รถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Mon, 10 Feb 2025 09:17:19 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico รถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ยางรถยนต์รักษ์โลก ยุคใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b9%8c%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2581 Mon, 10 Feb 2025 07:03:47 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=39433 ยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 1. การลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิต ใช้เทคโนโลยีการผลิต ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การออกแบบยางที่มีความต้านทานการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) ช่วยลดพลังงาน ยืดอายุการใช้งาน และการปล่อยก๊าซน้อยลงจากการขับขี่ ใช้วัสดุที่สามารถลดการใช้พลังงานในการผลิต เช่น น้ำมันพืช (Plant Oil

The post ยางรถยนต์รักษ์โลก ยุคใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

1. การลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิต

  • ใช้เทคโนโลยีการผลิต ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การออกแบบยางที่มีความต้านทานการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) ช่วยลดพลังงาน ยืดอายุการใช้งาน และการปล่อยก๊าซน้อยลงจากการขับขี่
  • ใช้วัสดุที่สามารถลดการใช้พลังงานในการผลิต เช่น น้ำมันพืช (Plant Oils) ข้อดีสามารถย่อยสลายได้ในทางชีวภาพมีผลกระทบน้อยกว่า ใช้แทนน้ำมันสังเคราะห์และน้ำมันแร่ในกระบวนการผลิตยาง

ยางรถยนต์รีไซเคิล

2. การลดการปล่อยสารเคมีอันตราย

  • ลดหรือกำจัดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สาร VOCs (Volatile Organic Compounds) กลุ่มของสารเคมีมีแนวโน้มระเหยเข้าสู่อากาศได้ง่าย ซึ่งเป็นมลพิษต่อสุขภาพสิ่งแวดล้อม
  • ใช้สารเติมแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตยาง ได้รับความนิยม เช่น ซิลิกา (Silica) ใช้แทนคาร์บอนแบล็ค (Carbon Black) น้ำยางธรรมชาติ (Natural Latex) ใช้แทนยางสังเคราะห์ เป็นต้น

3. ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน

  • พัฒนายางที่มีความต้านทานการหมุนต่ำ ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง ลดเสียงรบกวน และลดแรงสั่นสะเทือน และเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ในรถยนต์ไฟฟ้า เริ่มได้รับความนิยมในยางรถมากขึ้น
  • ยางประหยัดน้ำมันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยานพาหนะ (CO2) มีผลมาจากปรับปปรุงสูตรเนื้อยาง ควบคุมความดันในยาง และเทคโนโลยีการผลิตแตกต่างจากสไตล์ยางอื่นๆ

ยางที่สามารถรีไซเคิลได้

ยางรถยนต์รีไซเคิล

1. การรีไซเคิลยางใช้แล้ว

  • การนำยางที่หมดอายุการใช้งานมาทำเป็นยางใหม่หรือนำไปใช้ในงานอื่น เช่น การผลิตพื้นสนามเด็กเล่น ยางมะตอย หรือวัสดุก่อสร้าง เช่น ยางมะตอยผสมยางบดละเอียดทำให้ทนทานและลดเสียงรบกวน
  • กระบวนการรีไซเคิลที่ทันสมัยทำให้สามารถแยกส่วนประกอบของยางและนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้กระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงานและน้ำ และหลีกเลี่ยงการปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษ

2. การออกแบบยางให้รีไซเคิลง่าย

  • ใช้วัสดุที่สามารถแยกออกได้ง่ายเพื่อการรีไซเคิล การออกแบบยางเป็นชั้นๆ (Layered Design): ใช้การออกแบบยางที่มีชั้นประกอบชัดเจน เช่น ชั้นดอกยาง (Tread), ชั้นเข็มขัด (Belt), และชั้นโครงสร้าง (Casing) ที่สามารถแยกออกได้ง่ายในการรีไซเคิล
  • การใช้กาวที่ย่อยสลายได้: การใช้กาวที่สามารถแยกออกหรือย่อยสลายได้เมื่อเจอกับความร้อนหรือสารเคมีบางชนิด จะช่วยให้การแยกส่วนประกอบของยางเป็นไปได้ง่ายขึ้น
  • การพัฒนาโครงสร้างยางที่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้หลายครั้ง โดยผสมผสานวัสดุรีไซเคิลจากยางเก่าในกระบวนการผลิตยางใหม่ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่สามารถรีไซเคิลได้ง่าย

ยางที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน

ยางรถยนต์รีไซเคิล

1. การใช้วัสดุธรรมชาติ

  • ใช้ยางพาราแทนการใช้ยางสังเคราะห์ที่ผลิตจากปิโตรเลียม
  • พัฒนาวัสดุใหม่ที่มาจากพืช เช่น Guayule หรือ Dandelion ที่สามารถให้ยางได้

2. การใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตยางใหม่

  • นำยางใช้แล้วกลับมาผสมกับยางใหม่ในการผลิต
  • ใช้ส่วนผสมจากวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ เช่น ผงยางจากยางเก่าหรือวัสดุรีไซเคิลจากอุตสาหกรรมอื่น

3. การวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ที่ยั่งยืน

  • การวิจัยและพัฒนาวัสดุที่สามารถทดแทนยางแบบดั้งเดิมได้ โดยที่ยังคงคุณสมบัติและประสิทธิภาพ
  • การทดลองใช้วัสดุใหม่ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

ยางรถยนต์รีไซเคิล

ประโยชน์และผลกระทบ

  • ประโยชน์: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดของเสียจากการทิ้งยางเก่า
  • ผลกระทบ: ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต และการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ และการปรับตัวของตลาดและผู้บริโภคในการยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่

การพัฒนาและการใช้งานยาง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นก้าวสำคัญ ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์ การใช้ยางที่สามารถรีไซเคิลได้ และยางที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดของเสียที่เกิดจากการทิ้งยางเก่า

นอกจากนี้ การลดหรือกำจัดสารเคมีอันตรายและการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพเป็นต้นเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนายางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต

ยางรถยนต์รีไซเคิล

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่ เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid แพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ให้เพื่อนๆ เลือกซื้อยางสะดวกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์ และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดยังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ติดตามข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ที่ Tiktok @Tiresbidofficial และ YouTube @TiresBid

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม. ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของเพื่อนๆ ง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถยนต์มั่นใจทุกครั้งที่ไทร์บิด

ประกันรถยนต์ ออนไลน์

The post ยางรถยนต์รักษ์โลก ยุคใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
10 อันดับยางยอดฮิตสำหรับรถเมือง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ae%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Mon, 10 Feb 2025 06:38:39 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=39399 สำหรับเพื่อนๆ ที่ขับรถเก๋งและเน้นใช้งานในเมือง ว่ายางยี่ห้อไหนเหมาะสมที่สุด โดยเราจะตั้งจุดประสงค์กันก่อนคือ  ต้องการความนุ่มเงียบ และ ต้องการประหยัดน้ำมัน ส่วนที่เราจะโฟกัสลองลงมาคือเรื่องของ การใช้ความเร็ว การสาดโค้งแรงๆ เพราะคนใช้ในเมืองผมมองแล้วความเร็วไม่ได้สูง บวกกับไม่มีทางเข้าโค้งที่เยอะมาก ทำให้จะมีเรื่อง

