1. เอกสารไม่ครบ ข้อมูลไม่ตรงกัน

สาเหตุที่คนไทยติดตม.เกาหลีมากที่สุด คือ เตรียมเอกสารไม่ครบ ข้อมูลบางอย่างไม่ตรงกัน เช่น ชื่อ-นามสกุล ไม่ตรงกับข้อมูลในพาสปอร์ต ไม่มีตั๋วเครื่องบิน เอกสารจองที่พัก ข้อมูลที่สำคัญในการเดินทาง อาจไม่ผ่านตม.เกาหลี

2. มีประวัติไม่ผ่านตม.เกาหลี / ติด Blacklist

เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า ชื่อ-นามสกุลของคุณซ้ำกับผู้ที่มีประวัติไม่ผ่านตม. อาจทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หรือใครที่ยังมีประวัติติดแบล็คลิส (Blacklist) ในช่วงระยะเวลาที่ห้ามเข้าประเทศเกาหลีจะต้องถูกส่งตัวกลับไทย ไม่ว่าจะทำผิดกฎหมาย เช่น อยู่ในประเทศเกาหลีเกินกำหนด ประกอบอาชีพที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวทำ เป็นต้น

3. แผนการเดินทางไม่ชัดเจน

หลายคนตกม้าตายเพราะสาเหตุนี้! เพราะไม่ได้เตรียมวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้า ไม่มีเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือ บางคนระบุวัน เวลา สถานที่ไม่ตรงกับข้อมูลในตั๋วเครื่องบิน เช่น เอกสารตั๋วเครื่องบินระบุว่าจะเดินทางกลับไทยในวันที่ 1 เมษายน 2567 แต่คุณระบุในการเดินทางว่าจะกลับไทยวันที่ 5 เมษายน 2567 ถือว่าข้อมูลไม่ตรงกัน เสี่ยงไม่ผ่าน ตม เกาหลี

4. ระยะเวลาเดินทางนานผิดปกติ 

วีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี คนไทยสามารถท่องเที่ยว และพำนักอาศัยได้ไม่เกิน 90 วัน หากคุณระบุว่าจะอาศัยนานกว่านั้น เช่น ระบุว่าจะอาศัยอยู่ในเกาหลี 120 วัน อาจถูกส่งตัวกลับไทยได้

5. ให้ข้อมูลเป็นเท็จ หรือ ไม่ชัดเจน

กรณีให้ข้อมูลเป็นเท็จกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เช่น การลักลอบไปทำงานเกาหลีแบบผิดกฎหมาย หรือ อพยพเข้าประเทศเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย แต่แถลงข้อมูลเป็นเท็จกับเจ้าหน้าที่ว่า ไปเที่ยวเกาหลี กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าได้ว่าคุณให้การเป็นเท็จ อาจโดนจับเข้าห้องเย็นได้

6. ภาษาก็มีส่วนนะ

คนไทยที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อาจจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ทั่วโลก หากสื่อสารผิดพลาดอาจทำให้เจ้าหน้าตม.เข้าใจคลาดเคลื่อน และถูกส่งตัวเข้าห้องเย็นได้ เอาเป็นว่าใครที่พูดภาษาอังกฤษ หรือภาษาเกาหลีได้ ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง!!

7. การแต่งตัวไม่เหมาะสม

การแต่งตัวไปเกาหลีให้ผ่านตม. เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการแต่งกาย เป็นคะแนนสำคัญที่จะตัดสินว่าคุณจะผ่านตม.เกาหลีหรือไม่ เนื่องจากมีหลายคนแต่งตัวไม่สุภาพ ไม่ดูเป็นนักท่องเที่ยว เช่น ใส่รองเท้าแตะ ใส่ชุดโชว์ร่างกายมากเกินไป แต่งหน้าจัดจนเกินไป เป็นต้น

สิ่งที่จะโดนปฏิเสธมากที่สุด คือ มีคนเข้าไปโดยใช้ Free Visa 90 วัน แต่แอบไปทำงานเกาหลี ถือว่าเข้ามาผิดวัตถุประสงค์ เพราะเขาให้มาเที่ยว ไม่ใช่ให้มาทำงานผิดกฎหมาย ก็อาจเสี่ยงโดน Blacklist ไปเลย ดังนั้นคุณควรให้ข้อมูลตามความจริง เตรียมตัวให้พร้อมทุกขั้นตอน ทั้งเอกสาร เครื่องแต่งกาย เตรียมตอบคําถามตม.เกาหลี ซึ่งจะช่วยให้คุณผ่านตม.เกาหลีได้อย่างฉลุย ไม่เสียเวลาท่องเที่ยวของคุณด้วย

