ประกันรถมอเตอร์ไซต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Fri, 14 Jul 2023 11:11:05 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ประกันรถมอเตอร์ไซต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี และเอกสารที่ต้องใช้ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b9%882%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%995%e0%b8%9b%e0%b8%b5?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%25882%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%25995%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5 Wed, 16 Sep 2020 04:45:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13153 ต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ง่ายนิดเดียว!! เพียงยื่นเอกสาร ใบรับรองแพทย์และทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่กรมขนส่งทางบก ก็ต่อใบขับขี่ได้เลย สรุปขั้นตอนไว้ให้แล้ว

The post ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี และเอกสารที่ต้องใช้ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ต่อใบขับขี่ 2565 ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!! หากคุณต้องการ ต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ก็สามารถยื่นเอกสาร และทดสอบสมรรถภาพร่างกายได้ที่กรมขนส่งทางบกสาขาใกล้บ้าน โดยไม่ต้องอบรมเหมือนต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อมก็รอต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีได้เลย แล้วการต่ออายุใบขับขี่จากชนิดชั่วคราวเป็น 5 ปีจะต้องทำอย่างไร เตรียมเอกสารอะไรบ้าง และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ เราสรุปคำตอบไว้ให้คุณแล้วที่นี่...

เอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่ 2565

  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบขับขี่ชั่วคราวอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
  • ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือนก่อนยื่นคำขอต่ออายุใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี

ขั้นตอนต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี

ต่อใบขับขี่

ในกรณีที่ใบขับขี่ของคุณใกล้จะหมดอายุ หรือใบขับขี่หมดอายุแล้วไม่เกิน 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์จะต้องเตรียมตัวต่ออายุใบขับขี่ เพื่อให้ใช้งานได้ต่อไป ตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. ยื่นเอกสารและออกคำขอ

ก่อนที่เราจะทำเรื่องต่ออายุใบขับขี่จะต้อง ยื่นเอกสารที่กรมขนส่งทางบก  บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หลังจากนั้นรอให้เจ้าหน้าที่เรียกตัว

2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร 

เมื่อเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบเอกสาร  ทางเจ้าหน้าที่จะบอกว่าเอกสารต่ออายุใบขับขี่ของคุณขาดเหลืออะไรบ้าง ถ้าทุกอย่างครบแล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปรับเอกสาร รับบัตรคิว เพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายต่อไป

3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

หลังจากได้คิว ทดสอบสรรถภาพร่างกาย  ทางเจ้าหน้าที่จะให้เราเตรียมพร้อมของร่างกายก่อนที่จะทำใบขับขี่ ซึ่งเราจะต้องผ่านการทดสอบทั้งหมด 3 จุด ได้แก่

  • ทดสอบการมองเห็น
  • ทดสอบสายตาลึก
  • ทดสอบทางกว้าง

หากเราผ่านการทดสอบร่างกาย ครบทั้ง 3 อย่าง ทางเจ้าหน้าที่จะบันทึกผลและเซ็นใบรับรองที่ผ่านการทดสอบร่างกายมาให้

4. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ และชำระเงิน

ต่อใบขับขี่

ขั้นตอนสุดท้าย ก็ยื่นเอกสารทั้งหมดที่ถือมาให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเราจะได้บัตรประชาชนกลับคืนมา แล้วเตรียม ชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี  ก็ถ่ายรูปติดบัตรเพื่อรอรับใบขับขี่ได้เลย!! 

แนะนำทริคการถ่ายรูปใบขับขี่ไม่ให้ดูป่วย ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับผิวพรรณ หลีกเลี่ยงใส่เสื้อกลมกลืนกับฉากหลัง ปรับทรงผม และแต่งหน้านิดหน่อย จะช่วยให้ภาพออกมาดูดีได้

กรณีใบขับขี่หมดอายุ 1-3 ปีขึ้นไป

  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่
  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่จะต้องอบรม เตรียมทำข้อสอบใบขับขี่ (ข้อเขียน) และทำการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติด้วย

ทั้งนี้เราสามารถจองคิวอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น  DLT Smart Queue พร้อมระบุ วันเวลา และกรมขนส่งทางบกที่สะดวกได้เลย แล้วที่สำคัญอย่าลืมเผื่อเวลามาต่อใบขับขี่ล่วงหน้ากันด้วย เพราะกรมขนส่งทางบกจะเปิดให้รับยื่นเรื่องตามเวลาราชการเท่านั้น

ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน?

