน้าเยิ้ม
• ถ้ากล้องของคุณเชื่อมต่อกับมือถือได้ยิ่งดี เพราะจะถ่ายภาพง่ายขึ้น 
• สำหรับใครที่เลือกใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพ อาจจะต้องเลือกเคสมือถือที่สามารถวางได้ง่าย ๆ มีขาตั้ง หรือเตรียมขาตั้งมือถือขนาดเล็กไปด้วยก็ดี 

หากเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกอย่างครบพร้อม เราก็เตรียมแพคกระเป๋าหรืออ่านจัดกระเป๋าเดินทางยังไงไม่ให้เฟลได้จ้ะ 

2. หามุมมองที่ใช่และถูกใจ

เมื่อมาถึงสถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนว่า คุณจะต้องมองหามุมที่ใช่ เซทกล้อง และบริเวณถ่ายภาพให้ได้ระยะ แนะนำให้เล็งมุมมองไว้เลยว่า “ฉันจะถ่ายตรงนี้” แนะนำให้คุณเทสจากการถ่ายภาพทิวทัศน์ก่อน แล้วค่อยพาตัวเองไปอยู่ในจุดเหมาะสม อิอิ เราก็จะได้รูปเดี่ยวแบบเต็มตัวที่เราต้องการ

3. เลือกโลเคชั่นปลอดภัย

เที่ยวคนเดียวถ่ายรูปยังไงนอกจากมองหามุมมองที่ใช่ เราจะต้องดูพื้นที่ปลอดภัยด้วยนะครับ ห้ามวางกล้องในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการสูญหายมาก ๆ แนะนำ วางกล้องในระยะที่เรามองเห็น เดี๋ยวแฟรงค์ขอแนะนำเพิ่มอีกหน่อยนะ

วิธีถ่ายรูปตัวเองเที่ยวคนเดียวด้วยกล้อง

• เตรียมตั้งกล้อง เซทแสงให้เป๊ะ  
• กรณีมีรีโมทหรือกล้องสามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ ก็สามารถเดินตรงปรี่ไปอยู่หน้ากล้องได้ทันที
• หากเป็นสายวิ่ง ไม่อยากซื้ออุปกรณ์เพิ่ม กล้องเชื่อมต่อมือถือไม่ได้ และชอบความตื่นเต้น สามารถตั้งเวลากล้องและวิ่ง! เข้าหน้าเฟรมได้เช่นกัน

วิธีถ่ายรูปตัวเองเที่ยวคนเดียวด้วยมือถือ

การใช้มือถือถ่ายภาพมีข้อดีคือ “ง่ายไม่ยุ่งยาก โพสต์ลงโซเชียลได้ทันที” ยิ่งเดี๋ยวนี้มือถือมีระบบสั่งให้ถ่ายภาพได้เอง แค่ยกมือ หรือโบกมือก็ถ่ายให้ล่ะ หรือจะตั้งเวลาเหมือนกล้องก็ได้ครับ ควรใส่เคสที่มีขาตั้งจะได้วางในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น นักท่องเที่ยวลุยเดี่ยวอาจจะต้องเผื่อเวลาเดินทางหน่อยเนาะ จะได้หามุมถ่ายภาพตัวเองสวย ๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศได้อย่างสบายใจ เก็บความประทับใจได้ด้วยตัวเอง แบบไม่ง้อใครทั้งนั้น อิอิ 

4. เตรียมท่าโพสต์ให้ดี

เรียนรู้เทคนิคถ่ายภาพเที่ยวคนเดียวถ่ายรูปยังไงแบบฉบับเบสิคแล้ว วิธีถ่ายรูปตัวเองเที่ยวคนเดียวไม่ให้เสียเวลาเที่ยว คือ ต้องเตรียมท่าโพสต์ไว้เลยครับ คิดไว้ก่อนเลยว่า จะทำท่าแบบไหน จะทำหน้ายังไง จะมองกล้อง หรือจะถ่ายแบบไหน เลือกตามใจ ตามความชอบ ตามสไตล์ของคุณ แอ็คชั่นให้เต็มที่แบบไม่ต้องเขินตากล้อง! แต่ต้องระวังมิจฉาชีพวิ่งราวจิ๊กกล้องของเราได้นะครับ
เรียนรู้วิธีถ่ายรูปตัวเองเที่ยวคนเดียวแล้ว หากจะฉายเดี่ยวเที่ยวแบ็คแพคออกคนเดียวก็อย่าลืมทำประกันเดินทางไว้ด้วยล่ะ เที่ยวบ่อยจะทำแบบรายปี หรือเที่ยวนาน ๆ ทีจะเลือกรายเที่ยวจะทำแบบไหนก็รับความคุ้มครองตลอดทั้งทริปครับ ตอนนี้มีเปรียบเทียบเบี้ยประกันได้แล้วนะ สะดวก สบายกว่าเดิมเยอะ เลือกความคุ้มครองที่ใช่ได้เองด้วยนะ
Content by Butter Cutter

