คำว่า “รีไฟแนนซ์” คืออะไร ?

เอาเป็นว่า Frank ขออธิบายความหมายสั้นๆ ให้เข้าใจกันก่อน ซึ่งคำว่าการ “รีไฟแนนซ์” ก็หมายถึง การกู้เงินก้อนใหม่มาใช้หนี้ก้อนเก่า โดยการกู้ยืมครั้งใหม่อาจจะดีกว่าเดิม เล่าให้ฟังง่าย ๆ คือ

• อัตราดอกเบี้ยใหม่ต่ำ
• ช่วยลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ หรือต้องการนำเงินมาหมุนเวียน เพื่อใช้จ่ายยามจำเป็น

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ?

หลายคนที่กำลังอยู่ช่วงผ่อนรถยนต์ไม่ไหว และต้องการลดภาระหนี้สิน ตัวช่วยสำคัญในการผ่อนรถยนต์ของคุณนั่นก็คือ การรีไฟแนนซ์ กลายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เงินผ่อนต่อเดือนน้อยลง และมีสภาพคล่องตัว รวมไปถึงมีจำนวนวงเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะเหตุนี้เองคนจึงเริ่มสนใจทำรีไฟแนนซ์กันมากขึ้น และเพื่อให้เข้าใจกันอย่างถ่องแท้ เราสรุปข้อดีของการทำรีไฟแนนซ์มาฝากกันด้วยนะ

1. รีไฟแนนซ์ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

สำหรับการรีไฟแนนซ์ขอกู้เงินก้อนใหม่ เราสามารถเลือกยอดผ่อนต่อเดือนให้ประหยัดลงได้ กรณีนี้จะช่วยลดความตึงเครียดด้านค่าใช้จ่ายเยอะเลยทีเดียว

2. ขณะที่เรารีไฟแนนซ์ รถยนต์ยังอยู่กับเรา

อย่างที่บอกข้างต้นว่า รีไฟแนนซ์ จะเป็นการกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อนำมาใช้หนี้ก้อนเก่า นอกจากจะทำให้เราเหลือเงินไปใช้อย่างอื่นแล้ว รถยนต์ก็ยังอยู่กับเราอีกด้วยนะ สามารถพาเราไปทำงาน หรือใช้ในชีวิตต่อไปได้

3. มีเงินปิดยอดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง

เชื่อว่าทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางไหน โดยเหตุผลหลักที่หลายคนเลือกทำรีไฟแนนซ์ ก็เพราะว่าจะได้มีเงินก้อนใหม่ มาปิดหนี้เก่าที่มีดอกเบี้ยสูง จึงทำให้เงินมีสภาพคล่องตัวมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของการรีไฟแนนซ์ที่ถูกต้อง ก็ควรจะเป็นการกู้เงินที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือประโยชน์ต่อตัวผู้กู้มากที่สุด หากลองเปรียบเทียบอัตราส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดกับหนี้สินที่เคยกู้ยืมก่อนหน้านี้แล้วอย่างถี่ถ้วน

4. เลือกผ่อนชำระได้

อันนี้ขาดไม่ได้เลย หัวใจสำคัญของการรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นที่เก่าหรือใหม่ เราต้องได้รับข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่ากว่าแน่นอน เช่น การยืดระยะเวลาผ่อน เพื่อให้อัตราชำระต่อเดือนถูกลง หรือขอปรับอัตราชำระช่วงต้นให้มากขึ้น จะได้ปิดหนี้เร็ว ไม่ใช่แค่นั้นเราอาจขอวงเงินเพิ่ม เพื่อนำมาใช้ตามต้องการได้ ซึ่งจะพิจารณาจากสภาพการเงิน ประวัติค้างชำระ พร้อมระยะเวลาที่เหมาะสมกับการรีไฟแนนซ์มากที่สุด
ถึงอย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์จะช่วยไม่ให้รถยนต์ถูกยึด แต่เราก็ต้องพิจารณาให้ดีซะก่อน เพราะทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยสิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึงเลย ก็คือ กรณีจะปิดสินเชื่อเก่าเพื่อขอสินเชื่อใหม่  อาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติม หรือถ้าตัดสินใจขอกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อนำไปจ่ายหนี้เก่าที่รวมดอกเบี้ยค้างคาก่อนหน้านี้ ก็ส่งผลให้มีโอกาสเพิ่มดอกเบี้ยได้เช่นกัน เพราะการชำระสินเชื่อรถยนต์จะไม่ได้ลดต้นลดดอกเหมือนผ่อนบ้าน จะต้องตัดสินใจให้เพียงพอว่าคุ้มค่ากับการรีไฟแนนซ์หรือไม่

อยากรีไฟแนนซ์ต้องเตรียมอะไร ?

