Bolttech Insurance Broker
LinePhone

ฝนตก รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร?

ขับรถลุยฝนอยู่ดีๆ รถสตาร์ทไม่ติด เครื่องดับซะงั้น ผู้ขับขี่มักพบเจอปัญหานี้ได้บ่อยสุด โดยเฉพาะตอนที่ขับรถลุยน้ำท่วม นอกจากเจอปัญหารถติดให้กวนใจแล้วยังเสี่ยงรถพังอีกด้วย เราควรระมัดระวังในการขับขี่ให้ดีๆ ซึ่งสาเหตุที่ฝนตก สตาร์ทรถไม่ติด เกิดจากอะไรบ้าง? แก้ไขเบื้องต้นยังไงดี วันนี้เพนกวิน bolttech.co.th กูรูประกันภัยออนไลน์ รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว

1. น้ำเข้าในระบบกรองอากาศ

ฝนตก รถสตาร์ทติดยาก

เกิดจากเครื่องยนต์สำลักน้ำ อาการเดียวกับคนที่น้ำเข้าจมูกและปาก ผ่านทางเดินหายใจ แต่ถ้าน้ำเข้าในเครื่องยนต์จะผ่านไส้กรองอากาศ หรือข้อต่องวงช้างไส้กรองอากาศ เข้าไปทางไอดีสู่ห้องเผาไหม้ในตัวเครื่องยนต์ 

วิธีแก้ไขเบื้องต้น: 

เมื่อน้ำเข้าไปในระบบกรองอากาศ สำรวจไส้กรองอากาศว่า ไส้กรองเปียกน้ำหรือไม่ กรณีที่ไม่เปียกแสดงว่าน้ำยังไม่เข้าเครื่อง แต่ถ้าไส้กรองอากาศเปียกน้ำ ให้โทรหาบริษัทประกันรถยนต์ที่อยู่ความคุ้มครอง หรือโทรเรียกรถยกรถลากได้เลย  

2. ระบบไฟฟ้าช็อต เสียหาย

ฝนตก รถสตาร์ทติดยาก

กรณีที่น้ำท่วมเข้า กล่องควบคุม (ECU) เครื่องยนต์ มีหน้าที่ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร รถสตาร์ไม่ติด เงียบ  และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยนต์เสียหายด้วย เช่น

  • แบตเตอรี่รถยนต์ 
  • ไดชาร์จเสีย 
  • ระบบแอร์พัง 
  • พวงมาลัยไฟฟ้า EPS 
  • ไฟหน้า และไฟท้าย 
  • คอนโซลหน้ารถ 
  • วิทยุ 

วิธีแก้ไขเบื้องต้น: 

ขณะที่น้ำเข้าเครื่องยนต์ไปแล้ว ห้ามสตาร์ทรถหรือบิดกุญเจไปที่ on เด็ดขาด  เพราะถ้าระดับน้ำท่วมสูงอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร เสียหายหนัก ควรรีบถอดแบตเตอรี่ออก 

ถ้าพบว่า น้ำเข้าแบตเตอรี่รถยนต์  ให้ติดต่อช่างเข้ามาตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ และตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในรถยนต์ เช่น แผงที่หน้าปัด คอลโซลต้องถอดออกมาทำความสะอาด และเป่าให้แห้งสนิท รวมถึงให้ช่างตรวจสอบของเหลวทุกอย่างในรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำหล่อเย็น ให้ทุกอย่างกลับมาทำงานปกติ 

แต่ถ้า รถสตาร์ทไม่ติด ไฟเครื่องโชว์ อาจบ่งบอกว่า มอเตอร์สตาร์ทเสื่อมสภาพ ฟิวส์มอเตอร์สตาร์ทขาด แบตเตอรี่เสื่อม น้ำมันใกล้หมด ให้ลองตรวจสอบก่อน บางทีอาจจะไม่ได้เสียหายมากนัก 

3. น้ำเข้าท่อหายใจของเครื่องยนต์ (ท่อไอดี)

ฝนตก รถสตาร์ทไม่ติด

การขับรถลุยน้ำท่วม ทำให้น้ำเข้าท่อไอเสียเครื่องยนต์ และทำให้หัวฉีดเชื้อเพลิงพังเสียหาย เครื่องยนต์ดับทันที ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์รุ่นเก่าๆ ใช้งานมานานก็ต้องยกเครื่องใหม่เปลี่ยนเลย 

วิธีแก้ไขเบื้องต้น:

หากเครื่องยนต์ไม่ดับแต่ยังรู้ตัวว่า น้ำเริ่มเข้าท่อไอเสียรถยนต์ พยายามขับเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังเพราะไม่ให้น้ำเข้าท่อไอดี มิเช่นนั้นระบบหัวฉีดและห้องเผาไหม้ เมื่อถึงจุดหมายแล้วอย่าเพิ่งให้ดับเครื่องทันที ควรสตาร์ทรถไว้สักพัก  เพราะอาจมีน้ำค้างในหม้อพักของท่อไอเสีย แล้วค่อยล้างรถและฉีดน้ำเข้าไปบริเวณใต้ท้องรถเพื่อทำความสะอาด จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้เรียบร้อย 

ข้อควรระวัง คือ  อย่าลืมปิดแอร์ภายในรถขณะขับลุยน้ำ เนื่องจากเวลาเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับ

รถสตาร์ทไม่ติด

แต่ถ้าโชคร้ายจู่ๆ รถดับกลางถนน รถสตาร์ทไม่ติด จะทำอะไรก็ไม่ได้ สามารถนำรถไปตรวจเช็กที่อู่ซ่อมรถ เพื่อล้างท่อร่วมไอดี ไล่ท่อน้ำมันต่างๆ ของหัวฉีด ไล่เปลี่ยนซีลฝาวาล์ว ซีลแป็บหัวฉีด ซีลเบ้าหัวฉีด เป็นต้น

ปัญหาเรื่อง รถสตาร์ทไม่ติด รถสตาร์ทติดยาก มักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงหน้าฝน ผู้ใช้รถทุกคนควรหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้ดีๆ ทั้งยางรถยนต์ ระบบเบรก เเบตเตอรี่ ที่ปัดน้ำฝน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่สำคัญ ก็จะช่วยให้รถของคุณใช้งานได้นานขึ้น หมดปัญหาเรื่องค่าซ่อมรถแพงๆ และลดโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วย  

ถึงฝนตกหนักแค่ไหนก็อุ่นใจ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 และ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นเพื่อนคู่ใจตลอดเส้นทาง คุ้มครองรถจากอุบัติเหตุ คุ้มครองรถน้ำท่วม เลือกทุนประกันและประหยัดเบี้ยได้ตามใจคุณ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน สนใจเช็กเบี้ยประกันฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่ bolttech ได้เลย

ประกันรถยนต์

Sleeping Blogger

Content Writer ผู้ที่รักงานเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเล่าเรื่อง แชร์ความรู้ใหม่ๆ หรือไอเดียง่ายๆ ที่เป็นสไตล์ของตัวเอง อยากให้เพื่อนๆ สนุกไปด้วยกัน!

เชื่อมต่อ กับพวกเรา

รับข่าวสารล่าสุดและข้อเสนอโดยติดตามเราในช่องโปรดของคุณ
LineFacebook
Bolttech
บริษัท โบลท์เทค อินชัวร์นส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ใบอนุญาตินายหน้าประกันภัยหมายเลข
00017/2559
หมายเลขจดทะเบียนนิติบุคคล
0105559056161
รับรองความปลอดภัย และ อยู่ภายใต้ความควบคุม ของ
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
Security & Compliances
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
bolttech © 2021 All Rights Reserved.