ประกันสัตว์เลี้ยง Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Thu, 15 Jun 2023 05:15:10 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ประกันสัตว์เลี้ยง Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 วิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน เที่ยวไกลถึงเมืองนอก https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a7%e0%b9%8c%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599 Wed, 09 Oct 2019 08:50:31 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8199 สำหรับคนรักสัตว์ที่อยากจะมีโมเม้นท์ดีๆ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ แต่แอบกลัวว่า! ทางสายการบินจะให้พาน้องแมว น้องสุนัขขึ้นเครื่องได้หรือไหม? วันนี้น้องกวิ้นจะมาให้คำตอบทุกคน พร้อมกับแนะนำ 3 วิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องมาฝากกันด้วย  เพียงแค่นี้เราก็พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้อย่างชิล ๆ เลยล่ะ แล้วเราจะ

The post วิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน เที่ยวไกลถึงเมืองนอก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับคนรักสัตว์ที่อยากจะมีโมเม้นท์ดีๆ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ แต่แอบกลัวว่า! ทางสายการบินจะให้พาน้องแมว น้องสุนัขขึ้นเครื่องได้หรือไหม? วันนี้น้องกวิ้นจะมาให้คำตอบทุกคน พร้อมกับแนะนำ 3 วิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องมาฝากกันด้วย  เพียงแค่นี้เราก็พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้อย่างชิล ๆ เลยล่ะ แล้วเราจะต้องทำยังไงบ้างนะ ลองมาดูกันเลย

เราสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้หรือไม่?

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
คำตอบก็คือ “เราสามารถพาสุนัขหรือแมวขึ้นเครื่องบินได้ครับ” แต่ว่าคุณจะต้องศึกษาข้อมูลทางสายการบินนั้นให้ดีก่อน ว่ามีเงื่อนไขและข้อตกลงพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องอย่างไร เนื่องจากบางสายการบินก็จะให้คุณซื้อตั๋วแยกกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ หรือบางสายการบินก็ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วแยก จึงต้องทำตามระเบียบของสายการบินอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางสัตว์เลี้ยงของคุณ รวมถึงต้องทำตามกฎบังคับการขนส่งสัตว์เลี้ยงไปยังประเทศจุดหมายการเดินทางของคุณเช่นกัน

ทำไงดีอยากพาน้องหมาน้องแมวขึ้นเครื่อง?

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
หากคุณอยากพาสุนัขหรือแมวไปเที่ยวเมืองนอก ไม่ว่าจะเป็นประเทศในโซนเอเชีย หรือประเทศในโซนยุโรปที่อยากไปฮันนีมูนกับสัตว์เลี้ยง ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพนกวิน Frank พอมีวิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องมาฝากกันด้วยนะ เพียงแค่ทำตาม 3 วิธี ดังนี้

1. นำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ Check Baggage (AVIH)

ถือเป็นวิธีที่นิยมมากสุดของสายการบิน โดยเราต้องนำสัตว์เลี้ยงโหลดลงใต้ท้องเครื่อง พูดง่าย ๆ ก็คือ เอาเก็บไว้ที่สัมภาระของเราด้านล่างนั่นเองครับ  แต่ไม่ต้องห่วงไปนะว่าสุนัขหรือแมวจะอึดอัด เพราะทางสายการบินจะเตรียมพื้นที่พิเศษที่มีความปลอดภัย และมีระบบควบคุมอุณหภูมิเหมาะสม เราจึงสามารถพาสัตว์เลี้ยงไปเช็คอินที่ Passenger Terminals ได้อย่างสบายใจเลยครับ
** แต่ทั้งนี้สัตว์เลี้ยงของคุณจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม (รวมกับน้ำหนักที่ใส่ของสัตว์เลี้ยง) หรือขนาดไม่เกินมาตรฐานที่ทางสายการบินกำหนด ส่วนอัตราค่าบริการนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละสายการบินนะจ๊ะ

2. นำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบบรรจุภัณฑ์ (ULP)

ในกรณีที่เราต้องการเอาสุนัขหรือเอาแมวขึ้นเครื่อง โดยที่เราไม่ได้ไปด้วย เช่น การพาสัตว์เลี้ยงไปอยู่กับผู้รับตามที่อยู่ปลายทาง หรือการซื้อขายสัตว์เลี้ยงระหว่างประเทศ โดยเราจะต้องเอาสุนัขหรือเอาแมวขึ้นเครื่องไปยังอาคารคลังสินค้า แล้วเเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่สายการบินทราบก่อนล่วงหน้า  เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสม 
รู้หรือไม่ว่า? อัตราค่าใช้จ่ายในการเดินทางแบบบรรจุภัณฑ์ จะถูกกว่าแบบ Check Baggage หรือ AVIH ครับ

3. นำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ PETC (PET in Cabin)