พอทราบรายละเอียดการรีไฟเเนนซ์รถยนต์ไปบ้างแล้ว หากอยากจัดไฟแนนซ์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ? แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ไม่ต้องห่วงกันนะ เราจะมาสรุปขั้นตอนง่ายๆให้อ่าน ดังนี้

• เตรียมเอกสารให้ครบ เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ขาดไม่ได้เลย เพราะเอกสารทุกอย่างทางสถาบันการเงิน จะเป็นฝ่ายพิจารณาข้อมูลผู้ขอสินเชื่อ ยิ่งถ้าเตรียมทุกอย่างมาให้พร้อม เราก็จะได้รับการติดต่อเร็ว และดำเนินเรื่องได้ง่ายขึ้น
  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานรายได้
  • สมุดบัญชีเงินฝาก
  • แผนที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงาน
  • เล่มทะเบียนรถยนต์

• ติดต่อสถาบันการเงิน หลังจากเรามีเอกสารครบแล้ว ต่อมาก็จะต้องหาแหล่งสถาบันการเงินที่ต้องการรีไฟแนนซ์ ทั้งนี้จะติดต่อกับธนาคารเดิม หรือธนาคารแห่งใหม่ก็ได้
• ประเมินราคารถยนต์ จะเป็นขั้นตอนระหว่างการพิจารณา โดยสถาบันการเงินจะตรวจสอบสภาพรถยนต์ ยอดจัดรีไฟแนนซ์ ความต้องการลูกค้า การผ่อนชำระ และเครดิตบูโร ซึ่งเป็นปัจจัยในการตัดสินใจทั้งหมด
• หลังจากอนุมัติผ่าน เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางสถาบันการเงินจะติดต่อกลับมา โดยแจ้งรายละเอียดสัญญา และเงื่อนไขต่างๆของการผ่อนชำระ ขอย้ำนะว่าผู้ขอสินเชื่อควรศึกษาและอ่านข้อตกลงสัญญาให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง

แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์ เราอาจจะต้องใช้เวลาในการติดต่อพอควร ทั้งยังต้องเตรียมเอกสารมากมาย แต่โดยรวมของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็ถือว่าคุ้มค่าและส่งผลดี โดยเฉพาะคนที่กำลังอยู่ในช่วงรถยนต์ถูกยึด หรือต้องการหมุนเงินเพื่อมาใช้ยามจำเป็น  อีกทั้งเรายังต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบอีกด้วย เข้าใจเรื่องรีไฟแนนซ์แล้ว สำหรับคนที่มีรถยนต์อย่าลืม ซื้อประกันภัยรถยนต์ ควบคู่กันด้วยนะ เพราะเราจะคุ้มครองทั้งชีวิตและรถของคุณให้ปลอดภัย หายห่วง
 

The post รีไฟแนนซ์รถยนต์ มีข้อดีอะไรบ้างนะ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์ ทำยังไงกันนะ?

อันดับแรกเรามาทำความรู้จักคำว่า “จัดไฟแนนซ์” กันก่อนดีกว่า ฟังแล้วอาจจะยังดูไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าขออธิบายแบบง่ายๆเลยก็คือ เป็นการขอสินเชื่อกู้ยืมเงินจากบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อนำมาซื้อรถยนต์ โดยเลือกผ่อนชำระออกเป็นงวดๆ และส่งดอกเบี้ยให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ หลังจากผ่อนครบตามสัญญาแล้ว รถยนต์คันนั้นก็จะเป็นของเราทันที  เพียงแค่คุณจ่ายหมด ก็จะสบายเลย
มาถึงขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ หลายคนบอกว่ายุ่งยาก เอาจริงๆแล้วถ้าทุกอย่างพร้อมและครบ ขอบอกเลยว่าง่ายนิดเดียว !! สำหรับวิธีการจัดไฟเเนนซ์รถยนต์ ลำดับแรกผู้ซื้อจะต้องติดต่อ ยื่นเอกสารขอสินเชื่อกับทางบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อทำเรื่องเข้าระบบ และรอผลอนุมัติ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน (ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสาร) หลังจากได้รับการยินยอมกับทางบริษัทไฟแนนซ์แล้ว ก็จะถามรายละเอียดของผู้ซื้ออีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงความสามารถการผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่กำหนด หากเป็นที่ยินยอมและตกลงทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็จะทำสัญญาร่วมกัน

เอกสารการจัดไฟแนนซ์ มีอะไรบ้าง?