The post เที่ยวคนเดียวถ่ายรูปยังไงให้เหมือนมีคนถ่ายให้ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ล่าสุด เราจะได้เห็นข่าวคราวจากหลายสื่อที่ตีพิมพ์ข่าวกันคึกโครมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 เช่นสำนักข่าวมติชนรายงานว่า “รัฐบาลไทยขอนายกฯ นิวซีแลนด์ พิจารณายกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย” สรุปเนื้อหาข่าวตรง ๆ เลยก็คือ รัฐบาลขอยกเว้นวีซ่าให้คนไทยเที่ยวนิวซีแลนด์ได้เพียงแค่มีพาสปอร์ตอ่ะแหละ และในวันเดียวกันฐานเศรษฐกิจรายงานเสริม “นายกนิวซีแลนด์” รับปาก “บิ๊กตู่” ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทย 

แม้จะได้ข้อสรุปว่า “ทางการนิวซีแลนด์ยังให้ฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวไทยไม่ได้” 

แต่ถ้าคุณกำลังจะเที่ยวนิวซีแลนด์ Frank.co.th มีข้อมูลเปิดโลกกว้างเบื้องต้นที่ช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวนิวซีแลนด์แดนกีวีดีหรือไม่ !?

1. เที่ยวนิวซีแลนด์มีให้เลือกทั้งเกาะเหนือ เกาะใต้

ไม่เบื่อแน่นอนจ้ะ เพราะที่เที่ยวนิวซีแลนด์เนี้ยะมีทั้งฟาร์ม ถ้ำ น้ำตก ธารน้ำแข็ง โดยพื้นที่ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์นั้น แบ่งเป็น

• เกาะเหนือ (North Island) เริ่มเที่ยวในเมืองใหญ่ที่สุดอย่างโอ๊คแลนด์มีทุกอย่างอยู่ที่นี่ทั้งคาสิโนและสวนสัตว์, เมืองเวลลิงตันมีสวนสัตว์เก่าแก่และพิพิธภัณฑ์, เมืองโรโตรัวเที่ยวแบบพักผ่อนสปา 
• เกาะใต้ (South Island) เช่น พิกัดเมืองเก่าแก่อย่างไครท์เชิร์ท เที่ยวเมืองดะเนดินโลเคชั่นของมหาวิทยาลัยชื่อดัง

จะพิกัดไหนก็น่าเที่ยวทั้งนั้น เอาเป็นว่า เล่าพอเป็นตัวอย่างให้เข้าใจ หากกระแสดีจะมีมาเล่าอีกนะจ้ะ 

2. สัมผัสธรรมชาติเต็ม ๆ

“ถ้าคุณเป็นคนรักเขา ลองมารักเราไหม” หน่อว์! ยิงมุกก่อนเข้าประเด็น (555+) จะบอกว่า การมาเที่ยวนิวซีแลนด์เนี้ยะเหมาะกับคนรักธรรมชาติและภูเขามากเลยนะ เพราะมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่เยอะ เช่น เที่ยวภูเขาอีเดน (Mount Eden) ชมปล่องภูเขาไฟเก่าที่สงบแล้ว เป็นจุดสูงสุดชมทัศนียภาพของเมืองโอ๊กแลนด์ สูงประมาณ 196 เมตรจากระดับน้ำทะเล 

และถ้าไม่อยากผจญภัยเกินควร แนะนำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซีไลฟ์เคลลี่ ทาร์ลตัน (SEA LIFE Kelly Tarlton) โลกใต้น้ำอุโมงค์ให้เราได้ดูปลา เพนกวินขั้วโลกใต้อย่างเพนกวินราชาคอสีเหลือง ตามด้วยเพนกวินเจนทูขี้เล่นเดินให้ชม อย่างไรก็ดี นี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะจ้ะ เพราะนิวซีแลนด์ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ
ถามว่าช่วงไหนน่าเที่ยวนิวซีแลนด์ จริง ๆ แล้วที่นี่จะมีอากาศดีตลอดทั้งปีครับ ร้อนสุดก็ไม่เกิน 25 องศาเซลเซียล อื้อหื้อ ช่างแตกต่างกับเมืองไทย อิอิ

แบ่งชัดให้ตัดสินใจเที่ยวนิวซีแลนด์ได้ง่าย ๆ 

• ธันวาคม - กุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูร้อน 20-25 องศาเซลเซียล
• มีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงฤดูใบไม้ 15-20 องศาเซลเซียล
• มิถุนายน - สิงหาคม เป็นช่วงฤดูหนาว 10-15 องศาเซลเซียล
• กันยายน - พฤศจิกายน เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ 15-20 องศาเซลเซียล

3. เที่ยวนิวซีแลนด์ด้วยตัวเองได้ฝึกภาษา

เพราะนิวซีแลนด์เป็นแดนสวรรค์ของคนที่อยากเรียนต่อหลาย ๆ คน แน่นอนว่าการออกเที่ยวนิวซีแลนด์ด้วยตัวเอง คุณจะได้ฝึกภาษาแบบจัดหนัก หากคนไหนที่พูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง แน่นอนว่าคุณจะได้ใช้ชัวร์ ๆ รับรองว่า “กลับมาไทยคุณจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื้อ” 

