เรื่องเงินๆ ทองๆ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Tue, 29 Aug 2023 04:11:27 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico เรื่องเงินๆ ทองๆ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b5-2564-%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b5-2564-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Sat, 14 Nov 2020 03:29:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14001 วางแผนลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 สำหรับผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถยื่นได้ที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์

The post สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วางแผนลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 สำหรับมนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพียงรวบรวมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน จากนั้นยื่นที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์ ก็จะช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลง แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ว่าสิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆ มาให้แล้ว เพื่อจะได้เตรียมตัวลดหย่อนภาษีต่อไป

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว

  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีรายได้แต่เลือกคำนวณภาษีพร้อมกัน
  • ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี ทั้งนี้สามีสามารถลดหย่อนภาษีได้กรณีภรรยาไม่มีเงินได้
  • ค่าลดหย่อนบุตร สิทธิลดหย่อนภาษีบุตรคนแรกได้ 30,000 บาท สำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปสามารถลดหย่อนเพิ่มอีก 30,000 บาท แต่จะต้องเป็นบุตรโดยชอบตามกฎหมายสามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัด และบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่เกิน 3 คน (นับเฉพาะที่มีชีวิตอยู่)
  • ค่าลดหย่อนบิดามารดา สำหรับเลี้ยงดูพ่อแม่ และพ่อแม่คู่สมรสที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน โดยสิทธิลดหย่อนบิดามารดาใช้ได้ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องระบุลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนจะเป็นคนเลี้ยงดู
  • ค่าอุปการะคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน แต่ผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และมีบัตรประจำตัวคนพิการ พร้อมหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ

2. ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน

  • ประกันสังคม ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันชีวิต สามารถหักได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท (จากแต่เดิมได้เพียง 15,000 บาทต่อปี) กรณีทำประกันสุขภาพพ่วงกับประกันชีวิตจะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ หักได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันชีวิตคู่สมรส  หักได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้
  • เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาทจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษี
  • เงินสะสมกองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 500,000 บาท
  • เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้ตามที่จ่ายจริงไม่เกินจำนวน 13,200 บาท
  • กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หักภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
  • เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 ได้สูงสุด 200,000 บาท

3. ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์

  • ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย สิทธิลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ซื้อบ้านหลังแรกปี พ.ศ. 2558 ลดหย่อนได้ 20% ของราคาบ้าน โดยนำไปลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี (เฉลี่ยปีละ 4%) แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 3,000,000 บาท
  • ซื้อบ้านหลังแรกในปี พ.ศ. 2562 ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค

  • เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา การกีฬา และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคทั่วไป หักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และเงินบริจาค 2 กลุ่มแรกข้างต้น
  • เงินบริจาคให้พรรคการเมือง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

5. ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

  • สินค้าการศึกษาและกีฬา หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท
  • สินค้าหนังสือ ไม่เกิน 15,000 บาท
  • สินค้ากลุ่มช้อปช่วยชาติ สินค้า OTOP ไม่เกิน 15,000 บาท
  • ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท
  • ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ 20,000 บาท
  • ค่าเสียหายจากพายุปาบึก ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถไม่เกิน 30,000 บาท
  • ค่าเสียหายจากพายุโพดุล พายุคาจิกิ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถอื่นๆ ไม่เกิน 30,000 บาท

สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

สำหรับบุคคลที่มีรายได้ ให้เตรียมลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 โดยรูปแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ ภ.ง.ด.90 ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือเงินเดือนที่ได้รับ และแบบ ภ.ง.ด.91 ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยไม่มีรายได้เสริมอื่น ซึ่งเราจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นจ่ายภาษี ดังนี้

  • หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) 
  • รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา
  • เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เพื่อกรอกแบบฟอร์มการยื่นจ่ายภาษี

แล้วทำการยื่นภาษีที่ไหน?

ทั้งนี้คุณสามารถยื่นภาษีได้หลายช่องทาง หากเราเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว ให้รีบทำการยื่นจ่ายภาษีให้เร็วที่สุด โดยสามารถยื่นได้หลายช่องทาง ได้แก่

  • ยื่นภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพกร
  • ยื่นภาษีออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th
  • ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน

หลังจากเช็ก สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 เตรียมเอกสารภาษีทุกอย่างครบแล้ว ก็ให้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กรมสรรพากร หรือยื่นภาษีออนไลน์ได้เลย ซึ่งค่าลดหย่อนภาษีเหล่านี้จะช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลง

เห็นไหมครับว่า ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ด้วย ไม่ว่าจะซื้อให้ตัวเองหรือซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ ก็ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 นี้ได้เลย นอกจากเราจะมีประกันสุขภาพดีๆ ให้ดูแลเมื่อยามเจ็บไข้แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคตด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.itax.in.th

ประกันสุขภาพ

The post สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ https://www.bolttech.co.th/blog/14126?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=14126 Tue, 10 Nov 2020 02:10:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14126 ใกล้สิ้นปี 2020 แล้ว วางแผนจะทำอะไรพิเศษดีในปีนี้นะ หากใครที่กำลังจะลงมือทำอะไรสักอย่าง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราจะมาให้คำตอบทุกคนกัน!!

The post ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับปี 2020 เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะลงความคิดเห็นเหมือนกันว่าเป็นปีที่สร้างความลำบากใจ และไม่ได้รู้สึกพิเศษเหมือนปีก่อนๆ เพราะเป็นปีที่เริ่มพบเจอวิกฤตกาลต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ต้นปีเลย จนบางคนเริ่มภาวนาให้หมดปีนี้ไว ๆ จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมในปีหน้า แต่แน่นอนว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ให้คิดซะว่าเป็นเวลาที่เหลือที่เราควรเอาไปลงทุน ใส่ใจเป็นพิเศษดีกว่า เผื่อว่าปีหน้าของเราจะได้ใช้ชีวิตดีขึ้น

1. ดูแลสุขภาพ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนยกให้เรื่องของ “สุขภาพ” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ลองนึกดูว่าตั้งแต่ต้นปีที่เราประสบกับวิกฤติของการระบาดของไวรัสโคโรนา อย่างโควิด-19 เราใช้ร่างกายมากน้อยแค่ไหน เกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือการเจ็บป่วย กับร่างกายของเราถี่แค่ไหน ดังนั้นควรเลือกการใส่ใจด้านสุขภาพให้มากขึ้นในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อการออกกำลังกายอย่างจริงจัง หรือการเลือกซื้อประกันสุขภาพดี ๆ ก็จะช่วยให้เราอุ่นใจได้มากขึ้นในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา เพราะว่าสุขภาพที่แสนดีนั้นไม่มีขาย เพียงแต่เราควรต้องลงมือทำเองเท่านั้น

2. หาทักษะเสริม

คนที่พร้อมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาจะพัฒนาตัวเองได้ก้าวไกลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านทัศนคติตัวเอง หรือทักษะสกิลต่าง ๆ ที่ติดตัวกับตัวเรา การหาความรู้เพิ่มเติมจะเป็นอาหารให้สมองของเราได้ แล้วตัวเราจะได้รับการพัฒนามากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันของเราก้าวกระโดดไปไกลมาก และมีมากมาย ทำให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่าง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการอ่านหนังสือ E-Book ออนไลน์ การฟัง Podcast การดูวิดีโอตามหลักสูตร หรือคอร์สต่าง ๆ ทางออนไลน์ ให้เราเลือกสรรได้ตามความเหมาะสมของตัวเราเลย เพราะสุดท้ายแล้วเราทุกคนสามารถเป็นคนเก่งได้เหมือนกัน

