โรคร้ายแรง Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Mon, 27 Jul 2020 03:00:33 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico โรคร้ายแรง Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2587 Mon, 27 Jul 2020 03:00:33 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12497 อย่าประมาท ! หากเกิดอาการไข้ขึ้นสูง เพราะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าร่างกายของคุณกำลังทำงานผิดปกติ และอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต สำรวจตัวเองตอนนี้เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะสายเกินไป หากคุณมีอาการไข้ขึ้นสูงอาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาไข้ขึ้้นไม่เกิน 40 องศา กินยาพาราแล้วนอนพักแล้วหายเองได้ แต่คุณ

The post อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อย่าประมาท ! หากเกิดอาการไข้ขึ้นสูง เพราะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าร่างกายของคุณกำลังทำงานผิดปกติ และอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต สำรวจตัวเองตอนนี้เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะสายเกินไป
หากคุณมีอาการไข้ขึ้นสูงอาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาไข้ขึ้้นไม่เกิน 40 องศา กินยาพาราแล้วนอนพักแล้วหายเองได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีโรคร้ายแรงอีกหลายโรคที่มีอาการไข้ขึ้นสูงเหมือนกัน ดูเบื้องต้นผู้ป่วยอาจคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าตนเองเป็นโรคร้ายแรงกว่าที่คิด อาการก็ทรุดหนักลงจนไม่สามารถรักษาได้เสียแล้ว 
ดังนั้นถ้าเราเป็นไข้ เราก็ต้องสำรวจตัวเองว่ามีอาการป่วยอื่น ๆ อีกหรือไม่ เพื่อที่จะคาดการณ์เบื้องต้นว่าเราป่วยเป็นโรคอะไร ซึ่ง Frank จะมาเปิดเผยข้อมูลให้ทุกคนได้ทราบกันดังนี้ครับ 

โรคไข้เลือดออก

ไข้ขึ้นสูง
เป็นโรคที่พบบ่อยยามหน้าฝน หากมีอาการไข้ขึ้นสูงแบบเฉียบพลัน มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน เลือดออกตามไรฟัน และมีจุดสีแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำตัว ให้คาดเดาเบื้องต้นว่าอาจเป็นโรคไข้เลือดออกครับ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโดยมียุงลายเป็นพาหะ ทั้งนี้โรคไข้เลือดออกสามารถรักษาหายเองได้หลังจากป่วยไปสักประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่มีอาการดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยไว เพราะผู้ป่วยอาจเกิดอาการช๊อกจากภาวะเลือดไหลเวียนล้มเหลวได้

โรคไข้สมองอักเสบ

ไข้สมองอักเสบ
มักพบกับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ระยะเบื้องต้นจะมีอาการไข้ขึ้นสูงเหมือนโรคหวัดทั่วไป แต่อาการจะเริ่มรุนแรงขึ้นจากการที่สมองติดเชื้อไวรัส เช่น สมองเบลอ จำรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่ไม่ได้ มีการอ่อนเพลียเคลื่อนไหวช้าลงอย่างเห็นได้ชัด มีภาวะอารมณ์รุนแรง ดูหงุดหงิดตลอดเวลา บางครั้งอาจเห็นภาพหลอน ภาพซ้อน และหนักสุดอาจมีอาการชักรุนแรง หากวิเคราะห์แล้วพบว่าอาจเป็นโรคไข้สมองอักเสบให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะโรคนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

โรคไข้ไทฟอยด์

ไข้ไทฟอยด์
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้ไทฟอยด์ มักเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิต อาหารการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เมื่อป่วยแล้วจะมีอาการไข้ขึ้นสูงในช่วงเวลากลางคืน และอาการอื่น ๆ ตามมาเช่น ปวดหัว ไอ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลียไม่มีแรง เหงือออกเป็นจำนวนมาก มีผื่นคันตามช่วงหน้าท้อง ปวดท้อง ท้องเสีย บางครั้งหากไข้ขึ้นสูงมากอาจมีอาการเพ้อตามมาด้วย และหากไม่ได้รับการรักษาอาจทวีความรุนแรงจนเสียชีวิตได้เช่นกัน

โรคโควิด-19

โควิด-19
โควิด-19 เป็นโรคระบาดร้ายแรงตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2563 มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคนทั่วโรคและมีผู้เสียชีวิตนับแสนคน ผู้ที่ป่วยเป็นโควิดจะมีอาการไข้ขึ้นสูง พร้อมกับมีอาการอื่น ๆ ดังนี้คือ มีอาการไอแห้ง ร่างกายอ่อยเพลีย ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว เจ็บคอ ปวดหัว ท้องเสีย หายใจติดขัด เจ็บหน้าอกขณะหายใจ หากมีอาการดังกล่าวให้ไปพบแพทย์โดยไวและแจ้งข้อมูลกับทางสถานพยาบาลอย่างละเอียด แม้ว่าผู้ที่ป่วยเป็นโควิดบางรายอาจหายได้เอง แต่ผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแอก็มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคนี้สูงเช่นกัน

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
หากคุณป่วยมีอาการไข้ขึ้นสูงอย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาไม่กี่วันหาย เพราะบางครั้งอาการไข้ขึ้นอาจเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคุณกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งผู้ป่วยนอกจากจะไข้ขึ้นจนหนาวสั่นแล้วยังมีอาการต่อมทอนซิลโต พบก้อนเนื้อตามซอกคอ รักแร้ โคนขาหนีบ รู้สึกเบื่ออาหารและน้ำหนักลด ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดหัว หากคุณมีอาการดังนี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก ๆ สามารถรักษาได้ ดังนั้น อย่าประมาทคิดว่าตนเองไม่เป็นอะไร ปล่อยให้เชื้อมะเร็งลุกลามทั่วร่างกายจนเสียชีวิต

โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มะเร็งเม็ดเลือดขาว
อาการป่วยไข้ขึ้นสูงอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เช่นกัน เพราะเม็ดเลือดขาวลดลงจึงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการป่วยง่ายและไข้ขึ้นสูง นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าคุณอาจป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้แก่ เลือดจาง หน้ามืด วิงเวียนศรีษะง่าย เหนื่อยง่าย ต่อมน้ำเหลืองโต ระบบภูมิคุ้มกันต่ำทำให้ติดเชื้อง่าย หากปล่อยไว้ไม่รักษาย่อมเกิดอันตรายต่อชีวิตได้
เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะป่วยไม่แข็งแรง ล้วนส่งผลให้คุณมีอาการไข้ขึ้นสูงได้ทั้งสิ้น หากรู้ตัวว่าไข้สูงอย่างไม่ทราบสาเหตุและไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากป่วยเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจะได้เข้ารับการรักษาทันที ทั้งนี้ สุขภาพของคุณ คุณจะต้องดูแลเอง อย่าปล่อยให้อาการเจ็บป่วยกัดกินร่างกายและพรากชีวิตอันแสนสุขไปจากคุณ
ประกันสุขภาพ

The post อาการไข้ขึ้นสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย รู้ก่อนจะได้รักษาทัน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
6 โรคมะเร็งที่ต้องเฝ้าระวังในวัยทำงาน และอาการเบื้องต้น https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 Fri, 22 May 2020 03:10:52 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11593 โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งผิวหนัง หลายคนอาจจะคิดว่าโรคมะเร็งมีโอกาสเป็นง่ายเฉพาะผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ทราบหรือไม่ว่า? โรคมะเร็งถือเป็นโรคร้ายแรงยอดฮิตที่พบได้บ่อยในวัยทำงานเช่นกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน สภาพแวดล้อมการทำงาน หรือแม้กระทั่งไ