สำหรับวิธีนี้เจ้าของสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินได้ แบบอยู่ในห้องผู้โดยสารกับเราเลย พูดให้เข้าใจง่าย ก็คือ เราจองที่นั่งตรงไหน ก็เอาสุนัขขึ้นเครื่องตรงนั้นครับ แต่กรณีนี้จะต้องใช้เอกสารสำคัญและใบรับรองแพทย์สำหรับสัตว์เลี้ยง จาก The Animal Quarantien Office อย่างเช่น การตรวจสุขภาพเบื้องต้น และการฉีดวัคซีนก่อนนำขึ้นเครื่อง รวมถึงต้องงดให้อาหารสัตว์เลี้ยงก่อนเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสัตว์อาเจียนระหว่างการเดินทาง เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้สายการบินในประเทศที่พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ PETC ไม่มีแล้วครับ ส่วนสายการบินระหว่างประเทศนั้น แนะนำให้ลองติดต่อกับ Call Center ของแต่ละสายการบินก่อน เพราะจะมีบางสายการบินที่สามารถเอาแมวหรือเอาสุนัขขึ้นเครื่องได้ แบบว่านั่งอยู่ข้าง ๆ กับเราตลอดการเดินทาง
** มีเงื่อนไขว่าสัตว์เลี้ยงจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม (รวมกับน้ำหนักที่ใส่ของสัตว์เลี้ยง) และจะต้องติดต่อกับทางสายการบินก่อนล่วงหน้า เพราะทางเจ้าหน้าที่จะได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ แต่เงื่อนไขและข้อกำหนดอาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับทางสายการบินนั้น ๆ ด้วย

อยากพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง ต้องเตรียมอะไรบ้างนะ?

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
เอ้า!! มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เตรียมพาน้องสุนัข หรือน้องแมวขึ้นเครื่องนั่งข้างๆ ได้เลยนะครับ เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ให้กับทางเจ้าหน้าที่สายการบิน หลังจากนั้นก็เตรียมจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศกันเลย
1. สำเนาพาสปอร์ตเจ้าของสัตว์ เมื่อคุณต้องการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องไปด้วย ก็จะต้องมีสำเนาพาสปอร์ตของคุณ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ตามหาเจ้าของได้ง่าย
2. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้จัดส่ง สำหรับกรณีที่เราต้องการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องไปด้วย หรือจัดส่งขึ้นเครื่องแบบบรรจุภัณฑ์ (ULP) จะต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนของผู้จัดส่ง พร้อมแจ้งกับเจ้าหน้าที่สายการบินเรื่องขนาด น้ำหนักตัว กรง และอายุของสัตว์เลี้ยงก่อนล่วงหน้า
3. สำเนาใบรับรองแพทย์ของสัตว์เลี้ยง อันนี้สำคัญมากเลยนะครับ ถ้าเราต้องการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ PETC หรือแบบอยู่ในห้องผู้โดยสาร เราจะต้องพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทางไม่เกิน 2-3 วัน รวมถึงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรค แล้วอย่าลืมสังเกตอาการแมวป่วยก่อนขึ้นเครื่องด้วยนะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของคุณระหว่างเดินทาง 
4. สำเนาเอกสารสำคัญอื่น ๆ หากทางเจ้าหน้าที่สายการบินเรียกขอเอกสารเพิ่มเติม เราก็ต้องนำหลักฐานมาแสดงให้ด้วยครับ เช่น หมายเลขไมโครชิพ (กรณีเข้าสหภาพยุโรป) ใบเพ็ดดีกรี หลักฐานการขึ้นทะเบียนสัตว์ และผลตรวจเลือดพิษสุนัขบ้า สำหรับนก หรือสัตว์ชนิดอื่นก็ต้องมีเอกสารรับรองการส่งออกจากกรมป่าไม้ หรือยินยอมให้ส่งออกได้จากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยาน พร้อมนำเอกสาร CITES กำกับไว้
** โปรดนำเอกสารทั้งหมดนี้มาแสดง เพื่อทำการเช็กอินที่ท่าอากาศยานอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง แล้วอย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงระหว่างเดินทางกันด้วยนะ

การขนย้ายสัตว์เลี้ยงแบบ PETC ตามระเบียบของสายการบิน

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
เมื่อเราจะพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเอาแมวขึ้นเครื่อง หรือเอาสุนัขขึ้นเครื่อง ก็จะต้องทำตามข้อบังคับเช่นกัน โดยหลักการขนส่งย้ายสัตว์เลี้ยงตามกฎระเบียบของสายการบิน เราควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

