ต่อประกันชั้นไหนดี Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Tue, 31 Oct 2023 04:11:04 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ต่อประกันชั้นไหนดี Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 เลือกประกันรถยนต์ ต้องซื้อกับโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ไหน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c Thu, 22 Aug 2019 07:43:13 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=712 คำถามนี้เรามักจะเจอกันทุก ๆ ปีนะครับ เมื่อถึงรอบที่เราต้องต่อประกันรถยนต์ ด้วยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลโดยอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ยิ่งทำให้เราสามารถค้นหาโปรโมชั่นโดนใจ ราคาสุดคุ้ม รวมถึงของแถมต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือได้แบบทันทีเลย ยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ที่เราเน้นความรวดเร็ว สามารถอ่านข้อมู

The post เลือกประกันรถยนต์ ต้องซื้อกับโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ไหน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
คำถามนี้เรามักจะเจอกันทุก ๆ ปีนะครับ เมื่อถึงรอบที่เราต้องต่อประกันรถยนต์ ด้วยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลโดยอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ยิ่งทำให้เราสามารถค้นหาโปรโมชั่นโดนใจ ราคาสุดคุ้ม รวมถึงของแถมต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือได้แบบทันทีเลย ยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ที่เราเน้นความรวดเร็ว สามารถอ่านข้อมูลรีวิว (Review) จากเพื่อน ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อได้ทันที ในขณะที่โบรกเกอร์แฟรงค์ Frank เองก็รับต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ และใช้ประกัน เลยอยากแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ด้วยเลยดีกว่า เราจะได้ซื้อขอบแบบคุ้มค่าที่สุดกันนะฮะ

โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์คืออะไร ?

ก่อนเข้าสู่เรื่องราวรู้จักนายหน้าประกันภัยออนไลน์ให้มากขึ้น คำว่า "นายหน้า หรือโบรกเกอร์" คืออะไร ให้เข้าใจถ่องแท้ !! ราวกับเป็นเซียนประกัน Frank ขอหยิบยกความหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ. อธิบายไว้ว่า

q_start

นายหน้าประกันภัย หรือโบรกเกอร์ คือ คนกลางอิสระ ช่วยเลือกประกันให้เหมาะกับลูกค้า และไม่ขึ้นตรงกับบริษัทประกันแห่งใดแห่งหนึ่ง

q_end

ซื้อประกันรถยนต์กับโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี
สรุปง่าย ๆ ตรงไปตรงมา นายหน้าประกันภัย คือ คนที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลายบริษัท โดยเลือกประกันที่ดีต่อใจคนซื้อที่สุด จำหน่ายประกันได้อย่างอิสระไม่ขึ้นตรงกับบริษัทฯ ประกันแห่งใดแห่งหนึ่งนั้นเอง
หมายความว่าผู้ซื้อประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 พร้อมความคุ้มครองสูงสุด, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เบี้ยไม่แพงราคาความคุ้มครองค่อนข้างดี หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ แถมยังเลือกเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันภัยตามงบที่เรามี และเลือกความคุ้มครองประกันรถยนต์ที่ต้องการ อีกทั้งเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ถูกใจได้เองตามความชอบเลย

โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ในเมืองไทยมีใครบ้าง ? 

มาเข้าเรื่องเลยครับ !! ด้วยกระแสอินชัวร์เทค (InsurTech) ประกันภัยหลายเจ้าและโบรกเกอร์หลายค่ายเริ่มขยับขยายมาจับตลาดด้วยการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เช่น Frank ชูอินชัวเทคเจาะธุรกิจประกันภัยออนไลน์เป็นเจ้าแรก ๆ ของเมืองไทยเลยล่ะ หากจะซื้อประกันทั้งที Frank.co.th แนะนำว่า เรามาทำความรู้จักนายหน้าหรือโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ในเมืองบ้านเราว่ามีใครบ้างหนอ ???
ถ้าเราลองค้นหาจากคำค้น "ประกันรถยนต์" หรือ “โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์” นอกจากจะพบเว็บไซต์แฟรงค์ อินชัวร์รันซ์ หรือ frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจแล้ว ยังพบกับโกแบร์ Gobear เน้นการเปรียบเทียบเบี้ย, ทีคิวเอ็ม (TQM), รู้ใจ (Roojai), เอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ (Asiadirect), ทูเดย์ อินชัวร์ (Today Insure) ฯลฯ มีหลากหลายโบรกเกอร์ให้เลือกใช้บริการเพียบ
ซื้อประกันรถยนต์กับโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี

จะเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ทั้งทีต้องเลือกจากอะไร ?

ตอบแบบตรงไปตรงมาตามสไตล์แฟรงค์ กับคำถามที่ว่า ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ดีกว่าอย่างไร? คงต้องตอบว่า "ซื้อง่ายไม่ยุ่งยาก" ด้วยความที่การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ด้วยมีข้อดีคือประหยัดเวลา เพราะโบรกเกอร์จะช่วยคุณทุกอย่าง หาประกันให้ตรงใจคุณทุกอย่าง
ดังนั้น เราควรมองหาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับเราที่สุดควรเลือกโบรกเกอร์ที่ใส่ใจคุณ มีความน่าเชื่อถือ และมอบสิทธิพิเศษให้คุณ แม้จะไม่ได้เคลมประกันภัย ตามด้วยประกันที่โปร่งใสไว้ใจได้มีใบนายหน้าจากคปภ. ระบุชัดเจน!! และมี 5 สิ่งที่ต้องสังเกตก่อนซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ตามนี้

1. โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ที่ดีต้องมีความน่าเชื่อถือ

เลือกจากความน่าเชื่อถือก่อนเลยครับ จงมองหาเลขที่ใบอนุญาตตัวแทนนายหน้าประกันวินาศภัยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เช่น บริษัท แฟรงค์ อินชัวร์รันซ์ โบรกเกอร์ (ไทยแลนด์) เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยอย่างเป็นทางการ รับรองโดยคปภ. (ใบอนุญาตเลขที่ ว00017/2559) สังเกตบนหน้าเว็บโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ ก่อนจะเช็กเบี้ยทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า นายหน้าที่คุณกำลังจะซื้อประกันรถยนต์นั้นมีตัวตนอยู่จริง ไม่ใช่มิจฉาชีพปลอมมา

2. มีช่องทางชำระเงินที่ชัดเจน ซื้อง่าย 

เราชอบความรวดเร็ว เช็คเบี้ยปุ๊บ ถูกใจซื้อปั้บ หรือจะลองเปรียบเทียบเบี้ยก่อน แนะนำให้มองหาประกันรถยนต์ออนไลน์ที่เน้นความสะดวก และเลือกช่องทางการจ่ายเงินที่ชัดเจน ช่องทางการชำระเงินหลากหลาย สามารถผ่อนได้ (อันนี้ก็สำคัญครับ) พร้อมกับความปลอดภัยของข้อมูลต้องมาเป็นอันดับแรก ๆ เอาเป็นว่า ลองมองหาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหลัก

3. บริการดีเยี่ยมใส่ใจลูกค้า

อาจจะ "งง" ไม่เข้าใจ จะรู้ได้ไงว่า โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์เหล่านั้น บริการดีหรือเปล่า ? อ่านครับ สวมวิญญาณโคนันโล้ด ! ลองตามหาว่า โบรกเกอร์นั้น ๆ รีวิวเป็นไงหนอ ? เช็กรีวิวลูกค้าด้วยกันนี้แหละครับดีที่สุด Play safe!! อย่างแฟรงค์เราก็ได้รับคะแนนรีวิว 4.9 ดาวจากชาวเฟซบุ๊กเลยนะ

4. เคลมง่าย มีบริการหลังการขาย คุ้มค่าแม้ไม่เคลม

แต่ถ้าต้องการแบบเคลมไม่งอแง ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด ที่เน้นความเป็นมืออาชีพในการให้คำแนะนำ และแจ้งเคลมง่ายน่าจะเป็นคำตอบของเพื่อน ๆ เนื่องจากมีประกันทั้งทีหากเกิดปัญหา ประกันก็ต้องดูแลเราสินะ (Frank เจอมากับตัวแล้วคร้าบ เข้าซ่อมแล้วซ่อมอีก ไม่ต้องใช้รถกันเป็นเดือน) เช่น การซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 กับเรา หากรถยนต์ของคุณประสบอุบัติเหตุ จนกระทั่งรถยนต์ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามกฎหมายก็มีบริการเสริมสำหรับประกันรถชั้น 1 เป็นคูปองนั่งรถระหว่างรอซ่อมมูลค่า 2,000 บาทให้ด้วยเด้อ ลองเช็กสิทธิพิเศษบริการนั่งรถฟรีระหว่างรอซ่อมก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับแฟรงค์
นอกจากนี้ถ้ามีสิทธิพิเศษเพิ่มก็ยิ่งดีเลย ! เพราะไม่มีใครอยากเกิดเหตุร้าย หากไม่เคลมก็มีสิทธิพิเศษใช้ เช่น เพนกวินพริวิลเลจ (Penguin Privilege) จากแฟรงค์ที่แจกดีลส่วนลดจัดหนักให้ลูกค้าทุกเดือน ทุกวันแบบจัดหนักจัดเต็ม เช่น ส่วนลดจองที่พัก และสิทธิพิเศษสุดว้าวอีกเพียบ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง เพียงแค่ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับ frank.co.th  ซื้อประกันกับแฟรงค์ก็รับสิทธินี้ทันที!