ต่อใบขับขี่

  • ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน 
  • หากเป็นการต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน

ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากมาเสียเวลาสอบใบขับขี่ใหม่ อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ และต่อใบขับขี่ล่วงหน้ากันด้วยนะ 

ค่าธรรมเนียมต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี

  • ต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี ชำระ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 505 บาท
  • ต่ออายุใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปี ชำระ 250 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 255 บาท

แล้วต่อใบขับขี่ที่ไหนได้บ้าง?

ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ล่วงหน้า สามารถยื่นคำขอต่ออายุใบขับขี่ได้ที่กรมขนส่งทางบก (จตุจักร) และสำนักงานขนส่งพื้นที่กรุงเทพทั้ง 4 เขต ได้แก่

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 บางขุนเทียน-ชายทะเล
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 สวนผัก
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 สุขุมวิท
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 หนองจอก

แต่ถ้าใครอยู่ในบริเวณพื้นที่ต่างจังหวัด ก็สามารถต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่งทางบกแต่ละจังหวัด เอาเป็นว่าคุณสะดวกที่ไหนก็ยื่นติดต่อทำใบขับขี่ที่นั่นได้เลย

ต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะ?! เพียงแค่เตรียมร่างกาย เอกสารต่างๆ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ก็รอรับใบขับขี่ได้เลย แล้วเพื่อความสบายใจยิ่งขึ้น อย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ! จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาสอบใหม่อีกครั้ง 

พอหลังจากต่ออายุใบขับขี่เสร็จแล้ว สามารถต่อประกันรถยนต์ ประกันรถจักรยานยนต์กับ frank.co.th ได้เลย มีแผนความคุ้มครองให้เลือกตามที่ต้องการ ดูแลเหตุไม่คาดฝันทั้งค่ารักษาพยาบาล และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถ หมดห่วงทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็อุ่นใจได้

ประกันรถยนต์

The post ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี และเอกสารที่ต้องใช้ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
10 พฤติกรรมที่เสี่ยงอุบัติเหตุบนถนน https://www.bolttech.co.th/blog/10-%e0%b8%9e%e0%b8%a4%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%9a%e0%b8%99%e0%b8%96%e0%b8%99%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=10-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2599 Fri, 07 Aug 2020 03:15:51 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12398 ถึงแม้ว่าเราจะขับรถเก่งมากแค่ไหน การเคารพกฎจราจรและมารยาทในการขับขี่ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ทั้งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเราและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เชื่อว่าหลายคนยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับพฤติกรรมในการขับรถอยู่ บางสถานการณ์มันกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องหยุดพฤติกรรมเสี่ยงข

The post 10 พฤติกรรมที่เสี่ยงอุบัติเหตุบนถนน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ถึงแม้ว่าเราจะขับรถเก่งมากแค่ไหน การเคารพกฎจราจรและมารยาทในการขับขี่ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ทั้งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเราและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เชื่อว่าหลายคนยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับพฤติกรรมในการขับรถอยู่ บางสถานการณ์มันกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องหยุดพฤติกรรมเสี่ยงขับรถแบบนี้ก่อน!!

1. ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

อุบัติเหตุบนถนน
ในช่วงเวลาที่รถติด บางคนก็ชอบเล่นมือถือแก้เบื่อ หรือใช้โทรศัพท์คุยงานขณะขับรถไปด้วย แต่ต้องบอกเลยว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มากกว่าเมาแล้วขับถึง 4 เท่า!!  เนื่องจากการพูดคุยโทรศัพท์จะทำให้ตัวคุณเสียสมาธิระหว่างการขับรถ และอาจจับถือพวงมาลัยไม่ถนัด แล้วผู้ขับขี่ควรตั้งใจมองดูเส้นทางขณะขับรถ ไม่ควรเล่นเกมส์ ดูหนัง แชทคุย หรือโทรคุย แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มือถือ แนะนำให้จอดรถในที่ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยใช้งานมือถือ

เสี่ยงโดนปรับ! ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 

ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 หากฝ่าฝืนกฎจะถูกปรับ 400-1,000 บาท  แนะนำใช้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้เกี่ยวกับโทรศัพท์แทน เช่น หูฟัง อุปกรณ์ที่วางตั้งโทรศัพท์ ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

