โทษปรับเมาแล้วขับ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Wed, 26 Jun 2024 10:02:07 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico โทษปรับเมาแล้วขับ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 เช็ค! กฎหมายเมาแล้วขับ 2567 มีบทลงโทษอะไรบ้าง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%81%e0%b8%8e%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258e%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a Wed, 27 Mar 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=33647 การเมาแล้วขับถือเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ด้วยเหตุนี้ กฎหมายจราจรจึงมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำผิดฐานเมาแล้วขับ เพื่อช่วยกันป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จะมีโทษปรับ และบทลงโทษอย่างไรบ้าง มาอ่านกัน อัปเดตข้อมูลกฎหมายเมาแล้วขับ 2567 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพ

The post เช็ค! กฎหมายเมาแล้วขับ 2567 มีบทลงโทษอะไรบ้าง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การเมาแล้วขับถือเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ด้วยเหตุนี้ กฎหมายจราจรจึงมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำผิดฐานเมาแล้วขับ เพื่อช่วยกันป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จะมีโทษปรับ และบทลงโทษอย่างไรบ้าง มาอ่านกัน

อัปเดตข้อมูลกฎหมายเมาแล้วขับ 2567

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2566 เป็นต้นไป โดยมีการแก้ไขบทลงโทษเมาแล้วขับเพิ่มเติมดังนี้

  • ผู้ขับขี่ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว (ใบอนุญาตแบบ 2 ปี) กำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลดลงจากเดิม 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อมิลลิลิตร เป็น 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อมิลลิลิตร
  • เพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำความผิดฐานเมาแล้วขับซ้ำภายในระยะเวลา 2 ปี โดยกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับตั้งแต่ 50,000 - 100,000 บาท และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
  • ดังนั้น บทลงโทษเมาแล้วขับในปัจจุบันมีดังนี้

เมาแล้วขับโทษหนักหรือไม่ ต้องจ่ายค่าปรับเท่าไร

แบ่งการให้โทษออกเป็น 3 กรณีด้วยกัน ดังนี้

  • กรณีเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ จะถูกระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • กรณีเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จะถูกระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 - 6 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000 - 200,000 บาท และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • กรณีเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะถูกระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 - 20 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 - 400,000 บาท และถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

นอกจากนี้ ผู้ที่กระทำความผิดฐานเมาแล้วขับยังอาจต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ด้วย ในกรณีที่ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อมิลลิลิตร จะถูกถือว่ามีความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์) โดยผิดกฎหมาย และอาจต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพิ่มเติมด้วย

แนวทางป้องกันเมาแล้วขับ

บทลงโทษของผู้ที่เมาแล้วขับจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่การป้องกันเมาแล้วขับอย่างจริงจังควรเริ่มต้นจากตัวเราเอง ดังนี้

  1. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีสติ ไม่ควรดื่มจนเมา
  2. หากจำเป็นต้องขับรถกลับบ้าน ควรหาคนมารับ หรือใช้บริการรถสาธารณะ
  3. หากจำเป็นต้องขับรถเอง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  4. การเมาแล้วขับเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ช่วยกันป้องกันเมาแล้วขับ รักษาความปลอดภัยบนท้องถนน และลดอุบัติเหตุกันเถอะ

เมื่อรู้ถึงโทษที่จะตามมาแบบนี้แล้ว อย่าลืมใส่ใจการขับขี่ เมาไม่ขับ และปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อีกทั้งเพิ่มความคุ้มครองให้รถคุณ ด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ bolttech.co.th คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ทั้งรถสูญหายจากการโจรกรรม ความเสียหายของรถจากภัยน้ำท่วม และภัยไฟไหม้ ที่สำคัญยังช่วยคุ้มครองทรัพย์สินเสียหายของคู่กรณีอีกด้วย เช็กเบี้ยประกันที่นี่ 

