เทคนิครถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Tue, 23 Jan 2024 06:23:50 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico เทคนิครถยนต์ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 เลือกอู่ซ่อมรถยังไง ไม่ให้โดนหลอก https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%8b%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b5-%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%81?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%258b%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581 Wed, 18 Nov 2020 03:45:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14081 ใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ มีมาตรฐานและปลอดภัยหรือไม่ แนะนำให้เลือกอู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์มานาน เน้นบริการที่ดี มีราคามาตรฐาน ก็จะช่วยทำให้ไว้วางใจได้มากขึ้น

The post เลือกอู่ซ่อมรถยังไง ไม่ให้โดนหลอก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ก่อนที่เราจะนำรถเข้าอู่ซ่อมรถ อันดับแรกคุณควรตรวจสอบอู่ซ่อมว่า มีมาตรฐานและความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน? คุณจำเป็นต้องเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถให้ดีๆ เช็กราคาประเมินคร่าวๆ และดูความน่าเชื่อถือด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณถูกช่างหัวหมอย้อมแมวได้ง่ายๆ งั้นลองมาดู 5 เทคนิคสังเกตอู่ซ่อมรถอย่างไรไม่ให้โดนหลอก

1. เลือกอู่ซ่อมรถที่มีมาตรฐานและปลอดภัย

สิ่งแรกคุณจะต้อง “เลือกอู่ซ่อมรถดีๆ ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย” อย่างน้อยๆ จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจระหว่างนำรถยนต์ส่งซ่อม แนะนำให้เลือกหาอู่ซ่อมรถใกล้ที่สุด อาจจะสอบถามจากคนที่คุ้นเคยระแวกใกล้เคียง หรือคนที่เคยนำรถเข้าอู่ซ่อมรถมาก่อน ถือว่าช่วยในการตัดสินใจของคุณได้

2. เลือกอู่ซ่อมรถที่ได้รับการรับรองจาก คปภ.

หากคุณต้องการเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถใกล้ที่สุด แนะนำให้เป็นอู่กลางซ่อมรถที่ผ่านการรับรองจาก คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) จะทำให้คุณมั่นใจระดับนึงเลยว่าอู่ซ่อมรถยนต์นั้นตรงตามมาตรฐาน นอกจากนี้ถ้าคุณควรเลือกอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทประกันที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ กรณีรถเกิดอุบัติเหตุตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ก็สามารถส่งซ่อมหรือเคลมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน

แต่ถ้าคุณเลือกอู่ซ่อมรถยนต์นอกเครือบริษัทประกัน คุณจะต้องสำรองค่าซ่อมรถเอง แล้วค่อยไปเบิกกับทางบริษัทประกันรถยนต์ภายหลัง ดังนั้นคุณควรเลือกที่ผ่านการรับรองดีกว่า เพื่อความสบายใจนั่นเอง

3. เลือกอู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ

หลังจากนั้นให้คุณ “เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีประสบการณ์ทำงานมานาน” หรือผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทาง อย่างเช่น เจ้าหน้าที่บริการซ่อมเครื่องยนต์ บริการเปลี่ยนอะไหล่ บริการเคลือบสีรถ ขัดไฟ พ่นกันสนิม หรือบริการซ่อมบำรุงทุกประเภท ซึ่งความเป็นมืออาชีพเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณหายห่วงทุกครั้งที่เข้ารับบริการ

ซ่อมศูนย์กับซ่อมอู่แบบไหนถึงใช่สำหรับคุณ ต้องเข้าใจก่อนว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ไม่ว่าจะค่าซ่อม สถานที่ให้บริการ ระยะเวลาซ่อม และมีผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ

4. เลือกอู่ซ่อมรถที่มีการรับประกันหลังซ่อม

“เพราะบริการเป็นหัวใจหลักของลูกค้า” อู่ซ่อมรถยนต์ที่ดีนั้นควรมีบริการซ่อมรถที่ดีและน่าเชื่อถือ เช่น การดูแลลูกค้าระหว่างการซ่อมรถยนต์ การบริการหลังการขาย การรับประกันหลังจากซ่อมรถเสร็จ และอู่ซ่อมรถที่ดีจะต้องคอยติดต่อลูกค้า พร้อมกับรายการความคืบหน้าในการส่งซ่อมรถเป็นอย่างดี รวมถึงบริการที่รวดเร็ว ตอบโจทย์คุณภาพที่น่าพึงพอใจ

5. เลือกอู่ซ่อมรถที่มีราคามาตรฐาน

สิ่งสุดท้ายที่คุณจะต้องตรวจสอบก่อนนำรถเข้าอู่ คือ “ค่าซ่อมรถยนต์” เพื่อป้องกันไม่ให้อู่ซ่อมรถยนต์หลอกเก็บเงินคุณในภายหลัง คุณควรสอบถามราคาซ่อมรถยนต์ให้ชัดเจน หรือเช็กราคาประมาณคร่าวๆ แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าราคาที่อู่ซ่อมเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ แนะนำให้ลองเปรียบเทียบราคากับอู่ซ่อมรถยนต์ที่อื่นด้วย จะได้ไม่โดนเอาเปรียบ

ทั้งนี้ใครที่ต้องการใช้บริการอู่ซ่อมรถเพื่อเคลมประกัน ตามปกติแล้วทางอู่ซ่อมรถยนต์จะประเมินราคาซ่อมรถส่งให้กับบริษัทประกันรถยนต์อนุมัติก่อน พอหลังจากบริษัทประกันรถยนต์ทำการอนุมัติเเล้ว จะทำการส่งซ่อมหรือเคลมรถให้กับคุณตามเงื่อนไข

ก่อนที่เราจะใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ คุณควรตรวจสอบให้ดีว่าอู่ซ่อมรถนั้นมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือและบริการที่ดีมากน้อยแค่ไหน แล้วที่สำคัญคือ ราคาซ่อมต้องชัดเจน จะทำให้คุณไว้วางใจได้มากขึ้น พอรู้อย่างนี้แล้วเราควรทำประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นบริการซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่รถ ประกันรถยนต์จะดูแลเหมือนมีเพื่อนรู้ใจ ให้บริการง่าย รวดเร็ว และตอบโจทย์คุณได้

The post เลือกอู่ซ่อมรถยังไง ไม่ให้โดนหลอก appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เทคนิคง่ายๆ ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ 2567 https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%9b%e0%b8%8f%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%258f%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b4 Wed, 12 Aug 2020 03:35:02 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12668 หลังจากเพนกวิน bolttech ได้เฉลย ข้อสอบใบขับขี่ ภาคทฤษฎี บ้างแล้ว ด่านต่อไปเราต้องศึกษาการสอบปฏิบัติใบขับขี่รถยนต์ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนลงสนามจริง หากเราฝึกท่าสอบใบขับขี่รถยนต์มาเป็นอย่างดี จะช่วยให้ผู้สอบใบขับขี่ไม่ตื่นเต้นและผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ โดยท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ มี 3 ท่าหลักด้วยกัน เรามาอ่านเลยดีกว่า...ท่าสอบใบขั

The post เทคนิคง่ายๆ ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ 2567 appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลังจากเพนกวิน bolttech ได้เฉลย ข้อสอบใบขับขี่ ภาคทฤษฎี บ้างแล้ว ด่านต่อไปเราต้องศึกษาการสอบปฏิบัติใบขับขี่รถยนต์ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนลงสนามจริง หากเราฝึกท่าสอบใบขับขี่รถยนต์มาเป็นอย่างดี จะช่วยให้ผู้สอบใบขับขี่ไม่ตื่นเต้นและผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ โดยท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ มี 3 ท่าหลักด้วยกัน เรามาอ่านเลยดีกว่า...ท่าสอบใบขับขี่จะมีเทคนิคอะไรบ้าง? พร้อมแชร์ข้อสอบใบขับขี่ 2567 ให้แล้วที่นี่ !!

ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ 2567

  • ท่าเดินหน้าและถอยหลัง
  • ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
  • ท่าจอดรถถอยเข้าซอง

1. ท่าเดินหน้าและถอยหลัง

สอบใบขับขี่ 2563
เริ่มต้นด้วย ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ ท่าง่ายที่สุด นั่นก็คือ ท่าเดินหน้าและถอยหลัง  ท่านี้จะบังคับให้ผู้สอบใบขับขี่ขับรถเดินหน้า 1 ครั้ง แล้วถอยหลัง 1 ครั้งในทางตรงระยะ 12 เมตร (ตามช่องที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้) โดยจะต้องบังคับไม่ให้รถไปชนสิ่งกีดขวาง ตามเทคนิคดังนี้

  • เดินหน้ารถในทางตรงตามช่องอย่างช้าๆ แล้วจอดในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้
  • จากนั้นเปลี่ยนเป็นถอยหลังในทางตรงตามช่องอย่างช้าๆ เพื่อมาจอดตามจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้อีกครั้ง
  • เสร็จแล้วให้ขับรถทางตรงออกไป ทั้งนี้เราอย่าลืมสำรวจระยะห่างทั้งซ้ายและขวาให้ดีด้วย

2. ท่าจอดรถเทียบทางเท้า

สอบใบขับขี่ 2563
ตามด้วย ท่าจอดรถเทียบทางเท้า  ถือเป็นท่าสอบใบขับขี่รถยนต์สุดหินเลย หลายคนเคยตกม้าตายมาเยอะ!! เช่น ขับรถปีนฟุตบาท หรือ จอดรถไม่ขนานกับขอบทาง โดยเทคนิคการสอบใบขับขี่ท่าเทียบฟุตบาทจะต้องขับให้ ล้อรถ 2 ล้อขนานกับขอบทางเท้าด้านซ้าย ห่างไม่เกิน 25 ซม. และต้องไม่ชนกับขอบทางด้วย

  • อย่างแรกบังคับรถเอียงไปด้านซ้ายเข้าหาฟุตบาท โดยจะต้องให้ล้อหน้ารถทับเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ เราจะต้องขับรถช้าๆ และใช้ความระมัดระวังสูง มิเช่นนั้นหน้ารถจะชนกับฟุตบาท
  • เมื่อล้อหน้ารถทับเส้นสีขาวแล้ว ให้หมุนพวงมาลัยกลับมาทางขวา เพื่อให้ล้อหลังของรถเข้ามาทับเส้นสีขาวที่กำหนดไว้ ให้ค่อยๆ หมุนช้าๆ เพราะถ้าเราหมุนทางขวามากเกินไปอาจทำให้ล้อหน้าหลุดจากเส้นสีขาวได้
  • หลังจากล้อรถหน้าและล้อรถหลังทับเส้นสีขาว หรือขนานกับขอบฟุตบาทแล้ว ให้หมุนพวงมาลัยกลับมาเพื่อให้ล้อตรง
  • สุดท้ายให้ขับรถเดินหน้าตรง โดยล้อรถจะต้องเหยียบทับเส้นขาวอยู่ แล้วให้ไปหยุดในเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร

**แนะนำให้เราสังเกตการมองกระจกข้างรถ จะช่วยเราดูว่าล้อรถด้านหลังเหยียบทับเส้นสีขาวหรือไม่

ประกันรถยนต์

3. ท่าจอดรถถอยเข้าซอง

สำหรับท่าจอดรถถอยเข้าซอง ก็เป็นอีกหนึ่งท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ 2566 สุดปราบเซียน!! เป็นท่าทดสอบทักษะการถอยหลังจอดรถ ท่านี้จะต้องอาศัยสมาธิในการมองรอบๆ ของตัวรถ แต่ถ้าคุณฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ก็จะช่วยให้คุณสอบใบขับขี่ครั้งเดียวผ่าน!!
สอบใบขับขี่ 2563

  • เดินหน้ารถขนานกับเส้นจอด  โดยให้ล้อด้านหลังตรงกับเสาต้นที่ 3

สอบใบขับขี่ 2563

  • หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายสุด จากนั้นถอยหลังอย่างช้าๆ แนะนำให้เรามองที่กระจกรถด้านขวาของรถ เพื่อสังเกตในกระจกให้ครบทั้ง 3 ต้น ได้แก่ เสาต้นที่ 4,5,6 หากเห็นแล้วให้หยุดทันที จากนั้นให้หมุนพวงมาลัยกลับมาให้ล้อตรง ถอยหลังเข้ามาให้ตำแหน่งหัวรถด้านซ้ายตรงกับเสาต้นที่ 3 แล้วหยุด

สอบใบขับขี่ 2563

  • สุดท้ายให้หมุนพวงมาลัยกลับไปทางขวาสุด แล้วถอยหลังช้าๆ เพื่อให้ตัวรถเข้าไปอยู่ในซอง และขนานเดียวกับเส้นจอด

หมายเหตุ : ท่าสอบใบขับขี่ (จอดรถถอยเข้าซอง) กำหนดให้เปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 7 ครั้ง โดยไม่เบียดชนเสาหรือขอบข้างทางเด็ดขาด และไม่ให้กระจกข้างเกินเส้นที่กำหนด นอกจากนี้การสอบใบขับขี่รถยนต์แบบเกียร์ธรรมดา อาจจะมีท่าสอบใบขับขี่ต่างจากเกียร์อัตโนมัติ ก็คือมีท่าหยุดรถและออกรถบนถนนลาดเพิ่มเข้ามาด้วย แล้วที่สำคัญในการสอบใบขับขี่รถยนต์เกียร์ธรรมดาจะต้องระวังไม่ให้เครื่องดับขณะสอบ  มิเช่นนั้นเราจะต้องกลับมาทำข้อสอบใบขับขี่ใหม่อีกครั้ง
สอบใบขับขี่ 2563
ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ หรือข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี เราจะต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถนะร่างกายเบื้องต้นก่อน ได้แก่ ทดสอบสายตาบอดสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบการสนองของเท้า เป็นต้น ถึงแม้ว่าการสอบใบขับขี่รถยนต์หรือการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์จะยากสำหรับมือใหม่ เชื่อว่าถ้าเราเตรียมพร้อมมาอย่างดี ช่วยให้ทำข้อสอบใบขับขี่ได้ผ่านฉลุย !!

สอบใบขับขี่ 2567 เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมมองหา ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยคุ้มครองรถจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับที่ไม่ชำนาญในการขับขี่ ประกันรถจะช่วยดูแลทั้งรถทั้งเรา ทำให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง หรือสามารถอ่านเคล็ดลับรถยนต์เพิ่มเติม มีบทความดีๆ อีกเพียบ

ประกันรถยนต์

The post เทคนิคง่ายๆ ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ 2567 appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
น้ำมันรถรั่วเกิดจากสาเหตุอะไร แล้วต้องทำยังไง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Wed, 27 May 2020 03:55:10 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11835 กำลังจะขับรถไปทำงานอย่างร่าเริง แต่จู่ๆ ก็เกิดน้ำมันรั่วใต้ท้องรถซะงั้น เอาละสิ!! ไม่รู้ว่ารถเสียตรงไหนด้วย หากใครที่เคยเจอกับปัญหารถยนต์น้ำมันรั่ว หรือน้ำมันหยดใต้ท้องรถเยอะผิดปกติ สาเหตุนั้นมันมาจากอะไรกันแน่ แล้วเกิดอาการแบบนี้ต้องทำยังไง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจส่งผลอันตรายต่อเครื่องยนต์แน่นอน งั้นลองมาดูกันดีก