The post 10 อันดับยางยอดฮิตสำหรับรถเมือง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับเพื่อนๆ ที่ขับรถเก๋งและเน้นใช้งานในเมือง ว่ายางยี่ห้อไหนเหมาะสมที่สุด โดยเราจะตั้งจุดประสงค์กันก่อนคือ  ต้องการความนุ่มเงียบ และ ต้องการประหยัดน้ำมัน ส่วนที่เราจะโฟกัสลองลงมาคือเรื่องของ การใช้ความเร็ว การสาดโค้งแรงๆ เพราะคนใช้ในเมืองผมมองแล้วความเร็วไม่ได้สูง บวกกับไม่มีทางเข้าโค้งที่เยอะมาก ทำให้จะมีเรื่องหลักๆอยู่ งั้นเรามาเริ่มกันเลยครับแบรนด์แรก ที่อยากจะแนะนำ

1. Yokohama Advan dB V553

1.)	Yokohama Advan dB V553

ยางประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง โดยที่เลือกรุ่นนี้เป็นอันดับแรก เพราะว่าด้วยความเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดกลุ่มพรีเมียม และมียางค่อนข้างครอบคลุมในทุกไซส์ทุกกลุ่มประเภทของรถเก๋ง โดยเน้นเรื่องหลักคือเ รื่องของเสียงที่มีความเงียบมากยิ่งขึ้นกว่าตัวเก่า V552 ทั้งเรื่องของลายดอกยาง และ เรื่องของหน้าสัมผัสพื้นผิวถนนทำให้ลดเสียงได้ดีขึ้นมากกว่า 15% แล้วที่สำคัญคือ ร่องรีดและลายดอกยางที่ทำงานรีดน้ำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าถึง 9%

2. Michelin Primacy 4

Michelin Primacy 4

ยางประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง ที่ยังคงเลือกรุ่นนี้ เพราะยังถือเป็นรุ่นรับจบในภาพรวมๆ นุ่มเงียบ ประหยัดพลังงาน และ อายุการใช้งานยาวจริงๆครับ เพราะฉะนั้นคิมเลยยังเลือกรุ่นนี้เป็นอันดับที่ 2 ที่อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ทุกคน

3. Bridgestone Turanza 6

Bridgestone Turanza 6

ยางประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง ถือเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ในตลาดกลุ่มพรีเมี่ยมปัจจุบันนะ ในบ้านเราแต่ด้วยที่ต้องมาไว้ที่ 3 เพราะว่าปี 2024 นี้ยังมีแค่ 5 ไซส์เท่านั้น สามารถไปดูรีวิวกันได้เลย ว่าข้อดียังไงและมีไซส์ไหน แต่ถ้า ไม่มีไซส์นี้อันดับสามผมยังให้เป็น T005A

4. Goodyear Assurance Maxguard

Goodyear Assurance Maxguard

ยางคุ้มค่า ทนทาน ใช้งานง่าย ซึ่งถามว่าทำไมถึงเป็น Goodyear Assurance Maxguard ต้องบอกก่อน ในอันดับ 4 ลงมามองเรื่องของความคุ้มค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น และ เทคโนโลยีที่เป็นรุ่นใหม่น่าใช้ โดย Goodyear Maxguard รุ่นนี้เรื่องความทน และ เรื่องการรีดน้ำเป็นเรื่องหลักเลย ที่ทำให้รู้สึกว่าใช้งานในเมืองนี้สบายๆ ราคาสบายกระเป๋าจับต้องได้ง่าย

5. Dunlop EC300 หรือ EC300+ หรือ LM705

Dunlop EC300

ยางประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง ทั้งสามรุ่นนี้ของ Dunlop ผมให้เป็นอันดับ 5 เลย เพราะถ้าเพื่อนๆ ที่บอกว่าอยากได้ความประหยัดน้ำมัน ใช้ได้เลยทั้ง EC300 และ EC300+ แต่ถ้า เพื่อนๆ อยากได้สมรรถนะที่ดีขึ้นมา นุ่มเงียบขึ้นมาอีกสเตปก็ใช้ Dunlop LM705 ได้เลย ไม่มีผิดหวังแน่นอน และ ราคาเบาขึ้นอีกด้วย ถือเป็นสามรุ่นที่เลือกใช้ได้เลยไม่ผิดหวัง

6. Bridgestone EP300 และ Michelin XM2+ และ Yokohama AE51

Bridgestone EP300

ยางราคาประหยัด นุ่มขับสบาย เป็นรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองมาก เพราะประหยัดพลังงาน และ อายุการใช้งานค่อนข้างนานและทน ถ้าพูดถึงว่าเป็นตัวจบได้ไหมก็เป็นตัวจบได้ แต่ทว่าด้วยราคาที่ค่อยข้างรุนแรงดุดันไม่เกรงใจใคร หรือรุ่นพรีเมียมนุ่มเงียบอย่างอันดับ 123  ทำให้สามรุ่นนี้มาเป็นอันดับที่ 6

7. Hankook Ventus Prime 4 K135

Hankook Ventus Prime 4 K135

ยางราคาประหยัด นุ่มขับสบาย ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ที่น่าใช้เลย เป็นแบรนด์ยางเกาหลี ที่ราคาย่อมเยาลงมาอีกกว่าอันดับ 4,5 ถ้าใช้งานในเมืองถือว่าสบายๆ เลย

8. Maxxis MAP5

Maxxis MAP5

ยางราคาประหยัด นุ่มขับสบาย ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและไว้ใจได้ สำหรับคนใช้งานในเมืองแน่นอน กับราคาที่จับต้องได้ง่าย แถมเป็นยางที่มีความนุ่ม ขับสบาย เหมาะกับการใช้งานแบบสมรรถนะไม่สูงด้วย แต่จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงอาจทำให้มีรอบเปลี่ยนที่เร็วขึ้นมานิดนึง ถือว่าสมเหตุสมผลกับราคาแน่นอน

9. Dayton DT30

Dayton DT30

ยางสปอร์ต ราคาประหยัด ขับขี่ทนทาน ต้องบอกว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ราคาประหยัดของ Bridgestone ครับ ซึ่ง ทำให้เรื่องคุณภาพ และมาตรฐานการผลิต ความทน ไว้ใจได้แน่นอนไม่ผิดหวัง และ เรื่องของราคาก็สุดแสนจะเป็นมิตรด้วยครับ แต่ที่ผมให้มาอันดับที่ 9 ก็เพราะว่าเนื่องจากเป็นยางลายสปอร์ตอาจจะไม่ค่อยตรง 100% ของการต้องการใช้งานในเมืองเท่าไหร่เพราะจะมีเสียงและมีความแข็งระดับหนึ่งครับ

10. Deestone RA01 OTANI KC2000

Deestone RA01 OTANI KC2000

ยางคุณภาพ ราคาเบา ต้องบอกว่าสองแบรนด์นี้ ถ้าถามว่าไม่ค่อยต่างกับอันดับ 8-9 เท่าไหร่ ถือว่าเป็นยางที่ใช้งานได้ดีและไม่มีปัญหา แต่ติดเรื่องเดียวก็คือเรื่องของอายุการใช้งาน อาจจะสั้นรอบเปลี่ยนอาจจะไวกว่าแบรนด์พรีเมียม กลุ่ม สมรรถนะเท่าไหร่

ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับ ที่ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วมีแบรนด์อีกหลายแบรนด์ที่ไม่ได้พูดถึง แต่ 10 อันดับนี้คือ เป็น 10 อันดับ ที่เพื่อนๆ หาซื้อได้ง่าย มีตัวแทนจำหน่ายค่อนข้างเยอะมากๆ และดูแลหลังการขายก็ง่าย สะดวก ถ้าใครไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์ไหน หรืออยากได้แบรนด์อื่นๆ เข้าได้ที่ www.tiresbid.com

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid แพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้เพื่อนๆ เลือกซื้อยางสะดวกเพิ่มมากขึ้น ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์ และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดยังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ติดตามข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ที่ Tiktok @Tiresbidofficial และ YouTube @TiresBid