2. เมาแล้วขับรถ

อุบัติเหตุบนถนน
เนื่องจากพ.ร.บ.จราจรทางบกกำหนดไว้ว่า “ห้ามผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถทุกชนิด” แต่ยังพบสถิติจำนวนผู้ขับขี่เมาแล้วขับอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ มักเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์และมอเตอร์ไซค์มากที่สุด ทางกฎหมายจึงมีมาตรการเข้มงวดกรณีเมาแล้วขับ หากผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎและพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น จะมีลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือโทษทั้งจำทั้งปรับ หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่

อ่านเพิ่มเติม : เจอคู่กรณีเมาแล้วขับ งานนี้ประกันจะช่วยเหลือยังไง

3. ง่วงแล้วขับรถ

อุบัติเหตุบนถนน
ถึงแม้คุณจะเผลอหลับใน 3-5 วินาที ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อันตรายใกล้เคียงกรณีเมาแล้วขับเลย เพราะเราจะไม่รับรู้สติ ยิ่งถ้าคุณขับรถมาด้วยความเร็วเกินกว่า 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมการเบรกหรือการทรงตัวได้ทันเมื่อโดนชน แล้วไม่ใช่แค่เป็นอันตรายต่อตัวเองอย่างเดียว แต่ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันด้วย

ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกง่วงนอน รู้สึกเหนื่อยล้า แนะนำให้จอดรถในจุดพักรถที่ปลอดภัย เพื่อแวะนอนงีบก่อน หรือจะลองดื่มกาแฟ ล้างหน้าล้างตาสักหน่อย สามารถช่วยให้คุณหายง่วงได้

4. ขับรถคร่อมเลนถนน

อุบัติเหตุบนถนน
หากใครที่มีพฤติกรรมชอบขับรถคร่อมเลน ไม่เลือกไปทางซ้ายหรือทางขวาสักเลน ระวังจะเกิดอุบัติเหตุโดยไม่รู้ตัว ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 กำหนดไว้ว่า การขับรถคร่อมเลนหรือทับเส้นทึบแนวแบ่งช่องรถ โดยไม่ได้เปลี่ยนช่องเดินรถ เลี้ยวรถ หรือกลับรถนั้น จะมีโทษปรับอยู่ที่ 400 - 1,000 บาท  ในปัจุบันนี้มีกล้องคอยตรวจจับถนนทุกเส้นทาง ถ้าคุณไม่อยากเสียค่าปรับฟรีๆ อย่าลืมเคารพกฎจราจรกันนะจ๊ะ

เพื่อนๆ สามารถอ่าน ข้อสอบใบขับขี่ 2566 สำหรับรถยนต์และมอไซค์ เพิ่มเติม มีสัญลักษณ์ป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร พร้อมวิธีการขับรถให้ปลอดภัย

5. เเซงแบบกระชั้นชิด

อุบัติเหตุบนถนน
ถึงแม้ว่าคุณจะเร่งรีบมากแค่ไหน ก็ไม่ควรแซงหน้ารถคันอื่น โดยเฉพาะการขับรถแบบกระชั้นชิด เนื่องจากการขับรถแซงคนอื่นแบบกระชั้นชิด จะเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มีหลายคนที่ชอบจะเอาเปรียบผู้ร่วมทางอยู่เสมอโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนื้องถนนก็ต้องเสียเวลาเคลมอีก ดังนั้นหากผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวหรือแซงหน้ารถคันอื่นควรชะลอความเร็วก่อน พร้อมเดินรถไปข้างหน้าให้ห่างกับรถคันที่ต้องการแซงอย่างปลอดภัย แล้วอย่าลืมใช้สัญญาณไฟกระพริบเลี้ยวล่วงหน้า เพื่อส่งสัญญาณให้คันหลังรู้ตัวด้วยว่าคุณกำลังจะเปลี่ยนเลน

6. เปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟ

อุบัติเหตุบนถนน
อีกกฎหมายจราจรที่ฝ่าฝืนบ่อยๆ นั่นก็คือ การเปลี่ยนเลนโดยไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ถือเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องรู้ไว้ เพราะกฎการเปลี่ยนช่องเดินรถเคยออกข้อสอบใบขับขี่มาแล้วว่า ถ้าผู้ขับขี่ต้องการเข้าช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวจะต้องชะลอความเร็ว และเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตรทุกครั้ง ช่วยกะเวลาให้รถสามารถเลี้ยวไปได้ และช่วยส่งสัญญาณให้รถคันอื่นเตรียมชะลอรถให้เรา

7. เร่งรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟเหลือง

อุบัติเหตุบนถนน
การเจอสัญญาณไฟเหลือง หมายถึงให้ผู้ขับขี่เตรียมตัวที่ชะลอเพื่อหยุดรถ (หลังเส้นหยุดรถ) แต่หลายคนเข้าใจผิดว่าการเห็นสัญญาณไฟเหลืองกระพริบ ควรเร่งความเร็วผ่านแยกไฟแดง หรือบางคนก็กลัวเสียเวลารถติดนานก็เลยเหยียบคันเร่งจนมิดไปซะเลย แต่ทราบไหมว่า? การฝ่าไฟเหลืองนั้นถือว่าผิดกฎหมายจราจรเช่นเดียวกับฝ่าไฟเเดง  เพราะมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันได้ หากใครฝ่าฝืนกฎจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท  เว้นแต่กรณีที่คุณขับรถเลยเส้นบังคับหยุดรถไปก่อนไฟเหลืองจะกระพริบ

8. ขับจี้ท้ายรถคันหน้า

อุบัติเหตุบนถนน
มารยาทในการขับรถ เป็นสิ่งสำคัญของการใช้ถนนร่วมกัน แต่คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสถานการณ์เร่งรีบจะชอบจี้ท้ายไล่รถคันหน้า ลองคิดเล่นๆ กันดูนะว่า หากรถคันข้างหน้าเบรกกะทันหัน เราก็ไม่สามารถเบรกได้ทันอยู่ดี อีกอย่างคือเวลาเกิดอุบัติเหตุเมื่อเคลมประกัน รถที่ชนท้ายคันข้างหน้ามักจะเป็นฝ่ายผิดเสมอด้วย ดังนั้นผู้ขับขี่จะต้องขับรถเว้นระยะห่างจากคันข้างหน้าไม่น้อยกว่า 60 เมตร  หรืออยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยไว้ก่อน

แต่อย่าทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากจนเกินไป อาจส่งผลให้การจราจรติดขัด เพื่อป้องกันไม่ให้รถคันอื่นเข้ามาเเซงด้วย

9. เปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน

อุบัติเหตุบนถนน
การเปิดไฟสูงจะช่วยทำให้การมองเห็นเส้นทางได้ดีขึ้น แต่ในบางสถานการณ์การเปิดไฟสูงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำหากไม่จำเป็น ยกตัวอย่างดังนี้

  • เปิดไฟสูงขณะรถคันอื่นสวนทางมา
  • เปิดไฟสูงขณะขับรถตามหลังรถคันอื่น
  • เปิดไฟสูงเพื่อไล่รถคันหน้า

เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ที่ขับรถเจอหมอกหนาๆ หรือฝนตกหนัก แนะนำให้ใช้ไฟหน้ารถธรรมดาและเปิดไฟตัดหมอกควบคู่กันดีกว่า การเปิดไฟสูงควรใช้เฉพาะอยู่ในเขตนอกเมืองที่ไม่มีรถสวนทางมา หรือถ้ามีรถสวนทางมาก็ให้เปลี่ยนเปิดไฟหน้ารถตามปกติ และไม่ควรเสียมารยาทด้วยการเปิดไฟสูงเพื่อไล่รถคันที่อยู่ข้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม : ไฟหน้ารถ ไฟหรี่ ไฟสูงและไฟท้ายใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

10. จอดรถในบริเวณที่ห้ามจอด

อุบัติเหตุบนถนน
การจอดรถในบริเวณที่ห้ามจอด  เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากบริเวณที่ห้ามจอดไม่ใช่ที่สำหรับจอดรถเฉพาะทาง บางคนที่เคยจอดรถทิ้งไว้มักถูกเฉี่ยวชนบ่อย บางคนพบรอยขูดขีดไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นคนทำ และการจอดรถในที่ห้ามจอดอาจทำให้การจราจรติดขัดด้วย ทางที่ดีให้เราสังเกตป้ายหรือพื้นทางก่อนว่าอนุญาตให้จอดรถหรือไม่ หากใครฝ่าฝืนจอดรถในบริเวณที่ห้ามจอดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 500 บาท

