1. Waterside Resort Restaurant

อันดับแรกร้านอาหารอร่อยที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น ต้องขอแนะนำร้าน Waterside Resort Restaurant (วอเตอร์ไซด์รีสอร์ทเรสเตอรองท์) เลยครับ เนื่องจากร้านนี้จะเน้นฟิวชั่นอาหารไทยกับอาหารจีน มีรสชาติกลมกล่อม เหมาะกับการพาคุณแม่กินข้าวมื้อเย็นมากๆ  ซึ่งเราจะประทับใจตั้งแต่เดินเข้าไปยังในร้าน มองเห็นวิวริมแม่น้ำและสะพานไม้ที่ทอดยาว ประดับด้วยโคมไฟสวยงาม มีบรรยากาศให้คุณเลือกทั้ง 2 แบบเลยนะ ได้แก่ แบบด้านนอก (Outdoor) และ แบบด้านใน (Indoor) เสมือนพาครอบครัวมาพักผ่อนแบบสไตล์รีสอร์ทครับ หรือจะลองเดินถ่ายรูปชิล ๆ กับคุณแม่ได้เช่นกัน ยิ่งถ้ามาตรงกับช่วงวันเกิดทางร้านก็จะมีเซอร์ไพรส์เค้กสุดพิเศษ พร้อมกับตีกลองยาวโชว์อีกด้วยครับ จะพาคุณแม่หรือจะพาครอบครัวไปรับประทานก็ได้ทั้งนั้น

เมนูแนะนำให้กับคุณแม่

ชวนบอกรักคุณแม่ด้วยเมนูแสนอร่อย ได้แก่ ยำวอเตอร์ไซค์, ขาหมูเยอรมันทอด, ส้มตำผลไม้รวมกุ้งเผา, คอหมูย่าง, ปลากระพงทอดราดสมุนไพร และกุ้งอบวุ้นเส้น 

วิธีการเดินทาง

แค่คุณขับรถจากแยกเกษตร-นวมินทร์ตัดใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 100 เมตร หลังจากนั้นจะเห็นสะพานให้ชิดขวาเพื่อกลับรถบริเวณนั้น แล้วตรงไปประมาณอีก 800 เมตร จะเห็นร้านวอเตอร์ไซด์รีสอร์ทเรสเตอรองท์อยู่ด้านซ้ายมือนั่นเอง จะเปิดให้บริการทุกวัน ช่วงเวลา 17.00 - 01.00 น. เบอร์ติดต่อ 02-018 9200 

2. The Local by Oam Thong Thai Cuisine 

หากคุณแม่ของคุณชื่นชอบร้านอาหารสไตล์ไทยพื้นบ้าน ก็ลองพามาที่  The Local by Oam Thong Thai Cuisine หรือ ร้าน เดอะ โลคอล บาย ออมทอง กันก่อนครับ เรียกว่าครบสูตรเรื่องอาหารไทยนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น อาหารภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง หรือภาคอีสาน  ซึ่งแต่ละเมนูนั้นจะมาจากตำราอาหารเก่าแก่ และคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อย่างเช่น น้ำพริกแกงสูตรลับจากทางร้านมาปรุงแต่งกับเมนู และผักบางชนิดที่ปลูกขึ้นเองครับ จึงหากินไม่ได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป นอกจากนี้บรรยากาศรอบๆ ร้าน เดอะ โลคอล บาย ออมทอง จะมีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยแบบโบราณ และข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน เลยทำให้ได้กลิ่นอายของยุคเก่าๆ ถือเป็นร้านอาหารอร่อยพาแม่ไปกินข้าวเฉพาะ หรือจะพาคนในครอบครัวไปได้เช่นกันครับ

เมนูแนะนำให้กับคุณแม่

ลองสั่งอาหารสไตล์พื้นบ้านให้กับคุณแม่ก่อน เขาลือกันว่าเด็ดมากครับ เช่น แกงรัญจวนไก่, แกงคั่วเนื้อปลาใบส้มแป้น, ข้าวซอยไก่ หมูฮ้อง เมี่ยงบัวหลวง ยำใบชะคราม ใบเหมียงผัดไข่ หรือจะลองยำตะไคร้สามเกลอใต้ เมนูเด็ดเพื่อสุขภาพของคุณแม่ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ส่วนเมนูของหวานนั้นก็จะเป็นต้นตำรับจากทางร้านอย่างเช่น ข้าวเหนียวมะม่วงสูตรเด็ด บัวลอย และไอศกรีมกะทิ เป็นต้น เชื่อว่าคุณแม่จะต้องรู้จักเกือบทุกเมนูแน่นอนครับ