หรือสามารถสอบถามเรื่องยางได้ผ่าน Line OA: @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชันยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม. ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถง่ายยิ่งขึ้น

ประกันรถยนต์ ออนไลน์

The post 10 อันดับยางยอดฮิตสำหรับรถเมือง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อยากได้แต้มใน Max Point ต้องทำยังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%a1maxpoint?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1maxpoint Thu, 26 Dec 2024 04:30:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=39031 ข่าวดี! สำหรับคนมีแอป Max Me สามารถสะสมแต้ม Max Point ได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ใช้บริการแอป Max me ในชีวิตประจำวัน สิทธิพิเศษนี้เฉพาะ สมาชิกบัตรแมกซ์ การ์ด ที่ใช้บริการเติมน้ำมันหรือแก๊ส LPG หรือใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่ร่วมโครงการ จะได้รับแต้ม Max Point เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ มีให้คุณเลือกเพียบ หากคุณต้องการสะสมแต้ม Max P

The post อยากได้แต้มใน Max Point ต้องทำยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ข่าวดี! สำหรับคนมีแอป Max Me สามารถสะสมแต้ม Max Point ได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ใช้บริการแอป Max me ในชีวิตประจำวัน สิทธิพิเศษนี้เฉพาะ สมาชิกบัตรแมกซ์ การ์ด ที่ใช้บริการเติมน้ำมันหรือแก๊ส LPG หรือใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่ร่วมโครงการ จะได้รับแต้ม Max Point เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ มีให้คุณเลือกเพียบ หากคุณต้องการสะสมแต้ม Max Point  เราจะพาไปดูวิธีการที่จะช่วยให้คุณได้แต้มใน Max Point ง่ายๆ ด้วยตนเอง

1. เติมน้ำมันพีที หรือแก๊ส LPG  ทุกสาขา

Max Point

การได้รับแต้มใน Max Point ขึ้นอยู่กับการใช้บริการจากผู้ให้บริการที่ร่วมรายการ ดังนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดในการสะสมแต้มคือการใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากพันธมิตรของ Max Point เช่น เติมน้ำมันหรือแก๊ส LPG  ทุกๆ 1 ลิตร จะได้ 1 แต้ม Max Point โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 

2. ใช้บริการผ่านร้านค้าที่ร่วมรายการ

Max Point

สะสมแต้ม Max Point ได้ง่ายๆ เมื่อใช้จ่ายผ่านร้านค้าภายในเครือพีที (PT) และร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านกาแฟคอฟฟี่เวิลด์ ศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ออโต้แบคส์ เป็นต้น ทุกครั้งเมื่อใช้จ่ายสามารถสะสมแต้มได้เลย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

3. ใช้จ่ายผ่าน Max Me Wallet

การใช้จ่ายผ่าน Max Me Wallet จะช่วยให้คุณสะสมแต้ม Max Point ได้เร็วขึ้น ระบบจะมีการให้แต้มจากการใช้จ่ายในร้านค้าหรือบริการที่ร่วมกับ Max Me เพียงแค่ใช้จ่ายตามปกติ คุณจะได้รับแต้มที่สะสมเข้าบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ

สะสมแต้ม Max Point ได้รับอะไรบ้าง?

Max Point

สิทธิประโยชน์ แต้ม Max Point นำมาแลกสิทธิพิเศษและของรางวัลได้มากมา  เอาใจทุกสายสะสมแต้ม ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดเติมน้ำมัน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ ส่วนลดสปา เสริมความงาม ส่วนลดอาหาร และ เครื่องดื่มต่างๆ สะสมแต้มง่ายๆ เพียงเติมน้ำมันหรือใช้จ่ายผ่านร้านค้าในเครือของพีที ให้คุณแลกแต้มได้สนุก เพลิดเพลิน ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

การสะสมแต้มใน Max Point เพื่อให้คุณรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ และของรางวัลมากมาย จากการใช้บริการและซื้อสินค้า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้สามารถเข้าไป ซื้อประกันรถยนต์ กับ bolttech ผ่านแอปฯ Max me ได้อีกด้วย มีแผนให้เลือกมากมาย อย่างเช่น ประกันรถชั้น 1 ประกันรถชั้น 2+ และ ประกันรถชั้น 3+ จากบริษัทประกันชั้นนำ รวมถึงมี ประกันออนไลน์อื่นๆ อีกเพียบ เช่น พ.ร.บ.รถยนต์ ประกันเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันสุขภาพ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ด้วยระบบที่ง่ายผ่านมือถือ พร้อมรับแต้ม Max Point หลังจากซื้อประกันผ่าน Max me ด้วยน้า เข้ามาซื้อกันได้เลย!

The post อยากได้แต้มใน Max Point ต้องทำยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ส่องรถออกใหม่ ที่งาน Motor Expo 2024 https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88motorexpo2024?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588motorexpo2024 Fri, 29 Nov 2024 14:40:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38794 มัดรวมโปรเด็ด ที่งาน Thailand International Motor Expo 2024 "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41" ที่จัดโชว์รูมรถครั้งยิ่งใหญ่ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นงานที่หลายคนจับตามองว่า จะมีรถยนต์รุ่นใหม่รุ่นไหนมาเปิดตัวบ้าง ทั้งรถยนต์ไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้า วันนี้ bolttech ได้ร

The post ส่องรถออกใหม่ ที่งาน Motor Expo 2024 appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
มัดรวมโปรเด็ด ที่งาน Thailand International Motor Expo 2024 "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41" ที่จัดโชว์รูมรถครั้งยิ่งใหญ่ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นงานที่หลายคนจับตามองว่า จะมีรถยนต์รุ่นใหม่รุ่นไหนมาเปิดตัวบ้าง ทั้งรถยนต์ไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้า วันนี้ bolttech ได้รวมลิสต์รถยนต์เปิดตัวมาไว้ให้แล้ว แต่ละรุ่นมีโปรเด็ดๆ ราคาพิเศษ เข้ามาชมและทดลองนั่งได้เลย รีบพุ่งตัวมาด่วน !!

1) Geely EX5

Geely EX5

รถยนต์ไฟฟ้า ไฮไลท์ใหม่รุ่นล่าสุด เป็นรุ่นพวงมาลัยขวาเป็นที่แรกของโลก อย่าง Geely EX5 (จีลี อีเอกซ์ 5) ดีไซน์ภายนอกรูปทรงเพรียวบาง ดีไซน์สุดล้ำ ระบบไฟหน้าแบบ LED และไฟ DRL C-shaped ส่วนไฟท้ายเป็น LED พร้อมสปอยเลอร์หลังคา และมีพวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน 2 ก้าน แผงคอนโซลกลางเป็นชั้นเชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า ส่วนเบาะนั่งโดยสารกว้างสบาย ปรับเบาะเอนได้

รุ่นล่าสุดจาก Geely มีให้เลือก 2 ความจุแบตเตอรี ได้แก่ ขนาด 49.52 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 60.22 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลัง 215 แรงม้า ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 175 กม./ชม. สามารถชาร์จไฟฟ้าวิ่งไกลสูงสุด 415-505 กม.