หมายเหตุ : เครื่องหมายห้ามหยุดรถ จะมีลักษณะแถบสีแดงสลับสีขาว หมายความว่า ห้ามหยุดห้ามจอดรถทุกชนิด

ทั้งหมดนี้คือ 10 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุที่ไม่ควรทำขณะขับรถ  สิ่งสำคัญคุณควรเคารพกฎจรารและมีมารยาทในการขับขี่ เพราะทุกคนต่างใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เราต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมทางด้วย เช่น แสดงน้ำใจร่วมกัน ไม่ควรเร่งเครื่องขณะมีคนข้ามทางม้าลาย แสดงคำขอบคุณ และขอโทษต่อเพื่อนร่วมทางหากเราทำผิด ถึงแม้จะฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ บนท้องถนนได้

สุดท้ายนี้เพื่อนๆ อย่าลืมเตรียม ต่อประกันรถยนต์ กับ bolttech.co.th ที่คุ้มครองรถของคุณจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุรถชนกัน รถหาย รถไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ และความคุ้มครองเสริมอื่นๆ เรามีให้บริการครบวงจรตามที่คุณต้องการ พร้อมให้คำแนะนำเลือกซื้อแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณ มั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

ประกันรถยนต์

The post 10 พฤติกรรมที่เสี่ยงอุบัติเหตุบนถนน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี... ความเห็นชาวเน็ต Vespa รุ่นไหนดีจาก Pantip https://www.bolttech.co.th/blog/vespa-%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5-pantip-2019?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=vespa-%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5-pantip-2019 Wed, 02 Oct 2019 13:17:09 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8061 มีขุนแผนเป็นตะกร้าก็สู้มี "เวสป้า" คันเดียวไม่ได้ เมื่อของขลังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะสู้ความเท่ไม่ไหว และหากคุณเคยได้ยินคำนี้ และกำลังคิดว่าจะซื้อเวสป้า (Vaspa) สักคัน แต่ยังลังเลใจว่า จะซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี จะซื้อเวสป้าดีไหมหนอ ? ไม่ว่าคุณกำลังจะซื้อมอไซค์คันแรกในชีวิต หรือคันไหน พวกเราแฟรงค์ประกันภัยออนไลน์อาสารวบรวมความ

The post ซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี... ความเห็นชาวเน็ต Vespa รุ่นไหนดีจาก Pantip appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
มีขุนแผนเป็นตะกร้าก็สู้มี "เวสป้า" คันเดียวไม่ได้ เมื่อของขลังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะสู้ความเท่ไม่ไหว และหากคุณเคยได้ยินคำนี้ และกำลังคิดว่าจะซื้อเวสป้า (Vaspa) สักคัน แต่ยังลังเลใจว่า จะซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี จะซื้อเวสป้าดีไหมหนอ ? ไม่ว่าคุณกำลังจะซื้อมอไซค์คันแรกในชีวิต หรือคันไหน พวกเราแฟรงค์ประกันภัยออนไลน์อาสารวบรวมความเห็นชาวเน็ตสัญชาติไทยจากกระทู้พันทิปยอดฮิต สรุปให้ฟังว่า Vespa รุ่นไหนดี Pantip น่าซื้อบ้าง สำหรับรุ่นใหม่เริ่มตั้งแต่ปี 2017 - 2019 นะครับ 

“ย้ำว่าบทความนี้ Frank.co.th หยิบยกเฉพาะเวสป้ารุ่นที่หาซื้อมือ 1 ได้นะครับ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คนที่กำลังครุ่นคิดว่าจะซื้อเวสป้าดีไหมได้ตัดสินใจง่ายขึ้น”

