ขับรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Mon, 18 Nov 2024 05:27:45 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ขับรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b6%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Mon, 18 Nov 2024 05:04:14 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38485 การซื้อรถคันแรก ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงบประมาณ สเปกของรุ่นรถที่คุณสนใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่การซื้อรถคันแรก เราควรจะตัดสินใจซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง แบบไหนดีกว่ากัน?  บอกเลยว่า ทั้งสองทางเลือกนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน  และตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกันด้วย เพื่อช่วยคุณตั

The post ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การซื้อรถคันแรก ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงบประมาณ สเปกของรุ่นรถที่คุณสนใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่การซื้อรถคันแรก เราควรจะตัดสินใจซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง แบบไหนดีกว่ากัน?  บอกเลยว่า ทั้งสองทางเลือกนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน  และตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกันด้วย เพื่อช่วยคุณตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้น มาอ่านบทความนี้กันเลย

ซื้อรถมือหนึ่ง

ซื้อรถมือหนึ่ง

รถยนต์มือหนึ่ง เป็นรถยนต์สภาพใหม่เอี่ยมที่เพิ่งผลิตออกมาจากโรงงาน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหา มาพร้อมกับ การรับประกันคุณภาพ สามารถเลือกได้หลากหลายออฟชั่น

ข้อดี

  • สภาพสมบูรณ์ และไม่มีประวัติการใช้งาน
  • มีการรับประกันจากผู้ผลิต
  • เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
  • เลือกออฟชั่นเสริมได้ตามใจชอบ

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • ต้องรอรถยนต์จากศูนย์

ซื้อรถมือสอง

ซื้อรถมือสอง

รถยนต์มือสอง เป็นรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาบ้าง มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถคนเก่า บางคันยังมีสภาพดีเพราะเจ้าของเดิมต้องการเปลี่ยนรถ มีราคาย่อมเยาว์กว่ารถยนต์มือหนึ่ง

ข้อดี

  • ราคาที่ถูกกว่า
  • ค่าเสื่อมราคาที่น้อยลง
  • ประหยัดค่าเบี้ยประกันภัย
  • สามารถซื้อรถรุ่นที่มีอุปกรณ์และคุณสมบัติสูงขึ้นได้

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงกว่า
  • อาจได้รถยนต์ที่สภาพไม่ดี หากดูรถไม่เป็น

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อรถมือสอง ควรซื้อประกันรถชั้นไหนดี?

ซื้อรถมือหนึ่ง ซื้อรถมือสอง

การเลือก ซื้อรถมือหนึ่ง หรือ ซื้อรถมือสอง นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และความสะดวกของแต่ละคน หากคุณต้องการรถที่มีสภาพใหม่เอี่ยม พร้อมการรับประกันและเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ รถมือหนึ่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัด และพร้อมที่จะดูแลบำรุงรักษาเพิ่มเติม รถมือสองอาจเป็นตัวเลือกสำหรับคุณ แนะนำให้คุณตรวจสอบรถมือสองให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจด้วย

แล้วไม่ว่าจะซื้อรถแบบไหน ก็ต้องไม่ลืม ซื้อประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุถชนร หรือเหตุไม่คาดฝันอย่างรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม มีหลากหลายแผนให้เลือกมากมาย เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกเพียบ ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์ เช็กเบี้ยฟรี บนหน้าเว็บไซต์ที่ bolttech.co.th เท่านั้น

ประกันรถยนต์ ออนไลน์

The post ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า คิดอัตราค่าภาษียังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2 Mon, 30 Sep 2024 07:05:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=37670 สมัยนี้ใครๆ ก็อยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV มาใช้งาน เพราะเป็นนวัตกรรมที่ใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงอะไรมากมาย แต่ก็มีหลายคนแอบสงสัยเกี่ยวกับ การต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันสิว่า การต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า คิดอัตราภาษีอย่างไรบ้าง ?? เนื่องจากปี 25

The post ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า คิดอัตราค่าภาษียังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สมัยนี้ใครๆ ก็อยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV มาใช้งาน เพราะเป็นนวัตกรรมที่ใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงอะไรมากมาย แต่ก็มีหลายคนแอบสงสัยเกี่ยวกับ การต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า EV แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันสิว่า การต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า คิดอัตราภาษีอย่างไรบ้าง ??

ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

เนื่องจากปี 2567 รัฐออกนโยบายลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า 80% เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน เพื่อกระตุ้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น ลดภาษีสามิต ภาษีนำเข้า เงินอุดหนุนรถยน์ไฟฟ้าสูงสุดคันละ 150,000 บาท อัตราภาษีพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า โดยกฎหมาย พ.ร.บ. พ.ศ. 2522 (ตามมติของ ครม. วันที่ 1 ต.ค. 65 - 30 ก.ย. 68 แบ่งได้ 3 ประเภท)

1. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

  • น้ำหนักไม่เกิน 500 กก. อัตราภาษี 30 บาท
  • น้ำหนัก 501-750 กก. อัตราภาษี 60 บาท
  • น้ำหนัก 751-1,000 กก. อัตราภาษี 90 บาท
  • น้ำหนัก 1,001-1,250 กก. อัตราภาษี 160 บาท
  • น้ำหนัก 1,251-1,500 กก. อัตราภาษี 200 บาท
  • น้ำหนัก 1,501-1,750 กก. อัตราภาษี 260 บาท
  • น้ำหนัก 1,751-2,000 กก. อัตราภาษี 330 บาท
  • น้ำหนัก 2,001-2,500 กก. อัตราภาษี 380 บาท
  • น้ำหนัก 2,501-3,000 กก. อัตราภาษี 440 บาท
  • น้ำหนัก 3,001-3,500 กก. อัตราภาษี 480 บาท
  • น้ำหนัก 3,501-4,000 กก. อัตราภาษี 520 บาท
  • น้ำหนัก 4,001-4,500 กก. อัตราภาษี 560 บาท
  • น้ำหนัก 4,501-5,000 กก. อัตราภาษี 600 บาท
  • น้ำหนัก 5,001-6,000 กก. อัตราภาษี 640 บาท
  • น้ำหนัก 6,001-7,000 กก. อัตราภาษี 680บาท
  • น้ำหนัก 7,001 กก. ขึ้นไป อัตราภาษี 720 บาท

2. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ ส่วนบุคคลเกิน 7 คน

ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

  • น้ำหนักไม่เกิน 500 กก. อัตราภาษี 15 บาท
  • น้ำหนัก 501-750 กก. อัตราภาษี 30 บาท
  • น้ำหนัก 751-1,000 กก. อัตราภาษี 45 บาท
  • น้ำหนัก 1,001-1,250 กก. อัตราภาษี 80 บาท
  • น้ำหนัก 1,251-1,500 กก. อัตราภาษี 100 บาท
  • น้ำหนัก 1,501-1,750 กก. อัตราภาษี 130 บาท
  • น้ำหนัก 1,751-2,000 กก. อัตราภาษี 160 บาท
  • น้ำหนัก 2,001-2,500 กก. อัตราภาษี 190 บาท
  • น้ำหนัก 2,501-3,000 กก. อัตราภาษี 220 บาท
  • น้ำหนัก 3,001-3,500 กก. อัตราภาษี 240 บาท
  • น้ำหนัก 3,501-4,000 กก. อัตราภาษี 260 บาท
  • น้ำหนัก 4,001-4,500 กก. อัตราภาษี 280 บาท
  • น้ำหนัก 4,501-5,000 กก. อัตราภาษี 300 บาท
  • น้ำหนัก 5,001-6,000 กก. อัตราภาษี 320 บาท
  • น้ำหนัก 6,001-7,000 กก. อัตราภาษี 340 บาท
  • น้ำหนัก 7,001 กก. ขึ้นไป อัตราภาษี 360 บาท

3. รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและสาธารณะ

ต่อภาษีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและสาธารณะ มีอัตราภาษี 10 บาท

หากใครที่มี รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ควรรีบต่อภาษีรถไฟฟ้า อย่าปล่อยให้ขาด !! เพราะถือเป็นกฎหมายบังคับให้เจ้าของรถทุกคันต้องทำ รวมถึงผู้ขับขี่ทุกคนควรเคารพกฎจราจร และเพื่อนๆ อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจขณะขับขี่ แล้วที่สำคัญอย่าลืมซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ bolttech.co.th มีแผนให้เลือกตามประเภทรถของคุณ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และ รถกระบะ (ไม่เกิน 3 ตัน) ซื้อง่าย สะดวก รวดเร็ว พร้อมรับกรมธรรม์ผ่านอีเมลทันที สามารถนำไปต่อภาษีรถได้เลย

พรบรถยนต์

The post ต่อภาษีรถยนต์ไฟฟ้า คิดอัตราค่าภาษียังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
6 เส้นทางภูเขาวิวสวย ขับรถเที่ยวเช้าจรดเย็น https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b2 Wed, 04 Sep 2024 04:48:14 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=37105 การขับรถเที่ยว ขับรถขึ้นเขา ตามที่เที่ยวธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบมากๆ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ และได้เพลิดเพลินกับการขับขี่ ในท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก หากใครที่อยากมีฟิลลิ่งนี้ ต้องลองไปแวะ 6 เส้นทางภูเขาวิวสวย สามารถขับรถเที่ยวเช้าเย็นกลับได้ พร้อมแล้วก็ลุยได้เลย !! 1. เขาสาม

The post 6 เส้นทางภูเขาวิวสวย ขับรถเที่ยวเช้าจรดเย็น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การขับรถเที่ยว ขับรถขึ้นเขา ตามที่เที่ยวธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบมากๆ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ และได้เพลิดเพลินกับการขับขี่ ในท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก หากใครที่อยากมีฟิลลิ่งนี้ ต้องลองไปแวะ 6 เส้นทางภูเขาวิวสวย สามารถขับรถเที่ยวเช้าเย็นกลับได้ พร้อมแล้วก็ลุยได้เลย !!

1. เขาสามมุข - หาดบางแสน - หาดวอนนภา

สำหรับคนที่ไม่อยากขับรถขึ้นเขา ขับรถทางไกล ได้ชมทั้งภูเขาและทะเลไปพร้อมกันๆ ต้องไม่พลาดถนนสายเขาสามมุก - หาดบางแสน - หาดวอนนภา แวะไหว้ เจ้าแม่สามมุข พร้อมกินอาหารทะเลสดๆ ร้านวังมุข พาลูกหลานลงมาเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดบางแสน ต่อด้วยการนั่งปิกนิกที่หาดวอนนภาให้สบายๆ ผ่อนคลายได้

2. จุดชมวิวเนินนางพญา ถ.เฉลิมบูรพาชลทิศ จ.จันทบุรี

เส้นทางชมวิวสุดโรแมนติก เลียบทะเลที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ถ้าใครมีโอกาสลองขับรถตั้งแต่ปากน้ำประแส จ.ระยอง มาเรื่อยๆ จนถึงเนินนางพญา จะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม เหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ ตอนเย็นๆ สามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน บอกเลยว่า เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

3. ถนนลอยฟ้า จ.น่าน

ทางขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เป็นเส้นทางสายปัว-บ่อเกลือ-แม่จริม (ทางหลวงหมายเลข 1256) วิวสองข้างทาง เป็นทุ่งหญ้าและต้นไม้เรียงราย รู้สึกสดชื่นเหมือนได้ชาร์จแบต เหมาะสำหรับสายโร้ดทริปขับรถเที่ยว ไม่ว่าจะไปคนเดียว กับคนรู้ใจ หรือเที่ยวกับแก๊งเพื่อนๆ จะได้สัมผัสธรรมชาติที่ตามหาแน่นอน

