1.นำพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไว้เสมอ

ควรนำพาวเวอร์แบงค์ใส่กระเป๋าถือสัมภาระขึ้นเครื่องบิน ไม่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้เครื่อง เนื่องจากพาวเวอร์แบงค์นั้นมีประจุไอออน และเกิดความร้อนได้ง่าย ทำให้พาวเวอร์แบงค์ระเบิดจนเกิดอันตรายไฟไหม้เครื่องบินระหว่างเดินทาง 

2.ความจุพาวเวอร์แบงค์ต้องไม่เกิน 32,000 mAh 

หากจะต้องขึ้นเครื่องบิน พาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุแบตเตอรี่ ไม่เกิน 32,000 mAh โดยนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบินได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น หากมีความจุเกินกว่านั้นต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินเป็นกรณีพิเศษ

*อ้างอิงจาก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transpot Association : IATA)

3.พาวเวอร์แบงค์ต้องมีฉลากระบุอย่างชัดเจน

พาวเวอร์แบงค์ ต้องมีฉลากที่ระบุความจุอย่างชัดเจน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ ถ้าหากว่าไม่มีฉลาก เจ้าหน้าที่อาจจะไม่อนุญาตให้ใช้งาน หรือนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบิน ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กแค่ไหนก็ตาม ในกรณีที่สายการบินไม่อนุญาต อาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจัดการวัตถุอันตรายเพิ่มเติม หรืออาจปฏิเสธไม่ให้นำขึ้นบิน

4.แยกพาวเวอร์แบงค์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจทุกครั้ง

เวลาที่เจอด่านตรวจสัมภาระหรือด่านตรวจใดๆ ทางที่ดีควรจะแยกพาวเวอร์แบงค์ออกมาจากกระเป๋า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยเฉพาะ

กฎระเบียบเหล่านี้ ถือเป็นมาตรฐานและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เพื่อปกป้องผู้โดยสารและลูกเรือระหว่างการเดินทาง โดยทั่วไปเราสามารถพกพาวเวอร์แบงค์ติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ หากปฏิบัติตามข้อจำกัดของสายการบิน และก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ซื้อประกันเดินทาง ที่ bolttech.co.th เพิ่มความอุ่นใจตลอดทริป มีทั้งแผนรายเที่ยว รายปี คุ้มครองค่ารักษา เมื่อเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ชดเชยสัมภาระสูญหาย เที่ยวบินล่าช้า และความคุ้มครองอื่นๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ สามารถยื่นขอวีซ่าได้ พร้อมรับกรมธรรม์ออนไลน์ เบี้ยเริ่มแค่หลักร้อยเท่านั้น! สบายใจทุกการเดินทาง

The post กฏการพก "พาวเวอร์แบงค์" ขึ้นเครื่องบิน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. โทรหา Call Center หรือติดต่อกับทางเคาท์เตอร์สนามบินเพื่อขอรับเอกสารรับรองเที่ยวบินดีเลย์ ให้สายการบินระบุหมายเหตุอย่างชัดเจน

2. ถ่ายภาพ เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้

3. คำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เราเสียไปจากการจองเที่ยวบิน

4. ขอรับการเคลมค่าโดยสาร

• สายการบินต่างประเทศ ร้องเรียนได้ที่เว็บไซต์ airhelp.com
• สายการบินในประเทศ ร้องเรียนได้ที่เว็บไซต์ https://portal.caat.or.th/complaint/ หรือโทรแจ้งได้ที่กองคุ้มครองสิทธิ์ 02-568-8815, 02-535-1294

กรณีที่เกิดเหตุการณ์ เที่ยวบินดีเลย์จากสายการบินในประเทศ ทางกระทรวงการคมนาคมจึงได้กำหนดให้มีการชดเชยให้กับผู้โดยสาร เพื่อประโยชน์สำหรับผู้โดยสาร ดังนี้

