1. ไหว้พระทำบุญในวันลอยกระทง

เริ่มกิจกรรม วันลอยกระทง 2563 ตรงกับวันพระใหญ่พอดี หากคุณมีโอกาสก็ลองตื่นมาตักบาตร ไหว้พระทำบุญสักหน่อย เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทั้งสุขภาพ การงาน การเงิน ครอบครัว และความรัก หรือถ้าใครเป็นสายนักเดินทางบุญ จะไปทำบุญไหว้พระตามวัดต่างๆ ได้เช่นกัน ทั้งอิ่มบุญทั้งมีโอกาสไปเที่ยวด้วยนะ

อ่านเพิ่มเติม : เที่ยวไหว้พระในกรุงเทพที่ไหนดี?

2. ประดิษฐ์กระทงขายเอง

สำหรับวันลอยกระทงปีนี้ใครอยากจากหารายได้พิเศษเสริม แนะนำให้ลองครีเอทกระทงเก๋ๆ มาขายก็ดีไม่แพ้กัน ทำให้เราได้ใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ แถมมีเงินเข้ากระเป๋าอีกด้วย ซึ่งการประดิษฐ์กระทงเราสามารถนำวัสดุต่างๆ มาใช้ประกอบได้ แต่แนะนำให้ใช้เป็นวัสดุที่ย่อยง่ายดีกว่า เพื่อช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติไปด้วย เช่น หยวกกล้วย ใบตอง และเปลือกมะพร้าว เป็นต้น เอาเป็นว่าใครชอบครีเอทแบบไหน ก็ลองหาไอเดียไปทำดูนะจ๊ะ

3. ขอขมาพระแม่คงคา

“วันเพ็ญเดือน 12 น้ำนองเต็มตลิ่ง” แฟรงค์เชื่อว่าทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตาลอยกระทงกันมานาน และหนึ่งปีมีแค่หนเดียวเท่านั้น!! นอกจากการลอยกระทงจะเป็นการขอขมาพระเเม่คงคาที่ทำให้เรามีน้ำดื่มน้ำใช้ทุกวันนี้ วันลอยกระทงยังเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของไทยด้วยนะ หากใครมีเวลาว่างๆ ก็ลองควงแฟน พาครอบครัวมาร่วมลอยกระทงด้วยกัน พร้อมเก็บภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกในวันลอยกระทง

4. เที่ยวชมงานลอยกระทง

หากคุณนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรในวันลอยกระทง สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศสวยๆ ภายในงานกันได้ เนื่องจากกิจกรรมวันลอยกระทงจะมีสิ่งที่น่าสนใจให้ทำอีกมากมาย เช่น ประกวดนางนพมาศ ขบวนแห่ลอยกระทง และมหรสพ บางแห่งก็มีไฟประดับโชว์ภายในงาน รวมถึงอาหารการกินที่ขายตลอดข้างทาง สามารถแวะเข้ามาชิมหรือจะซื้อกลับบ้านได้ตามสบาย รับรองคุณจะต้องสนุกทั้งคืนแน่นอน

5. ขายอาหารเสริมรายได้ดีกว่า

งานลอยกระทง 2563 มาทั้งที จะพลาดธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างไร ลองหารายได้เสริมด้วยการขายเมนูอาหารและเครื่องดื่มไปเลย ซึ่งกิจกรรมวันลอยกระทงจะเต็มไปด้วยของกินอร่อยๆ ตลอดในงาน หากคุณขายของในวันลอยกระทง ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น ขายลูกชิ้น ขายเบเกอรี่ ขายขนมหวานไทย ขายผัดไท ขายหมาล่า ขายหมึกย่าง ขายไอติม และน้ำสมุนไพรต่างๆ โดยเลือกขายในต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก  ตั้งราคากลางเป็นหลัก และหาจุดเด่นให้กับร้านค้าของคุณ เชื่อว่าจะต้องสร้างกำไรดีเลยทีเดียว

6. อาบน้ำท่ามกลางแสงจันทร์

อันนี้เป็นความเชื่อวันลอยกระทงของคนไทยโบราณ กล่าวไว้ว่า การอาบน้ำใต้เเสงจันทร์เต็มดวงถือเป็นฤกษ์ดวงดาวที่ดี พลังของแสงจันทร์จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกจากชีวิต เสริมพลังให้กับคนอาบน้ำ และช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บให้ทุเลาลง โดยความเชื่อวันลอยกระทงในการอาบน้ำใต้แสงจันทร์ทำง่ายๆ ดังนี้

• อาบน้ำกลางเเจ้ง โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้า
• อาบน้ำในวันเพ็ญเดือนสิบสอง พระจันทร์เต็มดวง
• อาบน้ำตอนเที่ยงคืน
• อาบน้ำที่ดวงจันทร์สะท้อนในภาชนะใส่น้ำหรือขันน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ที่เราเตรียมไว้

หมายเหตุ : ความเชื่อวันลอยกระทงเกี่ยวกับการอาบน้ำใต้เเสงจันทร์ จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าคุณไม่คิดมากก็ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศในการอาบน้ำ พร้อมชมแสงพระจันทร์ยามค่ำคืนด้วย

หวังว่าข้างต้นจะเป็นไอเดียเล็กๆ น้อยๆ ให้กับชาวแฟรงค์ได้ ถ้าใครที่ยังไม่มีแพลนจะทำอะไรในวันลอยกระทง 2563 สามารถหยิบยกมาใช้กันได้เลย หลังจากอ่านบทความนี้แล้วก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวงานลอยกระทง อย่าลืมซื้อประกันเดินทางในประเทศกันด้วยนะ เพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลแค่ไหน ก็คุ้มครองให้ทั่วโลก สบายใจมากขึ้น!!

The post วันลอยกระทง 2563 ทำอะไรดีนะ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ปล. เตรียมแรงให้ดี เพราะมีพิกัดเที่ยวสิ้นปีให้เลือกเยอะมาก!!!! 

1. ดอยเสมอดาว จ.น่าน

จังหวัดน่านเป็นโลเคชั่นโปรดของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนครับ โดยเฉพาะการเที่ยวไทยเดือนธันวาคมที่จังหวัดนี้ รับรองว่า ประทับใจ เพราะแฟรงค์ก็ชอบเหมือนกัน แนะนำให้คุณกางเต้นท์ที่ดอยเสมอดาว จ.น่าน ซึ่งก่อนจะเดินทางต้องจองพื้นที่กางเต้นท์กับอุทยานศรีน่านก่อนไปนะ จะได้มีโลเคชั่นสวย ๆ ไว้นอนดูดาวยามค่ำคืน ทั้งหนาว ทั้งสวย เหมือนหมู่ดาวกำลังโอบล้อมกายเราเลยล่ะจ้ะ และมีทะเลหมอกยามเช้าให้ดูฟิน ๆ 
ปล. มีโอกาสไปอย่าลืมกินหมูกะทะ เพราะงานดี อร่อยมาก!!! 
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
พิกัด : 

2. ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

เที่ยวไทยเดือนธันวาคมอยากไปภาคเหนือช่วงสิ้นปี แนะนำทริปดอยอ่างขาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝางก็ดีนะ เพราะอากาศดีมากสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร แฟรงค์เคยไปครั้งหนึ่งแหละ เราจะได้เดินเที่ยวสถานีเกษตรดอยอ่างขางโครงการวิจัยผลไม้ ดูดอกไม้เมืองหนาว และชมซากุระแท้บานชมพูสะพรั่งภายในสวน 80 ซึ่งบานช่วงเดือนธันวาคมนี้แหละ โชคดีหน่อยก็ได้เจอแม่คะนิ้งแบบชื่นใจ สามารถขับรถขึ้นเที่ยวได้แต่เส้นทางชันโค้งหักศอกเยอะ หากโชว์เฟอร์ไม่เชี่ยวชาญไม่แนะนำนะคะ หรือจะนั่งรถตู้จากขนส่งไปก็ได้ล่ะ 
ย้ำว่า สาว ๆ แฟนคลับหนังรัก Timeline จดหมาย ความทรงจำ (ปี 2557) นำแสดงโดยพระเอกหนุ่มเจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุขและป็อก ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ เพราะแปลงบ๊วย ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เชียงใหม่ เคยใช้เป็นฉากแสดงหนังเรื่องนี้ด้วย  
อัตราค่าบริการ : ฟรี
พิกัด : 

3. ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่

สำหรับพิกัดดอยสะเก็ดอันนี้ แฟรงค์ชอบมาก เพราะเป็นสถานที่เที่ยวไทยเดือนธันวาคมดีต่อใจ เพราะอากาศดี มีกาแฟอร่อย ๆ ให้ดื่มด้วย มีพิกัดให้กางเต้นท์ได้ แนะนำให้คุณลองเที่ยวบ้านปางไฮ แห่งดอยสะเก็ด รถเกียร์ออโต้ก็ขับขึ้นได้ ตอนนั้นแฟรงค์ขับรถเก๋งซีดานไปก็ไม่ยากนะ เพียงแค่ทางชัน และต้องระวังรถฝั่งตรงข้ามให้ดี ! 
อัตราค่าบริการ : เที่ยวฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่กางเต้นท์ค่าบริการขึ้นอยู่กับพื้นที่จ้ะ
พิกัด : 

4. แม่กำปอง จ.เชียงใหม่ 

“บ้านน้อยในป่าใหญ่” ยังคงแนะนำสถานที่เที่ยวไทยเดือนธันวาคมในจังหวัดเชียงใหม่กับแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน เป็นพิกัดเล็กมากด้วยเสน่ห์ มีที่จอดรถให้บริการค่ะ แนะนำค่อย ๆ ขับลัดเลาะขึ้นอย่าใจร้อน งดหัวร้อน แนะนำเว้นระยะห่างให้ดี ระวังชนท้ายรถคันหน้า ส่วนแม่กำปองมีอะไรน่าเที่ยว ก็มีน้ำตก ที่พักโฮมสเตย์สวย ๆ และร้านอาหารพื้นเมืองให้กินเพียบ หรือจะแวะถ่ายภาพแลนด์มาร์คบ้านไม้ ร้านกาแฟบ้านริมห้วยลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง อันนี้ฮิตสู๊ด!!!
อัตราค่าบริการ : เที่ยวฟรี หากนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไป แนะนำให้จ่ายค่าบำรุงสถานที่ด้วยจ้า
พิกัด : 

5. ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน

บรรยากาศดีตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือปางอุ๋งก็น่าเที่ยวนะ เพราะจะได้สัมผัสกับความโรแมนติกหมอกหนา สายน้ำไหลเอือย ๆ ล่องแพชมบรรยากาศ ดูหงส์ขาวหงส์ดำ และอากาศบริสุทธิ์ที่ทำให้คุณอยากหยุดเวลาไว้นาน ๆ หากอยากพักกางเต้นท์ต้องวางแผนก่อนนะคะ เพราะโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 ปางอุ๋ง ที่นี่มีช่วงเวลาและลิมิตเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ากางเต้นท์ (50  เต้นท์ต่อวัน) และต้องจองบัตรค้างแรมก่อนเข้าเที่ยว สามารถนำรถยนต์เข้าออกได้ระหว่างเวลา 09.00-18.00 น. เท่านั้น และถ้าไม่ชอบนอนเต้นท์ก็มีบ้านพักให้เช่าเช่นกัน หรือจะพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็ได้นะจ้ะ
พิกัด : 

อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท อาจจะมีค่าที่จอดรถ

6. สะพานซูตองเป้ แม่ฮ่องสอน 

ให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นว่าสิ้นปีนี้เที่ยวไหนดี ? Frank ยังคงแนะนำที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนกันต่อกับสะพานซูตองเป้ สร้างขึ้นจากพลังชาวบ้านกุงไม้สัก ลงมือปูสะพานด้วยไม้ไผ่ทอดยาวผ่านทุ่งนา และขึ้นชื่อว่าเป็น “สะพานอธิษฐานสำเร็จ” ว่ากันว่า มาขอพร ณ สวนธรรมภูสมะ และเดินข้ามผ่านสะพานแห่งนี้ที่มีความยาว 500 เมตร ทุกอย่างที่ขอจะเป็นจริง เช้า ๆ เวลาประมาณ 06.30 - 07.30 น. นักท่องเที่ยวสามารถมาใส่บาตรได้จ้ะ แนะนำกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวข้าวออกรวงเหลืองทอง 
พิกัด : 

7. วนอุทยานภูลังกา จ.พะเยา

พาเที่ยวขึ้นที่สูงต่อครับกับวนอุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคำ อำเภอปงจังหวัดพะเยาที่ไม่ได้มีแค่กว้านพะเยา เราจะได้ขึ้นเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,720 เมตร นอนเต้นท์ เห็นทะเลหมอก จิบกาแฟ ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก แวะดูโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่ค้นพบในพะเยา เที่ยวภูเทวดา ดอยภูนม ดอยหัวลิง การเดินทางไม่ยากนะ ถนนค่อนข้างโอเค จะขับบิ๊กไบค์ขึ้นก็ได้ การนอนพักบนนี้เราจะต้องเตรียมของเองทั้งหมดนะครับ ไม่มีให้เช่าเต้นท์นะจ้ะ
อัตราค่าบริการ : ฟรี
พิกัด : 

 

8. เขาหลวง จ.สุโขทัย

สิ้นปีนี้เที่ยวไหนดีสุขโขที่สุโขทัยในพิกัดเขาหลวง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติรามคำแหงอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร โลเคชั่นเที่ยวสิ้นปีที่จะทำให้คุณหลงรัก มีข้อแม้ว่า การมาเที่ยวที่นี่ต้องเดินขึ้นเท่านั้น เดินง่ายมีป้ายบอกชัดเจน แต่ต้องพกขวด พกอาหารมารับประทาน พกยาสามัญประจำบ้าน พกข้าวของใช้จำเป็นมาด้วยนะจ้ะ จะเดินขึ้นเอง หรือจะจ้างลูกหาบก็ได้ทั้งนั้นตามใจเลย เราจะได้ดูตะวันขึ้น ณ เขาพระนารายณ์ ดูพระอาทิตย์ลับฟ้า ณ เขาพระแม่ย่า ควรมาช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคมจะได้เห็นละอองหมอกใกล้ ๆ ถ้าคิดว่าพิกัดนี้ใช่ ก็เตรียมรองเท้าเดินป่าและใจถึง ๆ มาลุยเขาหลวง สุโขทัยกันโล้ด
อัตราค่าบริการ : ค่าเช่าสถานที่คนละ 30 บาท ค่าเข้า ูผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
พิกัด : 

 

9. ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

เที่ยวไทยเดือนธันวาคม มาเป็นผู้พิชิตลานหินปุ่ม ณ ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก มีเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นอุทยานแห่งประวัติศาสตร์ของไทย ยิ่งช่วงฤดูหนาวที่นี่มีอุณหภูมิประมาณ 0-4 องศาเซลเซียล เหมือนได้เที่ยวต่างประเทศเลยครับ เราจะได้เที่ยวเขา ชมดอกไม้ และสามารถกางเต้นท์ได้ด้วย แต่ต้องจองกับอุทยานภูหินร่องกล้าก่อนเดินทางจ้า 
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
พิกัด :

10. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

สำหรับใครที่มีโอกาสผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ คงต้องบอกให้คิดว่าอย่าผ่านเฉย ๆ ได้ไหม เพราะทริปเที่ยวไทยเดือนธันวาคมในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวก็เลิศเหมือนกันนะครับ การมาเที่ยวต้องขับรถมาที่ห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด ถามว่าถนนหนทางเป็นอย่างไร มีทั้งถนนลาดยาง ถนนลูกรังบางช่วง เราจะได้เที่ยวเริ่มตั้งแต่เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ และพิชิตภูสอยดาวที่ความสูง 1,633 เมตร พร้อมกับขึ้นกางเต้นท์บนลานสนภูสอยดาวได้ เชื่อเหอะ “เต็มอิ่มกับการนอนนับดาวบนฟ้าในภูสอยดาว”
อัตราค่าบริการ : ค่ากางเต้นท์คนละ 30 บาท ค่ามัดจำขยะ 100 บาทต่อกลุ่ม
พิกัด : 

 

• บทความที่คุณอาจจะสนใจ : เทคนิคขับรถเที่ยวให้สุขช่วงหยุดยาว

11. ผาอิงหมอก จ.แพร่

ผาอิงหมอก แห่งตำบลสะเอียบ อำเภอสอง ในอุทยานแห่งชาติแม่ยม จังหวัดแพร่ เป็นอีกสถานที่เที่ยวหน้าหนาวสวย ๆ เลยแหละ แม้จะเดินทางไกล ขับรถนาน แต่คุ้ม ย้ำว่าไม่มีอาหารเครื่องดื่มจำหน่าย ต้องเตรียมเอง มีลานกางเต้นท์ ห้องน้ำให้บริการ ขับรถเก๋งขึ้นได้ทางขับชิล ๆ ครับ อยากพักผ่อนอยู่กับขุนเขาแนะนำต้องไปชมวิวทะเลหมอกของเมืองแพร่หนาเจ้า!
พิกัด : 

12. ภูพญาพ่อ จ.แพร่

ชอบเที่ยวคนไม่พลุกพล่านพิกัดภูพญาพ่อ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ก็เวิร์คเลยแหละ เพราะว่าเหมาะกับการขึ้นชมเมืองแพร่ อากาศดี ควรนำอาหารขึ้นไปด้วย เพราะไม่มีของจำหน่ายด้านบน อย่าลืมเก็บกลับด้วยล่ะ แนะนำขับรถเคลื่อนสี่ล้อ  4x4 และ 4WD ขึ้นจะปลอดภัยกว่า เพราะบางเส้นทางจะมีดินลูกรังด้วย ทางค่อนข้างคดเคี้ยว หากฝืนเอารถเก๋งขึ้นอาจจะทำให้คุณต้องเสียค่าซ่อมบำรุงสูงเลยล่ะ
อัตราค่าบริการ : ฟรี
พิกัด : 

13. ดอยผาหมี จ.เชียงราย

ยิงยาวเที่ยวภาคเหนือเดือนธันวาคมกับดอยผาหมี อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โลเคชั่นคนรักกาแฟต้องปลื้ม ! เพราะกาแฟดีที่สุดในไทยอยู่ที่นี่!! ปลูกอยู่บนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร เที่ยวหมู่บ้านคนไทยภูเขาเผ่าอาข่า หมู่บ้านกลางหุบเขาสุดชายแดนไทยติดกับเมียนมาร์ซ่อนเสน่ห์ไว้เพียบ พักสบายครับมีโฮมสเตย์ให้เช่า มีจุดกางเต้นท์ให้ด้วย ขึ้นมาก็มีสถานที่สำคัญให้เที่ยวเยอะครับ หากมีโอกาสลองมาเที่ยวดูนะ
อัตราค่าบริการ : เข้าเที่ยวฟรี 
พิกัด : 

 

14.  ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร 

หนาว ๆ หนาวเย็นทั้งปีสมชื่อ ‘ช่องเย็น’ แห่งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร เป็นอีกสถานที่น่าเที่ยวช่วงวันหยุดโดนใจคนชอบเที่ยวกางเต้นท์เลยแหละ มีห้องน้ำให้บริการ สามารถขับรถยนต์เข้าท่องเที่ยวได้จ้า ถนนดีลาดยางตลอดเส้นทาง ส่วนใหญ่มาดูหมอก ดูพระอาทิตย์จ้ะ 
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
พิกัด : 

15. ยอดเขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีแต่ของดี โดยเฉพาะยอดเขาโมโกจู ชื่อเหมือนอยู่ญี่ปุ่นแต่อยู่เมืองไทยนี้แหละครับ การเดินทางไม่ง่ายเราต้องเดินป่าขึ้นเขาสูงเสียดฟ้า สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,964 เมตร!! เหมาะกับคนชอบวิ่งเทรล หรือคนรักการผจญภัยฝุด ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับราว 64 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ 5 วัน 4 คืนเลยนะ นึกว่าอยู่ในหนังอาหลองเลยแหละ มีข้อแม้ว่า ยอดเขาโมโกจูจะมีช่วงเวลาเปิดทริปให้เข้าเที่ยวจำกัดให้จองผ่านอีเมล ดังนั้น ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีนะ เห็นว่า เปิดให้เข้าเพียง 2 ทริป/สัปดาห์

ตารางทริปพิชิตยอดเขาโมโกจู

• Trip 4 : 29 ธันวาคม - 2 มกราคม 62 
• Trip 5 : 5 - 9 มกราคม 62 
• Trip 6 : 12 - 16 มกราคม 62
• Trip 7 : 26 - 30 มกราคม 62
• Trip 8 : 9 - 13 กุมภาพันธ์ 62
• Trip 9 : 16-20 กุมภาพันธ์ 62
• Trip 10 : 23-27 กุมภาพันธ์ 62

อย่างไรก็ดี จะต้องจองทริปโมโกจูผ่านอีเมลที่กำหนดเท่านั้น ยังมีเงื่อนไขการทำเอกสารส่งอยู่เยอะเหมือนกัน ไว้ถ้าชาวแฟรงค์สนใจ คอมเมนต์ข้างล่างนี้ เราจะนำมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลยนะ
อัตราค่าบริการ : เปิดให้จองทริป เหมาจ่าย 13,500 บาท/กลุ่ม (6-12 คน)
พิกัด : 

 

16. ดอยทูเล จ.ตาก

หากโดนเท! ทูเลคือคำตอบ มาเที่ยวสิ้นปีกันในจังหวัดตากขึ้นดอยทูเล หรือม่อนทูเล สวยจนถูกเรียกว่าดินแดนแห่งสายหมอกและแสงดาว รับรองว่า เหมือนอยู่ในฝัน ดีงามจนลืมไปเลยว่าเคยเหนื่อย หรือเคยเศร้า ไฮไลท์ของป่าดิบรูปแอ่งกะทะแห่งนี้ คือ การโล้ชิงช้าริมผา ดูมุมสูงปริ๊ด ต้องเดินป่าขึ้นประมาณ 6-7 ชั่วโมง เส้นทางแอดแวนเจอร์อยู่เหมือนกัน อย่าลืมฟิตร่างกายก่อนมาเที่ยวด้วยล่ะ และต้องเตรียมข้าวของไปเองนะจ้ะ
อัตราค่าบริการ : แนะนำสอบถามก่อนเดินทาง

พิกัด :

17. วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

อ่านทุกพิกัดข้างต้นแต่ก็ยังไม่รู้ว่าสิ้นปีนี้เที่ยวไหนดี ? ลองวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา แลนด์มาร์กยอดฮิตสวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนอีสานที่นักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติต้องมาสูดอากาศดี ๆ ช่วงเวลาน่ามาเที่ยว คือ ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ มาขึ้นผาเก็บตะวัน พร้อมร้องเพลง “เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ” มีหลายสวนให้เที่ยว เช่น เที่ยวฟ้าประทานโรสพาร์ค (Faprathan Rose Park) ดูดอกไม้ฟลอร่าพาร์ค (Flora Park)  มีหลายร้านกาแฟให้ชิม ขับรถยนต์หรือบิ๊กไบค์ออกทริปเที่ยวก็ได้ครับ 
อัตราค่าบริการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่แวะจ้ะ
พิกัด :

 

18. ประเพณีแห่ดาว จ.สกลนคร 

กลัวผู้อ่านจะเบื่อ กลัวผู้อ่านจะเหนื่อย ขอเปลี่ยนมาแนะนำเทศกาลน่าเที่ยวแห่งอีสานกันบ้างกับประเพณีแห่ดาว แห่งสกลนคร จัดขึ้นทุกปีตรงกับเทศกาลคริสต์มาสเลยล่ะ เป็นการตกแต่งไฟในหมู่บ้านท่าแร่ ชุมชนคาทอลิก มีขบวนแห่ดาวกระดาษนักท่องเที่ยวชอบค่ะ  
อัตราค่าบริการ : เข้าชมฟรี
พิกัด : 

 

19. สกายวอล์ค วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย

แวะเที่ยววัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง สถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีสกายวอร์คบนกระจกใสแทมเพอร์ลามิเนตสูงชมแม่น้ำโขงเป็น Unseen Thailand หนึ่งเดียวในอีสานเลยแหละ นักท่องเที่ยวต้องลองนะจ้ะ หนาว ๆ บางทีเหมือนเรายืนอยู่บนเมฆหมอก หากกลัวความสูงอาจจะต้องค่อย ๆ เดิน เกาะราวไว้จะดีที่สุด ระยะทางเดิน 16 เมตร รับน้ำหนักได้ประมาณ 2,500 กิโลกรัม ขึ้นได้ครั้งละ 20 คน นักท่องเที่ยวขับรถมาสามารถจอดรถที่วัดผาตากเสื้อ 
อัตราค่าบริการ : ชมฟรี
พิกัด : 

20. ภูห้วยอีสัน จ.หนองคาย 

พิกัดภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ในบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มาดูใบไม้เปลี่ยนสีริมฝั่งโขง สัมผัสอากาศหนาว พิกัดนี้กางเต้นท์ได้นะครับ หรือจะนอนในตัวเมืองก็ได้ สวยสุดช่วงปลายพฤศจิกายนถึงมกราคม ยังคงไฮไลท์ทะเลหมอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพ สะดวกสุดควรนั่งรถอีแต๊กนำเที่ยว ควรมาช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 
พิกัด : 

อัตราค่าบริการ : นำเที่ยวคนละ 60 บาท
 

21. ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ

อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารก็น่าเที่ยวในเดือนธันวาคมนะจ้ะ พิกัดผามออีแดง กันทรลักษณ์ ศรีสะเกษ เราจะได้เห็นหน้าผาแนวชายแดนไทยกัมพูชาใกล้กับทางเดินขึ้นเขาพระวิหาร การเดินทางเป็นถนนลาดยาง โค้งหักศอกครับ ผาไม่ใหญ่จัดไว้ให้ดูทิวทัศน์เท่านั้น ถ้าอยากนอนพักสามารถกางเต้นท์ในพื้นที่ให้บริการได้จ้า
อัตราค่าบริการ : ขึ้นชมฟรี
พิกัด : 

 

22. ภูลมโล จ.เลย

แว้ปมาให้ร่างกายปะทะลมหนาวจับใจ ดูดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูทั่วหุบเขา ณ ภูลมโล จังหวัดเลย บานนับพันไร่ บานทั่ว บานสะพรั่งชมพูทั่วพื้นที่โดยดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ไม่อนุญาตให้ขับรถขึ้นเองนะจ้ะ ต้องนั่งรถนำเที่ยวศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประจำตำบลกกสะทอน ไป-กลับ 40 กิโลเมตร ข้อแนะนำก่อนเที่ยว ต้องเตรียมเสื้อกันหนาว รักษาความสะอาด และห้ามเด็ดดอกไม้นะ เอาเป็นว่า แฟนคลับละครลิขิตรักข้ามดวงดาวเวอร์ชั่นไทยต้องเที่ยวให้ได้ เพราะใช้เป็นฉากแสดงด้วยล่ะ 
อัตราค่าบริการ : รถนำเที่ยว 1,500 บาท/คัน ไม่เกิน 10 คน ไม่รวมค่าผ่านอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กเข้าฟรี
พิกัด :

 

23. วนอุทยานภูผาสิงห์-ภูผาผึ้ง จ.อำนาจเจริญ

เอาใจคนชอบเที่ยวภูเขากับวนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง อยู่ที่ตำบลเหล่าพรวน อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ มาเที่ยวดูวิถีชีวิตชุมชน และวิถีเกษตร เที่ยวถ้ำ ถ่ายภาพภูหินทราย ลานหินทราย หินแปลกตา สักการะพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ พระเทพรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่บริเวณจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะมากางเต้นท์นอนพักแรมก็ได้ และต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับพิกัดอื่น ๆ คร้าบ
อัตราค่าบริการ : แนะนำโทรสอบถามวนอุทยาน 045525738 ครับ
พิกัด : 

 

24. ภูป่าเปาะ จ.เลย

หากงบยังไม่ถึงแต่อยากเห็นภูเขาที่เหมือนฟูจิ แนะนำมาเที่ยวภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองเลย ซ้อม ๆ ก่อน มีที่พักใกล้เคียงให้นอน ไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นบนจุดชมวิวได้นะ ต้องนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านเท่านั้น ทำให้ได้อารมณ์ท่องเที่ยวอีกแบบ เอาเป็นว่า เตรียมทริปให้ดี มี 4 จุดให้ชมฟูจิเมืองเลย เช่น ภูก้นถ้วยหรือภูหอเหมือนฟูจิเป๊ะเพียงแค่เป็นสีเขียวเท่านั้น สามารถเข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.
พิกัด : 

 

25. ผาชะนะได จ.อุบลราชธานี

พิกัดสูงสุดเสียวผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของเมืองไทย พระอาทิตย์จะขึ้นจุดแรกเลยล่ะ ควรค่ากับการเดินทางเที่ยวดูเสาเฉลียงคู่จุดชมธรรมชาติ และมีลานกางเต้นท์ให้นอนนับดาว ความพิเศษของที่นี่ คือ วันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีจะมีงานตักบาตรพระสงฆ์ให้ทำบุญวันแรก  สำหรับการเดินทางขึ้นผาเส้นทางอาจจะแอดแวนเจอร์หน่อย ๆ
อัตราค่าบริการ : เข้าฟรี
พิกัด : 

 

26. เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

ดินแดนริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยความสุข เขมราฐ เมืองเล็ก ๆ อัดแน่นด้วยเสน่ห์ของสายน้ำกว่า 40 กิโลเมตรทอดยาวให้ได้ชมสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชาวบ้านไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ยังคงความ Slow Life ที่ใคร ๆ ก็หลงรักได้ง่าย ๆ
พิกัด : 

27. สามพันโบก จ.อุบลราชธานี

แกรนด์แคนยอนแดนอีสานล่องเรือแม่น้ำโขง แก่งหินงดงามอลังการนั่งเรือเที่ยวจากหาดสลึง ต้องเที่ยวช่วงน้ำลดครับ ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ก็น่าเที่ยวเพราะน้ำลด ไม่ร้อนเดินเที่ยวสบายล่ะจ้า ไม่ขออธิบายยืดยาว เพราะภาพประกอบเล่าเรื่องหมดแล้ว
พิกัด : 