The post น้ำมันรถรั่วเกิดจากสาเหตุอะไร แล้วต้องทำยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
กำลังจะขับรถไปทำงานอย่างร่าเริง แต่จู่ๆ ก็เกิดน้ำมันรั่วใต้ท้องรถซะงั้น เอาละสิ!! ไม่รู้ว่ารถเสียตรงไหนด้วย หากใครที่เคยเจอกับปัญหารถยนต์น้ำมันรั่ว หรือน้ำมันหยดใต้ท้องรถเยอะผิดปกติ สาเหตุนั้นมันมาจากอะไรกันแน่ แล้วเกิดอาการแบบนี้ต้องทำยังไง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจส่งผลอันตรายต่อเครื่องยนต์แน่นอน งั้นลองมาดูกันดีกว่าว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เพื่อจะได้รีบตรวจเช็กเครื่องยนต์ทันที

วิธีตรวจสอบน้ำมันรั่วเบื้องต้นสังเกตยังไง

น้ำมันรั่ว
เริ่มจากสังเกตได้ง่ายๆ หลังจากจอดรถทิ้งไว้สักครู่ แล้วตรวจดูว่ามีรอยน้ำมันหยดใต้ท้องรถหรือไม่? ถ้าเห็นน้ำมันหยดนองที่พื้นในปริมาณที่มากผิดปกติ ให้สังเกตดูว่าคราบน้ำมันเครื่องที่หยดเป็นสีอะไร เพราะสีน้ำมันรถรั่วจะบ่งบอกได้หลายอาการ แล้วลองสังเกตตำแหน่งรถยนต์น้ำมันรั่วด้วยว่าอยู่ตรงบริเวณด้านซ้ายหรือด้านขวา อาจเกิดจากส่วนใดส่วนหนึ่งของรถยนต์เสีย เช่น การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และระบบหล่อน้ำเย็น เป็นต้น ในกรณีที่น้ำมันรั่วไหลปริมาณมากเราจะได้กลิ่นน้ำมันเครื่องที่รั่วซึมออกมาด้วย

สาเหตุน้ำมันหยดใต้ท้องรถเกิดจากอะไร

  • เกิดจากการเสื่อมสภาพของซีลยาง โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมานาน
  • หากสังเกตเห็นน้ำมันหยดใต้ท้องรถด้านขวา อาจเกิดจากซีลอ่างน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องแตก หรือฉีกขาด
  • หากสังเกตเห็นน้ำมันหยดใต้ท้องรถบริเวณด้านซ้าย อาจเกิดจากน้ำมันเกียร์รั่ว หรือประเก็นอ่างน้ำมันเกียร์รั่ว ส่งผลให้เกียร์พังแน่นอน
  • อุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้งาน เช่น รถมีรอยครูด รอยกระแทก และใต้ท้องรถ ก็ทำให้รถยนต์น้ำมันรั่วซึมได้ง่าย
  • ดัดแปลงเครื่องยนต์ เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่เข้ากัน หรือขันน็อตยึดติดไม่แน่น

สีน้ำมันที่หยดใต้ท้องรถ บ่งบอกปัญหาเครื่องยนต์อะไรบ้าง

น้ำมันรั่ว

1. น้ำมันหยดเป็นสีขุ่นดำ สีน้ำตาล

บ่งบอกว่าเครื่องยนต์น้ำมันรั่ว  ถ้าเราไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยๆ น้ำมันจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ส่วนสาเหตุที่น้ำมันรั่วไหลออกมานั้นเกิดขึ้นหลายสาเหตุ เช่น แผ่นยาง และแผ่นฝาครอบของเครื่องยนต์มีปัญหา แต่ถ้าคราบรอยน้ำมันมีลักษณะสีเข้มและเหนียวมาก มักเกิดจากน้ำมันเกียร์ธรรมดา หรือน้ำมันเฟืองท้าย

2. น้ำมันหยดเป็นสีแดง 

ส่วนน้ำมันที่หยดเป็นสีแดง (ลื่นมัน) มักจะเป็นที่น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ  สันนิษฐานว่าน้ำมันเกียร์รั่ว อาจจะเริ่มซึมเล็กๆ น้อยๆ ตามห้องเกียร์ก่อน หรือรถบางคันก็เกิดจากน้ำมันพาวเวอร์ได้เช่นกัน หากไม่รีบทำการแก้ไขก็ทำให้ชุดเกียร์มีปัญหาในที่สุด

3. น้ำมันหยดสีน้ำตาลอ่อน 

อันนี้มักเกิดจาก น้ำมันเบรกใหม่ๆ  ที่ใช้งานมานานแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งน้ำมันจะสูบฉีดจากสายเบรกเข้าสู่ล้อ แล้วเกิดรั่วไหลออกมา

4. น้ำมันหยดเป็นสีเขียว เหลือง ชมพู

แต่ถ้าน้ำมันหยดเป็นสีเขียว สีเหลือง และสีชมพู อาจจะเป็นที่ระบบความเย็นในเครื่องยนต์  แนะนำให้ตรวจสอบถังระบายน้ำว่ามีปัญหาหรือเปล่า เช่น รอยรั่วที่ถังระบายน้ำ ปั๊มน้ำ สายน้ำยาง รวมถึงระบบหล่อเย็นมีปัญหา หม้อน้ำ วาล์วน้ำ และท่อต่างๆ ที่เสื่อมสภาพ

5. น้ำมันหยดเป็นสีใส

กรณีตรวจพบว่ามีหยดน้ำมันเป็นสีใสปริมาณมากใต้ท้องรถ อาจจะเกิดจากรอยรั่วซึมของหม้อน้ำ  หรือสายยางของทางเดินน้ำ

วิธีแก้ไขน้ำมันรถหยดใต้ท้องรถ ต้องทำยังไง?

น้ำมันรถรั่ว
หากเราสังเกตเห็นรอยน้ำมันหยดใต้ท้องรถมากผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ ให้ดับเครื่องยนต์ก่อนเพราะน้ำมันเป็นแหล่งเชื้อเพลิงอาจทำให้รถเกิดไฟไหม้ได้  แล้วให้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ซ่อมรถ หรืออู่ซ่อมรถใกล้บ้านมาตรวจสอบเบื้องต้น  เพื่อเช็กว่าชิ้นส่วนใดของเครื่องยนต์มีรอยรั่วซึม แตกหักหรือไม่ จะได้รีบทำการแก้ไขทันที
นอกจากนี้การตรวจสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา รวมถึงการขับขี่รถอย่างระมัดระวัง ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้รถยนต์น้ำมันรั่ว แถมยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์อีก แฟรงค์ว่าหากเราลองตรวจเช็กสภาพรถยนต์ก่อนหน้านี้ ดีกว่ามาจ่ายค่าซ่อมรถหลักหมื่นไปจนถึงแสนนะครับ เดินทางไปไหนก็ช่วยให้อุ่นใจมากขึ้น
พอหลังจากรู้สาเหตุน้ำมันรั่วซึมใต้ท้องรถแล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมทำประกันรถยนต์ , ประกันรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อคุ้มครองทั้งตัวรถตัวคุณในทุกเส้นทางด้วย หรือถ้าคุณยังรู้สึกกังวลใจก็สามารถซื้อความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมอย่างน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันหล่อลื่นของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน มั่นใจเลยว่าคุณจะได้รับความคุ้มครอง และบริการที่ดีที่สุดจากบริษัทประกันภัยชั้นนำแน่นอน
 
ประกันรถยนต์

The post น้ำมันรถรั่วเกิดจากสาเหตุอะไร แล้วต้องทำยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ดูแลรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นาน ต้องทำอย่างไรบ้าง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%88%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Sat, 16 May 2020 01:12:46 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11772 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากที่พวกเราทุกคนประสบวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยของตัวเอง จึงเป็นเหตุทำให้เพื่อนๆ หลายคนที่โดยสารหรือขับขี่รถยนต์ทุกๆ วันนั้นก็ต้องพักเบรก งดขับรถยนต์ในช่วงนี้ จนต้องจอดทิ้งเอาไว้อยู่ที่โรงรถ แต่สำหรับรถยนต์ที่จอดไว้นานแบบนี้ อย่างในช่วงวิกฤติโควิด-19 จะส่งผลให้ตัวรถเกิ

