สุขภาพ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Wed, 24 Apr 2024 17:41:49 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico สุขภาพ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 วิธีดื่มน้ำลดน้ำหนัก บำรุงผิวสวย สุขภาพดี https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581 Wed, 24 Apr 2024 05:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=34207 การดื่มน้ำ เป็นหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความรู้สึกหิวระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับเข้าไปได้ดีขึ้น  นอกจากนี้ยังเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ ช่วยให้ระบ

The post วิธีดื่มน้ำลดน้ำหนัก บำรุงผิวสวย สุขภาพดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การดื่มน้ำ เป็นหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความรู้สึกหิวระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับเข้าไปได้ดีขึ้น  นอกจากนี้ยังเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างราบรื่น ขจัดของเสียออกจากร่างกาย รักษาไตให้แข็งแรง และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการดื่มน้ำอย่างเพียงพอและถูกวิธีในแต่ละวัน จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี

1. ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร

การดื่มน้ำประมาณ 1-2 แก้วก่อนรับประทานอาหารจะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับ

2. ทดแทนเครื่องดื่มอื่นด้วยน้ำเปล่า

งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแคลอรี่สูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ดื่มน้ำเปล่าแทน เพื่อลดการได้รับแคลอรี่และน้ำตาลส่วนเกิน

3. พกขวดน้ำติดตัวไปด้วยตลอดเวลา

การมีขวดน้ำติดตัวจะเตือนให้เราดื่มน้ำบ่อยครั้งขึ้น ช่วยให้ได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

4. เลือกดื่มน้ำเย็น

น้ำเย็นจะช่วยให้ร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำอุ่นขึ้นเพื่อย่อย ซึ่งจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าน้ำอุ่น

5. ดื่มน้ำก่อนรู้สึกหิว

อย่ารอให้รู้สึกหิวจึงค่อยดื่มน้ำ เพราะนั่นอาจทำให้รับประทานอาหารมากเกินไป ให้ดื่มน้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาระดับความอิ่มของร่างกาย

6. เพิ่มผลไม้เข้าไปในน้ำดื่ม

การใส่ผลไม้ลงในน้ำ เช่น ส้ม มะนาว แอปเปิ้ล จะช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้น้ำ ทำให้อยากดื่มน้ำมากขึ้น

7. ดื่มน้ำก่อนและหลังออกกำลังกาย

การดื่มน้ำก่อนและหลังออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่ระหว่างออกกำลังกายด้วย หากทำแพลนการดื่มน้ำใน 1 วัน สามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย ดังต่อไปนี้

  • 07.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น กระตุ้นการขับถ่าย
  • 08.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนอาหารเช้า 1 ชม. เพื่อป้องกันอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • 09.00 - 10.00 น. ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายทำงานได้เต็มที่ ชำระล้างของเสียออกจากร่างกาย
  • 11.00 น. ดื่มน้ำครึ่งแก้ว ก่อนอาหารเที่ยง 1 ชม. จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทานอาหารได้น้อยลง
  • 12.00 น. จิบน้ำเล็กน้อยเพื่อล้างปาก ไม่ควรดื่มน้ำเยอะเพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ย่อยอาหารได้ไม่ดี
  • 13.00 - 16.00 น. ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว จิบเพื่อดับกระหายระหว่างวัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • 17.00 - 19.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนอาหารเย็น 1 ชม. หาเวลาออกกำลังกาย และจิบน้ำให้ได้ 1-2 แก้ว
  • 20.00 - 21.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว จิบเรื่อยๆ เพื่อให้ระบบเลือดและระบบลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  • 22.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนนอน 1 ชม. เพื่อชำระล้างสิ่งตกค้างในลำไส้

การปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ถือช่วยให้คุณดื่มน้ำได้ในปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลให้กระบวนการลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากลดความอ้วนและดูแลสุขภาพ และต้องไม่ลืมที่จะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยหากใครมีแพลนลดน้ำหนักใน 1 เดือน สูตรลดน้ำหนักแบบเร่งรัดนั้นไม่มีเพราะว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา นอกจากนี้คุณควรมองหา ประกันสุขภาพ จากบริษัทประกันชั้นนำควบคู่ไปด้วย คุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ นำมาลดหย่อนภาษีได้ เข้ามาเทียบแผนที่ bolttech.co.th ได้เลย

ประกันสุขภาพ

The post วิธีดื่มน้ำลดน้ำหนัก บำรุงผิวสวย สุขภาพดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) อันตรายต่อสุขภาพอย่างไร? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a Thu, 07 Mar 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=33305 รู้ไหมว่า? การนอนหลับพักผ่อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต หลายคนมักจะมองข้ามเพราะคิดว่าการนอนนั้นทำให้เสียเวลาที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่น จึงทำให้การนอนในแต่ละวันนั้นไม่ถึง 6-8 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับร่างกาย ในช่วงแรกอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่ถ้าหากปล่อยไว้เป็นเวลานานจนเริ่มติดเป็นนิสัยหรือมีอายุที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็

The post โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) อันตรายต่อสุขภาพอย่างไร? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รู้ไหมว่า? การนอนหลับพักผ่อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต หลายคนมักจะมองข้ามเพราะคิดว่าการนอนนั้นทำให้เสียเวลาที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่น จึงทำให้การนอนในแต่ละวันนั้นไม่ถึง 6-8 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับร่างกาย ในช่วงแรกอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่ถ้าหากปล่อยไว้เป็นเวลานานจนเริ่มติดเป็นนิสัยหรือมีอายุที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ร่างกายแสดงอาการเจ็บป่วยออกมา อาจจะเกิดอาการปวดหัวเวียนหัว นอนไม่เป็นเวลาจนเกิดความเครียด เป็นการส่งสัญญาณให้รับรู้ว่าถ้ายังเป็นอาการนอนไม่หลับแบบนี้ต่อไปอาจจะเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้

1.โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง

เมื่อหัวถึงหมอนและถึงเวลาที่ต้องนอน บางคนอาจจะนอนหลับยากแม้จะทำทุกวิถีทาง และอาจจะใช้เวลามากกว่า 30 นาทีถึงจะสามารถหลับได้ แม้จะหลับไปได้สักพักก็จะเกิดอาการหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืนจนกระทั่งไม่สามารถนอนหลับได้อีกเพราะนอนไม่หลับสมองไม่หยุดคิด นอกจากนี้ยังส่งผลให้เข้าห้องน้ำบ่อยๆ เพราะร่างกายจะดูดซับน้ำมากกว่าคนปกติ หากใครมีอาการแบบนี้ 1 เดือนขึ้นไปก็แสดงว่าเข้าข่ายเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังเพราะนอนไม่พอ

2.โรคหลอดเลือดหัวใจ

คนนอนไม่พอมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะสารโปรตีนจะสะสมในตัวเรามากยิ่งขึ้นในเวลาที่เราตื่นโดยธรรมชาติ เมื่อเรานอนดึก สารเหล่านี้จะเข้าไปเกาะที่บริเวรหลอดเลือดหัวใจจนทำให้เกิดการอุดตัน ซึ่งผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจจากการนอนไม่พอมากถึง 2 เท่า

3.โรคมะเร็งลำไส้

มะเร็ง เป็นอีกหนึ่งโรคที่น่ากลัว สามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่นอนไม่พอ นอนดึกตื่นเช้าใช้ชีวิตวนลูปไปแบบคนสมัยนี้ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่และเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ จนทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบและลุกลามจนเป็นโรคมะเร็งลำไส้ เพราะระบบย่อยอาหารทั้งหมดจะรวนไปด้วย ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติจนท้องอืดท้องเฟ้อ กระเพาะย่อยอาหารช้า

4.โรคเบาหวาน

โรคยอดฮิตที่คนสมัยนี้มีโอกาสเป็นง่ายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพราะการใช้ชีวิตหรือกรรมพันธู์ เมื่อคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานนั้นการนอนไม่พอจะส่งผลให้ระดับกลูโคสในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้นถึง 23% ระดับอินซูลินในเลือดเพิ่มขึ้นถึง 48% ส่วนคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วจะมีภาวะดื้ออินซูลิน

5.โรคอารมณ์แปรปรวน หรือไบโพล่าร์

ปัจจุบันนี้เรื่องเครียดก็มีเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนนอนไม่พอก็ส่งผลให้เกิดความเครียดมากขึ้นไปอีกจนกลายเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวอารมณ์ดีได้สักพักก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้ายโดยไม่มีสาเหตุ กระสับกระส่าย สมองคิดช้าลงและทำตามสันชาตญาณมากขึ้นจึงทำให้ทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้

6.โรคเสื่อมสมรรถภาพ

จัดว่าเป็นโรคที่ถ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครอยากเป็น แต่สำหรับคนที่นอนไม่พอก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ เพราะฮอร์โมน “เทสโทสเทอโรน” ในร่างกายจะต่ำลง จึงทำให้มีความรู้สึกและความต้องการทางเพศต่ำลง

สุขภาพไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หรือเรื่องที่ต้องละเลย เพราะถ้าคุณป่วยขึ้นมาอาจทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลายได้ ต้องมองหาประกันสุขภาพดูแล ที่สามารถคุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ มีทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่ผู้ทำประกันภัยมีอายุ 21-55 ปี ซื้อประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ 

The post โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) อันตรายต่อสุขภาพอย่างไร? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ซื้อประกันลดหย่อนภาษี 2563 ควรซื้อประกันแผนไหนดี ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b5?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599-%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b5 Fri, 02 Oct 2020 02:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13702 หากคุณกำลังวางแผนซื้อประกันลด หย่อนภาษี 2563 แต่ยังไม่รู้ว่าควรซื้อประกันแบบไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำคำตอบกับทุกท่าน ด้วยการนำเสนอข้อมูลประกันรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงรายละเอียดด้านความคุ้มครองที่คุณจะได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบให้คุณได้ประกันที่ตรงใจและลดหย่อนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด "ประกันที่มีค่ารักษ