The post 6 โรคมะเร็งที่ต้องเฝ้าระวังในวัยทำงาน และอาการเบื้องต้น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
  • โรคมะเร็งตับ
  • โรคมะเร็งปอด
  • โรคมะเร็งปากมดลูก
  • โรคมะเร็งเต้านม
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • โรคมะเร็งผิวหนัง
  • หลายคนอาจจะคิดว่าโรคมะเร็งมีโอกาสเป็นง่ายเฉพาะผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ทราบหรือไม่ว่า? โรคมะเร็งถือเป็นโรคร้ายแรงยอดฮิตที่พบได้บ่อยในวัยทำงานเช่นกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน สภาพแวดล้อมการทำงาน หรือแม้กระทั่งไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ง่าย แล้วนี่ก็คือ 6 อันดับโรคมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในวัยทำงาน พร้อมวิธีสังเกตอาการโรคมะเร็งเบื้องต้น  ลองศึกษากันก่อน! เพื่อรู้เท่าทันมัจจุราชเงียบอย่างโรคมะเร็ง

    1. โรคมะเร็งตับ

    โรคมะเร็ง
    สำหรับหนุ่มๆ วัยทำงานที่ชอบพบปะสร้างสรรค์กินเหล้า หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์บ่อยๆ จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งแล้วกลายเป็นโรคมะเร็งตับได้ง่าย อาจจะพบบ่อยในช่วงอายุ 30-60 ปี และพบบ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ โรคแทรกซ้อนอย่างเช่นเบาหวาน หรือแม้กระทั่งกลุ่มวัยทำงานที่ชอบทานผักน้อย กินอาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ ก็สามารถนำพาโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้โดยไม่รู้ตัว

    อาการโรคมะเร็งตับที่พบบ่อย มีดังนี้

    • เจ็บปวดท้องช่วงบน มักจะปวดด้านขวา
    • มีอาการเจ็บปวดที่ช่องท้องหรือพบก้อนเนื้อแข็งๆ ชายโครงด้านขวา
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • ผิวหนังและตาเหลือง
    • น้ำหนักลดลงไม่ทราบสาเหตุ
    • เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากอาหาร
    • ท้องบวมขึ้น
    • อ่อนเพลียง่าย
    • ปัสสาวะเป็นสีเหลือง และอุจจาระเป็นสีเทา

    2. โรคมะเร็งปอด

    โรคมะเร็ง
    อีกหนึ่งโรคยอดฮิตในกลุ่มคนวัยทำงาน นั่นก็คือโรคมะเร็งปอด ส่วนใหญ่มักเกิดจากคนวัยทำงานที่กำลังประสบปัญหาโรคเครียด เลยเลือกสูบบุหรี่เพื่อให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย แต่ในความเป็นจริงแล้วการสูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้ร่างกายรู้สึกคลายเครียดเลย อีกทั้งยังมีสารพิษที่ชื่อว่า “ทาร์” ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดด้วย เมื่อสารพิษเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ของปอดทันที ถึงแม้เราจะไม่ได้สูบบุรี่หากได้สูดดมควันบุหรี่บ่อยๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้เหมือนกัน รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสารเคมีหรืออุตสาหกรรม ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายอีกด้วยนะ

    อาการโรคมะเร็งปอดที่พบบ่อย มีดังนี้

    • มีอาการไอเรื้อรัง (ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ)
    • ไอปนเลือด
    • เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก
    • เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก
    • เสียงแหบ
    • เบื่ออาหาร
    • น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ

    3. โรคมะเร็งปากมดลูก

    โรคมะเร็ง
    รู้ทัน! มัจจุราชเงียบ “โรคมะเร็งปากมดลูก” กันก่อน ถึงแม้ว่าโรคมะเร็งปากมดลูกจะสามารถรักษาให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ก็ยังคงติดสถิติที่พบบ่อยในกลุ่มวัยทำงานเช่นกัน แล้วพบได้บ่อยกับผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป  โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเกิดขึ้นบริเวณมดลูก ช่องคลอด หรือบริเวณช่องปากมดลูก ส่วนสาเหตุนั้นมาจากหลายปัจจัยอย่างเช่น มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย เปลี่ยนคู่นอนหลายคน กินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน กินยาเร่งฮอร์โมน สูบบุรี่บ่อย และมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น ซึ่งผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัย 30 แล้วก็สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ เพื่อจะได้รู้ว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ แล้วจะได้รักษาอาการตั้งแต่เนิ่นๆ

    อาการโรคมะเร็งปากมดลูกที่พบบ่อย มีดังนี้

    • มีเลือดออกจากช่องคลอด (ไม่ทราบสาเหตุ)
    • มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
    • ปวดท้องน้อย
    • ปัสสาวะมีเลือดปน
    • ตกขาวมากกว่าปกติ
    • อ่อนเพลีย
    • เบื่ออาหาร

    4. โรคมะเร็งเต้านม

    โรคมะเร็ง
    “โรคมะเร็งเต้านม” ภัยเงียบใกล้ตัวของผู้หญิงไทยที่มีแนวโน้มเสี่ยงขึ้นสูงทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป  ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำหรือต่อมน้ำนมที่ได้รับผลกระทบจากสารก่อมะเร็งบางอย่างจนเกิดเป็นมะเร็งในที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งเต้านม ได้แก่ ครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นมะเร็งเต้านม การเริ่มมีประจำเดือนมาครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย การมีบุตรยาก การได้รับสารรังสี การใช้ยากระตุ้นฮอร์โมนนานเกินกว่า 10 ปี หรือปล่อยให้อ้วนจนเกินไป ก็ย่อมมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงกว่าคนทั่วไป

    อาการโรคมะเร็งเต้านมที่พบบ่อย มีดังนี้

    • ก้อนเนื้อแข็งๆ เจ็บในเต้านม หรือบริเวณรักแร้
    • บริเวณหัวนมบุ๋ม หรือเต้านมมีรูปร่างผิดไปจากเดิม
    • มีน้ำเหลืองหรือน้ำเลือดไหลออกจากหัวนม
    • มีอาการปวดเต้านม 
    • เต้านมมีผื่น แดง ร้อน ผื่นคล้ายผิวส้ม 

    5. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

    โรคมะเร็ง
    นอกจากนี้โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ยังติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มคนวัยทำงานอีกด้วย สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศที่มีพฤติกรรมการกินอาหารที่มีไขมันสูง มีกากใยอาหารต่ำ และไม่ออกกำลังกาย  ก็มีโอกาสเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ง่ายกว่า รวมถึงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์เป็นประจำ หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมะเร็งลำไส้และทวารหนักมาก่อน หากไม่รีบทำการรักษาทันทีเนื้องอกที่ยื่นออกมาบริเวณผนังลำไส้ใหญ่ จะกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในที่สุด

    อาการโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่พบบ่อย มีดังนี้

    • มีอาการท้องผูก
    • อุจจาระมีมูกเลือดหรือสีดำคล้ำ
    • เลือดปนมากับอุจจาระ
    • มีอาการปวดท้อง หรือท้องอืด
    • มีก้อนเนื้อแข็งๆ เจ็บบริเวณท้องน้อยด้านขวา
    • อ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย
    • น้ำหนักลงไม่ทราบสาเหตุ