The post เช็ค! กฎหมายเมาแล้วขับ 2567 มีบทลงโทษอะไรบ้าง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เจอคู่กรณีเมาแล้วขับ งานนี้ประกันจะช่วยเหลือยังไง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2593%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a Tue, 03 Sep 2019 19:38:33 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=7299 “เมาไม่ขับ ชีวิตไม่ดับสูญ” ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า การเมาแล้วขับเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมายาวนานโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ก่อนอื่น Frank ต้องย้ำว่า การเมาแล้วขับเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ เพราะทำให้ตัวเราเสี่ยงกับอันตราย และยังก่อให้เกิดการสูญเสียมากมาย ล่าสุด กฎหมายระบุว่า “หากเมาแล้วขับ มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิ

The post เจอคู่กรณีเมาแล้วขับ งานนี้ประกันจะช่วยเหลือยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
“เมาไม่ขับ ชีวิตไม่ดับสูญ” ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า การเมาแล้วขับเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมายาวนานโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ก่อนอื่น Frank ต้องย้ำว่า การเมาแล้วขับเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ เพราะทำให้ตัวเราเสี่ยงกับอันตราย และยังก่อให้เกิดการสูญเสียมากมาย ล่าสุด กฎหมายระบุว่า

“หากเมาแล้วขับ มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์จะถูกปรับสูงสุด 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกับยึดรถ 7 วัน”

ย้ำชัดเลยครับว่า หากคุณเมาแล้วขับรถชนผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต ถูกจับปรับและติดคุกสถานเดียว และจะถูกเพิกถอนใบขับขี่ทันที 
กล่าวคือ หากคนขับมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงลิ่วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ประกันรถยนต์ก็ไม่คุ้มครองต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมายครับ !! แบบไม่มีใครช่วยเหลือได้ 

แล้วถ้าถูกคนเมาขับรถมาชนเรา ? ประกันจะคุ้มครองไหม ?

คู่กรณีเมาแล้วขับ
ดั่งคำว่า “เราไม่ชนเขา เขาก็มาชนเรา” หากคุณไม่เมา ไม่ง่วง แต่ดันถูกคนเมาขับมาชนเต็ม ๆ จนรถเสียหาย หรือทำให้เราเจ็บหนัก คงต้องแบ่งกรณีศึกษาตามสถานการณ์ครับ Frank ผู้รู้เฟื้องเรื่องประกันไม่พลาดจะสรุปให้ฟัง

สถานการณ์ที่ 1 : คู่กรณีเมาขับรถมาชนจนยานพาหนะของเราเสียหาย และบาดเจ็บหนัก

เล่าตัวอย่างนะครับ นาย A เขากำลังขับรถยนต์ไปรับแฟนสาวเพื่อพาไปกินข้าวมื้อดึก จู่ ๆ นาย A โดนนาย B เมาแล้วขับเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนอย่างจัง จนกระทั่งนาย A เจ็บหนักและรถยนต์เกิดเสียหายไม่สามารถขับเคลื่อนได้  

  • นาย A ไม่เมา ขับรถมาดี ๆ
  • นาย B เมาแล้วขับแหกโค้ง

ประกันจะดูแลอย่างไร ? Frank วิเคราะห์ตามนี้

  • งานนี้นาย B เมาแล้วขับ นี่รับผิดเต็ม ๆ ครับ คู่กรณีคนเมาแล้วขับมาชนแถมยังตัดหน้าอีกด้วย หมายความว่า ถ้าตรวจสอบผลการเป่าแอลกฮอลก์ พบว่า นาย B เมาจริง ผิดกฎหมายจริง ไม่ว่าเขาจะถือประกันชั้นไหนอยู่ ตัวนาย B เองก็ไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ ทั้งนั้น ซึ่งเขาจะต้องจ่ายเอง รับผิดชอบเอง พร้อมกับถูกจับ ปรับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
  • หากนาย B คนเมาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แม้เขาจะเป็นฝ่ายผิดตามกฎหมาย หากมีพ.ร.บ.จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้ครับ  
  • ขณะที่นาย A เขาจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ทันที พร้อมกับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ที่จะช่วยดูแลรถยนต์เสียหายให้เช่นกันครับ สามารถเบิกเคลมกับบริษัทฯ ประกันที่คุณซื้อไว้