The post ซื้อประกันลดหย่อนภาษี 2563 ควรซื้อประกันแผนไหนดี ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หากคุณกำลังวางแผนซื้อประกันลด หย่อนภาษี 2563 แต่ยังไม่รู้ว่าควรซื้อประกันแบบไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำคำตอบกับทุกท่าน ด้วยการนำเสนอข้อมูลประกันรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงรายละเอียดด้านความคุ้มครองที่คุณจะได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบให้คุณได้ประกันที่ตรงใจและลดหย่อนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

"ประกันที่มีค่ารักษาพยาบาล นำมาลดหย่อนภาษี 2563 ได้"

การยื่นภาษีนัับว่าเป็นหน้าที่ของคนไทย เบิ้องต้นลองทำความเข้าใจกันก่อนว่า การยื่นภาษีเงินได้คืออะไร ยื่นอย่างไร ทำไมต้องยื่น? ถ้าเข้าใจกันแล้วลองมาดูกันเลยว่าประกันตัวไหนเหมาะกับการซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี
หากคุณอยากรู้ว่าประกันตัวไหน สามารถนำมาลดหย่อนภาษี 2563 ได้ มีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ "เงื่อนไขของประกันต้องมีค่ารักษาพยาบาล" ซึ่งล่าสุดปี 2563 นี้ ทางกรมสรรพากรได้ขยายขอบเขตให้ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท ต่อปี ต่างจากปีก่อน ๆ จะจำกัดอยู่ที่ 15,000 เท่านั้น เนื่องจากพิษของโรคโควิดที่เล่นงานสุขภาพของคนไทย ทางภาครัฐจึงอยากให้คนไทยมีหลักประกันด้านสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงการทำประกันยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วย สรุปได้ว่าหากซื้อประกันที่มีค่ารักษาพยาบาลก่อนสิ้นปี 2563 นี้ จะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่มากขึ้น 
แล้วประกันตัวไหนที่มีค่ารักษาพยาบาลและนำไปลดหย่อนภาษี 2563 ได้ล่ะ ? ไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหนไกลเพราะเราจะสรุปข้อมูลพร้อมบอกสิทธิ์ประโยชน์จากประกันแต่ละประเภทที่คุณจะได้รับให้ ตามนี้เลยครับ
ประกันสุขภาพ

1. ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพทุกแผน ไม่ว่าจะมีค่าเบี้ยเท่าไหร่ คุ้มครองมากหรือน้อยขนาดไหน จะต้องมีเงื่อนไขจ่ายค่ารักษาพยาบาลเสมอ ซึ่งข้อดีของการทำประกันสุขภาพคือคุณจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการป่วยแบบไหน หรือบาดเจ็บจากสาเหตุอะไร ก็สามารถเข้าโรพพยาบาลและเบิกค่ารักษาตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ได้หมด ประกันสุขภาพจึงนับว่าเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าใครก็ล้วนมีโอกาสเจ็บป่วยทั้งสิ้น การมีประกันสุขภาพไว้ก็ย่อมใช้ชีวิตได้อุ่นใจยิ่งกว่า อีกทั้งยังใช้สิทธิบางอย่างพร้อมกับประกันสังคมได้ด้วย นอกจากนี้การซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษี 2563 ได้เช่นกัน 
หากยังสงสัยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพอยู่ ลองกดเข้าไปดูข้อมูล ระกันสุขภาพใช้ลดหย่อนภาษีได้ไหม ? แล้วคุณจะเข้าใจยิ่งขึ้นครับ

2. ประกันอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุนับว่าเป็นภัยที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยคุณไม่ทันตั้งตัว การทำประกันอุบัติเหตุ นั้นจะมีค่ารักษาพยาบาลเมื่อคุณบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ดังนั้นการทำประกันอุบัติเหตุจึงสามารถนำสิทธิ์ไปลดหย่อนภาษี 2563 ได้ จุดเด่นของประกันอุบัติเหตุนอกจากจะมีค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมีเงินชดเชยกรณีคุณเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุด้วย และบางกรมธรรมยังคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากฆาตรกรรมด้วยเช่นกัน ส่วนเบี้ยประกันก็นับว่าไม่แพงมาก ผู้ที่มีรายได้น้อยสามารถทำประกันได้

3. ประกันโรคร้ายแรง 

โรคร้ายมักจะมาเยือนตอนคุณไม่ทันระวังตัวเสมอ เช่นโรคมะเร็ง โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด โรคพาร์กินสัน เป็นต้น  ถ้าเรามีประกันโรคร้ายแรงก็เหมือนเรามีหลักประกันค่ารักษาเมื่อเราเกิดป่วยเป็นโรคร้าย ซึ่งโดยทั่วไปหากตรวจพบโรคร้ายแรงทางบริษัทประกันจะให้เงินชดเชยเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ผู้ทำประกันนำเงินก้อนไปเป็นค่ารักษาพยาบาล ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ทำประกันโรคร้ายแรงจึงสามารถนำไปลดหย่อนภาษี 2563 ได้ จุดเด่นของประกันโรคร้ายแรงอีกประการ คือค่าเบี้ยรายปีถูกมาก แต่ได้รับเงินชดเชยสูง สามารถนำเงินไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากค่ารักษาโรคที่แสนแพงได้ ถ้าต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมลอไปดู ข้อแนะนำจากชาว Pantip ก่อนทำประกันโรคร้ายแรง ต้องรู้ ก็ได้นะครับ

4. ประกันโควิด-19

เป็นอีกหนึ่งโรคภัยที่ระบาดทั่วโลกในปี 2563 ซึ่งเงื่อนไขของประกันนี้คือหากตรวจเจอทางบริษัทผู้รับประกันจะจ่ายเงินชดเชย เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลรักษาโรคโควิด-19 ข้อดีของประกันตัวนี้จะคล้ายกับประกันโรคร้ายแรง คือราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น แต่หาก เช็คอาการและตรวจเจอโควิด-19 ก็จะได้เงินชดเชยมากเพียงพอจนสามารถรักษาโรคให้หายได้ ดังนั้นการซื้อประกันโควิดเพื่อลดหย่อนภาษีปี 2563 ก็นับเป็นทางเลือกที่ดีอีกทาง
คำนวนภาษี

ข้อควรระวัง !

ไม่ว่าคุณจะซื้อประกันที่มีค่ารักษาพยาบาลที่กรมธรรม์ก็ตาม จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีรวมทุกแผนได้ตามจริงในปี 2563 ไม่เกิน 25,000 เท่านั้น และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ด้วยครับ ซึ่งต้องอย่าลืมนะครับว่าต้องซื้อก่อนสิ้นปี 2563 เท่านั้น และต้องซึ่งกับบริษัทประกันภัยของไทยด้วยเช่นกัน 
ทั้งนี้หากเป็นไปได้ คุณควรแจ้งกับบริษัทประกันด้วยนะครับว่าต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2563 ซึ่งทางบริษัทประกันจะส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรเป็นหลักฐานเพิ่ม ทำให้เราทำเรื่องลดหย่อนภาษีได้สะดวกยิ่งขึ้น

ประกันชีวิตก็ลดหย่อนได้ แต่…

หากพูดถึงประกันที่ลดลดหย่อนภาษี 2563 ได้ หลายคนคงนึกถึงประกันชีวิตใช่ไหมครับ ซึ่งทางกรมสรรพากรได้ระบุว่าผู้ที่ซื้อประกันชีวิตสามารถหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี ซึ่งมากที่สุดเมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่น ๆ แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขคือคุณต้องซื้อประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นั่นหมายความว่าคุณมีข้อผู้มัดกับกรมธรรม์เป็นระยะเวลายาวครับ ดังนั้นการซื้อประกันชีวิตคุณจะต้องใส่ใจรายละเอียดกรมธรรม์ และดูเงื่อนไขข้อสัญญาให้ถี่ถ้วน รวมถึงวางแผนการเงินด้วยว่าจะส่งเบี้ยไหวแค่ไหนด้วยครับ
เท่านี้เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่าประกันตัวไหนลดหย่อนภาษี 2563 ได้ หวังว่าทุกท่านคงสามารถเลือกรูปแบบประกันที่ตรงกับใจ ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า พร้อมกับสิทธิ์ช่วยลดหย่อนภาษีได้อย่างลงตัวนะครับ 
ขอบคุณข้อมูลจาก : businesstoday  กรมสรรพากร
ประกันสุขภาพ

The post ซื้อประกันลดหย่อนภาษี 2563 ควรซื้อประกันแผนไหนดี ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีย้ายสิทธิบัตรทองจากโรงพยาบาล-คลินิกที่โดนยกเลิกสัญญา https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Wed, 30 Sep 2020 00:30:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13667 เช็กวิธีการย้ายสิทธิบัตรทองจากรพ.และคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญา 64 แห่งในกรุงเทพฯ ผู้ถือบัตรทองจะต้องทำยังไง แจ้งย้ายสิทธิบัตรทองออนไลน์ได้หรือไม่? มีคำตอบมาให้

The post วิธีย้ายสิทธิบัตรทองจากโรงพยาบาล-คลินิกที่โดนยกเลิกสัญญา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เนื่องจากข่าวประกาศที่มีการยกเลิกสิทธิบัตรทองของโรงพยาบาล และคลินิกทั้งหมด 64 แห่งที่ผ่านมา จนสร้างความตกใจให้กับผู้ถือบัตรทองไม่น้อย ทำให้ประชาชนกว่า 800,000 คน ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไปด้วย แต่คุณก็สามารถแจ้งย้ายสิทธิบัตรทองในเขตกรุงเทพฯ ตามสถานพยาบาลที่คุณต้องการได้ วันนี้ bolttech.co.th จะมาสรุป วิธีการย้ายสิทธิบัตรทองออนไลน์ หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลบัตรทองแบบง่ายๆ มาฝากทุกคน เพียงเตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม ก็สามารถแจ้งย้ายสิทธิบัตรทองได้เลย !!

ตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาล-คลินิกชุมชนที่ยกเลิกสัญญา

1. รพ.บางไผ่

2. รพ.ปิยะเวท

3. รพ.ทั่วไปขนาดเล็กนันอา

4. รพ.วิชัยเวช แยกไฟฉาย

5. รพ.พระราม 2

6. รพ.สุขสวัสดิ์

7. รพ.บางขุนเทียน 1

8. เทียนทะเลคลินิกเวชกรรม

9. บางขุนเทียน 2 คลินิกเวชกรรม

10. บางบอนคลินิกเวชกรรม

11. คลินิกเวชกรรมลาซาล

12. ธนารมย์สหคลินิก

13. คลินิกเวชกรรมทุ่งครุ

14. เพชรทองคําคลินิกเวชกรรม สาขาพระราม 2

15. คลินิกสุพจน์เวชกรรม

16. รื่นฤดีสหคลินิก

17. รพ.บางปะกอก 9

18. สี่แยกประเวศคลินิกเวชกรรม

19. มิตรชุมชนคลินิกเวชกรรม สาขาลาดพร้าว 111

20. คลินิกเวชกรรมวิภาวดี ซอย 2

21. ธราวรรณสหคลินิก (เวชกรรมและการแพทย์แผนไทย)

22. คลินิกเวชกรรมลาดพร้าว 122

23. พระยาสุเรนทร์คลินิกเวชกรรม สาขาแกรนด์ออคิด

24. คลินิกเวชกรรมวิภาวดี 60

25. โพธิสุวรรณคลินิกเวชกรรม สาขาบางเขน

26. สายหยุดโรงพยาบาลทั่วไปขนาดเล็ก

27. คลินิกเวชกรรมเยนเนอรัลธนินทร

28. พหลฯ 58 คลินิกเวชกรรม

29. คลินิกเวชกรรมทวิมาศ สาขารามคําแหง 36/1

30. คลินิกเวชกรรมทวิมาศ สาขารามคําแหง 53

31. เจริญนครธนบุรีคลินิกเวชกรรม

32. สหคลินิกกล้วยน้ําไท สาขาเดอะช็อปปส์แกรนด์พระราม 9

33. เมืองมีนบุรีคลินิกเวชกรรม

34. คลินิกเวชกรรมซอยนวลจันทร์

35. เจริญราษฎร์คลินิกเวชกรรม

36. สหคลินิกถนนนวมินทร์

37. คลินิกเวชกรรมสายสัมพันธ์

38. การแพทย์เทอดไทคลินิกเวชกรรม

39. คาเมราตาคลินิกเวชกรรม

40. คาเมราตาคลินิกเวชกรรม สาขาหลักสี่

41. คาเมราตาคลินิกเวชกรรม สาขาทุ่งสองห้อง

42. สายไหมคลินิกเวชกรรม สาขาเคหะร่มเกล้า

43. ลภาราม 1 คลินิกเวชกรรม

44. ลาดพร้าวการแพทย์คลินิกเวชกรรม

45. คลินิกเวชกรรมวังหิน

46. สร้างสุขคลินิกเวชกรรม

47. คลินิกเวชกรรมรวินท์มาศ

48. ศิริกัญญาคลินิกเวชกรรม

49. รพ.เพชรเกษม 2

50. จันทร์ 16 คลินิกเวชกรรม

51. มิตรไมตรีสหคลินิก สาขาลาซาล

52. สะพานสูงคลินิกเวชกรรม

53. สุขะวิทยาสหคลินิก

54. มิตรไมตรีสหคลินิก สาขาอุดมสุข

55. กานพัชทวีคลินิกเวชกรรม

56. เมืองธรรมคลินิกเวชกรรม (สาขาพัฒนาการ)

57. เมืองธรรมคลินิกเวชกรรม(สาขาพระโขนง)

58. เมืองธรรมคลินิกเวชกรรม

59. เมืองเพชรคลินิกเวชกรรม

60. เพชรเกษม 69 คลินิกเวชกรรม

61. คลินิกเวชกรรม ม.เศรษฐกิจ

62. คลินิกทันตกรรมยิ้มพราว

63. คลินิกทันตกรรมวี-เด็นทัลแคร์ (บางเขน)

64. คลินิกทันตกรรม-เด็นทัลแคร์ (ลาดกระบัง)

** กรณีท่านไม่ทราบว่าสิทธิบัตรทองอยู่ที่สถาพยาบาลไหน สามารถตรวจสอบสิทธิทางเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ก่อนได้

การแจ้งย้ายสิทธิบัตรทอง จะต้องทำอย่างไรบ้าง?

จากทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เพิ่งได้ออกประกาศมาว่า ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. ยังไม่ต้องลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลใหม่ เพราะสปสช. จะจัดให้ท่านได้รับสิทธิพิเศษรับบริการสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการกับ สปสช. ได้ทุกแห่ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะมีประกาศให้ลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง

ถ้าท่านต้อง การแจ้งย้ายสิทธิบัตรทอง (บัตรทอง 30 บาท) ตามที่อยู่ในเครือใกล้บ้าน ท่านสามารถแจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลบัตรทองได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนที่สำนักงานเขตในกรุงเทพฯ ผ่านเว็บไซต์ ผ่านไลน์ หรือผ่านแอปพลิเคชัน สปสช. โดยหลังจากย้ายสิทธิบัตรทองแล้วจะใช้ระยะเวลาภายใน 15-30 วัน จึงสามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลบัตรทองได้ตามที่ท่านลงทะเบียนไว้

1. แจ้งย้ายสิทธิที่จุดลงทะเบียน สำนักงานเขตในกรุงเทพฯ

กรณีที่ท่านมีสิทธิอยู่ที่คลินิก และโรงพยาบาลดังกล่าว สามารถเข้ามาติดต่อเพื่อลงทะเบียนใช้สิทธิบัตรทองรักษาแห่งใหม่ได้ที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทั้งหมด 19 เขตในกรุงเทพฯ ได้แก่ เขตคลองเตย เขตคลองสามวา เขตธนบุรี เขตบางกะปิ เขตบางขุนเทียน เขตบางแค เขตบางพลัด เขตประเวศ เขตพระขโนง เขตมีนบุรี เขตราชเทวี เขตราษฎร์บูรณะ เขตลาดกระบัง เขตลาดพร้าว เขตสายไหม เขตหนองแขม เขตหนองจอก เขตหลักสี่ และเขตห้วยขวาง

เอกสารที่ใช้การแจ้งย้ายสิทธิที่สำนักงานเขต มีดังนี้

  • กรณีพักอาศัยตรงตามบัตรประชาชน ให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน กรณีเป็นเด็กเล็กให้ใช้เป็นสูติบัตร
  • กรณีพักอาศัยไม่ตรงตามบัตรประชาชน ให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารอื่นเพิ่มเติมอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ทะเบียนบ้านผู้ใช้สิทธิ หนังสือรับรองพักอาศัยจริงจากเจ้าบ้าน หนังสือรับรองชุมชน หนังสือรับรองผู้ว่าจ้าง/นายจ้าง หรือใบเสร็จค่าน้ำปะปา ไฟฟ้า สัญญาเช่าที่มีชื่อตัวเอง

2. แจ้งย้ายสิทธิบัตรทองออนไลน์ ผ่าน Line

สำหรับท่านไหนที่ไม่สะดวกเดินทางติดต่อที่สำนักงานเขต ก็สามารถแจ้งรับบริการย้ายสิทธิบัตรทองออนไลน์ผ่าน line สปสช. ด้วยตัวเอง ตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  • เริ่มจากเข้าไปที่ LINE Official Account พิมพ์ค้นหา Line ID @nhso หรือสแกน QR Code ตามรูปด้านบน
  • เมื่อแอดไลน์แล้ว ให้ท่านกดเข้าไปที่ สิทธิบัตรทองเปลี่ยนหน่วยบริการ (ด้วยตัวเอง) จะมีให้ท่านอ่านข้อตกลง และกดยอมรับข้อตกลง
  • หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าให้ท่านกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก จากนั้นให้กดปุ่มถัดไป
  • แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และเลขหลังบัตรประชาชน จากนั้นกดปุ่มถัดไป
  • กรอกรหัสผ่านของท่าน 6 หลัก (ที่ท่านสามารถจำได้) แล้วกดปุ่มถัดไป
  • ทำการยืนยันรหัสผ่านที่ท่านกรอกหน้านี้อีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยัน
  • ต่อมาให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์ของท่าน แล้วคลิกปุ่มขอรับรหัส OTP
  • เมื่อท่านได้รับรหัส OTP แล้ว สามารถเข้ามาดูรหัสได้ที่ SMS ที่ส่งเข้าในเครื่องโทรศัพท์ของท่าน ให้ท่านกรอกรหัสจึงค่อยกดยืนยัน 
  • เลือกเมนู “ตรง” เมื่อที่อยู่ของท่านตรงกับบัตรประชาชน แต่ถ้าที่อยู่ของท่านไม่ตรงให้กดว่า “ไม่ตรง” จะมีให้ถ่ายถ่ายรูปเอกสารเพิ่ม เช่น บิลค่าไฟ
  • ระบบจะพาเข้าสู่การย้ายบัตรทองออนไลน์ แล้วทำการถ่ายรูปบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน (ถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายรูปคุณถือบัตรประชาชน)
  • สุดท้ายระบบจะให้ท่านเลือกว่าต้องการย้ายสิทธิบัตรทองไปที่สถานพยาบาลไหน เลือกสิทธิบัตรทองออนไลน์เองได้เลย

3. แจ้งย้ายสิทธิบัตรทองแอปพลิเคชัน สปสช.

