ดูแลรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Wed, 24 Apr 2024 08:22:02 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico ดูแลรถ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 วิธีล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%96?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596 Mon, 25 Mar 2024 04:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=33636 การล้างรถ เป็นอีกหนึ่ง วิธีดูแลรถยนต์ ที่คนรักรถไม่ควรมองข้าม! คนที่มีรถยนต์ไฟฟ้าหรือคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเกิดความสงสัยว่าสามารถล้างรถได้หรือไม่ เพราะกังวลว่าหากรถไฟฟ้าโดนน้ำ เดี๋ยวจะช็อต! ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) สามารถล้างรถทำความสะอาดได้ เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไปgเลย  แต่อาจจะต้องเพิ่มความใส่ใจ และรู้จัก

The post วิธีล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
การล้างรถ เป็นอีกหนึ่ง วิธีดูแลรถยนต์ ที่คนรักรถไม่ควรมองข้าม! คนที่มีรถยนต์ไฟฟ้าหรือคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเกิดความสงสัยว่าสามารถล้างรถได้หรือไม่ เพราะกังวลว่าหากรถไฟฟ้าโดนน้ำ เดี๋ยวจะช็อต! ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) สามารถล้างรถทำความสะอาดได้ เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไปgเลย  แต่อาจจะต้องเพิ่มความใส่ใจ และรู้จักวิธีล้างรถให้ถูกต้อง!!

ข้อควรระวัง! การล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง

1. ไม่ควรใช้แรงดันน้ำที่แรงเกินไป

2. ไม่ควรฉีดน้ำบริเวณที่ใกล้กับแบตเตอรี่

3. ไม่ควรปล่อยให้รถเปียกน้ำเป็นเวลานาน

4. ห้ามล้างรถในขณะที่กำลังชาร์จไฟ

5. ไม่ควรฉีดน้ำตรงๆ เพื่อล้างช่องชาร์จ

วิธีการล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการล้างรถยนต์ไฟฟ้า สามารถเริ่มได้ง่ายๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเป็นต้นไป ดังต่อไปนี้

1. ปิดประตู หน้าต่าง และช่องเสียบไฟต่างๆ ให้สนิท

เนื่องจากว่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) นั้นจะใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในการทำงาน หากว่าต้องล้างรถควรที่จะปิดประตู ปิดหน้าต่าง และช่องเสียบไฟต่างๆ ให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า เป็นขั้นตอนที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าปล่อยให้น้ำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเกิดปัญหาตามมาอีก

2. ใส่เกียร์ P เพื่อล็อกล้อเมื่อจอดรถ

ให้จอดรถในที่ราบเรียบและใส่เกียร์ P เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล ไม่ควรจอดรถบริเวณที่เป็นแอ่งหรือมีหลุมมีบ่อลึก เพราะเวลาที่ล้างรถอาจจะทำให้น้ำที่ขับบริเวณพื้นกระเด็นใส่ใต้ท้องรถ และไม่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ในบางจุด

3. ควรล้างทีละจุด

ทางที่ดีควรล้างทำความสะอาดทีละจุด แล้วค่อยไล่ไปทำความสะอาดบริเวณอื่นๆ หากเช็ดล้างทั่วทั้งคันพร้อมคันอาจจะทำให้รถเปียกน้ำนานเกินไป เมื่อล้างเสร็จแล้วควรเช็ดรถให้แห้งทันที ก่อนเปลี่ยนไปล้างรถจุดถัดไปควรล้างฟองน้ำในน้ำสะอาดก่อนนำไปใช้ เพื่อป้องกันการเกิดรอยขนแมว หรือทำให้รถอีกจุดสกปรก ควรเปลี่ยนผ้าเช็ดรถให้สะอาดอยู่เสมอ

4. ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดภายในตัวรถ

ภายในห้องโดยสาร สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้ตามปกติ หากต้องใช้ผ้าชุบน้ำหรือชุบน้ำยา เพื่อเช็ดบริเวณคอนโซล ควรระวังการเช็ดบริเวณที่ใกล้ช่องเสียบไฟต่างๆ

สรุปว่า การล้างรถยนต์ไฟฟ้าควรใช้แรงดันน้ำต่ำ หลีกเลี่ยงบริเวณช่องชาร์จ ค่อยๆ ล้างทีละจุด และเน้นการเช็ดถูด้วยผ้าหมาดๆ ก่อนเช็ดให้แห้งสนิท ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสะอาดมากขึ้น หากมีรถไม่ควรปล่อยให้ประกันรถยนต์ขาด ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมได้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณีและมีคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหายจากโจรกรรม รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม รวมถึงค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย เปรียบเทียบแผนเองได้ รู้ราคาทันที

The post วิธีล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถเสีย ให้รีบแก้โดยด่วน! https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%a2?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2 Fri, 01 Mar 2024 02:45:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=32807 รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แต่รถก็มีอายุการใช้งานจำกัด หลังจากใช้งานไปนานๆ ย่อมมีชิ้นส่วนที่ชำรุด หรือ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หากไม่สังเกตให้ดีๆ อาจนำไปสู่ อุบัติเหตุบนท้องถนน หรือความเสียหายที่อาจประเมินมูลค่าไม่ได้ แล้วนี่คือ 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถของ

The post 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถเสีย ให้รีบแก้โดยด่วน! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แต่รถก็มีอายุการใช้งานจำกัด หลังจากใช้งานไปนานๆ ย่อมมีชิ้นส่วนที่ชำรุด หรือ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หากไม่สังเกตให้ดีๆ อาจนำไปสู่ อุบัติเหตุบนท้องถนน หรือความเสียหายที่อาจประเมินมูลค่าไม่ได้

แล้วนี่คือ 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถของคุณกำลังจะพัง รถเสีย ให้สังเกตตามนี้ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ เพื่อตรวจสอบหรือแก้ไขโดยด่วน

1. รถสตาร์ทไม่ติด

หากสตาร์ทรถไม่ติด รถสตาร์ทติดยาก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เเบตหมด หรือระบบจุดระเบิดมีปัญหา แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจเกิดจากอายุการใช้งานที่ยาวนาน หรือใช้งานหนัก เช่น ขับรถบ่อยๆ จอดรถทิ้งไว้นานๆ เป็นต้น ระบบจุดระเบิดมีปัญหาอาจเกิดจากหัวเทียนสกปรก วาล์วชำรุด หรือ คอยล์จุดระเบิดมีปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด รถสตาร์ทติดยาก