3. ออมเงิน

เรื่องการเงินนั้นก็สำคัญเช่นกัน ใครที่ใช้ประโยคปลุกใจในการออม หรือใครที่พูดกันตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้เราจะจริงจังกับการออมเงิน แต่ว่าไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ ก็ถือซะว่าไม่เป็นไรนะ เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ลองหันมาจริงจังเด็ดขาดกับตัวเองสักครั้ง จัดระเบียบแบบแผนทางการเงินว่าเราจะออมเงินเท่าไร จะนำเงินไปฝากธนาคารเท่าไร ซึ่งอาจจะทำได้ยากในช่วงแรก ๆ แต่ถ้าหากเราทำเป็นประจำแล้ว การได้เห็นยอดเงินออมที่สูงมากขึ้นคงช่วยทำให้เรามีกำลังใจ และมีเป้าหมายในการออมเงินได้อย่างชัดเจน

4. ทบทวบสิ่งที่ผ่านมา

อาจจะมีใครหลายคนที่รู้ตัวว่าเราเองมีข้อเสียอะไรที่เราอยากแก้ไข รู้ตัวว่าสิ่งไหนที่ทำให้เราไม่ชอบตัวเอง การที่เปลี่ยนแปลงตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นนั้น มันไม่ใช่การแก้ไขเพื่อให้คนอื่นประทับใจนะ แต่มันเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่ตัวเรามากกว่า เช่น การเปลี่ยนแปลงนิสัย เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ลดของหวานเพื่อสุขภาพ คิดก่อนพูดเพื่อคำพูดของเราจะได้ไม่ไปทำร้ายจิตใจคนอื่น หรือการหันมาชมตัวเองในทุก ๆ เช้า เชื่อเถอะว่า ถ้าเราสามารถแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้ในปีหน้า เราจะเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกและรักตัวเองมากกว่าเดิม หากสิ้นปีนี้ใครที่กำลังลังเล หรือมีความกลัวที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง ทางเราอยากแนะนำให้ทุกคนเริ่มลงมือทำกันเลย เพราะถ้าช้าจนเกินไป เราอาจจะมาเสียดายภายหลังได้ สุดท้ายแล้วก็หวังว่าวันนี้และปีหน้าของทุกคน พบเจอแต่เรื่องดี ๆ ตลอดไปด้วยนะ

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com

The post ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด https://www.bolttech.co.th/blog/5%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%94?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594 Mon, 03 Aug 2020 03:42:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12546 เมื่อสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนา ทำให้หลายกิจการมีผลกระทบต่อรายได้มหาศาล อย่างเช่น ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองหลายบริษัทจึงมีนโยบายลดเงินเดือนพนักงาน หรือปลดพนักงานออก เพื่อหวังที่จะให้รายจ่ายต่อเดือนน้อยลง

The post 5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนา ทำให้หลายกิจการมีผลกระทบต่อรายได้มหาศาล อย่างเช่น ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองหลายบริษัทจึงมีนโยบายลดเงินเดือนพนักงาน หรือปลดพนักงานออก เพื่อหวังที่จะให้รายจ่ายต่อเดือนน้อยลง สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่ตกอยู่ในสภาวะลำบากเช่นนี้ ลองปรับเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสกันดีว่า เพราะธุรกิจบางประเภทก็มีรายได้เสริมดี แถมไม่ต้องลงทุนมากด้วย

1. รับจ้างส่งอาหาร เดลิเวอรี่

หารายได้เสริม
อย่างที่รู้กันดีว่า “อาหารการกิน” เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน การทำงานพาร์ทไทม์เสาร์อาทิตย์อย่างอาชีพรับจ้างส่งอาหารเดลิเวอรี่ถือเป็นนาทีทองเลย มีรายได้เสริมเฉลี่ย 15,000 - 30,000 บาทต่อเดือน  โดยอาจจะขึ้นอยู่กับการรับออเดอร์และความขยัน ยิ่งถ้าคุณส่งอาหารหลายๆ รอบต่อวัน หรือเพิ่มระยะทางของลูกค้าในช่วงเวลานั้นๆ ก็จะเพิ่มรายได้เสริมพิเศษไปด้วย บอกเลยว่าบางพาร์ทเนอร์ก็สมัครฟรีนะ ไม่มีค่าใช้จ่าย

เคล็ดลับเพิ่มรายได้รับจ้างส่งอาหาร (เดลิเวอรี่) :

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะหารายได้เสริมอย่างรับจ้างส่งอาหาร จะต้องศึกษาแพลตฟอร์มการรับ-ส่งอาหารกับพาร์ทเนอร์ให้ดีก่อน ทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เราจะได้รับ เช่น มองเห็นรายได้ก่อนรับงาน เลือกเวลาทำงานได้ มีสวัดิการให้พนักงาน เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องมีระบบการจ่ายงานให้ชัดเจน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แล้วที่สำคัญจะต้องรักษามาตรฐานในการบริการของคุณเสมอ เพราะบางบริษัทอาจจะมีโบนัสขยันและตั้งใจทำงานให้ด้วยนะ

แอปฯ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • Grabfood (สมัครฟรี)
  • Get (สมัครฟรี)
  • Happyfresh (สมัครฟรี)
  • Foodpanda (ค่าสมัคร 100 บาท) *เหมาะสำหรับงานประจำมากกว่า
  • Skootar (ค่าสมัคร 100 บาท)
  • Lineman (ค่าสมัคร 400 บาท)

หมายเหตุ : อัตราค่าสมัครผู้ให้บริการของแต่ละแอปพลิเคชั่น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบราคากับทางแอปฯ ก่อนได้

2. ขายของแฮนด์เมดออนไลน์

หารายได้เสริม
แต่ถ้าคุณมีฝือในการครีเอทงานแฮนด์เมดเก๋ๆ ก็สามารถหารายได้เสริมควบคู่กับงานประจำได้ เพียงนำเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นงานแฮนด์เมดอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กำไลข้อมือ หรือหน้ากากอนามัยที่กำลังเป็นที่ต้องการในท้องตลาดในช่วงโควิด 19 เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็ลองครีเอทลายน่ารักๆ ให้ได้คุณภาพตามที่ต้องการเลย แถมยังได้ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ลงทุนไม่มากแต่สร้างรายได้เสริมดี

เคล็ดลับในการขายของแฮนด์เมด :

ทราบหรือไหมว่า? งานแฮนด์เมด (Handmade) เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมรายได้ดีไม่แพ้งานประจำ สามารถเปลี่ยนเป็นธุรกิจเล็กๆ ให้เป็นธุรกิจใหญ่ตามความฝันได้ สำหรับใครที่เริ่มต้นจะหารายได้เสริมด้วยงานแฮนด์เมด จะต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐานในการทำธุรกิจขนาดเล็กก่อน ตามดังนี้

  • ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน 
  • มีกลุ่มลูกค้าที่แน่นอน 
  • วางแผนการทำงานให้เป็นระบบ 
  • ลงมือทำอย่างตั้งใจเพื่อให้ได้สินค้ามีคุณภาพ 
  • ศึกษาสินค้าตามกระแส
  • สำรวจคู่แข่งในตลาด 
  • มองหาเทคนิคขายของต่างๆ 
  • กระตุ้นยอดขายทางสื่อออนไลน์ 

ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มรายได้ให้กับคุณมากขึ้น ซึ่งเราจะต้องขยันโปรโมทสินค้า คุยเป็นกันเอง คอยให้คำแนะนำสินค้าพร้อมบริการอย่างดีที่สุด จะช่วยดึงลูกค้าให้กลับเข้ามาที่ร้านของคุณอีกครั้ง

ช่องทางเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ ฟรี!