    6. โรคมะเร็งผิวหนัง

    โรคมะเร็ง
    สำหรับกลุ่มวัยทำงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือกลางแดดเป็นประจำ เตือน! ระวังจะกลายเป็นโรคมะเร็งผิวหนังไม่รู้ตัว  เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังมาจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด (Ultra Violet) ทั้ง UVA และ UVB  หากได้รับสารเหล่านี้ก็จะเป็นอันตรายต่อระบบผิวหนังจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง หรืออาจจะลุกลามแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นข้างเคียง ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบตรงบริเวณศีระษะ และใบหน้ารองลงมา แต่โรคมะเร็งผิวหนังก็ยังรักษาได้ถ้าพบในระยะแรกที่เริ่มมีอาการ

    อาการโรคมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อย มีดังนี้

    • มีตุ่ม ก้อนเนื้อหรือแผลเรื้อรังที่ผิวหนัง
    • แผลเลือดออกง่าย
    • แผลหายช้า
    • มีอาการคันผิวหนัง
    • มีไฝหรือขี้แมลงวันมีรูปร่าง สี ขนาดเปลี่ยนไป

    จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของกลุ่มวัยทำงานที่พบบ่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่มีไขมันสูง รับประทานผักผลไม้น้อย ทำงานหนักจนไม่เวลาพักพ่อน หรือออกกำลังกาย รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ และสูบบุหรี่เป็นประจำ ก็ต้องเฝ้าระวังโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรงอื่นๆ อย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าเราจะทำงานเพียงใดการดูแลสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญต่อตัวคุณเองและครอบครัว เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำแพ็กเกจประกันโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งกับ Frank.co.th เพื่อให้ช่วยดูแลค่ารักษาในยามอนาคตด้วย ตรวจโรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ พร้อมจ่ายเงินก้อนทันที! ไม่ต้องคอยกังวลอีกต่อไป
     
    ประกันโรคมะเร็ง

    The post 6 โรคมะเร็งที่ต้องเฝ้าระวังในวัยทำงาน และอาการเบื้องต้น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    กินชานมไข่มุกทุกวัน เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานจริงหรอ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1 Mon, 06 Apr 2020 03:43:43 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11173 “เพราะชีวิตติดหวาน เลยขาดชานมไข่มุกไม่ได้” กลายเป็นเทรนใหม่ของหนุ่มๆ สาวๆ ไปซะแล้ว สำหรับการสั่งเครื่องดื่มชานมไข่มุก ด้วยรสชาติความหอมมันและหวานอร่อยที่ลงตัวผสมกับไข่มุกที่นึ๊บๆ เป็นใครก็คงอดใจไม่ไหวใช่ไหมล่ะ?! แต่การกินชานมไข่มุกเพียงแค่ 1 แก้วต่อวันนั้น จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ 

    The post กินชานมไข่มุกทุกวัน เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานจริงหรอ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    “เพราะชีวิตติดหวาน เลยขาดชานมไข่มุกไม่ได้” กลายเป็นเทรนใหม่ของหนุ่มๆ สาวๆ ไปซะแล้ว สำหรับการสั่งเครื่องดื่มชานมไข่มุก ด้วยรสชาติความหอมมันและหวานอร่อยที่ลงตัวผสมกับไข่มุกที่นึ๊บๆ เป็นใครก็คงอดใจไม่ไหวใช่ไหมล่ะ?! แต่การกินชานมไข่มุกเพียงแค่ 1 แก้วต่อวันนั้น จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ?  เอาเป็นว่าเพื่อเตือนใจตัวเองในการบริโภคชานมไข่มุก ลองมาดูกันเลย!!

    กินชานมไข่มุก 1 แก้วต่อวัน เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานไหม?

    เนื่องจากปัจุบันนี้มีบริการจัดส่งเครื่องดื่มชาไข่มุกมากมาย มีให้เลือกหลายสาขา ทั้งอำนวยความสะดวกเวลาทำงานหรืออยู่ที่บ้านแล้ว ราคาโปรโมชั่นก็ถูกใจ แถมรสชาติอร่อยอีกด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่า? หากคุณกินชานมไข่มุกทุกวันก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้โดยไม่รู้ตัว เพราะชานมไข่มุกบางเจ้าก็มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก  นอกจากนี้อาจจะเพิ่มปริมาณน้ำเชื่อม นมผง ครีมเทียม และจำนวนไข่มุกเข้าไปในแก้วอีก ถึงแม้คุณจะดื่มเพียงแค่แก้วเดียวต่อวัน ก็อาจจะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้นั่นเอง

    แล้วชานมไข่มุกส่งผลกับโรคเบาหวานอย่างไร

    กินชานมไข่มุก
    ตามปกติร่างกายคนเราต้องการน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน แต่ชานมไข่มุก 1 แก้ว โดยส่วนใหญ่จะมีน้ำตาลสูงถึง 8-11 ช้อนชา  พอรวมกับจำนวนไข่มุกที่เปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลด้วย ทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ดขึ้น ก็ย่อมมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ง่าย
    ซึ่งโรคเบาหวานเกิดจากเซลล์ร่างกายที่ไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ส่งผลให้กระบวนการดูดซับน้ำตาลในเลือดลดลง จนน้ำตาลสะสมในร่างกายปริมาณมาก แล้วก็กลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุด เพราะฉะนั้นหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบดื่มชานมไข่มุกบ่อยๆ หากไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า
    เกร็ดความรู้ : ก่อนทำการตรวจโรคเบาหวาน ทางแพทย์จะให้เราอดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง สมมติว่าค่า FPG สูงกว่า 126 มก. /ดล. ให้ลองทำอีกครั้ง ถ้าค่ายังสูงกว่า 126 มก./ดล. ถือว่าเป็นโรคเบาหวาน แต่ถ้าเจาะเลือดโดยไม่อดอาหารแล้วในเลือดสูงกว่า 200 มก./มล. ก็ให้ถือว่าเป็นเบาหวานเช่นกัน

    ระวัง! กินชานมไข่มุกทุกวัน เสี่ยงเป็นโรคอื่นตามมาด้วย

    • โรคอ้วน
    • โรคหัวใจและหลอดเลือด
    • โรคท้องผูก

    1. โรคอ้วน

    ลองคิดกันเล่นๆ ชานมไข่มุก 1 แก้ว จะให้พลังงานเฉลี่ยประมาณ 200-400 กิโลแคลอรี่   หรืออาจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาล รวมถึงท็อปปิ้งจำพวกไข่มุกที่ผสมแป้งมันสำปะหลัง เมื่อเทียบกับอาหารจานหลักบางจานอย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยว หรือส้มตำ ปริมาณแคลอรี่ของอาหารยังน้อยกว่าชานมไข่มุกอีก
    ดังนั้น หากเรากินชานมไข่มุกเป็นประจำทุกวัน หรือบางคนกินทีเดียววันละ 3 แก้ว ทั้งหมดพลังงานที่คุณจะได้รับในแต่ละวันรวมกันเท่าไหร่ บางทีอาจจะมากกว่าข้าว 1 ทัพพีด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกายด้วยนะ ก็มีโอกาสเป็นโรคอ้วนตามมา อย่างที่ใครต่อใครบอกว่า ชานมไข่มุกนั้นดีต่อใจ แต่ไม่ดีต่อพุงนั่นเอง