28. ลานกางเต้นท์ตาดฟ้า อุทยานแห่งชาติภูเวียง จ.ขอนแก่น

ออกเที่ยวหาไดโนเสาร์!! Siamotyrannus isanensis หรือไทรันสยาม กางเต้นท์นอนชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกสวยงาม คุณสามารถขึ้นมากางเต็นท์ด้านบนจุดชมวิวนี้ได้ด้วย หรือจะทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ตกปลา เล่นน้ำ พายเรือได้หมดถ้าสดชื่น
พิกัด : 

29. ห้วยคอกหมู สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

ขุนเขาตะวันตกสุดเขตเมืองไทย ณ ห้วยคอกหมู ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ก็น่าเดินทางเที่ยวครับ เราจะได้เห็นทิวเขาพม่าอยู่ตรงหน้า ถ่ายรูปกับธรรมชาติรอบกาย สัมผัสวิถีชีวิต ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ก็ได้อารมณ์อีกแบบครับ เส้นทางสู่ห้วยคอกหมูค่อนข้างลาดชันแนะนำขับรถระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD จะดีที่สู๊ด
 
พิกัด :

• บทความที่คุณอาจจะสนใจ : 5 เทคนิคขับรถขึ้นเขาลงเขาอย่างปลอดภัย

30. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี

“มาด้วยกัน ไปด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย” แนะนำที่เที่ยวอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงครับ บางคนเรียกที่นี่ว่าเป็น “ปางอุ๋งสุพรรณ” ทางเข้าเป็นลูกรังครับ เราสามารถเดินทางนอนบนเรือนแพพักผ่อนกลางอ่างเก็บน้ำได้ หรือจะนอนเต้นท์ก็ได้แล้วแต่สะดวก หรือจะเดินทางมาเที่ยวไปกลับ แค่มาเที่ยวก็ได้ไม่ว่ากัน 
พิกัด : 

31. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

กลับมารีวิวท่องเที่ยวภูทับเบิกกันต่อส่วนใหญ่ต้องชมทะเลหมอก ชมดอกนางพญาเสือโคร่งช่วงธันวาคมถึงมกราคม และแวะไหว้พระที่วัดป่าภูทับเบิกเพื่อสิริมงคลในชีวิต เป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยเลยแหละสำหรับภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเห็นได้ว่า หยุดยาวเมื่อไหร่รถต้องติดยาวเหยียดเมื่อนั้นจึงต้องระมัดระวังเรื่องผ้าเบรกไหม้ให้ดีนะครับ
 
พิกัด : 

32. อุทยานแห่งชาติตาดหมอก จ.เพชรบูรณ์

ยังคงอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์เมืองมะขามหวาน ออกทริปตั้งแค้มป์ปิ้งอุทยานแห่งชาติตาดหมอก ระบบอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครับ สามารถจองบ้านพักที่มีเครื่องปั่นไฟ และมีลานกางเต็นท์ด้วย เหมาะกับนักเที่ยวสายเชิงนิเวศผจญภัย (Soft Adventure & Ecotourism) มีน้ำตกตาดหมอกให้ชมละอองน้ำกระจายทั่วบริเวณ ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์เลยนะ
พิกัด : 

33. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

พักปอดมากอดกันที่ทองผาภูมิไหม ? ของดีแห่งปิล็อก กาญจนบุรีเลยแหละ เดินทางมาเที่ยวได้ตลอดปีฤดูหนาวก็มาได้ ซึ่งแต่ละฤดูกาลจะสวยคนละแบบครับ เป็นพื้นที่ป่าฝั่งตะวันตกของประเทศไทยเรายังคงมีสัตว์ป่าให้เห็น นิยมมาชมทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ เป็นอะไรที่ดีต่อใจเหลือหลาย 
พิกัด : 

• บทความที่คุณอาจจะสนใจ : รวมเส้นทางตื่นตาตื่นใจ ขับรถไปเที่ยวเมืองกาญฯ

34. เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี

เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิครับ ฟีลลิ่งเหมือนยืนอยู่บนหลังไดโนเสาร์เลยครับคุณเอ้ย! กับการเดินเที่ยวธรรมชาติต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมเดิน 8 กิโลเมตรยาว ๆ ตามเส้นทางเขาคดเคี้ยว สูงชัน เดินไต่ขึ้นบริเวณสันคมมีด เปิดให้เข้าช่วงพฤศจิกายนถึงมกราคมทุกปี ต้องลงทะเบียนจองวันเที่ยว ส่งรายละเอียดให้กับอุทยานก่อน ติดตามข้อมูลจากอุทยานแห่งชาติ โดยจะต้องพร้อมกันที่บ้านอีต่องไม่เกิน 10 โมง และเดินทางตามเจ้าหน้าที่ครับ ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และค่าบริการกางเต็นท์คนละ 30 บาทต่อคืน
พิกัด : 

35. เกาะมันนอก จ.ระยอง

สิ้นปีนี้เที่ยวเกาะมันนอกมันส์แน่ ตั้งอยู่อำเภอแกลง ผ่านอนุเสาวรีย์สุนทรภู่ หากจะนอนพักบนเกาะมีเพียงรีสอร์ทเดียวเท่านั้น คือ มันนอกไอส์แลนรีสอร์ท (Munnork Island Resort) เป็นเหมือนชายหาดส่วนตัว จะจองห้องพัก หรือจะเปย์เหมาทั้งเกาะก็ได้ ใครอยากเซอร์ไพร์สแฟน หรือขอแต่งงานก็เป็นพิกัดน่าสนใจนะจ้ะ จะถ่ายพรีเวดดิ้งก็มีให้บริการ และที่นี่มีรับจัดงานแต่งงานบนเกาะ พิธีไทย พิธีคริสต์ก็มีให้เลือกจ้า 
พิกัด : 

36.  เขาแหลมหญ้า จ.ระยอง

สีฟ้าใส ตัดกับสีขาวของหาดทราย ณ เขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด เอาเป็นว่า ใครที่อยากได้ภาพโปรไฟล์อัปลงโซเชียลอวดเพื่อนมาเถอะจ้ะ ไม่ไกลกรุงเทพมากนักแต่สวยมาก ส่วนใหญ่จะมาถ่ายภาพกับหอคอยสีขาวตั้ง เดินลัดเลาะชมทะเล ตั้งแคมป์ปิ้งริมทะเลนอนฟังเสียงคลื่นซัดสาด เอาเป็นว่า เลือกตามที่ชอบเลยจ้า
พิกัด : 

37. เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

รีวิวสั้น ๆ กับทริปสิ้นปีเที่ยวทะเลหน้าหนาวไม่ร้าวรานใจ วันเดียวเที่ยวได้ นอนค้างก็ได้ ยังไงก็ได้หากมาเที่ยวเกาะขาม สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทะเลสวยเล่นน้ำทะเลสะอาดของกองทัพเรือ ตามด้วยการแวะสักการะหลวงพ่ออี๋ประดิษฐานอยู่ที่วัดสัตหีบ ดีต่อใจเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพ ประหยัดงบด้วยจ้า 
พิกัด : 

38. เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี

มีวันหยุด 1 วัน ก็เที่ยวทะเลใกล้กรุงลองเกาะแสมสารสิจ้ะ อยู่ในสัตหีบนี้แหละ ในวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีคนมาเที่ยวเยอะมาก แดดค่อนข้างแรงนะจ้ะ ควรทาครีมกันแดด เตรียมแว่นตาดำ และสวมหมวกด้วย ที่เกาะแสมสารเล่นน้ำที่หาดได้ ดำน้ำได้ (ลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ก่อน) นั่งเรือท้องกระจกชมท้องทะเลก็ได้ แต่มีข้อห้ามนำแอลกอฮอล์มา ห้ามใส่บิกีนี ไม่อนุญาตให้พักค้างคืนบนเกาะนะครับ เรือข้ามฟากมีทุกต้นชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00-13.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลตลอดครับ
พิกัด : 

39. แกรนด์แคนยอนคีรี จ.ชลบุรี

หลังจากพักผ่อนสัตหีบแล้ว หากมีเวลาเหลือ ๆ สามารถขับรถแกรนด์แคนยอนคีรีได้ เพราะอยู่ห่างกันประมาณ 88 กิโลเมตรใช้เวลาขับรถ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึง เป็นโลเคชั่นเที่ยวเท่านั้นนะ เมื่อก่อนเป็นบ่อดินลูกรังถูกทิ้งร้างจนกลายสภาพเป็นอย่างที่เห็น เราจะเห็นภูเขาสีเทา เดินอย่างระมัดระวังนะจ้ะ แสงแดดอาจจะร้อนแรงหน่อย ๆ ปล. ทางชันระวังลื่น 
พิกัด : 

40. เกาะช้าง จ.ตราด

การเดินทางมาเที่ยวเกาะช้างจะต้องใช้เวลาเหมือนกันนะครับ เพราะว่าค่อนข้างไกลจากกรุงนิดนึง ทางก็ลาดชัน คดเขี้ยว ต้องเป็นโชว์เฟอร์มือฉมังขับมาถึงจะชิล สามารถนำรถยนต์ข้ามเกาะมาได้ บนเกาะเป็นถนนลาดยาง และมีหาดหลายหาดให้เที่ยว เช่น หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ เที่ยวน้ำตก และอื่น ๆ อย่างดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น เชื่อเหอะว่า มาเกาะช้างมาค้างแรม คุ้มกว่า 
พิกัด : 

41. หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี

เป็นอีกหาดสวยแห่งจันทบุรีเลยล่ะครับ เหมาะจะเที่ยวช่วงปีใหม่ หรือวันหยุดยาวมาก ๆ มาฟังเสียงเคลื่อนซัดสาดกับหาดทรายยาว ตั้งอยู่ห่างจากกทม. ประมาณ 240 กิโลเมตรเท่านั้น (แฮะๆ) จะมาเล่นน้ำ เดินเล่น หรือจะมารับประทานอาหารก็ได้ครับ
พิกัด : 

42. พะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี 

กลับมาแนะนำที่เที่ยวแบบแคมปิ้งในพะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่ในอุทยานแก่งกระจานผืนป่าตะวันตกมีหมอกให้ชมทั้งปี แวะดูผีเสื้อตามโป่งดิน ย้ำว่า รถขับขึ้นได้เฉพาะกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น หากไม่ถนัดแนะนำเช่ารถให้เจ้าหน้าที่พาขึ้นจ้ะ เพราะเป็นลูกรังทั้งทาง มีช่วงเวลาที่กำหนดให้ขึ้นลงได้ 2 เวลาเท่านั้น 

• ช่วงเช้า เดินทางขึ้น 05.30 - 07.30 น. เดินทางลง 09.00-10.00 น.
• ช่วงบ่าย เดินทางขึ้น 13.00-15.00 น. เดินทางลง 16.00-17.00 น.

ถ้าสนใจพักแรมข้างบน ต้องจองพื้นที่กางเต็นท์เช่นเดียวกับทุกที่จ้า
พิกัด : 

43. ทับลาน จ.ปราจีนบุรี

มีธรรมชาติทุกอย่างที่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี อุทยานแห่งชาติทับลานเนี้ยะอยู่ส่วนหนึ่งกับเทือกเขาพนมดงรัก มีภูเขาน้อยใหญ่สลับลดหลั่นกัน และมีโลเคชั่นน้ำตกให้เที่ยวหลายแห่งเลย อากาศจะหนาวเย็นมากในเดือนธันวาคมของทุกปี หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวสิ้นปีลองเตรียมทริปดูได้นะ
พิกัด : 

44. เขาไข่นุ้ย จังหวัดพังงา

ถ้าคุณชอบเที่ยวธรรมชาติแท้ ๆ ไม่ปรุงแต่ง เขาไข่นุ้ย คือคำตอบ เพราะมีทะเลหมอกอันเงียบสงบ เข้าฟรี เที่ยวได้ตลอดปี จะเดินทางไปกลับ หรือค้างคืนก็ได้มีลานกางเต้นท์ให้บริการด้วย มีข้อแม้ว่า หากขับรถไม่เซียนอย่าเพิ่งขับ แนะนำให้นั่งรถเจ้าหน้าที่ขึ้นเขาจะดีกว่าครับ เพราะเส้นทางลาดชัน อันตราย โชว์เฟอร์ต้องเชี่ยวชาญเท่านั้น
พิกัด : 

45. เสม็ดนางชี จ.พังงา 

พังงาไม่พังแน่กับพิกัดเสม็ดนางชี อัญมณีแห่งอ่าวพังงาความงามถูกรังสรรค์ด้วยธรรมชาติ โดยจุดชมวิวเสม็ดนางชีสามารถกางเต้นท์ได้ หรือจะนอนพักในห้องพักก็ได้ ห้ามนำรถส่วนตัวขึ้นจะต้องเดินเท้าขึ้นเท่านั้น ประมาณ 500 เมตร หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ สามารถนั่งรถกระบะจากบริการนักท่องเที่ยวด้านล่าง ห้ามเสียงดัง และห้ามทิ้งขยะเรี่ยราดนะจ้ะ
พิกัด : 

46. หลีเป๊ะ จ.สตูล

ใครว่าหนาวต้องไปแค่ภูเขา ออกเที่ยวทะเลก็ได้ฟีลลิ่งแตกต่างนะคุณ ดั่งคำว่า ใครไม่เป๊ะ หลีเป๊ะ ตึ่งโป๊ะ (มุกเก่ามากกก แต่ยังเล่นอยู่) สิ้นปีเที่ยวหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลก็น่าสนนะคะ ดำน้ำดูปะการังสวนทางกับคนส่วนใหญ่ที่กำลังขึ้นภูเขา อย่างไรก็ดี ต้องเตรียมเวลาอย่างน้อย ๆ  3 วัน 2 คืนในการเดินทางและท่องเที่ยวนะจ้ะ ถึงจะคุ้ม ปล. ใครแพ้ยุงควรเตรียมยากันยุงไปด้วยนะ
อัตราค่าบริการ : ค่าธรรมเนียมผ่านท่าปากบาราคนละ 20 บาท ไม่รวมค่าเรือและอื่น ๆ 
พิกัด : 

47. หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช

ถอดปลั๊กเครื่องฟอกอากาศในบ้านมาหมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช นอนพักโฮมสเตย์ชาวบ้าน หรือจะกางเต้นท์ริมลำธารสักครั้งในชีวิต พร้อมกับสัมผัสอากาศดีที่สุดในไทย และทำกิจกรรมเรียบง่ายชาร์จพลังชีวิต เช่น เล่นน้ำ ปั่นจักรยาน เที่ยวสะพานแขวน ถ่ายรูปกับแลนด์มาร์กสำคัญพร้อมกับคนสำคัญ (หง่อว์)
อัตราค่าบริการ : เข้าฟรี
พิกัด : 

48. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี

หากเป็นนักท่องเที่ยวสายติสท์อยากตัดขาดจากโลก! สิ้นปีเที่ยวไหนดีไปกุ้ยหลินเมืองไทยดูไหม ความยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองใครของเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั่งเรือไปนอนแพ แลฟ้าครามในอุทยานกันอย่างสบายใจ รับรองว่า คุณจะได้พักผ่อนเต็มอิ่มแบบไม่ต้องกังวลว่าใครจะแชทไลน์มาสั่งงานหรือตามงาน อิอิ
อัตราค่าบริการ : ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ยังไม่รวมค่าเรือ และอื่น ๆ 
พิกัด :