The post ดูแลรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นาน ต้องทำอย่างไรบ้าง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากที่พวกเราทุกคนประสบวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยของตัวเอง จึงเป็นเหตุทำให้เพื่อนๆ หลายคนที่โดยสารหรือขับขี่รถยนต์ทุกๆ วันนั้นก็ต้องพักเบรก งดขับรถยนต์ในช่วงนี้ จนต้องจอดทิ้งเอาไว้อยู่ที่โรงรถ
แต่สำหรับรถยนต์ที่จอดไว้นานแบบนี้ อย่างในช่วงวิกฤติโควิด-19 จะส่งผลให้ตัวรถเกิดปัญหาได้นะ กว่าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เราอาจจะต้องเข้าศูนย์ เสียค่าซ่อมหลายบาทอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะ วันนี้เรามีเคล็ดลับดูแลรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นานมาฝากทุกคนกัน เพื่อให้รถยนต์สุดที่รักอยู่กับเราไปนานๆ ด้วย

1. ล้างรถให้สะอาด

จอดทิ้งไว้นาน
รถที่จอดทิ้งไว้นาน หรือไม่ได้นำออกไปใช้งานบ่อยๆ มักจะพบกับคราบฝุ่น รอยเปื้อนต่างๆ รวมถึงหากเราเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย อาจจะมีเศษขนต่างๆ ติดอยู่ที่บริเวณรถ ดังนั้นเพื่อให้รถเราของพร้อมใช้งานอยู่เสมอ สามารถทำได้ด้วยการการหมั่นล้างรถ  จะช่วยให้รถยนต์สะอาด ใหม่เอี่ยม และพร้อมใช้งาน

2. จอดรถในที่ที่เหมาะสม

ตั้งแต่เดือนเมษายนต่อเนื่องมาถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิในประเทศไทยสูงถึง 45 องศา ดังนั้นการเลือกจอดรถในที่ที่เหมาะสม มีอากาศที่ถ่ายเท และไม่ร้อนจนเกินไป  จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถเรา แต่ก็ไม่ควรจอดรถอยู่ในที่รกร้าง เพราะอาจจะมีสัตว์เล็กๆ เช่น หนู หรืองู เข้าไปอาศัยอยู่ภายในรถของเรา

3. หาเวลาสตาร์ทรถ

ดูแลรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นาน
จอดรถไว้นาน หลายคนมักจะทิ้งระยะเวลาในการสตาร์ทรถ หรืออาจจะสตาร์ทรถแค่อาทิตย์ละครั้ง  แต่เพื่อความสบายใจ และเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานของรถให้นานขึ้น
การหมั่นสตาร์ทรถบ่อยๆ สักสามวันต่อครั้งนั้นก็ถือว่าจำเป็นมากๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเครื่องยนต์ และระบบต่างๆ ของรถให้ได้ทำงาน หรืออาจจะปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที เพื่อให้ไฟเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ จะช่วยป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพนั่นเอง
และสำคัญที่สุดสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กรมธรรม์ประกันรถยนต์ใกล้หมดอายุแล้ว หรือใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ประเภทที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด ก็สามารถเช็กเบี้ยผ่านช่องทางออนไลน์กันได้แล้ว ปลอดภัย และอุ่นในช่วงวิกฤติแบบนี้ด้วยนะ
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com
 
ประกันรถยนต์

The post ดูแลรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นาน ต้องทำอย่างไรบ้าง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านดูคุณทำได้ ! 14 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ https://www.bolttech.co.th/blog/14%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=14%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c Sat, 19 Oct 2019 04:38:01 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8471 กำลังจะสอบใบขับขี่ หรือกำลังหาวิธีการบำรุงรักษารถยนต์ บทความนี้ตอบคุณได้ครบเกือบหมดภายในไม่กี่นาทีรู้เลยต้องดูแลรถยนต์ยังไง

The post อ่านดูคุณทำได้ ! 14 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับ! หากคุณกำลังมองหาเคล็ดลับการดูแลรถยนต์เบื้องต้น เพื่อใช้ติวข้อสอบใบขับขี่ในโหมดสอบบำรุงรักษารถยนต์ ซึ่งเราจะอธิบายโดยรวมเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ให้กับมือใหม่ หมายความว่า เราอาจจะไม่ได้บอกใบ้ข้อสอบใบขับขี่แบบตรง ๆ เสียทีเดียวนะครับผม และถ้าคุณพร้อมแล้ว! เรามาอ่านวิธีดูแลรถยนต์ 14 ข้อ เพื่อตรวจเช็กสภาพรถด้วยตัวเองให้ขับฉิ่ว-วิ่งฉลุยกันเถอะ

1. ใช้น้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่เท่านั้น

วิธีดูแลรถยนต์ที่ถูกต้อง คุณจะต้องห้ามใช้น้ำดื่มหรือน้ำปะปาเติมเด็ดขาด เพราะน้ำดื่มทั่วไปมีแร่ธาตุเยอะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ แนะนำให้เลือกน้ำกลั่นคุณภาพดีเป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ใช้หน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้าภายในแบตเตอรี่ ห้ามใช้น้ำกรดเติมเด็ดขาด !!

เคล็ดลับดูแลรักษาแบตเตอรี่ของรถยนต์ 

  • เราจะต้องหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่น 
  • ควรเติมน้ำกลั่นอยู่ในระหว่างขีดกำหนดของแบตเตอรี่ไม่มากเกินไม่น้อยไป

วิธีเช็กว่าแบตเตอรี่อยู่ดีหรือไม่ ? ให้บีบแตรฟังเสียงก็ได้ว่า เสียงเป็นยังไง ปกติหรือเบาลง

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

2. ขั้วแบตเตอรี่ต้องดูแลให้ไม่มีคราบขี้เกลือ

สำหรับการดูแลรักษารถยนต์ เราก็อย่าลืมสังเกตว่ามีขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่หรือไม่ หากแบตเตอรี่ไม่สะอาดมีคราบขาว ๆ ซึ่งอาจเกิดจากขั้วแบตเตอรี่หลวม ชำรุด น้ำกลั่นล้น หรือเกิดจากการขัดตัวล็อกขั้วไม่แน่น รวมทั้งสายไฟเสื่อม ฯลฯ 
การบำรุงรักษารถยนต์ที่มีคราบขี้เกลือให้น้ำอุ่นราดบริเวณที่เป็นขี้เกลือ ค่อย ๆ ราดลงไปอย่างระมัดระวัง ใช้แปรงสีฟันขัด เตรียมผ้าแห้งมาเช็ดให้เนียนกริ้บ ห้ามทิ้งคราบน้ำเหลือ เพราะอาจจะทำให้เกิดสนิมได้!  ตามด้วยการทาจาระบีเคลือบ 
บทความที่เหมาะกับคุณ : ขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่ เพราะใช้รถเก่าจริงหรือ?