5. เลือกโบรกเกอร์ที่ไม่หมกเม็ด อธิบายแบบตรงไปตรงมา 

ไม่ชอบฟังข้อมูลแบบกำกวม ๆ อ่านแล้ว อ่านอีก ต้องกลับมาตีความ จดใส่กระดาษ หรือถือไปถามเพื่อน ถึงจะเข้าใจ อันนี้ไม่เวิร์คนะขอรับกระผม แนะนำให้คุณก็ให้เลือกประกันรถยนต์ที่ตรงไปตรงมามีเคล็ดลับการเลือกประกันภัยรถยนต์บอกเล่าให้คุณฟัง และมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตและผ่านการอบรมการให้บริการลูกค้าเป็นหลักตรงนี้สำคัญที่สุ๊ดในการเลือกพิจารณาเลือกซื้อประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ล่ะคร้าบ
ทำความเข้าใจ... เบื้องต้นกันแล้ว อยากซื้อประกันเลือกกับ frank.co.th ได้เลยนะ ตอนนี้เรามีระบบใหม่ให้เปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้เลย สบาย ๆ ไม่ต้องกังวล รู้เบี้ยเร็วกว่าเดิม ถูกใจก็ซื้อได้เลยจ้า
นอกจาก โบรกเกอร์แฟรงค์จะมีประกันรถยนต์ และรับต่อพ.ร.บ.รถยนต์ออนไลน์ให้บริการแล้ว ล่าสุด frank.co.th ยังมีประกันภัยมากมายให้เลือกสรร เช่น ประกันภัยมอเตอร์ไซค์ (ชั้น 1, ชั้น 2+ และ ชั้น 3+) รับต่อพ.ร.บ.ออนไลน์, ประกันภัยเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลรายปี, ประกันบ้านและทรัพย์สิน และประกันกลุ่ม สะดวกสบายกว่าเดิมอีกนะ

แหล่งข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
Content by Butter Cutter

ซื้อประกันออนไลน์


รู้หรือไม่ ? 

กฎหมายกำหนดไว้ว่าจะเป็นนายหน้าประกันภัยพร้อมกับเป็นตัวแทนประกันภัยในเวลาเดียวกันไม่ได้ต้องเลือกเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น และต้องขอย้ำอีกครั้งว่า "ตัวแทนประกันภัย (Insurance Agents) ไม่เหมือนกับ นายหน้าประกันภัย (Insurance Brokers)" นะครับ


The post เลือกประกันรถยนต์ ต้องซื้อกับโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ไหน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รถมีรอยขูด ก่อนต่อประกันรถชั้น 1 ประกันรับผิดชอบหรือไม่ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599 Mon, 22 Jul 2019 00:19:51 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=7177 รถมีรอยขูดขีดไม่สวยงาม หลายครั้งเราอาจจะใช้ วิธีลบรอยขูดขีดบนรถยนต์ด้วยตัวเองแบบ DIY ดูแลเทคแคร์กันแบบบ้าน ๆ ก่อนได้ หรือบางครั้งบาดแผลรอยขูดขีดอาจจะลึกเกินเยียวยาต้องให้ช่างซ่อมอย่างเดียว งานนี้ Frank มาถึงช่วงตอบคำถามเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับประกันรถยนต์ กับประเด็นที่ว่า “ หากรถเกิดรอยขูดขีดที่เกิดขึ้นก่อนต่อประกันรถยน

The post รถมีรอยขูด ก่อนต่อประกันรถชั้น 1 ประกันรับผิดชอบหรือไม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รถมีรอยขูดขีดไม่สวยงาม หลายครั้งเราอาจจะใช้ วิธีลบรอยขูดขีดบนรถยนต์ด้วยตัวเองแบบ DIY ดูแลเทคแคร์กันแบบบ้าน ๆ ก่อนได้ หรือบางครั้งบาดแผลรอยขูดขีดอาจจะลึกเกินเยียวยาต้องให้ช่างซ่อมอย่างเดียว งานนี้ Frank มาถึงช่วงตอบคำถามเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับประกันรถยนต์ กับประเด็นที่ว่า “ หากรถเกิดรอยขูดขีดที่เกิดขึ้นก่อนต่อประกันรถยนต์ตรงนี้ประกันจะช่วยคุ้มครองหรือไม่? ”

การแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์ เป็นสิ่งที่คนใช้รถต้องรู้ไว้ก่อนไม่เสียหายโดยเฉพาะกรณีที่รถเกิดรอยขูดขีดด้วยการชนสิ่งอื่นที่มิใช่รถยนต์ หรือชนกับรถแต่ไม่ได้แจ้งเคลมไว้เพราะไม่รู้ว่าโดนชนตอนไหน รวมทั้งการโดนชนแบบไม่ทราบสาเหตุจู่ๆ ก็มีรอยขึ้นมา เช่น

  • ก้อนหินกระเด็นใส่รถ ทำให้เกิดรอยลึก 
  • มีรอยขูดขีด ไม่ว่าจะโดนกลั่นแกล้ง หรือขับไปขูดกับฟุตปาธ เสาไฟฟ้า ฯลฯ
  • กิ่งไม้ขูดสีรถ หรือกิ่งไม้หล่นใส่รถตอนลมพายุพัดแรงๆ
  • ขับตามรถบรรทุกแล้วของร่วงหล่นใส่รถยนต์ เป็นต้น

หลังจากเกิดเหตุใดเหตุหนึ่งไม่ว่าจะมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี แต่คุณได้ปล่อยเวลาล่วงเลยจนกระทั่งประกันรถยนต์หมดอายุ โดยไม่ได้แจ้งเคลมรอยนั้นไว้ ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 กับแห่งใหม่ ?

รถเป็นรอย

งานนี้ใคร ? ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์รอยขูดนี้

หากคุณลืมแจ้งเคลมซ่อมรถ ก่อนต่อประกันแห่งใหม่ ? งานนี้บริษัทฯ ประกันไหนจะต้องรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ 
หากเราไม่ได้แจ้งเคลมรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเรา และปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งหมดประกันรถไปแล้ว เราอาจจะต้องรับผิดชอบออกค่าซ่อมรถร่วมกับบริษัทฯ ประกันแห่งใหม่”

เนื่องจากก่อนต่อประกันชั้น 1 มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสภาพรถยนต์ของเราก่อน หรือขอข้อมูลภาพถ่ายตรวจเช็กสภาพรถก่อน โดยเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะเก็บข้อมูลแบบละเอียดเลยครับ หากพบว่า รถมีรอยขูดลึกก่อนรับประกันภัยก็จะเก็บข้อมูลไว้

โดยเราจะไม่สามารถแจ้งเคลมรอยเดิมที่เกิดก่อนการรับประกันได้ แต่ถ้าเกิดเหตุภายใต้อายุกรมธรรม์ฉบับใหม่ เว้นแต่ว่ารอยขูดบังเอิญไปซ้ำที่รอยเดิม ตรงนี้ทางประกันแห่งใหม่จะคุ้มครองการซ่อมให้นะครั แต่ผู้เอาประกันต้องร่วมจ่ายค่าซ่อมกับบริษัทประกันด้วย

รถเป็นรอย

หลายคนอาจสงสัยว่า อะไรกันเนี่ย? ไหนบอกว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณีไม่ใช่หรือ ? คงต้องบอกว่า ใจเย็นก่อนนะเราขออธิบายให้เข้าใจ ดังนี้ 

ถึงแม้ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองครอบคลุมแต่ก็ไม่คุ้มครองทุกอย่างครับผม ด้วยความที่ประกันรถยนต์ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 1 เช่น ไม่คุ้มครองหากเมาแล้วขับ, ไม่คุ้มครองหากใช้รถยนต์ในการแข่งขัน, ขับเร็วเกินจนเกิดอุบัติเหตุ และยังไม่คุ้มครองเมื่อลากจูงกับรถคันอื่นจนเสียหาย ฯลฯ นอกจากนี้ หากรถยนต์มีรอยก่อนรับประกัน คุณอาจจะต้องจ่ายค่าซ่อมเคลมตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณตกลงไว้ 

ยกตัวอย่างกะทู้ข่าวฮิตจาก Pantip บอกเล่าเรื่อง ระวัง ทำประกันประเภท 1 เวลาเกิดอุบัติเหตุ ต้องออกค่าซ่อมเอง 50 % มีเนื้อหาคร่าว ๆ ว่า