49. ดอยตาปัง จ.ชุมพร

จริงดั่งคำว่า “เมืองไทยมีดี” และขอการันตีว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยว Unseen อีกเยอะแยะ โดยเฉพาะดอยตาปัง จังหวัดชุมพร มีทะเลหมอกลัดเลาะกับทิวเขา ราวกับหนุ่มสาวหยอกล้อกันเลยนะ และเราจะได้เห็นความงามแบบรอบตัวไม่ต้องกลัวมีเสาไฟฟ้าหรืออะไรคั่นกลางระหว่างเราและธรรมชาติเลยล่ะ มีทั้งโฮมสเตย์บนดอย และพื้นที่กางเต้นท์ต้องติดต่อก่อนเดินทางเช่นกันครับ
พิกัด : 

50. อุทยานแห่ชาติน้ำตกทรายขาว จ.ปัตตานี

เปลี่ยนฟีลลิ่งมาเที่ยวน้ำตกทรายขาวส่งท้ายสิ้นปีจังหวัดปัตตานี เปิดให้เข้าเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. เป็นป่าดิบชื้นอุดมสมบูรณ์สวยงาม น้ำตกเนี้ยะมีมีหน้าผาสูงราว 40 เมตร มีต้นกำเนิดจากยอดเขานางจันทร์ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ มีข้อแม้ว่าต้องเดินเท้าเข้าค่อนข้างไกล มีลานกางเต้นท์ ถ้าอยากเที่ยวจุดชมทิวทัศน์ยอดเขาหินช้างสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางไปได้จ้า
อัตราค่าบริการ : ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 20 บาท, เด็ก 10 บาท
พิกัด : 

51. พรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส

นราธิวาส เป็นอีกหนึ่งในจังหวัดใต้สุดของไทยมีอาณาเขตติดต่อกับมาเลเซีย ไม่พูดเยอะ เราแนะนำท่องเที่ยวพรุโต๊ะแดง หรือป่าพรุสิรินธร ชื่อเต็มคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าดิบชื้นมีน้ำขังตลอดทั้งปี เป็นป่าพรุอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในไทย มีสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธ์ุอยู่เยอะครับ
พิกัด : 

• บทความที่คุณอาจจะสนใจ : ขับรถเที่ยวทางไกลให้สนุก ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

52. ฮาลาบาลา จ.นราธิวาส

รู้หรือไม่ว่า จังหวัดนราธิวาสมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงามราวกับสวรรค์บนดินอย่าง ฮาลาบาลา พื้นที่เขตรักษาสัตว์ป่ามีสัตว์ป่าหายาก มีโฮมสเตย์ให้พัก นักท่องเที่ยวผู้ชอบการเดินป่านิยมมาเที่ยวครับ เพราะมีพื้นที่กว่า 6 แสนไร่ การเดินทางอาจจะต้องไปเป็นหมู่คณะนะครับ เพราะค่อนข้างแอดแวนเจอร์นิดๆ 
พิกัด : 

53. อัยเยอร์เวง จ.ยะลา

ใครคิดว่าปักษ์ใต้มีแค่ทะเลสีฟ้าคราม เพราะยังมีทะเลหมอกให้ชมด้วยนะ สิ้นปีลองออกเที่ยวยะลา ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงในอำเภอเบตงกันสิ หากมีเวลาแนะนำเดินป่าขึ้นชมยอดเขาฆูนุงซีลีปัตเห็นหมอกขาวโพลนกว้างรอบตัวแบบ 360 องศา ต้องเดินทางตั้งแต่เช้ามืดไม่เกิน 9 โมงเช้าจะดีที่สุด ทางหลักเป็นถนนลาดยาง สามารถเที่ยวได้ทั้งปีจ้า
พิกัด : 

54. เขื่อนบางลาง จ.ยะลา

สัมผัสเสน่ห์ของเมืองใต้ ณ เขื่อนบางลาง ตั้งอยู่ในอำเภอบันนังสตา อุทยานแห่งชาติบางลางเลยแหละ มีทั้งภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทั้งภูเขาหินปูน หินแกรนิต หินขนาดใหญ่ พร้อมผืนน้ำ ตอนนี้ที่เขื่อนเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์อยู่ เราสามารถล่องเรือชมทิวทัศน์เหนือเขื่อนได้ครับ แต่ต้องโทรสอบถามก่อนนะ
พิกัด : 

 

55. เที่ยวดูไฟในกรุงเทพ

วนกลับมาครับ !!! ถ้างบหมด วันลาพักร้อนไม่เหลือเหมือนแฟรงค์ (555+) แนะนำทริปเที่ยวไทยเดือนธันวาคม คือ เที่ยวเล่นดูไฟสวย ๆ ดูเมืองหลวงกรุงเทพนี้แหละครับ ง่ายและฟิน เนื่องจากทุกปีเนี๊ยะสถานที่สำคัญ และห้างสรรพสินค้าใหญ่ต่างประดับไฟอย่างสวยงาม และมีกิจกรรมเคาท์ดาวน์ให้ร่วมส่งท้ายปีเก่า พร้อมกับดูพลุด้วยนะ
อ่านถึงตรงนี้ … พอจะได้ไอเดียเที่ยวสิ้นปีหรือยัง และเลือกได้ยังครับ ? ว่าสิ้นปีนี้ไปไหนดี ? และหากคุณมีพิกัดไหนน่าเที่ยวไทยเดือนธันวาคม บอกกันได้เลยนะ Frank.co.th ยินดีรับฟังคุณเสมอ 🙂 
ขอบคุณข้อมูล : thai.tourismthailand.org
Content by Butter Cutter
Design Artwork by Pimvipar Upatampaganon 

 

The post 55 พิกัดเที่ยวหน้าหนาว รวมพิกัดเหนือจรดใต้ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. Mr.Popper’s Penguins เพนกวินน่าทึ่งของนายพ็อพเพอร์

เริ่มการนอนดูหนังน่าดู ด้วยหนังคอมมาดี้ครอบครัวของ จิม แครีย์ ที่แสดงเป็น ทอม พ็อพเพอร์ ชายหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่กลับล้มเหลวเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว เขาต้องอยู่คนเดียวในอาพารท์เมนต์หรูใจกลางเมืองเพราะเพิ่งหย่า และเสียสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกทั้งสองให้กับเมีย
จนวันหนึ่ง พ็อพเพอร์ได้รับพัสดุจากแอนทาร์คติกา ลงชื่อผู้ส่งคือพ่อนักพจญภัยผู้สูญหายไปตั้งแต่เขายังเด็ก ๆ เมื่อเปิดออก พ็อพเพอร์พบกับ “เพนกวิน” ตัวเป็น ๆ สูงสองฟุต พ็อพเพอร์พยายามทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเพนกวินและส่งไปกลับไปยังแอนทาร์คติกา แต่ผลที่ได้ก็คือ เพนกวินห้าตัวกลับมาหาเขาอีกครั้ง พ็อพเพอร์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำความรู้จัก และอยู่ร่วมกับเพนกวินทั้งห้า ซึ่งนั่นแม้จะทำให้เขาประสบความยุ่งเหยิงในชีวิต แต่ก็ทำให้เขาเริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาขาดหายไปในวัยเด็ก ความอบอุ่นของคำว่า “ครอบครัว
Mr.Popper’s Penguins เพนกวินน่าทึ่งของนายพ็อพเพอร์ เป็นหนังสบาย ๆ ที่แฟรงค์ว่าเหมาะกับการดูกับครอบครัว หรือนอนดูในวันหยุดกับครอบครัวครับไปหยิบป็อปคอร์น นอนดูหนังเรื่องนี้ในวันหยุดกันเถอะ

2. Penguins

มาดูหนังสารคดีเพนกวินกันบ้าง กับสารคดีจาก ดิสนีย์ ที่เล่าเรื่องราวของสัตว์โลกและธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยในสารคดีเรื่อง Penguins นี้ ดิสนีย์จะพาเราไปดูเรื่องราวชีวิตและการเติบโตของเพนกวิน สตีฟ เพนกวินพันธ์ ดาเดลีตัวน้อยที่ต้องอยู่ร่วมกับฝูงเพนกวินนับพันชีวิตในแอนทาร์คติกา สตีฟต้องพยายามรวมฝูง หาคู่ และเริ่มครอบครัวของตัวเอง
ขึ้นชื่อว่าสารคดี แฟรงค์ว่าหลายคนคงชื่นชอบอยู่แล้ว และสารดคี Penguins เรื่องนี้ ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าประทับใจ ภาพธรรมชาติที่น่าตื่นตา รับรองไม่เบื่ออย่างแน่นอนครับ
บทความที่คุณอาจจะสนใจ : 5 พิกัดน่าเที่ยว!! ตามรอยหนังน่าดูในปี 2019

3.Surfs Up

หนังน่าดูยังอยู่กับหนังแอนิเมชันเกี่ยวกับเพนกวิน เอาใจเด็ก ๆ กับ Surfs Up ไต่คลื่นยักษ์ ซิ่งสะท้านโลก เรื่องราวของ โคดี้ เพนกวินลูสเซอร์ที่หลายคนดูถูก แต่โคดี้มีความฝันหนึ่งที่ยึดมั่น คือการเป็นแชมป์นักกระดานโต้คลื่น ตามแบบ พีเจ ไอดอลของเขาตั้งแต่เด็ก เขาจึงได้พยายามมุ่งมั่นเพื่อทำตามฝัน ซึ่งทำให้เขาพบกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จที่ตั้งไว้
Surfs Up เป็นอีกหนึ่งแอนิเมชันที่หลายคนชื่นชอบ เพราะความน่ารักของตัวละคร และเนื้อเรื่องที่ให้คติสอนใจได้อย่างดี แม้จะมีเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับ Happy Feet แต่ก็สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน รออะไรล่ะครับ ไปดูกันเถอะ

4. Happy Feet

ถึงเวลาเอาใจครอบครัวไหนที่มีลูกน้อยแล้ว กับหนังแอนิเมชันเกี่ยวกับเพนกวินน่าดูอย่าง Happy Feet เพนกวิน กลมปุ๊ก ลุกขึ้นมาเต้น หนึ่งในหนังน่าดูใน Netflix แอนิเมชันที่เล่าเรื่องราวในดินแดนของเพนกวินที่ชื่นชอบการร้องเพลง แต่ มัมเบิล เพนกวินหนุ่มเท้าไฟที่มีสเต็ปการเต้นขั้นเทพ แต่ร้องเพลงห่วย ทำให้มัมเบิลไม่ถูกยอมรับจากเพนกวินตัวอื่น ๆ ในดินแดนเพนกวิน จนวันหนึ่ง มัมเบิลถูกขับออกจากฝูงจากการใส่ร้ายของเพนกวินตัวหนึ่งในฝูง มัมเบิลจึงต้องออกผจญภัยในโลกกว้าง เพื่อพิสูจน์ให้ฝูงเห็นว่าการเป็นตัวของตัวเอง แม้จะแตกต่าง แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับได้
Happy Feet เป็นแอนิเมชันที่มีเพลงประกอบเพราะ ๆ หลายเพลง และยังมีตัวละครเพนกวินหลากหลายสไตล์มาสร้างสีสันให้ตลอดทั้งเรื่อง แฟรงค์มั่นใจว่าบ้านไหนที่มีลูกเด็กเล็กแดงต้องเพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ

5. Penguins of Madagascar

ยังอยู่กับหนังแอนิเมชันน่าดูเกี่ยวกับเพนกวิน กับแก๊งเพนกวินจอมป่วนที่ออกมาขโมยซีนในหนังเรื่อง Madagascar แก๊งเพนกวินจอมป่วนเหล่านี้ฮอตถึงขนาดที่ได้มีหนังฉายเดี่ยวเป็นของตัวเอง โดยในครั้งนี้ แก๊งเพนกวินทั้งสี่มาในบทบาทสายลับจอมป่วน ที่ต้องร่วมทีมกับ “เดอะ นอร์ธ ไวลด์” ทีมสายลับที่ประกอบไปด้วยหัวหน้าหมาป่าขี้เก๊ก นกฮูกหิมะสาว หมีขั้วโลกตัวล่ำ และลูกแมวน้ำหน้าบึ้ง เพื่อทำภารกิจกำจัดหมึกยักษ์จอมวายร้ายเพื่อปกป้องสันติสุขของโลกไว้
Penguins of Madagascar หนังแยกของแก๊งเพนกวินจอมขโมยซีนเรื่องนี้เต็มไปด้วยมุกตลกที่จัดเต็มมาตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนั้น ตัวละครยังออกแบบมาได้มีเสน่ห์ทุกตัว ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อทั้งครอบครัวแน่นอนครับ

6. The Emperor's Journey การเดินทางของจักรพรรดิ

กลับมาดูสารคดีเกี่ยวกับเพนกวินกันต่อ โดยสารคดีเพนกวินฉบับนี้จะพาคุณไปชมธรรมชาติอันน่าทึ่งของ เพนกวินจักรพรรดิ เพนกวินพันธ์ที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อดูวิถีชีวิตของเพนกวินจักรพรรดิที่ทุก ๆ ปี เพนกวินจักรพรรดิที่มีอายุห้าปีขึ้นไปจะทิ้งทะเล เดินทางอพยพไปยังถิ่นฐานธรรมชาติที่ลึกเข้าไปในแผ่นดินทวีปแอนตาร์กติกา อันเป็นบริเวณที่ทำการเดินทางมาตั้งแต่ในสมัยบรรพบุรุษ โดยเราจะได้ติดตามชีวิตของเหล่าเพนกวินตั้งแต่เริ่มการเดินทาง การหาคู่ การกกไข่ การหาอาหารและการเลี้ยงดูลูกเพนกวินตัวน้อยท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายให้สามารถอยู่รอด มีชีวิตต่อไปได้
ตลอดทั้งเรื่อง The Emperor's Journey เราจะได้ตามติดวัฏจักรชีวิตของเพนกวินจักรพรรดิเหมือนได้ร่วมเดินทางไปในฝูงเลยครับ หนังจะพาเราเปิดโลกกว้างเข้าใจความลำบากของการเอาชีวิตรอดบนดินแดนอันหนาวเหน็บ และความรัก ความสัมพันธ์ของครอบครัวเพนกวินที่ทำจะให้คุณอบอุ่นหัวใจมากที่สุดในสามโลก
บทความที่คุณอาจจะสนใจ : 5 เรื่องน่ารู้ของชีวิตเพนกวินที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้มาก่อน