4. วนอุทยานแห่งชาติ ทุ่งบัวตอง

ที่เที่ยวธรรมชาติหน้าหนาว ในช่วงเดือนพศจิกายน - ธันวาคม  หนีไม่พ้นแถบภาคเหนือ เพราะอากาศหนาวเย็น หากกำลังจะขับรถไปดอยอินทนนท์ต้องผ่านเส้นทางแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม ทางหลวงหมายเลข 108 ที่มีความยาวกว่า 350 กม. แต่อย่าพลาดทุ่งบัวตองบนดอยแม่อูคอ 1 ปีมีครั้งเดียว ที่ดอกไม้จะบานสะพรั่งเหลืองทองทั่วทุ่ง

5. ทางด่วน Motorway M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา

เส้นทางสู่ประตูอีสาน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแห่งใหม่ เมื่อขับรถเที่ยวไปแล้วจะได้ชมวิวสวยงามของ เขื่อนลำตะคอง ข้างหนึ่งเป็นวิวภูเขา และอีกด้านเป็นวิวเขื่อน ได้เห็นทั้ง 2 บรรยากาศในที่เดียว แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถจอดรถชมวิวได้ แค่ได้ฟินกับวิวธรรมชาติสวยงามระหว่างทาง ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว

6. สะพานพ่อขุนผาเมือง

หากคุณไม่รู้จะขับรถเที่ยวที่ไหนดี แนะนำให้ลองขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ที่เป็นสะพานคอนกรีตเสริมด้วยเหล็กตอม่อที่สูงที่สุดในประเทศไทย สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในช่วงคอโค้งของสะพานจะมองเห็นวิวสวยได้ชัดเจน หรือขับรถพาแม่เที่ยว เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีเหมือนกัน เหมาะขับรถเที่ยวมาก

โร้ดทริป ขับรถเที่ยว

เส้นทางขับรถเที่ยวตามแนวภูเขา มีความสวยงามและความท้าทายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถนนเลียบชายฝั่งบนหน้าผาสูงชัน หรือเส้นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยวและลาดชัน  ล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ แต่ผู้ขับขี่ต้องไม่ประมาท ถ้าใครอยากขับรถชมวิว สไตล์โร้ดทริป แนะนำ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ bolttech.co.th คุ้มครองคุณและรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน มีแผนให้เลือกมากมาย เช่น คุ้มครองรถชนรถ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม โดยขึ้นอยู่แต่ละประเภทกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ระบุไว้ เข้ามาเช็กเบี้ยเลย เปรียบเทียบแผนฟรี ซื้อผ่านออนไลน์ได้เลย เพื่อความปลอดภัย อุ่นใจตลอดเส้นทาง

ประกันรถยนต์ ชั้น 2+

The post 6 เส้นทางภูเขาวิวสวย ขับรถเที่ยวเช้าจรดเย็น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ประกันรถยนต์ระบุคนขับ VS ไม่ระบุคนขับ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a Thu, 08 Aug 2024 03:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=36504 ประกันรถยนต์ เป็นประกันภัยที่จำเป็นมากๆ สำหรับเจ้าของรถทุกคน เวลาที่เราจะซื้อรถคันใหม่ เราจะนิยมซื้อประกันรถชั้น 1 เนื่องจากคุ้มครองอุ่นใจ ครอบคลุมมากที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับด้วย แต่หลายคนๆ อาจสงสัยว่าเราควรเลือก ประกันรถยนต์แบบระบุคนขับหรือไม่ระบุคนขับขี่ แบบไหนดีกว่ากัน? เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น มาเปรีย

The post ประกันรถยนต์ระบุคนขับ VS ไม่ระบุคนขับ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ประกันรถยนต์ เป็นประกันภัยที่จำเป็นมากๆ สำหรับเจ้าของรถทุกคน เวลาที่เราจะซื้อรถคันใหม่ เราจะนิยมซื้อประกันรถชั้น 1 เนื่องจากคุ้มครองอุ่นใจ ครอบคลุมมากที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับด้วย แต่หลายคนๆ อาจสงสัยว่าเราควรเลือก ประกันรถยนต์แบบระบุคนขับหรือไม่ระบุคนขับขี่ แบบไหนดีกว่ากัน? เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น มาเปรียบเทียบกันเลย เพราะมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกัน !!

1. ประกันรถยนต์ระบุคนขับขี่

ประกันรถยนต์ระบุคนขับ

คือ การซื้อประกันรถยนต์ แบบระบุตัวตนผู้ขับขี่ได้ กรณีคุณขับขี่รถคนเดียวหรือใช้ภายในครอบครัว สามารถซื้อประกันแบบนี้ได้ โดยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ ได้มากสุดถึง 2 คน  และมีส่วนลดเบี้ยประกันภัย สำหรับช่วงอายุของผู้ทำประกัน ดังต่อไปนี้

  • อายุ 18-24 ปี ได้รับส่วนลด 5%
  • อายุ 25-35 ปี ได้รับส่วนลด 10%
  • อายุ 35-50 ปี ได้รับส่วนลด 15%
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 20%

ข้อดี

  • เบี้ยประกันถูกกว่า ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ เนื่องจากบริษัทประกันสามารถประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำกว่า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถคนเดียว หรือคนในครอบครัว (โดยระบุชื่อผู้ขับขี่สูงสุด 2 คน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละบริษัทฯ ประกันภัย)

ข้อเสีย

  • จำกัดผู้ขับขี่ อาจไม่สะดวก หากต้องการให้คนอื่นขับแทน
  • อาจเสียสิทธิ์ความคุ้มครอง หากเกิดอุบัติเหตุขณะที่คนอื่นขับ

หากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และไม่ใช่บุคคลเดียวกับชื่อที่ระบุไว้ สามารถเคลมประกันชั้น 1 ได้ แต่ต้องเสียค่ารับผิดส่วนแรก หรือที่เรียกว่า Excess Charge ดังนี้

  • 2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายของทรัพย์สินบุคคลภายนอก เช่น ค่าซ่อมรถคู่กรณี ค่าเสาไฟ หรือต้นไม้ที่ถูกชนหัก เสียหาย เป็นต้น
  • 6,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายของรถคันเอาประกันภัย กรณีที่เอารถคันเอาประกันภัยเข้าซ่อม

โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทฯ กำหนด

2. ประกันรถยนต์ไม่ระบุคนขับ

ประกันรถยนต์ไม่ระบุคนขับ

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครอง ทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุ รวมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยไม่จำกัดว่าใครเป็นผู้ขับขี่ ประกันรถยนต์ประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงกว่า เนื่องจากไม่ได้มีส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่

ข้อดี

  • ยืดหยุ่นกว่า สามารถให้ใครก็ได้ขับรถ โดยได้รับความคุ้มครองประกันรถยนต์
  • สะดวกกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้ขับขี่หลายคน หรือบริษัทที่มีรถส่วนกลาง
  • ไม่ต้องกังวลใจ เรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ในภายหลัง

ข้อเสีย

  • เบี้ยประกันแพงกว่า ไม่มีส่วนลดที่ระบุชื่อผู้ขับขี่ เนื่องจากบริษัทประกันต้องรับความเสี่ยงมากขึ้น
  • อาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ขับรถคนเดียวเป็นประจำ

ประกันรถยนต์ระบุคนขับ และ ไม่ระบุคนขับ

การเลือกประกันรถยนต์ ขึ้นอยู่กับความต้องการ และการใช้งานของแต่ละคน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนผู้ขับขี่ ความถี่ในการใช้รถ และงบประมาณก่อนตัดสินใจ เพื่อซื้อประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ หากใครที่กำลังมองหา ประกันรถยนต์ออนไลน์ เข้ามาเช็กได้ที่ bolttech.co.th มีส่วนลดพิเศษ! ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ มีหลายแผนให้เลือก เช็กเบี้ยฟรี เปรียบเทียบแผนได้ จากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ปรึกษาเราได้เลย

ประกันรถยนต์

The post ประกันรถยนต์ระบุคนขับ VS ไม่ระบุคนขับ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โรคที่เป็นแล้วต้องระวัง เมื่อต้องขับรถ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596 Wed, 31 Jul 2024 03:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=36393 การขับรถเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสุขภาพของเรามีผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนน โรคบางชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการขับขี่ได้ ทั้งในแง่ของการตอบสนอง สมาธิ และการตัดสินใจ ผู้ที่เป็นโรคที่ไม่ควรขับรถหรือคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคที่ห้ามขับรถต้องระวังเป็นพิเศษ การเข้าใจถึงผลกระทบของโรคต่อการขับรถไม่เพียงแต่

The post โรคที่เป็นแล้วต้องระวัง เมื่อต้องขับรถ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การขับรถเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสุขภาพของเรามีผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนน โรคบางชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการขับขี่ได้ ทั้งในแง่ของการตอบสนอง สมาธิ และการตัดสินใจ ผู้ที่เป็นโรคที่ไม่ควรขับรถหรือคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคที่ห้ามขับรถต้องระวังเป็นพิเศษ การเข้าใจถึงผลกระทบของโรคต่อการขับรถไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องตัวคุณเอง แต่ยังรวมถึงผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนคนอื่นด้วย เพราะการขับรถอย่างปลอดภัยเริ่มต้นจากสุขภาพที่ดีของผู้ขับขี่นั่นเอง

1.โรคลมชัก

อาการชักอาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ทำให้สูญเสียการควบคุมรถ

 คำแนะนำ : ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเหมาะสมในการขับรถ

2.โรคเบาหวาน

ระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน หมดสติ

คำแนะนำ : ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลก่อนขับรถและพกอาหารว่างติดตัว

3.โรคหัวใจ

อาการเจ็บหน้าอกหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเกิดขึ้นกะทันหัน

คำแนะนำ : ควรพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียดขณะขับรถ

4.โรคความดันโลหิตสูง

อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ

คำแนะนำ : ควบคุมความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและทานยาตามแพทย์สั่ง

5.โรคสายตาผิดปกติ

ส่งผลต่อการมองเห็นและการตัดสินใจขณะขับรถ

คำแนะนำ : ตรวจสายตาเป็นประจำและสวมแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ตามที่แพทย์แนะนำ

6.โรคนอนไม่หลับ

ทำให้เกิดอาการง่วงและขาดสมาธิขณะขับรถ

คำแนะนำ : ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถเป็นระยะทางไกล

7.โรคพาร์กินสัน

อาจส่งผลต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวและการตอบสนอง

คำแนะนำ : ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความสามารถในการขับรถอย่างปลอดภัย

8.โรควิตกกังวล

อาการตื่นตระหนกอาจเกิดขึ้นขณะขับรถ ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด

คำแนะนำ : ฝึกเทคนิคผ่อนคลายและหลีกเลี่ยงการขับรถในสถานการณ์ที่ทำให้เครียด

9.โรคหยุดหายใจขณะหลับ

ทำให้เกิดอาการง่วงนอนในเวลากลางวัน อาจหลับในระหว่างขับรถ

คำแนะนำ : รักษาตามคำแนะนำของแพทย์และพักผ่อนให้เพียงพอ

10.โรคซึมเศร้า

อาจส่งผลต่อสมาธิและการตัดสินใจ

คำแนะนำ : ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาที่อาจส่งผลต่อการขับรถ

สำหรับผู้ที่มีโรคที่ห้ามขับรถ ควรปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินความสามารถในการขับรถ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากรู้สึกไม่พร้อมหรือมีอาการผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถและหาทางเลือกอื่นในการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน และควรซื้อประกันรถยนต์กับ bolttech.co.th เพื่อคุ้มครองรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ มีหลากหลายแผนให้เลือก เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที เช็กเบี้ยฟรี ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ รับสิทธิพิเศษอีกเพียบ

The post โรคที่เป็นแล้วต้องระวัง เมื่อต้องขับรถ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีขับรถอย่างปลอดภัยในตอนฝนตก https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9d%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%2581 Fri, 26 Jul 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=36245 หน้าฝนนี้ ประมาทไม่ได้ !! เนื่องจากถนนลื่น ทัศนวิสัยในการขับรถค่อนข้างแย่ มองเห็นเส้นทางลำบาก มักเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย การขับรถในช่วงที่มีฝนตกหนักๆ ถือเป็นความท้าทาย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากคุณอยากขับรถให้ปลอดภัย ควรขับรถอย่างมีสติ ไม่ขับรถเร็วหรือกระชั้นชิดเกินไป และปฎิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เ