รถมีรอยขูด ก่อนต่อประกันรถชั้น 1 ประกันรับผิดชอบหรือไม่

ขอบคุณภาพประกอบจาก pantip กระทู้ข่าวหมายเลข 39007591

“สาเหตุที่ประกันให้ต้องชำระ 50% เพราะอ้างว่าเนื่องจากตอนทำประกันรถมีรอยขีดข่วนจากพวกใบไม้ใบหญ้าข้างทางรอบคัน ตอนมาทำประกัน ผมก็ให้ถ่ายรูป เค้าบอกมีรอยนะครับ ผมก็บอก ครับ เป็นปกติ รถใช้งาน ขัดก็หาย คนทำประกันก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็ถ่ายรูปไป และเขียนว่ามีรอยจากการใช้งาน ต่าง ๆ ไป พร้อมให้เซ็นรับทราบ (ผมถือว่าเป็นรอยปกติ ขัดก็หาย ไม่มีอะไรมาก แล้วก็เซ็นลงชื่อผู้ทำประกันไปครับ)
ด้วยว่า ขับรถมา ไม่เคยเคลมจากกรณีเราผิดเลยเป็น 10 ปีละ และรถทุกคันที่ขับ แม้แต่รถที่จอดมากกว่าใช้ ก็ทำประกันชั้น 1 ทั้งหมด ก็ไม่เคยคิดอะไร จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขับไปชนรถเพื่อนบ้านที่จอดอยู่ข้างทาง (อันนี้เราไปชนเค้าจริง ๆ ผิดครั้งแรกเลย) ก็เรียกประกันและก็เอารถเข้าซ่อม ปกติ จู่ ๆ ทางศุนย์ โทรมาแจ้งว่า ทางประกัน ให้เราออกค่าซ่อมเอง เป็นจำนวน 50% ของค่าซ่อมทั้งหมด เราก็งง
ทางประกัน อ้างว่า เพราะว่ารถมีรอยอยู่แต่ก่อน จึงถือว่า เสียหายมาก่อน ทางผู้เอาประกันจึงต้องออกเงินค่าซ่อมเอง 50% แต่ทางผมไม่ยอมครับ เพราะสิ่งที่ทางประกันบอกว่าเสียหายมาก่อน มันไม่ใช่ความเสียหายครับ มันเป็นพวกร่องรอยที่สามารถขัดหายได้ ไม่มีการแตกหัก บุบบิ่น แต่อย่างใด ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมก็เอารถไปขัดสีมาก่อนหน้าอุบัติเหตุนี้มาแล้วและรอยต่าง ๆ ก็หายหมดแล้วครับ แต่ทางประกันบอกว่า ถ้าเราทำแล้ว ต้องแจ้งให้ทางเค้าเข้ามาถ่ายรูป update ไว้ด้วย (เอ ไม่เคยได้ยิน และไม่เคยทำจริง ๆ ครับแบบนี้)” ขออนุญาตอ้างอิงจากเรื่องราวของสมาชิก coolearth หมายเลขกระทู้ 39007591

ต้องย้ำว่า ถ้าเราทำแล้ว ต้องแจ้งให้ทางเค้าเข้ามาถ่ายรูป Update ไว้ด้วย หมายความว่า หลังจากเราเซ็นรับทราบว่ารถเรามีรอยก่อนรับประกัน หากเราได้ทำการซ่อมแซมรถด้วยตัวเองแล้ว เราก็ต้องแจ้งให้ประกันทราบด้วยเช่นกัน เพราะถ้าไม่แจ้ง และดันเกิดอุบัติเหตุโดยเราเป็นฝ่ายผิดขึ้น อาจจะต้องเสียค่าซ่อมร่วมกับบริษัทฯ ประกันด้วย 

แล้วรอยขูดขีดทั่วไปเราจะต้องจ่ายไหมล่ะ ?

ประกันรถยนต์หมดอายุ

ต้องแยกเหตุการณ์เป็น 2 กรณี

  1. รอยที่เกิดก่อนทำประกันฉบับปัจจุบัน อันนี้ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าซ่อมร่วมด้วยกับบริษัทประกันครับ
  2. รอยที่เกิดขึ้นหลังทำประกันฉบับปัจจุบัน กรณีนี้เราจะต้องร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่าเอ็กเซส (Excess) โดยบริษัทประกันจะเรียกเก็บจากผู้เอาประกันรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตามเงื่อนไขของค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) เมื่อแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณี หรือไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ด้วยเหตุผลว่าเราต้องรับผิดชอบจากความประมาทในการใช้รถ ความเสียหายไม่ได้เกิดจากการชนกับรถ หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ในซึ่งทางประกันถือว่าเป็นความไม่ระมัดระวังในการขับขี่ล่ะครับ 

แนะนำเพิ่มเติมนะครับ ก่อนประกันจะหมดอายุ ให้สำรวจความเสียหายของรถเราว่ามีร่องรอยเสียหายจุดใดบ้าง และให้รีบแจ้งเคลมก่อนสิ้นสุดอายุประกันเดิม เพื่อให้บริษัทประกันออกใบเคลมให้ โดยใบเคลมจะมีอายุต่อไปอีกประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี นับจากวันที่เราแจ้งเคลม ที่นี้ถ้าคุณแจ้งต่อประกันกับที่ใหม่ก็สามารถแนบใบเคลมนี้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจรถได้ ว่าเราแจ้งเคลมที่เดิมแล้วนะ แล้วถ้าเกิดเหตุซ้ำรอยเดิมโดยที่ใบเคลมยังไม่หมดอายุ บริษัทประกันใหม่ก็จะจ่ายค่าซ่อมร่วมกับบริษัทประกันเดิมของเราครับ

เอาเป็นว่า “ขับขี่ปลอดภัยมีสติทุกเส้นทางจะดีที่สุด” หากเกิดเหตุก็รีบแจ้งทันทีเพื่อขอใบเคลมกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยทันที อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยจะดีกว่านะจ้ะ

ขอบคุณ : pantip.com
Content by Butter Cutter

The post รถมีรอยขูด ก่อนต่อประกันรถชั้น 1 ประกันรับผิดชอบหรือไม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
6 วิธี เปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า https://www.bolttech.co.th/blog/6%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%9a%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=6%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2 Tue, 02 Apr 2019 05:17:08 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=5907 เชื่อว่าทุกวันนี้คนใช้รถใช้ถนนทุกคนก็คงเริ่มตระหนักถึงการทำประกันภัยรถยนต์กันมากขึ้น เพราะอุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บวกกับการที่รถยนต์ในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากขึ้นทุกปี ทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่เพราะบริษัทประกันภัยนั้นมีมากมายหลายเจ้าซะเหลือเกินนี่แหละครับ ทำให้หลายๆ คนยังเปรียบเท

The post 6 วิธี เปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เชื่อว่าทุกวันนี้คนใช้รถใช้ถนนทุกคนก็คงเริ่มตระหนักถึงการทำประกันภัยรถยนต์กันมากขึ้น เพราะอุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บวกกับการที่รถยนต์ในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากขึ้นทุกปี ทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่เพราะบริษัทประกันภัยนั้นมีมากมายหลายเจ้าซะเหลือเกินนี่แหละครับ ทำให้หลายๆ คนยังเปรียบเทียบประกันรถยนต์ไม่ได้ว่าจะใช้บริการเจ้าไหนดี วันนี้เราเลยเอาหลัก 6 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยประกอบการตัดสินใจเวลาเปรียบเทียบประกันรถยนต์มาฝากกัน

1. พิจารณาค่าเบี้ยประกัน

แน่นอนครับว่าการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ขั้นเบสิกที่สุดเลยก็คือ ดูที่ราคานี่แหละ ใครถูกกว่าก็น่าสนใจกว่า ซึ่งความคิดนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ถือว่าถูกต้องซะทีเดียวนะ เพราะยังมีองค์ประกอบอีกมากมายที่ต้องรวมเข้ามาประกอบการตัดสินใจของเราด้วย ว่า ประกันรถยนต์เจ้านี้ที่ราคาถูกเนี่ย มันเพราะอะไร เพราะบริการไม่ดี เพราะมีสาขาน้อย เพราะรอนาน หรือเพราะบริการเสริมแย่ แบบนั้นหรือเปล่า
ซึ่งการจะเปรียบเทียบประกันรถยนต์เรื่องค่าเบี้ยประกันนี้ ขอแนะนำให้ดูเป็นเพดานไว้เฉยๆ ก็พอว่าเรามีงบตรงนี้เท่าไหร่ แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะใช้บริการกับโบรกเกอร์ประกันภัยเจ้าที่ถูกที่สุด หรือแพงที่สุดในลิสต์ของเรา