  • เลือกขนาดกรงกว้างพอดีกับตัวสัตว์เลี้ยง สามารถยืน นั่งหรือนอน ระบายอากาศได้
  • เลือกขนาดกรงเดินทาง ไม่ควรเกิน 55x37x30 เซนติเมตร หรือ 22x15x12 นิ้ว
  • เลือกกรงที่มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหลุดระหว่างขึ้นเครื่อง หรือลงจอด เพราะถ้าน้องหมา น้องแมวหลุดออกมาถึงรันเวย์อาจจะเกิดเรื่องร้ายได้ เช่น ข่าวคราวเมื่อปี 2559 การบินไทยแจงกรณียิงสุนัขตายหลุดถึงรันเวย์อันตรายต่อการบิน ซึ่งเป็นข่าวสลดใจเมื่อน้องหมาหลุดออกจากกรงขังและวิ่งเข้าในเขตลานจอด เนื้อหาข่าวบนเว็บ pptvthd36.com ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ได้พยายามจับสุนัขดังกล่าวตามมาตรการของสนามบินถึง 3 ขั้นตอน เริ่มจากการพยายามจับสุนัขด้วยตาข่าย การพยายามยิงด้วยปืนลม แต่ไม่สำเร็จ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานอินชอนได้ตัดสินใจใช้กระสุนจริง” ดังนั้น เตรียมให้ดีอย่าให้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นเลย
  • เลือกประตูกรงที่แน่นหนา (ผ่านการรับรองมาตรฐาน) และสัตว์เลี้ยงไม่สามารถเปิดออกเองได้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายครับ Frank เป็นห่วง
  • สัตว์เลี้ยงของคุณต้องมีอายุ 10 สัปดาห์ขึ้นไป แต่บางประเทศก็กำหนดให้มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างประเทศ
  • สัตว์เลี้ยงของคุณจะต้องมีร่างกายสมบูรณ์ ปราศจากกลิ่น ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีบาดแผล และไม่อยู่ในสภาวะตั้งครรภ์ รวมถึงต้องมีใบรับรองแพทย์ และหลักฐานการฉีดวัคซีนโรคด้วย
  • น้ำหนักของสัตว์เลี้ยงและที่ใส่สัตว์เลี้ยง ต้องรวมกันไม่เกิน 10 กิโลกรัม ทั้งนี้จะต่างกันขึ้นอยู่กับข้อกำหนดแต่ละสายการบินด้วย
  • ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถนำกรงสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องไปยังห้องผู้โดยสารได้เพียงหนึ่งกรง และอนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในได้ไม่เกิน 1 ตัว
  • ผู้โดยสารที่เดินทางร่วมกับสัตว์เลี้ยง จะกำหนดให้นั่งในเก้าอี้ด้านติดหน้าต่าง ห้ามนั่งในส่วนที่เป็นทางออกฉุกเฉิน
  • ต้องวางกรงสัตว์เลี้ยงไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของคุณ (ไม่รวมแถวตรงทางออก) ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงออกจากกระเป๋าสำหรับเดินทางหรือกรงระหว่างเที่ยวบิน 
  • หากต้องการนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจเช็กกระเป๋าหรือกรง จะต้องไปตรวจในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ตรวจในพื้นที่ผู้โดยสารทั่วไป
  • สำหรับกระเป๋าเดินทางหรือที่ใส่สัตว์เลี้ยง ถือเป็นสัมภาระเพิ่มเติม อาจจะมีค่าธรรมเนียม
  • ทางสายการบินไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงบางประเภท หรือสุนัขบางสายพันธุ์ขึ้นเครื่องไปกับผู้โดยสาร หากรบกวนหรือทำให้ผู้โดยสารท่านอื่นเกิดอันตราย
  • อย่าลืมระบุชื่อเจ้าของสัตว์ ชื่อสัตว์เลี้ยง และเบอร์ติดต่อไว้ข้างนอกกรงด้วย หรือจะให้เซฟสุด ๆ ควรจะติดชื่อไลน์ของเจ้าของไว้ที่ป้ายห้อยคอทำเป็น QR Code ก็ได้ครับ ปลอดภัยไว้ก่อน

สัตว์เลี้ยงประเภทไหนที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้บ้าง?

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้ แต่ทางสายการบินก็จะมีข้อกำหนดประเภทของสัตว์เลี้ยง และสายพันธุ์บางชนิดด้วยนะครับ โดยสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ที่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องไปยังห้องผู้โดยสาร ก็คือ สุนัข แมว กระต่าย และนกขนาดเล็ก ห้ามนำสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์สงวน หรือสัตว์มีพิษเข้าห้องผู้โดยสาร เพื่อรบกวนหรือทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นขณะร่วมเดินทาง  รวมถึงไม่ให้นำสุนัขบางสายพันธุ์ที่ดุร้ายไปยังห้องผู้โดยสารด้วย เช่น อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย, บ็อกเซอร์, สุนัขพันธุ์เชาเชา และฟิล่า บราซิเลียโร เป็นต้น 
*** ข้อควรระวังเกี่ยวกับสัตว์จมูกสั้น อย่างเช่น สุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง หรือแมวพันธุ์เปอร์เซีย อาจจะส่งผลให้หายใจลำบากขณะอยู่บนเครื่องบิน แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนออกเดินทางครับ

สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง
หากใครคิดจะพาสัตว์เลี้ยงสุดที่รักเที่ยวต่างประเทศ ก็สามารถศึกษาวิธีข้างต้นที่แนะนำกันได้เลย เพียงเท่านี้การเดินทางของคุณและสัตว์เลี้ยงก็จะราบรื่นมากขึ้น หรือถ้าคุณอยากเพิ่มความอุ่นใจสักหน่อย ซื้อประกันเดินทางกับเราให้ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของคุณเมื่อยามเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บระหว่างเดินทางได้เลยนะครับ เรายังมีแผนความคุ้มครองให้คุณเลือกอีกเพียบ !!