กรณีที่เที่ยวบินดีเลย์ 2-3 ชั่วโมง 

1. ได้รับบริการทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่ม

2. ได้รับการอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารจากสายการบิน

3. ได้รับการคืนเงินค่าโดยสารถ้าหากว่าผู้โดยสารไม่ต้องการเดินทางในเที่ยวบินนี้แล้ว

กรณีที่เที่ยวบินดีเลย์ 3-5 ชั่วโมง

1. ได้รับบริการทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่ม

2. ได้รับการอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารจากสายการบิน

3. ได้รับการชดเชยตามที่ผู้โดยสารเลือกว่าจะให้คืนเงินค่าโดยสาร หรือชดเชยการเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือชดเชยหากผู้โดยสารต้องการเดินทางด้วยขนส่งอื่น 

4. ได้รับเงินชดเชย 600 บาท แต่จะถูกยกเว้นในกรณีที่สายการบินพิสูจน์ได้ว่าเที่ยวบินดีเลย์เพราะเหตุสุดวิสัย

กรณีที่เที่ยวบินดีเลย์ 6 ชั่วโมงขึ้นไป

1. ได้รับบริการทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่ม

2. ได้รับการอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารจากสายการบิน

3. ได้รับการชดเชยตามที่ผู้โดยสารเลือกได้เช่น เลือกคืนเงินค่าโดยสาร ชดเชยการเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือ ชดเชยหากผู้โดยสารต้องการเดินทางด้วยขนส่งอื่น 

4. ได้รับเงินชดเชย 1,200 บาท แต่จะถูกยกเว้นในกรณีที่สายการบินพิสูจน์ได้ว่าเที่ยวบินดีเลย์เพราะเหตุสุดวิสัย หรือสายการบินแจ้งยกเลิกเที่ยวบินอย่างน้อย 3 วันก่อนการเดินทาง หรือสายการบินเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง จากเวลาเดิม

5. ได้รับบริการเรื่องห้องพัก การรับส่งระหว่างโรงแรม และสนามบินฟรี

*ทั้งนี้จะได้รับเฉพาะผู้โดยสารที่ไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าจากสายการบิน และได้เดินทางมาถึงสนามบินแล้ว

ถึงเราไม่อยากให้เที่ยวบินดีเลย์เกิดขึ้น แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขอให้รู้ว่าเราจะมีสิทธิ์ได้รับการชดเชยตามข้อข้างต้นที่ได้กล่าวมา หรือ ถ้าคุณ ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจมากขึ้น เพราะประกันเดินทางต่างประเทศ มีแผนชดเชยเที่ยวบินล่าช้า คุ้มครองกระเป๋าเดินทางล่าช้าหรือสูญหาย มีให้เลือกทั้งประกันเดินทางรายเที่ยวและรายปี เปรียบเทียบแผนเองได้ จากหลายบริษัทประกันชั้นนำ รู้ราคาทันที พร้อมรับกรมธรรม์ออนไลน์ นำไปยื่นขอวีซ่าได้เลย

The post เที่ยวบินดีเลย์ ได้รับชดเชยอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

วิธีซื้อบัตรโดยสาร

เมื่อเครื่องแลนดิ้งที่สนามบินประเทศฮ่องกงและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ให้เดินไปซื้อบัตรโดยสาร Octopus ที่เคาท์เตอร์ในสนามบินซึ่งที่เคาท์เตอร์จะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการอยู่ บัตรนี้สามารถใช้เดินทางได้ทั่วประเทศฮ่องกงไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถเมลหรือรถราง นอกจากนี้บัตร Octopus ยังสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศฮ่องกงได้อีกด้วย เมื่อซื้อบัตรโดยสารเสร็จแล้วก็ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินตามขั้นตอนนี้เลย

วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR

1.ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR สายสีเขียวเข้ม Airport Express จากสถานี Airport ไปลงที่สถานี Tsing Yi 