2. เครื่องยนต์เสียงดังผิดปกติ

เสียงที่ผิดปกติจากเครื่องยนต์ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เสียงดังกึกๆ เสียงดังแกรกๆ เสียงดังครืดๆ เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องยนต์มีปัญหา เครื่องยนต์มีปัญหาอาจเกิดจากลูกหมากหลวม โช้คอัพเสื่อมสภาพ ยางรองสึกหรอ หรือ ระบบระบายความร้อนมีปัญหา นอกจากนี้อาจสังเกตได้จากการได้ยินเสียงดังครืดๆ ขณะเลี้ยวรถ อาจเกิดจากยางรองสึกหรอ แต่หากเห็นไอน้ำ หรือ ควันสีขาวออกมาจากหม้อน้ำ ทำให้ระบบระบายความร้อนมีปัญหา

รถเสีย

3. มีร่องรอยน้ำมันรั่ว

หากพบร่องรอยน้ำมันรั่ว เช่น น้ำมันเครื่องรั่ว น้ำมันเบรกรั่ว น้ำมันเกียร์รั่ว เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าระบบหล่อลื่น หรือ ระบบเบรกมีปัญหา ระบบหล่อลื่นและระบบเบรกมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ หากระบบเหล่านี้มีปัญหาอาจทำให้รถเกิดอุบัติเหตุได้ หากพบอาการรถเสียดังกล่าว ให้แก้ไขทันที ไม่ควรปล่อยไว้!

4. รถมีอาการผิดปกติขณะขับขี่

หากรถมีอาการผิดปกติขณะขับขี่ เช่น รถกระตุก รถสั่น รถลากเบรก รถกินน้ำมันมากขึ้น เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าระบบต่างๆ ของรถมีปัญหา ซึ่งมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ หากระบบเหล่านี้มีปัญหา อาจส่งผลให้รถเสีย หรือ เกิดอุบัติเหตุตามมาได้

5. มีควันขาวหรือดำออกมาจากท่อไอเสีย

หากพบว่า รถมีควันขาว หรือ รถมีดำออกมาจากท่อไอเสีย อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องยนต์เสีย เครื่องยนต์มีปัญหาอาจเกิดจาก หัวเทียนมีปัญหา วาล์วมีปัญหา หรือ ระบบเผาไหม้ผิดปกติ ควรนำรถไปตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุ และแก้ไขโดยเร็วที่สุด

รถเสีย

ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองคุณและรถของคุณ

นอกจากการดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอแล้ว การซื้อประกันรถยนต์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน bolttech แนะนำ ประกันรถชั้น 3+ อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคุ้มครองคุณ และรถของคุณจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถแบบมีคู่กรณี ทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี และบุคคลที่สามด้วย ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3+ 

The post 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่ารถเสีย ให้รีบแก้โดยด่วน! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ฝ้าขึ้นกระจกหน้า ปัญหาของการขับรถในหน้าฝน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9d%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9d%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259d%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%259d%25e0%25b8%2599 Thu, 10 Sep 2020 03:40:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13263 สวัสดีครับชาว Frank.co.th เดือนนี้มาพบกับ MR.CARRO แห่ง CARRO Thailand กันเช่นเคยนะครับ พร้อมมอบสาระความรู้เรื่องรถ เสิร์ฟให้อ่านเพลินๆ เป็นประจำ โดยในช่วงเดือนนี้ก็ยังคงเป็นฤดูฝน ที่ทุกคนยังต้องใช้รถด้วยความปลอดภัยกัน แต่อีกปัญหาหนึ่งของการขับรถในช่วงหน้าฝน หรือช่วงฝนตกพรำๆ นั่นคือ ฝ้ามักจะชอบขึ้นบริเวณกระจกหน้า มักทำ

The post ฝ้าขึ้นกระจกหน้า ปัญหาของการขับรถในหน้าฝน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สวัสดีครับชาว Frank.co.th เดือนนี้มาพบกับ MR.CARRO แห่ง CARRO Thailand กันเช่นเคยนะครับ พร้อมมอบสาระความรู้เรื่องรถ เสิร์ฟให้อ่านเพลินๆ เป็นประจำ โดยในช่วงเดือนนี้ก็ยังคงเป็นฤดูฝน ที่ทุกคนยังต้องใช้รถด้วยความปลอดภัยกัน

แต่อีกปัญหาหนึ่งของการขับรถในช่วงหน้าฝน หรือช่วงฝนตกพรำๆ นั่นคือ ฝ้ามักจะชอบขึ้นบริเวณกระจกหน้า มักทำให้ทัศนวิสัยไม่ชัดเจนเวลาขับรถ วิธีแก้ง่ายนิดเดียวนั่นก็คือ การเปิดปัดน้ำฝนไล่ฝ้าออกไปนั่นเอง แต่เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาใหม่ ต้องทำไปเรื่อยๆ จนกว่าฝนจะหยุด ...

วิธีแก้ฝ้าขึ้นกระจกหน้า แบบไม่รบกวนสมาธิคุณเวลาขับรถ จะต้องทำอย่างไร? MR.CARRO จะเล่าให้ฟัง

1. ปรับอุณหภูมิแอร์ในรถ

เนื่องจากอุณหภูมิระหว่างภายในรถ กับภายนอกรถนั้นต่างกัน ถ้าหากอุณหภูมิภายในรถเย็นกว่าภายนอก ฝ้าก็มักจะขึ้นที่กระจกบังลมหน้าหรือห้องโดยสาร แต่ถ้าอุณหภูมิภายในรถ ร้อนกว่านอกรถ ฝ้าก็จะเกิดขึ้นบริเวณกระจกภายในรถแทน!

ถ้าฝ้าขึ้นกระจกรถด้านนอก ให้ใช้วิธีลดความแรงของแอร์ลง แต่ถ้าฝ้าขึ้นด้านใน ให้เพิ่มความแรงของแอร์ขึ้น แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหาฝ้าที่กระจกรถได้ และอย่าให้ช่องแอร์ไปเป่ากับกระจกรถ

2. ปรับช่องแอร์ให้อากาศภายนอกเข้ามา

อีกหนึ่งวิธีการไล่ฝ้าที่ได้ผลเช่นกัน นั่นคือ ปรับโหมดแอร์ให้รับลมจากภายนอกเข้ามา แต่เราขอแนะนำให้ทำในเวลาขับรถในที่โล่งๆ หรือตามชานเมือง ในต่างจังหวัด 

ไม่ควรทำในที่มีรถติดๆ เพราะจะได้ฝุ่นควันต่างๆ เข้ามาในรถแทน รวมถึงเศษผง หรือวัสดุต่างๆ ถูกดูดเข้ามาทำให้ตู้แอร์ตันแทน!

