ประเทศไทยที่มีนักขับรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะจังหวัดกรุงเทพฯ ที่ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการใช้มอเตอร์ไซค์มากที่สุดในประเทศไทย จังหวัดรองลงมาคือ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ติดเป็นอันดับที่สาม อย่างที่เห็นได้ชัดคือ ทุกจังหวัดที่ติดอันดับต้นๆนั้นเป็นตัวเมืองที่ทุกคนไม่ต้องการรอรถติด จึงหันมาขับรถมอเตอร์ไซค์แทนเพราะการเดินทางที่ทั้งสะดวกและรวดเร็วตามสไตล์ความรีบร้อนของคนเมืองนั่นเอง
สมัยนี้เริ่มมีการขับรถที่แหวกกฎหมายมากขึ้น เพราะวัยรุ่นหลายคนไม่เชื่อกฎหมายจนทำให้ประเทศไทยมีการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูงจากความประมาทของตัวผู้ขับเอง ในปัจจุบันคุณก็ยังสามารถเห็นได้กับตัวเอง ที่ไม่ว่าจะเป็นการขับย้อนศร หรือการขับบนทางเดินฟุตบาทที่มอเตอร์ไซค์ไม่สามารถขึ้นมาขับได้  
อย่างไรก็ตาม เรามาดูกันว่า "นักขับมอเตอร์ไซค์สไตล์ไหนที่จำเป็นต้องมีประกันรถมอเตอร์ไซค์"

1. นักขับชอบแว้น

นักขับกลุ่มวัยรุ่นที่รักการขับขี่รวดเร็วในตัวเมือง ซึ่งนักขับมอเตอร์ไซค์เหล่านี้มีการขับที่รวดเร็วมากๆ ควารวดเร็วในการขับขี่รถนั้นมากกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว ซึ่งหากขับในตัวเมือง ความเร็วนี้ผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งการขับรถที่เร็วมากขนาดนี้แน่ล่ะมีโอกาสการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์หรือบางครั้งก็อาจถึงชีวิต เพราะฉะนั้นการมีประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 จะเหมาะกับนักขับชอบแว้นอย่างมาก

2. นักขับวินมอเตอร์ไซค์

การขับรถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำทุกวัน หรือการขับมอเตอร์ไซค์เป็นอาชีพนั้นจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเป็นมากกว่าคนที่ใช้เดินทางระยะทางใกล้อยู่แล้ว และยังมีโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า ขับรถบนท้องถนนเราไม่สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ได้เลยเพราะการใช้ถนนร่วมกับนักขับที่มีสไตล์การขับที่แตกต่างกันไปโดยเฉพาะนักขับสายมั่น คุณจำเป็นต้องมีประกันมอเตอร์ไซค์เพื่อรักษาทั้งตัวคุณเองและมอเตอร์ไซค์ของคุณ แฟรงค์เชื่อว่านอกจากคุณจะขับมอเตอร์ไซค์เป็นอาชีพแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องใช้มอเตอร์เป็นพาหนะในการเดินทางไปไหนมาไหนอยู่

3. นักขับมือใหม่

หากคุณเป็นนักขับมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจในฝีมือการขับของตัวเองเท่าไหร่นัก แฟรงค์ขอแนะนำให้เพิ่มความคุ้มครองเพิ่มอีกระดับในการขับขี่อย่างปลอดภัย เพราะอย่างน้อยคุณก็ยังมีคนมาช่วยดูแลเรื่องการเกิดอุบัติเหตุเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ และการบาดเจ็บของตัวคุณเอง สำหรับประกันที่เหมาะกับนักขับมือใหม่มากที่สุดก็คือ ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ที่คุ้มครองทุกคนครบความต้องการของคุณ แต่หากคุณไม่จำเป็นต้องขับรถทุกวันก็ลองพิจารณาประกันขั้น 2+ และ 3+ ดูนะครับ