 2. มองหาโปรโมชั่นพิเศษ

สิ่งที่ต้องเปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างที่สอง ก่อนตัดสินใจว่าจะทำประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดีก็คือ เรื่องของโปรโมชั่นนี่แหละ เพราะมันช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกมากเลยนะ เนื่องจากโปรโมชั่นของแต่ละบริษัทประกันภัยก็จะแตกต่างกันออกไป บางเจ้าลด บางเจ้าแลก บางเจ้าแจก บางเจ้าแถม ยิ่งทุกวันนี้บริษัทประกันภัยเปิดตัวใหม่กันเยอะมาก ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ลประโยชน์จึงตกมาอยู่ที่ผู้ซื้อประกันครับ
ลองเปรียบเทียบประกันรถยนต์ด้วยการเช็กโปรโมชั่นแต่ละเจ้าให้ดีๆ รับรองว่าจะเจอประกันที่ถูกใจ ได้ของแถมติดไม้ติดมือมาเพียบเลย

3. ประกันเฉพาะกลุ่ม

มาถึงบริการลับที่น้อยคนนักจะรู้ในการทำประกันรถยนต์ เพราะมีบริษัทประกันภัยแค่ไม่กี่เจ้าที่มีประกันเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งมันก็คือโปรโมชั่นที่ออกมาให้กับกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง เช่น กลุ่มคนขับรถอีโคคาร์ กลุ่มคนขับรถกระบะ กลุ่มคนใช้งานที่เป็นผู้หญิง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งประกันเฉพาะกลุ่มเหล่านี้จะมีราคาถูกกว่าประกันภัยทั่วไปมากเลยนะ แถมมีความคุ้มครองมากกว่ากันซะอีก
เปรียบเทียบประกันรถยนต์

4. บริการเสริมต่างๆ และบริการเคลมที่ดี

สำหรับอันนี้เรียกได้ว่าเป็นข้อสำคัญที่ควรใช้ในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าบริการของประกันภัยนั้นๆ ไม่ดี การลงเงินไปก็เหมือนจะได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องอาศัยการอ่านรีวิวจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ หรือลองสอบถามคนใกล้ตัวที่เคยใช้ประกันภัยบริษัทนั้นๆ ก็ได้ครับว่าดีหรือไม่อย่างไร
เพราะเราทำประกันไว้ก็เพื่อใช้งานในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นถ้าเค้าสามารถให้บริการตามที่บอกไว้ได้ก็นับว่าดี เช่น บริการรถใช้ระหว่างซ่อม บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการลากรถเข้าอู่ แต่ถ้าเค้าไม่สามารถทำได้ ก็เท่ากับว่าการทำประกันของเราไม่คุ้มค่า ดังนั้นต้องเลือกกันให้ดีๆ นิดหนึ่งสำหรับตรงจุดนี้

5. มองหาบริษัทประกันภัยที่มีอู่ซ่อมจำนวนมาก

อย่างน้อยๆ การเปรียบเทียบประกันรถยนต์ก็ควรที่จะดูเรื่องของอู่ซ่อมใกล้ ๆ บ้านไว้ด้วยนะครับ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น การที่เราสามารถเอารถเข้าอู่ใกล้บ้านได้เลย ก็จะช่วยประหยัดเวลา ทำให้เราไม่เหนื่อยจากการเดินทาง และสามารถตรวจเช็กสภาพรถ พร้อมทั้งตามเรื่องได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
ยิ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่มีศูนย์ซ่อมเยอะๆ ยิ่งดีครับ เพราะจะมีตัวเลือกให้เราใช้บริการได้มาก ไม่จำเป็นต้องง้ออู่ซ่อมรถแค่อู่เดียว ซึ่งอาจต้องเสียเวลารอคิวซ่อมนานนั่นเอง

6. ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเช็กนู่นเช็กนี่มามากแค่ไหน เรื่องของชื่อเสียงก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ดีนะครับ เพราะอย่าลืมว่าบริษัทประกันภัยเค้าสามารถที่จะสร้างภาพลักษณ์ต่างๆ ได้ตามที่เค้าอยากให้เป็น แต่บริการที่เค้าแสดงออกมาให้เห็นต่างหาก ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าสิ่งที่เค้าทำอยู่มันดีจริง ซึ่งก่อนการตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง ให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์โดยดูจากชื่อเสียงของเค้าเสียก่อน ว่ามีชื่อเสียงด้านดี หรือด้านไม่ดีมากกว่ากัน
แต่ต้องสอบถามจากคนใกล้ตัว หรือคนที่เคยใช้บริการจริงเท่านั้นนะครับ ค่อยๆ ดูกันไป ใช้เวลากับมันสักหน่อย แต่รับรองว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาเมื่อไหร่ การเสียเวลาครั้งนี้จะช่วยเราประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกมากเลยล่ะ ก่อนการตัดสินใจทำประกันรถยนต์ทุกครั้งก็อย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับ Priceza Money ด้วย 6 เคล็ดลับเหล่านี้กันด้วยนะครับ จะได้ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย และไม่หัวร้อนเวลาเกิดอุบัติเหตุ มีประกันที่ไว้ใจได้ไว้ในครอบครอง อย่างไรก็อุ่นใจกว่ากันเยอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Priceza Money
Rewrite by Butter Cutter

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์

The post 6 วิธี เปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2 ยังคุ้มอยู่หรือไม่ ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%991%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25991%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1 Wed, 13 Feb 2019 06:58:19 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=5347 ประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ จะอยู่กับรถเราปีต่อปี สำหรับรถยนต์ใหม่ ที่กำลังใกล้หมดประกัน  อาจจะกำลังลังเลใจ ในการต่อประกันรถยนต์อยู่ว่า จะต่อประกันรถยนต์แบบไหนดี  เพราะในปีแรก แน่นอนว่า ทุกคนได้ทำประกันชั้น 1 ไว้  แล้วปีที่สองล่ะ ถ้าเราต่อประกันชั้น 1 อีกจะคุ้มไหม หลายคนอาจกำลังสงสัย วันนี้ Frank ได้รับบทความแนะนำจาก Priceza

The post ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2 ยังคุ้มอยู่หรือไม่ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ จะอยู่กับรถเราปีต่อปี สำหรับรถยนต์ใหม่ ที่กำลังใกล้หมดประกัน  อาจจะกำลังลังเลใจ ในการต่อประกันรถยนต์อยู่ว่า จะต่อประกันรถยนต์แบบไหนดี  เพราะในปีแรก แน่นอนว่า ทุกคนได้ทำประกันชั้น 1 ไว้  แล้วปีที่สองล่ะ ถ้าเราต่อประกันชั้น 1 อีกจะคุ้มไหม หลายคนอาจกำลังสงสัย วันนี้ Frank ได้รับบทความแนะนำจาก Priceza Money ว่าการต่อประกันในปีที่ 2 ว่าถ้าต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 จะยังคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ โดยมีปัจจัยในการเลือกต่อประกันได้หลายแบบ มาดูกันเลย

ได้รับคุ้มครองครบทุกกรณี

แน่นอนว่าหลายคนที่มีประสบการณ์กับการทำประกันชั้น 1 ในปีแรกอยู่แล้ว จะรู้ว่า การทำประกันชั้น 1 นั้นได้รับสิทธิ์ในการคุ้มครองครบมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นคุ้มครองคู่กรณี ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต หรือ คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน  คุ้มครองทั้งในส่วนของการซ่อมรถเราที่มีประกัน  ค่าเสียหาย  การบาดเจ็บและเสียชีวิต ประกันน้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย มีให้แบบครบวงจร แถมเวลาเกิดอุบัติเหตุ  ไม่ต้องเคลียร์เอง ประกันรถยนต์ช่วยเราเต็มที่  เจรจาจนสามารถยอมความกันได้ คือเราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หากมีประกันชั้น 1 ดังนั้น หากคุณยังชอบความคุ้มครองครบแบบนี้ การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็นับว่า คุ้มค่าแก่การต่อประกันครั้งต่อไป โดยหากเรามีกำลังในการจ่ายเบี้ยประกันต่อมากพอ ประกันชั้น 1 นี่แหละ จะทำให้เราอุ่นใจ ปลอดภัยไปได้ทุกที่ คุ้มครองทุกกรณี

เบี้ยประกันถูกลงกว่าปีแรก

ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2 ยังคุ้มอยู่หรือไม่ ?
การต่อประกันชั้น 1 อย่างต่อเนื่องจากปีแรก ในกรณีต่อกับบริษัทประกันเดิม  เราจะได้รับสิทธิพิเศษที่ดีกว่า  โดยเฉพาะหากใครใช้บริการกับโบรกเกอร์ประกันภัย  เบี้ยประกันก็จะจ่ายได้ถูกลงด้วย เนื่องจากเราเป็นลูกค้าเก่า ประวัติดี บริษัทประกันภัยเดิมก็พร้อมมอบส่วนลดในปีถัดไปให้ แล้วแต่ความสะดวกใจของคุณล่ะ ซึ่งหากบริษัทประกันที่เราเลือกใหม่ มีข้อเสนอดี ๆให้กับเรา เพราะเห็นว่า สามารถให้จ่ายเบี้ยประกันได้ถูกกว่าที่เดิม เราก็คงตัดสินใจได้ไม่ยาก ที่จะต่อประกันชั้น 1 กับที่ใหม่ เพราะราคาคุ้มค่า  คุ้มครองครบวงจรเหมือนเดิม