  • Facebook
  • Instagram
  • Line@
  • Youtube
  • lnwshop
  • Weloveshopping
  • Kaidee
  • ShopUp
  • tarad.com
  • makewebeasy.com

3. ทำอาหารคลีน เดลิเวอรี่

หารายได้เสริม
พอหลังจากโควิด 19 ระบาด หลายคนก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งออกกำลังกาย ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้เองการ ทำอาหารคลีน ในรูปแบบเดลิเวอรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมทําที่บ้านแล้วน่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝีมือด้านการทำอาหารเฉพาะ ข้อดีก็คือทำง่าย ต้นทุนไม่สูงมากนัก  และเป็นที่ต้องการในตลาดด้วย แนะนำให้ลองทำอาหารส่งลูกค้าในย่านใกล้เคียงก่อน หรือจะใช้สื่อออนไลน์ทำการตลาด เช่น ถ่ายรูปอาหารสวยๆ โพสต์ลง พร้อมกับระบุชื่อเมนู ราคา คำบรรยาย และพลังงานแคลอรี่ให้ชัดเจน รับรองทั้งสนุกทั้งได้เงินแน่นอน

เคล็ดลับเพิ่มยอดขายอาหารคลีน :

พอหลังจากธุรกิจอาหารคลีนมาแรงแซงโค้ง หลายคนก็เริ่มอยากทำอาหารคลีน เพื่อหารายได้เสริมกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงยุคโควิด 19 ก็ยิ่งเหมาะกับเมนูอาหารเพื่อคนรักสุขภาพลดพุงเฉพาะ แต่การทำอาหารคลีนดีๆ ขายผ่านสื่อออนไลน์นั้นเราจะต้องจับธุรกิจให้ถูกทางจะช่วยให้ธุกิจของคุณเติบโตและมั่นคงในอนาคต ไม่ผิดหวังแน่นอน!

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
  • นำเสนอเมนูหลากหลาย
  • รสชาติดี วัตถุดิบมีคุณภาพ
  • ราคาคุ้มค่า เป็นมิตร
  • จัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า
  • ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ
  • ส่งอาหารให้ตรงเวลา
  • บรรจุภัณฑ์ออกแบบดูดี
  • โปรโมทอาหารให้เป็นที่รู้จัก

4. เขียนบทความออนไลน์

หารายได้เสริม
สำหรับใครที่กำลังหางานพาร์ทไทม์อย่าง การเขียนบล็อก หรือเขียนบทความต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว อาหาร สุขภาพ ครอบครัว แฟชั่น หรือไลฟสไตล์ ก็สามารถขายผ่านทางออนไลน์ได้ด้วย ถึงคุณจะไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษก็ลองทำได้นะ ไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแค่เขียนบทความให้น่าสนใจตามสไตล์ของตัวเรา ถ้าขยันหน่อยลองทำสัก 3-4 Content ต่อสัปดาห์จะช่วยหารายได้เสริมมากขึ้น บางคนได้ถึง 1,000 บาทต่อวันเลยนะ  เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากหาอาชีพเสริมทำที่บ้านก็ลองนำบทความ พร้อมภาพสวยๆ ลงเว็บไซต์ฟรีได้เลย

เคล็ดลับเขียนบทความออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้ :

ถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน Content เพื่อเป็นอาชีพเสริมทําที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรเลย เพียงใช้เทคนิคง่ายๆ ตามนี้ก็หาเงินเลี้ยงตัวเองได้

  • กำหนดวัตถุประสงค์การเขียน
  • ศึกษาบทความเป็นที่นิยม
  • ศึกษาข้อมูลที่จะเขียนให้เข้าใจ
  • เรียนรู้การใช้คำและการใช้ภาษา
  • ตั้งชื่อเรื่องให้น่าสนใจ
  • ตกแต่งบทความให้น่าอ่าน (มีภาพประกอบ)
  • เขียนบทความใหม่ๆ ไม่จำเจ
  • มีบทสรุปให้คนอ่านติดตาม
  • เผยแพร่บทความให้รู้จักมากขึ้น

แล้วหารายได้การเขียนบทความจากที่ไหน?

จริงๆ แล้วการเขียนบทความเพื่อสร้างรายได้ สามารถทำได้หลายวิธีเลย แต่สำหรับนักเขียนมือใหม่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ลองมาศึกษาพร้อมๆ กันเลย

  • สร้างบล็อกหรือสร้างเพจของตัวเอง ถ่ายทอดเนื้อหา Conntent ตามสไตล์ของตัวเอง อาจจะมีภาพประกอบ วิดีโอ และโฆษณาเพื่อหารายได้เสริม เช่น บล็อกท่องเที่ยว บล็อกอาหาร บล็อกสุขภาพ เป็นต้น
  • รับเขียนบทความแบบฟรีแลนซ์ แนะนำให้สมัครจากเว็บไซต์หรือตามบริษัทรับจ้างเขียนบทความต่างๆ 
  • สมัครเขียนบทความตามสื่อออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีบทความที่รับจ้างโพสต์ตามสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Network) เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาเงินอีกด้วย

5. ขายประกันสุขภาพ ประกันโควิด 19

หารายได้เสริม
เนื่องจากทุกคนยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19  หลายคนต่างกำลังมองหาประกันสุขภาพ ประกันโควิด 19 มากขึ้น มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ สามารถเป็นตัวแทน นายหน้าขายประกันสุขภาพ หรือประกันโควิดควบคู่งานประจำได้ ทั้งนี้คุณจะได้รับรายได้จากค่าตอบแทน ยิ่งถ้าคุณขายได้มากเท่าไหร่ก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น แล้วคุณยังสามารถเข้าร่วมขายประกันผ่านทางออนไลน์ในช่วงยุคโควิดอีกด้วย ถือเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ไม่จำกัดเลยล่ะ 

เป็นตัวแทนขายประกันสุขภาพทำยังไง?