4. วัฒนธรรมน่าเที่ยว

ด้วยวัฒนธรรมนิวซีแลนด์ที่ชนะเลิศ! ก่อนที่ชาวอังกฤษจะมาปกครองเดิมทีนิวซีแลนด์ถูกปกครองด้วยชาวเมารี ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้มากด้วยเสน่ห์ในการท่องเที่ยว นอกจากได้ใช้ภาษา เราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบผสม ชมการแสดงของชาวเมารี โดยเฉพาะการเต้นรำ Kapa Haka แวะเที่ยวภูเขาเอารังกิ (Aoraki) หรือจะเที่ยวสถาบันศิลปะและหัตถกรรม Te Puia New Zealand Maori ก็ได้จ้า

5. ที่ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์หลากหลาย

ตั้งแต่คาสิโนยันธรรมชาติที่นิวซีแลนด์มีครบจบเลยแหละ รับรองว่าการมาเที่ยวนิวซีแลนด์แดนกีวีครั้งเดียวไม่เคยพอ มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก ได้แก่ ล่องเรือ เที่ยวชายหาด เที่ยวทะเลสาบ ขึ้นเขา เข้าถ้ำ ตามด้วยการนั่งรถไฟ Kapiti Line สถานีเวลลิงตัน หรือจะแวะหมู่บ้านฮอบบิท (Hobbiton) ก็ได้ 

6. เที่ยวนิวซีแลนด์ด้วยตัวเองมีเวลามากกว่า

การออกเที่ยวนิวซีแลนด์แดนกีวีด้วยตัวเองคุณจะมีเวลาท่องเที่ยวมากกว่า อยากเที่ยวไหนก็เที่ยว อยากหยุดถ่ายภาพตรงไหนก็หยุดถ่ายได้ตามใจฉันไม่ต้องกลัวว่าทัวร์จะรอ หากคุณเลือกวันลายาว ๆ ก็เที่ยวสบายแวะสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ละ อย่างน้อย ๆ 7-10 วันก็เต็มอิ่มแล้ว
อ่านจบคงต้องย้ำว่า จะเที่ยวนิวซีแลนด์ก็ยังต้องขอวีซ่าอยู่นะครับ ส่วนขึ้นตอนการขอวีซ่านิวซีแลนด์เดี๋ยว Frank หามาเล่าอีกนะ และอย่าลืมว่า เที่ยวคนเดียว เที่ยวด้วยตัวเอง เที่ยวต่างประเทศแบบไหนอย่าลืมประกันเดินทางนะครับ ทำกับ Frank.co.th เปรียบเทียบเบี้ยกับ Frank.co.th รับรองว่า “คุ้ม”
ขอบคุณข้อมูล : american-learning.com
Content by Butter Cutter
Artwork by Matanee Likitpongpaisal

The post 6 เหตุผลที่คุณต้องเที่ยวนิวซีแลนด์ด้วยตัวเอง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

การเดินทางไปยัง Salar De Uyuni 

การเดินทางไปท่องเที่ยวที่  Salar De Uyuni นั้นสามารถเดินทางได้หลายวิธีครับ ทั้งแบบไปกับทัวร์ที่จะสบายหน่อย เพราะทัวร์จะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง แต่ถ้าใครอยากลองเที่ยวอเมริกาใต้ด้วยตัวเอง คุณสามารถเดินทางจากเมืองหลวงของโบลิเวีย ไปที่เมืองอูยูนิ  Salar De Uyuni ได้ด้วย 2 วิธี ดังนี้

• นั่งเครื่องบินไปลงสนามบิน Joya Andina Airport อูยูนิ
• นั่งรถทัวร์ไปยังเมืองอูยูนิ

เมื่อถึงเมืองอูยูนิแล้ว เราต้องนั่งรถไปยังเมือง Colchani แหล่งทำเหมืองเกลือที่ติดกับ Salar De Uyuni โดยเมือง Colchani จะมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของฝาก รวมทั้งมีโรงแรมเกลือที่ทั้งโรงแรมสร้างจากผลึกเกลือให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักเพื่ออีกด้วย
จากเมือง Colchani เราจะต้องนั่งรถต่ออีกประมาณ 20 นาที ก็จะถึง Salar De Uyuni ทะเลเกลือใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่เวิ้งว้างที่สวยจนคุณไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย ถ้ายังไม่เชื่อแฟรงค์มีภาพบรรยากาศให้ดูนะครับ

คำแนะนำ - สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อท่องเที่ยว Salar De Uyuni 