คุ้มหรือไม่ ดูพฤติกรรมการขับรถของตัวเอง

อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่า ต่อประกันชั้น 1 ในปีที่ 2 คุ้มไหม  คงต้องมาย้อนมาดูพฤติกรรมในการขับขี่รถยนต์ของตัวเราเองด้วย ลองสำรวจตัวเองดูว่า กรณีที่เป็นมือใหม่หัดขับ 1 ปีที่ผ่านมา เรามีทักษะในการขับรถที่ชำนาญมากน้อยแค่ไหน  เราเคยขับชน เฉี่ยว หรือเกิดอุบัติเหตุจนต้องเคลมรถยนต์มาแล้วหรือเปล่า  หากเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจได้เลยว่า เราควรต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อคุ้มครองเราในทุกกรณีเหมือนเดิม  เพื่อลดความเสี่ยงในการหมดค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และต้องมาตามเรื่องเองอีก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
หากต้องการจ่ายเบี้ยประกันให้ถูกลง พร้อมกับมีความมั่นใจมากพอในการขับขี่ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรเลย ก็ลองเลือกเป็นประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 ดูก็ได้  อย่างไรก็ดี หากไม่เดือดร้อนเรื่องการจ่าย ก็อยากแนะนำให้เป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่ดี เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาได้เลย ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ แล้วยิ่งเพิ่งเป็นรถใหม่ ประกันทำได้แค่ปีเดียวอยู่  ต่อให้ชำนาญในการขับขี่หรือไม่ ก็ควรค่าแก่การต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้อยู่ดี เพื่อซื้อความคุ้มครองให้เราสบายใจเมื่อเดินทางไปทุกที่ และเตรียมการดูแลเบื้องต้นไว้ก่อน

เลือกตามลักษณะการใช้รถ

ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2 ยังคุ้มอยู่หรือไม่ ?
หลายคนมีรถแต่ไม่ได้เดินทางออกไปไหนไกล ขับๆอยู่แถวบ้าน แต่ก็ใช้ประกันชั้น 1 มาจนครบปี เนื่องจากเป็นรถใหม่ หากปีต่อไปรู้สึกว่าลักษณะการขับขี่ของเราปลอดภัย ไม่คุ้มค่าแก่การทำประกันภัยชั้น 1 ก็เลือกเป็นประกันชั้นอื่นๆได้ แต่ก็ต้องดูให้ดีว่าความคุ้มครองนั้นตอบโจทย์เราได้มากน้อยแค่ไหน หรือหากจะเลือกประกันชั้น 1 จริง ๆ ก็ลองเลือกที่จ่ายค่าเสียหายเพียงส่วนแรกเมื่อเราเป็นฝ่ายผิด ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็ต้องเลือกความคุ้มค่าเป็นหลัก  ไม่ใช่แค่จ่ายถูกเพียงอย่างเดียว เพราะบางทีการจ่ายถูก อาจจะโดนลดสิทธิประโยชน์บางอย่างลงได้ ดังนั้น ควรดูความคุ้มครองที่คุ้มค่า เหมาะกับรถยนต์ของเราให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ด้วย
จากที่พูดมาทั้งหมด  สรุปว่า การเลือกต่อประกันชั้น 1 ในปีที่ 2 นั้น ยังคงคุ้มค่าแน่นอน ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างดังกล่าว เลือกต่อประกันภัยชั้น 1 ไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร  แถมยังซื้อความมั่นใจในการช่วยเหลือเราทุกกรณีได้ด้วย ท้ายที่สุดก่อนการตัดสินใจ ก็ควรเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์กันก่อน ว่าต่อกับบริษัทประกันภัยที่ไหน ถึงเหมาะสมและคุ้มค่ากับรถยนต์ของเรามากที่สุด  โดยสามารถเข้ามาเช็คข้อมูลประกันรถยนต์ของบริษัทต่างๆ ได้ที่นี่เลย Priceza Money เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับเรา ในการเลือกประกันรถยนต์ที่พึงพอใจ
Rewrite by Butter Cutter
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์

The post ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2 ยังคุ้มอยู่หรือไม่ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5 https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5#comments Fri, 13 Jan 2017 07:20:37 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1893 อ่านเร็วๆ ซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี? ให้เลือกจากความคุ้มครอง เช่น ต้องการความคุ้มครองทุกกรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุควรเลือกประกันชั้น 1 แต่ถ้าเรามีประสบการณ์ในการขับรถมาระยะหนึ่ง ไม่มีแจ้งเคลมเลือกประกันชั้น 2+ แทนได้ ถ้ารถของเราใช้งานไม่บ่อยนักขับอยู่แถวบ้านเลือกประกันชั้น 3+ เพื่อประหยัดค่าเบี้ยได้และถ้ารถของเรานานๆ ขับท

The post เลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

  • ซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี? ให้เลือกจากความคุ้มครอง เช่น ต้องการความคุ้มครองทุกกรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุควรเลือกประกันชั้น 1 แต่ถ้าเรามีประสบการณ์ในการขับรถมาระยะหนึ่ง ไม่มีแจ้งเคลมเลือกประกันชั้น 2+ แทนได้ ถ้ารถของเราใช้งานไม่บ่อยนักขับอยู่แถวบ้านเลือกประกันชั้น 3+ เพื่อประหยัดค่าเบี้ยได้และถ้ารถของเรานานๆ ขับทีเลือกประกันชั้น 3 ก็เพียงพอแล้ว
  • ประกันชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนทุกกรณี รถหาย น้ำท่วม ไฟไหม หรือพายุลูกเห็บ เหมาะกับรถป้ายแดงหรือรถใหม่ และคนที่ยังขับรถไม่คล่องหรือคนที่รักรถ
  • ประกันชั้น 2+ คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถชนกับรถที่มีทะเบียนและระบุคู่กรณีได้ นอกจากนั้นความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 คุ้มครองรถหาย รถไฟไหม้ และรถน้ำท่วมเฉพาะบางแพ็กเกจ สำหรับผู้ขับขี่ที่ชำนาญและไม่ค่อยแจ้งเคลมและสนใจเบี้ยประกันที่ถูกลง
  • ประกันชั้น 3+ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากชนทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี บางแพ็กเกจสามารถซื้อคุ้มครองน้ำท่วมได้ เหมาะกับรถที่ขับในเส้นทางที่คุ้นเคยและต้องการประหยัดงบ
  • ประกันชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการชน คุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น เหมาะกับรถที่จอดอยู่บ้านไม่ค่อยได้ใช้งานและต้องการทำประกันรถยนต์กันไว้เท่านั้น เบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูกที่สุด

ก่อนที่เราจะเลือกประกันชั้นไหน? เราก็ควรต้องทำความรู้จักประกันแต่ละชันก่อนว่าจริงๆ แล้วประกันรถยนต์มีกี่ชั้น? และแต่ละชั้นนั้นให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง? จึงเลือกให้เหมาะกับตัวเราเองได้แบบตรงกับความต้องการที่สุด และ bolttech.co.th มีแผนประกันให้คุณเลือกที่ตรงใจที่สุด มาฝากกันด้วย

เริ่มจากทำความรู้จักประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ซึ่งภาคบังคับตามกฎหมายคือ พ.ร.บ.) กันก่อนนะ สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยว่าทำไมต้องซื้อประกันรถยนต์ด้วย? เพราะว่าความคุ้มครองของ พ.ร.บ. นั้นครอบคลุมเฉพาะเรื่องค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่ค่าซ่อมรถหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นนั้นไม่คุ้มครอง (เรียกง่ายๆ ว่าต้องจ่ายเอง) จึงควรทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ เผื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจะได้มีคนช่วยดูแลค่าใช้จ่าย

ความคุ้มครองของประกันรถแต่ละชั้น

ประกันรถชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1

เป็นประกันที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในการให้ความคุ้มครองที่เกิดจากการชน รถป้ายแดงทุกคันมักจะเลือกซื้อประกันชั้น 1 กันอยู่แล้ว ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยประกันรถยนต์ชั้น 1 แยกออกเป็น 3 หมวดหมู่ คือ

1. ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย

ซึ่งก็คือความคุ้มครองรถยนต์ของเราคันที่ทำประกันนั่นเอง เจ้าความคุ้มครองที่ว่านี้รวมไปถึงความคุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเองและการชนสิ่งที่ไม่ใช่รถด้วย เช่น ชนเสาไฟฟ้า ชนรั้วบ้าน หรือล้อแม็กครูดฟุตบาท หรือกรณีรถหายจากการถูกโจรกรรม รถโดนไฟไหม้ และรถโดนน้ำท่วมด้วย