วิธีการเดินทาง

ให้ขับรถตามถนนสุขุมวิท แล้วมุ่งหน้าสุขุมวิท 23 แล้วเลี้ยวเข้าซอยประมาณกลางซอย จะเจอร้านเดอะโลเคิลบายออมทอง อยู่ด้านขวามือ ฝั่งตรงข้ามกับอาคารประสานมิตรพลาซ่า โดยที่นี่จะเปิดให้บริการเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงกลางวัน เวลา 11.30 - 14.30 น. และช่วงเย็น เวลา 17.30 - 23.30 น. หรือติดต่อเบอร์โทรที่ 02-664 0664 

3. ร้านกินลมชมสะพาน

อีกหนึ่งร้านอาหารอร่อยพาแม่ไปกิน ต้องยกให้ “ร้านกินลมชมสะพาน” ครับ จุดเด่นของร้านนี้จะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเราจะได้เห็นวิวสะพานพระราม 8 อย่างชัดเจน  หากเดินเข้าทางหน้าร้านจะมีสระน้ำพุให้ถ่ายรูปเช็กอินก่อน ตรงบริเวณนั้นเราจะเห็นโซนครัว และอาหารทะเลกันสดๆเลย ส่วนบรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งสไตล์เรือนไทยระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ แน่นอนว่าคุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นไทยร่วมสมัย และดนตรีสดให้ฟังตลอดคืน หรือถ้าใครอยากจะพาคุณแม่ไปล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ทางร้านกินลมชมสะพานก็ยังมีบริการเรือให้ล่อง พร้อมกับดินเนอร์ชิล ๆ ยามค่ำคืนอีกด้วย แนะนำให้เราโทรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนครับ

เมนูแนะนำให้กับคุณแม่

ได้แก่ น้ำพริกไข่ปู กุ้งแม่น้ำเผา ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ปลากะพงสมุนไพร, เมี่ยงกุ้งฝอย ปูไข่ผัดผงกะหรี่  และยำคอหมูย่างส้มโอ ทางร้านจะเน้นเป็นอาหารทะเล ยิ่งใครที่ชอบปลาเเซลมอนเป็นพิเศษ ก็ลองเข้ามาทานกันเลยครับ

วิธีการเดินทาง

สังเกตถนนสามเสน แล้วเลี้ยวเข้าซอยสามเสน 3  (ตรงทางเข้าสำนักงานเขตพระนคร) ขับตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร สุดซอยก็จะเห็นร้านอาหารกินลมชมสะพาน อยู่ใกล้สะพานพระราม 8 ติดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 น. จนถึงเที่ยงคืน หรือต้องการโทรจองโต๊ะติดต่อได้ที่เบอร์  02-628 8382 

4. ร้านอาหาร สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน

ร้านอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ต่อมา ก็คือ ร้านสตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน (Steve Cafe and Cuisine) ร้านอาหารสไตล์ค่าเฟ่น่ารักๆ เน้นอาหารไทยแท้ และรสชาติดั้งเดิม ด้วยเครื่องปรุงต่างๆที่นำมาเสิร์ฟครบเครื่อง จึงทำให้หลายคนติดใจในรสชาติ แล้วไม่เพียงแค่นี้นะ จุดเด่นของที่นี่ยังใช้บ้านเก่าแก่กว่า 60 ปีมาตกแต่งเป็นร้านอาหาร และที่สำคัญร้านอาหารบรรยากาศดีติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย  โดยจะเปิดให้นั่งเป็น 2 โซนครับ ได้แก่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และห้องแอร์ด้านใน มีหลังคาโปร่งสบาย สีสันไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะที่จะพาครอบครัวมานั่งกินทานข้าวยามเย็น หรือนั่งฟังดนตรีสดภายในร้าน ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้กับมื้ออาหารมากขึ้น 

เมนูแนะนำให้กับคุณแม่

จะเน้นรสชาติเข้มข้น แนะนำให้ลองกิน น้ำพริกกะปิสูตรเด็ดจากทางร้าน คั่วหมู แก้มกุ้งทอด แกงเหลืองไหลบัว และข้าวผัดน้ำพริกมะขาม เป็นต้น สามารถทานคู่กับผักเครื่องเคียงต่างๆ ได้ตามใจชอบ ต้องบอกเลยว่า ทางร้านจะใช้น้ำซุบต้มผัก แทนซุปกระดูกหมูนะ เพราะอาหารจะไม่มันและคาว แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