7. Penguin Highway วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน

มาดูหนังแอนิเมชันจากฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง Penguin Highway วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน เรื่องราวแฟนตาซีของ อาโอยามา เด็กชายชั้นประถมศึกษาที่ชอบอ่านหนังสือและสังเกตรอบตัวจนดูโตกว่าเด็กคนอื่น ๆ แท้จริงแล้ว เขาแค่อยากเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ จะได้แต่งงานกับพี่สาวคลีนิกหมอฟันที่เขาหลงรัก แต่จนวันหนึ่ง มีเพนกวินจำนวนมากโผล่มาที่เมืองของอาโอยาม่า ทั้ง ๆ ที่เมืองนี้ก็ไม่ได้ใกล้กับทะเลเลยสักนิด อาโอยาม่าเลยออกค้นหาที่มาของเพนกวินเหล่านี้ และพบว่า ปริศนาทั้งหมด ที่มาของเพนกวินเหล่านี้นั้นเกี่ยวข้องกับพี่สาวที่เขาหลงรักด้วยซะนี่!
Penguin Highway วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน เป็นแอนิเมชันญี่ปุ่นที่ภาพสวยและเนื้อเรื่องน่าตื่นเต้นตามสไตล์เจแปนเขาล่ะครับ แม้เรื่องนี้เพนกวินจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่มั่นใจได้ว่าคุณจะหลงรักเพนกวินในเรื่องได้เร็วไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ เลยล่ะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นหนังเพนกวินทั้ง 7 ที่ Frank.co.th นำมาฝากคุณครับ ส่วนแฟรงค์นั้นไม่ได้แสดงหนังหรอกครับ เราเป็นโบรกเกอร์ขายประกันออนไลน์ที่มีโปรดักซ์มากมายให้คุณเลือกเปรียบเทียบเบี้ยได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์, รับต่อพ.ร.บ.ทั้งรถยนต์และรถมอไซค์, ประกันมอเตอร์ไซค์, ประกันเดินทางต่างประเทศ, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยบ้านและทรัพย์สิน รวมทั้งประกันกลุ่ม และเร็ว ๆ นี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยอื่น ๆ อีกเพียบเลยล่ะ ฝากติดตามด้วยนะครับ

The post นอนดูหนัง รวมภาพยนตร์ที่คนรัก เพนกวิน ต้องดู appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

MariCar คืออะไร

ถ้าถามว่า MariCar คืออะไร แฟรงค์ก็ขออธิบาย ว่า MariCar คือกิจกรรมการขับรถโกคาร์ทชมเมืองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกม MarioKart ที่โด่งดังนั่นเอง โดยเส้นทางจะผ่านสถานที่สำคัญอย่าง “โตเกียวทาวเวอร์” หอส่งสัญญาณโทรทัศน์แลนด์มาร์กสำคัญของโตเกียว “รปปงงิ” ย่านความบันเทิงสุดคึกคักที่รวมร้านค้ามากมาย “ชิบูย่า” ย่านวัยรุ่นสุดฮิต และที่อื่น ๆ อีกมากมาย โดยเสน่ห์ของกิจกรรมขับรถโกคาร์ทชมเมืองของ MariCar คือการที่การที่ผู้ขับ จะต้องสวมชุดคอสเพลย์ตัวละครจากเกมหรือการ์ตูนด้วย 

“ลองจินตนาการถึงประสบการณ์ ที่คุณได้ขับรถโกคาร์ทไปบนถนนกรุงโตเกียว พร้อมกับใส่ชุดตัวละครจากหนังหรือเกมที่คุณชื่นชอบดูสิ” 

นี่คือคำโปรยบนแฟนเพจของ MariCar ที่มีคนกดไลค์กว่า 7 หมื่นคน คือแค่ขับรถโกคาร์ทไปบนถนนจริง ชื่นชมวิวสองข้างทางกรุงโตเกียวก็ว่าพิเศษแล้วนะครับ แต่นี่ คุณได้แต่งตัวเป็นตัวละครที่คุณชอบด้วย มันช่างเติมเต็มความฝันวัยเด็กของใครหลายคนได้ดีนักเชียว โดยชุดก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งตัวละครจากเกมมาริโอ ฮีโร่จากจักรวาลมาร์เวล และดีซี เจ้าหญิงดิสนีย์ สตาร์วอร์ เรียกได้ว่ามีเยอะจนเลือกไม่หมด  หากชุดยังไม่หนำใจ ทาง MariCar ก็ยังมีบริการลำโพงบลูทูธ ให้เราเปิดเพลงประกอบการขับโกคาร์ทของเราด้วย ใครอยากเป็นสตรอมทรูปเปอร์ ขับโกคาร์ทพร้อมเปิดเพลงธีมของจักรวรรดิกาแลกติก โอกาสของคุณมาถึงแล้วนะ!

MariCar ปลอดภัยไหม?

ถ้าเป็นการขับรถปกติ แน่นอนว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่นี่เป็นโกคาร์ท หลายคนอาจกังวลว่า MariCar ปลอดภัยไหม? เพราะที่บ้านเราก็ไม่เห็นการนำโกคาร์ทมาขับบนถนนจริงคู่กับรถยนต์ทั่วไปซักเท่าไหร่ แฟรงค์ก็ขอบอกเลยว่าไม่ต้องห่วงครับ เพราะรถโกคาร์ททุกคันของ MariCar นั้นประกอบได้มาตรฐานตามกฎหมายของญี่ปุ่น มีระบบความปลอดภัยครบถ้วน แถมยังมีการดูแลความปลอดภัยจากตำรวจอีกด้วย หากผู้ขับขี่ขับตามกฎจราจรอย่างระมัดระวัง การขับรถโกคาร์ทกับ MariCar นั้น ก็ปลอดภัยหายห่วงครับ

อยากขับ MariCar ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ทั้งสนุก ทั้งปลอดภัยแบบนี้ อยากลองขับโกคาร์ทชมเมืองญี่ปุ่นกันแล้วใช่ไหมครับ งั้นมาดูเอกสารที่ต้องเตรียมกันดีกว่า เพราะ ทางสตาฟของ MariCar ค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องเอกสารครับ เพราะเป็นกิจกรรมที่เล่นบนท้องถนนจริง ๆ การจราจรจริง ๆ หากใครขาดเอกสารเหล่านี้ ไม่ได้เล่นแน่นอนครับ

• พาสปอร์ต อันนี้ทุกคนต้องมีอยู่แล้วสำหรับใช้เดินทางข้ามประเทศ
• ใบขับขี่สากล ข้อนี้สำคัญครับ ถึงใครมีใบขับขี่ในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเล่น MariCar ก็ต้องมี ใบขับขี่สากล ด้วยนะครับ หากใครยังไม่มี สามารถอ่านรายละเอียดการทำใบขับขี่สากล ได้ที่นี่เลยครับ

เท่านี้ คุณก็พร้อมจะขับโกคาร์ทชมเมืองโตเกียวแล้ว โดย MariCar มีคอร์สให้เลือกมากมายตามความต้องการ โดยแต่ละคอร์สก็จะมีพิกัดจุดเริ่มต้น ระยะทาง เส้นทาง และแลนด์มาร์กที่ผ่านแตกต่างกันออกไป บางคอร์สจะเน้นการขับพบปะผู้คน บางคอร์สเน้นขับชมวิวทะเล บางคอร์สเน้นสปีด ชอบแบบไหน ก็เลือกคอร์สตามนั้นได้เลยครับ หรือหากมีข้อสงสัย ก็สามารถสอบถามไปยัง MariCar ได้เลยครับ ( ใช้ภาษาอังกฤษได้ครับ )
และถึงแม้กิจกรรมนี้จะปลอดภัยหายห่วง แต่การท่องเที่ยวนั่นอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ดังนั้น ซื้อประกันเดินทางกับ frank.co.th ไว้ดีกว่าครับ ไม่ว่าของจะหาย เที่ยวบินดีเลย์ เจ็บป่วยก็คุ้มครองครับ เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อย คุ้มครองหลักล้าน เสริมความมั่นใจให้ทริปของคุณ

The post ขับโกคาร์ทตะลุยกรุงโตเกียว กับ MariCar appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

แนะนำ 5 สปาน่าพาแม่ไปผ่อนคลาย

เป็นของขวัญให้แม่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ทางคุณแม่ไม่ชอบความวุ่นวายสักเท่าไรนัก ทางเรามีอีกหนึ่งสถานที่แนะนำที่บอกว่าเลยว่า ตอบโจทย์สำหรับคุณแม่หลายท่านแน่นอน นั่นก็คือ การทำสปา เพราะนอกจากจะผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมอโรม่า บรรยากาศดี ๆ การนวดสปาจะช่วยให้คลายกล้ามเนื้อ เลือดไหลเวียน ทำให้คุณแม่ของเราสุขภาพดี และมีผิวพรรณที่สวยงาม
วันนี้แฟรงค์ได้รับบทความจากเว็บไซต์มาสิที่แนะนำสปา 5 แห่งน่าไปจะสร้างความประทับใจให้แก่คุณแม่ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าสปาอย่างแน่นอนจ้า

1. PAÑPURI WELLNESS

สำหรับที่แรกทางเราต้องขอแนะนำให้เพื่อนๆ ต้องรีบพาคุณแม่ไปที่นี้ให้ได้ ปัญญ์ปุริ เวลเนส ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ตึก Gaysorn Village สำหรับความพิเศษนอกเหนือจากการนวดสปาที่แสนจะผ่อนคลายแล้ว เขายังมีการแช่ออนเซ็นอีกด้วยนะ บอกเลยว่าคุณแม่ของเราจะต้องเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับการบริการที่ดีของ ปัญญ์ปุริ เวลเนส แบบออร์แกนิกจากประเทศไทยของเรานั่นเอง

2. Lullaby Spa

ขอต่อสำหรับสปาออร์แกนิกสำหรับเพื่อน ๆ หรือคุณแม่ที่ชื่นชอบแนวนี้กันต่ออีกสัก 1 สถานที่อยู่ละแวกบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินี โดยทางร้าน Lullaby Spa พร้อมให้บริการที่ดีสำหรับคุณแม่ในด้านการนวดสปาแล้ว ความพิเศษที่ครองใจใครหลายคนคงดีไม่พ้นกับการสปาหินร้อน สปาอโรมาสมุนไพรไทย จะช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมที่อบอวลทั่วห้อง ในวันที่ท่านเหนื่อยล้ามาก ๆ การเข้ามาใช้บริการนวด สปากับทางร้าน จะช่วยให้คุณแม่ท่านมีความสุขแน่นอนจ้า

3. Calm Spa

สำหรับร้านนี้ Calm Spa ตั้งอยู่บริเวณอารีย์ซอย 4 ต้องพูดเลยว่า บรรยากาศตรงตามชื่อร้านแน่นอนจ้า ด้วยบรรยากาศที่ดี การตกแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด และการให้บริการของพนักงาน รับรองว่า คุณและครอบครัวจะต้องประทับใจ มีความสุข ตั้งแต่ได้เห็นร้านแล้ว คุณแม่จะสดชื่นด้วยการนวดผ่อนคลาย สำหร้บสปาแห่งนี้ชั้นแรกจะเป็นคาเฟ่ หากคุณอยากหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลาแบบชิล ๆ ก็แนะนำให้ลงไปสั่งเมนูเย็นดื่มรอคุณแม่ได้นะจ้ะ

4. The Vannara Spa

ขอยกร้านสปาที่ตกแต่งด้วยสไตล์น่ารัก สดใส มาฝากเพื่อนๆ กันบ้างดีกว่า สำหรับร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณพระราม 9 ที่ถ้าหากเพื่อน ๆ พาคุณแม่ท่านไปใช้บริการสักครั้ง บอกเลยว่าต้องติดอกติดใจอย่างแน่นอน นอกจากจะผ่อนคลายไปกับการนวดและสปาที่ดีจากพนักงานแล้ว ทางร้านยังมีมุมน่ารัก ๆ ให้เพื่อน ๆ และคุณแม่เซลฟี่ไปอวดคนในครอบครัวกัน

5. Kashikiri Onsen and Spa

ร้านสุดท้ายขอแปลกแหวกแนวจากเดิม ๆ ที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้กับร้านคาชิคิริ ออนเซน แอนด์สปา ตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 49 ทีเด็ดของสปาแห่งนี้ ได้แก่ การตกแต่งที่บรรยายกาศออกมาสไตล์ใกล้เคียงกับทางญี่ปุ่นเอามาก ๆ ไฮไลท์ของการมาที่นี่ คือ คุณแม่จะได้แต่งกายเป็นสาวญี่ปุ่นด้วยชุดยูตากะแหละ พร้อมกับแช่ออนเซ็นได้อีกด้วยนะ รับประกันว่าคุณแม่จะต้องเพลิดเพลินและประทับใจต้องขออ้อนลูกๆ กลับมาอีกครั้งแน่ ๆ เลย
คงจุใจกันแล้วสำหรับสถานที่ดี ๆ น่าพาคุณแม่ผ่อนคลายเพลิดเพลินสนใจตามรอยได้นะครับ ไปเดือนไหนก็ได้เพราะเรารักแม่ได้ทุกเดือนล่ะ
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com
Rewrite by Butter Cutter

ซื้อประกันกับแฟรงค์รับเลยสิทธิพิเศษ

The post 5 สปา พาแม่ไปผ่อนคลาย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

• เรียนรู้โลกใต้ท้องทะเล ณ อะความารีน ฟุคุชิมะ
• เที่ยวได้ความรู้ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
• ชมสัตว์โลกน่ารักที่สวนสัตว์อุเอโนะ
• ท่องโลกอวกาศ Space Museum TeNQ ณ Tokyo Dome
• ลองเที่ยวแปลกใหม่ที่พิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล โยโกฮาม่า
• ชอบฟุตบอล ต้องมาพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลญี่ปุ่น
• เต็มอิ่มกับโกเบคาวาซากิเวิลด์

พร้อม ! หรือยัง มาอ่านแพลนเที่ยวฉบับเต็ม ๆ กันโล้ด

1. อะความารีน ฟุคุชิมะ (Aquamarine Fukushima)

แน่นอนว่า ดินแดนพระอาทิตย์อุทัยที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลเราต้องมาดูสัตว์น้ำให้เห็นกับตาสิครับ และการพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นแบบชมปลาชมท้องทะเลคงต้องยกให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะความารีน ฟุคุชิมะ (Aquamarine Fukushima) ตั้งอยู่ที่เกาะฮนชู เมืองอิวากิ จังหวัดฟุคุชิมะ ซึ่งมีแท็งค์น้ำใหญ่ 2 แห่ง จัดเต็มโลกใต้ทะเล!!! และเมืองนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ
เหตุผลหลัก ๆ ที่ Frank แนะนำให้เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะความารีน ฟุคุชิมะ เพราะสวยงามและมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เปิดทุกวันเวลา 09.00 - 17.30 น. (ต้องซื้อตั๋วก่อนเวลา 16.30 น. นะครับ) เราจะได้ชมอุโมงค์ปลาสุดอลังการ รับรองว่า เด็ก ๆ ต้องตื่นเต้นกับเหล่าปลาทั้งหลาย พร้อมกับสิงสาราสัตว์น่ารักอีกเพียบ
หากกลัวเที่ยวไม่ครบ กลัวไม่เต็มอิ่ม ด้วยข้อจำกัดของเด็ก ๆ อาจจะเหนื่อย ร้องไห้งอแง ง่วงนอน คุณพ่อคุณแม่ควรเผื่อเวลาพักผ่อนไว้ด้วยครับ ทางอะความารีน ฟุคุชิมะ ได้แนะนำแพลนท่องเที่ยวแบบ Family-oriented recommended course สำหรับนักท่องเที่ยวครอบครัวผู้ต้องการเที่ยวไม่นานใช้เวลาครึ่งวันก็ได้นะ