โปรพิเศษเฉพาะในงาน Motor Expo 2024

  • Geely EX5 ราคาเริ่มต้นในรุ่น Pro พิเศษเหลือ 859,000 บาท จากราคา 899,000 
  • Geely EX5 ราคาเริ่มต้นในรุ่น Max พิเศษเหลือ 949,000 บาท จากราคา 989,000 

*โปรโมชั่นในงาน Thailand International Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 67 เท่านั้น

2) Deepal E07

Deepal E07

DEEPAL E07 รถยนต์ EV อเนกประสงค์ ดีไซน์สุดล้ำ ผสานความสวยงามและความแข็งแกร่งที่ลงตัว แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 89.98 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สมรรถนะดีเยี่ยม รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) มอเตอร์คู่ให้กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (RWD) มาพร้อมมอเตอร์ให้กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ไกลถึง 640 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

รถยนต์ไฟฟ้า DEEPAL E07 เต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย ทั้งระบบช่วยจอดอัจฉริยะ โหมดเฝ้าระวังความผิดปกติรอบๆ ตัวรถ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ แถมยังมีพื้นที่นั่งสบายๆ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ คุ้มค่าสำหรับคนใช้รถไฟฟ้า

ราคา DEEPAL E07 ในแต่ละรุ่น

  • DEEPAL E07 Plus: ราคา 1,699,000 บาท
  • DEEPAL E07 Performance AWD: ราคา 2,099,000 บาท
  • DEEPAL E07 Plus Limited Edition: ราคา 1,890,000 – 1,990,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)
  • DEEPAL E07 Performance AWD Limited Edition: ราคา 2,290,000 – 2,390,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)
  • DEEPAL E07 Legacy: ราคา 2,990,000 – 3,090,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

3) Xpeng X9

Xpeng X9

Xpeng พร้อมเปิดตัว X9 ในงาน Motor Expo 2024 แล้ว! ม้ามืดในตลาด MPV ดีไซน์ใหญ่กว่าเอสยูวี หรือรถเก๋งทั่วไป ออกแบบมาเอาใจสายครอบครัว ใช้งานได้หลากหลาย ฮไลท์ของรุ่นนี้ คือ ภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง หรูหรา รองรับระบบเทคโนโลยี AI และวัสดุตกแต่งรอบคันสไตล์โมเดิร์น ด้วยไม้ และโลหะสีเงินที่ดูสบายตา

ระบบกำลัง มีให้เลือกทั้ง 1 และ 2 มอเตอร์ แบบ RWD และ AWD โดยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังถึง 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 84.5 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 610 km ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC อีกหนึ่งรุ่น วิ่งได้ไกลสุด 702 กม. (CLTC) แบตเตอรีใหญ่สุด 101 kWh พร้อมการชาร์จเร็วด้วยแบตเตอรี่ 800v รองรับกำลังสูงสุด 330kW ยกระดับความหรูหราไปอีกขั้น

  • XPeng X9 เปิดราคาอย่างเป็นทางการในงาน 2,790,000 บาท

4) Volvo EX90

Volvo EX90

เตรียมพบกับรุ่นพี่ใหญ่สวีเดน Volvo EX90 เอสยูวีไฟฟ้า 100% 3 แถว 7 ทั่นั่ง ที่งาน Motor Expo 2024 รถเอสยูวีพลังไฟฟ้าแบบ 7 ที่นั่ง Volvo EX90 (โวลโว อีเอกซ์ 90) มีระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ ทั้งการขับขี่ การเบรก การจอดรถ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 111 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 380 กิโลวัตต์ 517 แรงม้า และแรงบิด 910 นิวตันเมตร

ส่วนรุ่น Twin Motor Performance ให้อัตราการเร่งจากศูนย์ถึงร้อยใน 4.9 วินาที และรุ่น Twin Motor อัตราเร่งจากศูนย์ถึงร้อยใน 5.9 วินาที กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 300 กิโลวัตต์ 408 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร บอกเลยว่า เน้นความสะดวก สบาย มาพร้อมระบบเซนเซอร์ LIDAR, กล้อง และเรดาร์ วิ่งได้ไกลสุด 600 กม../การชาร์จ 1 ครั้ง (WLTP)

โปรพิเศษเฉพาะในงาน Motor Expo 2024

  • XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ราคาพิเศษ 3,990,000 บาท (จากปกติ 4,690,000 บาท)
  • XC90 Recharge Plus T8 Plug-in Hybrid Dark ราคาพิเศษ 3,590,000 บาท (จากปกติ 4,090,000 บาท)

*โปรโมชั่นในงาน Thailand International Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 67 เท่านั้น

5) Toyota Camry

Toyota Camry

All-new Toyota Camry 2025 มีเฉพาะไฮบริด ที่งาน Motor Expo 2024 ทางเลือกสำหรับคนรักรถไฮบริด ดีไซจ์นภายนอก ด้วยกระจังหน้าแบบ Hammerhead ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้าย Full LED ดีไซจ์นทันสมัย ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (Li-ion) ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า

มีตัวเลือก 3 รุ่นย่อย HEV Smart, HEV Premium และ HEV Premium Luxury มีสีภายนอก 4 สี คือ เงิน Precious Metal ใหม่, ขาว Platinum White Pearl, เทา Cement Gray Metallic ใหม่ และดำ Attitude Black Mica

ราคา ALL NEW TOYOTA CAMRY 2025 ในแต่ละรุ่น

  • ALL NEW TOYOTA CAMRY HEV PREMIUM LUXURY อยู่ที่ 1,789,000 บาท
  • ALL NEW TOYOTA CAMRY HEV PREMIUM อยู่ที่ 1,639,000 บาท
  • ALL NEW TOYOTA CAMRY HEV SMART อยู่ที่ 1,455,000 บาท

*โปรโมชั่นส่วนลด ของแถมที่ร่วมรายการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูธ Toyota ในงาน Thailand International Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 67

6) BYD Sealion 6 DM-I

BYD Sealion 6 DM-I

รถ SUV 5 ที่นั่งขนาดใหญ่ระดับ C-SUV อย่าง BYD Sealion 6 DM-I รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของ BYD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 18.3 kWh ใช้โหมดไฟฟ้า 100% วิ่งได้ระยะทาง 92 กิโลเมตร แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ +ไฟฟ้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 1,092 กิโลเมตร ขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 92 กิโลเมตร และเมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ วิ่งได้ไกลถึง 1,092 กิโลเมตร/การเติมน้ำมันหนึ่งถัง

มาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ได้แก่ ระบบป้องกันออกนอกเลน ระบบช่วยขับอัตโนมัติ ระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนภัยรถที่มาจากมุมอับ/ด้านข้าง ระบบเบรกอัตโนมัติ เป็นต้น ช่วยให้คุณขับขี่ง่าย เน้นความปลอดภัยสูง ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ BYD

โปรพิเศษเฉพาะในงาน Motor Expo 2024

  • Dynamic ราคาพิเศษเหลือ 969,900 บาท จากราคา 999,900 บาท
  • Premium ราคาพิเศษเหลือ 1,069,900 บาท จากราคา 1,099,900 บาท

*โปรโมชั่นในงาน Thailand International Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 67 เท่านั้น

7) Neta V-II

Neta V-II

มาดูทางด้าน Neta V-II กันบ้าง เป็นอีกหนึ่งรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง รถยนต์ไฟฟ้า 100% ดีไซน์เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ฟังก์ชันจัดเเน่น มาพร้อมระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน ที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ โดดเด่นด้วยหน้าจอ ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ

โดดเด่นด้วยสมรรถนะ มอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มีให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น LITE และรุ่น Smart

ราคารถยนต์ไฟฟ้า NETA V-II ในแต่ละรุ่น

  • รุ่น LITE ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น SMART ราคา 569,000 บาท

*โปรโมชั่นส่วนลด ของแถมที่ร่วมรายการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูธ NETA V ในงาน Thailand International Motor Expo 2024 วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 67

ซื้อรถใหม่แล้ว รับโปรโมชั่นโดนใจแล้ว อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ กับ bolttech.co.th ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ มีแผนให้เลือกเพียบ แนะนำออกรถใหม่ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอุ่นใจที่สุด เลือกซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ได้ หรือเข้ามาซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ ราคาพิเศษ เทียบแผนเองได้ จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ หากใครที่กำลังมองหาประกันรถราคาถูก เข้ามาเช็กเบี้ยกับ bolttech กันได้เลย !!