วิธีการเดินทาง

เปิดให้บริการทั้งหมด 2 สาขา ดังได้แก่ สาขาพระราม 6 ถนน พหลโยธิน (เข้าซอยอารีย์ 1 มาจนถึง 3 แยกซอยราชครู ร้านอยู่ทางขวา) สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ หรือติดต่อที่ 02-619-9822 และ สาขา เทเวศน์ ซึ่งจะอยู่ใน ซ.วัดเทวราชกุญชร (ซอยข้างๆ หอสมุดแห่งชาติ) ถ้ามาจากถนนศรีอยุธยาขาออกก็ขับตรงเข้ามาจนสุดถนนก็จะเจอครับ หรือจะมาจากถนนสามเสนก็เลี้ยวเข้าซอยวัดมาได้เช่นกัน หรือโทรสอบถามที่ 02-281-0915 ครับ จะเปิดให้บริการทุกวัน ช่วงเช้า 11.30 -14:30 น. และช่วงเย็น 16.30 - 23.00 น. แต่ถ้ามาช่วงวันเสาร์ อาทิตย์จะเปิดตั้งแต่ 11.30 - 23.00 น. เลยครับ

5. บ้านน้ำเคียงดิน

พลาดไม่ได้เลยครับ อีกหนึ่งร้านอาหารอร่อยพาแม่ไปกินข้าวต้องลองมากันที่ “บ้านน้ำเคียงดิน” ร้านอาหารอร่อยสไตล์คันทรียุโรป เน้นการตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา และมีพื้นที่ของสัตว์อย่างห่าน และฝูงปลา ที่ว่ายในบ่อน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงนกฟลามิงโก้ และกระต่ายตัวเล็กๆ ให้ได้ชื่นชมกัน พอหลังจากถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ก็แวะมากินข้าวที่บ้านน้ำเคียงดิน ต้องบอกเลยว่าร้านอาหารบรรยากาศดีมาก เพราะคุณจะได้เห็นบ้านแบบตะวันตก สามารถเลือกนั่งได้ทั้งโซนด้านใน และด้านนอก ส่วนอาหารก็มีหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารจีน และอาหารยุโรป  ก็คัดวัตถุดิบสดใหม่มาเสิร์ฟกันร้อนๆ ให้ฟินอีกด้วย แนะนำให้มาช่วงเย็นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศจะสวยมากครับ เพราะร้านนี้จะประดับไฟสีส้มตลอดทางเดิน สามารถพาครอบครัวมาถ่ายรูปกันได้

เมนูแนะนำให้กับคุณแม่

อยากให้ลองลิ้มรสชาติอาหารไทยสูตรโบราณ ปลากระพงเจี๋ยนเต๋าเจี้ยว พร้อมน้ำราดสูตรแท้ดั้งเดิม ส่วนเมนูตะวันตกแนะนำให้สั่งเมนูซี่โครงหมูอบกาแฟและน้ำผึ้ง ที่เสริฟ์พร้อมมันบดร้อน ๆ หรือจะลองชิมขาหมูเยอรมันสักหน่อย อาหารชื่อดังจากทางร้าน

วิธีการเดินทาง

จะตั้งอยู่ตรงถนนอุทยาน หรือถนนอักษะ ระหว่างพุทธมณฑล สาย 3 กับ สาย 4 กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดให้บริการวันจันทร์ - วันพฤหัส เวลา 17.00 - 22.30 น. และช่วงวันศุกร์ - วันอาทิตย์ เวลา 16.00 - 22.30 น. หรือสามารถโทรจองโต๊ะล่วงหน้าที่เบอร์ 02-441 3837 ครับ
 
ทั้งหมดนี้ จะเป็นร้านอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ คุณก็สามารถเซอร์ไพรส์คุณแม่ ด้วยการขับรถพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารอร่อย ๆ สักมื้อ เพื่อเติมเต็มรักให้กับคุณ และคนในครอบครัว หรือจะขับรถพาแม่ไปเที่ยวใกล้กรุงก็ได้ครับ ก็น่าสนุกเช่นกัน แล้วที่สำคัญไม่ว่าคุณจะพาคุณแม่ไปที่ไหน ก็อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ไว้ ให้คุ้มครองคุณแม่และตัวคุณกันด้วยนะ เพื่อตอบแทนความรักและความห่วงใยจากใจคุณนั่นเอง
 

The post 5 ร้านอาหารอร่อย พาแม่ไปกินข้าว appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ปีใหม่เที่ยวไหนดี ลองเที่ยวสิงคโปร์สิ  