    2. โรคหัวใจและหลอดเลือด

    เพราะว่าชานมไข่มุกบางยี่ห้อ ก็อาจมีส่วนผสมครีมเทียมเข้าไปด้วย ซึ่งครีมเทียมส่วนใหญ่นั้นผลิตจากไขมันปาล์ม ค่อนข้างมีไขมันอิ่มตัวสูง ส่งผลทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจตามมา  รวมถึงปริมาณน้ำตาลที่เปลี่ยนเป็นไขมัน ก็จะไปสะสมตามหลอดเลือดและหัวใจเช่นกัน แล้วนำไปสู่โรคร้ายยอดฮิตอื่นๆ ตามมาในระยะยาว

    3. โรคท้องผูก

    ทราบหรือไม่ว่า? ไข่มุกที่ผลิตจากหัวมันสำปะหลัง หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากๆ ก็กลายเป็นโรคท้องผูกได้เหมือนกัน ยิ่งใครที่ชอบกลืนไข่มุกแบบไม่เคี้ยวให้ละเอียดก่อน จะส่งผลเสียต่อระบบกระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบขับถ่ายแน่นอน  เอาเป็นว่าหันมารับประทานผักสมุนไพรต้านโรคเบาหวาน และอาการท้องผูกกันดีกว่า
    ถึงแม้ว่าคุณจะกินชานมไข่มุก 1 แก้วต่อวัน ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้นะ ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณแก้วให้น้อยลง หรือดื่มน้ำเปล่าแทนจะดีที่สุด แฟรงค์เชื่อว่า ถ้าเราค่อยๆ ปรับตัวก็จะชินไปเอง เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณในระยะยาวอีกด้วย แต่ถ้าใครกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพที่ไม่แน่นอน ก็สามารถทำประกันสุขภาพเผื่อไว้ก็ดี มั่นใจได้เลยว่าเมื่อยามเจ็บป่วยก็มีคนช่วยจ่ายค่ารักษาให้ สามารถเลือกแผนประกันได้ตามต้องการเลย ทั้งนี้อย่าลืมอ่านสิ่งที่ต้องศึกษาก่อนทำประกันสุขภาพนะจ๊ะ เพื่อความชัวร์ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย
     

    The post กินชานมไข่มุกทุกวัน เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานจริงหรอ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    3 ทำ! ที่ทำให้คุณเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a1 Mon, 30 Sep 2019 22:35:06 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8371 “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” แต่อย่าลืมว่า !! โรคภัยร้ายแรงอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดครับโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมเกิดได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเลยล่ะ ส่วนใหญ่จะพบมากในหญิงวัย 40 ปีขึ้นไป หากคุณไม่อยากเป็นมะเร็งเต้านม แนะนำเลยว่า “ไม่อยากเป็นมะเร็งห้ามทำ 3 สิ่งเหล่านี้"  1. สูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นประจำ “เมาเหล้าดีกว่าเ

    The post 3 ทำ! ที่ทำให้คุณเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” แต่อย่าลืมว่า !! โรคภัยร้ายแรงอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดครับโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมเกิดได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเลยล่ะ ส่วนใหญ่จะพบมากในหญิงวัย 40 ปีขึ้นไป หากคุณไม่อยากเป็นมะเร็งเต้านม แนะนำเลยว่า “ไม่อยากเป็นมะเร็งห้ามทำ 3 สิ่งเหล่านี้" 

    1. สูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นประจำ

    “เมาเหล้าดีกว่าเมารัก” หลายคนอาจจะนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมาหลังจากอ่านหัวข้อเสร็จ ฮ่า ๆ คงต้องบอกว่า เพราะการสูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นประจำทุกวัน คือพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงเลยนะ นอกจากนี้บุหรี่และเหล้ายังทำให้เราเสี่ยงกับหลายโรคร้ายแรงเลยล่ะ ถ้าคุณไม่อยากเป็นมะเร็ง ควรลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ พร้อมกับลดพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอลก์ลงบ้าง หากอยากเลิกบุหรี่และสุราให้ได้ผลแบบลาขาด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับบำบัดให้เป็นระบบ “Frank เชื่อคุณทำได้!” 

    2. กินยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน

    สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่คุณต้องพยายามหลีกเลี่ยงสำหรับสาว ๆ ที่รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็เสี่ยงทั้งนั้น 
     

    q_start

    อย่าเข้าใจผิด!!

    q_end

    แฟรงค์ไม่ได้ห้ามให้คุณคุมกำเนิด หรือห้ามไม่ให้คุณกินยาคุม เราเพียงจะย้ำว่า การกินยาคุมต่อเนื่องยิ่งทำให้มีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งเต้านมเท่านั้น ในฐานะเป็นแค่เพนกวิน Frank เรานำข้อมูลจากผู้รู้จริงด้านสุขภาพมาเล่าให้ฟังน่าจะดีกว่า อิอิ อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ chulacancer.net อธิบายเรื่องราว ยาคุมกำเนิดและความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง (Oral contraceptives and cancer risk) ระบุว่า 
    “ผู้หญิงที่มีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง เต้านมและความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นในผู้ที่เริ่มใช้ยาตั้งแต่วัยรุ่น หลังจากหยุดใช้ยาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมจะกลับมาเท่ากับผู้ที่ไม่เคยใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ยกเว้นว่าจะมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว น่าสนใจมาก ๆ ครับ

    3. ปล่อยให้อ้วน และมีน้ำหนักตัวเกิน

    อันตรายมาพร้อมความอ้วน นอกจากจะเสี่ยงเป็นโรคความดัน เบาหวานแล้ว ยังเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมด้วยนะ บทความจากโรงพยาบาลสมิติเวชบอกไว้ว่า “ผู้หญิงอ้วนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากกว่าปกติ จากการสร้างของไขมัน ความเสี่ยงจึงสูงขึ้นตามน้ำหนักตัวและไขมันที่เพิ่มขึ้น”
    หมายความว่า หากคุณมีน้ำหนักตัวเกิน และชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง ๆ ยิ่งเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากขึ้น มาครับ! เรามาออกกำลังลดความอ้วน และรับประทานอาหารมีประโยชน์กันนะ

    เพราะโรคมะเร็งเต้านมเกิดขึ้นได้กับทุกคน แนะนำให้คุณเช็กสุขภาพเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติ เช่น คลำเจอก้อนในเต้านมหรือรักแร้, ปานนมผิดตำแหน่ง, ผื่นรอบหัวนม หรือมีของเหลวไหลออกมาจากหัวนม ฯลฯ คุณต้องไปพบแพทย์ทันที ควรตรวจสุขภาพคัดกรองหามะเร็งเป็นประจำ
    อย่างไรก็ดี 3 พฤติกรรมต้องห้ามนี้เป็นเพียงปัจจัยเร้าบางส่วนที่ทำให้เราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมเท่านั้น ดังนั้น หันมาดูแลตัวเอง อย่าโหมงานหนัก ห้ามเครียดเกิน ควรหันมาออกกำลังกายบ้าง เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงพร้อมกับทุกสถานการณ์ 
    มะเร็งเต้านม
    หากอยากดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ “ทำประกันสุขภาพ” ไว้ก็ดีนะ เดี๋ยวนี้มีประกันโรคร้ายแรง ทำประกันไว้ตั้งแต่อายุไม่มาก มีข้อดีคือเบี้ยประหยัด และมีความเสี่ยงน้อยกว่าด้วยล่ะ รักนะถึงบอก 🙂 สนใจประกันอะไรแชทสอบถามได้ที่เฟซบุ๊ก Frank.co.th ได้ครับ เรายินดีให้คำปรึกษาเสมอ 

    รู้หรือไม่ ? 