อย่างแรกจะต้องศึกษาบริษัทประกันที่ต้องการ แล้วไปสมัครเป็นตัวแทนขาย อาจจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ การอบรมสินค้าและระบบการทำงานภายในก่อน แล้วไปสอบใบอนุญาตขายกับประกันตามขั้นตอนที่บริษัทประกันนั้นๆ แนะนำมาให้ พอหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้วก็สามารถขายได้เลย โดยเทคนิคการขายอาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน จะลองทำเป็นงานอดิเรกหรือสร้างรายได้เสริมก็สนุกไปอีกแบบ
หากคุณสนใจสมัครเป็นตัวแทนประกันกับ frank.co.th สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-106-5810 (จ-ศ : 9.00 - 18.00) หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่จาก Frank ติดต่อกลับอย่างเร็วที่สุด
ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 อาชีพเสริมรายได้ในช่วงโควิด รายได้ดีไม่ขาดมือ แถมยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แน่นอน นอกจากนี้หากใครที่กำลังอยู่ช่วงวิกกฤติ ตกงานกะทันหัน ก็ยังมีมาตรการจากประกันสังคม ชดเชยกรณีหยุดงาน ออกจากงาน ตกงาน จาก COVID-19 ให้ด้วยนะ อย่างน้อยจะได้ช่วยเยียวยาสู้วิกกฤติโควิดในครั้งนี้ แล้วที่สำคัญเพื่อนๆ ชาวแฟรงค์อย่าลืมดูแลตัวเอง ซื้อประกันสุขภาพ  กับ frank.co.th เพื่อให้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกันด้วย ซึ่งวงเงินค่ารักษาจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเลย ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาแพงๆ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ก็รับกรมธรรม์ผ่านอีเมลทันที

ประกันออนไลน์

The post 5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Mon, 01 Jun 2020 05:05:10 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11883 ต่อจากลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกัน  ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร ทางครม.ได้เห็นผลกระทบโควิด 19 ที่หลายคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ จึงมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจำนวน 13 ล้านคน เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นกลุ่มคนท

The post เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ต่อจากลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกัน  ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร ทางครม.ได้เห็นผลกระทบโควิด 19 ที่หลายคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ จึงมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจำนวน 13 ล้านคน เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่เคยได้รับเงิน 15,000 บาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน หรือเยียวยาเกษตรกรก่อนหน้านี้ แล้วใครบ้างที่จะได้รับสิทธิ์เยียวยากลุ่มเปราะบาง พร้อมจะได้รับเงินช่วยเหลือตอนไหน มาเช็คสิทธิ์กลุ่มเปราะบางกันเลย!! (อัพเดตข้อมูลวันที่ 08/07/2563)

ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปาะบาง 3,000 บาท

เยียวยากลุ่มเปราะบาง

  • เด็ก คือ กลุ่มเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุครบ 6 ปี
  • ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป
  • ผู้พิการ

เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินเท่าไหร่

สำหรับใครที่เข้าข่ายกลุ่มข้างต้น ก็สามารถตรวจสอบเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง เพื่อรับเงินเยียวยาได้เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 บาท  ทั้งนี้จะจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางรวมกับเงินตามสิทธิที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม เช่น เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยยังชีพคนพิการ เอาเป็นว่า!! เรามาตรวจสอบเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางแต่ละกลุ่มกันเลย

1. เงินเยียวยาเด็กแรกเกิด

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
การเงินเยียวยากลุ่มเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จะได้รับ เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท + เงินเยียวยาเด็ก 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มเด็กแรกเกิดจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,600 บาทต่อคน แต่ถ้าท่านต้องการตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตร สามารถเช็กสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตรได้ที่โครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยคุณพ่อคุณแม่เด็กจะต้องเตรียมข้อมูล ตามนี้

  • บัตรประชาชนของแม่เด็กที่ใช้ยื่นรับสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชนเด็กที่ใช้ยื่นรับสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร

2. เงินเยียวยากลุ่มผู้สูงอายุ

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
ส่วนเงินเยียวยาผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 - 1,000 บาท  (ตามช่วงอายุ) + เงินเยียวยาผู้สูงอายุ 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,600-4,000 บาทต่อคน โดยท่านสามารถตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม หรือเช็คสิทธิ์กลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุกันก่อนได้ เพื่อตรวจสอบว่าท่านมีสวัดิการสังคมหรือไม่ 
หมายเหตุ : เบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุจะในรับเงินช่วยเหลือตามปกติทุกๆ เดือน ดังต่อไปนี้

  • อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาทต่อเดือน
  • อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาทต่อเดือน
  • อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

3. เงินเยียวยากลุ่มคนพิการ

นอกจากนี้กลุ่มคนพิการที่เคยได้รับสวัสดิการสังคมอยู่แล้ว ก็จะได้รับ เบี้ยเงินพิการ 800 บาท + เงินเยียวยาคนพิการ 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มคนพิการจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,800 บาทต่อคน โดยไม่ต้องลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากท่านจะได้รับเบี้ยคนพิการผ่านทางบัญชีธนาคารรวมกับเงินเยียวยากลุ่มคนพิการ แต่ถ้าท่านยังไม่เคยลงทะเบียนคนพิการก็สามารถยื่นคำขอบัตรประจำตัวคนพิการ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ลงทะเบียนเยียวยากลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินตอนไหน?

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
จากที่มีมาตราการช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มผู้เปราะบาง อย่างเช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ อัพเดท! ทางภาครัฐมีมติว่าจะจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางคนละ 3,000 บาท ภายในวันที่ 20 ก.ค.63  โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แล้วจะเข้าเงินบัญชีเดียวกับที่เคยได้รับเงินอุดหนุนเด็ก เบื้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการตามสิทธิที่มีอยู่แล้ว หรือจะเลือกรับเป็นสดโดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเยียวยาให้องค์กรส่วนท้องถิ่นเป็นคนจัดสรรต่อไป
** ในกรณีท่านยังไม่ได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3,000 บาท หลังจากวันที่ 20 ก.ค. 63 แนะนำให้ติดต่อไปที่สายด่วน พม. 1300 หรือติดต่อที่สำนักงานสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ

ถ้าได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาไหม

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
หากท่านที่เคยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ เช่น เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยคนพิการ เบี้ยผู้สูงอายุ มีได้รับสิทธิ์เงินเยียวยากลุ่มเปราะบางแน่นอน เพราะเป็นเงินที่ช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาตรการในช่วงโควิด 19 แต่ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3,000 บาท จะต้องอยู่ในเกณฑ์ตามเงื่อนไข ดังนี้

  • ผู้มีสิทธิจะต้องมีฐานข้อมูลของกระทรางฯ ที่เคยได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว
  • ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้รับเงิน 5,000 บาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เยียวยาเกษตรกร
  • ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ม.33 (กรณีโควิด 19)

แล้วเราจะตรวจสอบสิทธิสวัสดิการอย่างไร

หากไม่แน่ใจว่าเรามีสวัสดิการแห่งรัฐและสวัสดิการสังคมหรือไม่ ให้ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคมเบื้องต้นด้วยการกรอกหมายเลขบัตรประชาชน แล้วกดปุ่มตรวจสอบสิทธิ์ ถ้าท่านเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิจะปรากฎสวัสดิการต่างๆ ที่ท่านได้รับ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้พิการ เป็นต้น
แต่ถ้าท่านยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ได้แก่ เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุและคนพิการจะต้องไปลงทะเบียนที่สำนักงานเขต อบต หรือเทศบาลก่อน  เพื่อให้ทางกระทรวงการคลังเข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
เพนกวิน frank.co.th ขอเป็นส่วนหนึ่งให้กำลังใจทุกคนผ่านวิกฤตโควิด 19 ไปด้วยดี สิ่งสำคัญตอนนี้เราจะต้องดูแลสุขภาพให้ และเป็นกำลังใจให้กัน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคภัยไข้เจ็บมาเยือน เมื่อร่างกายเราเเข็งแรงดีแล้ว จิตใจเราก็จะมีความสุขตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ดีที่สุดก็คือสุขภาพตัวเรานั่นเอง  สุดท้ายแล้วอย่าลืมนึกถึงประกันสุขภาพกับ Frank หรือประกันภัยออนไลน์ที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณด้วยนะ แฟรงค์พร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ

ประกันสุขภาพ

The post เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อป.โทเมืองนอกยังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581 Mon, 13 Jan 2020 03:26:51 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10047 สำหรับการเรียนต่อโทเมืองนอก ถือเป็นเป้าหมายชีวิตใครหลายๆ คนเลยล่ะ เพราะเราจะได้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และต่อยอดการศึกษาที่เราใฝ่ฝัน แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศให้ดีด้วย เนื่องจากบางประเทศก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าเทอม ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าอุปกรณ์การเรียน หรือค่

The post วางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อป.โทเมืองนอกยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับการเรียนต่อโทเมืองนอก ถือเป็นเป้าหมายชีวิตใครหลายๆ คนเลยล่ะ เพราะเราจะได้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และต่อยอดการศึกษาที่เราใฝ่ฝัน แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศให้ดีด้วย เนื่องจากบางประเทศก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าเทอม ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าอุปกรณ์การเรียน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เต็มไปหมด หากใครได้ขอทุนการศึกษาเอาไว้แล้ว ก็ลองวางแผนงบประมาณเรียนต่อตามนี้ก่อนครับ ง่ายนิดเดียว!!

ค่าใช้จ่ายสำหรับเรียนต่อป.โทเมืองนอก มีอะไรบ้าง

ขอบอกเลยว่า การเรียนต่อโทเมืองนอกนั้นส่วนใหญ่จะใช้เวลา 1-2 ปี ยกเว้นบางหลักสูตรหรือบางมหาลัยที่เรียนแค่หนึ่งปีเท่านั้น จะต่างกับเรียนป.ตรีที่ใช้เวลานานกว่า ซึ่งสมัยนี้ก็มีมหาวิทยาลัยน่าเรียนต่อให้เราเลือกมากมาย แต่ถ้าเราเลือกเรียนเป็นภาคอินเตอร์ อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยเราจะต้องวางแผนงบประมาณให้ดีก่อน เพื่อให้เราได้เรียนต่อตามความฝันสำเร็จนั่นเอง

1. ค่าขอวีซ่านักเรียน

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
กรณีที่คุณต้องการเรียนต่อโทเมืองนอก บางประเทศอาจจะต้องขอวีซ่านักเรียนกันก่อนครับ อย่างเช่น ถ้าคุณสนใจเรียนต่อที่อังกฤษ ก็จะต้องทำวีซ่านักเรียนและเตรียมเอกสารขอวีซ่าอังกฤษให้พร้อมด้วย ซึ่งอัตราค่าวีซ่าอังกฤษจะอยู่ที่ประมาณ $335 ครับ ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมขอวีซ่านักเรียนแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกันนะ  แนะนำให้ลองเช็กจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการก่อน แล้วค่อยยื่นขอวีซ่าครับ นอกจากนี้บางวีซ่ายังมีค่าใช้จ่ายสำหรับตรวจสุขภาพและค่าเอกสารอื่นๆ ด้วย

2. ค่าเดินทางไป-กลับ

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
เมื่อเตรียมค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าแล้ว ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเดินทางไปยังเมืองนอกด้วย ขอบอกเลยว่า ค่าตั๋วเครื่องบินจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นราคาตั๋วชั้นประหยัด ก็ให้รีบจองทันที! (กรณีที่วางแผนเรียนต่อต่างประเทศเรียบร้อยแล้วนะครับ) หรือบางแห่งอาจจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อน 1 เดือน เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : 5 วิธีจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศให้ได้ราคาถูกที่สุด!!

3. ค่าเทอมตลอดหลักสูตร

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ หรือค่าลงทะเบียนเรียนตามหลักสูตร เราจะต้องเช็กค่าเรียนให้ดีว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่  ทั้งนี้เเฟรงค์จะขอยกตัวอย่างค่าเทอมโดยเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยสำหรับเรียนต่อปริญญาโทคร่าวๆ ได้แก่ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ดังนี้

  • ค่าเทอมปริญญาโทอเมริกา เฉลี่ยอยู่ที่ 900,000 บาทต่อปี
  • ค่าเทอมปริญญาโทอังกฤษ เฉลี่ยอยู่ที่ 650,000 บาทต่อปี
  • ค่าเทอมปริญญาโทออสเตรเลีย เฉลี่ยอยู่ที่ 800,000 บาทต่อปี
  • ค่าเทอมปริญญาโทนิวซีเเลนด์ เฉลี่ยอยู่ที่ 730,000 บาทต่อปี

ขอย้ำว่า! จะเป็นการคำนวณค่าเทอมโดยเฉลี่ย ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย เช่นสาขาวิชาแพทย์ วิศวะ พาณิชย์ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย ภาษา รวมถึงมหาวิทยาลัยที่ต้องการเลือกเรียนด้วย (อันนี้ยังไม่รวมค่าครองชีพนะครับ) ดังนั้น คุณต้องเผื่อค่าใช้จ่ายให้เพียงพอต่อหลักสูตรของคุณให้ดี แล้วอย่าลืมเช็กอัตราค่าแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศด้วย

4. ค่าที่พักระหว่างเรียน

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
หลังจากวางแผนค่าเทอมแล้ว เราก็ต้องคำนวณค่าที่พักระหว่างเรียนเช่นกัน โดยราคาที่พักตามนอกเมืองจะค่อนข้างประหยัดกว่าในเมือง เช่น ค่าพักเฉลี่ยนอกกรุงลอนดอนอยู่ที่ 20,400 บาทต่อเดือน แต่ถ้าพักอยู่ในกรุงลอนดอนจะประมาณ 26,000 บาทต่อเดือน สำหรับใครที่ไม่อยากเสียค่าที่พักแพงๆ ก็สามารถเลือกอยู่หอพักตามมหาวิทยาลัยได้  จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเกือบครึ่งเลยล่ะ

5. ค่าอุปกรณ์การเรียน

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
สำหรับค่าอุปกรณ์การเรียนอย่างเช่น สมุด หนังสือ เครื่องเขียน หรือของใช้ที่จำเป็นต่อการเรียน ก็ควรเตรียมเผื่อไว้กันด้วย ซึ่งบางมหาวิทยาลัยอาจจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการเรียน แนะนำให้คุณอ่านรายละเอียดของมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครก่อน  เราจะได้วางแผนการเงินอย่างถูกต้อง