• ช่วงเวลาที่ควรไปท่องเที่ยว Salar De Uyuni  คือช่วงเดือน ธันวาคม - เมษายน เพราะเป็นช่วงที่มีพื้นน้ำปกคลุม และสะท้อนภาพท้องฟ้าได้สวยงามที่สุด ท่องเที่ยว ถ่ายรูปกันแบบฟิน ๆ เลยครับ
• แดดที่ Salar De Uyuni ค่อนข้างร้อน ดังนั้นควรเตรียมเครื่องป้องกัน เช่น แว่นกันแดด หมวก ครีมกันแดดไปให้พร้อมนะครับ
• ควรเช่ารองเท้าบูธกันน้ำ (เช่าได้ที่เมือง Colchani )

อยากเที่ยวกันแล้วใช่ไหมละ ? และถ้าคุณพร้อมแล้ว ควรมีประกันเดินทางไว้ด้วย เพราะการเดินทางค่อนข้างสมบุกสมบัน และการมีประกันเดินทางจะทำให้ขอวีซ่าโบลิเวียได้ง่ายขึ้นด้วยครับผม
 
Frank Box
ที่โบลิเวีย มีตำนานท้องถิ่นว่า Salar De Uyuni เกิดจากน้ำตาและน้ำนมของนางยักษ์  Tunupa ที่ร้องไห้ขณะให้นมลูก หลังจากถูก Kushku ผู้เป็นสามีทิ้งไป ทำให้ Salar De Uyuni มีอีกชื่อว่า Salar de Tunupa หรือ ทะเลของ Tunupa นั่นเอง
 

The post ท่องเที่ยว Salar De Uyuni มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ สวยจนหยุดหายใจ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

บุกแดนมังกร WCG 2019 ดูเกมเมอร์ & ชมนวัตกรรมเจ๋ง ๆ

พาแฟนเที่ยวเทศกาล EMF Hong Kong บนเกาะฮ่องกง

เริ่มพาแฟนเที่ยวต่างประเทศพิกัดใกล้ไทยกับ “ฮ่องกง” งานเทศกาล EMF Hong Kong หรือ E-Sports & Music Festival รวมพลคนรักเกม ตัวท็อปของวงการจะมาแข่งกันที่นี่ครับเพื่อชิงชัยชนะ เช่น ชมการแข่งขันเกมแนว Battle Royale อย่าง PUBG ก็ 16 ทีมชั้นนำระดับโลกมาลงแข่งเดือด ๆ วัดกันเลยว่าใครคือสายแข็ง !! ขึ้นจอใหญ่ให้เห็นเลย ภายในงานยังมีกิจกรรมอีกมากมายครับคอเกมต้องไปสักครั้งในชีวิต
ในทริปเที่ยวฮ่องกงไม่ต้องกลัวเบื่อครับ ไม่อินกับเกม แต่คุณจะได้ชมคอนเสิร์ตด้วย และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แตกต่าง รับรองว่า แฟนคุณจะหลงใหลได้ปลื้มกับงานนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กรกฎาคม 2019 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง Hall 3B-C (ค่าเข้าชมประมาณ 10 ดอลลาร์ฮ่องกง) หลังจากเที่ยวงานนี้เสร็จจะแวะช้อปปิ้ง แวะไหว้พระขอพรก็ได้ไม่ว่ากัน 
เว็บไซต์ทางการ : emfhk.com
พิกัด :
 

รักโปเกมอน จะรออะไรไปสิงคโปร์ ฉันเลือกนาย

ถึงจะเข้าการชิงแชมป์โลกโปเกมอน Pokemon World Championships กับเทรนเนอร์จากผู้เล่นทั่วโลกระดับสูงไม่ได้ ลองซอกแซกสิงคโปร์ดูเมอร์ไลออน พาแฟนเที่ยวเดินเล่นย่านคลาร์กคีย์ ยังมีย่านเที่ยวเล่นเกมสำหรับโปเกมอนเทรนเนอร์ด้วย เอาละเหว่ย เอาละหว่า เตรียมมือถือ เตรียมตัว เตรียมพาวเวอร์แบงค์พร้อม “ลุย!!”
Pokemon Center แหล่งรวมทุกสิ่งจิงกาเบลแห่งแรกนอกญี่ปุ่นอยู่ที่สนามบินชางฮี Jewel Changi Airport สิงคโปร์ ล่าสุด เปิดตัวยิ่งใหญ่เลยนะให้ปิกาจูมาเต้นพาเรดแบบจัดเต็ม เวลา 14.00 น. และ 18.00 น. โซนสวนสวย Shiseido Forest Valley เอาเป็นว่า ไปจับโปเกมอนหายากกันเถอะครัช โดยก่อนหน้านี้เดือนเมษายนมีกิจกรรมพิเศษที่เซนโตซ่า อีเว้นท์ใหม่อาจจะต้องติดตามกันนะครับ
เว็บไซต์ทางการ : sg.portal-pokemon.com
พิกัด : 