Vespa LX 125 ก็ถูกพูดถึงเยอะ

มีชาวเน็ตค้นหาและตั้งกระทู้ถามถึงรุ่น Vespa LX 125 เยอะเลยครับ เนื่องจากเป็นรถเวสป้าราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แม้ความแรงจะไม่มาก แต่ก็สวยบาดด้วยไฟหน้ากลม ส่วนใหญ่ Vespa LX 125 จะถูกรีวิวถามถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก เช่น มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดว่าไม่แย่ถ้าเราต้องการรถมอไซค์สำหรับขับขี่ไปทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เครื่องยนต์อาจจะออกตัวช้านิดนึง
อ้างอิงจากกระทู้หัวข้อ “สนใจที่จะออกรถ Vespa NEW LX125 I-GET ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
Vespa รุ่นไหนดี pantip
ขอบคุณความเห็นจากกระทู้หมายเลข 39113553 ที่ระบุว่า

“ 125CC บวกกับความหนักของยี่ห้อนี้ จะส่งผลให้ออกตัวช้านิดนึงค่ะ นอกจากนั้นไม่เจอปัญหาอะไรนะคะ”

ดังนั้น คนที่สนใจจับจองเจ้า Vespa LX 125 ต้องยอมรับในข้อจำกัด คือ “อัตราเร่งที่เหมาะกับคนที่ขับเรื่อย ๆ ไม่เน้นเร่งรีบ” อ้างอิงจากกระทู้หมายเลข 38617734 โดยคุณ parkandwin สอบถามไว้ ดังนี้ “สอบถามอัตราเร่ง VESPA LX 125 เทียบกับ มอไซค์ 125 ตลาด” 
Vespa รุ่นไหนดี pantip
และมีคำตอบจากชาวเน็ตที่น่าสนใจ คือ “อัตราเร่งมาช้ากว่ารถญี่ปุ่น 125cc แบบรู้สึกได้เลย แต่ถ้ามองแค่การขับขี่ตามสภาพการจราจรทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้วล่ะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเจ้า LX125 เป็นรถที่ขับเรื่อย ๆ แล้วได้อารมณ์สุนทรีย์มาก ๆ แต่ก็มักจะรู้สึกอึดอัดเสมอในเวลาเร่งรีบครับ” โดยคุณ JTtogether  
Vespa รุ่นไหนดี pantip
ล่าสุด New Vespa LX 125 i-get (2019) ราคาประมาณ 87,000 บาท จัดว่าอยู่ในงบประมาณเงินแสนมีทอน (555+) และไม่ต้องกังวลครับ สูง 160 ก็ขับรุ่นนี้ได้ ขณะที่หลายความเห็นบน Pantip ยังกังวลใจปัญหาดับเบาเช่นกัน แต่ก็มีชาว Pantip การันตีว่า “ปัญหาดับเบาของเวสป้าลดลงแล้ว ตั้งแต่มีรุ่น i-get ไม่ต้องกังวลแล้ว” 
Vespa รุ่นไหนดี pantip

Vespa Sprint 125 หรือ 150 ก็ตัวจิ๊ด

ยอมรับว่า ผู้เขียนก็มอง ๆ รุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ ว่าจะจับจองไว้ใช้สักคัน อิอิ และต้องยอมรับว่า ก่อนซื้อเราก็ต้องหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจจากผู้ใช้จริง ฟังเสียงชาวเน็ตเพื่อพิจารณาครับ ด้วยความที่มอไซค์ Vespa Sprint มีทีเด็ด คือ ทรงปราดเปรียวเหมาะจะซอกแซกบนท้องถนนกรุงเทพมหานคร ด้วยความกว้างนับจากแฮนด์มอไซค์อยู่ที่ 69.5 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 79 เซนติเมตร ตัวเล็กก็ขับได้ครับผม โดดเด่นด้วยไฟหน้าหกเหลี่ยมสไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับเวสป้าสกู๊ตเตอร์รุ่น Sprint 
ส่วนใหญ่ชาวเน็ต Pantip มักจะนำมอเตอร์ไซค์เวสป้าระหว่าง Vespa Sprint 150CC หรือ 125CC มาเทียบกันว่า จะซื้อแบบไหนดีหนอ ? แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน เช่นกระทู้หมายเลข 37604326 ระบุว่า 
“Vespa Sprint 125 vs Sprint 150 จะซื้อ เวสป้า ช่วยแนะนำหน่อยคะ ระหว่างตัว 125 กับ ตัว 150 ตัวไหนดีกว่ากัน"
Vespa รุ่นไหนดี pantip
สรุปง่าย ไม่วกวน !!! ระหว่าง Sprint 125cc VS 150cc ส่วนใหญ่แนะนำว่า 