    วันที่ 7 ตุลาคมในทุกปี เป็นวันมะเร็งเต้านมโลก หรือ World Breast Cancer Day เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนรณรังค์ภัยมะเร็งเต้านมครับ
    ขอบคุณข้อมูลจาก: e-library.siam.edu, bumrungrad.com, phyathai.com, samitivejhospitals.com
    Content by Butter Cutter

    The post 3 ทำ! ที่ทำให้คุณเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ (อาจถึงตาย) https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81-%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%96%e0%b8%b6%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2581-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b6%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2 Mon, 16 Sep 2019 04:41:11 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8185 ขึ้นชื่อว่า โรค ไม่ว่าโรคอะไร ก็คงไม่มีใครอยากเป็นหรอกใช่ไหมครับ แถมชื่อโรคแต่ละโรคก็ตั้งมาซะน่ากลัว โรคมะเร็งงี้ วัณโรคงี้ โรคเอดส์งี้ แค่ฟังก็ขนลุกขนพองแล้ว แต่รู้หรือไม่ครับ ว่าท่ามกลางโรคน่ากลัวทั้งชื่อและอาการนั้น มีโรคอยู่จำนวนหนึ่ง ที่มีชื่อแสนแปลก ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกตลก และไม่คิดว่าจะมีจริงอยู่บนโลกนี้ แต่เป็น

    The post 5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ (อาจถึงตาย) appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    ขึ้นชื่อว่า โรค ไม่ว่าโรคอะไร ก็คงไม่มีใครอยากเป็นหรอกใช่ไหมครับ แถมชื่อโรคแต่ละโรคก็ตั้งมาซะน่ากลัว โรคมะเร็งงี้ วัณโรคงี้ โรคเอดส์งี้ แค่ฟังก็ขนลุกขนพองแล้ว แต่รู้หรือไม่ครับ ว่าท่ามกลางโรคน่ากลัวทั้งชื่อและอาการนั้น มีโรคอยู่จำนวนหนึ่ง ที่มีชื่อแสนแปลก ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกตลก และไม่คิดว่าจะมีจริงอยู่บนโลกนี้ แต่เป็นตลกร้ายเพราะรุนแรงไม่แพ้โรคที่เราคุ้นหูเลย จะมีอะไรบ้างไปดู!

    1. โรคอลิซในแดนมหัศจรรย์

    5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ
    โรคชื่อแปลก ๆ ตั้งชื่อตามนิยายของลูอิส แคร์รอล โดยชื่อนี้มีที่มาของตอนหนึ่งในนิยาย ที่ อลิซ นางเอกของเรื่องดันไปกินน้ำยาวิเศษจนตัวหดลงและขยายใหญ่เกินไปนั่นเอง ซึ่งในโลกความจริง โรคนี้เป็นความผิดปกติทางประสาทการรับรู้ขนาด อาจเกิดกับผู้ป่วยโรคไมเกรน มีเนื้องอกในสมอง หรือจากการเสพยาเสพติดจนระบบประสาทมีถูกทำลายนั่นเองครับ 
    อาการของโรคอลิซในแดนมหัศจรรย์ก็ตามนั้นเลยครับ ผู้ป่วยโรคนี้จะเห็นภาพที่มีขนาดผิดแปลกไปจากปกติ ทั้งเห็นสิ่งของรอบ ๆ ใหญ่ขึ้น เห็นนิ้วมือนิ้วเท้าของตัวเองยืดยาว เห็นเท้าของตัวเองเล็กลง เห็นแก้วน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ กลายเป็นอยู่ไกลลิบ ซึ่งผู้ป่วยจะไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าอะไรจริงอะไรเป็นภาพหลอน จนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลยครับ 
    โดยเว็บไซต์สื่อการแพทย์อย่าง Neurologytimes ได้คาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยโรคอลิซในแดนมหัศจรรย์นี้มีสูงถึง 10-20% ของประชากรโลกทั้งหมดเลยครับ แต่ส่วนมากแล้วจะเกิดอาการนี้ขึ้นครั้งหรือสองครั้งตลอดชีวิต มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีอาการต่อเนื่องเรื้อรังครับ

    2. โรคกลิ่นตัวเหม็น5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ

    บางคนอาจสงสัยว่า กลิ่นตัวเหม็น มันถือเป็นโรคด้วยหรอ แค่อาบน้ำให้สม่ำเสมอก็พอแล้วหรือเปล่า อาจใช่ครับ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็นแบบ Fish-Odor Syndrome แค่อาบน้ำอาจไม่พอครับ เพราะโรคกลิ่นตัวเหม็นนี้เกิดจากความผิดปกติในการกำจัดสารเคมีไตรเมทิลามีนของร่างกาย  ซึ่งสารนี้มาจากการย่อยสารอาหารที่เรากินเข้าไปโดยจุลินทรีย์ ทำให้สารที่ว่านี้มีกลิ่นเหม็นมาก กลิ่นเหมือนปลาเน่า
    ตามปกติแล้ว คนทั่วไปร่างกายจะสร้างเอนไซม์ FMO3 ขึ้นมากำจัดไตรเมทิลามีนได้ทันที ทำให้ไม่มีปัญหา แต่ผู้ป่วยโรคกลิ่นตัวเหม็นนั้น จะมีความผิดปกติในการสร้างเอนไซม์ FMO3 มากำจัดครับ ทำให้ร่างกายต้องขับสารไตรเมทิลามีนออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ทางเหงื่อ และกลิ่นปาก ทำให้ร่างกายของผู้เป็นโรคกลิ่นตัวและลมหายใจที่เหม็นรุนแรงเหมือนปลาเน่าเลยครับ
    โดยโรคกลิ่นตัวเหม็นนี้สามารถถ่ายทอดได้ผ่านยีนด้อยในพันธุกรรม เท่ากับว่า ถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคนี้ ลูกมี โอกาส 25 % ที่จะเป็นโรคนี้ด้วยครับ โดยปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้โดยตรง แต่ใช้วิธีให้ผู้ป่วยลดการกินอาหารเช่น นมวัว ไข่ ถั่ว ฯลฯ เพื่อลดไตรเมทิลามีนที่จะเข้าสู่ร่างกายแทน

    3. โรคเดือนห้า

    5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ
    น้ำผึ้งเดือนห้าเขาว่าดี แต่โรคเดือนห้าเป็นอะไรที่ต้องระวัง ! ถ้าพูดแค่ชื่อ เชื่อว่าหลายคนคงเดาอาการของโรคไม่ได้อย่างแน่นอนครับ แต่โรคนี้มีจริง และเป็นโรคที่คุณควรรู้จัก เพราะมันใกล้ตัวและมีอันตรายไม่น้อยเลย หากปล่อยไว้ไม่รักษาเยียวยา อาจลุกลามจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เลยครับ
    โรคเดือนห้านี้มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นครับ โดยประเทศญี่ปุ่น มักจะมีธรรมเนียมในการโยกย้าย เลื่อนตำแหน่งในช่วงเดือนเมษายน และเมื่อถึงเดือนพฤษภาคม (เดือนห้า) จะมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ หรือไม่สามารถปรับตัวเข้าสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ บวกกับสภาพสังคมของญี่ปุ่นที่กดดัน ยิ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดความเครียดสูง นอนไม่หลับ วิตกกังวล น้ำหนักเพิ่มหรือลดอย่างผิดปกติ ลุกลามรุนแรงจนก้าวเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า หดหู่ ไปจนถึงอยากฆ่าตัวตาย 
    โดยหากใครเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการของโรคเดือนห้า ให้ลองออกกำลังกาย ตื่นเช้า ๆ แม้ในวันหยุด แล้วลองไปรับแสงแดดยามเช้า ทานอาหารที่มีแคลเซียมและโปรตีนเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายกระปี้กระเป่า แต่หากไม่ดีขึ้น ให้รีบปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรับการดูแลนะครับ

    4. โรคใจสลาย

    5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ
    อกหักไม่ยักจะตายใครกันนะที่เคยบอกไว้ อกหักใครว่าไม่เจ็บครับ และบางครั้งอกหักก็นำไปสู่การเสียชีวิตได้เลยนะ ส่วนหนึ่งเกิดจากการตรอมใจร่วมด้วย
    ภาวะหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome) อาการซินโดรมแปลก ๆ นี้ เป็นอาการเจ็บป่วยทางร่างกายจริง ๆ นะครับ ไม่ใช่การเปรียบเปรยความเศร้าจากความผิดหวังในรักแบบที่เราเคยได้ยินกัน โดยโรคหัวใจสลายนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Stress-induced Cardiomyopathy เป็นภาวะที่หัวใจไม่สามารถบีบตัวได้อย่างเฉียบพลัน 
    ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุแน่ชัดของโรคใจสลายนี้เกิดว่าจากอะไร แต่ทางการแพทย์ เชื่อว่าเกิดจาก ฮอร์โมนความเครียดที่สูงขึ้นจากความผิดหวังความเศร้าเสียใจที่ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือเครียดกับเรื่องอื่น ๆ เช่น ครอบครัว ผิดหวังจากงาน บริษัท เจ๊ง ล้มละลาย ฯลฯ จนเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและนำไปสู่การเป็นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในที่สุด 
    เพื่อป้องกันไม่ให้เราเสี่ยงต่อโรคใจสลาย ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และนอกจากฝึกภูมิคุ้มกันทางร่างกายแล้ว ต้องฝึกภูมิคุ้มกันทางจิตใจร่วมด้วยจดจำไว้ครับว่าทุกอย่างมีพบมีจากทุกการสิ้นสุด มีผิดหวังบ้างเป็นธรรมดา แม้วันนี้จะไม่เป็นอย่างหวัง แต่ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอครับ

    5. โรคกลั่นเหล้าไม่รู้ตัว

    5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ
    นี่เป็นโรคแปลกที่แฟรงค์ว่าแปลกที่สุดในลิสต์นี้เลยครับ เชื่อว่าหลาย ๆ  คนต้องเคยได้ยินชื่อโรคนี้เป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน ถ้าเราดื่มเหล้า แน่นอนว่าเราก็ต้องมีอาการมึนเมา แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกลั่นเหล้าไม่รู้ตัว พวกเขาไม่ต้องกลิ่นเหล้าเพื่อให้เมาหรอกครับ แค่กินข้าว พวกเขาเหล่านี้ก็รู้สึกเมาได้แล้ว
    โรคกลั่นเหล้าไม่รู้ตัว หรือ  Auto-brewery Syndrome เกิดจากความผิดปกติของการยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae ที่อยู่ในลำไส้ครับ โดยยีสต์ดังกล่าว จะทำหน้าที่ในการหมักคาร์โบไฮเดรตในลำไส้มากจนเกินไป จนเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ และถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดจนมีอาการมึนเมาแบบเดียวกับการเมาเหล้านั่นเองครับ ถ้าถามว่าโรคนี้อันตรายยังไง ลองคิดว่า ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคนี้ กินข้าวหรือขนมปังก่อนไปขับรถสิครับ อาการดังกล่าวทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่างมากเลย
    โดยการรักษาโรคกลั่นเหล้าไม่รู้ตัวนี้สามารถรักษาได้โดยการกินยาฆ่าเชื้อราชนิดกิน และยากำกัดคาร์โบไฮเดรต และลดการทานอาหารชนิดแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตลง เพื่อให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นเหล้าได้ครับ  
     
    และนี่คือ 5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ บางโรคแค่ฟังชื่ออาจจะรู้สึกตลกและไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดขึ้นกับเราจริง ๆ แล้วนี่ ขำไม่ออกเลยนะครับ ดังนั้น รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ หรือจะให้ดีมีประกันสุขภาพไว้สักกรมธรรม์เพื่อดูแลตัวเอง เริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อย หรือทำประกันสุขภาพตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่เสี่ยงเป็นโรคร้าย นอกจากเบี้ยประหยัด ยังได้รับความคุ้มครองที่ช่วยเหลือยามเจ็บป่วยด้วย และหากสนใจแต่ไม่รู้ซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี สอบถาม frank.co.th ได้ครับ สามารถโทรสอบถามที่ 02-106-5800 หรือแชทสอบถามในเฟซบุ๊ก frank.co.th ยินดีให้คำปรึกษาจ้า  

    The post 5 โรคชื่อแปลก แต่อันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ (อาจถึงตาย) appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    รู้ทัน! มัจจุราชเงียบ 'โรคมะเร็งปากมดลูก' https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%94%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Thu, 12 Sep 2019 01:27:24 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8362 “มะเร็งปากมดลูก (Cancer of Cervix)” ถือเป็นภัยเงียบคอยคุกคามผู้หญิงทั่วโลก อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติบอกเล่าว่า “มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยวันละ 7 ราย จัดเป็นอีกโรคร้ายแรงที่พบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงรองจากมะเร็งเต้านม”  โดยสถิติยังระบุข้อมูลกลุ่มเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก คือ หญิงวัย 35-5

    The post รู้ทัน! มัจจุราชเงียบ 'โรคมะเร็งปากมดลูก' appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    “มะเร็งปากมดลูก (Cancer of Cervix)” ถือเป็นภัยเงียบคอยคุกคามผู้หญิงทั่วโลก อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติบอกเล่าว่า “มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยวันละ 7 ราย จัดเป็นอีกโรคร้ายแรงที่พบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงรองจากมะเร็งเต้านม”  โดยสถิติยังระบุข้อมูลกลุ่มเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก คือ หญิงวัย 35-50 ปี อ่านมาถึงตรงนี้ แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจเพราะถ้ารู้ตัวว่าป่วย รักษาทันเวลา ก็มีโอกาสหายครับ เรามาทำความเข้าใจรู้ทันโรคร้ายแรงนี้กันเถอะนะ

    มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร ?