วิธีย้ายสิทธิบัตรทอง

อีกหนึ่งวิธีการแจ้งย้ายสิทธิบัตรทอง หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค คือการแจ้งย้ายผ่านแอปพลิเคชันของ สปสช. อย่างแรกท่านจะต้องเพียงดาวโหลดแอปพลิเคชันลงบนมือถือสมาร์ทโฟน เพื่อลงทะเบียนและยืนยันตัวตนก่อน จึงสามารถแจ้งย้ายสิทธิ์ในขั้นตอนต่อไป ขอย้ำโหลดฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • อันดับแรกให้ท่านดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน สปสช. ท่านสามารถใช้ได้ทั้ง ระบบ IOS และ ระบบ Android 
  • เข้ามาที่แอปแล้วคลิกเลือก “ตรวจสอบสิทธิตนเอง” หรือ “ลงทะเบียนหน่วยบริการ” อย่างใดอย่างหนึ่ง
  • คลิกลงทะเบียน แล้วให้กดยอมรับเงื่อนไข พร้อมกรอกเลขบัตรประชาชน
  • ทั้งนี้ระบบจะขึ้นข้อมูลของท่าน เช่น ชื่อ-นามสกุล จากนั้นให้ท่านกรอกหมายเลขหลังบัตรประชาชน และวัน/เดือน/ปีเกิดของท่าน 
  • จากนั้นให้ท่านตั้งค่ารหัสผ่าน 6 หลักในการใช้แอป (กรอกทั้งหมด 2 ครั้ง) แนะนำให้ตั้งรหัสผ่านง่ายๆ เพื่อจะเอาไว้ใช้ในการเปิดแอปครั้งต่อไป
  • กรอกเบอร์โทรศัพท์ของท่าน และกดขอรหัส OTP หลังจากนั้นจะมี SMS แจ้งรหัสเข้ามาที่มือถือของท่าน โดยให้กรอกรหัสผ่านนั้นลงไป เสร็จแล้วกดคลิกที่ปุ่มตรวจสอบก็ยืนยันตัวตนสำเร็จ
  • เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะขึ้นข้อมูลทั้งหมดของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล สิทธิการเบิกใช้ สิทธิย่อย สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้น สถานพยาบาลที่เข้ารับการส่งต่อ เป็นต้น

ต่อมาเข้าสู่ขั้นตอนการแจ้งย้ายสิทธิบัตรทอง หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลบัตรทอง ท่านจะต้องเลือกกดที่ “ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ” ตรงหน้าหลักของแอปพลิเคชัน โดยการขอย้ายสิทธิบัตรทองผ่านแอปพลิเคชัน จะมีอยู่ 2 กรณีดังนี้

  • แจ้งย้ายผ่านแอป กรณีที่อยู่ตรงบัตรประชาชน หากที่อยู่ตรงกับบัตรประชาชนให้กดตกลง ระบบจะทำการยืนยันตัวตนของท่านด้วยการถ่ายรูปบัตรประชาชน พร้อมถ่ายรูปใบหน้าของท่านแล้วกดบันทึก จากนั้นให้ท่านเลือกสถานพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง เสร็จแล้วให้กดยืนยัน
  • แจ้งย้ายผ่านแอป กรณีที่อยู่ไม่ตรงกับบัตรประชาชน หากที่อยู่ของท่านไม่ตรงกับเลขบัตรประชาชน ให้ท่านกดเลือกที่ปุ่ม “ไม่ตรง” จากนั้นให้ท่านแนบไฟล์หลักฐานเพื่อยืนยันข้อมูลที่อยู่ ได้แก่ หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบ้าน บิลค่าน้ำ บิลค่าไฟ เป็นต้น (ขนาดไฟล์แนบไม่เกิน 1 MB) เสร็จแล้วให้กดยืนยัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านมีสิทธิกองทุนอย่างสิทธิประกันสังคมจะไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิบัตรทองได้ หมายความว่า ท่านจะต้องเลือกใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อความชัวร์ก่อนได้เลย หลังจากย้ายสิทธิบัตรทองเรียบร้อยแล้ว ทางสปสช.จะย้ายสิทธิบัตรทองไปยังสถานพยาบาลใหม่อัตโนมัติ ส่วนสถานพยาบาลที่อยู่ในต่างจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ต้องแจ้งย้ายสิทธิบัตรทองแต่อย่างใด

เห็นไหมว่า? ค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เมื่อยามเจ็บป่วยหรือไม่สบายก็ต้องเตรียมเงินจ่ายค่ารักษา บางรายก็เจ็บหนักจนต้องเสียเงินก้อนโต ถ้าคุณไม่อยากให้ค่ารักษาพยาบาลเป็นเรื่องกวนใจ อย่าลืมทำประกันสุขภาพ กับ bolttech.co.th ไว้ให้ช่วยดูแลคุณด้วย ไม่ต้องตรวจสุขภาพก็ซื้อได้ คุ้มครองให้นานถึง 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) หรือผู้ป่วยใน (IPD) ประกันสุขภาพก็คุ้มครองให้เต็มวงเงินที่คุณเลือกไว้ สบายใจได้เปาะหนึ่งเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.nhso.go.th

The post วิธีย้ายสิทธิบัตรทองจากโรงพยาบาล-คลินิกที่โดนยกเลิกสัญญา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมนูอาหารคนท้อง ที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b9%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 Mon, 21 Sep 2020 03:10:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13014 สุดยอด!! เมนูอาหารคนท้องตามอายุครรภ์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ สุขภาพที่ดีของลูกน้อย และบำรุงครรภ์ให้กับคุณแม่ แล้วอาหารคนท้องไหนที่ควรกินบ้าง? อ่านได้ที่นี่เลย

The post เมนูอาหารคนท้อง ที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
จะดีแค่ไหน? เมื่อลูกน้อยกินอาหารที่ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพื่อเสริมให้ลูกมีพัฒนาการ พร้อมเรียนรู้ด้วยโภชนาการง่ายๆ เพราะอาหารสำหรับคนท้องจะมีผลต่อร่างกายของเด็กโดยตรง เราจึงควรเลือกทานเมนูอาหารคนท้องที่เป็นประโยชน์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ และเหมาะสมตามแต่ละไตรมาสด้วย ไม่ว่าจะเป็นไตรมาสแรกจนถึงไตรมาสใกล้คลอด ก็จะทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารครบถ้วนมากขึ้น พร้อมช่วยบำรุงร่างกายคุณแม่ให้แข็งเเรง แถมเป็นเมนูอาหารลดความอ้วนอีกด้วยนะ ว่าแล้วอาหารที่คนท้องควรกินจะมีอะไรบ้าง มาอ่านกันเลย...

อาหารคนท้องไตรมาสที่ 1

ในช่วงไตรมาสเดือนที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนอาจจะมีอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้ และอาเจียน จึงทำให้ไม่สามารถทานอาหารได้ ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกเมนูอาหารอ่อนๆ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ได้แก่

เมนูอาหารคนท้อง
  • อาหารที่มีโปรตีนและโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน เต้าหู้ ไข่ ไก่ เนื่องจากโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และการเจริญเติบโตของเด็กทารก ยกเว้นอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน และอาหารทะเลบางชนิดที่มีสารพิษตกค้าง เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทารก
  • ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม หากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่แพ้นม ก็สามารถดื่มนมในปริมาณที่เหมาะสมได้ เพราะนมจะมีทั้งโปรตีน เเคลเซียม วิตามิน และกรดโฟลิก ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกของทารกและคุณแม่ให้แข็งแรง แต่ไม่ควรดื่มเกิน 3 แก้วต่อวัน

  • อาหารที่มีธาตุเหล็ก สำหรับเมนูคนท้องที่แนะนำให้ทาน ได้แก่ ข้าวโอ๊ต ถั่ว ลูกเดือย และข้าวกล้อง ธาตุเหล็กจะมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดในร่างกายของเด็กทารก และช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางด้วย

  • อาหารที่มีโฟเลต จำพวกผักและผลไม้ เช่น มะเขือเทศ ส้ม บร็อกโคลี ผักโขม มันฝรั่ง รวมถึงผักใบเขียวต่างๆ ทั้งนี้อาหารที่มีโฟเเลตจะมีผลต่อการพัฒนาสมอง ไขสันหลัง กระดูกสันหลังของทารกในระยะแรก
เมนูอาหารคนท้อง

เมนูอาหารคนท้องที่แนะนำ : ไข่ตุ๋น, เต้าหู้ไข่, ผัดผักโขม, ผัดผักบร็อกโคลี, ต้มไก่ใส่มะเขือเทศ, ข้าวผัดข้าวกล้อง, ปลาแซลม่อนย่าง และผักใบเขียวชนิดต่างๆ 

อาหารคนท้องไตสมาสที่ 2

เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 4-6 ของการตั้งครรภ์ ในช่วงนี้อาการแพ้ท้องของคุณแม่จะลดลง ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมากนัก แต่จะเริ่มรู้สึกหิวบ่อยมากขึ้น แล้วเด็กทารกก็จะเริ่มมีการเจริญเติบโต พอคุณแม่กินอะไร ลูกน้อยก็จะกินตามไปด้วย ดังนั้น อาหารที่คนท้องควรกินจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการพัฒนาร่างกายและสมองของลูกน้อย

เมนูอาหารคนท้อง
  • อาหารที่มีไอโอดีน เช่น สาหร่าย ปลาทูนึ่ง และกุ้งทะล เป็นต้น เนื่องจากคุณแม่ตั้งครรภ์ต่อมไทรอยด์จะทำงานหนัก ร่างกายจึงต้องการไอโอดีนเพิ่มขึ้น อโอดีนจะช่วยให้การเจริญเติบโตของต่อมไทรอยด์เป็นปกติ กระตุ้นการทำงานของหัวใจ และช่วยในการผลิตน้ำนมของคุณแม่อีกด้วย