ทั้งนี้ต้องย้ำว่า ภารกิจพาแฟนติดเกมออกเที่ยวนั้น Frank เอามาเล่าแบบฉบับน้ำจิ้มเท่านั้นนะครับ ไว้ถ้ากระแสดีมีคนชอบจะหยิบมาเล่าแบบเจาะลึกให้ฟังอีกนะ อิอิ ก่อนออกทัวร์ต่างประเทศทุกครั้งอย่าลืมพกประกันเดินทางติดตัวด้วยนะครับ สามารถซื้อประกันการเดินทางออนไลน์ สำหรับเที่ยวต่างประเทศ พร้อมรับกรมธรรม์ทันทีที่ frank.co.th ได้นะจ้ะ
อ้างอิง : sg.portal-pokemon.com, esports-marketing-blog.com
Content by Butter Cutter

The post แฟนติดเกมทำไงดี ? พาแฟนเที่ยว ท่องโลกเกมเมอร์ดูสิ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. PackPoint Travel Packing List

เป็นคนขี้ลืม ชอบหลง ๆ ลืม ๆ ทริปต่างประเทศว่าเรากำลังจะไปไหน ทำอะไร และไม่อยากพกกระดาษ แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับสายเที่ยวคงต้องให้ลอง PackPoint Travel Packing List ไม่ว่าคุณจะไปทำอะไร กิจกรรมไหน เลือกได้ทั้งหมดเลยคร้าบ ในส่วนการใช้งานไม่ยุ่งยากเริ่มจากสถานที่จะไป พักกี่คืน และเลือกกิจกรรมที่เรากำลังจะไปทำโดยแอปพลิเคชันจะประมวลผลให้ว่าเราจะต้องเตรียมอะไร ? ต้องมีกี่ชุด ต้องเตรียมชุดชั้นในเท่าไหร่ เราเช็กลิสต์ตามที่ต้องการได้ ! (มีเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น)
โดยแอปพลิเคชันจะประเมินสภาพอากาศคร่าว ๆ กิจกรรมที่เรากำลังจะไปทำ ซึ่งเราสามารถส่งแพลนนี้ได้ทั้งหมดผ่านอีเมล หรือช่องทางโซเชียลที่สะดวกได้ตามต้องการเลยครับ สามารถเปิดเป็นเว็บไซต์ออนไลน์ได้ทุกที่! แนะนำลองเล่นดู แต่คงต้องบอกว่าน่าเสียดายครับที่บางกิจกรรม (Activities) จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเติมฟีเจอร์ เพื่อให้แอปพลิเคชั่นแนะนำสิ่งของเพิ่มเติมจากเดิมไงล่ะ

• ดาวน์โหลด PackPoint Travel Packing List สำหรับ iOS
• ดาวน์โหลด PackPoint Travel Packing List สำหรับ Android

2. TripIt

เบื่อไหม ? กับการวางแพลนเที่ยวที่ต้องมาเขียนลงกระดาษ หรือจะต้องมาจัดหน้าลงตาราง เพื่อปริ้นท์กระดาษออกมาและต้องพกติดตัวแถมกลัวหาย ! และยังไม่มีเวลาจัดหน้าให้สวยงาม เพราะไม่มีสกิลกราฟิกเท่าไหร่ คงต้องบอกว่าปัญหาเหล่านี้จะจบทันที หากโหลดสะดวกสบายที่สุดกับ TripIt ที่รับเรียบเรียงข้อมูลทริปให้เราเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักธุรกิจ และคนที่ท่องเที่ยวบ่อย ๆ
ขั้นตอนการใช้งานเริ่มจากสมัครเข้าระบบ กรอกอีเมล (E-mail) ที่เราใช้งานเป็นประจำ เพื่อ Add a trip สามารถส่งข้อมูลเข้าแอปพลิเคชันนี้ เช่น

• จุดหมายปลายทาง (Destination)
• วันที่ออกเดินทาง (Start Date)
• วันกลับ (End Date)
• เขียนชื่อทริปของคุณ (Trip Name)
• และรายละเอียดตามที่ต้องการ (Description)

ตามด้วยการจัดแจงส่งข้อมูลตารางเที่ยว เช่น ไฟลท์บิน, ที่พัก, จองห้องอาหาร, จองรถให้กับผู้ร่วมทริปได้ สบ้ายสบาย แถมสมัครง่ายให้โหลดฟรีด้วย แนะนำให้คุณเตรียมข้อมูลไว้ใกล้ ๆ มือจะได้กรอกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

• ดาวน์โหลด TripIt สำหรับ iOS
• ดาวน์โหลด TripIt สำหรับ Android

3. iTranslate Voice

เคยคิดไหมว่า “อยากให้โดเรมอนมีจริงและอยากจะขอวุ้นแปลภาษาสักอันนึงเพื่อใช้งาน!!” ใช่ๆ หากคุณสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษไม่เก่ง iTranslate Voice แอปพลิเคชันแนะนำนี้จะช่วยคุณได้ดีทีเดียวเชียวละ ปัจจุบันมีคนโหลดใช้กว่า 70 ล้านครั้ง เพราะมีให้เลือกกว่า 100 ภาษาสำหรับการโหลดฟรี หากอยากได้เพิ่มต้องซื้อนะครับ ในส่วนการใช้งานนั้นไม่มีเน็ตก็ใช้ได้นะ