6. ค่าประกันศึกษาต่อต่างประเทศ

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
กรณีที่คุณวางแผนเรียนต่อต่างประเทศหลายเดือน หรือนานเป็นปี ก็จะต้องมีค่าธรรมเนียมสุขภาพคุ้มครองเมื่อยามเจ็บป่วยด้วย  ยกตัวอย่างถ้าคุณต้องการขอวีซ่าอังกฤษ ที่มีระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป จะมีค่าบริการสุขภาพเพิ่มเข้ามา แต่ถึงอย่างไรก็อาจจะไม่ครอบคลุมเท่าการซื้อประกันเดินทางสำหรับเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากมันจะช่วยดูแลทั้งอุบัติเหตุและสุขภาพได้ดีกว่า เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่างประเทศเฉพาะ เวลาเจ็บป่วยก็มีคนช่วยดูแล ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเอง เเฟรงค์แนะนำให้เตรียมทำเผื่อไว้เลย อุ่นใจกว่า

7. ค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน

ค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศ
นอกจากเราวางแผนเรียนต่อต่างประเทศกันแล้ว อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนตัวกันด้วยนะ  ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าเสื้อผ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต รวมถึงค่าเดินทางระหว่างไปเรียน โดยค่าครองชีพของแต่ละประเทศจะต่างกัน ยิ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองค่าครองชีพสูงกว่านอกเมืองแน่นอน ฉะนั้นเราต้องประเมินค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ดี เพื่อควบคุมการเงินให้เหมาะสม
พอคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว ก็ถึงเวลาเก็บเงิน! เพื่อเรียนต่อโทเมืองนอกอย่างเดียว ถึงแม้ว่าการเรียนต่อต่างประเทศจะต้องใช้เงินค่อนข้างมาก อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคุณก็คือการสมัครยื่นขอทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทย แต่เราควรอ่านคุณสมบัติของเราให้ตรงกับทุนที่ต้องการด้วย เพื่อง่ายต่อการขอทุน แล้วไม่ว่าเราจะเลือกขอเงินทุนหรือออมเงินเอง มันจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราวางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อต่างประเทศเป็น หลังจากเรามีค่าใช้จ่ายเพียงพอแล้ว ก็เหลือแค่สานฝันตัวเองให้ไปถึงจุดหมายอย่างเดียว
แหล่งข้อมูล : 

  • Siuk-thailand.com
  • idp.com

 
ประกันเรียนต่อต่างประเทศ

The post วางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่อป.โทเมืองนอกยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
แนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ทำไมถึงอ่อนค่า ?! https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c2019?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%258c2019 Mon, 09 Sep 2019 10:54:11 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8302 เป็นข่าวคึกโครมเลยครับสำหรับแนวโน้มค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) อ่อนค่าร่วงต่ำสุดในประวัติการณ์ สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรหนอ ? ทำไมค่าเงินปอนด์ถึงเป็นเช่นนั้น เอาเป็นว่าเพนกวินแฟรงค์มีคำตอบมาบอกครับ แนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ผันผวนส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อตกลง Brexit ที่ยังไม่ชัดเจนว่าอังกฤษจะออกจาก EU หรือไม่ ?

The post แนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ทำไมถึงอ่อนค่า ?! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เป็นข่าวคึกโครมเลยครับสำหรับแนวโน้มค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) อ่อนค่าร่วงต่ำสุดในประวัติการณ์ สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรหนอ ? ทำไมค่าเงินปอนด์ถึงเป็นเช่นนั้น เอาเป็นว่าเพนกวินแฟรงค์มีคำตอบมาบอกครับ

q_start

แนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ผันผวนส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อตกลง Brexit ที่ยังไม่ชัดเจนว่าอังกฤษจะออกจาก EU หรือไม่ ?

q_end
จะให้เป๊ะสุด เราขออัปเดทข้อมูลจากผู้รู้จริง ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ประเมินสถานการณ์ การกลับมาของความเสี่ยงจาก Brexit แนะนัยต่อเศรษฐกิจไทย เขียนโดย ดร. กำพล อดิเรกสมบัติ หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน, ดร. ธนพล ศรีธัญพงศ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส และชินโชติ เถรปัญญาภรณ์ นักวิเคราะห์ Economic Intelligence Center (EIC) ส่วนหนึ่งระบุว่า “เงินปอนด์ผันผวนตามโอกาสของการเกิด No-deal Brexit อย่างมีนัยสำคัญ”

ถามว่า Brexit เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ? 

Frank.co.th หยิบคำกล่าวจากเว็บไซต์ลงทุนแมน ระบุไว้ว่า “การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) เรื่องนี้เป็นประเด็นตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน และจนวันนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป”
อธิบายสถานการณ์ให้เห็นชัด ๆ เหตุผลที่อังกฤษอยากนำสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ออกจากสหภาพยุโรป ยกตัวอย่างเห็นชัด ๆ จากเหตุ ชาวอังกฤษไม่พอใจที่สหภาพยุโรปนำเงินภาษีของพวกเขา ไปช่วยเหลือวิกฤตหนี้สาธารณะกรีซตั้งแต่ปี 2000 โดยสหราชอาณาจักรได้จ่ายค่าสมาชิกแก่สหภาพยุโรปเป็นจำนวนกว่า 4.2 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ดี เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการตัดสินใจออกจาก EU ไม่ง่ายนะครับ เพราะสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ไม่ได้มีแค่อังกฤษนะครับ ยังมีสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือรวมอยู่ด้วย ยิ่งทำให้การตัดสินใจเรื่อง Brexit ต้องผ่านความเห็นและการลงคะแนนจากหลายฝ่าย
จากสถานการณ์ยืดเยื้อ… ถ้าย้อนคิดเรียงช่วงเวลาเกิดเหตุข้อตกลง Brexit ที่เป็นอีกปัจจัยทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าเรื่องนี้ยืดเยื้ออย่างเห็นได้ชัดมาตั้งแต่ปี 2016

  • โดยค่าเงินปอนด์สเตอร์ริงเนี้ยะ เริ่มอ่อนค่าลงเริ่มตั้งแต่ UK ลงประชามติเลยว่าจะออกจาก EU ที่เรียกว่า "ข้อตกลงเบร็กซิต (Brexit)" ในวันที่ 23 มิถุนายน 2016 และทำให้ค่าเงินปอนด์ผันผวนมาโดยตลอดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ 
  • จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคม 2019 เทเรซา เมย์ ประกาศลาออกจากเก้าอี้นายกอังกฤษค่าเงินปอนด์ก็ผันผวนมาเรื่อย ๆ เนื่องจากสถานการณ์ประกาศถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร หรือ Brexit
  • ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2019 บอริส จอห์นสันเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้!!! บอริสจะผลักดัน Brexit เต็มพลังโดยให้ UK ออกจาก EU ไม่ว่าจะเป็นวิถีไหนแบบ Brexit หรือแบบ No deal Brexit แบบไหนก็จะทำ

ขณะที่ผู้นำอังกฤษและสมาชิกรัฐสภาพส่วนใหญ่ลงมติตรงข้ามไม่เห็นด้วยกับการเลือก No-deal Brexit เพราะไม่อยากให้เกิด Hard Brexit ในเร็ววันนี้ และต้องการความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ EU แบบ Soft Brexit มากกว่า 
แนวโน้มค่าเงินปอนด์-2019-ทำไมถึงอ่อนค่า

ถามว่า Brexit VS No-deal Brexit คืออะไร ? 