  • อาหารที่ธาตุเหล็ก เช่น ฝักทอง บร็อกโคลี ตำลึง จะช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก เสริมสร้างเม็ดเลือดให้กับร่างกาย
เมนูอาหารคนท้อง
  • อาหารที่เป็นธัญพืช เช่น  ลูกเกด ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เมล็ดฟักทอง ขนมปังธัญพืช อัลมอนด์ และเมล็ดงา ทั้งหมดนี้เป็นอาหารสำหรับคนท้องที่ให้พลังงานอย่างคาร์โบไฮเดรต และมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยนะ

  • ผักที่มีใยอาหาร ได้แก่ แครอท ผักคะน้า มะเขือ ดอกกะหล่ำ และผักใบเขียวเข้ม เพราะว่า ผักใบเขียวจะช่วยป้องกันโรคท้องผูก เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายคุณแม่และลูกน้อย แถมยังช่วยต้านโรคเบาหวานด้วยการกินผักสมุนไพรอีกด้วย

  • ผลไม้ที่มีวิตามินสูง ไม่ว่าจะเป็นส้ม กีวี สตอเบอรี่ เชอรี่ ฝรั่ง กล้วย แอปเปิ้ล มะละกอสุก จะอุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามิน มีคุณสมบัติช่วยป้องกันหวัด และช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้ดี
เมนูอาหารคนท้อง

เมนูอาหารคนท้องที่แนะนำ : ข้าวผัดปลาทูโรยหน้าส้มโอ, น้ำพริกปลาทู, ก๋วยเตี๋ยวกุ้ง, ผัดผักดอกกะหล่ำ, ผัดผักบร็อกโคลี, แกงจืดสาหร่าย, แกงเลียง เป็นต้น

อาหารคนท้องไตรมาสที่ 3

สำหรับในช่วงเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีหน้าท้องขนาดใหญ่ขึ้น จึงไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณที่มากเกินไป แนะนำให้ทานเมนูอาหารคนท้อง โดยแบ่งอาหารจาก 3 มื้อหลัก เปลี่ยนเป็น 4-5 มื้อเล็กๆ จะดีกว่า เพื่อให้ระบบอาหารย่อยง่าย และช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่มากขึ้น

เมนูอาหารคนท้อง
  • อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต เพราะแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของทารก และช่วยลดอาการตะคริวของคุณแม่ตั้งครรภ์

  • อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน น้ำมันปลา น้ำมันคาโนล่า เมล็ดฟักทอง และวอลนัท ซึ่งเมนูอาหารคนท้องอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยบำรุงสมองของเด็กทารก และช่วยสร้างน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดด้วย
เมนูอาหารคนท้อง
  • ผักใบเขียวและผักสีเหลือง ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่ง ต้นอ่อนทานตะวัน บล็อกโคลี่ สาหร่ายทะเล และฝักทอง ซึ่งผักจะอุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่างๆ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกาย จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติ และช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายได้

  • โยเกิร์ตไขมันต่ำ  อีกหนึ่งอาหารคนท้องที่ควรทานเป็นประจำ คือ โยเกิร์ตไขมันต่ำ เพราะจะมีอุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามินบี และสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยในการบำรุงครรภ์ เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แก่เด็กทารก อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่อิ่มท้อง และดีต่อระบบลำไส้อีกด้วย

  • ดื่มน้ำเปล่าวันละ 8-10 แก้ว สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงนี้ควร ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-12 แก้วต่อวัน จะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำขณะตั้งครรภ์ แล้วทางที่ดีเราควรดื่มเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำในอุณหภูมิห้องจะดีกว่า จะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น
เมนูอาหารคนท้อง

เมนูอาหารคนท้องที่แนะนำ : ฟักทองผัดไข่, แกงบวดฟักทอง, ไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน, ซุปฟักทอง, ลาบปลาแซลมอน, เมล็ดงาโรยข้าว, ข้าวกล้องต้มเนื้อปลา, ผัดน้ำมันหอยหน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น

นอกจากเมนูอาหารคนท้อที่มีประโยชน์แล้ว คุณแม่ก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วย เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูป, เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก  ชีส เนยแข็ง นมสดที่ไม่ผ่านการเจอไรซ์ ถั่วงอกดิบ แอลกอฮอล์ กาแฟ ชา น้ำอัดลม ขนมคบเคี้ยว ของหมักดอง มะม่วงดิบ ทุเรียน รวมถึงอาหารที่มีรสเค็มจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด เป็นต้น

เมนูอาหารคนท้อง

ดังนั้น ถ้าคุณแม่ใส่ใจเลือกเมนูอาหารสำหรับคนท้องเฉพาะ ก็จะช่วยให้เด็กเติบโตมาอย่างแข็งแรง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับคุณแม่เช่นกัน แล้วที่สำคัญอย่าลืมหมั่นทำโยคะ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุรี่ ไม่เครียด เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีด้วย แต่ถ้าคุณไม่อยากกังวลเรื่องค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วยในอนาคต เพียงทำประกันสุขภาพกับ frank.co.th ก็คุ้มครองค่ารักษาให้ !! ไม่ว่าเจ็บป่วยเล็กน้อยไปจนถึงใหญ่ ประกันสุขภาพก็ดูแล พร้อมให้คุณแม่อุ่นใจมากขึ้น

The post เมนูอาหารคนท้อง ที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษา https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2 Fri, 11 Sep 2020 04:40:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13316 เช็กอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรค ALS จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แขน ขา มือ และเท้าควบคุมไม่ได้ พร้อมวิธีการรักษาโรค ALS เป็นอย่างไร เรามีคำตอบมาให้แล้ว

The post โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
มาทำความรู้จักกับ โรค ALS หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อีกหนึ่งโรคใกล้ตัวที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเซียล ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเซลล์ประสาท จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ซึ่งโรค ALS จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงแค่รักษาตามอาการหมือนโรคมะเร็ง แต่หากผู้ป่วยได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ทั้งนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรค ALS คืออะไร? มีอาการ พร้อมวิธีการรักษาอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างไรบ้าง มาอ่านกันเลย

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) คืออะไร

โรค ALS

“โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” หรือเรียกกันว่าโรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) คือ โรคที่ผิดปกติเกี่ยวกับระบบเซลล์ประสาท ทั้งส่วนในสมองและไขสันหลัง ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมเซลล์กล้ามเนื้อได้ มีอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง กระตุก และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านได้บ่อยที่สุด เช่น หกล้ม พลัดตกจากที่สูง เดินสะดุด เป็นต้น เนื่องจากโรค ALS นี้เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทนำคำสั่ง (โรคของเซลล์ประสาทนำคำสั่ง motor neuron disease; MND) ที่ทำให้ผู้ป่วยควบคุมร่างกายไม่ได้นั่นเอง

สาเหตุโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดจากอะไร

โรค ALS

มีหลายคนตั้งคำถามว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง คำตอบอาจจะยังไม่แน่ชัดมากนัก แต่มีข้อสันนิษฐานจากปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรค ALS ดังต่อไปนี้

  • ความผิดปกติของภูมิคุ้มกันตัวเอง หรือโปรตีนบางชนิดทำให้เซลล์ประสาทถูกทำลาย
  • ทางพันธุกรรมที่ทำให้เซลล์ประสาทเสื่อมสภาพ
  • เป็นโรคกล้ามเนื้อเส้น โรคประสาทอักเสบ หลอดเลือดสมองตีบตันมาก่อน
  • มีการสัมผัสสารเคมีที่ปนเปื้อน เช่น ยาฆ่าแมลง โลหะ และรังสี เป็นต้น
  • เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดที่กระตุ้นให้เซลล์ประสาททำงานผิดปกติ
  • ปัจจัยอายุที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เซลล์สมองเสื่อมสภาพได้

อาการโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอย่างไร?

โรค ALS

ตามอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มักจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะมือ เเขน ขา เท้า หรืออวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรค ALS จะแสดงอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงชัดเจน ดังนี้

  • อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แขน ขา มือ เท้า และอวัยวะส่วนอื่นๆ ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ เช่น เดินสะดุด ขยับมือไม่ได้ เป็นต้น
  • มีอาการปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง อ่อนเพลียง่าย และผู้ป่วยบางรายก็มีอาการกระตุกร่วมด้วย
โรค ALS
  • อวัยวะปากและลิ้นขยับไม่ได้ รวมถึงไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
  • ผู้ป่วยมีอาการคอตก ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
  • บางรายก็จะติดเชื้อกลายเป็นปอดอักเสบ
  • หายใจลำบาก เพราะร่างกายไม่สามารถควบคุมกระบังลมที่เป็นส่วนช่วยในการหายใจได้ 

ทั้งนี้ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอยู่ได้กี่ปี? ก็ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย และวิธีการรักษา ส่วนใหญ่มักจะมีชีวิตอยู่ภายในระยะเวลา 2-10 ปี

วิธีการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS)

โรค ALS

ในกรณีทางแพทย์ประเมินว่าผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จะต้องให้แพทย์รักษาเพื่อบรรเทาอาการให้ได้มากที่สุด และป้องกันภาวะแทรกซ้อนโรคอื่นๆ ตามมาด้วย ได้แก่

  • การรักษาด้วยยา เช่น ยาไรลูโซล (Riluzole) ลดการเสื่อมของเซลล์ประสาท
  • การดูแลอาหารการกิน
  • การทำกายภาพบำบัด
  • การใช้เครื่องช่วยหายใจ

หากผู้ป่วยมีสิทธิประกันสังคม สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในเครือใกล้บ้านได้ แต่ถ้าคุณไม่สะดวกไปรักษาโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ก็จะต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วค่อยมาเบิกกับทางประกันสังคมทีหลัง ส่วนกรณีเจ็บป่วยแบบไหนเบิกประกันสังคมได้บ้าง อ่านเพิ่มเติมกันได้เลย!