สำหรับคนที่กำลังจะติดต่อกับบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อขอสินเชื่อในการซื้อรถยนต์ เราจะต้องเตรียมเอกสารให้ครบก่อน จะช่วยทำให้ขั้นตอนเป็นไปง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยปกติทั่วไปแล้วเอกสารที่ใช้จัดไฟแนนซ์รถยนต์ จะมีดังนี้

• บัตรประจำตัวประชาชน
• ทะเบียนบ้าน
• เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน หรือสำเนาสมุดบัญชี)
• เอกสารจากผู้ค้ำประกัน หนังสือค้ำประกัน
• เมื่อเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องนำเอกสารมาใช้ประกอบ

จากข้างต้นจะเป็นเอกสารหลักเพื่อนำมาประกอบการจัดไฟแนนซ์ ทั้งนี้เอกสารอื่นนอกจากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทไฟแนนซ์ด้วย หรืออาจจะสอบถามกับทางบริษัทไฟแนนซ์เพิ่มเติมได้เช่นกันนะ เมื่อเราเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อม ก็จะทำเรื่องขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

แล้วไฟแนนซ์ มีทั้งหมดกี่ประเภท?

อย่างที่เราเห็นกันอยู่ว่า รถยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น จึงทำให้หลายบริษัทมีการจัดไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์มือหนึ่งหรือมือสอง ก็สามารถตอบสนองผู้ต้องการซื้อรถได้อย่างดี
กลายเป็นว่า รถยนต์เริ่มมีความต้องการในตลาดมากขึ้น ยิ่งทำให้บริษัทไฟแนนซ์จัดหาบริการที่หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ของลูกค้า โดยจะกำหนดเงื่อนไขตามแต่ละบริษัท ซึ่งประเภทของการจัดไฟแนนซ์ แบ่งเป็นดังนี้
1. จัดไฟแนนซ์กับดีลเลอร์ค่ายรถยนต์
จากตัวแทนจำหน่ายบริษัทรถยนต์โดยตรง เช่น Honda Leasing , Toyota Leasing , Isuzu Leasing , Nissan Leasing , BMW Leasing และ Mercedes-Benz Leasing เป็นต้น เป็นวิธีการเช่าซื้อรถจากผู้ขาย หรือตัวแทนจำหน่ายโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
2. ทำไฟแนนซ์รถมือสอง
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางนิยมไม่แพ้กัน เพราะรถมือสองราคาค่อนข้างถูกกว่า และรถยนต์บางคันก็มีคุณภาพใกล้เคียงกับรถตัวใหม่เลย เราจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ก็คือ ผ่านบริษัทขายรถยนต์มือสองโดยตรง เช่น ห้างขายรถ หรือเต้นท์รถ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็จะมีสถาบันการเงินสนับสนุนตลอดเวลา ส่วนแบบที่สองจะเป็นรถที่ซื้อขายกันเอง อาจจะเป็นบุคคลใกล้ชิด พี่ น้อง เครือญาติ ที่ตกลงซื้อขายร่วมกัน ทั้งนี้เราจะต้องติดต่อธนาคารด้วยตัวเอง หรือบริษัทไฟแนนซ์ที่คอยช่วยเหลือด้านนี้
3. ไฟแนนซ์รถออนไลน์ 
อย่างไรก็ดี ก่อนจัดไฟแนนซ์? เราจะต้องคำนวณค่างวดให้รอบคอบว่าสามารถผ่อนไหวไหม ปัจจุบัน ยุค Thailand 4.0 ที่โลกอินเทอร์เน็ตรวบรวมข้อมูลไว้มากมาย เราสามารถจัดไฟแนนซ์ออนไลน์ได้ด้วยล่ะ ช่วยให้เราประเมินค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ยิ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วง ยุค 4.0 ก็เริ่มมีการลงทุน และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้าเน้นสู่บริการมากขึ้น ทางสถาบันธนาคารจึงได้มีบริการไฟแนนซ์รถยนต์ออนไลน์ ที่สามารถเช็ควงเงินกู้ และคำนวณดอกเบี้ยให้อัตโนมัติ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ และหากต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ขยายการค้า ซ่อมแซมบ้าน หรือใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ก็สามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ด้วยเช่นกัน โดยไม่ต้องเสียเวลารอข้อมูลเปรียบเทียบให้ยุ่งยาก พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อรถยนต์ และเช็คโอกาสอนุมัติเบื้องต้นได้ จะช่วยประหยัดเวลา และวางแผนการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้เราก็อย่าลืมกันนะ ว่าสิ่งสำคัญในการขอจัดไฟแนนซ์รถยนต์นั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร หลักฐานเงินเดือน รายรับรายจ่าย หนังสือค้ำประกัน หรือเอกสารอื่นๆ  หากเราเตรียมทุกอย่างมาครบ และติดต่อก่อนล่วงหน้า ก็จะทำให้เราขอเรื่องได้เร็วขึ้น หลักการประเมินไฟแนนซ์ของบริษัทประกันตามปกติแล้วการยื่นขอสินเชื่อ ยังพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของผู้ยื่นขอเป็นหลัก พร้อมกับหลักฐานในการอ้างอิงด้วย หากผู้ขอสินเชื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและเป็นจริง โอกาสผ่านก็จะสูงมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อไฟแนนซ์ผ่านแล้ว ต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ด้วย ?