พิกัดแรกที่ผมยกให้เป็นตัวเต็งอันดับ 1 คือ ประเทศสิงคโปร์ ครับ ค่อนข้างครบครันและตอบโจทย์มากๆ สำหรับการพาครอบครัวไปเที่ยวมากเพราะใช้เวลาบินแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น  เรื่องความปลอดภัยสิงคโปร์ไว้ใจได้ครับเพราะกฎหมายเขาค่อนข้างแรงผู้คนเลยไม่ค่อยกล้าทำผิด แล้วก็เดินทางสะดวกดีครับ มีรถไฟฟ้า มีรถบัสที่เป็นระบบ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว Grab ของที่นี่ก็ถือว่าโอเค ราคายุติธรรม สมเหตุสมผล
ส่วนเรื่องโรมแรมก็ดีครับ มีให้เลือกหลายแนว หลายระดับ ซึ่งต้องดูว่าคนที่บ้านเราชอบสไตล์ไหนด้วย แต่สำคัญคือเรื่องทำเลดี หากอยู่แถว Chinatown หรือสถานีรถไฟฟ้าใหญ่ๆ ก็จะยิ่งเดินทางสะดวกครับ
อาหารการกินก็มีให้เลือกหลากหลายสัญชาติ จะภัตตาคารหรือ Street Food ดีงาม รับรองว่าแฮปปี้กันทั้งครอบครัวแน่นอน ส่วนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็มีครบ ทั้งศาสนสถานเช่น วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดแขก ให้ผู้ใหญ่ในบ้านไปสักการะขอพร หรือจะเป็นแนวแฟนตาซี สวยงาม สนุกสนาน Garden by the bay และ สวนสนุก Universals Singapore ก็ตอบโจทย์สำหรับเด็กๆ ครับ
แต่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ ไฮไลต์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพราะบริเวณ Marina Bay หรือตึกเรือใบที่หลายคนเรียกกัน จะมีการจัดงาน “Marina Bay Singapore Countdown” ขึ้นทุกปี ซึ่งภายในงานจะมีทั้งการแสดงดนตรี, แสงไฟ, เลเซอร์ และหัวใจของงานอย่าง การดูพลุไฟหลากสีที่จะถูกจุดขึ้นเหนือบรืเวณทะเลสาบอย่างสวยสดงดงาม เมื่อเสียงนับ 5 4 3 2 1 .. Happy New Year จบลง ซึ่งตัวผมเคยไปร่วมเคาท์ดาวน์ที่สิงคโปร์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2016 บอกเลยครับว่าประทับใจสุดๆ สิงคโปร์เขาเล่นใหญ่ จัดหนักกันมากจริงๆ  ผมจึงคิดไว้นานแล้วว่าอยากจะพาครอบครัวไปฉลองปีใหม่ที่สิงคโปร์ด้วยกันสักครั้ง

ไม่รู้เคาท์ดาวน์ที่ไหนดี ลองญี่ปุ่นดูไหม  

ประเทศนี้ยังไงก็ไม่เคยหลุดจากลิสต์ประเทศในดวงใจของผมได้สักที ไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งที่ไปก็ล้มละลายกลับมาทุกที แต่ก็ยังประทับใจและคิดถึงการไปญี่ปุ่นครั้งใหม่เสมอ จึงไม่แปลกที่ผมจะอยากพาครอบครัวไปฉลองปีใหม่กันที่ญี่ปุ่นด้วย จะได้เข้าใจผมสักทีว่าทำไมถึงชอบไปหนักหนา (ฮ่าๆ)
ต้องยอมรับว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เฟรนลี่กับผู้สูงอายุที่สุดเลยนะ อาจเป็นเพราะญี่ปุ่นอยู่ในยุคสังคมสูงวัยแบบเต็มตัว (Aging Society) ซึ่งประเทศไทยก็กำลังอยู่ในภาวะนี้เช่นกัน ระบบขนส่ง และสาธารณูปโภคของที่นั่น ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งสาธารณะ ห้องน้ำ หรือสถานที่ท่องเที่ยวไหนๆ ก็มักจะมีสิ่งของเครื่องใช้ที่ออกแบบมาให้ผู้สูงอายุได้ใช้อย่างสะดวกสบาย และท่องเที่ยวได้อย่างสุขกายสบายใจ
เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีให้เลือกเยอะมาก Frank.co.th แนะนำคุณให้วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นทำลิสต์แล้วให้ท่านเลือกตั้งแต่ที่เมืองไทยเลยดีกว่า ว่าอยากไปจุดไหนบ้างแล้วค่อยวางแผนการเดินทางเพราะที่เที่ยวญี่ปุ่นจะใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะค่าแท็กซี่ค่อนข้างแพง หากวางแผนไม่ดีก็อาจทำให้ผู้ร่วมเดินทางเหนื่อยหอบได้ไม่น้อย ทั้งนี้ อย่าลืมเลือกประกันเดินทางอย่างไร ให้เหมาะกับการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ

สำหรับสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่คุณต้องไปให้ได้ มีดังนี้

• วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า วัดอาซากุสะ
• พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)
• แยกชิบูย่า (Shibuya)
• ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market)
• โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree)
• โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

ไฮไลต์ของช่วงปีใหม่ในโตเกียว จะจัดขึ้นอย่างครึกครื้นยิ่งใหญ่มีหลายบริเวณ โดยจะการจัดคอนเสิร์ตและดอกไม้ไฟอย่างสวยงามอลังการ บริเวณ Tokyo Tower และ Shibuya เป็นหลัก ซึ่งความน่ารักของการเคาท์ดาวน์ที่ญี่ปุ่น จะอยู่ที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นจะพากันใส่ชุดยูกาตะสวยงาม มาร่วมเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่กันอย่างคับคั่ง เป็นบรรยากาศที่สวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ญี่ปุ่นเลยล่ะคร้าบบบบ

ปีใหม่เที่ยวฮ่องกง ไปดูพลุที่อ่าววิคตอเรียกันเถอะ

ฮ่องกง เป็นอีกจุดหมายการเดินทางที่ผมอยากแนะนำด้วยสำหรับการไปท่องเที่ยวทั้งครอบครัวครับ เพราะเดินทางใกล้ ของกินอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ วัดเยอะ ศาลเจ้าเยอะ เรียกได้ว่าถูกใจทั้งสายบู๊และสายบุญแน่นอน สำหรับคนที่ยังโสด จะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ทริปนี้มีเพื่อขอลูกเขย ลูกสะไภ้ให้พวกท่าน ก็น่าจะเป็นคำเชิญชวนที่ดีไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ (เว้นแต่ว่าบ้านไหนไม่อยากให้ลูกมีแฟน คำโฆษณานี้จะใช้ไม่ได้นะครับ อิอิ)
แล้วที่สำคัญคือที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและผู้พิการมากๆครับ สังเกตได้จากตามสถานีรถไฟฟ้า รถเมล์ และเรือ จะมีส่วนอำนวยความสะดวกให้เป็นพิเศษ
ส่วนใหญ่คนที่เดินทางเปิดโลกกว้างทริปฮ่องกง จะนิยมมาไหว้พระ เพราะการเที่ยวฮ่องกงมีพิกัดวัดดังที่เที่ยวฮ่องกงไหว้แล้วรวยหลายแห่ง คงต้องบอกเลยว่า ถ้าใครเป็นสายบุญ ก็ต้องไปวัดแชกงหมิว หรือวัดกังหันอันเลื่องชื่อ ไปวัดหว่องไท่ซิน หรือที่คนไทยเรียกว่าวัดหวังต้าเซียน เพื่อผูกไหว้แดงขอเนื้อคู่ หรือขอพรด้านสุขภาพก็โด่งดังไม่แพ้กัน

ของกินฮ่องกงก็ดีงาม

และมาเที่ยวฮ่องกงกินของอร่อยครับ เรื่องความปลอดภัยฮ่องกงก็ยังน่าวางใจ แต่ด้วยความแออัดคงปลอดภัยไม่เท่า 2 ประเทศข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้วแน่นอน แต่ก็อย่าตระหนกไปครับ ถ้าเราช่วยกันเป็นหูเป็นตา หรือทำประกันเดินทางไว้ยังไงก็ไม่ต้องกลัวครับผม อาหารการกินที่ฮ่องกงจริงๆคนไทยคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่มาทั้งทีก็ควรลองของเด็ดของเขานะครับ ทั้งโจ้ก ติ่มซำ หมูแดง หมูกรอบ หมูอบ ไอศกรีม ชาไข่มุก ทาร์ตไข่ ก็มีให้เลือกชิมมากมายเอาเป็นว่า อิ่มพุงกางตลอดทริปฮ่องกง
แล้วอย่าลืมก็ไปเที่ยวดูพลุจุดไฮไลท์ ชมการแสดงแสงสีเสียง The Symphony of Lights ณ อ่าววิคตอเรีย ซึ่งผมแนะนำให้ไปหาทำเลตรงแถวหอนาฬิกานะครับ เพราะว่าวิวดีกว่า มีที่นั่งทั้งด้านบน ด้านล่างให้คุณพ่อคุณแม่เลือกนั่งชมวิวสวย ๆ อย่างสบาย และที่สำคัญคือเวลามีการแสดงโชว์แสงเลเซอร์ หากนั่งที่ทำเลตรงนี้ แสงไฟจะอยู่ที่ด้านหน้าเราพอดีเลยล่ะครับ  ที่นี่แห่งนี้ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
นอกจากจะมีการแสดงแสงเลเซอร์แบบทุกๆวันแล้ว จะมีงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟและพลุ โดยบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่และย่านจิมซาจุ่ยจะมีสตรีทปาร์ตี้ มีการแสดงคอนเสิร์ตเพื่อสร้างความสนุกสนานตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงเวลาเคาท์ดาวน์ตอนเที่ยงคืน ซึ่งพลุทั้งหลายจะถูกจุดขึ้นจากตึกสูง และจากน้ำ สวยงามสุดๆ แนะนำให้เตรียมของกินให้พร้อม หาที่นั่งเหมาะๆ แล้วปักหลักอยู่ตรงนี้กันยาวๆทั้งคืน จะได้มีรูปแสงสีเสียงสวยๆ อัพโซเชียลพร้อมกับคำว่า “Happy New Year 2019 from Hong Kong” ยังไงละคร้าบบบบบบ งานนี้รับรองว่า เต็มอิ่มและประทับใจมิรู้ลืม!!