โรค ALS

แล้วโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอันตรายไหม? คำตอบก็คือ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าผู้ป่วยรักษาอาการอย่างถูกวิธี และได้รับกำลังใจจากผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นจากครอบครัว คนรัก หรือเพื่อน ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ต่อกว่า 10 ปี เพราะกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญของผู้ป่วย เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นานที่สุด

แล้วที่สำคัญเพื่อความสบายใจ อย่าลืมมองหาประกันสุขภาพให้ช่วยดูแลค่ารักษาเมื่อยามเจ็บป่วยกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าห้องและค่าอาหารผู้ป่วย ก็คุ้มครองให้ทันที ไม่ต้องตรวจสุขภาพก็ซื้อได้ แต่เพื่อนๆ อย่าลืมอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพก่อนซื้อด้วยนะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก : vibhavadi.com

ประกันสุขภาพ

The post โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษา appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีแก้โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ แบบง่ายๆ ทำได้เลย https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%89-%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2589-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a8 Mon, 07 Sep 2020 03:25:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13189 อาการจามไม่หยุด สงสัยโดนฝน เลยเป็นหวัด รู้หรือไม่ว่าคุณอาจเป็นโรค ภูมิแพ้อากาศ มาดูวิธีแก้ภูมิแพ้กัน

The post วิธีแก้โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ แบบง่ายๆ ทำได้เลย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย อยากรู้จังเลยว่าใครเอ่ยถึงฉัน หน้าฝนแบบนี้ หลายคนคงเกิดอาการ จามไม่หยุด ซึ่งก็อาจคิดว่า สงสัยโดนฝน เลยเป็นหวัด กินยาแก้หวัดเดียวก็หาย แต่รู้ไหมครับว่าคุณอาจจะไม่ได้เป็นแค่หวัด แต่อาจเป็น ภูมิแพ้อากาศ ที่หากปล่อยไว้ อาจลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ก็เป็นได้ งั้นวันนี้ แฟรงค์ขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า โรคภูมิแพ้อากาศคืออะไร และ จะรักษาอย่างไร

ภูมิแพ้อากาศ หรือ เป็นหวัด ต่างกันอย่างไร

วิธีแก้โรคภูมิแพ้

เนื่องจากอาการของโรคภูมิแพ้อากาศคือ จาม จามไม่หยุด คัดจมูก น้ำมูกไหล ทำให้หลายคนสับสนว่าตัวเองเป็นหวัด แต่จริงๆ แล้ว หวัด กับ ภูมิแพ้อากาศ มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยครับ  

ภูมิแพ้อากาศ

โดยโรคภูมิแพ้อากาศนี้จะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุครับ ไม่ว่าจะเป็นเราไปสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง มีความชื้นในอากาศสูง ความเครียด ไปจนถึงพักผ่อนไม่เพียงพอ  โดยอาการของภูมิแพ้อากาศจะมีดังนี้ครับ

  • มีน้ำมูกใสๆ 
  • ไม่ตัวร้อน ไม่มีไข้
  • เป็นโรคไม่ติดต่อ แต่บางทีอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม 
  • คันคอ คันจมูก อาจมีอาการคันตาและหูอื้อร่วม
  • เป็น ๆ หาย ๆ อาจเป็นติดต่อกัน 3 - 10 วัน
  • เป็นทันทีหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้

หวัด

ส่วนหวัด จะมีอาการดังนี้ครับ ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการทานยาแก้หวัดนะ

  • มีน้ำมูกข้นผสมน้ำมูกใส
  • ตัวร้อน มีไข้ได้
  • ติดต่อได้ และถ่ายทอดไปยังผู้อื่นได้
  • เจ็บคอ หรือ แสบคอ
  • อาการหนักขึ้นได้เรื่อย ๆ
  • ใช้เวลาฟักตัวนานกว่าจะแสดงอาการ

วิธีการรักษาภูมิแพ้อากาศ

การรักษาภูมิแพ้อากาศที่ได้ผลดี และคุณหมอแนะนำมากที่สุดก็คือ “ดูแลสุขภาพ” ให้แข็งแรงเสมอ และกำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้ามากระตุ้นครับ โดยแฟรงค์สรุปง่ายๆ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

ตัดไฟแต่ต้นลมครับ เมื่อเราเป็นภูมิแพ้ เราก็ต้อง ไม่เอาตัวเองไปใกล้กับสารก่อภูมิแพ้ หรือ “ป้องกัน” เช่น แพ้ฝุ่น แพ้เกสรดอกไม้ ให้เราสวมมาสก์ป้องกันไว้ ยิ่งในช่วงนี้มีโรคโควิด-19 ด้วย ปลอดภัยสองต่อเลย หรือถ้าใครแพ้อากาศ แฟรงค์แนะนำว่าไม่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันนะครับ 

2. ทำความสะอาดที่พัก

ฝุ่น คือตัวการสำคัญในการก่อภูมิแพ้ในบ้านเลยครับ ซึ่งการทำความสะอาดห้อง ทำความสะอาดที่พัก อย่างสม่ำเสมอจะช่วยได้ครับ ทั้งการกวาดถูบ้าน ซักผ้าปู ผ้านวม ผ้าห่ม ผ้าม่าน รวมถึงล้างแอร์ด้วยนะครับ หรือจะให้ดีมีเครื่องกรองอากาศภายในบ้านด้วยนะครับ

3. ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง

เมื่อเป็นโรคภูมิแพ้เราก็สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ ซึ่งท่าออกกำลังกายจะช่วยลดพุงได้ดีเลยครับ ทั้งช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และยังเผาผลาญไขมันไปด้วย ดีสองต่อเลย!

4. ทานอาหารให้ดี มีประโยชน์

สุขภาพดี ต้องเริมจากอาหาร ถ้าเราอยากหายจากการเป็นโรคภูมิแพ้ แฟรงค์แนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบห้าหมู่ครับ หรือถ้าอยากทานอาหารที่ทั้งมีประโยชน์ ช่วยลดน้ำหนักด้วย ก็จัดไปทำตามนี้เลยครับ

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อนี้สำคัญมากครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้อากาศ วิธีรักษาที่ดีที่สุด คือการพักผ่อนให้เพียงพอครับ

วิธีแก้โรคภูมิแพ้

ภูมิแพ้ถือเป็นโรคที่หายยากมาก แต่ก็สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้ แฟรงค์ก็อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ และที่สำคัญ อย่าลืมทำประกันสุขภาพเตรียมไว้ด้วยนะ

The post วิธีแก้โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ แบบง่ายๆ ทำได้เลย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2587 Mon, 27 Jul 2020 03:00:33 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12497 อย่าประมาท ! หากเกิดอาการไข้ขึ้นสูง เพราะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าร่างกายของคุณกำลังทำงานผิดปกติ และอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต สำรวจตัวเองตอนนี้เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะสายเกินไป หากคุณมีอาการไข้ขึ้นสูงอาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาไข้ขึ้้นไม่เกิน 40 องศา กินยาพาราแล้วนอนพักแล้วหายเองได้ แต่คุณ

The post อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อย่าประมาท ! หากเกิดอาการไข้ขึ้นสูง เพราะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าร่างกายของคุณกำลังทำงานผิดปกติ และอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต สำรวจตัวเองตอนนี้เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะสายเกินไป
หากคุณมีอาการไข้ขึ้นสูงอาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาไข้ขึ้้นไม่เกิน 40 องศา กินยาพาราแล้วนอนพักแล้วหายเองได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีโรคร้ายแรงอีกหลายโรคที่มีอาการไข้ขึ้นสูงเหมือนกัน ดูเบื้องต้นผู้ป่วยอาจคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าตนเองเป็นโรคร้ายแรงกว่าที่คิด อาการก็ทรุดหนักลงจนไม่สามารถรักษาได้เสียแล้ว 
ดังนั้นถ้าเราเป็นไข้ เราก็ต้องสำรวจตัวเองว่ามีอาการป่วยอื่น ๆ อีกหรือไม่ เพื่อที่จะคาดการณ์เบื้องต้นว่าเราป่วยเป็นโรคอะไร ซึ่ง Frank จะมาเปิดเผยข้อมูลให้ทุกคนได้ทราบกันดังนี้ครับ 

โรคไข้เลือดออก

ไข้ขึ้นสูง
เป็นโรคที่พบบ่อยยามหน้าฝน หากมีอาการไข้ขึ้นสูงแบบเฉียบพลัน มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน เลือดออกตามไรฟัน และมีจุดสีแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำตัว ให้คาดเดาเบื้องต้นว่าอาจเป็นโรคไข้เลือดออกครับ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโดยมียุงลายเป็นพาหะ ทั้งนี้โรคไข้เลือดออกสามารถรักษาหายเองได้หลังจากป่วยไปสักประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่มีอาการดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยไว เพราะผู้ป่วยอาจเกิดอาการช๊อกจากภาวะเลือดไหลเวียนล้มเหลวได้

โรคไข้สมองอักเสบ

ไข้สมองอักเสบ
มักพบกับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ระยะเบื้องต้นจะมีอาการไข้ขึ้นสูงเหมือนโรคหวัดทั่วไป แต่อาการจะเริ่มรุนแรงขึ้นจากการที่สมองติดเชื้อไวรัส เช่น สมองเบลอ จำรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่ไม่ได้ มีการอ่อนเพลียเคลื่อนไหวช้าลงอย่างเห็นได้ชัด มีภาวะอารมณ์รุนแรง ดูหงุดหงิดตลอดเวลา บางครั้งอาจเห็นภาพหลอน ภาพซ้อน และหนักสุดอาจมีอาการชักรุนแรง หากวิเคราะห์แล้วพบว่าอาจเป็นโรคไข้สมองอักเสบให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะโรคนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