เว้นเสียแต่ว่า ถ้านาย A ไม่ได้ซื้อประกันรถยนต์ติดรถไว้ อาจจะต้องทำเอกสาร ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีเมาแล้วขับ ซึ่งประกันรถยนต์ของนาย B เพื่อใช้ซ่อมรถล่ะครับ 
และถ้านาย A และนาย B ไม่มีประกันรถยนต์ทั้งคู่ ตรงนี้ฝ่ายเสียหายก็ต้องเรียกร้องค่าซ่อมกันเองล่ะครับ อาจจะยุ่งยากนิดนึง แนะนำขอเบอร์โทร ชื่อนามสกุล และข้อมูลอื่น ๆ ของคู่กรณีไว้เพื่อติดต่อ

สถานการณ์ที่ 2 : เดินข้ามถนน แต่เจอคู่กรณีเมาแล้วขับชนจนบาดเจ็บ

คู่กรณีเมาแล้วขับ
นาย C เพิ่งกินชาบูมื้อค่ำมาเสร็จ เขาเดินข้ามถนนกลับบ้าน แต่โดนนาย B คู่กรณีเมาแล้วขับพุ่งมาชนเข้าเต็ม ๆ จนลอยละลิ่ว บาดเจ็บหนักจนต้องหามส่งรักษาตัวทันทีในโรงพยาบาล   

แน่นอนว่า นาย B เมาแล้วขับเขาทำผิดกฎหมาย เขามีทั้งพ.ร.บ. รถยนต์และประกันรถยนต์ กรณีนี้ต้องวิเคราะห์แยกให้เข้าใจ ดังนี้ 

  • ประกันรถยนต์ของนาย B จะต้องดูแลค่ารักษาส่วนต่างจากพ.ร.บ. ให้กับนาย C ผู้บาดเจ็บ 
  • ถ้านาย C เขามีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ก็จะได้รับการดูแลจากประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติมตามกรมธรรม์ที่เลือก เมื่อต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (IPD) ก็จะได้รับค่าชดเชยพักรักษาตัว จะรักษาตัวแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ก็เคลมค่ารักษาพยาบาลได้ พร้อมกับค่าชดเชยอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุที่เลือกไว้ อ่านข้อมูลการรักษาพยาบาลแบบ IPD และ OPD สำหรับประกันคืออะไรเพิ่มเติมได้ครับแฟรงค์เขียนไว้แล้ว
  • ส่วนรถยนต์ที่เสียหายของนาย B คู่กรณีเมาแล้วขับ ประกันรถยนต์ไม่รับผิดชอบนะครับ ต้องจ่ายค่าซ่อมเอง

สถานการณ์ที่ 3 : โดนคู่กรณีเมาแล้วขับชนบ้านเรือนพังเสียหาย

คู่กรณีเมาแล้วขับ
เคยบอกเล่าหัวข้อการขับรถชนร้านค้าหรือบ้านเรือน เคลมประกันรถได้หรือไม่ ?คงต้องบอกว่า “เคลมได้ ยกเว้นกรณีคุณเมาแล้วขับล่ะครับ” มายกตัวอย่างเล่ากันเล่น ๆ ให้เข้าใจเหตุการณ์ 
บ้านนาย A อยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ครอบครัวของเขากำลังนอนดูทีวี ชมละครหลังข่าว อยู่เพลิน ๆ แบบออกรส ! แต่กลับโดนนาย B เมาแล้วขับรถมาพุ่งชนรั้วบ้านและลากไกลมาชนถึงตัวบ้านทำให้ส่วนประตูเสียหายหนัก แต่โชคดีไม่มีใครในบ้านบาดเจ็บ 

วิเคราะห์สถานการณ์กันต่อครับว่าแบบนี้ประกันจะรับผิดชอบใครก่อน ?