เริ่มจาก

• เวลา 10.00 น. ซื้อตั๋วเข้าเที่ยวอะควาเรียม ฟุคุชิมะ บุกโซน WAKUWAKU Satoyama Johmon Village ชมความน่ารักของโชว์ให้อาหารนาก และดูเหล่านากว่ายน้ำเพลิน ๆ ใช้เวลา 10 นาที
• เวลา 10.10 น. ใช้เวลา 40 นาทีเดินเที่ยวอะควาเรียมให้ครบไล่ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 ใกล้ชิดกับสัตว์น้ำแห่งแนวชายฝั่งฟุกุชิมะให้เต็มอิ่ม
• เวลา 10.50 น. ฟินกันต่อกับโซนหลังบ้าน ณ Backyard Tour  เข้าได้สูงสุด 8 ท่านต่อรอบ เพื่อเยี่ยมชมหลังบ้านว่าอะควาเรียมนี้เป็นอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กโตวัย 7 ขวบขึ้นไป ไม่แนะนำเด็กเล็ก ๆ ให้เข้าเที่ยวโซนนี้นะจ้ะ เพียง 30 นาทีก็เที่ยวครบ  
• เวลา 11.20 น. ลงมาร่วมกิจกรรมเรียนรู้ชีวิตทักษะเอาตัวรอดโซน Fishing experience ใช้เวลา 40 นาที (จ่ายค่าเข้า 100 เยน, เข้าเป็นครอบครัวจ่าย 1,000 เยน) เป็นการจับปลาในบ่อที่เตรียมไว้ และเรียนรู้เกี่ยวกับปลา และกิจกรรมทำครัว Cooking experience ปรุงอาหารด้วยปลาที่เราจับได้ ช่างแปลกใหม่จริงครับ
• เวลา 12.00 น. เที่ยงแล้วใช้เวลา 30 นาทีในการรับประทานอาหารซีฟู้ด ชาร์จพลังกันก่อน ณ ห้องอาหาร Aqua Cross มีเซทอาหารให้น้อง ๆ หนู ๆ ด้วย
• เวลา 12.30 น. กินข้าวเสร็จพาลูกแวะเล่นน้ำที่หาดเล็ก ๆ JANOME Beach และเที่ยวโซน Goldfish House ใช้เวลา 15 นาทีก็เพียงพอครับ  
• เวลา 12.45 น. แวะช้อปปิ้งซื้อของฝากก่อนกลับ เช่น ตุ๊กตาปลานีโม ตุ๊กตาตัวกัปปะ ถุงลายแมวน้ำ และของที่ระลึกอื่น ๆ เพียบ ราคาเริ่มต้นที่  350 เยนถึง 10,000 เยน เตรียมเงินให้พร้อม
• เวลา 13.00 น. เที่ยวชมครบ!! สามารถพาลูกกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมได้ หรือจะหาที่เที่ยวเพิ่มเติมก็ได้ตามใจคุณครับ

พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : ครอบครัวรักปลา รักน้ำ รักโลกใต้ทะเล เด็กเล็กก็เที่ยวได้เด้อ
เว็บไซต์ทางการ : aquamarine.or.jp
แผนที่ :

2. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science)

มาถึงที่เที่ยวเปิดโลกกว้างสำหรับเด็กแบบเติมความรู้ทางวิทยาศาสตร์กันครับ ตลอดโซนการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ National Museum of Nature and Science ตั้งอยู่ที่สวนอุเอโนะ กรุงโตเกียว สามารถเที่ยวได้ทั้งครอบครัว สามารถถ่ายภาพ และเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องราวเทคโนโลยี ศึกษาธรรมชาติในพื้นที่จัดแสดงหุ่นจำลองเหมือนจริงสุด ๆ มีทั้งไดโนเสาร์ แมลง หุ่นจำลอง สัตว์น้ำ และมีนิทรรศการให้ดูหลายตึก สามารถใช้เวลาเที่ยวทั้งวันได้เลยครับ
เล่าเน้น ๆ กับไฮไลท์เธียเตอร์ 360 (Theator 360) ตั้งอยู่ที่ Japan Gallery B1F เป็นห้องฉายสารคดีแบบ 360 องศารอบตัว ความยาวประมาณ 10 นาที จะบอกเล่าเรื่องราวจะสลับสับเปลี่ยนไม่เหมือนกันแต่ละเดือน อย่างไรก็ดี คำบรรยายทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่นสามารถขอเช่าเครื่องแปลภาษาได้จ้ะ ซึ่งรองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : ทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบเรียนรู้และรักไดโนเสาร์ต้องร้องกริ้ด
เว็บไซต์ทางการ : kahaku.go.jp
แผนที่ : 

3. สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoological Gardens)

เที่ยวอะควาเรียมดูปลากันแล้ว ท่องโลกวิทยาศาสตร์กันแล้ว เราพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นตะลุยสวนสัตว์บ้างดีกว่าที่สวนสัตว์อุเอโนะ กรุงโตเกียว แหล่งรวมสัตว์โลกน่ารักกว่า 400 สายพันธุ์ รวมกว่า 3,000 ชีวิต เป็นสวนสัตว์เก่าแก่ก่อตั้งในปี 1882 เปิดมานานกว่า 137 ปี จึงเป็นสวนสัตว์แห่งแรกในญี่ปุ่น อยู่บนพื้นที่ 14.2 เฮกต้าร์ เปิดตั้งแต่เวลา 09.30 - 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
สวนสัตว์แห่งนี้ แบ่งเป็นโซนตะวันออก (East Area) มีการจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ เช่น แพนด้าจากเมืองจีน, ช้าง, ไก่ฟ้า, เสือสุมาตรา, ชะนี ฯลฯ และโซนตะวันตก (West Area) เป็นแหล่งรวมสัตว์แอฟริกัน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และยังมีสัตว์เล็กน่ารักทั้งกระต่าย หนูตะเภา แพะ ให้เล่นด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างความทรงจำดี ๆ ของครอบครัว
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : ครอบครัวคนรักสัตว์ ชอบถ่ายการภาพธรรมชาติ อยากบันทึกความทรงจำกับครอบครัว
เว็บไซต์ทางการ : tokyo-zoo.net
แผนที่ : 

4. Space Museum TeNQ ณ Tokyo Dome

เพื่อให้การแนะนำครบถ้วนทุกสไตล์เลือกได้ตามความชอบ !! ควรมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์พาลูกเที่ยวญี่ปุ่นบุกอวกาศ ณ Space Museum TeNQ ที่โตเกียวโดม (Tokyo Dome) เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี 2014 ช่วยเติมประสบการณ์ให้ลูกน้อยได้ดีเยี่ยมทีเดียวเชียวล่ะ เพราะทุก ๆ การเดินทางเข้าแต่ละโซนของพิพิธภัณฑ์ทั้งสวย ทั้งได้เรียนรู้จักรวาล และวิทยาศาสตร์กันแบบชิล ๆ ภาพสวยคมชัดแบบ 4K เหมือนได้ท่องอวกาศเลยครับ โซนดีน่าดูต้องยกให้ Theater Sora ทั้งครอบครัวจะได้ดื่มด่ำกับการเยี่ยมชมโลกของเราจากสถานีดวงดา ประมาณ 10 นาที และยังมีโซนจัดแสดงอื่น ๆ

ตลอดทั้งพิพิธภัณฑ์มีให้เลือกฟัง 5 ภาษา ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินเล่นเย็นสบายเด็กเล็กก็เข้าได้ครับ พิพิธภัณฑ์อวกาศ TeNQ วันจันทร์ถึงศุกร์เปิดให้บริการเวลา 11.00 - 21.00 น. ส่วนวันเสาร์อาทิตย์เปิดเช้าหน่อย 10.00 - 21.00 น.

• จ่ายค่าเข้าชม 1,800 เยนสำหรับผู้ใหญ่
• เด็กโตจ่าย 1,500 เยน
• ส่วนเด็กเล็ก 1,200 บาท

น่าเสียดายที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพล่ะคร้าบ จึงไม่มีภาพมาบอกเล่า นักท่องเที่ยวจะต้องไปเก็บบรรยากาศด้วยตัวเอง !!
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : คนรักอวกาศ และครอบครัวที่ชอบความแปลกใหม่
เว็บไซต์ทางการ : tokyo-dome.co.jp
แผนที่ :

5. พิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล โยโกฮาม่า (Yokohama Cup Noodles Museum)

เที่ยวแบบศึกษาเรื่องราวบะหมี่สำเร็จรูปบ้างครับ สำหรับครอบครัวนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ น่าพาลูก ๆ เที่ยวญี่ปุ่นพิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล โยโกฮาม่า ย่านมินาโตะมิราอิ เป็นของบริษัท นิชชิน ฟู๊ด ครับ เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของธุรกิจที่เริ่มจากราเมนไก่ แวะทำบะหมี่ของตัวเองถ้วยเดียวในโลก !! ในโซน My CUPNOODLES Factory สามารถเลือกผงซุป เลือกท้อปปิ้ง ใส่เลย เพราะจะมีแค่คุณเท่านั้นที่รู้ว่าบะหมี่ของคุณรสชาติอะไร ตกแต่งวาดรูปกระปุกบะหมี่ได้ด้วยเอาสิ !!
กระซิบว่าถ้วยละ 300 เยนครับ และแวะเล่นสวนสนุกบะหมี่ก็ได้สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ รอคุณอีกเพียบเลยจ้า
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : ครอบครัวที่ชื่นชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ ชอบทำอาหาร สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ทั้งครอบครัวเลยครับ
เว็บไซต์ทางการ : cupnoodles-museum.jp
แผนที่ : 

6. พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลญี่ปุ่น (Japan Football Museum)

หากลูกชื่นชอบเตะบอลหรือมีความฝันอยากเป็นดาวเตะลูกหนัง ควรพาลูก ๆ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ Japan Football Museum เป็นสถานที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอลญี่ปุ่นเลยครับ
พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลญี่ปุ่น มีทั้งหมด 3 ชั้น ตั้งอยู่อยู่ในกรุงโตเกียว เดินทางไม่ยากครับ มาถึงแล้วจะได้ดื่มด่ำกับฟุตบอล ฟุตบอล และฟุตบอล อาทิ โซนบอกเล่าเรื่องราวฟุตบอลโลก หรือ 2002 FIFA World Cup ที่เคยจัดในญี่ปุ่นมาก่อน มีทั้งล็อกเกอร์รูม ของใช้ของนักฟุตบอลในยุคนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเจลีก (J.League)
รับรองว่า ทั้งคุณพ่อคุณลูกจะฟิน ๆ กับเรื่องราวของนักฟุตบอลญี่ปุ่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ลูก ๆ สำหรับใครที่อยากตามรอยพี่เจ ธนาธิป หรือเมสซี่เจ ก็ต้องมาเที่ยวให้ได้
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : คนรักฟุตบอล ครอบครัวรักฟุตบอล ต้องไม่พลาด
เว็บไซต์ทางการ : web.archive.org
แผนที่ : 

7. โกเบคาวาซากิเวิลด์ (Kawasaki Good Times World)

ยังคงอยู่กับการพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นที่จังหวัดเฮียวโกะครับ แวะชมโชว์เคสเทคโนโลยียานยนต์ของคาวาซากิตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันให้ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่า 100 ปีของคาวาซากิ เช่น มอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน เรือรบ รถไฟ หุ่นยนต์ High-Performance Robots และอื่น ๆ ที่เป็นเทคโนโลยีสุดล้ำ ณ โกเบคาวาซากิเวิลด์ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00 - 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ทีเด็ดต้องเห็นกับตาตัวเองอย่างชินคันเซ็นรุ่นแรกที่วิ่งให้บริการถึงปี 2008 พร้อมกับโซนจัดแสดงมอไซค์เจ๋ง ๆ ในโซน Motorcycle Gallery มีกิจกรรมให้ทดลองขับขี่มอไซค์ในสนามแข่ง เหมือนการเล่นเกมครับ คุณไม่ต้องกลัวว่าจะบาดเจ็บ เล่นได้เฉพาะผู้ที่มีส่วนสูง 140 เซนติเมตรขึ้นไปครับ ที่สำคัญอย่าลืมช้อปปิ้งของฝากกลับไทยก็ได้ด้วย แนะนำเสื้อยืดลาย Kawasaki เป็นอะไรที่เท่สุด ใส่ทั้งครอบครัวให้รู้ไปเลยว่า “ครอบครัวเราหัวใจนักบิด”
พิกัดนี้เหมาะสำหรับ : ครอบครัวผู้รักการขับขี่เป็นชีวิตจิตใจ และยังเป็นแฟนพันธุ์แท้คาซาวากิมาเถอะครับ คุ้มจ่ายค่าเข้าชม 600 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 250 เยนสำหรับเด็ก ๆ
เว็บไซต์ทางการ : www.khi.co.jp
แผนที่ :

หลากหลายไหมครับ ? กับพิกัดพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นแบบได้ความรู้ที่ frank.co.th เล่ามาข้างต้น

หลังจากเตรียมแพลนพาลูกเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว อย่าลืมเลือกประกันเดินทางให้เหมาะกับการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยนะครับ หากคุณสงสัยว่าจะเลือกประกันการเดินทางสำหรับการเดินทางกับครอบครัวอย่างไรดี? ถาม Frank ได้ครับ เพราะเรามีบริการประกันการเดินทางให้เลือกสรรคุ้มครองผู้ซื้อประกันตั้งแต่อายุ 1 - 70 ปี
และถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ เรายินดีให้คำตอบคุณ โทร 02-106-5800 (วันจันทร์-ศุกร์ 09.00 - 18.00 น.) หรือจะแชทถามเฟซบุ๊ก frank.co.th หรือไลน์แอดก็ได้นะ  
Content by Butter Cutter

The post 7 พิกัดพาลูกเที่ยวญี่ปุ่น ทั้งเจ๋ง ! ทั้งได้ความรู้ ! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เอกสารที่ต้องเตรียมใช้ทำ Passport เด็ก หรือผู้เยาว์

เพราะ Bolttech เป็นประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ แนะนำกันตรงไปตรงมาเลยครับว่า หลักฐานที่ใช้พาสปอร์ต มีดังนี้

• บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง เพื่อแสดงตัวตนของเด็กหรือผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
• ทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ยื่น (เด็ก/ผู้เยาว์) ที่ระบุชื่อถูกต้อง
• สูติบัตรฉบับจริง หากอายุยังไม่ถึง 15 ปี ต้องเตรียมเอกสารมาด้วย
• บัตรประจำตัวประชาชนของคุณพ่อและของคุณแม่ฉบับจริง นำมาด้วยเลยครับได้ใช้แน่นอน
• เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ กรณีที่คุณพ่อและคุณแม่ทำการเปลี่ยนชื่อใหม่ คุณจะต้องนำเอกสารไปด้วย และหากเด็กเปลี่ยนชื่อด้วยก็ต้องเตรียมเอกสารมาแสดงเช่นกัน
• หนังสือให้ความยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญเลยก็คือ คุณพ่อและคุณแม่จะต้องลงนามให้ความยินยอมทั้งสองฝ่าย ผู้ปกครองต้องมาทั้งคู่ หากทั้งคู่หย่าร้างจะต้องนำบันทึกการหย่า (บันทึกการหย่าที่ระบุให้บิดา หรือมารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง) มาด้วยครับ เพื่อแสดงว่าเด็กอยู่ในความปกครองของผู้ใด ใช้มาแสดงในการทำ Passport เด็กครับ
• กรณีบิดาหรือมารดาของเด็กเสียชีวิต ต้องเตรียมใบมรณบัตรฉบับจริงมาด้วย สามารถอ่านข้อมูลการทำ Passport เด็กแบบฉบับเต็มจากเว็บไซต์กรมการกงสุล Consular.go.th

ส่วนน้อง ๆ หนู ๆ ที่อยู่ในความดูแลของคุณแม่ และไม่ได้จดทะเบียนสมรสอาจจะต้องใช้หนังสือรับรองอุปการะบุตรออกโดยอำเภอ/สำนักงานเขต/สำนักทะเบียนท้องถิ่น มาแสดงแทนการยินยอมของผู้เป็นบิดาได้ครับ
อ้อ ! สำคัญที่สุด อย่าลืมพาเด็กหรือผู้เยาว์ที่ต้องการขอ Passport เดินทางต่างประเทศมาด้วยนะ

ค่าทำเนียมพาสปอร์ตเท่าไหร่ ?