    เพื่อให้ชาวแฟรงค์เข้าใจประกันมะเร็งในผู้หญิงมากขึ้น เพนกวินแฟรงค์เราอาสาทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ชื่อดังเกี่ยวกับการแพทย์ เช่น หมอชาวบ้าน, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ รวมทั้งข้อมูลจาก “หนังสือทำความรู้จักโรคมะเร็งกันเถอะ” เป็นเอกสารเขียนขึ้นโดยนพ.วิเชียร ศรีมุนินทร์นิมิต, นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ และพญ.สุดสวาท เลาหวินิจ มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย 

    แบ่ง 2 สาเหตุมะเร็งมดลูก ดังนี้

    1. มะเร็งปากมดลูกเกิดการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) 

    ถามว่ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไรส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการที่สาว ๆ ติดเชื้อไวรัส HPV มีชื่อเต็มว่า Human Papilloma Virus เป็นไวรัสในตระกูลเดียวกับโรคหูดและหงอนไก่ ซึ่งติดเชื้อบริเวณพื้นผิวด้านนอกของปากมดลูก

    กลุ่มเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก: 

    • การติดเชื้อ HPV มีสาเหตุจากการมีเพศสัมพันธ์หรือมีเซ็กส์ก่อนวัยอันควร (อายุต่ำกว่า 18 ปี)
    • ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ 
    • สูบบุหรี่จัด สาว ๆ สิงห์อมควัน ก็เสี่ยงต่อจะมะเร็งปากมดลูก 

    อย่างไรก็ดี ผู้หญิงที่มีสามีคนเดียวไม่เปลี่ยนคู่นอน ก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ด้วยเช่นกัน หากสามีเคยมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มีเชื้อดังกล่าว ปัจจุบัน มีวัคซีนฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัสนี้แล้ว บางครั้งมีบริการฉีดฟรีด้วยล่ะ  
    มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร

    2. มะเร็งบริเวณพื้นผิวด้านในของปากมดลูก

    มะเร็งกลุ่มนี้ ระยะแรกเริ่มจะไม่ค่อยออกอาการครับ เพียงแต่จะมีสัญญาณบ่งบอกผิดปกติเล็กน้อย เช่น

    • เลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นประจำเดือน 
    • หรือเป็นเมนส์กะปริดกะปรอย 
    • มีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ 
    • ร่วมกับอาการมะเร็งปากมดลูกที่ตกขาวมากกว่าปกติ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ตกขาวมีเลือดปนออกมาด้วย

    สำหรับมะเร็งปากมดลูกชนิดต่อมเมือก เรามักจะพบในผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานครับ  เอาเป็นว่า เจอเหตุผิดปกติกับร่างกายควรพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นะครับ

    วิธีสังเกตมะเร็งปากมดลูก ?

    พูดถึงมะเร็งในกลุ่มผู้หญิงวิธีสังเกตมะเร็งปากมดลูกจะมี 4 ระยะครับ คุณสาว ๆ จะต้องสังเกตอย่างเดียว สังเกตความผิดปกติของตัวเองครับว่ามีอาการตกขาวผิดปกติ ตกขาวมีเลือดปน ตกขาวมีกลิ่นผิดปกติ หรือมีเลือดออกผิดปกติ คุณอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะแรก หรือระยะที่ 1 มักจะไม่แสดงออกรุนแรง พูดง่าย ๆ ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกแทบไม่รู้ตัวเลยครับว่าป่วย เนื่องจากมะเร็งจะจำกัดอยู่บริเวณปากมดลูก ดังนั้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจส่องกล้องแบบแปปสเมีย (Pap Smear) หรือตรวจชิ้นเนื้อ เช็กสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีที่สุด เนื่องจากรักษาตั้งแต่แรกจะมีโอกาสหายสูงกว่าครับ
    ขณะที่ระยะ 2 เซลล์มะเร็งจะลุกลามเรื่อย ๆ เข้าสู่ช่องคลอดส่วนบน และเนื้อเยื่อที่อยู่ติดกับปากมดลูก หากคุณปล่อยทิ้งไว้ให้ลุกลามถึงระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามสู่ต่อมน้ำเหลือง อุ้งเชิงกราน และช่องคลอดส่วนล่าง ร้ายแรงสุดคือระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งแพร่กระจายสู่อวัยวะสำคัญ เช่น ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ รวมทั้งปอด ตับ และกระดูก อาจมีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วยในส่วนการรักษานั้นยิ่งตรวจพบไว ยิ่งมีโอกาสหายมากกว่า
    อ่านจบอย่าเพิ่งกลัวหรือตื่นตระหนกไป เราสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้ ถ้าหากเราพบอาการผิดปกติต้องพบแพทย์ทันที และต้องตรวจสุขภาพปีละครั้งอย่าให้ขาด เพื่อให้ห่างไกลจากมะเร็งปากมดลูกภัยเงียบที่คร่าชีวิตหญิงสาว หรือจะให้ปลอดภัยไว้ก่อนซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคร้ายแรง หรือประกันโรคร้ายแรงไว้สักกรมธรรม์ก็ช่วยได้ครับ
    ขอบคุณข้อมูลจาก : nci.go.th, doctor.or.th
    Content by Butter Cutter

    The post รู้ทัน! มัจจุราชเงียบ 'โรคมะเร็งปากมดลูก' appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด https://www.bolttech.co.th/blog/5%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2594 Wed, 20 Mar 2019 08:45:42 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=5676   เอาจริงๆ ก็ไม่อยากจะใช้คำว่ายอดฮิตเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นโรคร้ายแรง แต่โรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ ส่วนสาเหตุที่คนไทยเริ่มป่วยจำนวนมาก ก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น บางคนต่างก็เร่งรีบทำงานและตึงเครียดมากเกินไป จนไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือดูแลตัวเอง นับว่าเป็นพฤติ

    The post 5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>
     
    เอาจริงๆ ก็ไม่อยากจะใช้คำว่ายอดฮิตเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นโรคร้ายแรง แต่โรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ ส่วนสาเหตุที่คนไทยเริ่มป่วยจำนวนมาก ก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น บางคนต่างก็เร่งรีบทำงานและตึงเครียดมากเกินไป จนไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือดูแลตัวเอง นับว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงอย่างยิ่ง และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาภายหลัง แบบไม่รู้ตัว !! แล้วสิ่งที่น่ากังวลใจอยากมากก็เรื่องค่ารักษาพยาบาลในกลุ่มโรคร้ายแรงที่มีค่ารักษาตัวค่อนข้างสูง หากคุณไม่รีบวางแผนดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ คุณจะรับมือกับโรคร้ายแรงเหล่านี้ได้อย่างไร?
    วันนี้เพนกวิน Frank.co.th จึงขอรวบรวม 5 อันดับโรคร้ายแรงยอดฮิตของคนไทยมาฝากกัน เพื่อจะได้หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น แล้วโรคไหนจะติดอันดับบ้างนะ? เราลองมาดูกัน

    • โรคมะเร็ง
    • โรคหัวใจ
    • โรคเบาหวาน
    • โรคความดันโลหิตสูง
    • โรคไต

    1. โรคมะเร็ง

    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด
    ทุกวันนี้โรคมะเร็งก็ยังครองโรคร้ายแรงอันดับหนึ่งอยู่ กลายเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และคร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด ซึ่งล้วนแล้ว เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกินอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือตากแดดมากเกินไป  ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งต่างๆได้ ดังนั้น Frank จึงขอมาสรุปอันดับโรคมะเร็งที่ยอดฮิตของคนไทยคร่าวๆ มาฝากกันด้วย
    พบในผู้หญิง : สำหรับมะเร็งเต้านม ถือเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยสุดในผู้หญิง และมีโอกาสจะพบสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการกินอาหารที่มีไขมัน แล้วไม่ออกกำลังกาย หรือได้รับรังสีในปริมาณสูง ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นยังพบมะเร็งปากมดลูกตามมาอีกด้วย อันนี้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง มักจะพบตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนคนอายุน้อยก็เป็นได้นะ
    พบในผู้ชาย :  โรคมะเร็งที่พบในผู้ชายมากที่สุดอันดับหนึ่งก็คือ มะเร็งตับ ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมชอบทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ไหม้เกรียม อาหารที่มีเชื้อรา อาหารที่ใส่สารกันบูด หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน และรองลงมาก็จะเป็นมะเร็งปอด โรคนี้เกิดจากการสูบบุหรี่ สูดดมมลพิษ หรืออากาศที่มีฝุ่นละออง หากสูดดมเข้าสู่ร่างกายมากๆ ก็จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งสูงกว่าคนอื่น
    นอกจากนี้พฤติกรรมการกินอาหารประเภทปิ้ง ย่าง และรมควันนั้น จะมีสารที่เรียกว่า “พีเอเอช” เกิดจากการเผาไหม้ของเนื้อสัตว์ หากเรากินเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็จะสะสมเข้าร่างกาย จนเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้เช่นกัน