เสียงแตก!! เพราะมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อาจจะสับสนไปใหญ่ Brexit หรือ No-deal Brexit เนี๊ยะ เกี่ยวอะไรกับแนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ทำไมถึงอ่อนค่า ? สรุปง่าย ๆ ครับ เกี่ยวกับความเชื่อมั่นล้วน ๆ เลยครับ 
ยุคบอริส จอห์นสัน เขาอยากให้ No-deal Brexit ออกจาก EU ทันทีแบบโนแคร์โนสน แถมกล้าแลกหมัดกันตรง ๆ แบบทุบหม้อข้าว!! ขอออกอย่างเดียว ไม่มีดีล ไม่ต่อรอง กล้าเสียสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนที่เคยมีร่วมกับกับ EU ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายท่านมองว่า อาจจะเป็นเพราะบอริสมีมีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นแบ็กอัพที่ให้เซ็นข้อตกลงการค้าระหว่างกันและกัน 
และหากเกิด No-deal Brexit เกิดขึ้น ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า จะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินปอนด์อ่อนค่าโดยตรง” 
ถึงแม้แนวโน้มค่าเงินปอนด์ร่วงจะมีข้อดี คือ ทำให้คนไทยเที่ยวเกาะอังกฤษได้ประหยัด ช้อปแบรนด์เนมเพลิน ๆ ไม่ต้องกลัวงบเกิน หากสนใจอ่านเรื่องราวขอวีซ่าตามต่อได้ที่ 4 ขั้นตอนขอวีซ่าอังกฤษปี 2019 ได้ครับ 
ในข้อดีย่อมมีข้อเสีย... จริงอยู่ที่คนไทยเที่ยวอังกฤษไม่แพง แต่อีกนัยยะนึงก็ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอาจจะเดินทางมาเมืองไทยลดลงเช่นกัน รวมทั้งนักธุรกิจผู้ส่งออกสินค้าก็ต้องเตรียมแผนสำรองด้วย ซึ่งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กำชับเลยว่า ในอนาคตผู้ประกอบการไทยควรวางแผนป้องกันความเสี่ยงค่าเงินปอนด์อ่อนค่า
และไม่ว่าจะเรื่อง Brexit จะจบอย่างไร ? จะหมู่หรือจ่า ??? เราคนไทยคงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อยาว ๆ ครับ 
ขอบคุณข้อมูล : mgronline.com, longtunman.com, scbeic.com
Content by Butter Cutter

ซื้อประกันเดินทาง

The post แนวโน้มค่าเงินปอนด์ 2019 ทำไมถึงอ่อนค่า ?! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
Midlife crisis พิชิตวิกฤตการเงิน สำหรับวัยกลางคน https://www.bolttech.co.th/blog/midlife-crisis?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=midlife-crisis Fri, 25 Jan 2019 02:40:52 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=5140 หลังจากตรากตรำทำงานกันมาหลายปี เหล่าวัยรุ่นสร้างตัวทั้งหลายก็เริ่มเข้าสู่ “วัยกลางคน” ตามวัฎจักรของชีวิต ซึ่งเมื่ออายุเข้าเลข 3 ความกังวลต่างๆ ก็ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น หนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นความรู้สึกหวาดหวั่นด้านความมั่งคั่ง มั่นคง จนบางครั้งหลายคนอาจเข้าขั้นวิตกจริต จนทำให้เกิดเป็นช่วงชีวิตที่เรียกว่า “Mid-Life

The post Midlife crisis พิชิตวิกฤตการเงิน สำหรับวัยกลางคน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลังจากตรากตรำทำงานกันมาหลายปี เหล่าวัยรุ่นสร้างตัวทั้งหลายก็เริ่มเข้าสู่ “วัยกลางคน” ตามวัฎจักรของชีวิต ซึ่งเมื่ออายุเข้าเลข 3 ความกังวลต่างๆ ก็ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น
หนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นความรู้สึกหวาดหวั่นด้านความมั่งคั่ง มั่นคง จนบางครั้งหลายคนอาจเข้าขั้นวิตกจริต จนทำให้เกิดเป็นช่วงชีวิตที่เรียกว่า “Mid-Life Crisis หรือ วิกฤตวัยกลางคน” ขึ้นมา โดยส่วนใหญ่มักเริ่มตระหนักอย่างจริงจังแล้วว่า ตนเองมีเงินออมเพียงเล็กน้อย หรือแม้แต่ยังไม่มีเงินออมเลยก็มี แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตหลังจากนี้ที่ต้องเดินหน้าสู่สถานี ‘วัยเกษียณ’ ต่อไป
อย่างไรก็ตามนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีก็ได้ เพราะเราเริ่มมองเห็นปัญหาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ควรทำลำดับถัดไป หลังจากตกใจกับเงินในบัญชีของตัวเองก็คือการแก้ปัญหานั่นเอง โดยวิธีการแก้ปัญหา เพื่อพิชิตวิกฤตการเงิน สำหรับวัยกลางคนนั้น อาจเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากเคล็ดไม่ลับ 3 ข้อนี้

1. เช็คหนี้สินที่คงเหลือดูก่อน

ในวัยเลข 3 คงเป็นไปยาก ถ้าเราไม่ก่อหนี้อะไรเลย ดังนั้น เราควรเริ่มต้นจากกางรายจ่ายหนี้สินทั้งหมดออกมา เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเงินกู้ยืมเรียน หรือแม้แต่หนี้สินอื่นๆ ที่คนในครอบครัวสร้างไว้ และทำให้เราต้องรับภาระแทน จากนั้นก็นำมาเรียงลำดับ จำนวนปีที่ต้องผ่อนชำระ พร้อมกับยอดที่ต้องชำระต่อเดือน ซึ่งแม้จะดูน่าตกใจว่า ทำไมเราหนี้สินเยอะขนาดนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้เราเห็นว่า หนี้บางอย่าง เราอาจชะลอการจ่าย หรือสามารถชำระหมดได้ภายในระยะเวลาเท่าไร

2. ตั้งเป้าหมายทางการเงินแบบระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

การตั้งหน้าตั้งหน้า ใช้ชีวิตอย่างสนุกสุดเหวี่ยงในทุกๆ วัน หรือทำงานเพื่อใช้หนี้เพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่การไม่มีเป้าหมายอะไรเลย จะยิ่งทวีวิกฤติด้านความรู้สึกกังวลให้มากขึ้น เพราะเราจะเริ่มเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จนรู้สึกว่า เราน่าจะทำแบบเขา หรือเรากำลังเดินทางผิด เป็นต้น

ดังนั้น เราจึงควรกำหนดเป้าหมายทางเงินขึ้นมาสัก 3 อย่าง โดยแบ่งเป็น

  • ระยะสั้น เช่น เก็บเงินไปเที่ยวใน/ต่างประเทศ, ระยะกลาง เช่น เก็บเงินเพื่อใช้หนี้ หรือเก็บเงินไว้เพื่อลงทุนธุรกิจที่ตัวเองสนใจ โดยหาข้อมูลคร่าวๆ ว่าควรให้งบประมาณเท่าไร
  • ระยะยาว เช่น เก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน หรือเรียนต่อต่างประเทศ เป็นต้น

