Bolttech Insurance Broker
LinePhone

เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง?

รู้หรือไม่ว่า? นอกจากเราจะได้รับ ประกันสังคมว่างงาน ประกันสังคมค่ารักษากรณีบาดเจ็บ และประกันสังคมคนท้องแล้ว เงินประกันสังคมที่เราจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือนนั้น เรายังสามารถรับเงินเมื่อยามแก่ชราได้ด้วย หรือเรียกกันว่า “เงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพ” นั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อให้เก็บเงินเอาไว้ใช้หลังเกษียณ ถึงแม้ในอนาคตคุณจะไม่มีรายได้ก็ตาม แต่ทั้งนี้สิทธิประกันสังคมกรณีชราภาพ เราจะได้รับเงินคืนตอนอายุเท่าไหร่ แล้วคำนวณอย่างไรบ้าง ลองมาเช็คสิทธิประกันสังคมเลย....

ประกันสังคมกรณีชราภาพ คืออะไร?

เงินสมทบชราภาพ
คำว่า เงินชราภาพประกันสังคม” หมายถึง กองทุนที่ผู้ประกันตนเลือกจ่ายสมทบให้ทางประกันสังคมตามที่กำหนด เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำบาญยามชราภาพ  ทั้งนี้สามารถใช้สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 (มนุษย์เงินเดือน) หรือผู้ประกันตนมาตรา 39  (คนที่ลาออกจากงานประจำแล้ว) ได้เหมือนกัน แต่การเบิกประกันสังคมชราภาพก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่ายสมทบ อายุ และสถานะความเป็นผู้ประกันตนด้วย

การเบิกเงินสมทบชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่า “เงินสมทบชราภาพ” จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เงินบำเหน็จที่จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว กับเงินบำนาญชราภาพที่จ่ายให้รายเดือนตลอดชีวิต  ซึ่งจะมีการเบิกจ่ายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประกันสังคมแตกต่างกัน

1. เงินบำเหน็จชราภาพ ประกันสังคม

หากใครที่ต้องการรับเงินก้อนโตทีเดียวเป็นเงินบำเหน็จ ผู้ประกันตนสามารถเบิกประกันสังคมชราภาพ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการทำงานเมื่อยามเกษียนได้ แต่ผู้ประกันตนต้องมีคุณสมบัติตามที่ประกันสังคมกำหนดไว้
1.1 เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย

1.2 ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ 
ถึงแม้จะอยู่ในเงื่อนไขประกันสังคมชราภาพตามที่กำหนดข้างต้น ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ  แต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันด้วย ดังต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสบทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินที่เราจ่ายสมทบเท่านั้น 
  • กรณีจ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้เงินบำเหน็จมาจากเงินสบทบที่เราจ่าย เงินสมทบของนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
  • กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับครั้งสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย

1.3 การคำนวณเงินบำเหน็จชราภาพ
เอาเป็นว่า!! เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น เราลองมาเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำเหน็จ) กันเถอะ สมมติว่านายกวิ้นเป็นผู้ประกันตนอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นลูกจ้าง ซึ่งนายกวิ้นจ่ายเงินสบทบ 450 บาทต่อเดือน เป็นเวลารวม 10 เดือน (น้อยกว่า 12 เดือน) ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินเงินบำเหน็จ 450x10 = 4,500 บาท
แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และอายุครบ 55 ปี จะได้รับได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับจำนวนเงินสมทบของตนเอง + เงินสมทบของนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน (ผลกำไรจากกองทุนประกันสังคมนำเงินไปลงทุน) 
อย่างเช่น นายกวิ้นจ่ายเงินสมทบเดือนละ 450 บาท ส่วนนายจ้างสบทบให้อีกเดือนละ 450 บาท แล้วนายกวิ้นจ่ายเงินสมทบชราภาพมา 10 ปี ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เป็นจำนวน (450 + 450) x 12 เดือน x 10 ปี = 108,000 บาท และบวกกับผลดอกจากการลงทุนประกันสังคม

2. เงินบำนาญชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
แต่ถ้าใครที่อยากได้เงินบำนาญชราภาพ เพื่อแบ่งใช้เป็นรายเดือนยาวๆ ตลอดชีวิต ก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ่ายเงินสบทบและฐานเงินเดือนเป็นหลัก รวมถึงข้อตกลงที่ทางประกันสังคมกำหนดไว้เช่นกัน
2.1 เงื่อนไขการรับเงินบำนาญตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