3. ลดกระจกลงเล็กน้อย

กรณีนี้ถ้ารถคุณมีติดกันสาดบริเวณกระจกรถ ก็สามารถแง้มให้อากาศจากภายนอกเข้ามาในรถได้ ถือเป็นวิธีการไล่ฝ้าได้อีกเช่นกัน แต่มักจะนิยมทำกันในฤดูหนาวมากกว่า

4. ใช้ปัดน้ำฝนหน้า

เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และไล่ฝ้าได้ทันที แต่อาจจะเสียสมาธิเวลาขับรถหน่อย เพราะต้องมาเปิดปัดน้ำฝน ไล่ฝ้ากระจกหน้ากันตลอด

แต่ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ บางรุ่นที่นำเข้ามา อาจจะมีติดออพชั่นระบบ Heated Washer มาด้วย เมื่อคุณกดปุ่มฉีดน้ำล้างกระจกหน้า น้ำก็จะถูกเพิ่มอุณหภูมิให้เป็นน้ำร้อนออกมา ช่วยให้ไล่ฝ้าบนกระจกหน้ารถได้อย่างดียิ่งขึ้นครับ

และในส่วนของใครที่อยากขายรถ CARRO เรายังรับซื้อรถของคุณ! สามารถเข้าไปเช็คราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่รายละเอียดรถที่คุณอยากขาย ได้ที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425 หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand

ประกันรถยนต์

The post ฝ้าขึ้นกระจกหน้า ปัญหาของการขับรถในหน้าฝน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 จุดต้องเช็กเมื่อรถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงดี https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%88%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3 Wed, 02 Sep 2020 07:21:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=13105 รถอืด รถเร่งไม่ขึ้น เร่งยังไงก็มีแค่เสียง ความเร็วเท่าเดิม แก้ไขยังไงดี เกิดจากอะไร

The post 5 จุดต้องเช็กเมื่อรถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ฮันแน่ ชอบเร่งเครื่องหรอ การขับรถบนท้องถนน นอกจากจะต้องมีใบขับขี่ และ ประกันรถยนต์แล้ว เราต้องขับขี่ให้ดี อยู่ในความเร็วที่กำหนด แต่บางที รถเจ้ากรรมก็ดันเกิดอาการ รถอืด รถเร่งไม่ขึ้น เร่งยังไงก็มีแค่เสียง ความเร็วเท่าเดิม ซึ่งสาเหตุที่รถเร่งไม่ขึ้นโดยส่วนมากแล้วก็เกิดจากการที่เครื่องยนต์ส่วนต่างๆ ของรถเกิดการชำรุด หรือไม่มีการดูแลเท่าที่ควร ทำให้กระบวนการของเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ จนเครื่องอืด ซึ่งแฟรงค์แนะนำให้ดู 5 จุดนี้ครับ

1. หัวเทียน

รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

สง สาย หัว เทียน บอด เมื่อเกิดอาการรถอืด เร่งไม่ขึ้น ให้เรามุ่งเป้ามาตรวจที่หัวเทียนก่อนเลยครับ เนื่องจากหัวเทียนคือส่วนที่ทำหน้าที่ในการจุดระเบิดในกระบอกสูบ เพื่อเดินเครื่องยนต์ให้รถของเรา ซึ่งหากหัวเทียนในรถของเราเสื่อมสภาพย่อมทำให้สมรรถภาพของรถยนต์ถดถอยลงได้ โดยเราควรดูแลให้หัวเทียนอยู่ในสภาพปกติ วิธีสังเกตก็คือ 

  • หัวเทียนอยู่ในสภาพปลายฉนวนมีคราบน้ำมัน หรือคราบเขม่า สาเหตุมาจากมีน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้ หรือแหวนในลูกสูบหลวม ซึ่งทำให้หัวเทียนจุดระเบิดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • หัวเทียนร้อนจัด เขี้ยวจะละลายจนกลายเป็นสีขาว ซึ่งจะทำให้รอบเครื่องยนต์ตก ควาวมเร็วลดลง เร่งยาก ขึ้นทางชันไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกสูบพังด้วย อันตรายนะเนี่ย
  • หัวเทียนมีเขม่าสีดำเกาะที่ปลายฉนวน สาเหตุอาจมาจากไส้กรองอากาศอุดตัน สกปรก จนทำให้การจุดระเบิดไม่เต็มประสิทธิภาพ สตาร์ทเครื่องยาก
  • หัวเทียนปกติ ตรงปลายฉนวนหุ้มมีสีเหลืองน้ำตาลปนคลาบสีเทาๆ เขี้ยวอาจมีการสึกหรอเล็กน้อย เราควรดูแลให้หัวเทียนอยู่ในสภาพนี้ตลอดครับ

2. น้ำมันเครื่อง

รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

เพราะน้ำมันเครื่องเป็นส่วนที่ช่วยให้ส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์รถทำงานได้อย่างลื่นไหล แต่เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ น้ำมันเครื่องที่เคยลื่นไหล ก็อาจเกิดการหนืดขึ้นได้ ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มกำลัง เครื่องอืด สะดุด เกิดความร้อน และทำให้เราเร่งเครื่องไม่ขึ้นก็ได้

ซึ่งวิธีการแก้ไขปัํญหานี้ก็ง่ายๆ เลยครับ เมื่อมันหนืด ก็เปลี่ยนมันซธ โดยเราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ ประมาณ 8,000 - 10,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 เดือนครั้ง หากใครสงสัยเรื่องว่าเราควรเลือกน้ำมันเครื่องอย่างไร สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ วิธีเลือกน้ำมันเครื่อง เลยครับ

3. ที่กรองอากาศ

รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

ที่กรองอากาศ สำคัญกับหัวเทียนอย่างมากครับ เพราะอากาศสำคัญต่อการจุดระเบิดของหัวเทียน หากที่กรองอากาศสกปรกหรือมีสิ่งอุดตัน อากาศก็จะไหลเข้าไปไม่สะดวก ทำให้การจุดระเบิดมีปัญหาและทำให้รถเร่งไม่ขึ้นได้ครับ

โดยเราควรเปลี่ยนที่กรองกอากาศเมื่อวิ่งครบ 20,000 กิโลเมตรครับ แต่ถ้าเราใช้งานรถสมบุกสมบัน ขับไปในที่ที่มีฝุ่นเยอะๆ ก็อาจจะไม่ต้องรอให้ครบตามกำหนด ให้หมั่นเช็กที่กรองอากาศก็พอครับ

4. ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

อุปกรณ์ตัวนี้มีหลายชื่อครับ ทั้ง กรองเบนซิล กรองดีเซล แล้วแต่ชนิดของเชื้อเพลิงที่รถใช้ โดยเจ้าที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงนี้มีไว้สำหรับกรองพวกฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำมันนั่นเองครับ โดยหากที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงนี้อุดตัน ก็จะทำให้เกิดปัญหารถเดินเครื่องกระตุก ไม่เรียบ และรถเร่งไม่ขึ้น รถอืดขึ้นได้ครับ ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนที่กรองน้ำมันตามกำหนดนะ หรือตีกลมๆ ก็ 2 ปีครั้งก็ได้

5. คอยล์จุดระเบิด

รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร
รถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

เปลี่ยนหัวเทียนก็แล้ว แต่รถก็ยังมีปัญหาเครื่องอืด เร่งไม่ขึ้นอยู่ดี งั้นให้เรามาดูที่คอลย์จุดระเบิดเลยครับ เพราะนี่คืออุปกรณ์ที่ส่งกระแสไฟฟ้าไปยังหัวเทียน หากตัวคอยล์จุดระเบิดมีปัญหา แน่นอนว่าหัวเทียนก็จะทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มที่ เครื่องอืด เร่งไม่ขึ้นได้ โดยส่วนมากแล้ว คอย์ลจุดระเบิดจะเริ่มมีปัญหาเมื่อรถมีอายุ 5 ปีขึ้นไป ครับ


และนี่ก็คือ 5 จุดต้องเช็กเมื่อรถเกิดอาการเร่งไม่ขึ้น ที่แฟรงค์ขอฝากไว้ ให้เพื่อนๆ ได้ดูแลรักษาให้รถของเราอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา และถ้าอยากดูแลสองชั้น มั่นใจสองต่อ ก็อย่าลืมทำ ประกันรถยนต์ ทั้งภาคสมัครใจ และพรบ ไว้ดูแลด้วยนะครับ

car type 2

The post 5 จุดต้องเช็กเมื่อรถเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงดี appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 วิธีแก้ปัญหาแอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ เกิดจากอะไร ? https://www.bolttech.co.th/blog/5-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%9a?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a Thu, 20 Aug 2020 03:14:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12863 แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ ปัญหากวนใจคนขับรถ โดยเฉพาะ ขับรถหน้าฝน มีวิธีแก้ไขอย่างไร ต้องล้างแอร์ไหม คำถามมากมาย มาหาคำตอบได้ที่นี่เลย

The post 5 วิธีแก้ปัญหาแอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ เกิดจากอะไร ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลายคนคงเคยประสบปัญหา อยู่ดีๆ แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ แบบไม่ทราบสาเหตุกันบ้างใช่ไหมครับ ยิ่งในหน้าฝนแบบนี้ปัญหานี้ยิ่งพบบ่อยมากขึ้น สร้างความไม่สบายใจ ไม่สบายกาย ขับรถไม่มีความสุขเลย ว่าแต่แอร์รถยนต์มีกลิ่นอับ มันเกิดจากสาเหตุอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไร ไปดูกันครับ!

แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ เกิดจากอะไร

แอร์มีกลิ่นเหม็น

ถ้าอยากหาคำตอบเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ เราต้องมุ่งไปที่ ระบบปรับอากาศและระบายอากาศของรถเราครับ โดยสาเหตุที่พบบ่อย มีดังนี้

  • มีน้ำหรือความชื้นสะสมอยู่ในคอยล์เย็น จนเกิดเชื้อรา
  • ช่องแอร์เกิดการหมักหมม 
  • ที่กรองแอร์มีสิ่งสกปรกเข้ามาอุดตัน

ซึ่งปัญหาแอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับนี้นอกจากจะสร้างความรำคาญ มลภาวะทางกลิ่นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งถ้าใครมีโรคประจำตัวหรือเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วอาจจะทำให้สุขภาพแย่หนักได้ ดังนั้น เรามาดูวิธีการแก้กลิ่นอับของแอร์ลดกันดีกว่า

วิธีแก้ไขปัญหา แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ

1. เปิดพัดลมไล่ความชื้น

วิธีนี้ ให้เราปิดแอร์ (ปิดสวิทช์ A/C) จากนั้น เปิดพัดลมแรงๆ เพื่อไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น และลดกลิ่นอับ โดยวิธีนี้ เราควรทำก่อนรถจะจอดซักประมาณ 5 นาทีครับ 

2. เปิดแอร์แต่พอเหมาะ

ไม่ควรเปิดแอร์หนาวเกินไป เพราะเมื่ออากาศหนาวเกินไป อาจจะเกิดความชื้นสะสมภายในวงจรปรับอากาศได้ นอกจากนี้ ไม่ควรปิดหน้ากากแอร์นะครับ เพราะจะทำให้ภายในวงจรปรับอากาศมีอุณหภูมิต่ำ และทำให้เกิดความชื้นได้ครับ

3. ใช้แดดไล่ความชื้น

วิธีคลาสสิคสำหรับกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถครับ นำรถไปจอดกลางแดด เปิดประตูทุกบาน เพื่อให้แสงแดดไล่ความชื้นรวมถึงกลิ่นอับออก

4. ล้างแอร์

หากทำทุกวิธีข้างต้นแล้ว กลิ่นอับในแอร์รถยนต์ก็ยังติดแน่นทนนาน ก็คงเป็นสัญญาณให้เรา “ล้างแอร์รถยนต์” ครับ โดยแฟรงค์แนะนำให้คุณนำเข้าศูนย์ดีกว่านะครับ ล้างเองยาก แถมเสี่ยงจะมีความชื้นสะสมด้วย โดยทั่วไป เราควรเปลี่ยนทุก ๆ 30,000 กิโลเมตรครับ

5.ใช้เครื่องมือลดกลิ่น

หรือถ้าทำแล้ว ก็ยังมีกลิ่นอับอยู่นิดหน่อย อยากสดชื่นเวลาขับรถ แบบนี้แฟรงค์ขอแนะนำให้ลองทำตาม 5 สิ่งที่สามารถดับกลิ่นในรถได้ ดูนะครับ รับรองว่าดีขึ้นอย่างแน่นอน

กลิ่นอับในรถเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเคยพบเจอ ยิ่งในหน้าฝนแบบนี้ ความชื้นย่อมมีมากกว่าปกติ แฟรงค์ก็ขอให้ทุกคนหมั่นดูแลรถของเราให้ดีนะครับ เพื่อให้รถอยู่คู่เราไปนานๆ และอย่าลืมทำประกันรถยนต์ไว้ดูแลด้วยนะครับ