ถ้าคุณอยากพาน้องสุนัข หรือน้องแมวไปตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทาง ก็สามารถซื้อประกันสัตว์เลี้ยงควบคู่กันได้นะครับ เพื่อดูแลการตรวจสุขภาพ และค่ารักษาพยาบาลให้กับเพื่อนซี้ของคุณ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-106-5800 เรายินดีให้บริการ และช่วยเหลือคุณเสมอ มั่นใจได้เลยว่าคุณและสัตว์เลี้ยงสุดโปรดของคุณ จะต้องสนุกกับการเดินทางอย่างแน่นอน

ประกันการเดินทาง

The post วิธีพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน เที่ยวไกลถึงเมืองนอก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
7 อาการแมวป่วย สังเกตได้ไม่ยาก https://www.bolttech.co.th/blog/7-%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=7-%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2 Wed, 25 Sep 2019 04:45:16 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8113 หลังจากที่เล่าเรื่องราว เหตุผลที่ทุกครอบครัวต้องเลี้ยงแมว กันไปบ้างแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่คนเลี้ยงแมวต้องศึกษานั่นก็คือ อาการแมวป่วย ด้วยความที่น้องแมวอาจจะไม่ได้แสดงอาการออกมาชัดเจนเหมือนกับสุนัข แต่เรายังพอมีวิธีสังเกตอาการแมวป่วยอยู่นะ แม้จะเป็นอาการเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไปเชียวล่ะ หากแมวมีพฤติกรรมแบ

The post 7 อาการแมวป่วย สังเกตได้ไม่ยาก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลังจากที่เล่าเรื่องราว เหตุผลที่ทุกครอบครัวต้องเลี้ยงแมว กันไปบ้างแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่คนเลี้ยงแมวต้องศึกษานั่นก็คือ อาการแมวป่วย ด้วยความที่น้องแมวอาจจะไม่ได้แสดงอาการออกมาชัดเจนเหมือนกับสุนัข แต่เรายังพอมีวิธีสังเกตอาการแมวป่วยอยู่นะ แม้จะเป็นอาการเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไปเชียวล่ะ หากแมวมีพฤติกรรมแบบนี้ อาจส่งสัญญาณอาการแมวป่วยอยู่ครับ และเราก็ต้องรีบพาแมวไปพบสัตว์เเพทย์โดยด่วน !!  หากปล่อยทิ้งไว้ มิเช่นนั้นอาจจะเป็นอันตรายร้ายแรงกับแมวของคุณได้

วันนี้เพนกวิน bolttech จะมาบอก วิธีสังเกตอาการแมวป่วย แมวไม่สบาย มาฝากเพื่อนๆ ทุกคน รับรองบทความนี้ มีประโยชน์ต่อทาสแมวแน่นอน !!

  • แมวมีกลิ่นปาก
  • แมวขับถ่ายผิดปกติ
  • แมวมีน้ำมูก และขี้ตา
  • แมวมีอาการซึมเศร้า
  • แมวหายใจเร็ว
  • แมวอ้วก
  • แมวไม่ยอมกินข้าว

1. แมวมีกลิ่นปาก

อาการแมวป่วย
อย่างเเรกถ้าเราสังเกตได้ว่า แมวมีกลิ่นปากโดยที่ไม่ได้เกิดจากอาหาร แสดงว่าแมวของคุณอาจกำลังป่วยอยู่  หากมีปัญหาเรื่องของโรคไตแมวจะมีกลิ่นปากคล้ายกับกลิ่นปัสสาวะ แต่ในกรณีที่พบว่าเหงือกของแมวเปลี่ยนสีไม่อมชมพู และมีน้ำลายยืดมากกว่าปกติ มักจะเกี่ยวกับโรคฟันหรือโรคเหงือกอักเสบ เพราะเกิดจากการสะสมของหินปูน หรือเเบคทีเรียที่ฝังตามช่องปากนั่นเอง

รวมถึงกรณีที่แมวมีกลิ่นปากคล้ายกับแอปเปิ้ลสุก อาจแสดงว่าแมวป่วยเป็นโรคเบาหวาน แนะนำให้ลองทำความสะอาดภายในช่องปากแมวก่อน พยายามให้กินน้ำเยอะ ๆ หรือใช้ไม้มาทาทาบิให้น้องแมวกัดเล่นก็ช่วยเรื่องดับกลิ่นปาก และช่วยลดความก้าวร้าวของน้องแมวได้เหมือนกันนะ แต่ถ้าพบว่าแมวยังมีกลิ่นปากอยู่ ก็ให้รีบนำไปพบกับสัตว์เเพทย์โดยด่วน เพื่อจะได้รักษาอาการแมวป่วยต่อไป

2. แมวขับถ่ายผิดปกติ

อาการแมวป่วย
ต่อมาหากคุณสังเกตเห็นว่า น้องแมวขับถ่ายผิดปกติ อย่างเช่นท้องเสีย ปัสสาวะเยอะ หรือไม่ขับถ่าย ไม่ปัสสาวะเลย ก็บ่งบอกได้ว่าแมวกำลังมีปัญหาเรื่องของระบบขับถ่าย  ให้เรารอดูอาการภายใน 24 ชั่วโมง เพราะบางทีเเมวอาจจะกินอะไรที่ผิดสำแดง เช่น เล่นซนกินสายไฟ หรือกินเศษผ้า ส่งผลทำให้ขับถ่ายผิดปกติ แต่ถ้ารอแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น และมีอุจจาระเป็นสีดำหรือสีแดงออกมาด้วย ก็ควรรีบพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด เพื่อเช็กอาการแมวป่วยเบื้องต้นจะดีกว่า