  • Vespa Sprint 125 CC เหมาะกับคนที่ใช้งานทั่วไป เดินทางไม่ไกล ขับใกล้ ๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องพอเหมาะครับ หล่อ ๆ ขับเน้นสุนทรียภาพ แว่ว ๆ มาว่า ค่าบำรุงรักษาประหยัดกว่านิดหน่อย
  • Vespa Sprint 150 CC เหมาะกับสายเที่ยวชอบออกทริปทางไกล อัตราเร่งขึ้นง่าย เร่งแซงดีกว่า แพงกว่านิดหน่อยประมาณ 20,000 บาท (ค่าประมาณนะครับ)

Vespa รุ่นไหนดี pantip
บทความที่อาจจะถูกใจ : มอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งอย่างไรให้เหมาะกับคุณ ?
ประกันรถจักรยานยนต์

Vespa GTS 150cc & 300cc ถูกรีวิวเหมือนกัน

เวสป้าที่คลาสสิกมากได้ใจคนทั่วโลก เครื่องแรงขึ้นมาอีกนิด ตัวเครื่องใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย มาพร้อมไฟหน้ากลมโตน่าร๊ากกกกที่สุด ขับไปไหนสาวก็เหลียวมองอ่ะ อิอิ กับเวสป้ารุ่น GTS ที่มีให้เลือกทั้ง 150CC และ 300CC (เราจะไม่กล่าวถึงรุ่นลิมิเตดนะครับ เดี๋ยวจะยืดยาวเกิน) ในที่นี้ขอพูดคุยถึงเรื่องราว GTS คร่าว ๆ แบบไม่เจาะลึกถึงปีผลิตนะครับ ไว้ถ้าบทความนี้ได้รับความนิยมจากชาวแฟรงค์จะหามาเขียนเพิ่ม อิอิ เพราะยังมีเรื่องราวเจาะลึกอีกมากสำหรับ GTS ปี 2017 - 2019 
กลับมาที่ประเด็ดความเห็นของชาวเน็ต Pantip พูดถึงบ่อย ๆ คือ รุ่น GTS 150cc บอดี้ใหญ่มั่นคงตอนขับทางไกล เพื่อให้เห็นภาพเรานำข้อมูลเบื้องต้นของเวสป้า GTS Super 150 i-get ABS มาแชร์กันวัดความกว้างแฮนด์มอเตอร์ไซค์ประมาณ 74 เซนติเมตร วัดความสูงล้อถึงเบาะประมาณ 80 เซนติเมตร คนที่สูงราว 160 เซนติเมตรคงต้องเขย่งขับหน่อย ๆ 
ขณะที่ Vespa GTS 300 เป็นมอเตอร์ไซค์ออโต้บอดี้ใหญ่แรงใกล้เคียงบิ๊กไบค์บางรุ่นเลยครับ เช่น Honda Rebel 300 เกียร์ 6 สปีช หรือรถมอเตอร์ไซค์สไตล์แอดแวนเจอร์ Kawasaki Versys X 300 เกียร์ 6 สปีด ทว่าต้องยอมรับนะครับว่า เกียร์ออโต้อาจจะมีอัตราเร่งที่อืดกว่าระบบเกียร์ธรรมดานิด ๆ ส่วนราคานั้นก็ไม่เบาครับ หลักแสนไม่มีทอน (555+)   
Vespa รุ่นไหนดี pantip

สรุปเลือก Vespa รุ่นไหนดี ?

ย้อนกลับมาตอบกันดีกว่าว่า Vespa รุ่นไหนดี Pantip แบบไหนดีหนอ Frank ขออนุญาตหยิบยกความเห็นของคุณ -zzz- ได้คอมเมนต์ในกระทู้หมายเลข 38812857 ว่า