4. นักขับสายมั่น

นักขับที่มักจะคิดว่าตัวเองชำนาญ และเชี่ยวชาญด้านการขับรถมากนับปี ส่วนมากนักขับสายมั่นมักจะขับซิ่งมาก ซึ่งแน่ล่ะบางครั้งก็อาจไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างที่รู้กันว่าคุณไม่สามารถเดาเหตุการณ์เหล่านี้ได้เลย เพราะฉะนั้นการป้องกันการเกิดอุบัติสำหรับนักขับสายมั่นนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากเพราะคนที่นักรถมาด้วยก็จะได้รับความคุ้มครองจากประกันชั้น 1 ด้วย เพราะการมีประกันนั้นความปลอดภัยสำหรับเราต้องมาก่อนเสมอ

5. นักขับระยะทางไกล

หากคุณต้องขับจากบางนาไปดอนเมือง หรือแบริ่งไปนนทบุรีซึ่งเป็นเส้นทางยาวไกลมากสำหรับการขับมอเตอร์ไซค์ แน่ล่ะหลายคนที่จำเป็นจะต้องขับในระยะทางไกลแบบนี้มักจะเร่งรีบ และติดนิสัยการขับเร็ว การขับในระยะทางไกลบ่อยครั้งที่ก็ให้เกิดความเครียดในการขับรถจากความร้อนรอบตัว ฝุ่นละออก หรือการฝ่าฟันจากแท็กซี่เอาแต่ใจ บางครั้งความเครียดที่ซึ่งสร้างความหงุดหงิดให้แก่คุณอาจทำให้เกิดความประมาทในการขี่มอเตอร์ไซค์ และนำไปสู่อุบัติเหตุในที่สุด
หากคุณรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว แว้นแรง แฟรงค์ก็อยากให้คุณเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยในการขับรถบนท้องถนนไว้เป็นอย่างดีอย่าง เคล็ดลับประกันมอเตอร์ไซค์ที่คุณควรรู้! เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมให้แฟรงค์มาดูแลคุณนะครับ

 

The post ขับรถสไตล์ไหนจำเป็นต้องมีประกันรถมอเตอร์ไซค์?! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ล้างรถเองดีอย่างไร?

• ประหยัดเงิน
• ไม่โดนปรับเปลี่ยนอะไหล่รถจากอู่ราคาถูก
• ได้ออกกำลังกายในตัว
• ได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น

1. เงินออมเพิ่มขึ้น

แน่นอนการที่เราต้องไปเข้าศูนย์หรือจ้างคนล้างรถย่อมเสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว ส่วนราคาก็จะอยู่เฉลี่ยประมาณไม่เกิน 300 บาทต่อครั้ง หรืออาจมากกว่านั้นเพราะการล้างรถนั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างนั้นเชื่อว่าหลายคนคงไปนั่งจิบกาแฟรอก็อาจจะต้องเพิ่มเป็นร้อยกว่าบาทแล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณหยุดใช้บริการล้างรถไปก็จะสามารถเพิ่มเงินออมในกระเป๋าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

2. ไม่ต้องกลัวการขโมย

บางครั้งการนำรถเข้าอู่แถวบ้าน หลายครั้งอาจโดนเปลี่ยนอะไหล่หรือปรับเปลี่ยนเครื่องมือรถมอเตอร์ไซค์อย่างอื่นของคุณ จากของแท้ที่เราเสียเงินเป็นหมื่นกลายเป็นของปลอมราคาหลักร้อย! เป็นใครก็ต้องโมโหกันแน่นอน ซึ่งทั้งนี้คุณอาจไม่มีทางรู้เลยว่าอะไหล่ส่วนไหนถูกปรับเปลี่ยนไป นอกจากคุณทำการตรวจเช็คทุกครั้งหลังจากที่คุณนำรถเข้าอู่ บางครั้งคุณอาจจะเพิ่งรู้ว่าอะไหล่มอเตอร์ไซค์ถูกเปลี่ยนก็ตอนที่รถเกิดมีปัญหาต้องเข้าศูนย์ จนถึงตอนนั้นคุณก็ต้องเสียค่าซ่อมแซมไปอีกหลายพัน ทั้งนี้หากคุณจำเป็นต้องใช้บริการ ก็อย่าลืมเช็ครถหลังจากเสร็จการบริการนะครับ