ประกันรถยนต์

The post 5 วิธีแก้ปัญหาแอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับ เกิดจากอะไร ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
กลิ่นเหม็นไหม้ตรงล้อ!? จากผ้าเบรกไหม้ แก้ไขยังไง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%9c%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%82?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%259c%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2582 Sun, 10 Nov 2019 21:47:07 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8694 นอกจาก Frank.co.th จะเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่จัดจำหน่ายประกันรถยนต์และประกันอื่น ๆ แล้ว เรายังอยากเทคแคร์คุณมากกว่านั้น ด้วยเคล็ดลับดูแลรถยนต์ เทคนิคการสังเกตปัญหาผ้าเบรกไหม้ที่อาจจะเกิดกับระบบเบรกของรถยนต์ที่คุณต้องรู้ หากต้องขับรถขึ้นเขาหรือลงเขา เพียงแค่รู้เทคนิคขับรถขึ้นเขาลงเขาอย่างปลอดภัยยังไม่เพียงพอ เรา

The post กลิ่นเหม็นไหม้ตรงล้อ!? จากผ้าเบรกไหม้ แก้ไขยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
นอกจาก Frank.co.th จะเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่จัดจำหน่ายประกันรถยนต์และประกันอื่น ๆ แล้ว เรายังอยากเทคแคร์คุณมากกว่านั้น ด้วยเคล็ดลับดูแลรถยนต์ เทคนิคการสังเกตปัญหาผ้าเบรกไหม้ที่อาจจะเกิดกับระบบเบรกของรถยนต์ที่คุณต้องรู้ หากต้องขับรถขึ้นเขาหรือลงเขา เพียงแค่รู้เทคนิคขับรถขึ้นเขาลงเขาอย่างปลอดภัยยังไม่เพียงพอ เรายังต้องรู้วิธีรับมือผ้าเบรกไหม้ เพราะ “เบรก” เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในการขับขี่ให้ปลอดภัยครับ เราจึงต้องใส่ใจดูแลให้ดี มาเข้าเรื่องผ้าเบรกไหม้กันดีกว่า  

เช็กอาการผ้าเบรกไหม้

  • เหยียบเบรคแล้วเบรคจม 
  • เกิดควันโขมงที่ล้อทั้งสองข้าง ควันกลิ่นเหม็น

“หยุดไม่อยู่แล้วหัวใจ”

หากดึงดันขับไปเรื่อย ๆ อาจจะเบรกไม่อยู่ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่รถเร็วและชอบแตะเบรกกะทันหันอยู่บ่อย ๆ แตะเบรกลากยาววววว 
บ่อยครั้งเลยล่ะที่เราจะได้กลิ่นผ้าเบรกไหม้หรือเบรกจมเวลาขึ้น-ลงเขา โดยเฉพาะถนนที่มีโค้งเยอะ ๆ เนื่องจากมีความร้อนสะสมที่ผ้าเบรก น่ากลัวที่สุดคือเบรกจม เบรกไม่อยู่เพราะร้อนจัด ทำให้รถยนต์เสียหลักได้

เหตุที่ทำให้ผ้าเบรกไหม้

  • เพราะโชว์เฟอร์ไม่เซียนแตะเบรกแช่ยาวเกินไปทำให้เบรกไหม้ 
  • ไม่ค่อยได้เช็กระบบเบรกหรือเปลี่ยนน้ำมันเบรกตามระยะที่ควร
  • ไม่ใช่เกียร์ต่ำเวลาลงเขา ทำให้ต้องเบรกตลอดเวลา 

วิธีรับมือเหตุผ้าเบรกไหม้ 

จอดพักรถในที่ปลอดภัยประมาณ 20-30 นาที จนกว่าเบรกรถยนต์จะเย็นลง ห้ามราดน้ำนะครับ เพราะจะทำให้จานเบรกคด หากขับรถทางไกลควรพักรถเป็นระยะ ระหว่างขับจะแง้มกระจกไว้สักนิดก็ได้เผื่อได้กลิ่นไหม้ และควรเปลี่ยนผ้าใบเบรกตามระยะเวลาที่กำหนดทุก ๆ 25,000 กม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของคุณด้วย หากขับบ่อย บรรทุกของหนัก ขับรถเร็ว แน่นอนว่าผ้าเบรกเสื่อมไวชัวร์ ๆ 
ทางที่ดีที่สุดหลีกเลี่ยงการเบรกตลอดเวลา ไม่เบรกแช่จะดีที่สุดครับ พร้อมกับนำรถยนต์ไปตรวจเช็กระบบเบรก ผ้าเบรก จานเบรก และน้ำมันเบรกให้เร็วที่สุด เช็กให้ครบนะครับเพื่อความปลอดภัยของคุณไงล่ะ และถ้าอยากเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูงสุดอย่าลืมต่อพ.ร.บ.รถยนต์ และทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยนะครับ 
Content by Butter Cutter

The post กลิ่นเหม็นไหม้ตรงล้อ!? จากผ้าเบรกไหม้ แก้ไขยังไง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
7 เทคนิคดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลือง https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a7 Thu, 24 Oct 2019 07:21:47 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8704 หลังจากเพนกวินแฟรงค์บอกเล่า 10 สีรถยนต์ที่ชอบทายนิสัยแท้จริงของคุณได้ มาก่อนหน้านี้ และทำนายว่า คนขับรถสีขาว “เป็นคนที่มีความจริงใจ และซื่อสัตย์มาก ถึงแม้จะมีลุคเจ้าระเบียบหน่อย ๆ แต่ก็ขยันขันแข็งดี ”  หากจะให้พูดถึงเรื่องนิสัยและความชอบอย่างเดียวก็คงไม่พอ เราก็ต้องนึกถึงการดูแลสีรถขาวเช่นกัน เพราะรถสีขาวเป็นสีที่ค่อนข

The post 7 เทคนิคดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลือง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลังจากเพนกวินแฟรงค์บอกเล่า 10 สีรถยนต์ที่ชอบทายนิสัยแท้จริงของคุณได้ มาก่อนหน้านี้ และทำนายว่า คนขับรถสีขาว “เป็นคนที่มีความจริงใจ และซื่อสัตย์มาก ถึงแม้จะมีลุคเจ้าระเบียบหน่อย ๆ แต่ก็ขยันขันแข็งดี ” 
หากจะให้พูดถึงเรื่องนิสัยและความชอบอย่างเดียวก็คงไม่พอ เราก็ต้องนึกถึงการดูแลสีรถขาวเช่นกัน เพราะรถสีขาวเป็นสีที่ค่อนข้างรักษายากกว่าสีอื่น หากคุณใช้ไปนาน ๆ ก็อาจจะทำให้รถหมองหรือเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้นะครับ ทั้งนี้ก็อย่าเพิ่งกังวลไป วันนี้กูรูด้านประกันรถยนต์อย่างเพนกวินเเฟรงค์แอบเอาวิธีดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลือง มาฝากชาวแฟรงค์กันด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. หมั่นล้างรถเป็นประจำ