• สามารถแปลได้ทั้งใช้เสียง Voice Tranlation
• หรือจะเลือกถ่ายภาพ Camera Tranlation แปลภาษาก็ยังได้
• พร้อมกับเลือกหาคำศัพท์ และประโยคที่จำเป็นต้องสื่อสารในชีวิตประจำวัน

สรุปว่า ไม่ต้องอ้อนวอนให้โดเรมอนมีจริง มีแค่แอพท่องเที่ยวนี้ก็เพียงพอละเน้อจ้า หากมีโอกาสเที่ยวต่างประเทศลองโหลดใช้ได้นะครับ (จำกัดเวลาใช้ฟรีนะครับ)

• ดาวน์โหลด iTranslate Voice สำหรับ iOS
• ดาวน์โหลด iTranslate Voice สำหรับ Android

4. Citymapper Transit Navigation

กลัวหลงทาง! ลองใช้แอพแนะนำ Citymapper Transit Navigation เป็นแอพท่องเที่ยวฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายมีคนติดตั้งกว่า 5 ล้านรายทั่วโลก ด้วยความที่มีฟีเจอร์น่ารัก เข้าใจง่าย ใช้งานไม่ลำบากเลือกพิกัดได้เลยว่าคุณต้องการเที่ยวไหน เดินทางอย่างไร รถไฟฟ้าอยู่ตรงไหน ต้องใช้คมนาคมแบบไหน ประมาณเวลาการเดินทางให้ด้วย
ปัจจุบัน แอปพลิเคชันนี้สามารถใช้ดูแผนที่การเดินทางท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, แคนาดา, บราซิล, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, เกาหลี, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ฯลฯ เป็นแอพท่องเที่ยว 2019 ที่บอกข้อมูลการเดินทางและแผนที่ได้แจ่มแจ้งครับ

• ดาวน์โหลด Citymapper Transit Navigation สำหรับ iOS
• ดาวน์โหลด Citymapper Transit Navigation สำหรับ Android

5. Sygic Travel Maps Offline

มาถึงคิวแอปพลิเคชันนำทางที่น่าสนใจ Sygic Travel Maps Offline ข้อดีคือสามารถใช้ได้โดยไม่มีอินเทอร์เน็ต สามารถสลับใช้เป็น HUD สะท้อนบนกระจกรถยนต์ของเราได้ (สำหรับคนที่มีใบขับขี่สากลขับรถในต่างประเทศได้น่าจะชอบแอพท่องเที่ยว) ภายในแอปพลิเคชันมีทั้งวิดิโอ 360 องศา วางแพลนทริปของเราได้ มีอธิบายสถานที่ท่องเที่ยวให้ด้วยครับประมาณ 10,000 แห่ง รวม ๆ แอพท่องเที่ยวนี้มีแผนที่เกือบ 50 ล้านพิกัดทั่วโลก ! โหลดฟรีก็จริง แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการฟีเจอร์พิเศษ (ยังไม่รองรับภาษาไทยนะคะ)

Frank Box:

HDU คืออะไร ? เกจวัดดิจิทัลสะท้อนกระจก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Head Up Display : HUD ใช้บอกเส้นทางและแผนที่เป็นแก็ดเจ็ตรถยนต์ช่วยเหลือให้การขับปลอดภัยขึ้น สามารถอ่าน 5 Gadgets อุปกรณ์ติดรถยนต์สุดล้ำ น่าซื้อ น่าใช้ เพิ่มเติมได้ครับ

• ดาวน์โหลด Sygic Travel Maps Offline สำหรับ iOS
• ดาวน์โหลด Sygic Travel Maps Offline สำหรับ Android

6. SaveTrip

เที่ยวให้ประหยัด ! ไม่อยากเกินงบโหลดแอพท่องเที่ยว SaveTrip ไว้ใช้สิครับ เราสามารถเริ่มเลือกจุดหมายการเดินทางที่กำลังไปท่องเที่ยว กำหนดงบกันเลยครับว่า Before Trip ก่อนออกเดินทางจ่ายเท่าไหร่ และ After Trip ยังไงต่อ เหมือนจดบันทึกรายรับรายจ่าย ความดีงามคือแอพท่องเที่ยว SaveTrip ช่วยคำนวณอัตราค่าเงินให้ด้วยนะคุ๊ณ สะดวกสบายดีงาม เนื่องจากแบ่งกราฟให้เห็นชัด ๆ ว่าเราใช้เงินท่องเที่ยวกับอะไรบ้าง สัดส่วนไหนใช้จ่ายเยอะที่สุดช่วยคุมงบให้อยู่หมัดตามที่เราต้องการที่สำคัญโหลดออกมาเป็นไฟล์ CSV เปิดเช็กได้ใน Microsoft Excel ใครที่เที่ยวบ่อย ๆ ต้องมีไว้

• ดาวน์โหลด SaveTrip เฉพาะ Android เท่านั้น

เก็บข้อมูลแอพท่องเที่ยวเสร็จแล้ว !!