  • นาย B เมาอีกแล้ว หากเป่าแอลกฮอลก์พบว่าเกินที่กฎหมายกำหนด เขาผิดแน่นอนครับ ตรงนี้ต้องรับโทษตามกฎหมาย และต้องจ่ายค่าซ่อมรถของตัวเองเหมือนกรณีด้านบนเป๊ะ ๆ ประกันรถยนต์ไม่รับผิดชอบ 
  • ส่วนบ้านเรือนของนาย A ที่เสียหายใครจะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมละเนี้ยะ ?! แน่นอนว่าสามารถเบิกค่าซ่อมกับประกันรถยนต์ของนาย B และคงต้องแยกเป็น 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1 มีประกันบ้าน : ถ้าซื้อประกันบ้านเอาไว้ก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ ส่วนค่าซ่อม การดูแลอื่น ๆ ประกันจะช่วยดูแลทั้งหมด เพียงคุณถ่ายภาพเหตุการณ์ เก็บข้อมูลแจ้งเคลมประกันก็จะได้รับค่าซ่อมแซมรั้วบ้าน และตัวบ้านทันที ! ไม่ต้องรอ ไม่ต้องควักกระเป๋าสักบาท 
และโบรกเกอร์แฟรงค์ หรือ frank.co.th เรามีประกันบ้านและทรัพย์สิน คุณสามารถเช็กเบี้ย เลือกวงเงินคุ้มครองได้เอง หรือคลิกอ่านความคุ้มครองเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจได้คร้าบ 
กรณีที่ 2 ไม่มีประกันบ้าน : คงต้องรออย่างเดียวเลยครับ เราต้องแจ้งฟ้องร้องค่าเสียหายกับประกันรถยนต์ของคู่กรณีที่เมาแล้วขับ จึงต้องรอตามกระบวนการเคลมตามขั้นตอน อาจจะต้องเสียเวลาในการประสานงานอยู่บ้างครับ
โดยสถานการณ์การเจอคู่กรณีเมาแล้วขับทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงตัวอย่าง คร่าว ๆ ที่อธิบายให้คุณเข้าใจว่า ประกันจะดูแลเรายังไง ? หากโดนคนเมาขับมาชนจนบาดเจ็บ รถเสียหาย หรือบ้านพัง เพื่อให้คุณเข้าใจแบบคร่าว ๆ เป็นเกร็ดความรู้รอบตัวเกี่ยวกับประกันภัย 
สุดท้ายนี้ เมาไม่ขับจะดีกว่านะครับ !!! ด้วยรักและห่วงใยจากทีมงานแฟรงค์ 🙂
Content by Butter Cutter
ซื้อประกันออนไลน์

The post เจอคู่กรณีเมาแล้วขับ งานนี้ประกันจะช่วยเหลือยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
แอลกอฮอล์ในเลือด 50 mg% กฎหมายใหม่มีผลแล้ว https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%81%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94-50-mg-%e0%b8%81%e0%b8%8e%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594-50-mg-%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258e%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7 Thu, 01 Jun 2017 10:56:39 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=2673 อ่านเร็วๆ 1 มิ.ย. 2560 มีผลบังคับใช้ พรบ.จราจรทางบกฉบับใหม่และประกาศจาก คปภ. เรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดปรับเป็น 50 mg% เป็นต้นไปแทนฉบับเดิม รายละเอียดของกฎหมายคือ ห้ามผู้ขับขี่รถทุกประเภทยกเว้น รถรางกับรถไฟ เมาสุราในขณะขับรถ และความหมายของเมาสุราคือ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้

The post แอลกอฮอล์ในเลือด 50 mg% กฎหมายใหม่มีผลแล้ว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