เที่ยวไต้หวันปีใหม่ เคาท์ดาวน์ที่ตึก TaiPei 101

พิกัดสุดท้ายกับไต้หวัน สำหรับที่เคาท์ดาวน์แจ่มๆ Frank.co.th ขอปิดท้ายด้วยประเทศสุดฮิตที่ตอนนี้คนไทยนิยมไปเหลือเกิน ใช่ครับบบบ “ไต้หวัน” นั่นเอง ซึ่งผมขอปักหมุดไปที่เมืองไทเป เมืองหลวงของไต้หวันซึ่งหลอมรวมทุก ๆ ไฮไลท์เอาไว้ที่นี่
อ่านจากหลาย ๆ รีวิว ใคร ๆ ก็มักจะพูดถึงแต่ของกินเด็ดๆ และชาไข่มุกซึ่งตอนนี้กำลังฟีเวอร์อย่างมากในไทย แต่จริงๆแล้วผมว่าไต้หวันมีดีกว่านั้นนะครับ ทั้งเรื่องของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และผู้คน เป็นเสน่ห์เอเชียที่น่าไปสัมผัสอย่างมาก ยิ่งตอนนี้หลายสายการบินยิ่งขยันออกโปรโมชั่นจนค่าตั๋วเครื่องบินขยับราคาต่ำลงมา สามารถอ่านวิธีจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศให้ได้ราคาถูกที่สุด!! การพาทั้งครอบครัวไปเที่ยวไต้หวันจึงไม่ใช่เรื่องยากแบบเมื่อก่อน โดยระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพไปไทเปก็แค่ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น หลับ 1 ตื่นก็ถึงพอดี ไม่บินนานให้คุณพ่อคุณแม่ปวดเนื้อปวดตัวปวดหัวจนเกินไป
ธรรมชาติที่ว่าเด็ดของไทเป มีทั้งภูเขาและทะเลสาบ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ใครยังฟิตอยากให้พาท่านขึ้นไปบนเขาช้างเลยครับ ไปดูพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า และดูวิวตึกที่เรียงตัวสูงๆต่ำๆ และตึกที่เป็นพระเอกอย่าง Taipei 101 ที่เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกจากกลางธรรมชาติก็ฟินดีนะครับ แต่ถ้าไม่ไหวขยับลงมาเอาใจสายชิลที่ทะเลสาบสุริยันจันทราก็ได้ ที่นี่เลือกเอาได้เลยว่าจะเดินชมวิว รับลมเอื่อยๆ หรือจะเช่าจักรยานแล้วปั่นให้หน้าปะทะลมเย็นๆ ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านได้เลยคร้าบบบ
แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าเที่ยวๆไปแล้วจะหิวนะครับ เพราะที่นั่นมีของกินตลอดทาง ไม่แพ้ที่ไทยเลยหละ แถมยังราคาถูกและรสชาติดี เหมาะแก่การหยุดซื้อทุกร้านแล้วแบ่งกันกินพ่อแม่ลูกซะจริงๆ ยิ่งถ้าบ้านไหนเป็นสายกินแล้วด้วย ที่นี่พวกคุณจะเพลิดเพลินเจริญใจสบายพุงโดยที่กระเป๋าตังค์ยังตุงอยู่แน่นอนครับ โดยอาหารที่เขาว่าหากไปไต้หวันแล้วต้องกินให้ได้คือ ชาบูหมาล่า เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาอบโอ่ง บะหมี่อาจง สารพัดของทอดของย่าง อร่อยยยย ถูกใจหลาย ๆ เด้อ