2.2 ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ
หลังจากอ่านสิทธิการรับเงินบำนาญ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็ต้องศึกษา ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ  เพื่อเอาไว้ใช้เมื่อยามเกษียณด้วยนะ ผลประโยชน์การรับสิทธิ์จะแบ่งออกเป็น 3 กรณีต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนพอดี มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคมเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง 
  • กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
  • กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน

2.3 การคำนวณเงินบำนาญชราภาพ
ทั้งนี้เราสามารถเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำนาญ) ได้เหมือนกัน หากคุณเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มนุษย์เงินเดือน จะกำหนดฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท แต่ถ้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 คนที่ลาออกจากงานประจำ คิดเป็นเงินเดือน 4,800 บาท

  • กรณีที่คุณจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนเป๊ะ ตามสูตรก็คือ 20% x ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 

ตัวอย่างเช่น : นายแฟรงค์ เป็นผู้ประกันตนมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป จ่ายเงินสบทบ 180 เดือนพอดี ครบอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นผู้ประกันตน นายแฟรงค์จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็น 20% x 15,000 = 3,000 บาทต่อเดือน

  • แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบเกิน 180 เดือน ใช้สูตร 20% + [1.5% x (จำนวนปีจ่ายเงินสมทบ - 15 ปี)]

ตัวอย่างเช่น : กรณีจ่ายเงินสบทบมาแล้ว 20 ปี จะคิดเป็น 20% + [1.5x(20-15)] = 20% + [1.5x5] เท่ากับ 27.5% แล้วนำมาคูณกับฐานเงินเดือนอีกครั้ง เช่น นางจริงใจมีรายได้ 15,000 บาท/เดือนขึ้นไป = 15,000 x 27.5% = 4,125 บาท/เดือนตลอดชีวิต
หรือกรณีที่นางจริงใจได้รับเงินบำนาญชราภาพ แล้วเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน คิดเป็น 4,125 x 10 เท่า เป็นเงินทั้งหมด 41,250 บาท

การรับเงินเกษียณต้องทำเมื่อไหร่?

เงินสมทบชราภาพ
หากคุณจ่ายเงินสมทบประกันสังคมตามที่กำหนด พออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ คุณก็ต้องลาออกจากประกันสังคมก่อน  แล้วยื่นเรื่องเบิกเงินค่าบำเหน็จหรือบำนาญภายใน 1 ปีหลังจากลาออกจากกองทุนประกันสังคม นั่นหมายความว่าคุณจะหมดสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลบาดเจ็บ ค่าทำฟัน และค่าคลอดบุตร เป็นต้น ดังนั้น กรณีประสบอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเอง หรือเลือกทำประกันอุบัติเหตุเพื่อช่วยให้ดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณได้ 
เพราะฉะนั้น การจ่ายเงินประกันสังคมชราภาพทุกๆ เดือนนั้น ถือเป็นประโยชน์ให้กับคุณในอนาคตได้ดีเลยล่ะ ยามวัยเกษียณก็มีเงินบำเหน็จก้อนโตไว้ใช้ หรือเงินบำนาญเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อุ่นใจเท่าคุณมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับ Frank.co.th ให้ช่วยดูแลอีกทาง หากเกิดประสบอุบัติเหตุ ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ทันทีกว่า 400 แห่งในโรงพยาบาล (ไม่ต้องสำรองจ่าย) แถมยังคุ้มครองกรณีกระดูกหัก ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีความเสี่ยงมากๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่ามีคนช่วยคุ้มครองคุณนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sso.go.th

ประกันอุบัติเหตุ

Sleeping Blogger

Content Writer ผู้ที่รักงานเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเล่าเรื่อง แชร์ความรู้ใหม่ๆ หรือไอเดียง่ายๆ ที่เป็นสไตล์ของตัวเอง อยากให้เพื่อนๆ สนุกไปด้วยกัน!

เชื่อมต่อ กับพวกเรา

รับข่าวสารล่าสุดและข้อเสนอโดยติดตามเราในช่องโปรดของคุณ
LineFacebook
Bolttech
บริษัท โบลท์เทค อินชัวร์นส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ใบอนุญาตินายหน้าประกันภัยหมายเลข
00017/2559
หมายเลขจดทะเบียนนิติบุคคล
0105559056161
รับรองความปลอดภัย และ อยู่ภายใต้ความควบคุม ของ
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
Security & Compliances
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
bolttech © 2021 All Rights Reserved.