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

3. เราจะต้องหมั่นดูแลหม้อน้ำเป็นประจำ

เนื่องจากหม้อน้ำรถยนต์ช่วยระบายความร้อนเครื่องยนต์ และพัดลมหม้อน้ำมีหน้าที่ช่วยระบายความร้อนของหม้อน้ำเช่นกัน สำหรับการดูแลรถยนต์นั้น เราจะต้องเช็กว่าถังพักหม้อน้ำอยู่ระหว่างเกณฑ์สูง-ต่ำ (Full-Low) ที่กำหนดไว้หรือไม่? 
ส่วนใหญ่เราจะไม่ได้เติมกันบ่อย ๆ หรอกครับ หากเติมบ่อยเกินอาจจะแปลว่า “หม้อน้ำรั่ว หรือฝาหม้อน้ำมีปัญหาแล้วล่ะ”
ปกติแล้วการดูแลรถยนต์ส่วนหม้อน้ำ จะเน้นเป็นการเช็กคร่าว ๆ มากกว่า เช่น หม้อน้ำยุบหรือไม่ สภาพยังปกติอยู่ไหมหนอ รวมทั้ง ตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำก่อนใช้งานทุกวันคือวิธีป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนจัด 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับหม้อน้ำรถยนต์ร่วมด้วย 

  • เราไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำตอนเครื่องร้อนจัดหรือรถเพิ่งจอด เพราะน้ำร้อนอาจจะพุ่งขึ้นมาโดนเรามีอันตรายถึงชีวิต
  • และไม่ควรเติมน้ำในถังพักหม้อน้ำให้เต็มถัง เราต้องเผื่อพื้นที่ให้น้ำขยายตัวเมื่อเกิดความร้อนด้วย

ต้องรอด!! หากเครื่องรถร้อนจี๋ !

ถ้าขับรถอยู่ดีๆ เจอสัญญาณเตือนบนคอนโซลรถว่า “ความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ”  วิธีดูแลรถตอนเครื่องยนต์ร้อนจัด เราไม่ควรเอาน้ำราดลงที่เครื่องยนต์นะ ถ้าหากเครื่องยนต์เกิดความร้อนขึ้นทางออกที่ดีคือ

  • ตั้งสติ และปิดแอร์
  • หาที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์ และจอดรถยนต์ในที่ปลอดภัย 
  • เปิดหน้าต่างรถยนต์
  • เปิดฝากระโปรงรถยนต์เพื่อระบายความร้อน 
  • จอดสักพักจนเครื่องยนต์เย็นลงค่อยเติมน้ำลงหม้อน้ำนะครับ 

ระหว่างรอคุณควรโทรหาหรือติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษา และขอความช่วยเหลือจะดีที่สุดหรือหนักมากจนเอาไม่อยู่ ควรนำส่งรถยนต์ให้ช่างตรวจเช็กสภาพรถทันที อย่าฝืนขับนะครับ หรือจะอ่านวิธีเอาตัวรอด!! เมื่อฝาหม้อน้ำรั่ว เติมความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ไว้ก่อนก็ได้

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

4. เช็กสภาพท่อยางหม้อน้ำบ้าง

ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะครับ หากท่อยางหม้อน้ำรั่วหรือมีปัญหาจะส่งผลต่อเครื่องยนต์โดยตรง วิธีการดูแลท่อยางหม้อน้ำรถยนต์ไม่ยากเลย ลองจับท่อยางรถยนต์บีบเช็กว่ายังยืดหยุ่นอยู่หรือไม่? ถ้าลองบีบ ๆ แล้วพบว่ายังยืดหยุ่นดี ไม่แข็งกรอบหมายความว่า ท่อยางหม้อน้ำยังใช้งานได้ดีอยู่นะ 

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

5. น้ำมันเครื่องอย่าปล่อยให้แห้งขอด 

อธิบายกันเจาะลึกเคล็ดลับการดูแลรถยนต์กันแล้ว มาเรียนรู้การบำรุงรักษารถยนต์ส่วนน้ำมันเครื่องกันบ้าง นอกจากนี้เราจะต้องเปลี่ยนทุกปีเป็นประจำ เรายังมีวิธีการตรวจสอบรถยนต์ตามนี้

วิธีการเช็กระดับน้ำมันเครื่อง

จอดรถที่ราบ เปิดฝากระโปรงรถยนต์ การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดควรตรวจสอบหลังจากดับเครื่องอย่างน้อย 10-15 นาที

วิธีการเช็กง่าย ๆ

  • ดึงก้านน้ำขึ้นมา และเช็ดก้านวัดน้ำมันให้สะอาด (ห้ามใช้ผ้าหรือทิชชู่ที่เป็นขุย) เสียบกลับไปอีกครั้ง 
  • เสียบก้านน้ำมันกลับเข้าไป 
  • พร้อมกับดึงก้านน้ำมันขึ้นมาอีกครั้ง เช็กส่วนปลายของก้านวัดว่า น้ำมันยังอยู่ในระดับที่ควรจะเป็นระหว่างขีด F - L หรือ Max - Min ไม่มากเกินไม่น้อยไปครับ

พร้อมกันนี้ ยังมีวิธีการตรวจสอบน้ำมันเครื่องยนต์ตาเปล่า เช่น สีน้ำมันเปลี่ยนไปไหม ความหนืดเป็นอย่างไร มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนไหม ไม่ต้องดมกลิ่นนะ เราควรดูแลรถยนต์เป็นประจำอย่างน้อย 1-2 ครั้ง/สัปดาห์

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

6. สายพานรถยนต์เปลี่ยนทุก ๆ 50,000 กิโลเมตร 

อ่านการดูแลรักษารถยนต์ถึงตรงนี้ คุณเริ่มรู้สึกเหนื่อยหรือยังครับ ? ฮืบ ๆ มา ๆ แฟรงค์จะเล่าแบบย่อไม่ยืดยาวกับการดูแลสายพานรถยนต์เราสามารถกดเช็กได้ด้วยการใช้นิ้วมือกดสายพานเบาๆ จะต้องไม่เปื่อย ไม่แตกลายงา อย่าปล่อยให้สายพานรถยนต์เสื่อมนะครับ หากเสื่อมจนขาดงานเข้าแน่ โดยปกติแล้วสายพานรถยนต์แต่ละเส้นจะมีอายุการใช้งาน 50,000 กิโลเมตร หรือใช้ 2-3 ปีก็ต้องเปลี่ยน

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

7. ไส้กรองอากาศรถต้องไม่ดำเกินไป 

มาถึงขั้นตอนการบำรุงรักษารถยนต์ดูแลไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตัวเองฉบับพื้นฐาน สังเกตง่ายเลย ถ้าไส้กรองดำอุดตันจะทำให้รถยนต์เร่งไม่ขึ้น และน้ำมันเครื่องปนเปื้อน การเช็กต้องแกะมาดูครับ หากไส้กรองอากาศดำปี๋ นำมาเคาะ เป่าลมเบา ๆ ป้องกันแผ่นรองขาดปริ หรือถ้าดำเกิ๊นให้ช่างเปลี่ยนก็ดีนะ  

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ
ประกันรถยนต์

8. ระบบเบรกและน้ำมันเบรกต้องดูแล

เพราะประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครบถ้วนก็จริงแต่ไม่ได้คุ้มครอง ส่วนของน้ำมันเบรกหรือระบบเบรกนะครับ ดังนั้น การดูแลรักษารถยนต์ดีที่สุด คือ เราควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุกปี  ทั้งนี้ ข้อสังเกตคือสีน้ำมันเบรกคุณภาพต้องสีเหลืองใส ไม่ควรเป็นน้ำมันเบรกสีดำ 

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

9. หมั่นสังเกตหัวเทียนให้ดี

“ สงสัยหัวเทียนบอด ” (555+) ดักวัยได้พอสมควรเลยล่ะครับ ถ้าใครเก็ทประโยคที่แฟรงค์พูด เพราะเป็นโฆษณาเก่านานมาก ๆ ของน้ำมันเครื่องชื่อดัง มือใหม่หัดขับ เพิ่งเคยมีรถยนต์อาจจะสงสัยว่า “เราจะเช็กหัวเทียนยังไงล่ะ ?” 
หากไม่อยากแกะเครื่องยนต์ เพราะกลัวใส่กลับไม่ครบ (ฮ่า ฮ่า ฮ่า) ให้คุณเช็กจากอาการรถยนต์เป็นหลัก เช่น เครื่องยนต์สะดุด ดับเบา หรือเร่งไม่ค่อยขึ้น มีอาการสั่น ๆ แปลก ๆ กินน้ำมัน แน่นอนครับเป็นเพราะหัวเทียน