ประกันรถยนต์

The post ส่องรถออกใหม่ ที่งาน Motor Expo 2024 appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ข้อควรรู้ก่อนทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%992%e0%b8%9a%e0%b8%a7%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25992%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2581 Mon, 25 Nov 2024 07:43:06 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38663 ประกันรถยนต์ ถือเป็นประกันภัยที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกคน เนื่องจากประกันรถจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งค่าซ่อมรถและค่ารักษากรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากรถ และความคุ้มครองอื่นๆ ตามที่ระบุในกรมธรรม์ เป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน อย่างประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นอีกหนึ่งแผนประกันภั

The post ข้อควรรู้ก่อนทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ประกันรถยนต์ ถือเป็นประกันภัยที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกคน เนื่องจากประกันรถจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งค่าซ่อมรถและค่ารักษากรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากรถ และความคุ้มครองอื่นๆ ตามที่ระบุในกรมธรรม์ เป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน อย่างประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นอีกหนึ่งแผนประกันภัยที่ยอดฮิต เพราะมีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะรถชนรถแบบมีคู่กรณี รถสูญหาย รถไฟไหม้ เรียกว่าให้ความคุ้มครองที่อุ่นใจเลยทีเดียว

**แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ ควรศึกษาความคุ้มครองให้ดีๆ เพื่อจะได้เลือกซื้อให้ตอบโจทย์ตัวคุณมากที่สุด แล้วนี่ก็คือ สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถชั้น 2 บวก**

ประกันรถชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2 บวก หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองรถของผู้เอาประกันภัย ทั้งรถหาย ไฟไหม้  เฉพาะบางแผนเท่านั้นที่คุ้มครองรถน้ำท่วม และ คุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ หากคู่กรณีเป็นรถยนต์หรือยานพาหนะทางบก ซ่อมให้ทั้งรถของคุณและรถคู่กรณี รวมถึงให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก ทั้งชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน พร้อมทั้งชดเชยค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และการประกันตัวผู้ขับขี่หากเกิดคดีความที่ต้องขึ้นศาลอีกด้วย

ขออธิบายง่ายๆ เพื่อความเข้าใจมากขึ้น ดังต่อไปนี้

  • ความคุ้มครองอุบัติเหตุกรณีรถชนรถ หรือรถชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่รวมถึงการชนกับสิ่งของอื่น เช่น ต้นไม้หรือสิ่งกีดขวาง
  • ความคุ้มครองกรณีรถหายและไฟไหม้ ประกันชั้น 2+ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายตามวงเงินประกันที่กำหนด
  • คุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • ความคุ้มครองในกรณีน้ำท่วมรถ ให้ความคุ้มครองเฉพาะบางแผนที่ระบุในกรมธรรม์เพิ่มเติม หากเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เช่น น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินไหว พายุ เกิดขึ้นอย่างฉับพลันสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์โดยที่ไม่สามารถนำรถออกจากพื้นที่ประสบภัยได้ และทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย

เปรียบเทียบประกันรถชั้น 1 / 2+/ 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

  • ประกันรถยนต์ชั้น 1 : คุ้มครอง ครอบคลุม ได้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม 
  • ประกันรถยนต์ชั้น 2+ : คุ้มครองอุ่นใจ ในราคาคุ้มค่า คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ เฉพาะมีคู่กรณีเท่านั้น ครอบคลุมรถสูญหาย ไฟไหม้ คุ้มครองน้ำท่วม (เฉพาะบางแผน)
  • ประกันรถยนต์ชั้น 3+ : ราคาประหยัด คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น ซ่อมรถเรา ซ่อมรถคู่กรณี คุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 2+ ขึ้นอยู่กับอะไร?

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ค่าเบี้ยประกันชั้น 2+ สามารถคำนวณได้หลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับรุ่นและอายุของรถ การระบุอายุของผู้ขับขี่ การติดกล้องหน้ารถ ส่วนลดประวัติดี รวมถึงการระบุค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เป็นต้น ดังนั้นผู้ขับขี่ควรศึกษาหรือสอบถามจากบริษัทฯ ประกันภัย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เหมาะสมกับตนเอง หรือเข้ามาเช็กเบี้ยประกันผ่านออนไลน์ได้ง่ายๆ ที่ bolttech.co.th มีแผนให้เลือกมากมาย ราคาคุ้มค่า

ข้อยกเว้นการเคลมประกันชั้น 2+ ที่คุณควรรู้

  • ประกันรถชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น การถอยชนรั้ว ครูดฟุตบาท เสาไฟฟ้า ประตูบ้าน กำแพง ถังขยะหน้าบ้าน หรือจะเป็นการถูกชนโดยไม่สามารถระบุตัวผู้ขับขี่ได้ 
  • ประกันรถชั้น 2+ บางแผนจะไม่คุ้มครองความเสียหายกรณีน้ำท่วม แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยศึกษารายละเอียดความคุ้มครองก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยทุกครั้ง
  • ประกันรถชั้น 2+ ไม่คุ้มครองหากใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขนของผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ขนยาเสพติด ขนของผิดกฏหมายทุกประเภท เป็นต้น
  • ประกันรถชั้น 2+ ไม่คุ้มครองหากใช้รถผิดประเภท โดยนำรถยนต์ส่วนตัวไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เช่น การนำรถยนต์ส่วนตัวไปขนส่งสินค้า รับส่งผู้โดยาร หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธความคุ้มครองได้
  • ประกันรถชั้น 2+ ไม่คุ้มครองกรณีเมาแล้วขับ กรณีพบว่า ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ
  • ประกันรถชั้น 2+ การดัดแปลงสภาพรถเพื่อเอาไปใช้ในการแข่งขันความเร็ว รวมถึงไม่คุ้มครองหากไม่แจ้งการดัดแปลงตัวรถให้ประกันทราบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาบริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ ยกเว้นกรณีที่ดัดแปลงเพื่อเพิ่มสมรรถภาพ เช่น ยางรถยนต์ ระบบเบรก โช๊คอัพ เป็นต้น สามารถแจ้งให้บริษัทประกันทราบล่วงหน้าได้ โดยบริษัทประกันอาจมีเงื่อนไขในการรับประกันภัยเพิ่มเติม เป็นตามที่เงื่อนไขบริษัทฯ กำหนด

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร ควรทำเมื่อใด?

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถชั้น 2 บวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกันภัยรถยนต์ในราคาประหยัด แต่ยังคงมีความคุ้มครองที่จำเป็นในกรณีอุบัติเหตุรถชนรถ ทั้งรถผู้เอาประกันภัยและรถคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองรถผู้เอาประกันภัยกรณีรถสูญหาย รถไฟไหม้ ประกันประเภทนี้เหมาะกับรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และขับขี่ชำนาญพอสมควร ข้อดีประกันรถยนต์ชั้น 2 บวก คือ ทำให้คุณจ่ายเบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 1 อีกด้วย

การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มครองที่หลากหลาย คุ้มค่า แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันภัยทุกครั้ง ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าจะซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี แนะนำเข้ามาเลือก ซื้อประกันรถชั้น 2+ ได้ที่ bolttech.co.th คุ้มครองอุ่นใจ ทั้งอุบัติเหตุรถชนรถ รถสูญหาย รถไฟไหม้ บางแผนคุ้มครองรถน้ำท่วม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที พร้อมรับสิทธิพิเศษเพียบ ไม่ควรพลาด !!