    2. โรคหัวใจ

    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด
    สำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจ ก็ได้จัดอันดับต้นๆ ตามมา นับเป็นภัยโรคร้ายแรงใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตัน จนไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ดี ทำให้เลือดนำออกซิเจนไหลผ่านน้อยลง อาจเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย และหายใจไม่สะดวก ส่วนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจก็คือ การกินอาหารที่มีไขมัน หรือน้ำตาลสูง และไม่ยอมออกกำลังกาย รวมถึงปัจจัยความเครียดก็ส่งผลนะ  ยิ่งถ้าทำงานหนักมากจนเกินไป ก็ต้องระวังกันเป็นพิเศษ เพราะบางคนก็ไม่รู้ตัวเองว่าเป็นโรคหัวใจ พอมารู้ตัวทีหลังก็สายเกินไปซะเเล้ว เพนกวิน Frank แนะนำให้คุณหมั่นตรวจสุขภาพบ่อยๆ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้รักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ผลวิจัยยังพบอีกด้วยนะว่า โรคหลอดเลือดหัวใจจะพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่ใกล้หมดประจำเดือน ก็เกิดโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจเหมือนกัน

    3. โรคเบาหวาน

    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด
    เชื่อว่าใครหลายคนก็คงรู้จัก “โรคเบาหวาน” กันมาก่อน อีกหนึ่งสัญญาณเตือนภัยใกล้ตัวที่เตือนว่า คุณกำลังมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ !! อันเนื่องมาจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน  ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเเทรกซ้อนต่อระบบต่างๆ เช่น ตา ไต ตับ จนถึงระบบประสาท เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนี้

    • โรคไต
    • โรคหัวใจ
    • โรคหลอดเลือดสมอง
    • โรคในช่องปาก
    • ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา การมองเห็น
    • ปัญหาเท้า แผลที่เท้า
    • โรคในช่องปาก
    • ความเสียหายต่อเส้นประสาท

    ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ก็มาจากพฤติกรรมการกินเช่นกันนั่นแหละครับ โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างเช่น แป้ง และน้ำตาล หากกินเป็นปริมาณมากๆ ก็ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสะสมมากเช่นกัน  นอกจากนี้ยังรู้หรือไม่ว่า? โรคเบาหวานยังเป็นโรคทางพันธุกรรมอีกด้วยนะ สมมุติว่าคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ไม่ว่าจะเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ แสดงว่าก็มีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานขึ้น ถึงแม้ว่าพันธุกรรมจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้นะ ด้วยการลดปริมาณน้ำตาล หรือดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานก็จะลดลง ก็อย่างที่เขาบอกกันว่า ชีวิตที่ดี เริ่มต้นจากการกินยังไงล่ะ !!
    *** สำหรับการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เราจะต้องอดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ โดยระดับน้ำตาลในเลือดปกติจะมีค่าอยู่ที่ 70-100 mg/dL ถ้าหากผลการตรวจวัดพบกลูโคสในเลือดมากกว่า 100 mg/dL ก็แปลว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

    4. โรคความดันโลหิตสูง

    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด
    เมื่อกล่าวถึงโรคความดันโลหิตสูง ก็เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายแรงยอดฮิตของคนไทยเช่นกัน และเป็นโรคที่มักไม่ค่อยแสดงอาการออกมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงนั้น มีอยู่หลายอย่าง เช่น เกิดจากพันธุกรรม ภาวะโรคอ้วน พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด  รวมถึงผลข้างเคียงของยาและความเครียด เพราะเนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง และชอบทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เหตุผลนี้เองจึงทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติ
    อาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยง : จะเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และชอบทานอาหารเค็มจัด เช่น เนื้อสัตว์ทอด ไส้กรอก เบคอน แกงกะทิ น้ำปลา อาหารแช่แข็ง ผงชูรส ชา กาแฟ และขนมหวานต่างๆ ซึ่งบางอย่างก็อาจจะทานได้เล็กน้อย ตามปริมาณจำกัด แต่หากทานเข้าไปทุกวัน แล้วไม่ยอมออกกำลังกายนะ ก็ย่อมมีโอกาสเสี่ยงสูง
    *** สำหรับค่าความดันโลหิตปกติ คือ 120/80 มม.ปรอท หากสูงเกินกว่า 120 ก็เริ่มมีภาวะเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง 

    5. โรคไต

    5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด
    หลายคนเคยเข้าใจว่า “โรคไต” จะเป็นได้กับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ปัจุบันนี้ก็เริ่มเห็นหนุ่มสาววัยทำงาน และวัยเด็กเสี่ยงเป็นโรคไตกันมากขึ้น ล้วนมาจากพฤติกรรมการกินทั้งนั้น โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น เนื้อหมักเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง ปลาส้ม  เต้าเจี้ยว อาหารดอง อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือซอสปรุงรสเทียม  ทั้งหมดนี้จัดเป็นสารอาหารที่มีสารโซเดียมและโพแทสเซียมสูง ส่งผลให้ระบบไตทำงานลดลง จนกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือทำให้หัวใจเต้นผิดปกติได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่เสี่ยงต่อโรคไตอีกด้วยนะ เช่น การดื่มน้ำน้อย การทำงานหนัก ความเครียด หรือการสูบบุหรี่ เป็นต้น สำหรับวิธีรักษาก็จะเป็นการฟอกเลือด ฟอกไตและปลูกถ่ายไต โดยเราจะพบเห็นการรักษาบ่อยตามโรงพยาบาล หรือสถาบันโรคไต จนกลายเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายแรงที่ติดอับดับต้นๆ ของคนไทย
    อย่างที่เคยได้ยินมาว่า การไม่มีโรคนั้น เป็นลาภอันประเสริญ เพราะการมีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว  และสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการดูแลตัวเอง เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ แม้แต่ความเป็นอยู่ก็ต้องสะอาด  ถูกหลักอนามัย รวมถึงปรับพฤติกรรมต่างๆ เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่สูดดมฝุ่นหรือมลพิษ หากเราหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงนี้ได้
    แล้วที่สำคัญก็อย่าลืมมองหาประกันโรคร้ายแรงเผื่อไว้กันด้วยนะ เวลาเกิดเจ็บป่วยหรือไม่สบายด้วยโรคร้ายแรง แล้วจำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน อาจจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ถ้าคุณทำประกันโรคร้ายแรงเผื่อไว้ล่วงหน้า ประกันโรคร้ายแรงจะเข้ามาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ พูดแบบเข้าใจง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนการออมเงินสำรองไว้ เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย อันนี้ก็จะคอยช่วยดูแลคุณและคนในครอบครัวของคุณได้  ดังนั้น การวางแผนเรื่องของสุขภาพ หรือซื้อประกันโรคร้ายแรงเข้ามาเสริม ก็จะช่วยคุ้มครองความเสี่ยงในกรณีที่คุณเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นี้ก็คุณก็จะได้ใช้ชีวิตแบบสบายใจมากขึ้น
     
    ประกันโรคร้ายแรง

    The post 5 โรคร้ายแรงยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

    ]]>