2.เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม Tung Chung Line ให้เราขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Lai King 

3.เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดง Tsuen Wan Line ให้เราขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Prince Edward

4.เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียว Kwan Tong Line ให้เราขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Wong Tai Sin

ในระหว่างการเปลี่ยนเส้นทางนั้นเราไม่จำเป็นต้องเดินไกลเลยเพราะระบบการคมนาคมของประเทศฮ่องกงนั้นดีมาก เข้าใจง่าย มีป้ายสัญลักษณ์และป้ายบอกทางอย่างชัดเจน เมื่อถึงสถานี Wong Tai Sin ทางออก B2 แล้วก็เดินออกจากสถานีก็จะเจอกับวัดหวังต้าเซียน เพราะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจะอยู่ใกล้กับวัดทำให้เดินทางไปและกลับไม่ยาก ส่วนใครหิวฝั่งตรงข้ามก็มี Shopping Mall สามารถทานอาหารที่นั่นก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปเที่ยวที่อื่นต่อก็ได้

นี่เป็นไกด์คล่าวๆ สำหรับคนที่อยากเดินทางไปขอพรความรักที่วัดหวังต้าเซียนประเทศฮ่องกง ใครมีแพลนที่จะไปบ้างก็อย่าลืม ซื้อประกันเดินทางออนไลน์ ที่ bolttech.co.th มีหลากหลายแผน จากหลายบริษัทประกันชั้นนำ สามารถเปรียบเทียบแผนเองได้ รู้ราคาทันที คุ้มครองกระเป๋าเดินทางสูญหาย ชดเชยเที่ยวบินล่าช้า นอกจากนี้ยังนำมายื่นขอวีซ่าได้ด้วย ถึงแม้ว่าไปประเทศฮ่องกงนั้นไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า แต่ซื้อประกันเดินทางไว้ดีกว่า เพื่อความสบายใจตลอดทริป พิเศษ! ซื้อประกันเดินทาง พร้อมรับกรมธรรม์ทันที!

The post วิธีเดินทางไปมู "วัดหวังต้าเซียน" เพื่อขอพรความรัก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ ?!

หากคุณต้องการท่องเที่ยวอย่างสนุกไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตามแต่ โดยเฉพาะอาจจะเป็นประเทศที่มีข่าวเรื่องการล้วงกระเป๋าหรือการโจรกรรมค่อข้างมาก จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการป้องกันทรัพย์สินสูญหายในต่างประเทศอย่างดี เพราะความยุ่งยากมักจะเริ่มขึ้นที่นี่  

พร้อมแล้วมาดูเทคนิคป้องกันการโดนล้วงกระเป๋าระหว่างท่องเที่ยวต่างประเทศกันดีกว่า

1. สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้า

ไม่ว่าคุณจะใช้กระเป๋าอะไรก็แล้วแต่หากต้องเดินผ่านผู้คนที่พลุกพล่านจะต้องสะพายกระเป๋าไว้ข้างหน้า และใช้มือกอดกระเป๋าของคุณไว้ตลอดเวลา เพราะคุณอาจจะต้องเดินโดนตัวคนอื่นและอาจโดนล้วงกระเป๋าไปในระหว่างนั้น เพราะคุณจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่ามีคนจับกระเป๋าของคุณ หรือเข้าใกล้กระเป๋าของคุณ บางครั้งการที่เราคอยจับกระเป๋าไว้ตลอดเวลา ก็จะยิ่งลดความสนใจของโจรล้วงกระเป๋าได้ดี เพราะว่าเราคอยระวังตัวอยู่เสมอนั่นเอง