2. ความคุ้มครองภัยพิเศษ

ความคุ้มครองนี้เพื่อความคลอบคลุมภัยที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิด เช่น ภัยก่อการร้ายเมื่อมีการประกาศโดยรัฐบาล อุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อคนขับหรือผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ค่ารักษาพยาบาลเมื่อคนขับและผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อเกิดคดีอาญาและต้องส่งฟ้องศาล

3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

ความคุ้มครองแบบสุดท้าย คือ คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก(ทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ) และคุ้มครองบุคคลภายนอก(เมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ)

ประกันรถชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถ(รถที่มีป้ายทะเบียน)หรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้น ส่วนความคุ้มครองที่เหลือเหมือนกับประกันชั้น 1 แยกออกเป็น 3 หมวดหมู่ เช่นเดียวกัน

1. ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย

คุ้มครองรถยนต์ของเราจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น การชนสิ่งที่ไม่ใช่รถไม่คุ้มครองนะครับ ส่วนรถหายจากการถูกโจรกรรม รถไฟไหม้ และรถน้ำท่วมคุ้มครองเหมือนชั้น 1 ตามทุนประกันทุกประการ

2.ความคุ้มครองภัยพิเศษ

ภัยที่เราไม่คาดคิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย อุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญา

3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก(ทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ) และคุ้มครองบุคคลภายนอก(เมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ) ก็คุ้มครองเช่นเดียวกับประกันชั้น 1

ประกันรถชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถหรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้น และยังดูแลค่าซ่อมทั้งรถของเราเองและรถคู่กรณีด้วย

1. ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย

คุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น การชนสิ่งที่ไม่ใช่รถไม่คุ้มครองนะครับ

2. ความคุ้มครองภัยพิเศษ

คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญาครับ แต่บางแพ็กเกจยังมีความคุ้มครองรถโดนน้ำท่วมด้วยนะครับ

3. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

คุ้มครองทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ และคุ้มครองบุคคลภายนอกเมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ

ประกันรถชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถหรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้นและดูแลค่าซ่อมเฉพาะรถคู่กรณี

1. ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย

คุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น

2. ความคุ้มครองภัยพิเศษ

คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญาเหมือนชั้น 3+

3. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

คุ้มครองทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ และคุ้มครองบุคคลภายนอกเมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพเช่นเดียวกันกับชั้น 3+

ซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี

เลือกซื้อประกันชั้นไหนดี?

การเลือกซื้อประกันรถยนต์ยังไงให้พอเหมาะพอดีกับเรา ไม่ให้ฟุ่มเฟือยหรือซื้อแพงเกินควร และคุ้มครองไม่น้อยเกินไปเพื่อให้เราอุ่นใจที่สุดในการดูแลครอบครัว เลยอยากให้เพื่อนๆ ตอบคำถามเหล่านี้ก่อนครับ (จะตอบในใจ หรือเอากระดาษมาจดก็ได้) ซึ่งการทำแบบประเมินตัวเอง (Self Assessment) นี้จะช่วยให้เรารู้จักตัวเราเองและค้นหาสิ่งที่ตรงกับตัวเรามากที่สุดได้ง่ายขึ้น มาทำไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

พฤติกรรมการขับรถของเราเป็นแบบไหน?

  • เรามั่นใจในการขับรถขนาดไหน?

Ο มาก                       Ο น้อย

  • เราขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้บ่อยๆ ไหม?

Ο บ่อย                        Ο ไม่บ่อย

  • เราขับรถทางไกลต่างจังหวัดบ่อยและเป็นเส้นทางใหม่ทุกครั้ง?

Ο ใช่                           Ο ไม่ใช่

  • หรือเราขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ?

Ο ใช่                           Ο ไม่ใช่

เลือกประกันจาก อายุและสภาพรถเรา

  • รถของเราเป็นรถใหม่ป้ายแดง เพิ่งถอยจากโชว์รูม?

Ο ใช่                         Ο ไม่ใช่

  • เป็นรถที่ใช้มาซักระยะแล้ว (2-6 ปี)?

Ο ใช่                         Ο ไม่ใช่

  • เป็นรถที่ใช้มานานแล้ว (7-12 ปี)?

Ο ใช่                         Ο ไม่ใช่

เลือกประกันจากที่อยู่และที่จอดรถประจำของเรา

  • บ้านเราอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติไหม?

Ο ใช่                            Ο ไม่ใช่

  • หน้าฝนบ้านเราน้ำรอระบายนาน(น้ำท่วม)ไหม?

Ο รอนาน                     Ο รอไม่นาน

  • บ้านเราอยู่ใกล้กับบริเวณเกิดไฟป่าไหม?

Ο ใกล้                        Ο ไม่ใกล้

  • ที่จอดรถเป็นจุดเสี่ยงต่อการถูกขโมยรถไหม?

Ο มีความเสี่ยง           Ο ไม่มีความเสี่ยง

เฉลยคำตอบ 

พฤติกรรมการขับรถของเราเหมาะกับประกันแบบไหน?
1.มั่นใจในการขับรถน้อย, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดบ่อยและเป็นเส้นทางใหม่ทุกครั้งและไม่ขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 1
2.มั่นใจในการขับรถมาก, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดบ่อยและเป็นเส้นทางใหม่ทุกครั้งและไม่ขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 1
3.มั่นใจในการขับรถมาก, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้ไม่บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดบ่อยและเป็นเส้นทางใหม่ทุกครั้งและไม่ขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 1
4.มั่นใจในการขับรถมาก, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้ไม่บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดบ่อยและเป็นเส้นทางเดิมทุกครั้งและขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 2+
5.มั่นใจในการขับรถมาก, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้ไม่บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดไม่บ่อยแต่เป็นเส้นทางเดิมทุกครั้งและขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้เป็นประจำ คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 2+
6.มั่นใจในการขับรถมาก, ขับรถชนข้างทาง ขอบฟุตบาท ต้นไม้ไม่บ่อย, ขับรถทางไกลต่างจังหวัดไม่บ่อยแต่เป็นเส้นทางเดิมทุกครั้งและขับรถเส้นทางเดิมๆ ระยะใกล้บางครั้ง คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 3+
7.ถ้าเป็นรถใหม่ เพิ่มถอยมาไม่นาน คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 1
8.รถที่ใช้มาซักระยะแล้ว คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+
9.รถที่ใช้มานานแล้ว คุณเหมาะกับ ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3+ และ ประกันชั้น 3
10.บ้านเราอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ ประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+
11.หน้าฝนบ้านเราน้ำรอระบายนาน(น้ำท่วม) ประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+
12.บ้านเราอยู่ใกล้กับบริเวณเกิดไฟป่า ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ และ ประกันชั้น 3+
13.ที่จอดรถเป็นจุดเสี่ยงต่อการถูกขโมยรถ ประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+
เป็นอย่างไรบ้างครับ? หวังว่าจะได้คำตอบกันแล้วนะครับ จากนั้นให้เราเอาคำตอบที่ได้มาดูแผนประกันแต่ละแบบด้านล่างว่าประกันชั้นไหนเหมาะกับเรากันแน่

ประกันแต่ละชั้นนั้นเหมาะกับใคร

สรุปแล้วการเลือกประกันให้เหมาะกับตัวเรานั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมครับ Frank สรุปอีกทีนะครับว่าเราจำง่ายๆ ได้ว่า

ประกันชั้น 1 มีความคุ้มครองสูงสุด

เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่มาขับ แล้วอยากให้รถดูใหม่เหมือนเพิ่งออกมาจากศูนย์ เพราะประกันภัยชั้น 1 มีความคุ้มครองสูงสุด สามารถเคลมได้แทบทุกกรณีตั้งแต่ชนต้นไม้ ชนรั้ว ไปจนถึงอุบัติเหตุรุนแรง
ประกันชั้น 2+ สำหรับผู้ขับขี่มากประสบการณ์
ถ้าคุณขับรถมาแล้วหลายปี ไม่กังวลว่าจะขับรถชนต้นไม้ เสาไฟฟ้าแล้ว เพราะในประกันรถชั้น 2+ คุณจะได้รับความคุ้มครองเมื่อขับรถชนกับรถเท่านั้น ซึ่งมีทุนประกันเท่ากับราคารถคุณในตลาด ส่วนความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากรถชนรถนั้นคุณต้องจ่ายเองทั้งหมด