3. ออกกำลังกาย

การขยับนิดหน่อยก็เรียกว่า เป็นการออกกำลังกายแล้ว หลายคนรักการล้างรถในตอนเช้า เป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก ส่วนการล้างรถในตอนเช้าก็ทำให้คุณมีความรู้สึกสดชื่น การล้างรถด้วยตัวเองสามารถลดรอยขีดข่วนที่คุณอาจเจอจากร้านล้างรถ ซึ่งบ่อยครั้งการขัดรถที่รุนแรงมักทำให้พื้นผิวรถเสียและเกิดรอย บางคนอาจจะไม่สังเกตุเห็นเพราะทางร้านอาจปกปิดไว้ใต้ผิวหน้ารถ อย่างไรก็ตามแต่ การล้างรถเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดไปพร้อมๆ กับการร่วมทำกิจกรรมในครอบครัว

4. ได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น

หากมองย้อนกลับไปตอนเด็กที่คุณพ่อมักจะเรียกมาช่วยล้างรถและหลังจากนั้น การล้างรถก็เหมือนกิจกรรมส่วนหนึ่งของครอบครัวที่เหมาะจะทำร่วมกันในสุดสัปดาห์ เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่ดีอย่างหนึ่งในการสนทนาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เด็กๆ เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำความสะอาดรถอีกด้วยนะครับ

ล้างรถเองต้องเตรียมอะไรบ้างนะ?

วิธีการล้างรถพร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆที่คุณอาจคิดว่าจำเป็นต้องมีครบทุกย่าง แต่อันที่จริงแล้วอุปกรณ์จะเป็นที่คุณต้องมีก็มีเพียงแค่:

1. น้ำยาล้างรถ ที่คุณสามารถซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าทุกที่
2. ฟองน้ำสีเหลือง ที่มีลักษณะเป็นตัวหนอนสำหรับล้างรถ หรือถุงมือขนแกะ ตามชอบ
3. ถังน้ำ 1 ถังสำหรับใส่น้ำยา และใช้สายยางจัดเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเลย
4. ผ้าไมโครอย่างน้อยๆ 3 ผืน (ซับ 2 เช็ดหมาด 1)ให้เลือกหนาๆนุ่มๆหน่อย จะสามารถซับน้ำได้ดี

นี่ก็เป็นเหตุผลหลักและเหตุผลจริงที่หลายคนควรละทิ้งความขี้เกียจ และเริ่มลงมือล้างรถมอเตอร์ไซค์พร้อมขยับร่างกายวันละนิด ทั้งนี้เพื่อป้องกันของหายในกรณีอู่รถปรับเปลี่ยนอะไหล่รถคุณอย่าลืมเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์กับแฟรงค์นะครับ
 

The post 4 ข้อดีของการล้างรถมอเตอร์ไซค์ด้วยตัวเอง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์  เป็นเอกสารอนุญาตให้ขับขี่ยานยนต์บนท้องถนนได้ถูกกฎหมาย เปรียบเสมือนใบอนุญาตการขับรถที่มีทั้งความยากง่าย แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ข้อกำหนดพื้นฐานเกี่ยวกับอายุและประสบการณ์ในการขับรถที่ผ่านมา การอบรมนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ชั่วโมงเพื่อเพิ่มคุณภาพนักขับมือใหม่  

ใครที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์คันใหม่ ลองมาเลือก 12 อับดับรถมอเตอร์ไซค์ยอดฮิตราคาถูกไม่เกิน 5 หมื่นบาท พร้อมกับ เลือกสีมอเตอร์ไซค์เสริมสิริมงคล ในบทความนี้กันต่อครับ

มาดูเอกสารที่ต้องเตรียมสอบใบขับขี่จักรยานยนต์กันเลย

• บัตรประชาชน
• สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
• ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
• ใบรับรองการอบรม

1. ศึกษารายละเอียด เบื้องต้น บนอินเตอร์เน็ต

การศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากความรู้ในหนังสือ คุณก็สามารถเรียนรู้เคล็ดลับบนบล็อกบทความที่อัพเดตเนื้อหาเกี่ยวกับ สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้จากสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากคุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากอินเตอร์เน็ตแล้ว ก็ยังสามารถอ่านเพิ่มเติมบนแอพพลิเคชั่นได้ทุกที่ที่ต้องการอีกด้วย 