สำหรับชาวแฟรงค์ที่มีแอปพลิเคชันท่องเที่ยวมาแนะนำบอกเล่าให้ฟังได้นะครับ เรายินดีรับฟังเสมอ และก่อนออกเที่ยวต่างประเทศไม่ว่าจะใกล้หรือไกลอย่าลืมซื้อประกันเดินทางด้วยนะครับ ซื้อกับ frank.co.th รับกรมธรรม์ทันทีไม่ต้องรอ พร้อมเที่ยวต่อได้เล้ยย
Content by Butter Cutter

The post 6 App ฟรีเจ๋ง ๆ ที่คนชอบเที่ยวต่างประเทศต้องมี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะของกรุงปารีส

แน่นอนล่ะ ว่าด้วยชาวปารีสที่หลงไหลในเรื่องของศิลปะ ซึ่งหากคุณไม่ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่เหมือนกับมาไม่ถึงปารีสเลยทีเดียว! เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งปารีสนั้นยิ่งใหญ่มโหฬารระดับโลกเลยทีเดียว
รายชื่อพิพิธภัณฑ์ที่คุณต้องไป

• The Lourve พิพิธภัณฑ์ที่ติดอันดับใหญ่ทีุ่สุดในโลก
• The Centre Pompidou พิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญที่สุดในประเทศยุโรป
• Musée d'Orsay พิพิธภัณฑ์ที่นี่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี

2. หอไอเฟล

หากคุณมากรุงปารีสและไม่ได้ไปที่หอไอเฟลเรียกว่า มาไม่ถึง! เพราะ หอไอเฟลถือว่าเป็นอนุสรณ์ของกรุงปารีสเลยทีเดียว หอไอเฟลมีความสูงถึง 300 เมตร หรือ ตึกสูง 75 ชั้น เวลาการเปิดบริการตั้งแต่เดือน 15 มิถุนายน ถึง วันที่ 1 กันยายน เปิดทำการเวลา 9 โมงเช้า - เที่ยงคืน 45 นาที ส่วนเวลาปกติ 9 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม

 3. ร้านเบเกอรี่

หากพูดถึงอาหารชาวคนปารีสก็คงหนีไม่พ้นครัวซองค์กับกาแฟร้อนตอนเช้าเพิ่มความอบอุ่นจากอากาศหนาวภายนอก ร้านเบเกอร์รี่ Du Pain et des Idées เป็นร้านที่โด่งดังมากในปารีส ทั้งสถาปัตยกรรมที่ดูดีภายในร้านแล้วรสชาติยังดูดีดั้งเดิมแบบต้นตำรับคนปารีสอีกด้วย
ร้านเบเกอร์รี่ชื่อดังอื่นที่คุณควรไป

• Le Grenier à Pain ร้านเบเกอร์รี่ชื่อดังต้นตำหรับชาวปารีส
• Blé sucré เป็นร้านที่น่ารักเหมาะกับการซื้อกลับบ้าน หรือ นั่งทานอาหารเช้าเบาๆที่นี่
• Aki Boulanger ร้านเบเกอร์รี่ที่ผสมผสานความเป็นปารีส กับ ความเป็นญี่ปุ่นเข้าไป
  

4. อย่าลืมแวะไปที่ Luxembourg Gardens

พูดถึง Luxembourg Gardens สวนสาธารณะที่มีกลิ่นอายความเป็นปารีสอย่างแท้จริง สถานที่แห่งนี้หลายคนใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังต่าง ๆ อย่างโด่งดัง สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดให้บริการระหว่างเวลา 11 โมงเช้า - 7 โมงเย็น นอกจากนี้คุณยังสามารถแวะเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Luxembourg ที่อยู่ในเขตพื้นที่นั้นๆ อีกด้วยโดยมีค่าเข้า 10 ยูโร เมื่อคุณเดินเข้าไปด้านในแล้วราคานี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีก

5. ชิมไวน์กลางใจกรุงปารีส

อย่างที่เราคงได้ยิน หรือได้เห็นมาจากในหนังที่สื่อถึงหนึ่งในวัฒนธรรมที่แทรกอยู่อย่างการดื่มไวน์ ปารีสเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มไวน์และมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดื่มไวน์เยอะมาก เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการลิ้มรสไวน์จากต้นตำรับนั้นจะยิ่งทำให้ทริปของคุณสนุกมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน!
ไปชิมไวน์ที่ไหนดีในปารีส

• Ô CHATEAU นำเสนอการลิ้มรสไวน์สุดหรูจาก ซอมเมอลิเยร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ที่จะอธิบายวิธีการทานไวน์ที่ถูกต้อง เช่น เรื่องที่เราไม่เคยนึกถึงอย่างสภาพอากาศที่ส่งผลต่อไวน์คุณ
• LES CAVES DU LOUVRE ริ้มลองไวน์จากห้องใต้ดินที่ถูกก่อตั้งจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ห้องใต้ดินนี้ถูกรีโนเวทใหม่ และ มีการผสมผสานทั้งไวน์เก่าแก่ และ ไวน์แบบโมเดิล