ไทเปเมืองที่ไม่เคยหลับไหล

เรียกได้ว่าเป็นอีกเมืองที่ไม่เคยหลับไหลและมีเสน่ห์ของตัวเองมากๆ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ที่ไต้หวันก็จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ขึ้นด้วยนะ โดยจะมีการแสดงบนเวทีจากศิลปิน และดอกไม้ไฟสุดตระการตาที่ตึกไทเป 101 ซึ่งพลุที่นี่จะสวยแปลกตามาก ในลักษณะที่ผมนิยามเองว่าเหมือน “หนอนบุ้ง” เพราะเขาจะจุดดอกไม้ไฟขึ้นสองแบบ คือจุดจากด้านในตัวตึก Taipei 101 ออกมาด้านนอก และจุดขึ้นฟ้านั่นเอง ทำให้เราสามารถมองเห็นพลุได้จากทั่วสารทิศเลยล่ะคร้าบ
แต่ที่ผมอยากบอกทุกคนมากๆ เวลาไปเที่ยวหน้าเทศกาลทุกครั้งเลยคือ จงเที่ยวแบบสนุกและไปแบบไม่คาดหวังครับ เพราะการเที่ยวช่วงเทศกาลหมายถึงการที่คนอื่นๆ เขาก็มาเที่ยวเหมือนกัน ฉะนั้นคนจะเยอะกว่าปกติ อาจมีบ้างที่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว ซึ่งอาจทำให้การบริการที่เคยดีมากๆ ดรอปลงไป หรือมุมสวยๆในสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะไปถ่ายรูปออกมาไม่ได้ดั่งที่ใจคาดหวัง
การรู้จักยืดหยุ่น ปล่อยวาง และมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องสนุกจึงจำเป็นมากๆเลยล่ะครับ แล้วอีกอย่างที่สำคัญและมีพร้อมๆกับฝูงชนจำนวนมาก คือ “ผู้ไม่หวังดี” จะทั้งคุณโจร หรือคุณขโมย มีอยู่ทุกที่แหละครับ การรักษาสัมภาระ ทรัพย์สิน และเอกสารสำคัญจึงสำคัญมาก การเที่ยวระยะหลังๆ ผมจึงซื้อประกันการเดินทางไว้ด้วยเสมอ เพราะผมไม่มีทางรู้ได้เลยครับ ว่าวันไหนดวงจะกุดหรือดวงจะดี แต่ใครที่กำลังอยากได้รายละเอียดเกี่ยวกับเคล็ดลับประกันการเดินทางต่างประเทศอ่านที่ Blog นี้ได้เลยนะครับ เพราะทีมงานเพนกวิน Frank.co.th เขียนสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ และที่สำคัญประกันของเราให้ความคุ้มครองครอบคลุมดูรายละเอียดกรมธรรมเพิ่มเติมได้ที่ประกันการเดินทางประเทศ ซึ่งมีให้เลือกทั้งรายเที่ยวและรายปีตามความต้องการของคุณ
หวังว่า ชาวแฟรงค์คงได้พิกัดเด็ดที่จะพาครอบครัวออกเที่ยวต่างประเทศในทริปปลายปีนี้แล้วนะครับ ตอนต่อไปผมจะมาแนะนำเคล็ดลับการพาพ่อแม่เที่ยวแบบสุขใจให้กลับมาแล้วรักกันแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเก่า และเป็นทริปที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวกันนะคร้าบบบบบ

The post ปีใหม่เที่ยวไหนดี ? กับ 4 พิกัดดูพลุที่ต้องพาครอบครัวไปให้ได้ !! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. คุณแม่ไม่ค่อยชอบเดินทาง

ที่ เที่ยววันแม่แรกที่อยากแนะนำ สำหรับคุณแม่ที่ไม่ค่อยอยากเดินทางนะครับ ลองถามแม่ล่วงหน้าได้เลยว่าแม่อยากกินอะไร? หรืออยากไปไหว้พระไหม? แล้วเราก็เริ่มเช้าวันแม่ด้วยการพาแม่ใส่บาตรพระที่หน้าบ้านกันก่อน กรวดน้ำให้สบายใจเสร็จแล้ว เราควงแขนแม่ไปเดินตลาดเลยครับให้เหมือนตอนที่เราเด็กๆ ที่เราคอยเดินตามแม่หิ้วของแบบนั้นเลย รัยรองว่าแม่ยิ้มไม่หุบแน่นอน แล้วเอาของที่ซื้อมานั่นแหละครับ มาช่วยกันทำอาหารกินกันทั้งครอบครัวที่บ้าน ให้เด็กๆ ไปเป็นนลูกมือช่วยล้างผัก ปอกกระเทียม ส่วนเราไปเป็นลูกมือช่วยแม่หยิบเครื่องปรุงรส หรือเป็นแผนกหั่นผักก็เข้าที frank รับรองเลยครับ ว่าจะเป็นมื้ออาหารที่แสนจะน่าจดจำไปอีกนานเลยครับ