2.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

อย่างที่หลายคนทราบอยู่แล้วว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะเป็นเป้านิ่งของการล้วงกระเป๋า ถึงแม้คุณจะระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่บ้างครั้งก็อาจจะไม่พลาดสายตาของนักล้วงกระเป๋าที่ปะปนไปกับเรา โดยเฉพาะเวลาที่เราจำเป็นต้องถ่ายรูป หรือเดินอยู่เพลิน ๆ ก็อาจโดนล้วงกระเป๋าก็เป็นได้ แต่หากที่นั่นเป็นสถานที่ที่คุณต้องการไปเยี่ยมเยียน ก็อย่าลืมพกกระเป๋ามาไว้ด้านหน้าจะเป็นการระวังที่ดีที่สุด

3. เลือกกระเป๋ากระทัดรัด ดูแลง่าย ๆ 

พยายามเลือกกระเป๋าที่กระทัดรัดสามารถใส่พาสปอร์ตของเรา เงินใช้จ่ายบางส่วน หรือบัตรอื่น ๆ ที่สำคัญไว้ในจุดที่มิดชิดที่สุด วิธีที่ดีที่สุดในการรักษากระเป๋าสตางค์ของคุณนั้นคือ การใส่ไว้ในเสื้อโค้ทที่มีซิปรูดปิดมิดชิดหรือใส่กระเป๋าคล้องคอ และสามารถเก็บเข้าไปในเสื้ออีกที บางครั้งหากคุณไปเดินช็อปปิ้งก็อาจจะโดนล้วงกระเป๋าไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะมัวแต่เลือกข้าวของอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การเก็บของสำคัญไว้ใกล้ชิดตัวมากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันการโดนล้วงกระเป๋าไปได้อย่างดีเลยทีเดียว

4. รู้จักเดินหนี

อย่างที่ทราบกันว่านักล้วงกระเป๋ามีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป ในบางครั้งก็มีการที่มีกลุ่มคนเดินเข้ามาเป็นพูดคุยกับคุณก็ดูเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ แต่บางครั้งก็อาจเป็นการดึงความสนใจให้เราหันเหไปทางอื่นและลืมดูแลสัมภาระของมีค่า โดยเฉพาะการเสนอขายบางอย่างที่บางครั้งเราไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะขายอะไร อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ทันตั้งตัว จนเมื่อรู้ก็อาจสายไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากเราเจอกับสถานการณ์ที่แปลกแตกต่างจากปกติ หรือสถานการณ์ที่เราไม่สามารถไว้วางใจก็ให้รีบเดินหนี ยิ่งหากคุณเป็นผู้หญิงด้วยแล้วก็อาจมีความอันตรายมากเป็นพิเศษ

5. ห้ามวางกระเป๋าไว้ที่พื้น

หากคุณจะวางกระเป๋าไว้ที่พื้นก็อย่าลืมวางไว้ที่ระหว่างของคุณและคอยจับหูกระเป๋าไว้ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะโดนกระชากกระเป๋าสุดที่รักของคุณไปตอนไหน โดยเฉพาะเวลานั่งรอรถเมล์หรือรถไฟในต่างประเทศ การวางกระเป๋าไว้ที่พื้นนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก โดยเฉพาะในสถานที่ดูไม่น่าไว้วางใจ แม้ว่ากระเป๋าคุณจะมีน้ำหนักมากซึ่งบางครั้งคุณไม่ได้ระวังหรือสนใจกระเป๋าที่วางไว้ เพราะนักล้วงกระเป๋าอยู่ทั่วทุกที่และจะปะปนกับคนทั่วไป คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคุณจะโดนล้วงกระเป๋าหรือพบเจอกับนักล้วงกระเป๋าตอนไหน
ทั้งหมด  “5 เทคนิคป้องกันทรัพย์สินสูญหายบนรถไฟระหว่างท่องเที่ยวในต่างประเทศ” นี่เป็นเพียงการป้องกันตัวเองก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเทคนิคทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เราระแวงการท่องเที่ยวแต่อย่างใด เพราะเหตุการณ์ล้วงกระเป๋าของต่างประเทศก็ไม่ต่างจากการใช้ชีวิตในกรุงเทพมากเท่าไหร่เลย นอกจากนี้ อย่าให้ความกลัวมาเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวเลย เพราะบนโลกใบนี้ยังมีสถานที่สวยงามอีกมากเพื่อรอให้คุณไปเยี่ยมชมโดยเฉพาะสถานีรถไฟรัสเซียที่สวยติดอันดับ 3 ของโลก ยังไงก็อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีพร้อมประกันเดินทางตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางเที่ยวต่างประเทศ หรือเดินทางเที่ยวบ่อย ๆ สามารถอ่านเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับประกันการเดินทางก่อนตัดสินใจได้นะ