สำหรับค่าธรรมเนียมการทำ Passport เด็กก็เหมือนผู้ใหญ่ทุกประการครับ เล่มละ 1,000 บาท ค่าจัดส่งไปรษณีย์ 60 บาท สามารถยื่นขอหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตได้หลายที่เลยนะ

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำ Passport

• ขั้นตอนการทำ Passport เด็กมีขั้นตอนเหมือนผู้ใหญ่เป๊ะ ๆ ไม่ต้องกลัวนะ เพราะสามารถเข้าช่องพบเจ้าหน้าที่ได้ทั้งครอบครัวเลยครับ (พ่อ-แม่-ลูก)
• สามารถจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าได้ครับ ผ่านเว็บไซต์ www.qpassport.in.th เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงสำหรับการจองคิวออนไลน์ (1 บัญชีต่อ 1 การจองเท่านั้น) และจะต้องทำรายการล่วงหน้าไม่เกิน 5 วันครับ เลือสาขาที่ต้องการทำ Passport ดูคิวที่ว่าง เลือกวันและเวลาที่เราสะดวก อย่าเลทนะครับ ให้ไปก่อนเวลานัดหมายอย่างน้อย 30 นาทีจะดีที่สุด
• ง่ายสุดสำหรับการทำพาสปอร์ตในพื้นที่กรุงเทพสามารถขอหนังสือเดินทางที่สำนักงานหนังสือเดินทางฯ MRT คลองเตย เวลาทำการ 08.30 - 15.30 น. เปิดจันทร์ถึงศุกร์เลย เดินทางสะดวก ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก มีที่ให้นั่งรอด้วย

ปล. สำหรับเด็กหรือผู้เยาว์ที่เคยทำ Passport แล้ว ต้องการต่ออายุหนังสือเดินทางจะต้องนำเล่มเก่ามายกเลิกด้วยอย่าลืมล่ะ 🙂

ทำความเข้าใจการทำ Passport เด็กฉบับเบื้องต้นแล้ว

ง๊าย ง่าย เนาะ สำหรับการทำ Passport เด็กหรือผู้เยาว์ เพียงเตรียมเอกสารพร้อม เตรียมตัวให้พร้อม เท่านี้ก็ลุยเที่ยวต่างประเทศได้เลย
แต่ช้าก่อน ! เพื่อให้ทั้งทริปปลอดภัยที่สุด อย่าลืมเลือกประกันการเดินทางสำหรับการเดินทางกับครอบครัวไว้สำหรับการเดินทางต่างแดนด้วยน๊า เพราะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองการยื่นวีซ่า คุ้มครองกระเป๋าเดินทาง และคุ้มครองหากมีเหตุยกเลิกการเดินทาง หรือเที่ยวบินมีปัญหาด้วยล่ะจ้ะ คุ้มครองขนาดนี้ ซื้อไว้เถอะครับอุ่นใจกว่าเยอะ
Content by Butter Cutter

The post ทํา Passport เด็กต้องเตรียมอะไรบ้าง ? บอกเลยไม่ยาก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1.พุทธคยา (วัดมหาโพธิ์)

น่าจะเหมาะที่สุด ถ้าเราจะเริ่มทัวร์อินเดียตามรอยพระพุทธเจ้าด้วยที่นี้ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ เป็นที่ตั้งของต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และยังเป็นที่ที่พระพุทธเจ้า เสวยวิมุตติสุข หรือทำการพิจารณาธรรมที่พระองค์ตรัสรู้เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ซึ่งทำให้พิกัดถือเป็นจุดศูนย์กลางของนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่ต้องการตามรอยพระพุทธเจ้ามาตลอดสองร้อยปีเลย

นอกจากคุณจะได้ซึบซับบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธแล้ว ในแง่ประวัติศาสตร์ พุทธคยายังเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสมัยก่อนคริสตกาล โดยเฉพาะสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้เสาหินทุกเสา ผนังกำแพง และหินทุกก้อนในพุทธคยา เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สำคัญของอินเดีย ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
และในปี 2545 องค์กรยูเนสโก ก็ได้ยกให้พุทธคยาเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ก็ยิ่งเพิ่มความน่าไปเที่ยวขึ้นไปอีก

การเดินทางไปพุทธคยา

หากคุณเที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง สามารถเลือกนั่งแท็กซี่จากสนามบิน GAYA Airport ประมาณ 10 กิโลเมตร ตรงถึงพุทธคยาเลย

จุดเด่น

• เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแสวงบุญสำคัญของโลก
• มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญมากมาย
• กว้างขวาง แต่ร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญมากมาย
• เดินทางสะดวกมาก

แนะนำ

• การแต่งกาย เนื่องจากเป็นวัด ควรแต่งกายให้มิดชิด สุภาพ เหมือนเข้าวัดที่ไทย
• มีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญอินเดียเป็นจำนวนมาก หากใครเที่ยวอินเดียกับครอบครัวควรระวังเรื่องการพลัดหลง แต่หากใครท่องเที่ยวอินเดียคนเดียวควรระวังเรื่องสัมภาระ
• เดินทางสะดวก เหมาะมากสำหรับใครที่ลองเริ่มเที่ยวอินเดียด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก

2.สารนาถ

อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ที่ตั้งของป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาเรื่องอริยสัจสี่เป็นครั้งแรก (ภายหลังเรียกวันนี้ว่า วันอาสาฬหบูชา)
โดยในสมัยพุทธกาลบริเวณนี้เคยเป็นสวนที่มีกวางอาศัยอยู่มาก เนื่องจากเป็นที่โล่งและมีความร่มรื่น ซึ่งนักบวชในสมัยนั้นมักใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญตบะ โดยหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานประมาณไปแล้ว 300 ปี พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทำการสร้าง ธรรมเมกขสถูป เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการปฐมเทศนาขึ้น ทำให้สารนาถเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธที่รุ่งเรื่องอย่างมากในช่วงเวลาหนึ่งเลย

สารนาถขึ้นชื่อเรื่องของความร่มรื่น  ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่อยากสัมผัสความสงบเงียบ มีนักแสวงบุญและท่องเที่ยวมากมายมาที่นี่เพื่อนั่งสมาธิ ใครที่อยากหลบหนีความวุ่นวาย ให้ลองแบกเป้เที่ยวอินเดียคนเดียวมาสัมผัสความสงบที่นี่ได้เลยครับ

การเดินทางไปสารนาถ

ลงจากสนามบินนานาชาติ Lal Bahadur Shastri จากนั้นต่อแท็กซี่ประมาณ 12 กิโลเมตร

จุดเด่น

• สงบ ร่มรื่น มีความเป็นธรรมชาติสูง
• เหมาะสำหรับใครที่ต้องการนั่งสมาธิ อยู่กับธรรมชาติ
• มีที่สักการะสวยงามอยู่มากมาย

แนะนำ

• ควรแต่งกายให้สุภาพ
• เนื่องจากเป็นที่โล่ง บางช่วงเวลาอาจมีแดดร้อน ควรติดแว่นตากันแดดหรือหมวกไว้ด้วยนะ

3.กุสินารา หรือ กุสินคร

กุสินารา คือสถานที่เสด็จปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งภายหลังจากการเสด็จปรินิพพาน ได้มีการสร้างเจดีย์และวิหารขึ้นโดยรอบ รวมถึงพระเจ้าอโศกมหาราชก็ได้ทำการสร้างสถูปใหญ่ขึ้นรอบๆ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าขึ้นอีกด้วย
โดยกุสินารามีสถานที่ท่องเที่ยวและสักการะสำคัญคือ สถูปปรินิพพาน ที่พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้าง โดยมีลักษณะเป็นสถูปทรงคว่ำ ภายในประดิษฐานเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และพระพุทธรูปมหาปรินิพพาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบสกุลช่างมธุรา มีจุดเด่นอยู่ที่จะสร้างขึ้นด้วยหินทรายสีชมพูเพียงก้อนเดียว โดยส่วนมาก ผู้มาแสวงบุญอินเดียมักมีความตั้งใจถวายผ้าห่มแก่พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพิธีที่สำคัญและสวยงามอย่างมากเลยครับ

โดยพระพุทธรูปมหาปรินิพพานนี้ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบกุสินาราก็ยังมีวัดมากมายรวมทั้งวัดไทยชื่อ  วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถพักค้างคืนได้อีกด้วย

การเดินทางไปกุสินารา

ลงเครื่องสนามบิน Mahayogi Gorakhnath Airport ต่อรถไปบนถนนหมายเลข 27 โคราฆปุระ - กุศินครประมาณ 45 กิโลเมตร

จุดเด่น

• เดินทางสะดวก
• เนื่องจากมีวัดไทยตั้งอยู่จึงมีคนไทยอยู่มาก
• เป็นที่ประดิษฐานทั้งพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปมหาปรินิพพานในที่เดียว

แนะนำ

• ควรแต่งกายให้สุภาพ
• หากใครต้องการเข้าร่วมพิธีถวายผ้าห่มแก่พระพุทธเจ้า ควรตรวจสอบเวลาให้แน่ชัดก่อนนะ จะได้ไม่ไปเสียเที่ยว

4. ถ้ำอชันตา

ตั้งอยู่ในเมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฏระ อยู่ลึกและโดดเดียวในหุบเขา นี่คือถ้ำที่ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 350 ด้วยวิธีการสกัดถ้ำเข้าไปเพื่อสร้างเป็นวัดและวิหารขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยรูปแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูปหลายร้อยรูป รวมถึงงานแกะสลักผนังถ้ำที่สวยงามมากมาย

ถ้ำอชันตาเคยถูกทิ้งร้างนานกว่าพันปีหลังจากศาสนาพุทธเสื่อมความนิยมลงในประเทศอินเดีย ก่อนจะถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2362 ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งขุมปัญญาชั้นดีสำหรับการศึกษาพระพุทธศาสนาในอินเดีย ด้วยความที่แกะสลักจากหินภูเขาทำให้มีความคงทนสูง ภายในถ้ำอชันตาจึงเต็มไปด้วยรูปแกะสลักหินและสลักผนังถ้ำในสภาพดี ที่บันทึกเรื่องราวในพระพุทธศาสนาอันน่าสนใจมากมาย

นอกจากนี้ ถ้ำอชันตาเป็นหนึ่งในมรดกโลกแล้ว จากการขึ้นทะเบียนของยูเนสโกในปี 2527 และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธในอดีตได้ชัดเจนที่สุด แต่ด้วยความที่ถ้ำแห่งนี้อยู่ลึกในหุบเขา การเดินทางก็อาจจะลำบากนิดหน่อย หากใครอยากสัมผัสความยิ่งใหญ่นี้ด้วยตา คุณควรจะมีประกันเดินทางที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เผื่อในกรณีไม่คาดฝันใว้หน่อยก็ดีนะครับ Frank เป็นห่วง

การเดินทางไปถ้ำอชันตา

ลงจากสนามบินเมือง Aurangabad จากนั้นต่อรถไปยังอีกประมาณ 2 ชั่วโมง (ควรเลือกรถที่เตรียมใว้เท่านั้น)

จุดเด่น

• ตัววัดและวิหารมีความสวยงามมาก
• ศิลปะและสถาปัตยกรรมยังคงสภาพดี ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง
• อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีความร่มรื่นสูงมาก
• เหมือนหลุดไปยังอดีต

แนะนำ

• ควรแต่งกายให้คล่องตัว เช่น รองเท้าผ้าใบ
• การเดินทางค่อนข้างลำบาก ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทาง
• เหมาะมากสำหรับใครที่ชอบการผจญภัย

5. วัดเชตวันมหาวิหาร

ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย นี่คือวัดที่สำคัญที่สุดในการเผยแผ่พุทธศาสนา ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าจำพรรษานานสุด (19 พรรษา) และเกิดเรื่องราวสำคัญๆ ในพระพุทธศาสนามากมาย
วัดเชตวันมหาวิหารตั้งอยู่ในเมืองสาวัตถี ซึ่งเคยเป็นเมืองที่อุดมสมูบรณ์และมีความสงบ ทั้งยังได้รับการอุปถัมป์จากผู้ปกครองเป็นอย่างดี ทำให้พระพุทธเจ้าเลือกใช้ที่นี่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่เกิดเรื่องราวต่างๆ ทั้งการพบเจอกับ องคุลีมาล  การถวายอสทิสทาน พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ เป็นต้น

แม้ภายหลังเมืองสาวัตถีจะเสื่อมอำนาจลง จนวัดเชตวันมหาวิหารถูกปล่อยทิ้งร้างจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ภายหลังตัววัดก็ถูกบูรณะอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นที่สักการะของชาวพุทธทั่วโลก มีสถานที่สำคัญ เช่น อานันทโพธิ์ หรือต้นโพธิ์ที่พระอานนท์ปลูก หรือบ่อสรงน้ำของพระพุทธองค์ นอกจากนี้ ภายในเมืองสาวัตถีรอบๆ วัดเชตมหาวิหาร ยังมีสถานที่เช่น บ้านขององคุลีมาล และสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏในตำนานอยู่อีกด้วย ได้ทั้งตามรอยพระพุทธเจ้า และตามรอยตำนานในพุทธศาสนาในที่เดียวเลย

การเดินทางไปวัดเชตมหาวิหาร

ลงที่สนามบินเมือง Lucknow จากนั้นต่อรถไปยังอำเภอสาวัตถีอีกประมาณ 170 กิโลเมตร

จุดเด่น

• มีสถานที่ที่อยู่ในตำนานมากมาย
• เป็นสถานที่สำคัญในการแสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลก
• อยู่ห่างไกลความวุ่นวายจากตัวเมือง

แนะนำ

• เดินทางค่อนข้างไกล ควรเริ่มเดินทางแต่เช้า
• บริเวณรอบๆ ค่อนข้างมีความเป็นชนบทสูง เตรียมของใช้จำเป็นให้พร้อม

และนี่ก็คือ 5 สถานที่ท่องเที่ยวอินเดีย ตามรอยพระพุทธเจ้า ที่ Frank รวบรวมมาเสนอให้กับเพื่อนๆ ทุกคน ที่กำลังสนใจ อยากออกไปทัวร์แสวงบุญอินเดีย แต่อย่าลืมนะครับ ว่าสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาส่วนมากนั้นถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี พันปีที่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น การจะเดินทางไปก็อาจลำบากซักหน่อย ยิ่งใครที่กำลังวางแผน เที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง ด้วยแล้ว Frank ก็อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนวางแผนให้ดีก่อนเดินทาง หรือให้ดีที่สุด ก็ซื้อ ประกันการเดินทาง ไว้ รับรองว่าอุ่นใจหายห่วงแน่ๆ ครับ

The post 5 สถานที่ท่องเที่ยวแสวงบุญอินเดีย ตามรอยพระพุทธเจ้า appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เปิดเทอมใหม่นี้ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยกำลังเรียนรู้ หรือน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ที่อยากเพิ่มเติมสาระการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับความสนุกสนาน สามารถไปเที่ยวชมสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ และเพลิดเพลินไปกับความรู้ที่จะทำให้เด็ก ๆ ต้องประทับใจ พาลูกเที่ยวสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ

ทำความรู้จักสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ

Cr. museumsiam.org

มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้สำหรับทุกคน

Cr. museumsiam.org

หัวใจของมิวเซียมสยามคือ Play+Learn = เพลิน

Cr. museumsiam.org

ชมนิทรรศการเสมือนจริงแบบ 360 องศา

Cr. museumsiam.org

อัตราค่าเข้าชม

• นักเรียนนักศึกษา ราคา  50 บาท
• ผู้ใหญ่คนไทย ราคา 100 บาท
• ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ ราคา 200 บาท
• หมู่คณะตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ลดค่าบัตรเข้าชม 50%

Cr. museumsiam.org

เข้าฟรี

• เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี
• ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
• พระภิกษุสงฆ์
• นักบวช
• ผู้พิการและทุพพลภาพ
• มัคคุเทศก์

เวลาทำการ

• เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดให้บริการทุกวันจันทร์) 10.00 - 18.00 น.