เลือกประกันก็เหมือนเลือกคู่ ไม่มากไปและไม่น้อยไป

ประกันชั้น 3+ สำหรับผู้มีงบไม่มาก แต่มากประสบการณ์
ถ้าคุณมั่นใจฝีมือการขับรถของคุณ หรือคุณขับรถเก่า คุณเหมาะกับประกันรถชั้น 3+ เพราะคุ้มครองแต่อุบัติเหตุรถชนกับรถเท่านั้น โดยทุนประกันก็ได้ตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งน้อยกว่าทุนประกันภัยชั้น 1, 2+ ที่อิงตามราคาตลาดของรถ
ประกันชั้น 3 สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ
เหมาะสำหรับคนไม่ค่อยขับรถ เพราะประกันรถยนต์ราคาน้อยที่สุดก็ต้องแลกกับความคุ้มครองที่น้อยที่สุดเช่นกัน ถ้าคุณขับรถชนรถคันอื่นหรืออุบัติเหตุอื่น ประกันจะรับผิดชอบความเสียหายของรถฝ่ายตรงข้าม แต่คุณจะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคุณเอง
แผนประกันแต่ละแบบก็เหมาะกับคนแต่ละแบบ เพราะประสบการณ์ขับรถที่แตกต่างกัน การใช้รถที่แตกต่างกัน ถ้าเราสามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ยังไงให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เราก็สามารถใช้เงินคุ้มค่า และอุ่นใจทุกครั้งเมื่ออยู่บนท้องถนน
เมื่อเลือกได้แล้วว่าอยากจะต่อประกันชั้นไหน ต่อมาเราก็ถึงเวลาซื้อประกันแล้วนะครับ frank ขอข้ามเรื่องวิธีการเลือกบริษัทประกันและวิธีเลือกโบรกเกอร์และตัวแทนขายประกันไปเลยนะครับ วิธีการต่อประกันรถยนต์ที่ frank จะแนะนำคือ วิธีการต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ มี 2 ข้อดังนี้ครับ
ต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ดีอย่างไร?

  • สะดวกครับ: ไม่ต้องโทรหาเจ้าหน้าที่ขายประกัน คุยกันให้ยืดยาว เพราะเราเองก็หาข้อมูลพร้อมแล้ว รู้แล้วว่าจะเลือกซื้อประกันชั้นไหน ความคุ้มครองอะไรบ้าง แค่กรอกเลขบัตรเครดิตเองครับ สะดวกมาก เหมือนซื้อตั๋วเครื่องบินอย่างใดอย่างนั้น
  • คุ้มครองได้เลย: เมื่อเราตัดบัตรบริษัทประกันโทรมายืนยัน คราวนี้ก็คุ้มครองเราเลยครับ ไม่ต้องออกจากบ้านเลย

ถ้าใครกังวลเรื่องการชำระเงินออนไลน์แล้วโดนจะโกง เราขอเสนอวิธีตรวจสอบความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์มาให้ศึกษาครับ เมื่อเราพร้อมแล้วเรามาดูวิธีการต่อประกันรถยนต์ออนไลน์กันดีกว่า สะดวกและง่ายกว่าที่คิด

ขั้นตอนง่ายๆ ในการต่อประกันออนไลน์
1. กรอกข้อมูลส่วนตัวเราและรถของเรา เลือกยี่ห้อรถ รุ่นรถ ปีจดทะเบียน แล้วก็ใส่ชื่อและเบอร์โทรของเราครับ
2. เลือกแผนประกัน คราวนี้ก็เลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเราได้เลยครับ
3. จ่ายเงินออนไลน์ได้เลย เขามีวิธีให้เลือกจ่ายหลายแบบนะครับ ลองพิจารณาดูตามความสะดวก แต่ตัว frank เองชอบตัดบัตรเครดิตครับ ง่าย สะดวกสบาย

แค่ 3 ขั้นตอน เพื่อนๆ ก็สามารถได้รับความคุ้มครองชั้นดีที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว
กดเช็กเบี้ยด้านล่างเลยครับ
ประกันรถยนต์

The post เลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5/feed 2
ต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 ควรต่อชั้น 1 ไหม? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%b5-2-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99-1-%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5-2-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599-1-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1 https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%b5-2-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99-1-%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1#comments Fri, 17 Jun 2016 02:47:50 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=384 อ่านเร็วๆ ต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 ไม่จำเป็นต้องต่อประกันชั้น 1 เสมอไป ถ้าคุณขับรถคล่องแล้ว กะระยะห่างจากคันหน้าได้เหมาะสม ตีวงเลี้ยวไม่พลาด ต่อประกันรถชั้น 2+ หรือ 3+ แทนได้ ถ้ารถของคุณใช้งานในเส้นทางที่ขับอยู่เป็นประจำไม่ค่อยขับทางไกลต่างจังหวัด ต่อประกันรถชั้น 3+ แทนได้ ถ้าคุณต้องการเบี้ยประกันรถที่ถูกลงแต่ยังได้รับคว

The post ต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 ควรต่อชั้น 1 ไหม? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Mitr');.entry-thumbnail>.img-responsive{width:100%;}.speed_text{border-left:8px solid #FFc22c;padding:16px 16px 16px 30px;color:#215BA7;}.speed_text>.title{font-size:2em;color:#FFC22c;}.quote_text{text-align:center;padding:30px;border-width:0;border-radius:12px;background-color:#fbfbfb;}.quote_text:before,.quote_text:after{display:inline-block;width:66px;height:48px;content:"";background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_start.png);background-size:cover;}.quote_text:after{background-image:url(https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2016/11/q_end.png);}.quote_text>p{margin-top:24px;margin-bottom:24px;font-family:'Mitr',sans-serif;font-size:2em;color:#215BA7;}.entry-content{font-size:16px}
อ่านเร็วๆ

  • ต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 ไม่จำเป็นต้องต่อประกันชั้น 1 เสมอไป
  • ถ้าคุณขับรถคล่องแล้ว กะระยะห่างจากคันหน้าได้เหมาะสม ตีวงเลี้ยวไม่พลาด ต่อประกันรถชั้น 2+ หรือ 3+ แทนได้
  • ถ้ารถของคุณใช้งานในเส้นทางที่ขับอยู่เป็นประจำไม่ค่อยขับทางไกลต่างจังหวัด ต่อประกันรถชั้น 3+ แทนได้
  • ถ้าคุณต้องการเบี้ยประกันรถที่ถูกลงแต่ยังได้รับความคุ้มครองหลัก ต่อประกันรถชั้น 2+ แทนได้

หลังจากที่เราได้คุยกันไปแล้วเรื่องซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ดีไหม? ปลอดภัยไหม? เชื่อถือได้รึเปล่า? คำถามที่เรามักจะได้ยินถัดมาคือ การต่อประกันรถยนต์ ปีที่ 2 ควรเลือกต่อแบบไหนดี? เพราะปีแรกเรามักจะได้แถมประกันรถยนต์ชั้น 1 มาเกือบทุกคันอยู่แล้ว แต่ในปีที่ 2 นี้เองคุณจะได้ทำความรู้จักกับโบรกเกอร์หรือนายหน้าประกันภัยรถยนต์ (ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจมากว่ารู้เบอร์โทรเราได้อย่างไร) ติดต่อเรามามากมาย ยื่นขอเสนอให้เยอะแยะ แล้วบางทีเราก็จะสงสัยว่าเราควรซื้อประกันชั้นไหนดี สารพัดค่าความเสียหายส่วนแรกมันคืออะไร? ซ่อมห้างฯ ซ่อมอู่ต่างกันไหม? หลังจากอ่านบทความนี้แล้วเพื่อนๆ จะได้คำตอบแน่นอนครับ
1.ทักษะในการขับรถของคุณ
มาดูเรื่องแรกกันเลยครับ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 มาลองดูตอบคำถามเหล่านี้ดูก่อนว่าทักษะในการขับรถของคุณเป็นเช่นไรบ้าง

  • คุณยังตื่นเต้นทุกครั้งที่ขับรถอยู่หรือเปล่า ?
  • ปีที่แล้วคุณได้แจ้งเคลมรอบคันแล้วรึยัง ?
  • เมื่อเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น โดนเบียด หรือโดนรถคันอื่นตัดหน้า คุณแก้ปัญหาอย่างไร ?
  • เจอน้องหมาข้ามถนน คุณทำอย่างไร ?