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

10. พวงมาลัยรถยนต์ต้องใช้งานได้ปกติ

หากพวงมาลัยไม่พริ้ว ขณะขับรถเมื่อรู้สึกว่าพวงมาลัยหนักกว่าปกติต้องออกแรงเลี้ยวมากขึ้น หรือควบคุมพวงมาลัยรถยนต์แล้วไม่เป็นอย่างใจ อาจมีสาเหตุจากระดับน้ำมันเพาเวอร์ต่ำกว่ากำหนดเป็นเพราะน้ำมันรั่วไหล ควรซ่อมแซมอย่างด่วน

ติวข้อสอบใบขับขี่

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

11. ที่ปัดน้ำฝนเช็กบ่อย ปลอดภัยขึ้น

มาถึงวิธีดูแลรถยนต์อย่าง ที่ปัดน้ำฝนสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป ทั้ง ๆ ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญช่วยให้มองเห็นชัดเจนเวลาขับรถฝ่าฝน เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า “ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนตอนไหน” ลองสังเกตตามที่ Frank เล่านะครับ

  • หากยางปัดน้ำฝนแข็งเกิน ไม่ยืดหยุ่น ควรเปลี่ยน
  • ที่ปัดน้ำฝนปัดไม่สะอาด มองไม่เห็น ควรเปลี่ยน
  • ใบปัดน้ำฝนเริ่มสร้างรอยขีดข่วนให้กับกระจก ควรเปลี่ยน
  • จอดรถตากแดดนาน ๆ จนกระทั่งยางปัดน้ำฝนละลาย ควรเปลี่ยน
  • ใบปัดฉีกขาด ควรเปลี่ยน
  • ระหว่างใช้งานปัดน้ำฝนมีเสียงดังตลอดเวลา ควรเปลี่ยน
  • ใช้งานนานเกิน 12 เดือน ควรเปลี่ยน

หากมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น จงดูแลรถยนต์ให้ดี และเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตคุณดีกว่า

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

12. หน้าคอนโซลก็ต้องสังเกตทุกครั้ง

สัญญาณเตือนที่คอนซอลหน้ารถอันตรายไหม ตอบเลยว่า “เจอไฟสัญญาณสีแดงบนหน้าคอนโซลรถยนต์ต้องระวังครับ” เพราะรถยนต์แต่ละคันจะมีสัญญาณเตือนแบตเตอรี่, สัญญาณเตือนเบรกมือ, สัญญาณเตือนประตูปิดไม่สนิท, สัญญาณเตือนระดับน้ำมันเครื่อง, สัญญาณเตือนเครื่องยนต์ร้อน ฯลฯ หากสัญญาณนั้นเป็นสีแดง! หมายความว่าอาการหนักแล้วล่ะจงพารถไปซ่อม หากไฟสัญญาณนั้นเป็นสีเหลืองหรือส้ม แนะนำให้คุณดูแลรถยนต์เป็นประจำ ถ้าไม่อยากเปย์ค่าซ่อมหนักๆ

ติวข้อสอบใบขับขี่

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

13. เสียงไฟเลี้ยวผิดปกติหรือไม่

สัญชาตญาณล้วน ๆ ครับ หมั่นเช็กเสียงไฟเลี้ยว เสียงไฟฉุกเฉิน และเสียงไฟถอยหากผิดปกติจาก “ติ๊ก ต๊อกๆ”  กลายเป็นเสียงดังรัว หรือเสียงดีเลย์ช้าหน่วง ๆ และถ้าไม่มีเสียงเลย อาจจะเป็นเพราะว่าแผงวงจรไฟเรือนไมล์หลุด แนะนำสังเกตให้ดีก่อนที่ไฟเลี้ยวจะหายไปนะ

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

14. ตรวจแรงดันลมยางทุกสัปดาห์

อย่างที่แฟรงค์เคยบอก ตรวจยางรถยนต์เหมือนไปหาหมอฟัน เนื่องจากยางรถยนต์เป็นอะไหล่สำคัญที่ใช้ขับเคลื่อน เพราะยางมีหน้าที่ยึดเกาะถนนไม่ให้ลื่นไถล ส่วนวิธีดูแลรถยนต์ทำง่าย ๆ ดังนี้ครับ 

  • สลับยางหน้าหลังทุก 10,000 กิโลเมตร 
  • เติมลมตามคู่มือของรถยนต์แต่ละคัน 
  • ควรเติมลมยางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่
  • ตรวจสอบลมยางทุกสัปดาห์
  • ปิดฝาจุ๊บลมยางทุกครั้ง เพื่อป้องกันลมรั่วซึมและป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ

ทั้งนี้ การดูแลรักษายางรถยนต์ยังมีข้อควรระวังที่ต้องรู้ เช่น

  • ใช้ยางเล็กไปก็รับน้ำหนักได้น้อยลง 
  • ใช้ยางใหญ่เกินก็เปลืองน้ำมัน
  • เติมลมยางเยอะเกินก็ทำให้ตรงกลางยางสึกหรอ
  • เติมลมยางน้อยไปก็ทำให้ดอกยางด้านข้างเสื่อม
  • ลมยางล้อซ้ายหน้าด้านอ่อนเวลาขับรถพวงมาลัยจะหนักด้านซ้าย เช่นเดียวกันลมยางล้อขวาด้านหน้าอ่อนจะทำให้พวงมาลัยหนักขวา สรุปง่าย ๆ ยางหน้าด้านไหนอ่อน พวงมาลัยจะเทไปทางนั้นครับ

ติวข้อสอบใบขับขี่ 

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้

หมายเหตุ : ตัวเลือก ก - ง อาจจะเปลี่ยนแปลง แนะนำให้จำคำตอบก็พอนะครับ

อ่านดูคุณทำได้ ! วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ 14 ข้อทำครบยืดอายุรถได้
เป็นไงบ้างครับ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์และเคล็ดลับดูแลรถยนต์กันแบบจัดหนักจัดเต็มเลยใช่ไหมล่ะ ?!

สรุปว่า...

หากเช็กเครื่องยนต์แล้วเจอจุดไหนเสื่อม หรือมีปัญหาควรนำรถเข้าซ่อมทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้!! เพราะนอกจากเราจะเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรถรักษารถยนต์แล้ว ยังเสี่ยงจ่ายค่าซ่อมรถยนต์มากขึ้นด้วย หรือถ้าสนใจประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นไหน ๆ ที่ Frank.co.th มีให้เลือกครบครัน 
ขอบคุณข้อมูลจาก : dlt.go.th, ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์พร้อมเฉลย ปี 2562 
Content by Butter Cutter

The post อ่านดูคุณทำได้ ! 14 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
“ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม https://www.bolttech.co.th/blog/%e2%80%9c%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%9d%e0%b8%99%e2%80%9d-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e2%2580%259c%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599%25e2%2580%259d-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1 Fri, 12 May 2017 07:48:06 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=2547 ถ้าไม่ใช่ช่วงฤดูฝน คงไม่ค่อยมีใครคิดจะเปลี่ยน “ใบปัดน้ำฝน” กันเป็นแน่..หลายคนปล่อยให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จำเป็นต้องใช้มันนั่นแหละ เรื่องของใบปัดน้ำฝนนี้อาจจะมองเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับรถโดยตรง ลองคิดดูว่าถ้าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ปัดน้