2. ทดสอบสมรรถภาพด้านร่างกาย และ สายตา

เมื่อคุณศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนตอนนี้เราจะมาเช็คเรื่องสมรรถภาพด้านร่างกายและสายตาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถขับขี่บนถนนได้อย่างปลอดภัย การทดสอบทางด้านสมรรถภาพร่างกายมีดังนี้:

• ทดสอบตาบอดสี
• ทดสอบสายตาทางกว้าง
• ทดสอบสายตาทางลึก
• ทดสอบการตอบสนองของเท้า

3. อบรมศูนย์ข้างนอกสะดวกมากกว่า

ถ้าไม่อยากไปอบรมถึงสองวัน ควรเลือกอบรมที่ศูนย์ข้างนอกมากกว่า หนึ่งในสถานที่แนะนำก็คือ มหาลัยวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (โทรจองที่นั่งก่อนไปนะครับ) การเข้าอบรมนั้นจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง ค่าอบรม 500 บาท  ทั้งนี้ก็ยังมีสถานที่อบรมอีกมากมายที่คุณสามารถเลือกตามสะดวกการเดินทางได้เลยครับ หลังจากที่เราได้ไปเข้ารับการอบรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับเอกสารรับรองซึ่งห้ามทำหายเด็ดขาด

4. เข้ารับการทดสอบข้อเขียน

สำหรับการทดสอบแบบปรนัยนั้น มีทั้งหมด 50 ข้อ และจำเป็นต้อสอบผ่านคิดเป็น 90% ของข้อสอบทั้งหมด ซึ่งจะมีให้เลือก ก-ง ทั้งนี้ก็อย่าลืมศึกษาเรื่องป้ายและกฎจราจรกันนะครับ (คุณต้องทำข้อสอบใบขับขี่ ผ่านให้ได้ 45 ข้อจาก 50 ข้อนั่นเอง)

5. ทดสอบความสามารถในการขับรถ

การสอบขับรถก็มีความแตกต่างตามชนิดอายุใบอนุญาตรถจักรยานยนต์นะครับ ซึ่งในบางครั้งคุณอาจพบปัญหาห้องอบรมเต็ม ควรโทรแจ้งเพื่อจองคิวทิ้งไว้ก่อน  เพื่อประหยัดเวลาของคุณในการเตรียมเรื่องต่างๆ เมื่อคุณได้รับใบรับรองการอบรมมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คุณก็พร้อมก่อนเริ่มทำการทดสอบแล้วล่ะครับ สำหรับการทดสอบความสามารถคร่าว ๆ 

• ขับรถจักรยานยนต์ตามเครื่องหมายจราจร ง่าย ๆ ไม่ยาก
• ทรงตัวบนทางแคบ
• ขับรถจักรยานยนต์ผ่านโค้งแคบตัว Z ใกล้เคียงกับโค้งหักศอก
• ขับรถจักรยานยนต์ผ่านโค้ง S เราจะได้สอบการโค้งซ้ายขวา
• ขับซิกแซกผ่านสิ่งกีดขวาง หลบหลีกให้ดีนะครับ

สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2567 เพียงเท่านี้จะช่วยให้สอบใบขับขี่ง่ายขึ้น สามารถยื่นใบคำร้องได้ที่ตึกสำนักงาน แล้วอย่าลืมซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ เป็นเพื่อนคู่ใจตลอดทางด้วย หรือเข้ามาอ่านข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ได้เลย

พิเศษ! ซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ ลดสูงสุด 10% เพียงกรอกโค้ด BBI ที่ bolttech.co.th คุ้มครองอุบัติเหตุจากรถ ครอบคลุมรถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม และอื่นๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที ราคาถูก ซื้อง่ายผ่านทางออนไลน์ เข้ามาเลือกแผนได้เลย!

The post วิธีสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ผ่านฉลุย! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.