The post 5 เทคนิคป้องกันของหาย ระหว่างท่องเที่ยวต่างประเทศ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. เตรียมทริปให้พร้อม

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการไปเยือนฉงชิ่งคือฤดูใบไม้ผลิ (ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนถึงตุลาคม)
ด้วยวิวทิวทัศน์อลังการน่าไปเยือนเกิ๊น !! แหม..จะไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องจัดทริปเต็มไหนต้องเตรียมท่าท่าถ่ายรูปเก๋เลิศ หรือจัดเต็มสถานที่
ท่องเที่ยวให้แน่นแบบจัดเต็ม
เริ่มจากล่องแม่น้ำแยงซีเกียง-อู่หลง, ชมถ้ำฝูหยงต้ง, เที่ยวเมืองเก่าอุทยานแห่งชาติหลุมฟ้าสะพานมังกร (เทียนเชิงซานเฉียว) ตั้งอยู่
ที่เมืองอู่หลง, งานแกะสลักหินแห่งต้าจู๋ แสดงความงามของพุทธศาสนาลัทธิเต๋าและขงจื้อ ห้ามพลาดกับจุดชมวิว Yi Ke Shu หรือ
One Tree ด้านบนของเทือกเขา Nanshan สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามเมืองฉงชิ่งยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ
อีกเพียบ !! เลือกเลยตามใจชอบ โดยเฉพาะอาหารที่ฉงชิ่งก็เด็ดใช่ย่อย
 

 
เจอสถานที่สวยต้องเซลฟี่สิจ้ะ แต่ถ้าหากคุณเตรียมชุดจีนโบราณ และดั๊นโพสท่าเพลินเกินห้ามใจไปหน่อย และเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช่น ขาหัก แขนหัก หรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ร่างกายของคุณบาดเจ็บ !! งือ... อันนี้ “แย่เลยนะ” เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลในเมืองจีนค่อนข้างแพงโดยเฉพาะแผนกบริการชาวต่างชาติ
อันนี้ Frank ไม่ได้แช่งแต่อย่างใดนะจ๊ะ เพียงแค่เป็นห่วงคุณผู้อ่าน และยกตัวอย่างฟังเฉย ๆ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ซื้อประกันอุบัติเหตุไว้เถิดจะเกิดผล ช่วยดูแลครอบคลุมทุกที่ทั่วโลกทุกการเดินทางแบบ 24/7 ช่วยให้การเดินทางไปเที่ยวสนุก และปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ ความคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ที่คุณเลือกซื้อด้วยสนใจประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลปรึกษา Frank ได้ เบี้ยเริ่มต้นวันละ 3 บาทเท่านั้น