** ให้ลองสังเกตกระบะทรายแมวอยู่บ่อย ๆ โดยปกติแล้วแมวต้องขับถ่ายอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน ถ้าแมวขับถ่ายนอกกระบะทราย อาจบ่งบอกว่าแมวกำลังมีปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะและโรคไขข้ออักเสบ แนะนำให้ลองเช็กดูก่อนหากน้องแมวทำธุระนอกกระบะทรายอาจจะเป็นเพราะทรายแมวไม่สะอาด หรือจัดวางในวางตำแหน่งไม่เหมาะสม หรือมีแมวหลายตัวใช้กระบะทรายเดียวกันทำให้เกิดการแก่งแย่งหรือแบ่งอาณาเขต หากลองปรับให้น้องแมวทำธุระส่วนตัวได้สะดวก แล้วที่สำคัญอย่าลืมเก็บทรายทุกเช้า/เย็น และหัดสังเกตอึแมวด้วยนะ ทาสแมวทั้งหลาย!!

3. แมวมีน้ำมูก และขี้ตาเกรอะกรัง

อาการแมวป่วย
ตามปกติแล้วน้องแมวจะต้องมีใบหน้าที่ร่าเริงสดใส แต่กรณีที่เราพบว่าดวงตาแมวขุ่นมัว และแมวมีขี้ตามากกว่าปกติ มันก็คือหนึ่งในอาการแมวป่วยนั่นเอง  ส่วนใหญ่มักมาจากสาเหตุของการอักเสบรอบ ๆ ดวงตา หรืออาการแพ้บางอย่าง หรือท่อน้ำตาอักเสบโดยเฉพาะแมวพันธุ์สก็อตทิช โฟลด์ที่มีอาการตาแฉะบ่อย ๆ ก็ต้องหมั่นคอยเช็ดตา หากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นคราบสีเหลืองหรือน้ำตาลใต้ดวงตาน้องแมวได้ รวมถึงมีขี้มูกไหลก็เป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคหวัดแมวด้วย แล้วถ้าคุณกำลังเจออาการแมวป่วยเหล่านี้ ไม่แนะนำให้ซื้อยาไปหยอดตาของแมวเอง หรือซื้อยาแก้หวัดมาให้แมวกิน และห้ามมิให้แมวกินยาพาราเซตามอลของคนเด็ดขาด เพราะการเลือกใช้ยาผิดประเภทอาจจะทำให้ดวงตาแมวอักเสบ และเป็นอันตรายถึงชีวิตของน้องแมวได้

*** เราควรพาแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ และฉีดวัคซีน เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรคให้กับแมว จะช่วยลดอาการติดเชื้อดวงตา และโรคหวัดแมวที่เกิดจากเชื้อไวรัสได้ดีเลยล่ะ

4. แมวมีอาการซึมเศร้า

อาการแมวป่วย
แมวเอ๋ยแมวเหมียว ร้องเรียกเดี๋ยวๆ ก็มา แต่ถ้ามันไม่ยอมมา เรียกยังไงก็ไม่มา ยื่นขนมชิ้นโปรดให้แล้วก็ยังไม่มา นั่นอาจแปลว่า แมวป่วยอยู่นั่นเอง แนะนำให้ลองสังเกตอาการแมวป่วยเบื้องต้นก่อน (บางครั้งมันอาจจะขี้เกียจหรือทำหูทวนลมแกล้งเราอยู่ก็ได้) ก็คือให้เรานำของเล่นชิ้นโปรดมาล่อใจอีกครั้ง หากน้องแมวยังเมินใส่ หรือมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม อย่างเช่น ไม่ยอมเล่นด้วย หลบซ่อนตามมุม ซึมเศร้าผิดปกติ ทำตัวเหงาเกินไป และชอบเดินลากขาหลัง แสดงว่าแมวกำลังป่วยแน่นอน  ยิ่งถ้ามีลักษณะแบบนี้ประมาณ 2-3 วัน ก็ควรรีบพาแมวไปหาหมอทันที เพื่อจะได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทันที

รู้หรือไม่ว่า? 