การเข้าชมพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเรียนรู้ของน้อง ๆ วัยเรียน คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูก ๆ เข้าชมได้ หรือน้อง ๆ นักเรียน และนักศึกษาที่มีเวลาว่าง สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ (ปิดทำการ) และหากต้องการเพิ่มความมั่นใจในทุกเส้นทางการท่องเที่ยวและการขับขี่ หรือสนใจประกันภัยรถยนต์สามารถคลิกที่นี่ หรือโทร. 02 710 3100 กันได้เลย

แผนที่

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com
Content by Butter Cutter

 
 

The post พาลูกเที่ยวสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. Audi Q7 

หลังจากเรียนรู้เหตุผลที่คุณควรเลือกรถยนต์แบบ 7 ที่นั่งมือสอง สำหรับครอบครัวกับทีมงาน Frank แล้ว การมีรถยนต์ครอบครัวดี ๆ สักคันจะช่วยให้การเดินทางสะดวก ไม่ต้องปวดหัว ประหยัด และที่สำคัญนั่งสบาย
เปิดประเดิมด้วยรถยนต์เอสยูวี (SUV) ค่ายออดี้ โลโก้สี่ห่วง Audi Q7 ราคาเริ่มต้นที่ 4.4 ล้านต้น ๆ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน มาพร้อมกับเครื่องยนต์สูงสุด 333 แรงม้า
ถามว่าทำไม ? Frank ถึงแนะนำรุ่นนี้

• ด้วยคุณสมบัตินั่งได้ 7 ท่าน
• มีความจุสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 890 ลิตร ซึ่งเก็บของได้อย่างจุใจ
• เหมาะจะเป็นรถครอบครัวอย่างยิ่ง ภายในกว้างขวาง
• มีระบบความปลอดภัยที่ดูแลสูงสุด
• มาพร้อมกับน้ำมันถังใหญ่ที่สามารถขับได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร ขับได้ทันทีแบบไม่ต้องจอดเติมให้เสียเวลา
• เอาเป็นว่าคุ้มถ้าจะซื้อมาขับสำหรับคนมีงบประมาณ 4 - 5 ล้านบาทครับ

2.  Volvo XC90

ลักซ์ชัวรี่สุด ๆ สำหรับ Volvo XC90 ที่มีภายในหรูหรา โอ่อ่า สบายอย่างเหนือระดับเป็นรถครอบครัวที่ Family Man ต้องติดใจแน่ ๆ ด้วยความที่เป็นรุ่นรถยนต์ที่คันใหญ่ จนถูกสื่อมวลชนขนานนามว่า “SUV ร่างยักษ์” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ชั้นดี และขับขี่ง่ายมองเห็นชัดทุกมุมมอง ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมกับเบาะไฟฟ้าปรับระดับได้ 3 ตำแหน่งสามารถจดจำระยะได้ มีคอนโซลตรงกลางให้วางของเพียบ สำหรับการนั่งเบาะด้านหลังจะต้องใช้แรงโยกนิดหน่อย เพือให้สมาชิกสามารถนั่งได้ล่ะครับ ฝากระโปรงก็เจ๋ง เพราะเปิดได้กว้าง หากพับเบาะลงสามารถจุของได้เพียบ ! งานดีทุกรุ่นเลยครับสำหรับตระกูล Volvo XC90
เอาเป็นว่า ถ้าใครขับรุ่นนี้อยู่ต้องการต่อประกันรถยนต์ต่อกับ Frank.co.th ลองเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ได้นะครับ

3. Mazda CX-9 

แค่เห็นราคามาสด้า CX-9 คุณอาจจะร้อง “อู้หู้ว!” ก็เป็นได้ ด้วยราคาที่เคาะเริ่มต้นที่ 3.7 ล้านบาทในเมืองไทย เป็นรถ SUV รองรับผู้โดยสาร 6-7 ที่นั่ง ปรับโฉมใหม่เพิ่มระบบเซฟตี้จัดเต็มที่ตั้งราคาสูงพอ ๆ กับรถรุ่นไฮเอนด์เลยทีเดียว ราคาแพงลิ่วจนถูกชาวเน็ต ตั้งกระทู้พันทิปถามว่า “Mazda cx9 ทำไมราคา3.6ล้าน เขาคิดอย่างไรกับตัวนี้ครับ” พร้อมกับเนื้อหากระทู้สนทนา “เหมือนไม่ได้อยากขายสักเท่าไร ราคา 3.69ล้าน ไปซื้อ BMW X3 ไม่ดีกว่าหรือ ทำไมต้องราคาสูงขนาดนั้นครับ มีดีอะไรครับตัวนี้”
อย่างไรก็ดี หลาย ๆ สำนักข่าวและกูรูรถยนต์ฟันธงว่า Mazda CX-9 รุ่นเรือธงนี้ได้เพิ่มระบบที่ดีที่สุด เช่น

• ระบบ Smart City Brake Support ช่วยเตือนการชนด้านหน้า
• และช่วยคนขับเบรกอัตโนมัติ
• ตามด้วย Blind Spot Monitoring เตือนทันทีหากรถอยู่ในจุดอับสายตาเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
• และทีเด็ดคือเตือนตอนถอย Rear Cross-Traffic Alert ที่ช่วยเหลือมือใหม่หัดขับได้เป็นอย่างดี

4.  Kia Sorento

รถเกีย โซเรนโต้ (Kia Sorento) เป็นรถเอสยูวีที่มีความโอ่อ่า กว้างขวาง แนะนำที่เหมาะจะเป็นรถครอบครัวเลยล่ะครับ เพราะมี 7 ที่นั่งเบาะหลังโล่งไม่อึดอัดนั่งสบาย มาพร้อมกับ 5 ประตู ดีต่อใจครอบครัวใหญ่เพราะไม่ต้องคิดมากสามารถเดินทางได้ทั้งครอบครัว ช่วงล่างเกาะถนน มีความนุ่มนวลครับ ขับขี่ปลอดภัย เป็นรถครอบครัวรุ่นนี้มีพละกำลังเยี่ยม 197 แรงม้า สามารถขับข้ามจังหวัดได้สบาย ๆ เลยล่ะ ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท
หากคุณขับขี่รถรุ่นนี้อยู่แล้ว หรือกำลังจะถอยใหม่ป้ายแดงสักคัน อย่าลืมเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วยนะครับ

5.  Land Rover Discovery

แลนด์โรเวอร์ดีสคัฟเวอร์รี่ (Land Rover Discovery) คงเป็นรถยนต์ในฝันของใครหลายคน เพราะเป็นรถที่มีดีไซน์โดดเด่น แบบเฉียบตั้งแต่แรกเห็น และได้รับคะแนนเรตติ้งจากเว็บไซต์ topgear.com ที่ขึ้นชื่อด้านการรีวิวรถยนต์ให้ 8/10 คะแนน ถือว่า เป็นรถครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง รุ่นน่าสนใจอีกรุ่นเลยครับผม มาพร้อมกับเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ ด้วยช่วงล่างพร้อมลุย ขับเคลื่อนสี่ล้อ เรียกได้ว่าเดินทางสบาย ๆ ทั่วไทย และใช้ขับขี่รับลูก ๆ หลาน ๆ ที่โรงเรียนหรือพาไปเรียนพิเศษได้เป็นอย่างดี

6. Peugeot 5008 

เปอโยต์ (Peugeot) 5008 รถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่งเบาะกว้างมาก มาพร้อมกับความสะดวก ภายในห้องโดยสารมีเบาะพับเก็บง่าย และสามารถดึงเบาะใช้ได้ไม่ยาก ซึ่งมีทั้งหมด 3 แถว (รวมด้านหน้าด้วย)  หากพับเบาะโดยสารลงจะมีพื้นที่เก็บของกว้างถึง 3.2 เมตร ถือว่าตอบโจทย์รถยนตเพื่อครอบครัว และยังไม่แค่นั้น Peugeot 5008 มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนธรรมดา ขับเคลื่อนบนหิมะ ขับเคลื่อนฝ่าโคลน และโหมดกันลื่นสำหรับพื้นทราย พร้อมกับโหมดควบคุมการทรงตัวรถยนต์ ESP Off น่าสนใจมว๊าก!!

7. Hyundai Santa Fe

รถครอบครัวน่าใช้ ฮุนได (Hyundai) รถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ที่เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์เลยล่ะครับ ส่วนรถที่ Frank.co.th นำมาแนะนำให้คุณ นั่นก็คือ Hyundai Santa Fe รถคอมแพคเอสยูวี (Compact SUV) มีความใกล้เคียงกับรถ Land Rover Discovery, Volvo XC90 และ Audi Q7 ที่เนียบตั้งแต่ด้านนอกและด้านในที่หรูหรา ถึงแม้ว่าคันจะใหญ่แต่สาว ๆ ก็สามารถขับได้ไม่ยาก เพราะมีเบาะรองรับผู้ขับขี่ทั้งชายและหญิง ขณะที่ห้องโดยสารนั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ รองรับการขับขี่ล่ะครับ

8.  2019 BMW X5

พูดถึงรถครอบครัวจะให้พลาดรถยนต์จากค่ายรถยุโรปอย่าง BMW คงไม่ได้ ! สำหรับ 2019 BMW X5 เป็นรถเอสยูวี (SUV) อเนกประสงค์ออฟโรคแบบลักซ์ชัวรี่ผลิตมาเพื่อเป็นรถครอบครัวโดยแท้ มาพร้อมกับความเฉียบหล่อแบบสปอร์ตที่มีฟีเจอร์ให่ช่วยความปลอดภัย เช่น

• แจ้งเตือนจุดอับสายตา
• แจ้งเปลี่ยนเลน
• เตือนหากเสี่ยงที่จะเกิดการชนด้านหน้า ฯลฯ
• กว้างขวางเบาะโดยสาร 3 แถว
• ฝาท้ายออกแบบราวกับถอดดีไซน์ของรถยนต์หรูหรา Rolls-Royce Cullinan มาไว้ที่คันนี้

9.  Subaru Outback

รถญี่ปุ่นคุณภาพยุโรป ค่ายซูบารุ (Subaru) จัดเป็นรถยนต์เอสยูวีที่โดดเด่นมาก ๆ ด้วยดีไซน์ที่คงความเป็นตัวตน Subaru Outback นั่งสบายครับแถมยังมีพอร์ต USB ให้ใช้งานบริวเณคอนโซลที่พักแขนเบาะหลัง เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวดิจิทัลที่ต้องใช้ชาร์จสมาร์ทโฟน รุ่นนี้มาพร้อมกับการขับเคลื่อนที่เสถียร์มากยิ่งขึ้น พวงมาลัยถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาระบบที่รองรับการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เครื่องยนต์แบบ 7 สปีด ขึ้นชื่อว่าทนทาน ไม่ว่าจะใกล้จะไกลก็ขับขี่สบายมว๊าก

10. Nissan Rogue 

เป็นสีสันของนิสสันเลยก็ว่าได้ครับกับรถยนต์ตระกูล Nissan Rogue ที่ยกห้องควบคุมของสตาร์วอร์มาเป็นไอเดีย และยังมีระบบอัจฉริยะช่วยให้การขับขี่เยี่ยมยอด ค่อนข้างปราดเปรียวครับโดยเฉพาะ Nissan Rogue 2019 ที่มีระบบไฮบริด ประหยัดน้ำมัน ปรับเบาะง่ายครับ เหมาะสำหรับรับส่งลูกไปโรงเรียน หรือเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว

11. Toyota 4Runner

สมกับเป็นโตโยต้าจริง ๆ ครับกับ Toyota 4Runner รถยนต์ที่เกิดมาเพื่อใช้อเนกประสงค์ด้วยพื้นที่ภายใน ดีต่อใจครอบครัวที่รักการแอดแวนเจอร์ ชอบขึ้นภูเขา ชอบกางเต้นท์ เพราะ 4Runner เป็นรถที่พร้อมลุย!! สมรรถนะการขับขี่ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ! การตกแต่งภายในรถที่เกิดมาเพื่อเติมเต็มความสบายให้ครอบครัว

12.  Tesla Model X

ข้ามมารีวิวรถยนต์เทสลา โมเดล เอ็กซ์ (Tesla Model X) ค่ายรถของอีลอนส์ มัคก์ รถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่เห็นในเมืองไทยเท่าไหร่นัก และเป็นรถที่หลาย ๆ คนกำลังรอคอย รุ่นนี้มาพร้อมกับประตูปีกนก มีมอเตอร์ไฟฟ้าวิ่งได้สูงสุด 416 กิโลเมตร ห้องโดยสารขนาดใหญ่จุได้สูงสุด 7 คน ขึ้นชื่อว่าเป็นรถเทสาที่ไฮเทคสุด ๆ ด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 17 นิ้ว ช่วยเติมเต็มทุกความบันเทิง รองรับการบอกเส้นทาง และอื่น ๆ อีกเพียบ

ถูกใจไหมครับ? กับ 12 รถครอบครัวที่แนะนำกันมา สนใจรุ่นไหนหรือเป็นแฟนคลับค่ายใดอยู่ แนะนำกันเข้ามาได้นะครับ และถ้าซื้อรถยนต์เสร็จแล้ว อยากซื้อประกันรถยนต์ไว้เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น ขอให้นึกถึง Frank.co.th นะคร้าบ เรามีทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3,3+ ให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณ
แหล่งข้อมูล :

• carwow.co.uk
• checkraka.com
• topgear.com
• topgear.com
• consumerreports.org

Content by Butter Cutter

The post รีวิว 12 รถครอบครัว นั่งสบาย น่าใช้งาน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.