อยากไปเที่ยวเกาหลีอย่างสบายใจ ซื้อประกันเดินทาง bolttech.co.th คุ้มครองตลอดทริป ค่ารักษาพยาบาล มีชดเชยเที่ยวบินล่าช้า กระเป๋าเดินทางล่าช้า กระเป๋าสูญหาย และ ความคุ้มครองอื่นๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ มีให้เลือกทั้งรายเที่ยว รายปี ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ พร้อมรับกรมธรรม์ทางอีเมล สนใจเข้ามาเช็กเบี้ยเลย เปรียบเทียบแผนได้

The post ทำไมคนไทยหลายคนติด ตม.เกาหลี ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เตรียมตัวเข้าประเทศเกาหลี 10 ขั้นตอนง่ายๆด้วยตัวเอง

1. พาสปอร์ด ( Passport)

พกพาสปอร์ดตัวจริงทั้งเล่มเก่า และเล่มใหม่ไปด้วยครับ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดาที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวไปต่างประเทศ แต่การที่เราพกพาสปอร์ดเล่มเก่าไปนั้นเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือ หรือเพิ่มข้อมูลให้กับคุณเอง ไม่ว่าคุณอาจจะเคยไปเพียงแค่ 1 ประเทศก่อนหน้า  
*หากคุณมีการเปลี่ยนชื่อควรนำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อไปด้วย*

2.  เอกสารการจองที่พัก และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

สิ่งสำคัญที่สุดหากคุณไม่ต้องการตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผีน้อยแอบลักลอบเข้าทำงานในเกาหลี ดังนั้น ควรมีข้อมูลการท่องเที่ยวให้แน่ชัด ว่าคุณมีแพลนพักที่ไหน ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน แม้ว่าคุณจะจองผ่านเว็บไซต์ที่ต่างกัน เช่น คุณจองโรงแรมอาทิตย์แรกที่ไหน และ จองโรงแรมอาทิตย์ต่อไปที่ไหน เพราะอาจได้ราคาที่ถูกกว่า ก็ต้องพิมพ์หลักฐานนั้นออกให้ทั้งหมด เพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่

3. ประกันการเดินทาง

จำเป็นต้องถือคติว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” อย่าคิดว่าการซื้อประกันการเดินทางไม่สำคัญ เพราะประกันเดินทางนั้นสามารถรองรับการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องบินดีเลย์ หรือการโจรกรรม แย่งชิงทรัพย์สินระหว่างทริปการเดินทางเที่ยวเกาหลีใต้ของคุณ ประกันการเดินทางนี้จะช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดการเดินทาง

4. การแต่งตัว

เพื่อให้การผ่านเข้าตม.เกาหลี เป็นไปได้ด้วยดี ฉะนั้น การแต่งตัวที่เหมาะสม ควรใส่เสื้อผ้าทีดูเรียบร้อย เสื้อกันหนาวฮู๊ท กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบก็ดูดีแล้วค่ะ นั้นมีความสำคัญอย่างมาก ห้ามแต่งตัวล่อแหลม ทั้งนี้ก็ไม่ควรแต่งหน้าที่ดูจัดจ้านจนเกินไป

5. ใบรับรองการนักเรียน หรือใบรับรองการทำงาน

หากคุณเป็นนักเรียนก็ควรจะมีใบรับรองการเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ส่วนหากคุณเป็นคนทำงาน ก็ควรจะมีใบรับรองการทำงาน เพราะการออกใบรับรองการทำงานนั้นจะทำให้ทางเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าคุณจะกลับประเทศอย่างแน่นอน หากคุณต้องการผ่านฉลุยในการเดินทางผ่านเกาหลี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเตรียมหลักฐานที่แน่นชัดในการกลับเข้าประเทศ

6. แผนการท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ

จำเป็นต้องเตรียมแผนการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ หรือ หากคุณสามารถเขียนภาษาเกาหลีก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันนะครับ ควรเตรียมแผนการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ไปจนถึงวันนั่งเครื่องบินกลับประเทศ โดยระบุเวลา และ สถานที่ให้แน่ชัด