“ขี่ Sprint 150 ABS i-get อยู่ครับ รุ่นปีใหม่ ๆ เป็น ABS หมดแล้วครับ แต่เป็นเฉพาะล้อหน้านะครับ ล้อหลังเป็นดรัมเบรคอยู่ สัมผัสก็ต้องบอกว่าเหมือนขับรถยุโรปครับ เพราะตัวถังเป็นเหล็กทั้งก้อนทำให้มีน้ำหนักมากอยู่ จะยกจะจอดในที่แคบ ๆ ลำบากหน่อย พอรถหนักมันก็กินน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดาแต่เครื่อง i-get เค้าเคลมว่าประหยัด+มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา 
ข้อดีของน้ำหนักมากก็คือเวลาขี่เร็ว ๆ รถเสถียรดี ไม่ปลิวเหมือนรถญี่ปุ่น ส่วนเรื่องเบาะ ถ้าเบาะมาตรฐานคือสีดำครับ แต่ Vespa นี่เค้าจะทำตลาดแบบ Limited Edition คือมักจะมีสีพิเศษ ออฟชั่นพิเศษออกมาเป็นช่วง ๆ (ล่าสุดคือรุ่น NOTTE EDITION คือสีดำทั้งคัน รวมถึงส่วนที่เป็นโลหะอาทิขอบข้าง กระจก ตะแกรง) และรุ่นที่ Vespa เล่นมุขนี้เป็นประจำคือ Primavera ที่บอดี้เดียวกะสปริ้นท์ต่างกันที่เป็นไฟกลม ที่เห็นเบาะแดงน่าจะรุ่น Primavera ครับ
ส่วน GTS ถ้าซื้อแนะนำรุ่น 300 cc ไปเลย (ถ้าเงินถึงอ่ะนะ) เพราะถึงแม้จะมีรุ่น 150 cc ที่บอดี้เดียวกันเปี๊ยบ แต่อย่าลืมว่าGTS อ้วนและหนักกว่า สปริ้นท์พอสมควรดังนั้นจึงจะกินน้ำมันมากกว่าสปริ้นท์ในซีซีเท่ากันแน่นอน แต่สิ่งที่ได้ก็คือเบรคABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง กะโช้คล้อหลังที่เป็นแบบคู่ GTS 150 ระบายความร้อนพัดลมระบายความร้อน ส่วน GTS 300 ระบายความร้อนด้วยน้ำครับ”
อย่างไรก็ดี นี้เป็นความเห็นของชาวพันทิปนะครับใช้เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกซื้อรถเพียงเท่านั้น 

Vespa รุ่นไหนดี pantip
สรุปว่า รถเวสป้าอาจจะมีน้ำหนักเยอะกว่ารถมอไซค์ทั่วไป ช่วยให้การขับขี่เสถียรกว่าไม่ปลิว แบบแน่นหนึบกว่า และถ้ามีเงินหนาซื้อ GTS 300cc ด้วยระบบระบายความร้อนที่เนียบกว่า Sprint แต่อย่าลืมนะครับว่า งบประมาณสำคัญที่สุด ซื้อรถตามงบนะครับ อย่าให้ความเท่ทำให้เราต้องอับจนนะคร๊าบ 
หรือถ้าเวสป้ายังไม่ใช่ ยังไม่โดนใจ ยังไม่อยากได้ ลองอ่านรถมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด ไม่เกิน 5 หมื่นได้ครับ 

ทั้งนี้ เราคงต้องยอมรับนะครับว่า ค่าซ่อมบำรุงรถเวสป้าอาจจะค่อนข้างสูงนิดหน่อย เพราะอะไหล่แพงกว่าใครเพื่อน ยิ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นจำต้องเปลี่ยนอะไหล่ซ่อมใหม่ หากเราไม่มีประกันมอเตอร์ไซค์ไว้ดูแล นอกจากเจ็บใจแล้วยิ่งเจ็บหนักเรื่องค่าใช้จ่ายเลยแหละ เอาเป็นว่า ได้รุ่นเวสป้าที่ใช่อย่าลืมซื้อประกันรถจักรยานยนต์ด้วยนะครับ Frank.co.th เรามีความคุ้มครองทุกชั้นตั้งแต่ ประกันมอไซค์ชั้น 1, 2+ และ 3+ ช่วยดูแลเหตุไม่คาดฝันได้ครับ เช็กเบี้ยประกันรถจักรยานยนต์ที่ใช่คุณ หรือจะโทรสอบถามเราก็ได้ครับที่โทร 02-106-5800 ยินดีเสมอ
แหล่งข้อมูล : pantip.com

Content by Butter Cutter
ประกันรถมอเตอร์ไซค์

The post ซื้อเวสป้ารุ่นไหนดี... ความเห็นชาวเน็ต Vespa รุ่นไหนดีจาก Pantip appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>