ประกันรถยนต์ ชั้น 2+

The post ข้อควรรู้ก่อนทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b6%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Mon, 18 Nov 2024 05:04:14 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38485 การซื้อรถคันแรก ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงบประมาณ สเปกของรุ่นรถที่คุณสนใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่การซื้อรถคันแรก เราควรจะตัดสินใจซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง แบบไหนดีกว่ากัน?  บอกเลยว่า ทั้งสองทางเลือกนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน  และตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกันด้วย เพื่อช่วยคุณตั

The post ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การซื้อรถคันแรก ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงบประมาณ สเปกของรุ่นรถที่คุณสนใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่การซื้อรถคันแรก เราควรจะตัดสินใจซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง แบบไหนดีกว่ากัน?  บอกเลยว่า ทั้งสองทางเลือกนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน  และตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกันด้วย เพื่อช่วยคุณตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้น มาอ่านบทความนี้กันเลย

ซื้อรถมือหนึ่ง

ซื้อรถมือหนึ่ง

รถยนต์มือหนึ่ง เป็นรถยนต์สภาพใหม่เอี่ยมที่เพิ่งผลิตออกมาจากโรงงาน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหา มาพร้อมกับ การรับประกันคุณภาพ สามารถเลือกได้หลากหลายออฟชั่น

ข้อดี

  • สภาพสมบูรณ์ และไม่มีประวัติการใช้งาน
  • มีการรับประกันจากผู้ผลิต
  • เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
  • เลือกออฟชั่นเสริมได้ตามใจชอบ

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • ต้องรอรถยนต์จากศูนย์

ซื้อรถมือสอง

ซื้อรถมือสอง

รถยนต์มือสอง เป็นรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาบ้าง มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถคนเก่า บางคันยังมีสภาพดีเพราะเจ้าของเดิมต้องการเปลี่ยนรถ มีราคาย่อมเยาว์กว่ารถยนต์มือหนึ่ง

ข้อดี

  • ราคาที่ถูกกว่า
  • ค่าเสื่อมราคาที่น้อยลง
  • ประหยัดค่าเบี้ยประกันภัย
  • สามารถซื้อรถรุ่นที่มีอุปกรณ์และคุณสมบัติสูงขึ้นได้

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงกว่า
  • อาจได้รถยนต์ที่สภาพไม่ดี หากดูรถไม่เป็น

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อรถมือสอง ควรซื้อประกันรถชั้นไหนดี?

ซื้อรถมือหนึ่ง ซื้อรถมือสอง

การเลือก ซื้อรถมือหนึ่ง หรือ ซื้อรถมือสอง นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และความสะดวกของแต่ละคน หากคุณต้องการรถที่มีสภาพใหม่เอี่ยม พร้อมการรับประกันและเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ รถมือหนึ่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัด และพร้อมที่จะดูแลบำรุงรักษาเพิ่มเติม รถมือสองอาจเป็นตัวเลือกสำหรับคุณ แนะนำให้คุณตรวจสอบรถมือสองให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจด้วย

แล้วไม่ว่าจะซื้อรถแบบไหน ก็ต้องไม่ลืม ซื้อประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุถชนร หรือเหตุไม่คาดฝันอย่างรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม มีหลากหลายแผนให้เลือกมากมาย เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกเพียบ ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์ เช็กเบี้ยฟรี บนหน้าเว็บไซต์ที่ bolttech.co.th เท่านั้น

ประกันรถยนต์ ออนไลน์

The post ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ทำไมประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%991%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25991%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588 Mon, 11 Nov 2024 10:16:50 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38389 สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ การขับรถอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากบางคนยังขาดประสบการณ์ในการขับขี่ หรือขาดประสบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และ มือใหม่หัดขับยังมีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถมายาวนาน  แต่ถ้าคุณมีประกันรถชั้น 1 สามารถเป็นตัวช่วยให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ทำให้ค

The post ทำไมประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ การขับรถอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากบางคนยังขาดประสบการณ์ในการขับขี่ หรือขาดประสบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และ มือใหม่หัดขับยังมีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถมายาวนาน  แต่ถ้าคุณมีประกันรถชั้น 1 สามารถเป็นตัวช่วยให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณอุ่นใจตลอดการขับรถ      

1. ประกันรถชั้น 1 ความคุ้มครองได้มากที่สุด

ประกันรถชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถชนแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี  รถสูญหาย รถไฟไหม้ หรือรถน้ำท่วม นอกจากนี้ยังคุ้มครองทั้งความเสียหายต่อรถของผู้เอาประกัน และความเสียหายต่อบุคคลที่สาม เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ ไม่ต้องกังวลหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นแผนประกันภัยที่อุ่นใจมากที่สุด

2. ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี

ประกันรถชั้น 1

มือใหม่หัดขับ มักมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่า เพราะไม่ค่อยมีทักษะการขับขี่ที่ชำนาญ หรือ จอดรถยังไม่เป็น เสี่ยงทำให้ขับรถชนได้ง่าย โดยเฉพาะเป็น การชนแบบไม่มีคู่กรณี นั่นหมายความว่า อุบัติเหตุที่ไม่ใช่เกิดจากรถชนรถ ยกตัวอย่างเช่น ขับรถชนรั้วบ้าน กำแพง เสาไฟฟ้า เป็นต้น แต่ถ้าคุณมีประกันชั้น 1 จะครอบคลุมการชนแบบไม่มีคู่กรณี โดยจะดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการซ่อมรถของคุณ ต่างจากประกันชั้นอื่นๆ ที่ไม่คุ้มครองในส่วนนี้

3. ประกันรถชั้น 1 เลือกซ่อมศูนย์ได้ อุ่นใจกว่า

ประกันรถชั้น 1

ใครที่เพิ่งขับรถใหม่ๆ อาจกังวลใจเรื่องการเคลม แนะนำซื้อประกันชั้น 1 ถือเป็นทางเลือกที่ดีเลย เนื่องจากประกันชั้น 1 สามารถเลือกซ่อมศูนย์ได้ ดูแลอุ่นใจกว่าซ่อมอู่ ให้บริการช่วยเหลือตามขั้นตอน ตั้งแต่การติดต่อเคลม การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ประกัน และ การรายงานความคืบหน้ารถที่ส่งซ่อม มั่นใจเรื่องอะไหล่แท้ ไม่เสี่ยงโดนหลอก หากคุณเป็นมือใหม่หัดขับที่กังวลเรื่องการเคลม หรือ อยากดูแลรถใหม่ให้ดีที่สุด แนะนำซื้อประกันชั้น 1 ไว้เลย

4. ประกันชั้น 1 อาจมีบริการเสริมต่างๆ ที่ช่วยคุณได้

ประกันรถชั้น 1

ประกันชั้น 1 มักมาพร้อมกับ บริการเสริมต่างๆ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน บริการเรียกรถยกหรือรถลาก เป็นต้น ถือเป็นบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่จำเป็นสำหรับมือใหม่หัดขับ ที่อาจยังไม่ชำนาญในการแก้ปัญหาเรื่องรถยนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง บริการเหล่านี้จะช่วยให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

**อย่างไรก็ตามในแต่ละบริษัทฯ ประกันภัยจะมีความคุ้มครองหรือบริการเสริมที่ต่างกันไป แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง**

5. ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองรถสูญหาย รถน้ำท่วม

ประกันรถชั้น 1

เพราะมือใหม่หัดขับ อาจยังไม่คุ้นเคยกับการเลือกจอดรถในสถานที่ที่ปลอดภัย หรือบางคนอาจจะเผลอลืมล็อครถไว้ เสี่ยงโดนเหล่ามิจฉาชีพขโมยรถได้ แต่ถ้าคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองกรณีรถสูญหายจากการโจรกรรม รวมถึง คุ้มครองกรณีรถน้ำท่วม ทำให้คุณใช้งานรถได้แบบอุ่นใจ 

การเลือก ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี รถสูญหาย รถไฟไหม้ หรือรถน้ำทว่ม และบางบริษัทฯ ประกันภัยอาจได้มีบริการเสริมต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ถ้าคุณกำลังสนใจ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ bolttech เบี้ยราคาดี คุ้มครองคุ้มค่ามากที่สุด มีหลากหลายแผนให้เลือก จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ได้ หรือ เข้ามาเช็กเบี้ยฟรีบนหน้าเว็บไซต์ ที่ bolttech.co.th มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำทุกท่าน

ประกันรถยนต์ชั้น 1

The post ทำไมประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ EV https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b8%96%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9e%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2 Mon, 11 Nov 2024 06:35:08 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38337 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระเเสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่สร้างมลพิษทางอากาศ แถมช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้น ไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรมากมาย มีหลายคนสนใจอยากใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะคนที่กำลัง

The post รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ EV appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระเเสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่สร้างมลพิษทางอากาศ แถมช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้น ไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรมากมาย มีหลายคนสนใจอยากใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าคันใหม่ วันนี้ bolttech ได้รวบรวม คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถไฟฟ้า มาฝากทุกคน บทความนี้มีคำตอบครับ

1) รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร ?

คำตอบ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊ส โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถไฟฟ้า

2) รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท ?

คำตอบ รถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  • รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (Battery Electric Vehicle หรือ BEV) ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งหมด ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน
  • รถยนต์ไฮบริด แบบชาร์จไฟได้ (Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือ PHEV) ใช้ทั้งแบตเตอรี่และเครื่องยนต์สันดาป สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากแหล่งไฟฟ้าและใช้เครื่องยนต์เมื่อแบตเตอรี่หมด
  • รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle หรือ HEV) ใช้พลังงานจากทั้งแบตเตอรี่และน้ำมัน แต่ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากภายนอก ต้องอาศัยพลังงานจากเครื่องยนต์เพื่อชาร์จ

3) ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟฟ้าแพงไหม ?

คำตอบ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประหยัดกว่าการเติมน้ำมัน โดยเฉลี่ยแล้วการชาร์จที่บ้านมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1-3 บาทต่อกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าและความจุของแบตเตอรี่ สำหรับการชาร์จที่สถานีชาร์จด่วน ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นเล็กน้อย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถไฟฟ้า

4) รถยนต์ไฟฟ้า ต้องบำรุงรักษาอย่างไร ?

คำตอบ รถยนต์ไฟฟ้าต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์สันดาปที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือบำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิง อะไหล่ที่ต้องดูแลส่วนใหญ่จะเป็นแบตเตอรี ระบบเบรก และยาง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานควรตรวจเช็คระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

5) รถยนต์ไฟฟ้า มีความปลอดภัยไหม ?

คำตอบ รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการออกแบบมาให้ปลอดภัย เช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รวมถึงมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี ส่วนใหญ่ได้รับการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยทั้งการชนและการระเบิดของแบตเตอรี เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

6) รถยนต์ไฟฟ้า คุ้มค่าหรือไม่ ?

คำตอบ ถึงแม้ว่า ราคาซื้อเริ่มต้นของรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า และการลดการปล่อยมลพิษ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว  โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เดินทางระยะไกลหรือใช้รถยนต์บ่อยครั้ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์

รถยนต์ไฟฟ้า (EV Cars) เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการยานยนต์ทั่วโลก การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้านอกจากช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว  ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ต้องไม่ลืมซื้อประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองตัวรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ได้ที่ bolttech.co.th มีหลากหลายแผนให้เลือก รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที เช็กเบี้ยฟรี บนหน้าเว็บ พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกเพียบ

ประกันรถยนต์ ออนไลน์

The post รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ EV appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีดูแลรถและยางรถ หลังจากน้ำท่วม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a1 Mon, 04 Nov 2024 09:32:49 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38267 เรื่องปัญหาน้ำท่วมในโซนภาคเหนือที่ผ่านมา ถือว่าหนักหน่วงกันเลยทีเดียว บางพื้นที่ในจังหวัดปริมณฑลหรือกรุงเทพมหานครก็ได้รับผลกระทบไปด้วย และมีหลายคนที่ใช้รถเจอกับปัญหาน้ำท่วมรถ รถสตาร์ทไม่ติด บางคนต้องจ่ายค่าซ่อมรถแพงด้วย วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำ เรื่องการดูแลรถยนต์ และ ยางรถยนต์ หลังจากปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้นำรถกลับมาใช้ง

The post วิธีดูแลรถและยางรถ หลังจากน้ำท่วม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เรื่องปัญหาน้ำท่วมในโซนภาคเหนือที่ผ่านมา ถือว่าหนักหน่วงกันเลยทีเดียว บางพื้นที่ในจังหวัดปริมณฑลหรือกรุงเทพมหานครก็ได้รับผลกระทบไปด้วย และมีหลายคนที่ใช้รถเจอกับปัญหาน้ำท่วมรถ รถสตาร์ทไม่ติด บางคนต้องจ่ายค่าซ่อมรถแพงด้วย วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำ เรื่องการดูแลรถยนต์ และ ยางรถยนต์ หลังจากปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้นำรถกลับมาใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม เสียค่าซ่อมรถให้น้อยที่สุด

หลังน้ำท่วม ห้ามสตาร์ทรถ! ตรวจระบบเครื่องยนต์ก่อนทุกครั้ง

วิธีดูแลยางรถ เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม

อันดับแรกที่ห้ามทำหลังน้ำท่วมรถ คือ ห้ามสตาร์ทรถ เพราะไม่แน่ใจเลยว่า น้ำได้ซึมเข้าไปในเครื่องยนต์หรือไม่  หากน้ำไปผสมกับน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ของคุณพังได้ ดังนั้นอย่าสตาร์ททันทีหลังแช่น้ำไว้ สิ่งที่ควรทำคือ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง โดยทำการไล่น้ำ ไล่ความชื้นออก แล้วเติมน้ำมันเครื่องใหม่เข้าไป ส่วนที่สองคือ แผงไฟฟ้า หากเราสตาร์ททันที ทำให้ระบบไฟฟ้าช็อต ควรทำความสะอาดให้แห้งก่อน และตรวจเช็คให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าไฟช็อตแล้วเกิดไฟลุก อาจจะส่งผลต่อรถยนต์ในส่วนอื่นเพิ่มเติม เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถได้ 

เปลี่ยนของเหลวทันที ป้องกันอะไหล่เสียหายระยะยาว

อันดับที่สอง คือ การใช้รถลากหรือรถจูง เพื่อนำรถไปอู่ซ่อมรถที่อยู่ใกล้คุณที่สุด เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และเปลี่ยนของเหลวทั้งหมด เพราะในส่วนอื่นๆ อาจจะมีน้ำเข้าไปเจือปนได้ อาจจะส่งผลเสียในส่วนของอะไหล่อื่นๆ ส่วนนี้คุณควรที่จะวางแผนตรวจเช็คในระยะยาวเพราะอุปกรณ์ อะไหล่ต่างๆ อาจจะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงได้ กรณีที่แช่น้ำทิ้งเอาไว้นานๆ เช่น ระบบเบรก โช้คอัพ เกียร์  คลัช เฟืองท้าย เป็นต้น