2. เตรียมการเดินทางและที่พัก

ด้วยอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล การจองห้องพักก่อนตะลุยฉงชิ่งสำคัญมาก กล่าวคือ คุณควรเตรียมที่พักชัดเจน จองไว้ก่อนชัวร์กว่า
และการเดินทางที่กว้างขวางมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ แต่อาจจะงง ๆ หน่อย ๆ  หรือถ้าเดินทางด้วยรถยนต์เส้นทางเต็มไปด้วยภูเขาและเนินเขา โดยเฉพาะการเดินทางที่ท้าทาย เห็นว่ามีถนนบนดาดฟ้าของตึกที่อยู่อาศัยของผู้คน และรถไฟฟ้าโมโนเรลทะลุตึก อืม... ไม่ธรรมดาจริง ๆ เชียว  
นอกจาก ต้องทำการบ้านศึกษาเส้นทาง และจองที่พักให้เหมาะสมตรงความต้องการแล้ว หากคุณเป็นนักเที่ยวสายติสท์ที่อยากคนเดียว หรือออกทริปกับเพื่อน ครอบครัว แนะนำเลย คุณจะต้องมีประกันอุบัติเหตุ (PA) จากเมืองไทยพกไว้ด้วย

• สำหรับช่วยคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินคุณจากอุบัติเหตุความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
• กรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะและสายตา กรณีทุพพลภาพถาวร
• ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุในต่างแดน

อย่าลืมว่าการดูแลตัวเองนั้นสำคัญที่สุด ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ เพราะถ้าแย่จะแก้ไม่ทัน เหมือนสุภาษิตไทย “วัวหายแล้วล้อมคอก” อันนี้ไม่ดีแน่ ๆ  
 

อย่ารอให้วัวหายแล้วล้อมคอก
เมื่อท่องเที่ยวเที่ยวต่างประเทศควรซื้อประกันเดินทาง
หรือประกันอุบัติเหตุติดตัวไว้ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ

3. เตรียมประกันอุบัติเหตุ (PA)

เพราะ Frank เป็นห่วงทุกคน ทั้งหมดที่เรากล่าวมาการจะเดินทางไปเที่ยวฉงชิ่ง หรือที่ใดในโลกการซื้อประกันอุบัติเหตุเอาไว้
สำคัญมากโดยเฉพาะกรมธรรม์ที่ครอบคลุมดูแลทั่วโลกให้การท่องเที่ยวไม่สะดุด เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ทุกวินาที
แต่ด้วยความที่การประกันภัยอุบัติเหตุ มุ่งเน้นให้ความคุ้มครองที่เป็นความเสี่ยงภัยพื้นฐานที่เกิดจากอุบัติเหตุทั่วไป แต่ถ้าต้องการ
ความดูแลคุ้มครองการท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างครบครันเต็มพิกัด แนะนำซื้อประกันเดินทางร่วมด้วยก็ “เวิร์ค”   
 

 

4. เตรียมเที่ยวโล้ด!!

หากเตรียมครบหมดแล้ว มาถึงข้อสุดท้าย !!!! เตรียมตัวออกเที่ยวฉงชิ่ง ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ชาร์จแบตเตอรี่ชีวิต
และอย่าลืมซื้อประกันอุบัติเหตุไว้ดูแลคุณและคนที่คุณรักเพื่อให้ทุกการเดินทางเซฟตี้ ดูแลความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ
ช่วยชดเชยการบาดเจ็บ การสูญเสียอื่น ๆ ตามกรมธรรม์ที่คุณเลือกซื้อล่ะจ้า ด้วยรักและห่วงใย
สำหรับใครที่สนใจซื้อประกันอุบัติเหตุกับ Frank.co.th ผู้ให้บริการถูกโหวตให้เป็นอันดับ 1 ด้านการบริการของประเทศไทย
ช่วยให้คุณเช็กเบี้ยออนไลน์ง่าย ๆ ตรวจสอบได้ทันที ทุกที่ทุกเวลา เคลมเร็ว คุ้มครองจากบริษัทประกันที่ดีที่สุดในเมืองไทย
พร้อมรับสิทธิพิเศษ Penguin Privilege ดีลดี ๆ โปรโมชันส่วนลดที่ใช้ได้ทุกไลฟ์สไตล์ รับรองว่า คุ้มค่า !!
แหล่งข้อมูล: chinadaily.com.cn
Content by Butter Cutter
 

The post เที่ยวฉงชิ่ง ตะลุยเมืองจีน ต้องเตรียมอะไรบ้าง ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.