The post วิธีขับรถอย่างปลอดภัยในตอนฝนตก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หน้าฝนนี้ ประมาทไม่ได้ !! เนื่องจากถนนลื่น ทัศนวิสัยในการขับรถค่อนข้างแย่ มองเห็นเส้นทางลำบาก มักเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย การขับรถในช่วงที่มีฝนตกหนักๆ ถือเป็นความท้าทาย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากคุณอยากขับรถให้ปลอดภัย ควรขับรถอย่างมีสติ ไม่ขับรถเร็วหรือกระชั้นชิดเกินไป และปฎิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่คุณรัก

1. ตรวจสอบรถก่อนออกเดินทาง

  • ที่ปัดน้ำฝน

อย่างแรก ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น เรื่องของที่ปัดน้ำฝน ว่าสามารถใช้งานได้ดีหรือไม่ ปัดแล้วปัดสะอาดหมดจดหรือเปล่า หากใบปัดน้ำฝนมีปัญหา ควรเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ ถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมากๆ

  • ดอกยาง

เจ้าของรถควรหมั่นตรวจสอบยางรถว่า ยังมีดอกยางอยู่หรือไม่? เพราะดอกยางจะช่วยรีดน้ำบนถนน ทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น และควรตรวจสอบความดันลมยางเสมอ

2. เปิดไฟหน้าเสมอ 

ขับรถในระหว่างที่ฝนตกหนักๆ อาจทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นค่อนข้างแย่ ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟหน้ารถเสมอ เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นคุณได้ชัดเจน ไม่ควรเปิดไฟสูง เพราะอาจทำให้แสงแยงตารถที่ขับสวนมา เป็นการรบกวนสมาธิผู้อื่น และเสียมารยาทในการขับขี่ด้วย

3. ลดความเร็ว

เพราะถนนลื่น ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็ว เพื่อช่วยให้ควบคุมพวงมาลัยรถยนต์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้การลดความเร็วจะช่วยเพิ่มระยะในการเบรกด้วย ไม่ควรเบรกกะทันหัน เพราะอาจจะทำให้รถยนต์สะบัด เสียหลักพุ่งชนรถคันอื่นๆ รวมถึงการขับรถเร็วเกินที่กฎหมายจราจรกำหนด เสี่ยงโดนทั้งจำและปรับด้วย

4. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า

ไม่ควรขับรถจี้คันข้างหน้ามากเกินไป ควรเว้นระยะห่างสักนิด หากเกิดเหตุอะไรเราจะได้เบรคทัน และไม่สร้างความเสียหายบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น

5. ขับช้าๆ บริเวณที่มีน้ำขัง 

หากหลีกเลี่ยงบริเวณน้ำขังได้ก็ขับเลี่ยงไปเลย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรขับผ่านอย่างช้าๆ เผื่อว่ามีรถจักรยานยนต์หรือคนข้างๆ จะได้ไม่โดนน้ำที่กระเด็น และรถยนต์ของเราจะไม่ลื่นไหล

6. ป้องกันกระจกเป็นฝ้า

ผู้ขับขี่สามารถป้องกันกระจกเป็นฝ้าได้ โดยการปรับทิศทางแอร์ไม่ให้โดนที่กระจก ปรับอุณหภูมิแอร์ในรถให้เท่ากับอากาศนอกรถ หรือเปิดโหมดไล่ฝ้า เพื่อให้สามารถมองเห็นและขับรถต่อไปได้

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้  ทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในช่วงหน้าฝน ดังนั้นผู้ขับขี่ควรขับรถอย่างมีสติ ระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อมก่อน ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเดินทางอย่างปลอดภัย นอกจากระวังอุบัติเหตุแล้วควรเพิ่มความคุ้มครองให้กับรถ ซื้อประกันรถยนต์ กับ bolttech.co.th มีหลากหลายแผนให้เลือก หลายราคา รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที เช็กเบี้ยฟรี สนใจเข้ามาเลือกกันได้เลย มีเจ้าหน้าที่ยินดีให้คำแนะนำ!

ประกันรถยนต์

The post วิธีขับรถอย่างปลอดภัยในตอนฝนตก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า ศึกยานยนต์แห่งอนาคต https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%84%e0%b8%ae%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ae%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2 Tue, 23 Jul 2024 03:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=36144 รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่กำลังเป็นที่นิยมในไทย ด้วยความประหยัดพลังงาน และมีแบรนด์รถยนต์หลายเจ้าเข้ามาทำการตลาด นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ยังไม่ค่อยบูมเท่าไรคือ รถยนต์ไฮโดรเจน (Hydrogen Car) แต่เชื่อไหมว่าสองนวัตกรรมนี้ กำลังทำศึกยานยนต์ในโลกอนาคตที่มุ่งสู่สังคมไร้ไอเสีย การเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ไ

The post รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า ศึกยานยนต์แห่งอนาคต appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่กำลังเป็นที่นิยมในไทย ด้วยความประหยัดพลังงาน และมีแบรนด์รถยนต์หลายเจ้าเข้ามาทำการตลาด นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ยังไม่ค่อยบูมเท่าไรคือ รถยนต์ไฮโดรเจน (Hydrogen Car) แต่เชื่อไหมว่าสองนวัตกรรมนี้ กำลังทำศึกยานยนต์ในโลกอนาคตที่มุ่งสู่สังคมไร้ไอเสีย การเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮโดรเจนเป็นสิ่งที่น่าสนใจ จะแตกต่างอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย

รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า

1) แหล่งพลังงาน

  • รถยนต์ไฟฟ้า: ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่แปลงเป็นกระแสไฟฟ้า

2) การเติมพลังงาน

  • รถยนต์ไฟฟ้า: ใช้เวลา 30 นาที - 8 ชั่วโมง แล้วแต่ประเภทเครื่องชาร์จ
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที

3) ระยะทางที่วิ่งได้

  • รถยนต์ไฟฟ้า: 150-500 กม. ต่อการชาร์จ 1 รอบ
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: 400-600 กม. ต่อการเติม 1 รอบ

4) สถานีชาร์จที่รองรับ

  • รถยนต์ไฟฟ้า: สถานีชาร์จมีจำนวนมากกว่า และกำลังเพิ่มขึ้น
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: สถานีเติมมีจำนวนน้อยและหายาก

รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า

5) ต้นทุนและความคุ้มค่า

  • รถยนต์ไฟฟ้า: ราคาไม่แพง และค่าใช้จ่ายในการใช้งานไม่เยอะเท่ารถน้ำมัน
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: ราคาค่อนข้างสูง ทั้งตัวรถและค่าเชื้อเพลิง

6) ประสิทธิภาพพลังงาน

  • รถยนต์ไฟฟ้า: มีประสิทธิภาพสูงกว่า (70-80%)
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: มีประสิทธิภาพต่ำกว่า (40-60%)

7) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • รถยนต์ไฟฟ้า: ไม่มีการปล่อยมลพิษโดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: ปล่อยเพียงไอน้ำ แต่การผลิตไฮโดรเจนอาจใช้พลังงานมาก

8) การใช้งานที่เหมาะสม

  • รถยนต์ไฟฟ้า: เหมาะกับรถยนต์ส่วนบุคคล และการเดินทางระยะสั้นถึงปานกลาง
  • รถยนต์ไฮโดรเจน: เหมาะกับยานพาหนะขนาดใหญ่ และการเดินทางระยะไกล

รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า

ทั้งสองเทคโนโลยี  มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน  ปัจจุบันนี้รถยนต์ไฟฟ้ามีความก้าวหน้า แถมได้รับการยอมรับมากกว่า แต่รถยนต์ไฮโดรเจนก็มีศักยภาพในอนาคตที่ยั่งยืน โดยเฉพาะสำหรับการขนส่งขนาดใหญ่ ถ้าคุณชอบแบบไหนก็ลองเปรียบเทียบและตัดสินใจกันดูกันได้เลย

คิดจะซื้อรถใหม่ ต้องมีประกันรถดีๆ ขอแนะนำ ซื้อประกันรถยนต์ กับ bolttech.co.th เพิ่มความคุ้มครองอุ่นใจกว่า มีแผนให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองรถชนรถ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม เลือกได้ตามที่คุณต้องการ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้เลย ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษที่ร่วมรายการ เช็กเบี้ยประกันฟรี รู้ราคาทันที!

ประกันรถยนต์

The post รถไฮโดรเจน VS รถยนต์ไฟฟ้า ศึกยานยนต์แห่งอนาคต appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Wed, 10 Jul 2024 10:20:40 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=35966 เมื่อต้อง เปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับรถยนต์ถือมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีผลต่อสมรรถนะ อัตราเร่ง อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ลดอัตราการสึกหรอ การเลือกน้ำมันเครื่องนั้นจะดูที่ “ค่าความหนืด” ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์และการใช้งาน ถ้าคุณเลือก

The post วิธีเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อต้อง เปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับรถยนต์ถือมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีผลต่อสมรรถนะ อัตราเร่ง อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ลดอัตราการสึกหรอ การเลือกน้ำมันเครื่องนั้นจะดูที่ “ค่าความหนืด” ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์และการใช้งาน ถ้าคุณเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดมากเกินไป จะส่งผลให้เครื่องยนต์อืด รถเร่งไม่ขึ้น และรถกินน้ำมันอีกด้วย

ความหมายของตัวเลขหน้าอักษร W

ค่าความหนืดตอนที่เครื่องยนต์เย็น หรือเรียกอีกอย่างว่าค่าความใสของน้ำมันเครื่อง โดยปกติแล้วจะเป็นตัวเลขที่มีค่าต่ำ เช่น 0, 5, 10, 20 เบอร์น้อยจะมีความใสมากกว่า ซึ่งค่าความใสนี้จะช่วยให้ระบบจ่ายน้ำมันเครื่องไปยังชิ้นส่วนต่างๆ อย่างรวดเร็วเพื่อลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ 

ความหมายของตัวเลขหลังอักษร W 

ค่าความหนืดตอนที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน  อยู่ในสภาวะอุณหภูมิสูง เป็นตัวเลขที่มีค่าสูง เช่น 20, 30, 40 ค่าความหนืดนี้คืออุณหภูมิการทำงาน เปรียบเสมือนน้ำมันหล่อลื่น ที่ช่วยลดการเสียดสีของชิ้นส่วนเครื่องยนต์

การเลือกเบอร์น้ำมันเครื่อง

1. ศึกษาจากคู่มือการใช้งานของรถยนต์

2. พิจารณาสภาพการใช้งาน

  • รถใหม่ ควรเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ ทั้งค่าด้านหน้าและด้านหลัง เพราะระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนยังน้อย
  • รถที่ใช้งานเกิน 100,000 กม. หรือรถยนต์ที่ใช้งานหนัก ควรเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดด้านหลังสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วนเครื่องยนต์

3. คำนึงถึงสภาพอากาศ ประเทศไทยอากาศร้อน ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดด้านหลัง 30 ขึ้นไป

4.เลือกตามประเภทของเครื่องยนต์ ดูหลังค่า API

  • เครื่องยนต์เบนซิน รหัสขึ้นต้นด้วยตัว S
  • เครื่องยนต์ดีเซล รหัสขึ้นต้นด้วยตัว C

การเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ สำหรับคนรักรถและอยากมีรถใช้ไปนานๆ หากรักรถแล้วต้องรักตัวเองด้วยการ ซื้อประกันรถยนต์ ที่คุ้มครองอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ ดูแลค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีแผนคุ้มครองรถไฟไหม้ รถสูญหาย น้ำท่วม โดยขึ้นอยู่กับแผนที่คุณเลือกไว้ พร้อมรับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที เช็กเบี้ยฟรี  มั่นใจแล้วซื้อผ่านออนไลน์ได้เลย !!