  • 1 มิ.ย. 2560 มีผลบังคับใช้ พรบ.จราจรทางบกฉบับใหม่และประกาศจาก คปภ. เรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดปรับเป็น 50 mg% เป็นต้นไปแทนฉบับเดิม
  • รายละเอียดของกฎหมายคือ ห้ามผู้ขับขี่รถทุกประเภทยกเว้น รถรางกับรถไฟ เมาสุราในขณะขับรถ และความหมายของเมาสุราคือ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณตำรวจสงสัยว่าเมาสุราสามารถสั่งให้หยุดรถและสั่งให้เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์เพื่อตรวจได้
  • ปรับบทลงโทษของเมาแล้วขับให้หนักขึ้นเป็น จำคุก 1 ปี, ปรับ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบขับขี่ และยึดรถไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน
  • เปรีบเทียบปริมาณเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วไม่ให้มีแอลกอฮอล์เกิน 50 mg% โดยทันที คือ เบียร์ 330 ml 1 กระป๋อง = ไวน์ 1 แก้ว 100 ml = เหล้า 3 ฝา 30 ml
  • ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองตามกฎหมายกำหนด คือ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ 50 mg% ส่วนความคุ้มครองผู้ประสบเหตุคงไว้ตามเดิม

เริ่มฤดูกาลใหม่พร้อมกับกฎหมายจราจรใหม่เพื่อช่วยกันลดการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ที่เป็นสาเหตุอันดับที่ 1 ของการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ในบ้านเรา และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2560 นี้แล้วนะครับโดยเฉพาะเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ปรับลงเหลือ 50 mg% แล้ว จึงอยากให้เพื่อนๆ รู้ก่อนว่ากฎหมายใหม่ที่ว่านี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง? และถ้าเรามีความจำเป็นต้องดื่มก่อนขับรถจริง ปริมาณการดื่มเท่าไหร่ที่เป็นปริมาณที่เหมาะสม หรือการดื่มมาตราฐานนั้นอยู่ที่ปริมาณเท่าไหร่? ใช้เวลาขับออกนานเท่าไหร่กัน?

The-new-traffic-law-of-50-mg%-alcohol-in-blood

พรบ.จราจรทางบกฉบับใหม่และโทษปรับ

มีการปรับลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลงเหลือ 50 mg% ซึ่งก็คือ “ความเมา” ตามคำจำกัดความของกฎหมายที่ว่าและมีความผิดตามกฎหมายจราจรใหม่ คือ

1.มีโทษจำคุก 1 ปี
2.ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท
3.หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.และศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย
5.และสามารถยึดรถไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน

แต่ถ้าขับรถด้วยความเมาทำให้เกิดเหตุจนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ

1.มีโทษจำคุก 1-5 ปี
2.ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท
3.หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.และศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปีหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย

และถ้าขับรถด้วยความเมาจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายอย่างสาหัส

1.มีโทษจำคุก 2-6 ปี
2.ปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท
3.หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.และศาลสามารถสั่งพักใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย

และถ้าป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยอาการมึนเมาในขณะขับขี่แล้วล่ะก็

1.มีโทษจำคุก 3-10 ปี
2.ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท
3.หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.และศาลสามารถสั่งเพิกถอนใบขับขี่เลย

แต่มีข้อยกเว้นสำหรับต่อไปนี้ ในกรณีที่ตรวจแอลกอฮอล์พบเกิน 20 mg% ก็ถือว่าเป็นผิดเมาขณะขับรถด้วยเช่นกันครับ

-ผู้ขับขี่ซึ่งมีอายุต่ํากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
-ผู้ขับขี่ซึ่งได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
-ผู้ขับขี่ซึ่งมีใบอนุญาตขับขี่สําหรับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้
-ผู้ขับขี่ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่  หรืออยู่ระหว่างถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เราดื่มได้ถ้าขับรถ