ดูแลรถสีขาว
อันดับแรกของการดูแลรถสีขาวของคุณ ก็คือ การทำความสะอาดรถครับ ทั้งนี้เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจจะฝังแน่นบนตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นมูลนก โคลน คราบน้ำมัน ฝุ่นละออง หรือคราบน้ำฝน อันเป็นเหตุทำให้รถของคุณเหลืองได้ เราจึงต้องหมั่นล้างรถอย่างน้อย 1 ครั้ง/อาทิตย์  แต่การล้างรถสีขาวนั้นจะต่างกับรถสีอื่นนะครับ ให้เราแบ่งฟองน้ำออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ฟองน้ำสำหรับล้างตัวถังส่วนบน และตัวถังส่วนล่างครับ ส่วนวิธีดูแลรถสีขาวมุกก็ให้ทำแบบนี้เช่นกัน จะช่วยให้รถของคุณดูใหม่ตลอดเวลา ไม่มีคราบเหลืองแน่นอน
** เราควรเลือกใช้แชมพูสำหรับล้างรถ ห้ามใช้น้ำยาล้างจาน หรือสารเคมีชนิดรุนแรงเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อสีรถของคุณได้
 

2. หมั่นเช็ดรถให้แห้ง และสะอาดอยู่เสมอ

ดูแลรถสีขาว
ทุกครั้งที่ล้างรถเสร็จแล้วก็อย่าลืมเช็ดรถให้แห้งสนิทกันด้วยนะ อย่าปล่อยให้รถแห้งเองเด็ดขาด  มันอาจจะทำให้รถของคุณเกิดรอยด่างรอบคันและอาจจะทำให้เกิดสนิมที่ตัวถังได้ ให้คุณลองใช้ผ้าสะอาดอย่างเช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์ ผ้าชามัวร์ หรือผ้าสำหรับเช็ดรถเฉพาะ อย่างน้อย 2 ผืน โดยไล่จากด้านบนหลังคารถยนต์ลงมาด้านล่างรถยนต์ เช็ดจนแห้งสนิท แล้วค่อยเช็ดล้อรถเป็นลำดับสุดท้าย

3. หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดด

ดูแลรถสีขาว
บอกเลยว่า “แสงแดด” ก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้รถสีขาวของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ยิ่งถ้าเป็นแดดกลางแจ้งด้วย ก็อาจจะทำให้รถของคุณเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น ทางที่ดีเราควรหาที่จอดรถในร่มหรือมีหลังคาคลุมดีกว่า เพื่อป้องกันแสงแดดกระทบกับตัวรถโดยตรง หรือถ้าใครที่ไม่สามารถหาที่จอดรถในร่มได้ แนะนำให้ใช้ผ้าคลุมรถชนิดกันแสงแดดยูวี (UV) กันฝน หรือกันฝุ่น ด้วยนะครับ
 

4. เคลือบสีรถก็ช่วยได้นะ

ดูแลรถสีขาว
จะเลือกเคลือบสีรถก็ดีครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลืองแบบชัวร์สุด เนื่องจากช่วยรักษาสีรถของคุณให้ดูเงางามอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณกำลังตัดสินใจเคลือบสีรถ ก็อย่าลืมเข้ามาเช็ก!!  สิ่งสำคัญก่อนเคลือบสีรถใหม่ด้วยนะ เพราะการเคลือบสีรถจะมีหลายวิธีให้เราเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง อย่างเช่น การเคลือบแก้วที่หลายคนนิยมกัน ถึงแม้มีราคาค่อนข้างสูง แต่สามารถป้องกันคราบหยดน้ำ คราบยางมะตอยดีดใส่รถ ฝุ่น หรือแม้กระทั่งคราบฝังลึกได้ดีเลยล่ะ
ส่วนการเคลือบแบบซิลิโคนและการเคลือบแว็กซ์ จะมีค่าใช้จ่ายถูกลงมา สามารถลบคราบเหลืองเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เหมือนกัน หากคุณมีงบประมาณไม่มากนัก แนะนำให้เคลือบน้ำยาแว็กซ์ด้วยตัวเองก่อน โดยเฉพาะวิธีดูแลรถสีขาวมุกควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  เพื่อช่วยให้ผิวรถเกิดฟิล์มเคลือบบาง ๆ จะช่วยชะลอคราบสีเหลืองที่อาจเกิดขึ้น แถมยังดูแลรถสีขาวของคุณให้เงางามอีกด้วย
 

5. ใช้ดินน้ำมันล้างรถ

ดูแลรถสีขาว
คุณรู้หรือไม่ว่า? ดินน้ำมันล้างรถยนต์ สามารถลบรอยคราบเหลืองบนรถของคุณได้ อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ ด้วยคุณสมบัติของดินน้ำมันที่มีความหนืด จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่างฝุ่นละออง และคราบฝังลึกที่เกาะบนตัวรถได้ดีกว่าฟองน้ำ แต่ขอย้ำก่อนว่าต้องเป็นดินน้ำมันสำหรับล้างรถเท่านั้น ห้ามใช้ดินน้ำมันทั่วไปนะ โดยให้คุณใช้ดินน้ำมันซับตรงบริเวณที่มีคราบเหลือง ทำประมาณ 1-2 ครั้ง/ปี  ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและสิ่งสกปรกเป็นสำคัญ

6. หลีกเลี่ยงจอดรถใต้ต้นไม้

ดูแลรถสีขาว
อยากให้รถขาวไม่เหลืองต้องเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้  ถือเป็นวิธีดูแลรถสีขาวจากริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดีเลยล่ะ เนื่องจากเวลาเราจอดรถใต้ต้นไม้ แน่นอนอาจจะมีกิ่งไม้ ใบไม้ ฝุ่นละออง หรือหยดน้ำค้างตกมาบนรถ ทำให้รถของคุณมีริ้วรอยและคราบเปื้อน หรือถ้าคุณเกิดโชคร้ายก็อาจจะมีมูลนกหล่นใส่ด้วย ดังนั้น ป้องกันไว้ก่อน ย่อมอุ่นใจกว่าครับ