ประกันรถยนต์ออนไลน์

The post วิธีเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อยากขับรถเที่ยว เช่ารถไฟฟ้าที่ไหนดี? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2 Wed, 12 Jun 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=35201 อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่ติดที่ว่าคุณอาจมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น อยู่คอนโด ไม่มีที่จอดหรือที่ติดตั้งตู้ชาร์จรถไฟฟ้า หรือไม่อยากรับผิดชอบค่าเสื่อมสภาพ การเช่ารถยนต์ไฟฟ้า เป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัว ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลายบริษัทผันตัวมาเป็นผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า ทั้งเช่ารถไฟฟ้

The post อยากขับรถเที่ยว เช่ารถไฟฟ้าที่ไหนดี? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่ติดที่ว่าคุณอาจมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น อยู่คอนโด ไม่มีที่จอดหรือที่ติดตั้งตู้ชาร์จรถไฟฟ้า หรือไม่อยากรับผิดชอบค่าเสื่อมสภาพ การเช่ารถยนต์ไฟฟ้า เป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัว ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลายบริษัทผันตัวมาเป็นผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า ทั้งเช่ารถไฟฟ้าแบบรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน  พร้อมมีบริการจัดส่งรถถึงที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่า หากใครสนใจเช่ารถ EV ลองมองผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ หรือจะติดต่อขอเช่าได้เลย

วันนี้ bolttech จะมาแนะนำเว็บไซต์เช่ารถไฟฟ้า มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น เช่น TESLA Model 3, BYD Dolphine, BYD Autto 3, BMW iX x Drive40, MG MG4 Electric X, MG EP, NISSAN Leaf 2  และรุ่นอื่นๆ ที่ร่วมรายการ เป็นต้น จองง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิกให้กวนใจ

1. EVme

มาเช่าทดลองขับได้ที่ EVme ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม เพราะจองและเช่ารถง่ายผ่านแอป มีสิทธิพิเศษมากมายที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่หลากหลาย ใช้บัตรเครดิตก็มีส่วนลด มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากมายหลายแบรนด์  ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งเช่ารถระยะสั้น เช่ารถระยะยาว เพิ่มประสบการณ์การเดินทางที่พิเศษให้กับคุณ พร้อมให้คำแนะนำและบริการติดตั้งสถานีชาร์จ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อรถเช่าไฟฟ้าได้ มีให้เลือกหลายรุ่นเช่น AION, Volvo, GWM, Hyundai, Sleek เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษ พร้อมบริการติดตั้ง Wall charger ฟรี!

เข้าไปซื้อรถไฟฟ้า หรือเช่ารถไฟฟ้าได้ที่ https://evme.io/business

2. HAUP

แพลตฟอร์มนี้เป็นคาร์แชร์ริ่ง ตลาดรถเช่าในประเทศไทย ค้นหารถเช่า รถไฟฟ้าเช่า ได้ทุกที่ทุกเวลา จากกว่า 1,000 แห่งในประเทศไทย ยืดหยุ่นการจองได้ เพื่อใช้ทำธุระ พักผ่อน หรือเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ มีรถให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น Hatchback, Sedan, Executive car, SUV, Pick-up, truck, Van, E-Scooter, E-Bike, EV และรถอื่นๆ อีกมากมาย สามารถใช้แอปจองและปลดล็อครถได้ทันที 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนคนกลางในการดีล ระหว่างผู้ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าแต่ไม่ได้ใช้งาน นำมาปล่อยเช่าให้กับคนที่ไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ แต่อยากมีรถขับไปทำธุระเพื่อความสะดวกสบาย สามารถจองผ่านแอปได้ รับรถสะดวก มีรถหลายรุ่นให้คุณเลือก

เช่ารถไฟฟ้าได้ที่เว็บไซต์: https://www.haupcar.com

3. EV Rent Thai

ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้ารายวัน เช่ารถรายเดือน ด้วยตัวเอง 24 ชั่วโมง ทุกบริษัท ทั่วไทย เปรียบเทียบราคาเองได้ คัดกรองประเภทได้ เช่น ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม ไมค์ล่าสุด จำนวนที่นั่ง ประเภทรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะ BEV หรือ Plug in Hybrid  รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นต้น โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ และราคาค่าเช่าปรากฎอยู่เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าตัวคุณจะอยู่ที่ไหน ต้องการใช้รถเมื่อไร สามารถกรอกรายละเอียดจองรถได้เลย

เข้าไปจองรถเช่าได้ที่เว็บไซต์ https://evrentthai.com

4. Drivehub

เช่ารถกับ Drivehub บริการเช่ารถพร้อมคนขับทั่วไทย เหมารถไปต่างจังหวัด ให้คุณเดินทางสะดวกสบายขึ้น จาก 500 กว่าบริษัทรถเช่าทั่วประเทศ คัดกรองรายละเอียดรถเช่าเองได้ เช่น ยี่ห้อรถ ประเภทรถยนต์ ระบบเชื้อเพลิงหรือชาร์จไฟฟ้า ขนาดเครื่องยนต์ จำนวนที่นั่งเบาะ สามารถเลือกได้คุณตามที่ต้องการ และเลือกจุดรับคืนรถได้ 

พิเศษสุด! จองผ่านแอป Drivehub  มีส่วนลดเพียบ รหัสโปรโมชัน วางแผนจองล่วงหน้าได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวก รวดเร็ว หรือเข้ามาดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.drivehub.com

5. SiXT

SiXT ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย 16 สาขาทั่วประเทศไทย ให้บริการรถยนต์คุณภาพ เช่ารถยนต์หรู เช่ารถยนต์พรีเมียม เช่น BMW, MINI, PEUGEOT และ JEEP พร้อมให้บริการระดับพรีเมียม สะดวก สบาย เพราะมีแอปพลิเคชัน แสดงค่าเช่าและสามารถซื้อประกันภัยเพิ่มเติมได้ ค่อนข้างได้รับความนิยม หากคุณจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็สามารถเช่ารถขับออนไลน์ แล้วไปรับรถเมื่อถึงจุดหมายปลายทางได้ มีให้บริการเช่ารถระยะสั้น บริการเช่ารถรายวัน เช่ารถรายสัปดาห์ และเช่ารถรายเดือน (ตั้งแต่หนึ่งวันจนถึงหนึ่งปี) เลือกได้ตามที่คุณต้องการ