เมื่อเราทราบผลอนุมัติผ่านเรียบร้อย ผู้ซื้ออาจจะยังไม่ได้รับรถยนต์เลยนะ คงจะต้องรอทางผู้ขายติดต่อโอนรถยนต์เข้าไฟแนนซ์ก่อน และรอให้บริษัทไฟแนนซ์ส่งจ่ายชำระค่ารถยนต์ให้ทางผู้ขายด้วยเช่นกัน หากผู้ซื้อได้ชำระเงินดาวน์ครบตามข้อตกลง พร้อมเซ็นสัญญากับทางบริษัทไฟแนนซ์ ก็สามารถนำรถยนต์มาใช้งานได้เลย หลังจากนั้นก็ส่งเป็นทีละงวดให้แก่ทางไฟแนนซ์ ถ้าเราผ่อนครบก็จะได้เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว

เงื่อนไขการจัดไฟแนนซ์

• ยอดจัด หมายถึง ส่วนที่คุณต้องกู้มาเพื่อซื้อรถยนต์ ซึ่งทางไฟแนนซ์จะประเมินราคาของรถกับทางบริษัทรถนั้นๆ โดยจะพิจารณาจากยี่ห้อรถยนต์ รุ่น ปีจดทะเบียน ระบบเกียร์ ตลอดจนสภาพของรถยนต์
• การคิดอัตราดอกเบี้ย สำหรับการคำนวณค่าดอกเบี้ยรถยนต์ จะขึ้นอยู่กับปีของรถ ระยะเวลาการผ่อน รวมทั้งความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ซื้อ
• การทำประกันภัยรถยนต์ โดยปกติทั่วไปแล้ว ทางบริษัทไฟแนนซ์จะกำหนดให้ทำประกันรถยนต์ปีแรก ซึ่งจะเป็นนโยบายของบริษัทฯ

หลังการจัดไฟแนนซ์ผ่านแล้วหากคุณกำลังมองหากรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองคุ้มค่า ปรึกษาโบรกเกอร์ประกันออนไลน์กับ Frank.co.th ได้เลยนะ รับรองว่า “รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ” ด้วยเบี้ยประกันให้คุณเลือกสรรตามใจชอบ สามารถผ่อนประกันรถยนต์ได้สูงสุดถึง 10 เดือน* หรือเก็บข้อมูลเรียนรู้ ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็เข้ามาอ่านกันได้เลย !!
*ตามเงื่อนไขของบริษัทฯ  สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-106-5800 หรือ line@ Frank.co.th
 

The post อยากจัดไฟแนนซ์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.