ก่อนอื่นต้องรู้จักคำว่า “1 ดื่มมาตราฐาน” กันก่อนว่ามันคืออะไร? เจ้าหน่วยที่ว่านี้หมายถึงปริมาณวัดหน่วยการดื่มที่เราใช้ในการเปรียบเทียบในเครื่องดื่มแต่ละชนิดที่มีความแรงของแอลกอฮอล์ที่ต่างกันและในปริมาณที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันเราดื่มมากเกินไปจนทำให้ปริมาณแอลกอฮอล์มีมากเกินไปจนถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อร่ายกายและการตัดสินใจในขณะขับขี่รถ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเกิดขึ้นนั่นเองครับ

1 ดื่มมาตราฐาน เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้กันมานานอย่างแพร่หลายครับ เทียบเท่ากับเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 10 กรัมหรือประมาณ 12.5 มิลลิลิตร และร่างกายสามารถขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้ใน 1 ชั่วโมง (สำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง) และปริมาณที่เราดื่มได้ตามเกณฑ์ คือ

วิสกี้ 1 แก้ว ขนาด 30 ml. (3 ฝา) ดีกรีแอลกอฮอล์ 40%  = ไวน์ 1 แก้ว ขนาด 100 ml. ดีกรีแอลกอฮอล์ 12% = เบียร์ 1 แก้ว 330 ml. ดีกรีแอลกอฮอล์ 5%

อีกเรื่องที่อยากให้เพื่อนๆ ระวังไว้หน่อย คือ สารพัดบทความที่แชร์เรื่องเครื่องดื่มที่ช่วยให้สร่างเมานั้นไม่เป็นความจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เลยครับ การสร่างเมานั้นจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาจากร่างการด้วยตับของเราตามเวลาที่ทิ้งช่วงไว้เท่านั้น

ส่วนการดื่มนมเปรี้ยวไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับการที่ร่างกายขับแอลกอฮอล์ การดื่มกาแฟหรือแม้แต่การอาบน้ำเย็นจัดนั้นช่วยแค่ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวแต่แอลกอฮอล์ยังอยู่ปริมาณเท่าเดิมนะฮะ เจอด่านเป่าก็เรียบร้อยเหมือนเดิม

แต่เราป้องกันไม่ให้เมาเร็วหรือร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์อย่างรวดเร็วได้ครับ โดยการ

- กินอาหารมื้อใหญ่ก่อนดื่ม โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง
- เลือกดื่มเครื่องดื่มชนิดเดียว หลายขนานเกินไป เมาเละแน่ครับ
- ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นหลังดื่มเสร็จ เพราะร่างกายเราจะขาดน้ำอย่างรุนแรง อาจเกิดอาการผิวแห้งตามมาโดยเฉพาะถ้าเราดื่มกาแฟไปด้วย ดื่มน้ำเพิ่ม 3 เท่าเลยฮะ (ป้องกันผิวเหี่ยวก่อนวัยด้วยนะครับ งานนี้ดื่มคอลลาเจนก็ไม่ช่วยฮะ)

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์

เป็นไปตามกฎหมายจราจรใหม่ที่ประกาศเลยครับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2560 นี้เลยโดยเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ ถ้าตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดมากกว่า 50 mg% จะไม่ได้รับความคุ้มครองนะครับถ้าคุณจะดื่มก็อย่าขับรถเองเลยฮะ นอกจากจะได้รับบทลงโทษตามกฎหมายแล้วโดนยึดรถไปอีก 7 วัน นั่งแท๊กซี่กลับหรือให้เพื่อนที่ไม่เมาขับมาส่งดีกว่าครับ

ส่วนคนที่ประสบเหตุซึ่งก็คือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ครับยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจตามความคุ้มครองปกติ

ร่วมรณรงค์ เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่ ดีกว่าเยอะครับ

Credit: http://www.oic.or.th,  http://sciblogs.co.nz, http://witsava.com, http://www.1000tipsit.com, http://www.whiskygroup.net

ประกันรถยนต์

The post แอลกอฮอล์ในเลือด 50 mg% กฎหมายใหม่มีผลแล้ว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>