ถ้าสามารถตอบได้มากกว่า 3 ข้อขึ้นไปแสดงว่า ทักษะในการขับขี่รถยนต์ของคุณเข้าขั้นดีถึงดีมากแล้วนะครับเลือกต่อประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ได้เลย ส่วนคำตอบที่คุณมักจะตื่นเต้นเสมอเวลาขับรถนั้น เป็นเรื่องปกติของทุกคนครับเพียงแค่เราต้องขับให้บ่อยขึ้น บ่อยขึ้น จนเข้าขั้นชินกับการจราจรบนท้องถนน ความตื่นเต้นจะหายไปเองในที่สุด แล้วใครที่แจ้งเคลมรอบคันปีที่แล้วไปแล้วแสดงว่าคุณเป็นผู้มีประสบการณ์รู้แล้วว่า ต้องกะระยะรถยนต์อย่างไรไม่ให้ไปชนคันอื่นหรือไปครูดกับขอบถนน และถ้าคุณขับอยู่ดี ๆ โดนเบียดก็แค่ชะลอความเร็วลงให้คันที่เบียดไปก่อน หรือเจอน้องหมาข้ามถนนเราก็ควรชะลอความเร็วเว้นระยะให้ห่างไว้ก่อนจนมันข้ามถนนเสร็จ เพราะน้องหมามันเดินถอยหลังได้ครับ
ทักษะ-การขับขี่-รถ-เพื่อ-ต่อ-ประกันรถยนต์
แล้วถ้าเรายังไม่เซลฟ์พอหรือยังไม่มั่นใจพอล่ะก็คุณอาจจะยังไม่พร้อมครับ ก็ยังสามารถต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้อยู่ แต่ถ้าอยากได้ค่าเบี้ยถูกลงก็เลือกแบบมีค่าความเสียหายส่วนแรกเมื่อเราเป็นฝ่ายผิด หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่าค่าดีดักทิเบิล (Deductible) ได้ด้วย เช่น ปกติเบี้ยประกันรถอยู่ที่ 23,000 บาทแต่เราเลือกแบบมี Deductible ที่ 5,000 บาท คุณก็จ่ายค่าเบี้ยประกันรถแค่ 18,000 บาทเองครับ ถ้าคุณขับรถดีตลอดปีคุณก็ประหยัดไปเลย 5,000 บาท ถ้ายังงงๆ อ่านคำอธิบายศัพท์ประกันเพิ่มเติมได้เลยครับ

2.การใช้งานรถของคุณ
ถ้าคุณขับรถในเส้นทางไม่ไกลบ้านมากนักแถมยังเป็นเส้นทางเดิมๆ ที่ขับอยุ่เป็นประจำ เช่น จากบ้านไปที่ทำงานทุกๆ วัน หรือขับจากบ้านไปส่งลูกๆ ทุกวันแล้วล่ะก็ นอกจากการเลือกต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบมีค่าเสียหายส่วนแรกดีดักทิเบิ้ล (Deductible) ที่ช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันตั้งแต่ 1,000-5,000 บาทแล้ว สามารถเลือกต่อประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ก็ได้เช่นกันครับว่าแต่....เรารู้กันรึยังว่าประกันรถยนต์แต่ละชั้นมันต่างกันอย่างไร?
เส้นทาง-ที่ใช้-ขับขี่-รถยนต์

ความแตกต่างของประกันชั้น 1,  2+, 3+และ 3

ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองการซ่อมรถเราเองและรถของคู่กรณีจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนทุกแบบ คือ การชนระหว่างรถกับรถ หรือการชนของรถกับสิ่งอื่นๆ และรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงภัยก่อการร้ายด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองการซ่อมรถเราและรถคู่กรณีเมื่อเกิดจากการชนของรถชนรถเท่านั้น (เราต้องรู้ทะเบียนรถคู่กรณีเท่านั้น) ส่วนการชนสิ่งอื่นๆ เราเคลมไม่ได้นะครับ ที่เหลือคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 ทุกอย่าง รวมถึงภัยก่อการร้ายด้วย (ในประเทศไทยมี 2 บริษัทเท่านั้นืั้ประกันชั้น 2+ ที่คุ้มครองภัยก่อการร้ายด้วย)
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองเหตุที่เกิดจากการชนรถชนรถเท่านั้นและซ่อมทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี แต่ไม่รวมกรณีรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมและภัยก่อการร้าย
ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองเหตุที่เกิดจากการชนรถชนรถและซ่อมรถให้คู่กรณีเท่านั้น (รถของเราซ่อมเองครับ) แต่ไม่รวมรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมและภัยก่อการร้ายเช่นเดียวกัน
เมื่อเรารู้จักประกันรถยนต์แต่ละชั้นแล้ว ก็เลือกตามความคุ้มครองที่เราต้องการได้ง่ายขึ้นแล้วใช่ไหมครับ แต่ว่าเรายังมีเรื่องของราคาที่ต้องเปรียบเทียบอยู่นี่นา ว่าแล้วเราไปดูกันว่าเลือกประกันรถยนต์ให้คุ้มค่านั้นค่าดีดักทิเบิ้ล (Deductible) กับค่าเอ็กเซส (Excess) มันเกี่ยวข้องอย่างไร?
3.ความคุ้มค่าที่สุดที่คุณต้องการจากประกัน
ความคุ้มค่าของการทำประกันรถยนต์นั้น นอกจากเราได้ค่าเบี้ยประกันที่ถูกแล้วอยากให้ดูตัวอย่างอุบัติเหตุรถบรรทุกที่ขับสวนเลนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ด้วยนะครับ ถ้าเราดันไปอยู่ที่นั่นและทำประกันชั้น 3 ไว้งานนี้เราน้ำตาไหลพรากๆ และซ่อมรถตัวเองยาว เลยทำใหเ้ความคุ้มค่านั้นมองได้ทั้งการประหยัด และความครอบคลุมเมื่อเกิดอุบัติเหตุครับ ซึ่งเรื่องการประหยัดนั้นเราต้องรู้จัก 2 คำนี้ก่อนเลยครับ
เลือก-ประกันรถยนต์-ให้-ราคา-คุ้มค่าที่สุด

ค่าความเสียหายส่วนแรกดีดักทิเบิ้ล (Deductible) หรือเอ็กเซส (Excess) 

ค่าความเสียหายส่วนแรกค่าดีดักทิเบิ้ล (Deductible) นั้นไม่น่ากลัวนะครับ สาเหตุที่มีเจ้าค่านี้ออกมาก็เพราะว่าคนที่ทำประกันชั้น 1 ไว้แล้วไม่ได้เป็นฝ่ายผิดตอนเกิดอุบัติเหตุต้องการได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย แต่ในกรณีกลับกันเมื่อเกิดเหตุโดยที่เราเป็นฝ่ายผิดแล้วล่ะก็ยินดีจ่ายเงินส่วนแรกนี้ก่อน (จึงเรียกค่าความเสียหายส่วนแรก) และส่วนที่เหลือบริษัทประกันภัยจะมาดูแลต่อ ค่าความเสียหายดีดักทิเบิ้ลมีเฉพาะในประกันชั้น 1 เท่านั้นนะครับตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท
ส่วนค่าเอ็กเซส (Excess) นั้นต่างออกไป ถึงแม้เราจะเรียกว่าเป็นค่าความเสียหายส่วนแรกเหมือนกันก็ตาม แต่ที่จริงแล้วเป็นเงินที่เราต้องจ่ายชดเชยค่าความเสียหาย เมื่อเราประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุแบบระบุคู่กรณีไม่ได้ เช่น ก้อนหินกระเด็นใส่รถ รถโดนขูด ล้อแม็กโดนครูดฟุตบาทแต่จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่  เกิดตอนไหน (หรือตอนที่เราเคลมรอบคันหรือเคลมแห้งแบบไม่รู้เทคนิคจะจ่ายสูงสุดไม่เกิน 6,000 บาท) ค่าเอ็กเซสจะคิดเป็นครั้งของอุบัติเหตุ ครั้งละ 2,000 บาทครับ

ต่อประกันรถปีที่ 2 แล้วควรต่อประกันชั้น 1 ไหม?

สรุปแล้ว ถ้าเราต้องการความคุ้มค่าจากค่าเบี้ยประกันก็ดูความคุ้มครองให้ละเอียด เลือกประกันชั้นที่เราโอเคมากที่สุด เช่น ประกันชั้น 2+ และติดกล้องติดรถยนต์เพื่อเป็นหลักฐานในการตามหาคู่กรณี แต่ถ้าเลือกประกันรถที่ความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุดประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบมีค่าความเสียหายส่วนแรกดีดักทิเบิ้ล (Deductible) ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดครับ ถ้าใครไม่แน่ใจเรื่องประกันรถก็ถามมาได้เลยนะครับเพื่อนๆ Frank ชอบตอบแบบตรงไปตรงมาที่สุดคร้าบ

สรุป Frank Frank

  • มั่นใจฝีมือการขับรถแล้ว > สามารถประหยัดโดยเลือกประกันชั้น 1 แบบจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนแรกดีดักทิเบิ้ล (Deductible) เมื่อเราเป็นฝ่ายผิด
  • ขับรถเส้นทางสั้นๆ เดิมๆ > สามารถประหยัดโดยเลือกประกันชั้น 2+ และติดกล้องติดรถยนต์
  • ต้องการความคุ้มค่า > อย่าเลือกบริษัทประกันแต่ที่ราคา เปรียบเทียบความคุ้มครองเพื่อความคุ้มค่าด้วย

The post ต่อประกันรถยนต์ปีที่ 2 ควรต่อชั้น 1 ไหม? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%b5-2-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99-1-%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1/feed 1