ตรวจสภาพยางหลังน้ำท่วม ระวังของมีคมทำแก้มยางเสียหาย

วิธีดูแลยางรถ เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม

อันดับที่สาม คือ ตรวจสอบยางรถยนต์ อยากแนะนำเลยก็คือ ทั้งภายนอกยางรถ ยางด้านนอก ยางด้านใน เพราะกรณีน้ำท่วมอาจจะมีสิ่งของมีคมไหลผ่าน ทำให้เกิดการบาดแก้มยางหรือหน้ายางได้ อาจจะต้องตรวจสภาพภายนอกก่อนว่า สภาพยางของเรายัง 100% ปกติเหมือนเดิมไหม หากโดนบาดแล้วนั้นสึกถึงโครงยางหรือใช้งานได้ต่อไหม ถ้าสภาพภายนอกไม่มีปัญหาอะไร สามารถเช็กในส่วนต่อมาได้เลย

เช็กสภาพจุ๊บลมยางหลังน้ำท่วม เพื่อป้องกันน้ำซึมอันตราย

วิธีดูแลยางรถ เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม

อันดับที่สี่ ตรวจสอบจุ๊บลมยาง เป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่กักเก็บลมยาง ต้องเช็คสภาพด้วยว่ายังมีสภาพสมบรณ์หรือไม่ โดยเฉพาะที่ไม่มีฝาจุ๊บวาวล์ เวลาน้ำท่วมอาจมีเศษหินเศษดินที่ไปฝั่งตัวอยู่ในจุ๊บลมยาง ทำให้มีน้ำเข้าไปในท้องยางได้ สิ่งที่ต้องทำคือ นำลมเป่าให้แห้งสนิท แล้วถอดศรจุ๊บลมยางออกมาทำความสะอาด หรือหากเป็นกรณีที่หลังจากจอดรถลมยางเราไม่เหลือเลย อาจจะเป็นไปได้ที่จุ๊บลม อาจจะมีสิ่งอุดตันทำให้ลมซึมออกจนหมดได้ หากเป็นกรณีนี้จะต้องถอดยางออกมา และทำความสะอาดด้านในด้วย ขณะที่ลมออกหมดแล้ว น้ำจะเข้ามาแทนที่ ทำให้ยางนั้นมีน้ำอยู่ส่งผลต่อการใช้งานแน่นอนในระยะยาว และเกิดสนิมบริเวณล้อแม็กซ์อีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเช็คสภาพยางของเราก่อนว่า ตอนนี้เป็นอย่างไร พร้อมใช้งานหรือไม่

อย่าลืมทำความสะอาดห้องโดยสาร ป้องกันเชื้อราหลังน้ำท่วม

วิธีดูแลยางรถ เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม

อันดับที่ห้า คือ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเครื่องยนต์ แนะนำให้เช็คการทำงานเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าเครื่องยนต์ว่า ทำงานผิดปกติหรือไม่ แล้วที่สำคัญอีกอย่างคือ การทำความสะอาดภายในตัวห้องโดยสาร เพราะอาจจะมีเชื้อราสะสม อาจจะทำให้เกิดผลเสียในระยะยาวต่อสุขภาพได้ คนเป็นโรคภูมิแพ้ต้องระวังเลย

ทุกส่วนที่พูดทั้งหมด 5 ข้อเป็นส่วนสำคัญทางที่ดีหลังจมน้ำ ลากรถไปเข้าอู่ซ่อม และตรวจเช็คได้เลย ถ้าทำเรียบร้อยครบทุกส่วน รับรองว่า คุณจะได้รถกลับมาที่ใช้งานได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์แน่นอน อาจจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ที่เกิดจากอะไหล่บางอัน อาจจะมีอายุการใช้งานที่สั้นขึ้น หวังว่าทุกท่านจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอ หรือหากสนใจเปลี่ยนยาง สามารถเข้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tiresbid.com

Tiresbid-Online แพลตฟอร์มเรื่องยางรถที่ดีที่สุด บริการอย่างมืออาชีพ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid เป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้เพื่อนๆ เลือกซื้อยางสะดวกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์  และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ติดตามข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ที่ Tiktok @Tiresbidofficial และ YouTube @TiresBid 

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชันยางรถพิเศษมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถยนต์มั่นใจทุกครั้งกับไทร์บิด

ประกันรถยนต์ ชั้น 2+

The post วิธีดูแลรถและยางรถ หลังจากน้ำท่วม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โปร 11.11 ลดพิเศษ 10% เมื่อซื้อประกันออนไลน์ https://www.bolttech.co.th/blog/bt11-nov2024?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=bt11-nov2024 Sat, 02 Nov 2024 01:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=38166 โปร 11.11 มาแล้ว !! ลดพิเศษ 10% เมื่อซื้อประกันออนไลน์ที่ bolttech.co.th และกรอกโค้ด BT11 เฉพาะประกันภัยที่ร่วมรายการเท่านั้น (โปรวันที่ 2 - 11 พ.ย. 2567) ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ เปรียบเทียบแผนได้ เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ สนใจเข้ามาเลือกซื้อประกันออนไลน์ได้ กรอกโค้ดปุ๊บลดทันที รีบหน่อยก่อนโปรจะหมด

The post โปร 11.11 ลดพิเศษ 10% เมื่อซื้อประกันออนไลน์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โปร 11.11 มาแล้ว !! ลดพิเศษ 10% เมื่อซื้อประกันออนไลน์ที่ bolttech.co.th และกรอกโค้ด BT11 เฉพาะประกันภัยที่ร่วมรายการเท่านั้น (โปรวันที่ 2 - 11 พ.ย. 2567) ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ เปรียบเทียบแผนได้ เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ สนใจเข้ามาเลือกซื้อประกันออนไลน์ได้ กรอกโค้ดปุ๊บลดทันที รีบหน่อยก่อนโปรจะหมดเขต !!

1) ซื้อประกันรถออนไลน์ ชั้น 1, 2+, 3+ ลดทันที 10%*

เมื่อกรอกโค้ด BT11 ที่ bolttech.co.th เฉพาะแผนที่หน้าเว็บไซต์เท่านั้น ดังนี้

✅ ประกันรถยนต์ชั้น 1
✅ ประกันรถยนต์ ชั้น 2+/3+

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ 👉 https://bit.ly/4hF4nwC

เงื่อนไข:

  • สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ เฉพาะซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ ที่ bolttech.co.th
  • เฉพาะชำระเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนเท่านั้น
  • โปรโมชันวันที่ 2 - 11 พฤศจิกายน 2567
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ผู้เอาประกันควรศึกษาความคุ้มครองและเบี้ยประกันก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

2) ซื้อประกันออนไลน์ ลดทันที 10%

เพียงกรอกโค้ด BT11 ที่ bolttech.co.th

✅ ประกันมอเตอร์ไซค์
✅ ประกันสุขภาพ
✅ ประกันบ้าน
✅ ประกันอุบัติเหตุ

🗓 โปรวันที่ 2 - 11 พ.ย. 2567

ซื้อประกันออนไลน์ 👉 https://bit.ly/3C2RcFe

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Line ID: @bolttech.co.th หรือ กด https://lin.ee/nW9za5Y
☎️ 02-106-5800 www.bolttech.co.th

The post โปร 11.11 ลดพิเศษ 10% เมื่อซื้อประกันออนไลน์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>