3. ออมเงินตามความเหมาะสม

แม้นักวิเคราะห์จะแนะนำให้เราเริ่มออมเงินเมื่อเริ่มทำงาน (อายุ 25 ปี) โดยออมตั้งแต่ 10% ของรายได้ และขยับไปเป็น 15% ของรายได้ เมื่ออายุ 35 ปี เพื่อที่จะได้เกษียณอายุตอน 65 ปีอย่างสบายใจ แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น (ในขณะที่อายุ 35 ปี) พวกเขากลับออมเงินได้น้อยลง เพราะด้วยหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เมื่อคนเรามีรายได้มากขึ้น ก็มักจะมีรายจ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย และหากในกรณีที่รายได้ลดลง ก็กลับไม่ค่อยลดรายจ่าย แต่เลือกที่จะลดการออมลง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ เราต้องยึดเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ให้ขึ้นใจ และพยายามเก็บเงินให้เหมาะสมกับเป้าหมายนั้นๆ นั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก moneyhub.in.th
Rewrite by Butter Cutter

The post Midlife crisis พิชิตวิกฤตการเงิน สำหรับวัยกลางคน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เครดิตบูโร มีผลอย่างไรกับการกู้ซื้อบ้าน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%9a%e0%b8%b9%e0%b9%82%e0%b8%a3-%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 Mon, 18 Sep 2017 02:47:05 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=3203 อ่านเร็วๆ เครดิตบูโร คือข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติบันทึกไว้ เครดิตบูโรบันทึกข้อมูลการกู้ยืมและการชำระหนี้ของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก เครดิตบูโรมีผลต่อการพิจารณาปล่อยกู้ซื้อบ้าน มีสถาบันการเงินบางแห่งที่ไม่ได้เข้าระบบเครดิตบูโร ได้แก่ สหกรณ์ต่าง ๆ และกยศ. บ่อยครั้งนะครับที่ Frank ได้เจอคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซ

The post เครดิตบูโร มีผลอย่างไรกับการกู้ซื้อบ้าน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

  • เครดิตบูโร คือข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติบันทึกไว้
  • เครดิตบูโรบันทึกข้อมูลการกู้ยืมและการชำระหนี้ของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก
  • เครดิตบูโรมีผลต่อการพิจารณาปล่อยกู้ซื้อบ้าน
  • มีสถาบันการเงินบางแห่งที่ไม่ได้เข้าระบบเครดิตบูโร ได้แก่ สหกรณ์ต่าง ๆ และกยศ.

บ่อยครั้งนะครับที่ Frank ได้เจอคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านหรือซื้อรถก่อนดี อันนี้ Frank คงตัดสินใจให้ไม่ได้ แต่เชื่อว่าพอหาข้อมูลจะซื้อบ้านหรือซื้อรถแล้ว ในขั้นตอนการหาข้อมูลต้องเจอคำนี้แน่ๆ ครับ “เครดิตบูโร” มันคืออะไรนะ นั่นสิครับ Frank เองก็อยากรู้ ดังนั้นเรามาลองดูกันเลยดีกว่าครับ

เครดิตบูโรคืออะไร

กู้ซื้อบ้าน-ประกัน-เครดิตบูโร
 
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เครดิตบูโร” เป็นสถาบันจัดตั้งตามกฎหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลสินเชื่อและการชำระหนี้ของคนไทยที่มีอยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ ทำหน้าที่ตรวจสอบเครดิตบูโรของบุคคลหนึ่ง เพื่อจะรู้ว่าคนๆ นั้นติดหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงินใดๆ เป็นระยะเวลามากกว่า 3 เดือนอยู่หรือไม่ และถ้าหากมีการค้างหนี้นานกว่า 3 เดือน คนๆ นั้นจะถูกจัดเข้าบัญชี “แบล็กลิสต์” ส่งผลให้ธนาคารมีแนวโน้มสูงมากที่จะไม่อนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน การติดแบล็กลิสต์ 1 ครั้งจะมีชื่อค้างในบัญชี 3 ปี
นอกจากจะตรวจสอบแบล็กลิสต์ได้แล้ว ข้อมูลยังแสดงประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดด้วย แสดงผลทุกรายการกู้ยืมเงินที่เคยมีมาในช่วง 3 ปี และระบุสถานะการชำระหนี้ หากล่าช้าไม่เกิน 3 เดือนก็จะไม่ถึงกับติดแบล็กลิสต์ แต่ถ้าหากว่ามีในบันทึกประวัติบ่อยๆ ก็จะทำให้คะแนนด้านพฤติกรรมลูกหนี้ลดลง มีผลต่อการพิจารณาไม่ผ่านการอนุมัติเงินกู้ก้อนใหม่ได้ ในทางกลับกัน ถ้าประวัติดี ชำระหนี้ตรงเวลามาสม่ำเสมอ ก็จะเป็นคะแนนบวกทำให้แบงก์ปล่อยกู้ให้เราง่ายขึ้น
“ความเข้มงวดการให้สินเชื่อ” หรือเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละธนาคารจะต่างกัน บางธนาคารอาจยอมรับผู้ยื่นขอกู้สินเชื่อชำระหนี้ล่าช้าไม่เกิน 1 เดือนบ้าง แต่บางธนาคารอาจจะตัดสินใจไม่อนุมัติเลย การไม่มีบัตรเครดิตไม่มีผลต่อเครดิตบูโร เพราะไม่มีบัตรเครดิต ก็ไม่แสดงสถานะการชำระหนี้

เครดิตบูโรบันทึกอะไรบ้าง

เครดิตบูโร-แบล็คลิสต์-ลงทุนอสังหา
 
สิ่งที่ถูกบันทึกนั้น จะเป็นข้อมูลการกู้ยืมเงินจาก “สถาบันการเงิน” ที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน นิติบุคคลที่ให้บริการบัตรเครดิต นิติบุคคลที่ให้บริการสินเชื่อ เป็นต้น นั่นหมายถึงถ้าเรามีประวัติการกู้ยืมสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ฯลฯ ก็จะถูกบันทึกข้อมูลไว้กับเครดิตบูโร เครดิตบูโรบันทึกทุกสิ่งที่เป็นข้อมูลการกู้ยืมเงิน หมายความว่าประวัติการชำระค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ไม่ใช่การกู้ยืม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ไม่ถูกบันทึกไปในข้อมูลเครดิตบูโร จึงไม่ถูกนำมาพิจารณาการปล่อยกู้

สถาบันที่ไม่มีข้อมูลเครดิตบูโร

หน่วยงานที่ให้กู้ยืมเงินแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกเครดิตบูโรก็จะไม่ต้องส่งประวัติไปแสดง และข้อมูลไม่ถึงมือธนาคาร คือ สหกรณ์ต่างๆ (ยกเว้นบางแห่งเป็นสมาชิกแล้ว) และกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เหล่านี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ประวัติการกู้ยืมเงินจะไม่กระทบต่อการพิจารณาให้สินเชื่อบ้าน ปัจจุบัน เครดิตบูโรกำลังพยายามนำหน่วยงานทั้ง 2 หน่วยงาน เข้าระบบข้อมูลเพื่อการประมวลผลที่ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้คนไทย จึงต้องคอยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อระมัดระวังเครดิตของตนเองที่จะปรากฏต่อธนาคาร
ข้อมูลจาก ::   บทความข้างต้นเผยแพร่ครั้งแรกที่ DDproperty.com

The post เครดิตบูโร มีผลอย่างไรกับการกู้ซื้อบ้าน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>