2. คุณแม่ชอบซื้อของ ชอบชิมของอร่อย

ที่ ถัดมาเรานัดแนะกับแม่ก่อนเลยนะครับ ว่าจะพาแม่ไปเที่ยววันแม่ไปหาอะไรกินนอกบ้านกัน ซึ่งน่าเป็นเสาร์-อาทิตย์นะครับ เพื่อความครบครันของตลาด เริ่มด้วยทานขนมรองท้องมื้อเช้ากันไปก่อนแล้วเราขับรถไปตลาดน้ำในกรุงเทพกัน ใช่แล้วครับ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง หรือตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็ได้ ซึ่งที่แรกเปิดตั้งแต่ 8.00-15.00 น. ส่วนอีกที่เปิด 9.00-15.00 น.และทั้ง 2 ที่ก็มีที่จอดรถไว้บริการอย่างสะดวกด้วยครับ ว่าแล้วก็พาแม่ขับรถออกจากบ้านซึ่งระหว่างทางก็ให้แม่เล่าให้ฟังหน่อยว่า เมื่อก่อนที่แม่พาเราไปเที่ยวนั้นไปที่ไหนกันบ้าง? แล้วเราได้ทำวีรกรรมอะไรแสบๆ ไว้บางรึเปล่า? เชื่อเถอะครับ งานนี้เพลงในรถน่ะไม่จำเป็นเลย เม้าส์กันไปตลอดทางแน่นอน จากนั้นเมื่อถึงแล้ว ก็เดินควงแขนคุณแม่เลยครับชี้ชวนกันชิมอาหาร หรือจะเป็นขนมไทยๆ ที่ไม่ได้กินมานานก็เข้าท่า รับรองว่าทริปนี้เราจะจดจำกันแบบฮาๆ ไปอีกนานเลย

3. คุณแม่ชอบทำบุญ

ที่ เที่ยววันแม่สำหรับคุณแม่ที่ชอบทำบุญ ทำทาน เรามีที่เที่ยวที่อยากแนะนำ คือ พาแม่ไปทำบุญที่สถานสงเคราะห์ครับ ไม่ว่าะเป็นสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน สถานสงเคราะห์คนพิการซ้ำซ้อน หรือสถานสงเคราะห์สัตว์ก็ตาม เตรียมของไปช่วยเหลือหรือไปบริจากได้ยิ่งดี แล้วเชื่อไหมว่า แค่เราเอ่ยปากบอกเพื่อนๆ ไปว่าเราจะไปทำบุญมีใครอยากสมทบทุนไหม? จะมีอีกหลายคนเลยครับที่ยินดีร่วมสมทบทุนมาทำบุญด้วย เพราะการเดินทางไปทำบุญที่สถานสงเคราะห์นั้นไม่ได้เดินทางไปทำกันบ่อยนัก หรอกครับ ซึ่งเมื่อเราเลือกที่ที่อยากไปได้แล้ว ก็ชวนแม่ไปซื้อของเตรียมบริจากกันก่อนล่วงหน้าซักหนึ่งอาทิตย์ แล้ววันแม่เราขนกันไปทั้งครอบครัวเลยครับ โดยเฉพาะการพาเด็กๆ ไปด้วยนั้น เราสามารถสอนเค้าได้เลยว่า การให้ความช่วยเหลือคนที่เค้าไม่พร้อมเท่าเรานั้นเราทำไปเพื่ออะไร? และสิ่งที่เรานำมามอบให้พวกเขาในวันนี้นั้นนอกจากช่วยให้พวกเขาได้ของใช้ที่ จำเป็นแล้ว เรายังให้สิ่งที่สำคัญที่สุดซึงก็คือ ความรู้สึกดีๆ กับคนอื่นๆ โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนด้วยอย่างไรล่ะครับ รับรองว่าคุณแม่ซึ้งน้ำตาแตกแน่นอนครับ (กรุณาเตรียมทิชชู่ในรถอย่างน้อย 2 ม้วนให้พร้อมด้วย)

ที่เที่ยวที่ frank แนะนำนั้นจะเพื่อความสุขทางใจเป็นหลักนะครับ เพราะ frank มองว่า เป็นความสุขที่เราสามารถกลับมานึกถึงได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดก็ ตาม และเรายังทำให้กลายเป็นการเที่ยวสำหรับครอบครัวได้โดยที่ไม่ต้องนั่งรอช่วง เทศกาลได้อีกด้วย สุขสันต์วันแม่ฮะ

The post ที่เที่ยววันแม่แบบถูกใจแม่และไม่ต้องเหนื่อยมาก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.