ตามปกติแล้วแมวจะเลียขนตัวเอง เพื่อทำความสะอาดร่างกาย แต่ในกรณีแมวเมินไม่ยอมเลียขนตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง ก็เป็นหนึ่งอาการแมวป่วยที่บ่งบอกได้ว่าแมวกำลังซึมเศร้า หรือไม่สบายเหมือนกัน

5. แมวหายใจเร็วผิดปกติ

อาการแมวป่วย
เมื่อพูดถึงอัตราการหายใจของแมว ตามปกติแล้วจะอยู่ที่เฉลี่ย 20-30 ครั้งต่อวินาที ส่วนใหญ่ที่มันหายใจเร็วกว่าปกติมักเกิดจากหลังออกกำลังกาย เล่นซน หรือตอนที่ร่างกายของเรารู้สึกร้อน แต่ถ้าคุณสังเกตเห็นว่า นอนเฉย ๆ แล้วน้องแมวมีอาการหอบถี่ และหายใจเร็วเป็นเวลานาน ๆ ถือเป็นเรื่องผิดปกตินะ  สาเหตุอาจจะเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและระบบหลอดเลือด เลยทำให้น้องแมวเกิดอาการหอบหืด ไอ หัวใจเต้นแรง จนบางครั้งก็มีเสียงหายใจที่ดังด้วย แนะนำให้เราใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเช็ดบริเวณใบหู อุ้งเท้า ใต้ท้อง และขาหนีบ เพื่อช่วยคลายความร้อน หรือพาแมวไปอยู่ในอากาศถ่ายเท เตรียมแผ่นเจลเย็น และเบาะนอนเย็นไว้ในบ้านสักหน่อย ก็จะช่วยทำให้แมวรู้สึกดีขึ้น หากปล่อยให้น้องแมวร้อนจนถึงขีดสุดอาจจะทำให้น้องแมวเป็นฮีทสโตรก และช็อกจนเสียชีวิตได้

6. แมวอาเจียน

อาการแมวป่วย
ก่อนอื่นคงต้องอธิบายก่อนว่า ตามธรรมชาติของแมวอาจจะอาเจียนออกมา ก็ต่อเมื่อมันเผลอกินอาหารที่ผิดสำแดง แต่กรณีที่คุณสังเกตเห็นเเมวอาเจียนบ่อย ๆ หรืออาเจียนไม่หยุด นั่นอาจจะเตือนว่าน้องแมวไม่สบายอยู่  สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แมวอาเจียนอย่างฉับพลัน มักเกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร หรือลำไส้อักเสบ ในกรณีที่พบเลือดปนขณะอาเจียน อาจเป็นไปได้ว่าแมวมีแผลในกระเพาะอาหาร ต้องรีบพาไปพบสัตว์เเพทย์โดยด่วน และทำตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อน้องแมว

การสำรอกของแมวบอกอาการป่วยได้

  • แมวอ้วกเป็นสีเหลือง เป็นอาเจียนที่เกิดจากน้ำย่อยของน้องแมว โดยสีของอาเจียนจะมีฟองร่วมด้วย อาจจะมาจากการกินไว กินเร็ว กินแล้วไม่เคี้ยว หรือถ้าน้องแมวเครียดก็อ้วกเป็นสีเหลืองได้ หากอ้วกบ่อยเกิน 3 ครั้ง ก็ต้องพาไปหาหมอ
  • แมวอ้วกเป็นอาหารที่เพิ่งกินเข้าไป อาการใกล้เคียงกับแมวอ้วกสีเหลืองครับ เป็นเพราะน้องกินเร็ว งดอาหาร และงดน้ำดูอาการสัก 4-6 ชั่วโมง
  • แมวอ้วกเป็นสีเขียว อาเจียนสีเขียวปนออกมา บ่งบอกว่าน้องแมวติดเชื้อรุนแรงจากภายในลำไส้ หรือกระเพาะของน้อง
  • แมวอ้วกเป็นสีแดง เป็นอาการรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเส้นเลือดหลอดอาหาร หรืออวัยวะภายในฉีกขาด และเป็นอาการแมวป่วยที่อันตรายมากๆ
  • แมวอ้วกเป็นฟองสีขาวร่วมกับอาการไอ แสดงว่าน้องแมวเป็นโรคเรื้อรังพาเป็นตรวจจะดีที่สุด
  • แมวอ้วกเป็นสีน้ำตาล เลือดออกในกระเพาะอาหารน้องแมว ต้องรักษาโดยด่วน!

7. แมวไม่ยอมกินข้าว

อาการแมวป่วย
อีกหนึ่งอาการแมวป่วยที่สังเกตได้จากการกินข้าวของแมว คือ กรณีที่มันไม่ยอมกินข้าวหรือกินได้น้อยลง ถึงแม้จะเป็นอาหารจานโปรดของน้องเหมียวก็ตาม แต่ยังถูกเมินใส่ !! มันคืออาการแมวป่วยด้วยโรคบางอย่าง  อาจจะเกิดจากโรคไตหรือโรคมะเร็ง จึงทำให้ร่างกายรู้สึกไม่มีแรง และเบื่ออาหารเช่นเดียวกับคน แต่ในทางกลับกันถ้ามันกินข้าวมากกว่าปกติ มักจะมาจากอาการไทรอย์เป็นพิษ และโรคเบาหวานที่พบในตัวแมวนั่นเอง

** แนะนำให้สังเกตพฤติกรรมการกินเบื้องต้นก่อน เพราะบางทีมันอาจจะเบื่ออาหารที่กินเป็นประจำ หรือน้องแมวอาจจะออกล่าหาอาหารเอง แต่ถ้ามันไม่ยอมกินอะไรเลยภายใน 24 ชั่วโมง ก็ให้พาไปตรวจร่างกายกับคุณหมอ จะได้รักษาอาการอย่างถูกต้อง