7. ใช้น้ำยาหรือครีมลบรอยต่างๆ

ดูแลรถสีขาว
เมื่อเราสังเกตเห็นรอยคราบเหลือง หรือรอยอะไรก็ตาม ให้เรารีบใช้ครีมลบรอย หรือน้ำยาทำความสะอาดมาเช็ดรถให้เร็วที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยลบคราบน้ำมัน คราบยางมะตอย และคราบน้ำต่าง ๆ ได้ดีแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีลบรอยขูดขีดบนรถยนต์ด้วยตัวเองแบบ DIY อีกด้วย เรียกว่าครบสูตรเลยล่ะ แต่ถ้าไฟหน้ารถของคุณเหลือง แล้วต้องใช้อะไรขัด เเฟรงค์แนะนำให้ใช้ยาสีฟันขัดไฟหน้ารถก่อนครับ ประหยัดเงินสุด ๆ ด้วยงบประมาณไม่เกิน 100 บาท  เท่านั้น
ทั้งหมดนี้ ก็จะเป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการดูแลรถยนต์สีขาวของคุณไม่ให้เหลือง คุณก็สามารถหยิบยกตามกรณีต่างๆ มาใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยนะครับ แถมไม่ยากอย่างที่คิดด้วย เพียงแค่คุณต้องศึกษาให้เข้าใจ และดูแลเป็นพิเศษหน่อย เชื่อว่ารถของคุณก็จะกลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง ไม่ใช่เพียงแค่รถสีขาวอย่างเดียวนะ เราสามารถนำมาปรับใช้กับสีอื่น ๆ ได้เช่นกันครับ
รู้วิธีดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลืองแล้ว ก็อย่าลืมซื้อประกันรถให้ช่วยดูแลรถสุดที่รักของคุณอีกทางด้วยนะครับ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย พร้อมช่วยเหลือคุณทันทีเมื่อเกิดเหตุรถชน ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร ประกันตัวผู้ขับขี่หากเกิดคดีอาญา รวมถึงดูแลความเสียหายซ่อมรถยนต์คู่กรณี เอาเป็นว่าถ้าเราทำประกันรถยนต์ไว้ก่อน ก็จะช่วยเชฟค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับรถสุดที่รักของคุณนั่นเอง
 
ประกันรถยนต์

The post 7 เทคนิคดูแลรถสีขาวไม่ให้เหลือง appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ไฟหน้ารถเหลืองใช้อะไรขัด ด้วยงบไม่เกิน 100 บาท https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99100?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599100 Sun, 15 Sep 2019 09:37:40 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=8011 ปัญหาของ “ฅ.คนรักรถ” เลยครับกับประเด็นไฟหน้ารถเหลืองหมดหล่อ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้มานาน หรือรถยนต์มือสองที่เพิ่งซื้อมา หากคุณเจอเหตุไฟหน้ารถเหลืองไม่ต้องกลุ้ม  Frank แนะนำให้คุณใช้วิธีการขัดไฟหน้ารถให้เหมือนใหม่เหล่านี้ รับรองว่า “ไฟหน้ารถยนต์ของคุณจะกลับมาเฟี้ยวอีกครั้ง” แบบไม่ต้องง้อช่างผู้เชี่ยวชาญ และไม่ต้องเสียเงินห

The post ไฟหน้ารถเหลืองใช้อะไรขัด ด้วยงบไม่เกิน 100 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ปัญหาของ “ฅ.คนรักรถ” เลยครับกับประเด็นไฟหน้ารถเหลืองหมดหล่อ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้มานาน หรือรถยนต์มือสองที่เพิ่งซื้อมา หากคุณเจอเหตุไฟหน้ารถเหลืองไม่ต้องกลุ้ม 
Frank แนะนำให้คุณใช้วิธีการขัดไฟหน้ารถให้เหมือนใหม่เหล่านี้ รับรองว่า “ไฟหน้ารถยนต์ของคุณจะกลับมาเฟี้ยวอีกครั้ง” แบบไม่ต้องง้อช่างผู้เชี่ยวชาญ และไม่ต้องเสียเงินหลายพันกับวิธีการขัดไฟหน้ารถเหล่านี้

1. ใช้ยาสีฟัน

เหมือนกับแปรงฟันเลยครับ เราสามารถใช้วิธีการขัดไฟหน้ารถที่มีคราบเหลือง ด้วยยาสีฟันเน้นเลือกยาสีฟันโฆษณาฟันขาวไว้ครับ เน้นเนื้อครีมเท่านั้น (เพื่อไม่ให้ไฟหน้าเป็นรอย) หากประหยัดสุด ๆ จะเลือกใช้ยาสีฟันเหลือใกล้ทิ้งที่ติดหลอดก็ได้ พร้อมกับเตรียมผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดรถ ลดการเกิดขนแมวบนไฟหน้ารถยนต์

เราต้องเตรียมอะไร ? 

  • ยาสีฟันแบบครีม เน้นฟลูออไรด์ หรือฟันขาว ยาสีฟันเหลือใช้ก็ได้ครับ 
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์ 2 ผืน (เช็ดตอนเปียก, เช็ดตอนแห้ง)
  • น้ำสะอาดที่ใช้ล้างรถทั่ว ๆ ไป 

วิธีขัดไฟหน้ารถให้เหมือนใหม่ด้วยงบไม่เกิน100บาท

ขั้นตอนขัดไฟหน้ากลับมาใหม่วิ๊ง ๆ ด้วยยาสีฟัน มีดังนี้

  • ล้างไฟหน้ารถยนต์ของเราด้วยน้ำเปล่า โดยใช้สายยาง หรือใช้ขันตักน้ำรดก็ได้ 
  • ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ (ผืน 1) ที่เตรียมไว้ เช็ดไฟหน้ารถยนต์ให้แห้งสนิท
  • บีบยาสีฟันบนไฟหน้ารถยนต์ และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ (ผืน 1) บรรจงขัดเป็นวงกลมคล้ายก้นหอยบนไฟหน้ารถยนต์ที่มีสีเหลืองใช้แรงพอเหมาะให้คราบเหลืองหลุดลอก ทำเหมือนกันกับไฟหน้าทั้งสองข้างครับ
  • นั่งรออย่างใจเย็น ใช้เวลาประมาณ 2 นาที รอให้ยาสีฟันจัดการคราบเหลืองเสียก่อน ! 
  • ล้างอีกครั้งด้วยน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ เช็ดไฟหน้าอย่างนิ่มนวลด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ (ผืน 2) จะช่วยให้ไฟหน้ากลับมาเท่ ! และสะอาด ไร้ริ้วรอย อิอิ