7. สเตทเม้นท์ (Statement) ของธนาคาร

มีข้อมูลด้านการเงินหมุนเข้า-ออกอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ในส่วนนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเงินรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินเช่น ทำเงินหล่นหาย อย่างน้อยตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่แสดงว่าเราสามารถกลับเข้าประเทศได้ ทั้งนี้ อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายในการขอข้อมูลตรงนี้กับธนาคารนะครับ

8. แลกเปลี่ยนสกุลเงิน

อย่าลืมแลกเปลี่ยนสกุลเงินก่อนไปนะครับ เพราะคุณจะได้ค่าเงินที่ดีกว่าหากคุณแลกเงินในไทย อีกทั้งการแลกเงินยังง่ายกว่าอีกด้วย แนะนำให้แลกไปเท่าที่คุณต้องการใช้ เพื่อไม่ให้ขาดเกินไป หรือเยอะเกินไป เพราะหากคุณต้องการแลกกลับอาจได้กลับมาเป็นเงินไทยเพียงไม่กี่บาท อย่างที่รู้กันว่า ค่าเงินเกาหลีนั้นถูกกว่าเงินบาทของไทย

9. เตรียมซิม และ การใช้อินเตอร์เน็ตในเกาหลี

อีกหนึ่งตัวเลือกหากคุณไม่ต้องการเปิดใช้เครือข่ายไทยในประเทศเกาหลี ก็สามารถซื้อซิมที่สนามบิน พร้อมเลือกเติมเงินขั้นต่ำในการโทร ส่วนอินเตอร์เน็ต หากคุณไม่ได้ซื้อ Pocket Wifi ก็สามารถซื้อได้ที่สนามบินเกาหลีเช่นกันครับ ค่าบริการนี้จะอยู่ราวๆ วันละ 260 บาท ซึ่งจะมีค่ามัดจำอยู่ราวๆ 7,000 บาท ซึ่งทั้งนี้เราก็แนะนำให้คุณซื้อจากไทยไปดีกว่าเพราะราคาที่ถูกกว่า และ มีโปรโมชั่นให้เลือกอีกมาก

10. ซื้อ T-money หรือ Soul City Pass เตรียมไว้

การเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถบัส รถแท็กซี่ เราจำเป็นต้องใช้บัตร T-money แทนการใช้เงินสด เพราะนอกจากการใช้จ่ายด้วยบัตรนี้จะง่ายขึ้นกว่าเดิมเลย ยังประหยัดเวลาไปได้มากอีกด้วย คุณสามารถซื้อเป็นรายวัน หรือ เหมาหลายวัน หรืออาจจะเหมาเป็นรายเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ

เจ้าหน้าที่ตม. เกาหลีจะสอบถามอะไรบ้าง ?

คำถามที่ทางเจ้าหน้าที่เกาหลีจะถามคือ:

1. คุณมาทำอะไรที่เกาหลี
2. คุณอยู่ที่เกาหลีนานแค่ไหน
3. คุณพักที่ไหน
4. คุณมีแผนท่องเที่ยวอะไรบ้าง
5. คุณทำงานอะไร

 
เห็นไหมครับว่าไม่ยากเลย! เพียงแค่แต่ข้อมูลไปให้นักและแน่นพอตามอีกคติหนึ่งคือ เกินดีกว่าขาด เพราะหากคุณติดตม.เกาหลีคุณสิทธิที่จะถูกส่งกลับประเทศ นั่นหมายความว่าค่าจองโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน และทุกอย่างที่จ่ายมาคือหายไปหมดเพียงเพราะคุณขาดเอกสารเพียงไม่กี่ชิ้น ทั้งนี้อย่าลืมเตรียมการตอบคำถามไว้ด้วยนะครับ
 
หากคุณวางแผนเที่ยวยุโรปฤดูใบไม้ร่วงในเดือนพฤษจิกายนนี้ก็อย่าลืมอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยววีซ่าเชงเก้งให้ดีนะครับ เพราะวีซ่าเชงเก้งนี้ค่อนข้างมีความเป๊ะพอสมควรเลย
 

จองเบี้ยขอวีซ่าก่อนไป! 

The post 10 เรื่องต้องรู้ก่อนเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.