โรคไข้ไทฟอยด์

ไข้ไทฟอยด์
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้ไทฟอยด์ มักเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิต อาหารการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เมื่อป่วยแล้วจะมีอาการไข้ขึ้นสูงในช่วงเวลากลางคืน และอาการอื่น ๆ ตามมาเช่น ปวดหัว ไอ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลียไม่มีแรง เหงือออกเป็นจำนวนมาก มีผื่นคันตามช่วงหน้าท้อง ปวดท้อง ท้องเสีย บางครั้งหากไข้ขึ้นสูงมากอาจมีอาการเพ้อตามมาด้วย และหากไม่ได้รับการรักษาอาจทวีความรุนแรงจนเสียชีวิตได้เช่นกัน

โรคโควิด-19

โควิด-19
โควิด-19 เป็นโรคระบาดร้ายแรงตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2563 มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคนทั่วโรคและมีผู้เสียชีวิตนับแสนคน ผู้ที่ป่วยเป็นโควิดจะมีอาการไข้ขึ้นสูง พร้อมกับมีอาการอื่น ๆ ดังนี้คือ มีอาการไอแห้ง ร่างกายอ่อยเพลีย ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว เจ็บคอ ปวดหัว ท้องเสีย หายใจติดขัด เจ็บหน้าอกขณะหายใจ หากมีอาการดังกล่าวให้ไปพบแพทย์โดยไวและแจ้งข้อมูลกับทางสถานพยาบาลอย่างละเอียด แม้ว่าผู้ที่ป่วยเป็นโควิดบางรายอาจหายได้เอง แต่ผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแอก็มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคนี้สูงเช่นกัน

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
หากคุณป่วยมีอาการไข้ขึ้นสูงอย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาไม่กี่วันหาย เพราะบางครั้งอาการไข้ขึ้นอาจเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคุณกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งผู้ป่วยนอกจากจะไข้ขึ้นจนหนาวสั่นแล้วยังมีอาการต่อมทอนซิลโต พบก้อนเนื้อตามซอกคอ รักแร้ โคนขาหนีบ รู้สึกเบื่ออาหารและน้ำหนักลด ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดหัว หากคุณมีอาการดังนี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก ๆ สามารถรักษาได้ ดังนั้น อย่าประมาทคิดว่าตนเองไม่เป็นอะไร ปล่อยให้เชื้อมะเร็งลุกลามทั่วร่างกายจนเสียชีวิต

โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มะเร็งเม็ดเลือดขาว
อาการป่วยไข้ขึ้นสูงอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เช่นกัน เพราะเม็ดเลือดขาวลดลงจึงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการป่วยง่ายและไข้ขึ้นสูง นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าคุณอาจป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้แก่ เลือดจาง หน้ามืด วิงเวียนศรีษะง่าย เหนื่อยง่าย ต่อมน้ำเหลืองโต ระบบภูมิคุ้มกันต่ำทำให้ติดเชื้อง่าย หากปล่อยไว้ไม่รักษาย่อมเกิดอันตรายต่อชีวิตได้
เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะป่วยไม่แข็งแรง ล้วนส่งผลให้คุณมีอาการไข้ขึ้นสูงได้ทั้งสิ้น หากรู้ตัวว่าไข้สูงอย่างไม่ทราบสาเหตุและไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากป่วยเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจะได้เข้ารับการรักษาทันที ทั้งนี้ สุขภาพของคุณ คุณจะต้องดูแลเอง อย่าปล่อยให้อาการเจ็บป่วยกัดกินร่างกายและพรากชีวิตอันแสนสุขไปจากคุณ
ประกันสุขภาพ

The post อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
8 วิธีไล่ยุงภายในบ้าน ป้องกันโรคไข้เลือดออก https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%84%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 Fri, 24 Jul 2020 03:10:02 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12380 “ยุงลาย” ถือเป็นสัตว์ใกล้ตัวที่อยู่ในช่วงหน้าฝนมากที่สุด ส่วนใหญ่แล้วยุงลายที่มักจะอาศัยอยู่ภายในบ้านของเรา คือ ยุงลายบ้านหรือยุงไข้เหลือง ซึ่งยุงชนิดนี้จะชอบอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำนิ่ง เช่น ตุ่มน้ำ อ่างน้ำ จานรองขาตู้ และแจกัน รวมถึงบริเวณที่มีแหล่งน้ำท่วมขังด้วย หากปล่อยละเลยก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกตามมา เราก็ต

The post 8 วิธีไล่ยุงภายในบ้าน ป้องกันโรคไข้เลือดออก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
“ยุงลาย” ถือเป็นสัตว์ใกล้ตัวที่อยู่ในช่วงหน้าฝนมากที่สุด ส่วนใหญ่แล้วยุงลายที่มักจะอาศัยอยู่ภายในบ้านของเรา คือ ยุงลายบ้านหรือยุงไข้เหลือง ซึ่งยุงชนิดนี้จะชอบอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำนิ่ง เช่น ตุ่มน้ำ อ่างน้ำ จานรองขาตู้ และแจกัน รวมถึงบริเวณที่มีแหล่งน้ำท่วมขังด้วย หากปล่อยละเลยก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกตามมา เราก็ต้องหาวิธีกำจัดยุงลายตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกที่อาจเกิดขึ้นต่อตัวคุณ และคนในครอบครัว

1. กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

วิธีไล่ยุงในบ้าน
สำหรับวิธีไล่ยุงในบ้านอย่างแรก เราจะต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงก่อน ได้แก่ ภาชนะเก็บกักน้ำ บ่อ กะละมัง ท่อน้ำ แจกัน และจานที่รองตู้กับข้าว ด้วยการเปลี่ยนน้ำทุกๆ สัปดาห์ หรือใส่เกลือกำจัดยุงลงไปในน้ำ แล้วที่สำคัญอย่าลืมคว่ำภาชนะที่มีแหล่งน้ำท่วมขังด้วยนะ

2. ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุง

วิธีไล่ยุงในบ้าน
“มุ้งลวด” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันยุงลายไม่ให้เข้าบ้านได้นะ เพียงติดมุ้งลวดทั้งประตูและหน้าต่างให้ครบทุกบาน แล้วสำรวจด้วยว่าประตูและหน้าต่างมีรอยขาดหรือไม่ หากมุ้งลวดมีรอยขาดก็ให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนมุ้งลวดใหม่ทันที

3. นอนข้างในมุ้งด้วย

วิธีไล่ยุงในบ้าน
หลังจากติดมุ้งลวดและหน้าต่างสนิทดีแล้ว แนะนำให้กางมุ้งก่อนนอนไว้ด้วย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนจะเป็นช่วงที่ยุงลายบ้านจะออกมาชุกชุมบ่อยๆ ทางที่ดีเราควรป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดดีกว่า

4. ปลูกต้นแคทนิป (กัญชาแมว)

วิธีไล่ยุงในบ้าน
ถ้าไม่อยากให้ยุงมากวนใจอีกต่อไป ก็ลองปลูกต้นไม้ไล่ยุงอย่างต้นแคทนิปหรือต้นกัญชาแมว ก่อนสิ เพราะต้นกัญชาแมวจะมีคุณสมบัติพิเศษในการไล่ยุง และไล่แมลงรวบกวนอื่นๆ ภายในบ้าน อีกทั้งยังสร้างความสุขให้กับน้องหมา น้องแมวเวลาได้สัมผัสกลิ่นนี้อีกด้วยนะ

5. ใช้เทียนตะไคร้หอม

วิธีไล่ยุงในบ้าน
“ตะไคร้หอมไล่ยุง” ถือเป็นหนึ่งวิธีไล่ยุงได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะตะไคร้จะมีสารระเหยออกฤทธิ์ที่ไล่ยุงเฉพาะ เพียงจุดเทียนตะไคร้ไล่ยุงไปวางไว้ในบริเวณที่อับชื้น มันก็จะช่วยไล่ยุงภายในบ้าน และป้องกันโรคไข้เลือดออกได้

6. ฉีดสเปย์กันยุง

วิธีไล่ยุงในบ้าน
นอกจากนี้ยังสามารถใช้โลชั่นกันยุง สเปรย์กันยุงสำหรับทาหรือฉีดพ่นตามร่างกายได้ แนะนำให้ทาตรงบริเวณแขนและขาให้ทั่ว หลังจากนั้นเวลาคุณไปไหนมาไหนยุงก็จะได้ไม่กล้าเข้ามาใกล้ แถมยังเป็นวิธีไล่ยุงที่ดีเลย

7. ทำความสะอาดบ้านให้แห้ง

วิธีไล่ยุงในบ้าน
ถ้าหากบ้านของคุณรกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงชั้นดีเลย คุณจะต้องจัดเก็บของภายในบ้านให้ดูเป็นระเบียบและปลอดโปร่ง อย่างเช่น กวาดบ้าน เช็ดบ้าน ถูบ้าน ตัดต้นไม้ และตัดสวนหย่อมไม่ให้รก เพื่อป้องกันยุงลายบ้านมาเกาะพักในมุมมืด

8. เก็บขยะที่เต็มถังไปทิ้ง

วิธีไล่ยุงในบ้าน
เพราะถังขยะเป็นเเหล่งชุกชุมของยุงลายบ้าน ให้เราลองสำรวจถังขยะในบ้านให้ครบทุกจุด หากพบว่าขยะเต็มถังให้รีบนำไปทิ้งทันที มันจะช่วยป้องกันยุงลายและแมลงรบกวนอื่นๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเรา
หลังจากเราศึกษาวิธีกำจัดยุงในบ้านแล้ว มันก็จะช่วยป้องกันตัวคุณและคนในครอบครัวห่างจากโรคไข้เลือดออกได้ แล้วไม่ใช่เพียงโรคไข้เลือดออกอย่างเดียว ยังรวมถึงโรคต่างๆ ที่มาพร้อมกับยุงชนิดอื่นด้วย เช่น โรคชิคุนกุนยา โรคมาลาเรีย และไข้สมองอักเสบ เป็นต้น  ดังนั้น ทุกคนจะต้องหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มียุงชุกชุม ก็สามารถทำประกันสุขภาพกับ frank.co.th ให้ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลได้เช่นกัน เพราะประกันสุขภาพของเราจะช่วยดูแลทั้ง 2 อย่างเลยโดยจะขึ้นอยู่กับแผนที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยใน (IPD) หรือผู้ป่วยนอก (OPD) ประกันสุขภาพก็จะคุ้มครองให้ตามวงเงินที่คุณเลือกเอาไว้
 