อาการแมวป่วย
ทั้งหมดนี้ก็คือ วิธีสังเกตอาการแมวป่วยเบื้องต้น ที่ส่งสัญญาณได้ว่าแมวของคุณกำลังเผชิญหน้ากับโรคร้ายบางอย่าง  ดังนั้น ทาสแมวทั้งหลายอย่าชะล่าใจว่าไม่เป็นอะไรนะ เพราะโรคบางอย่างก็น่ากลัวกว่าที่คุณคิด เพื่อความห่วงใยที่มีต่อน้องแมวสุดที่รัก แล้วถ้าเป็นไปได้อย่าลืมซื้อประกันสัตว์เลี้ยงสำหรับน้องแมวกันด้วย ให้ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามแมวเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ อย่างน้อยประกันสัตว์เลี้ยงก็จะแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของคุณ ไหนจะค่าตรวจสุขภาพ ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าผ่าตัด ค่าทำแผล หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องรักษาอาการแมวป่วย จึงทำให้คุณหมดห่วงเรื่องค่ารักษา อีกทั้งยังช่วยให้น้องเหมียวปลอดภัยด้วย !!
แหล่งที่มา : honestdocs.co
                    dog-vs-cat.com

ประกันเดินทาง

The post 7 อาการแมวป่วย สังเกตได้ไม่ยาก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เหตุผลที่ทุกครอบครัวต้อง (ลอง) เลี้ยงแมว https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7 Sat, 03 Aug 2019 08:41:44 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=7413 เมื่อพูดถึง “แมว” สัตว์เลี้ยงอันดับต้น ๆ ที่ครองใจคนทั่วโลก หลายคนก็คงนึกถึงความน่ารัก และความขี้อ้อนของมันที่มีต่อเจ้าของ แต่ใช่ว่าแมวจะมีดีเพียงแค่หน้าตาที่น่ารัก และนิสัยขี้อ้อนเท่านั้นนะ ประโยชน์ของแมวยังมีอีกเพียบเลยแหละ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ !! ยิ่งถ้าตอนนี้คุณกำลังลังเลอยู่ว่าจะเลี้ยงแมวดีไหม ลองมาดูบทความนี้ก่อน

The post เหตุผลที่ทุกครอบครัวต้อง (ลอง) เลี้ยงแมว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อพูดถึง “แมว” สัตว์เลี้ยงอันดับต้น ๆ ที่ครองใจคนทั่วโลก หลายคนก็คงนึกถึงความน่ารัก และความขี้อ้อนของมันที่มีต่อเจ้าของ แต่ใช่ว่าแมวจะมีดีเพียงแค่หน้าตาที่น่ารัก และนิสัยขี้อ้อนเท่านั้นนะ ประโยชน์ของแมวยังมีอีกเพียบเลยแหละ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ !! ยิ่งถ้าตอนนี้คุณกำลังลังเลอยู่ว่าจะเลี้ยงแมวดีไหม ลองมาดูบทความนี้ก่อนครับ รับรองจะเป็นจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของคุณ และคนในครอบครัวได้แน่นอน

1. แมวเป็นเพื่อนเล่นยามเหงา

เหตุผลเลี้ยงแมว
แน่นอนครับว่า แมวจะคอยเป็นเพื่อนเล่นที่ดีให้กับคุณ หากคุณอยู่บ้านคนเดียว คุณก็จะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป เพราะคุณจะมีทั้งเพื่อนเล่น เพื่อนคุย และเพื่อนระบายความในใจอยู่ตลอดเวลา  มันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้น ถ้าคุณเลี้ยงแมวไว้ คุณยังสามารถทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกับแมวอีกด้วย อย่างเช่น หาชุดสวย ๆ ให้กับน้องแมวสุดที่รัก หรือสร้างบ้านใหม่ให้กับแมวครับ สิ่งเหล่านี้จะช่วยคลายความเหงาให้กับคุณ และคนในครอบครัว

2. แมวเป็นนาฬิกาปลุกชั้นเยี่ยม

เหตุผลเลี้ยงแมว
ถึงคุณจะนอนดึกแค่ไหน แมวก็เป็นนาฬิกาปลุกชั้นเยี่ยมให้กับคุณได้ เนื่องจากแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบในตัวเอง รู้จักเวลาตื่น เวลานอน และเวลาหิว นั่นหมายความว่าถ้ามันหิว หรือเหงาก็จะคอยปลุกเราในยามเช้า (บางทีมันก็จะกระโดดขึ้นมาบนเตียง จนกว่าคุณจะตื่นนั่นเอง) ซึ่งแทบไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยครับ ถือเป็นประโยชน์ของแมวที่เหมาะกับคนตื่นสายเป็นประจำ แฟรงค์แนะนำให้เลี้ยงแมวไว้สักตัวก่อน แล้วนาฬิกาชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป

3. แมวทำให้เด็กมีพัฒนาการ

เหตุผลเลี้ยงแมว
หากลูกน้อยของคุณกำลังอยู่ในช่วงเติบโต ควรจะมีสัตว์เลี้ยงเอาไว้ที่บ้าน นั่นก็คือ “น้องแมว” ครับ เพราะว่าแมวจะช่วยทำให้เด็กมีพัฒนาการสูง และตอบสนองเร็วขึ้น อย่างเช่น แมวกำลังวิ่งเล่นไปมา เด็กก็จะรับรู้ว่ามีสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ภายในบ้าน ด้วยเหตุนี้เองจึงมีแนวโน้มสูงว่าครอบครัวที่เลี้ยงแมว จะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้เด็กเฉลียวฉลาด รวมถึงยังช่วยส่งเสริมให้เด็กมีจิตใจที่อ่อนโยน และรักสัตว์อีกด้วย  แต่ต้องรักษาความสะอาดของเจ้าเหมียวด้วยนะครับ

4. แมวทำให้คุณได้ออกกำลังกาย

เหตุผลเลี้ยงแมว
ถ้าคุณอยากผอมแบบไม่ต้องอดข้าว ก็ลองเลี้ยงแมวดูก่อนสิ เนื่องจากแมวจะคอยเป็นเพื่อนเล่นยามว่างที่ดีให้กับคุณ จึงทำให้คุณมีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น  เช่น พาน้องแมวออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือวิ่งเล่นกับแมว ก็จะช่วยให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรง แทนการนอนเล่นมือถือเฉย ๆ อยู่ในบ้านครับ และไม่ใช่เพียงแค่ทำให้คุณมีร่างกายแข็งแรงอย่างเดียวนะ น้องเหมียวของเราก็จะเเข็งแรงเช่นกันครับ

5. แมวช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ครอบครัว

เหตุผลเลี้ยงแมว
สำหรับสายใยรักแห่งครอบครัว จะขาด “น้องเเมวเมียว” ไม่ได้เลย ผลสำรวจบางแห่งบอกว่า คู่รักที่แต่งงานแล้ว และเลี้ยงเเมวไปด้วย จะมีความเครียดน้อยกว่าคู่รักที่ไม่ได้เลี้ยงแมวครับ เพราะว่าแมวถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยบำบัดความรู้สึกของคนได้ ซึ่งร่างกายของเราก็จะผลิตสารออกซิโทซิน (Oxytocin) ออกมา จะเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ทำให้เราเกิดความรัก และความผูกพันธ์   แล้วประโยชน์ของแมวตรงนี้เนี่ยแหละ จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับคนในครอบครัว

6. แมวมีเสียงที่รักษาโรคกระดูกได้

เหตุผลเลี้ยงแมว
อึ้งและทึ่งไปเลยใช่ไหมล่ะ !! ว่าเสียงร้องของแมว จะช่วยรักษาโรคกระดูกได้ เนื่องจากเสียงร้องของแมว จะมีความถี่อยู่ที่ 25-150 เฮิร์ต มันจะเป็นคลื่นความถี่ใช้สำหรับบำบัดด้วยเสียง ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บ รักษาบาดแผลต่างๆ โดยเฉพาะโรคกระดูกกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น  เสียงร้องของแมวนั้นจะช่วยทำให้หายเจ็บได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการเลี้ยงแมวยังช่วยรักษาโรคอื่น ๆ อีกด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต และโรคเครียดเรื้อรัง เป็นต้น

7. แมวช่วยกำจัดหนูภายในบ้าน

เหตุผลเลี้ยงแมว
อีกหนึ่งประโยชน์ของแมวที่สำคัญเลย ก็คือ แมวจะช่วยจำกัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ภายในบ้านของคุณ ต้องขอบอกเลยว่า เป็นทักษะเฉพาะของแมวนะครับ แม้ไม่ใช่วันพิเศษของคุณ แต่เจ้าเหมียวก็สามารถนำของขวัญมาให้กับคุณได้ นั่นก็คือโจทก์เก่าอย่างหนูครับ มันจะคอยเป็นหูเป็นตาให้กับคุณ เพื่อมีอะไรแปลกปลอมเข้าบ้าน มันก็จะรอกำจัดทันที  ดังนั้น การเลี้ยงแมวก็เปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะจะได้ช่วยจับหนู แถมยังมีเพื่อนเล่นยามเหงาอีกด้วย 
** รู้หรือไม่ว่า กะบะทรายแมว ยังสามารถไล่หนูได้ด้วยนะ เพียงแค่นำไปวางไว้ตามบริเวณบ้านที่มีหนูวิ่งผ่าน พอหนูได้กลิ่นปัสสาวะแมวก็จะรู้ว่ามีภัยมาถึงตัว และไม่กล้าเข้ามาในบ้านของคุณ

เหตุผลเลี้ยงแมว
จากข้างต้นนี้ ถือเป็นประโยชน์ของแมวที่ช่วยปรับเปลี่ยนชีวิตของคุณ และคนในครอบครัวได้ดีเลยล่ะ พอหลังจากคุณเป็นเจ้าของแมวแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพแมวกันด้วยนะ เเนะนำให้คุณเลือกอาหารที่ดี เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับแมว และพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้กับสัตว์เลี้ยงสุดที่รักของคุณ

ประกันออนไลน์

The post เหตุผลที่ทุกครอบครัวต้อง (ลอง) เลี้ยงแมว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>