The post “ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ถ้าไม่ใช่ช่วงฤดูฝน คงไม่ค่อยมีใครคิดจะเปลี่ยน “ใบปัดน้ำฝน” กันเป็นแน่..หลายคนปล่อยให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จำเป็นต้องใช้มันนั่นแหละ เรื่องของใบปัดน้ำฝนนี้อาจจะมองเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับรถโดยตรง ลองคิดดูว่าถ้าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ปัดน้ำที่ติดอยู่บนกระจกหน้ารถไม่หมด มันจะเกิดอะไรขึ้น? การที่ทัศนวิสัยในการขับขี่เป็นศูนย์ คงไม่มีใครอยากเอาชีวิตของตัวเองและคนที่คุณรักที่โดยสารไปด้วยต้องตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจริงมั้ย?
“ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม

ใบปัดน้ำฝนสำคัญ

ในวันที่ฝนตก คุณจำเป็นต้องพึ่งพาที่ปัดน้ำฝนบนกระจกหน้ารถ เพื่อปรับปรุงการมองเห็นและช่วยให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอันดับแรกที่จำเป็นต้องใช้งานในช่วงฤดูฝน แต่น่าเสียดายที่ปัดน้ำฝนดีๆ มักจะถูกละเลย ซึ่งมีหลายคนเลือกที่ปัดน้ำฝนที่ราคาถูกมาใช้งาน เพียงคิดแค่ว่า “ใช้ๆ ไปก่อน เดี๋ยวก็หมดฤดูฝนแล้ว ไม่ต้องซื้อของแพงหรอก”
“ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม

อะไรทำให้ที่ปัดน้ำฝนเสื่อม?

ที่ปัดน้ำฝนเสื่อมและสึกหรอลงจากปัจจัยหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรวมกันของฝุ่นควันไอเสียและอากาศร้อนระอุ ปัดน้ำฝนที่ดีควรได้รับการออกแบบให้ทนทาน ใช้งานได้นาน โดยส่วนผสมของใบปัดน้ำฝนจะมีสูตรการผสมยางแบบพิเศษที่ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานในสภาพแวดล้อมแบบเขตเมืองร้อน ถามว่าที่ปัดน้ำฝนราคาถูกสามารถใช้งานได้หรือไม่…คำตอบคือสามารถใช้งานได้ แต่ใช้งานได้ไม่นาน เนื่องจากเนื้อยางที่คุณภาพไม่ดีพอจะสึกหรอเร็วขึ้นในเขตร้อน ผู้ใช้รถควรตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่ตกอยู้ในความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุใดๆ จากวิสัยทัศน์ที่ถูกจำกัดเพราะใบปัดน้ำฝนไม่สามารถรีดน้ำออกจากกระจกหน้าได้อย่างหมดจด

ที่ปัดน้ำฝนเป็นสิ่งที่หลายคนไม่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากเลยนะครับ

ประกันภัยรถยนต์

ใบปัดน้ำฝนเสื่อมทำให้กระจกเป็นรอย

ใบปัดน้ำฝนที่บำรุงรักษาไม่ดี จะมียางที่ลอกออกมาแล้วถูกลากผ่านกระจกหน้ารถและสร้างความเสียหายได้อย่างไม่น่าเชื่อ กระจกหน้ารถที่เสียหายจะจำกัดทัศนวิสัยให้แย่ไปกว่าเดิม แม้แต่ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝน และเป็นสูตรสำเร็จของความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถ้าจะแย่ที่สุดมันอาจทำความเสียหายอย่างหนักทำให้ต้องเปลี่ยนกระจกหน้ารถกันเลยทีเดียว
การดูแลที่ปัดน้ำฝนที่ดี
จากที่อธิบายเอาไว้ใบปัดน้ำฝนจะสึกหรอจากเศษฝุ่น น้ำมัน และคราบจากสภาพแวดล้อม การดูแลควรใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดใบปัดน้ำฝนและกระจกหน้ารถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการปกป้องใบปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน และไม่ต้องเปลืองเงินเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนบ่อยๆ นะครับ แถมช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยด้วยนะ
ข้อมูลจาก grandprix.co.th
grandprix_logo_black

The post “ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5-%e2%80%9c%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e2%80%9d-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5-%25e2%2580%259c%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e2%2580%259d-%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589 Fri, 30 Dec 2016 04:43:50 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=1796 อ่านเร็วๆ 5 วิธีดูยางรถยนต์ของคุณ เติมลมยางให้พอดี สลับยางรถยนต์ เช็คลมยาง ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์ ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ สำหรับการขับรถนั้น การดูแล “ยางรถยนต์” คืออีกหนึ่งด้านของการดูแลรถยนต์ที่สำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมยางรถยนต์ให้อยู่กับเราได้นานๆ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแพงๆ แล้ว

The post 5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อ่านเร็วๆ

5 วิธีดูยางรถยนต์ของคุณ

  • เติมลมยางให้พอดี
  • สลับยางรถยนต์
  • เช็คลมยาง
  • ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์
  • ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

สำหรับการขับรถนั้น การดูแล “ยางรถยนต์” คืออีกหนึ่งด้านของการดูแลรถยนต์ที่สำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมยางรถยนต์ให้อยู่กับเราได้นานๆ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแพงๆ แล้ว ยังมีในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วยครับ frank ขอเอาเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการดูแลยางรถยนต์มาฝากกันครับ

1. เติมลมยางให้พอดี

ในหนังสือคู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีบอกเสมอครับว่ารถยนต์รุ่นนั้นๆ ควรเติมลมยางเท่าไหร่ ยางหน้าเท่าไหร่ ยางหลังเท่าไหร่ ซึ่งปริมาณลมยางที่เหมาะสมนอกจากเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้อีกด้วยล่ะครับ แต่ถ้าหากไม่มั่นใจเรื่องขนาดลมยางจริงๆ ควรเติมให้ต่างจากปริมาณเดิม บวกลบไม่เกิน 1-4 ปอนด์เท่านั้นนะครับ

2. สลับยางรถยนต์

ยางรถยนต์ เมื่อใช้รถไประยะหนึ่ง ยางจะเกิดการสึกกร่อนเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะยางรถยนต์คือส่วนที่สัมผัสกับหน้าถนนในทุกๆ วัน เพราะฉะนั้น หากเราขับรถไปนานๆ และไม่ทำการสลับยางเลย จะทำให้ยางสึกกร่อนไม่เท่ากันตลอดทั้งเส้น เคล็ดลับก็คือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ของการใช้รถ ควรให้ช่างสลับยางครับ แต่ควรระวังในเรื่องของลมยางหน้า และลมยางหลังที่มักจะไม่เท่ากัน อย่าลืมปรับให้พอดีเพื่อความปลอดภัยด้วย

3. เช็คลมยาง

การเช็คลมยาง เช็คยิ่งบ่อย ก็ยิ่งดีครับ เพราะยางรถยนต์ของรถแต่ละรุ่น แต่ละขนาด จะมีความจุลมที่พอเหมาะพอควรเพื่อความปลอดภัยแตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้เช็คอาทิตย์ละครั้ง และให้เช็คลมยางขณะที่ยางรถยนต์เย็นเท่านั้นนะครับ หากพึ่งขับรถมาใหม่ๆ ยางจะมีความร้อน และทำให้ค่าไม่นิ่งและสูงกว่าปกติ ไม่เหมาะกับการหาค่าลมยางนั่นเอง

4. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์

ต่อมา เคล็ดลับการดูแลอีกข้อคือเรื่องของการถ่วงล้อรถยนต์ครับ การตั้งศูนย์ล้อ หรือถ่วงล้อนั้น คือการสร้างความสมดุลให้กับล้อรถยนต์ของเราครับ เพราะมิฉะนั้นล้อจะมีความสั่นสะเทือน ทำให้ยางเกิดการสึกเร็วกว่าปกติ พวงมาลัยสั่นเวลาขับรถ ควบคุมรถได้ยาก และอาจจะทำให้เกิดอันตรายขณะใช้รถใช้ถนนได้นะครับ ซึ่งปกติแล้ว เวลาที่เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทุกๆ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ก็จะต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อทันที หรือหากเวลาที่เพื่อนๆ เช็คระยะรถยนต์ จะให้ทางศูนย์เช็คด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
5. ใช้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เพื่อการยืดอายุการใช้งานของยางของคุณให้ได้นานที่สุด และปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด ข้อสุดท้ายก็คือการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานครับ โดยหลักๆ จะมียางที่เหมาะกับการใช้รถใช้ถนนในเมือง ที่ขับกับถนนเรียบๆ และยางที่เหมาะกับการใช้งานหนักๆ ตามต่างจังหวัดที่อาจจะมีถนนขรุขระ หินคลุก ทางลูกรัง ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเป็นต้น ซึ่งเพื่อนๆสามารถปรึกษาได้ที่ร้านผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องยางได้เลยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ กับเคล็ดลับการดูแลรักษายางให้อยู่กับเราไปนานๆ ทั้ง 5 ข้อนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ข้อมูลจาก gobear.com,

The post 5 วิธีดูแล “ยางรถยนต์” ที่คนขับรถทุกคนควรรู้! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ขั้นตอนพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ถูกต้อง ไม่ให้ไฟช็อต! https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c#comments Mon, 11 Jul 2016 08:01:31 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=468   การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่รถเราไฟหมดหรือเริ่มไม่มีประจุไฟอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่น่าจะเกินช่วงเวลา 2-3 ปีนับจากที่เราออกรถคันใหม่มา ทางแก้ไม่ยากเลยครับก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อันใหม่ แต่เราจะเดินทางไปซื้อหรือไปเปลี่ยนแบตเตอรี่อันใหม่กันอย่างไรล่ะ ถ้าเกิดเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดแบตหมดขึ้นมา เราก็ค

The post ขั้นตอนพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ถูกต้อง ไม่ให้ไฟช็อต! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
 
การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่รถเราไฟหมดหรือเริ่มไม่มีประจุไฟอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่น่าจะเกินช่วงเวลา 2-3 ปีนับจากที่เราออกรถคันใหม่มา ทางแก้ไม่ยากเลยครับก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อันใหม่ แต่เราจะเดินทางไปซื้อหรือไปเปลี่ยนแบตเตอรี่อันใหม่กันอย่างไรล่ะ ถ้าเกิดเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดแบตหมดขึ้นมา เราก็คงต้องขอจั๊มไฟแบตเตอรี่ของรถเพื่อนบ้านกันสักหน่อย ว่าแล้วขั้นตอนการพ่วงแบตที่ถูกต้องทำยังไงนะ มาศึกษากันเลยครับ

1. เตรียมพ่วงสายแบตเตอรี่มาให้เรียบร้อย

สายพ่วงแบตรถยนต์มี 2 เส้นนะครับ เส้นแรกสีแดง ก็คือประจุไฟขั้วบวก ส่วนอีกเส้นสีดำหรือสีเขียว คือประจุไฟขั้วลบ โดยเราจะต้องเลื่อนรถยนต์ที่มาให้ความช่วยเหลือหันหน้ารถมาหาเรา แต่ห้ามชิดกันนะครับ หลังจากนั้นให้เราดับเครื่องยนต์ วิทยุ ระบบแอร์ เครื่องเสียงของรถทั้ง  2 คันก่อน แล้วค่อยเปิดฝากระโปรงหน้ารถ

2. ต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ตามลำดับ

  • ต่อสายสีแดงเข้ากับขั้วบวกของรถคันที่แบตหมดก่อน แล้วเอาปลายสายไปต่อกับขั้วบวกของรถยนต์คันที่มาช่วย
  • หลังจากนั้นค่อยนำสายสีดำเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่รถคันที่มาช่วย ส่วนอีกฟากให้หนีบที่โลหะในเครื่องยนต์

แต่ขอย้ำก่อนว่า!! ให้หนีบตรงโครงของรถที่เป็นเหล็ก อย่าไปต่อโดยตรงกับก้อนแบตเตอรี่เด็ดขาด ไม่งั้นอาจทำให้ตัวแบตเตอรี่ระเบิดได้ การต่อสายพ่วงแบตรถยนต์ที่ดีเราควรทำตามลำดับครับ
เมื่อเสร็จแล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มาช่วย อาจจะเร่งเครื่องยนต์เพียงเล็กน้อย จึงค่อยสตาร์ทรถคันที่แบตหมดทีหลัง แนะนำให้บิดกุญแจไปทีละช่วงจนกว่าเครื่องยนต์สตาร์ทติด

3. การถอดสายพ่วงก็ต้องทำตามลำดับ

เมื่อรถยนต์สตาร์ทติดแล้ว ก็มาถึงลำดับการถอดสายพ่วงแบตรถยนต์กันบ้าง ให้เราทำตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดตามนี้เลยครับ

  • อันดับแรกให้ถอดสายพ่วงสีดำ (ขั้วลบ) ที่ตัวถังรถยนต์ที่แบตเตอรี่หมดออกก่อน แล้วไปถอดปลายอีกด้านสายสีดำ (ขั้วลบ) ที่แบตเตอรี่รถคันที่มาช่วย
  • จากนั้นไปถอดสายจั๊มสีแดงที่แบตเตอรี่ของรถคันที่มาช่วยออก จึงค่อยถอดปลายสีแดงอีกด้านจากแบตเตอรี่ของรถคันที่ไฟหมด แต่ต้องระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ให้สายพ่วงต่างสีมามสัมผัสกันเด็ดขาด เดี๋ยวจะเกิดอันตรายเหมือนเกิดไฟช็อตได้ครับ

 

ข้อควรระวัง

  • ทางที่ดีเราควรสวมใส่ถุงมือและใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาด้วย
  • ไม่ควรให้สายจัมพ์ต่างสีมาสัมผัสกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดประกายไฟตามมา
  • การต่อสายสีดำ หรือขั้วลบของแบตเตอรี่คันที่แบตหมด ให้ต่อไปที่โครงที่เป็นเหล็กของรถยนต์ ไม่ใช่ตัวถังรถนะครับ และการต่อแบบนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ประจุไฟของรถคันที่มาช่วยถ่ายเทไปยังแบตเตอรี่คันไฟหมดเกินไปนั่นเอง
  • ไม่แนะนำให้พ่วงกับรถคันที่เเบตใกล้จะหมด เพื่อความปลอดภัยครับ
  • ห้ามสูบบุหรี่ จุดไฟแช็ก หรือใช้อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดประกายไฟระหว่างพ่วงแบตเตอรี่เด็ดขาด

 
หวังว่าเช้าวันทำงานที่เราเจอปัญหาเรื่องรถสตาร์ทไม่ติดแบตหมด จะไม่ทำให้เราหมดไฟตามแบตเตอรี่นะครับ หรือถ้าใครที่พ่วงแบตรถยนต์ไม่ติด อาจเกิดจากปัญหาแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพก็ได้ แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแบตโดยด่วน หรือเพื่อความปลอดภัยชัวร์ๆ เเฟรงค์ว่าเรานำรถเข้าศูนย์บริการซ่อมดีกว่า เพราะทางเจ้าหน้าที่จะได้รีบเช็กสภาพรถให้ถูกจุด แต่ถ้าคุณพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ได้แล้ว ลองเตรียมหาวันลายาวๆ เลยครับ แล้วขับรถเที่ยว 55 พิกัดในไทยก็ฟินไม่แพ้กัน แต่อย่าลืมทำประกันรถยนต์กับ frank.co.th ให้ช่วยดูแลทุกเส้นทางกันด้วยนะ อิอิ
 
ประกันรถยนต์

The post ขั้นตอนพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ถูกต้อง ไม่ให้ไฟช็อต! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c/feed 1