ประกันสุขภาพ

The post 8 วิธีไล่ยุงภายในบ้าน ป้องกันโรคไข้เลือดออก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อาการไข้เลือดออก สาเหตุ และวิธีการรักษาเบื้องต้น https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2 Wed, 08 Jul 2020 03:00:11 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12245 ในช่วงฤดูฝนมาเยือนแบบนี้ นอกจากเราจะดูแลสุขภาพตัวเองในช่วงหน้าฝนแล้ว อีกสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “โรคไข้เลือดออก” ที่มาพร้อมกับยุงลาย หากเราโดนยุงลายกัดก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งส่งผลอันตรายต่อชีวิต แล้วเพื่อรู้จักป้องกันตัวเองมากขึ้น ลองมาศึกษาอาก

The post อาการไข้เลือดออก สาเหตุ และวิธีการรักษาเบื้องต้น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ในช่วงฤดูฝนมาเยือนแบบนี้ นอกจากเราจะดูแลสุขภาพตัวเองในช่วงหน้าฝนแล้ว อีกสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “โรคไข้เลือดออก” ที่มาพร้อมกับยุงลาย หากเราโดนยุงลายกัดก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งส่งผลอันตรายต่อชีวิต แล้วเพื่อรู้จักป้องกันตัวเองมากขึ้น ลองมาศึกษาอาการไข้เลือดออกระยะแรก สาเหตุ และวิธีการรักษาไข้เลือดออกกันเลย

สาเหตุโรคไข้เลือดออกเกิดจากอะไร

อาการโรคไข้เลือดออกวิธีไล่แมลง
โรคไข้เลือดเกิดจากยุงลายเพศเมียที่เป็นตัวกลางนำพาโรคไปสู่คน เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดผู้ป่วยที่มี เชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) เชื้อไวรัสชนิดนี้ก็จะเข้าสู่กระเพาะของยุงแล้วไปเกาะตามเซลล์ที่ผนังกระเพาะของยุงลาย โดยใช้เวลาฟักตัวประมาณ 8-12 วัน พอยุงตัวนี้ไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไวรัสเดงกีเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ถูกกัด และเชื้อจะฟักตัวเข้าสู่ร่างกายคนประมาณ 5-8 วัน อาจจะสั้นหรือยาวกว่าก็ขึ้นอยู่เชื้อที่ได้รับของแต่ละคน
ทั้งนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มี่ยุงชุกชุมตามแหล่งน้ำนิ่งในบ้าน เช่น บ่อน้ำ ตุ่มน้ำ โอ่งน้ำ แจกัน จานรองตู้กับข้าว และแหล่งน้ำท่วมขังสกปรกก็ยิ่งมีโอกาสให้ยุงมาวางไข่ในน้ำ เพราะน้ำถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงชั้นเยี่ยม ทางที่ดีเราควรหาวิธีป้องกันหรือควบคุมโรคไข้เลือดออกกันด้วย

อาการโรคไข้เลือดออกเป็นอย่างไรบ้าง

อาการโรคไข้เลือดออก
เมื่อกล่าวถึงอาการไข้เลือดออกในผู้ใหญ่แต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการติดเชื้อและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยส่วนใหญ่อาการไข้เลือดออกในผู้ใหญ่ที่พบบ่อยๆ จะมีดังนี้

1. มีไข้ขึ้นสูง

สำหรับอาการไข้เลือดออกเริ่มต้นของผู้ป่วยจะมีอาการเป็นไข้ รู้สึกตัวร้อนๆ หนาวๆ หรือบางรายก็มีไข้ขึ้นสูงถึง 40-41 องศาเซลเซียลโดยไม่ทราบสาเหตุนานประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นมีอาการอ่อนเพลียตามมา ถึงแม้จะทานยาลดไข้แล้วก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น

2. มีอาการปวดหัว

ต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ ซึ่งอาการไข้เลือดออกในผู้ใหญ่จะมีอาการปวดบริเวณกระบอกตา และรุนแรงกว่าอาการไข้เลือดออกในเด็ก

3. ปวดเมื่อยตามตัว

“อาการโรคไข้เลือดออก”  ไม่ใช่เพียงแค่มีอาการปวดหัวอย่างเดียว แต่ผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัวอีกด้วย ได้แก่ ปวดข้อ ปวดเเขน ปวดกล้ามเนื้อ และปวดกระดูก เป็นต้น บางรายอาจจะปวดมากจนข้อบวม หรืออ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ

4. คลื่นไส้ อาเจียน

พอหลังจากไวรัสเดงกีฟักตัวนานขึ้น ผู้ป่วยอาจจะแสดงอาการโรคไข้เลือดออกชัดเจน คือ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร รู้สึกซึมเศร้ากว่าปกติ  หรือบางรายจะมีอาการอาเจียนบ่อยๆ หน้ามืด ใจสั่น ก็ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

5. ปวดท้อง ถ่ายเป็นสีดำ

นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องกดเจ็บชายโครงด้านขวา หรือท้องเสียร่วมด้วย (ขึ้นอยู่อาการแต่ละคน) แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมักถ่ายอุจจาระสีดำหรือมีเลือดปนอยู่ด้วย รู้สึกกระสับกระส่าย และปัสสาวะน้อยลงอาจจะเข้าสู่ภาวะช็อกได้ ต้องรีบพาผู้ป่วยเข้าพบแพทย์เช่นกัน
 
อาการโรคไข้เลือดออก

6. มีผื่นแดงตามตัว และมีเลือดออก

หากเราสังเกตเห็นมีผื่นแดงขึ้นตามตัว มีลักษณะจุดเลือดเล็กๆ กระจายตามบริเวณผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นเเขน ขา ลำตัว และรักแร้ ก็บ่งบอกได้ว่าเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก ส่วนในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงก็จะมีเลือดออกตามผิวหนัง มีเลือดกำเดาไหล หรือเลือดออกตามไรฟัน หากไม่รีบทำการรักษาไข้เลือดออกก็อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

7. ภาวะตับโต หรือตับล้มเหลว

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกประมาณวันที่  3-4 นับตั้งแต่วันที่เริ่มป่วย จะมีอาการตับอักเสบ พอกดแล้วจะรู้สึกเจ็บเพราะเชื้อไวรัสเดงกีสามารถทำลายตับ หรือระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ภายในร่างกาย อาจจะทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนอื่นได้เช่นกัน

8. อาการช็อก หมดสติ

เมื่อเข้าสู่ระยะวิกฤตหรือช็อก ผู้ป่วยจะมีภาวะเลือดโลหิตล้มเหลว ตัวซีด ตัวเย็น และหมดสติ  อาจส่งผลให้เสียชีวิตตามมาภายในเวลา 12-24 ชั่วโมง แล้วยังมีโอกาสเสียชีวิตได้ทันทีเมื่อโรคไข้เลือดออกนั้นเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์และเด็ก รวมถึงผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคตับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น

การดูแลรักษาไข้เลือดออกเบื้องต้น

อาการโรคไข้เลือดออก

  • เช็ดตัวลดไข้ ด้วยการใช้น้ำในอุณหภูมิห้อง เพื่อให้ปรับอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่
  • ในกรณีไข้ขึ้นสูงให้กินยาลดไข้พาราเซตามอล (ตามขนาดที่แพทย์สั่งเท่านั้น) และห้ามซื้อยามากินเองโดยเด็ดขาด! โดยเฉพาะยาลดไข้ชนิดแอสไพริน และไอบูโปรแฟน เพราะจะทำให้ระคายกระเพาะอาหารทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
  • สังเกตอาการโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด เช่น ถ้าผู้ป่วยรู้สึกกระหายน้ำก็ค่อยให้ผู้ป่วยจิบน้ำเปล่าทีละนิด หรือดื่มน้ำเกลือแร่ให้เพียงพอ และพยายามไม่ให้ผู้ป่วยถูกยุงกัดในระยะเวลา 5 วันแรก
  • รับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย และรสชาติไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือแกงจืด
  • หลีกเลี่ยงอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีสีแดง ดำ หรือสีน้ำตาล  เพราะอาจจะทำให้สับสนกับภาวะเลือดออกทางเดินอาหารได้
  • การรักษาไข้เลือดออกที่ถูกต้อง คือ รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโรคแทรกซ้อน หรือภาวะวิกฤตที่เป็นอันตรายต่อชีวิต

 
อาการโรคไข้เลือดออก
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราสังเกตเห็นอาการใกล้เคียงดังกล่าว ทางที่ดีควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด! เพื่อตรวจสอบว่าเป็นโรคไข้เลือดออกหรือไม่ อย่าปล่อยให้หายเองเด็ดขาด เนื่องจากไข้เลือดออกเป็นโรคอันตรายสามารถเข้าสู่ภาะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ส่วนเรื่องค่ารักษานั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะประกันสุขภาพกับ Frank จะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลให้อุ่นใจ  ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 400,000 บาทต่อปี รวมทั้งค่าห้องผู้ป่วย ค่าอาหาร และค่าบริการรถพยาบาลที่จำเป็นอีกด้วยนะ พร้อมอยู่ในความดูแลของหมอได้อย่างสบายใจ
 
ประกันสุขภาพ

The post อาการไข้เลือดออก สาเหตุ และวิธีการรักษาเบื้องต้น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>