เช่ารถไฟฟ้าได้ที่เว็บไซต์ https://sixtthailand.com

สำหรับคนที่อยากขับรถยนต์ไฟฟ้า หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วอยากมีรถยนต์ไว้ขับ สามารถติดต่อขอเช่าได้จากผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือจองคิวได้ตามต้องการ ส่วนคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำซื้อประกันภัยรถยนต์ควบคู่ไปด้วย bolttech.co.th ขอแนะนำให้ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี และมีคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม รวมถึงครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีแผนให้เลือกมากมาย เทียบแผนเองได้ และซื้อผ่านทางออนไลน์ มีส่วนลดพิเศษมอบให้ด้วย!!

ประกันรถยนต์ชั้น 1

The post อยากขับรถเที่ยว เช่ารถไฟฟ้าที่ไหนดี? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
กฎหมายจราจรใหม่ 2567 อัปเดตแล้ว https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%81%e0%b8%8e%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%a32567?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258e%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25a32567 Wed, 12 Jun 2024 03:30:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=35189 ปีใหม่แล้ว... ใครว่ากฎจราจรยังเหมือนเดิม ที่ผ่านมาอุบัติเหตุบนท้องถนนยังคงเกิดขึ้นเสมอ ทำให้มีการเข้มงวดมากขึ้น วันนี้ bolttech ได้อัปเดต กฎหมายจราจรใหม่ 2567 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยประกาศผ่านทาง พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 มีการปรับปรุงอัตราค่าปรับที่ต้องชำระจากการทำผิดกฎจราจร  ไม

The post กฎหมายจราจรใหม่ 2567 อัปเดตแล้ว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ปีใหม่แล้ว... ใครว่ากฎจราจรยังเหมือนเดิม ที่ผ่านมาอุบัติเหตุบนท้องถนนยังคงเกิดขึ้นเสมอ ทำให้มีการเข้มงวดมากขึ้น วันนี้ bolttech ได้อัปเดต กฎหมายจราจรใหม่ 2567 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยประกาศผ่านทาง พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 มีการปรับปรุงอัตราค่าปรับที่ต้องชำระจากการทำผิดกฎจราจร  ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินความเร็วสูงสุดที่กำหนด เมาแล้วขับ การลืมพกใบขับขี่ รวมถึงกฎต่างๆ หลายประการ โดยความผิดแต่ละฐานมีการปรับอัตราค่าปรับ ดังนี้

1. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 

โทษปรับสูงสุด 4,000 บาท (จากเดิม 1,000 บาท)

2. ขับรถย้อนศร 

โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท (จากเดิม 500 บาท)

3. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง 

โทษปรับสูงสุด 4,000 บาท (จากเดิม 1,000 บาท)

4. ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย 

โทษปรับสูงสุด 4,000 บาท (จากเดิม 1,000 บาท)

5. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงผู้โดยสารในคันรถด้วย 

โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท (จากเดิม 500 บาท)

6. ไม่สวมหมวกนิรภัย 

โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท (จากเดิม 500 บาท)

7. นิรภัยสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี จะต้องมี Car Seat ให้โดยเฉพาะ 

หากไม่มีจะได้รับโทษปรับ สูงสุด 2,000 บาท 

8.ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่

หากผู้ขับขี่ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ มีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท (จากเดิม 2,000 บาท) เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และสัญจรบนท้องถนน ควรใช้อุปกรณ์เสริมหากต้องการใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น หูฟัง หูฟังไร้สาย หรืออุปกรณ์บลูธูทเชื่อมต่อกับรถยนต์

9.ไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ 

  • กรณีที่โดนเรียกตรวจ โทษปรับสูงสุด 1,000 บาท  หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีใบขับขี่หมดอายุ ถูกเพินถอนใบขับขี่แต่ยังนำรถออกมาขับ โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท

10.เมาแล้วขับ

ผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่วัดได้เกิน 50 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ขณะขับขี่จะมีโทษดังนี้

  • เมาแล้วขับครั้งแรก โทษปรับ 5,000-20,000 บาท  หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • เมาแล้วขับ ทำผิดซ้ำในระยะเวลา 2 ปี โทษปรับ 50,000-100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

11.แข่งรถในทางสาธารณะ

  • กรณีเป็นผู้ที่รวมกลุ่มกันให้แข่งรถ 5 คันขึ้นไป รวมถึงมีพฤติกรรมเหล่านี้จะถือว่ามีความผิดเข้าข่ายฐานพยายามแข่งรถ ได้แก่ มีการดัดแปลงสภาพรถอย่างผิดกฎหมาย มีการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อแข่งรถ มีพฤติกรรมที่แสดงออกว่ากระทำการแข่งรถ โทษปรับ 5,000-20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีเป็นผู้ชักชวนให้เกิดการแข่งรถ โทษปรับ 10,000-20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีเป็นผู้สนับสนุนการแข่งรถ ร้านที่ช่วยแต่งรถจะมีความผิดร่วมด้วย มีโทษปรับ 5,000-20,000 บาท  หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากไม่อยากโดนจับหรือโดนปรับให้เสียเงิน ก็ควรจะรู้ไว้และปฎิบัติตามกฎหมายจราจรให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับผู้ที่มีรถควร ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ คุ้มครอง ครอบคลุม ได้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณีและมีคู่กรณี รถหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วมก็คุ้มครอง ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เทียบแผนเองได้ รู้ราคาทันที มีโปรโมชันมากมาย

ประกันรถยนต์ชั้น 1

The post กฎหมายจราจรใหม่ 2567 อัปเดตแล้ว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>