6. ชื่นชมหอสมุดเก่าแก่ของฝรั่งเศส

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การเยี่ยมชมหอสมุด ซึ่งหอสมุดบางแห่งมีความเก่าแก่ถึงศตวรรษที่ 19 เลยทีเดียว การตกแต่งสไตล์กรีก โรมัน ที่มีกลิ่นอายของฝรั่งเศส พร้อมการออกแบบบนฝาผนังสวยงามที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมาก
หอสมุดที่คุณควรไป

• Bibliothèque Mazarine หอสมุดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในประเทศได้บอกเล่าเรื่องราวบนฝาผนังที่คุณต้องไปดู
• Bibliothèque Publique d’Information เริ่มเปิดขึ้นเมื่อปี คศ. 1977 หอสมุดแห่งนี้สามารถดึงผู้เข้าชมทั่วโลกมาได้มากถึง 180 ล้านคนเลยทีเดียว

7. อย่าลืมแวะไปที่ Marseille

เพียงไม่กี่ชั่วโมงคุณก็สามารถไปที่ Marseille ผ่อนคลายกับวิวทะเลพร้อมอาหารทะเลที่สดใหม่น่าทาน การลงทุนนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะนอกจากคุณจะได้พักผ่อนที่ชายหาดเรียบร้อยแล้ว คุณยังได้เห็นวิถีชิวิตชาวประมงที่น่าสนใจเพราะด้วยความแตกต่างในการใช้ชีวิตของแต่ละประเทศ รวมถึงอาหารที่คุณจะได้ลิ้มลองเจ้าชาวท้องถิ่นจริงๆ

8. Casino ในฝรั่งเศส

นอกจาก Casino ที่ลาสเวกัสแล้วมาดูฝรั่งเศสแล้วคุณจะอึ้ง! Casino ที่ดูเหมือนกับพิพิธภัณฑ์พร้อมสถานปัตยกรรมบนกำแพงอย่าง French Lick Casino ที่มีความหรูหราเกินระดับ 10  พร้อมโต๊ะเล่นเกมส์ที่มากมาย หากคุณพาเพื่อนของคุณมาก็จะมีสิทธิได้รับโปรโมชั่นถูกใจคุณ

9. ดินเนอร์สุดโรแมนติกที่ Seine  

ดินเนอร์บนเรือสุดหรูที่มีความยาวถึง 777 กิโลเมตร ซึ่งคุณสามารถเลือกขึ้นเรือเพื่อทานดินเนอร์สุดหรูนี้เน้นว่าจะต้องเป็นทริปค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้นอยู่ที่ 40$ จนไปถึง 200$ ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างหนาวอยู่แต่รับรองว่าประสบการณ์นี้คุณจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน  

10. ช้อปของฝากฝรั่งเศสที่ไหนดีที่ไหนเด็ด

หากคุณชอบช็อปปิ้งล่ะก็ลองมาดูแต่ละย่านกันดีกว่าว่าคุณสามารถช็อปที่ไหนได้บ้าง ร้านช็อปปิ้งของประเทศฝรั่งเศสแต่ละร้านเรียกว่าแสตนดาร์ดมาก เพราะแน่ล่ะ ที่นี่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดกระเป๋าแบรนด์ดังหลายแบรนด์ และ เป็นเมืองแห่งแฟชั่นชั้นสูง เพราะฉะนั้นแต่ละร้านอาจมีราคาที่แพงเท่าตัวเลยทีเดียว แต่หลายร้านส่วนมาก ราคาจะอยู่ราวๆ  20ยูโรขึ้นไป
รายชื่อย่านดังที่คุณควรแวะไปเยี่ยม

• Boulevard Haussmann and the Grands Boulevards เที่ยวฝรั่งเศสย่านนี้จะมีร้านค้าห้างดังหลายร้านเช่น Galeries Lafayetter และ Printemps  เป็นต้น นอกจากร้านขายเสื้อผ้าทั้งชาย และ หญิง แน่ล่ะ คุณสามารถหาร้านอาหารอร่อยทานได้รอบพื้นที่นี้
• Le Marais เป็นย่านยอดฮิต คุณสามารถหาร้านขายเสื้อผ้าได้ที่นี่ ยิ่งมากไปกว่านั้นคุณยังสามารถริ้มลองร้านอาหารต้นตำรับได้ที่นี่อีกด้วย

หากคุณอยากเที่ยวอย่างมีความสุขจำเป็นต้องมีประกันการเดินทางเพื่อช่วยเป็นคนดูแลเรื่องความปลอดภัยให้แก่คุณซื้อที่ Frank.co.th ได้นะครับ เลือกความคุ้มครองได้ตามใจคุณมีทั้งประกันรายปี รายเที่ยวให้เลือกซื้อตามความต้องการเลยล่ะ

The post 10 พิกัดดี๊ดี น่าไปเที่ยวในฝรั่งเศส appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.