หลังจากทำความสะอาดไฟหน้าให้กับมาเหมือนใหม่ อย่าลืม!! ซักทำความสะอาดผ้าและตากให้แห้งด้วยนะ อย่างไรก็ดี วิธีการนี้ช่วยได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากคุณยังจอดรถกลางแจ้ง หรือใช้รถด้วยพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทำให้ไฟหน้าเสื่อมกลับมาเหลืองอีกครั้ง ขัดยาสีฟันก็ไม่ช่วยนะจ้ะ ซึ่งไฟหน้าจะสดใสใหม่กริ๊บได้อย่างมาก 6-12 เดือนเท่านั้น
เคล็ดลับประกันรถยนต์

2. ขัดไฟหน้ารถด้วยเมจิกคลีน 

สำหรับรีวิววิธีขัดไฟหน้ารถให้เหมือนใหม่ด้วยการใช้มาจิคลีนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับห้องครัว (สีเขียว) แฟรงค์ขออ้างอิงจากชาวเน็ตที่ลงเสียงว่า “โคมไฟรถยนต์ที่เป็นกระจก สามารถใช้เมจิกคลีนทำความสะอาดได้”

เราต้องเตรียมอะไร ? 

  • มาจิคลีน สีเขียวตามที่ระบุใช้ขวดเดียวก็เพียงพอละจ้ะ
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดทำความสะอาด
  • ผ้ารองสปอยเลอร์ หรือด้านล่างของไฟหน้ารถยนต์
  • น้ำปะปาสำหรับล้างทำความสะอาด

วิธีขัดไฟหน้ารถให้เหมือนใหม่ด้วยงบไม่เกิน100บาท

วิธีการทำความสะอาดไฟหน้าคราบเหลืองด้วยมาจิคลีนค่อนข้างง่ายครับ 

  • พ่น ๆ บริเวณด้านบนไฟหน้าให้น้ำยาไหลลงมา แนะนำให้เตรียมผ้ารองไม่ให้น้ำยาไหลลงพื้นผิวรถยนต์ (ป้องกันสีหลุดลอก) 
  • ไม่ต้องทิ้งไว้นาน 
  • ลงมือล้างไฟหน้ารถยนต์ด้วยน้ำสะอาดให้สะอาด ๆ เลยนะ 
  • เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดให้แห้ง เช็ดอย่างเบามือ

ทั้งนี้ การฉีดน้ำยามาจิคลีนใช้ได้กับไฟหน้ากระจกนะครับ ย้ำเลย ! อย่าเผลอใช้กับไฟหน้าแบบอื่นเด็ดขาด และมีความเสี่ยงที่จะกัดกร่อนสีรถยนต์เหมือนกัน
ปล. วิธีการเหล่านี้ช่วยเหลือได้เฉพาะไฟหน้ารถที่มีคราบเหลืองจากด้านนอก หากรถยนต์คันไหนมีคราบเหลืองภายในชุดโคมอาจจะต้องเผื่อใจไว้นิดนึงครับ และถ้าอาการไฟหน้าเหลืองหนักหน่วงควรถอดโคมเปลี่ยนไฟจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูล: sanook.com, onecrazyhouse.com
Content by Butter Cutter

ประกันรถยนต์

The post ไฟหน้ารถเหลืองใช้อะไรขัด ด้วยงบไม่เกิน 100 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่ เพราะใช้รถเก่าจริงหรือ ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%88?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588 Tue, 22 Jan 2019 00:14:48 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=5055 เวลาขับรถเคยเปิดฝากระโปรงรถแล้วตรวจสอบแบตเตอรี่และเช็คหม้อน้ำของตัวเองกันบ้างหรือไม่คะ ? ถ้าเคยละก็ จะต้องเคยเห็นคราบขี้เกลือที่เกาะอยู่บริเวณขั้วของแบตเตอรี่แน่นอน!! ซึ่งจะอันตรายหรือไม่นั้น และเป็นเพราะรถเริ่มเก่าจริงหรือ?! ก่อนที่จะไปดูว่า เรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่า ขี้เกลือที่ว่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกันนะ ??? ขี้เก

The post ขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่ เพราะใช้รถเก่าจริงหรือ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เวลาขับรถเคยเปิดฝากระโปรงรถแล้วตรวจสอบแบตเตอรี่และเช็คหม้อน้ำของตัวเองกันบ้างหรือไม่คะ ? ถ้าเคยละก็ จะต้องเคยเห็นคราบขี้เกลือที่เกาะอยู่บริเวณขั้วของแบตเตอรี่แน่นอน!! ซึ่งจะอันตรายหรือไม่นั้น และเป็นเพราะรถเริ่มเก่าจริงหรือ?! ก่อนที่จะไปดูว่า เรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่า ขี้เกลือที่ว่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกันนะ ???

ขี้เกลือคืออะไร?

ขี้เกลือที่เกาะติดรถยนต์นั้น ถือเป็นปฏิกิริยาทางเคมีอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากการต้านทานไฟฟ้าของวัตถุ ที่สามารถเกิดได้กับรถรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ทั้งขั้วบวกและขั้วลบ ทั้งแบตเตอรี่เก่าและแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • ขั้วแบตเตอรี่หลวมหรือเกิดการชำรุด
  • น้ำกลั่นล้นออกมาจากช่องเติมน้ำกลั่นของแบตเตอรี่รถยนต์
  • ขั้วสายไฟที่ข้นกับขั้วแบตเตอรี่หลวม
  • ขันตัวล็อคขั้วแบตเตอรี่ไม่แน่น
  • สายไฟเสื่อม เป็นต้น

อันตรายกับรถยนต์หรือไม่ ?

คำตอบคือ อันตรายกับเครื่องยนต์ของเราในระดับหนึ่งค่ะ เนื่องจากส่งผลทำให้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นั้นไม่สามารถผ่านไปยังส่วนอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก จนทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในรถยนต์เกิดความเสียหาย อีกทั้งยังไปกัดกร่อนโลหะได้ หากปล่อยให้คราบขี้เกลือเกาะไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้ขั้วโลหะบริเวณนั้นขาดได้!!

ขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่ เพราะใช้รถเก่าจริงหรือ ?

ดูแลรักษาอย่างไร?

หากคุณพบว่ารถยนต์ของคุณมีคราบขี้เกลือเกาะอยู่ละก็ ไม่ต้องตกใจหรือกังวลใจไปค่ะ เพราะเราสามารถดูแลได้เองไม่ยากอย่างที่คิดเลย เพียงแค่คุณทำตามขั้นตอนดังนี้

  • เอาน้ำร้อนมาราดบริเวณที่เกิดขี้เกลือ ราดไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ จนขี้เกลืออ่อนตัวและละลายไปกับน้ำร้อนเอง
  • ใช้แปรงสีฟันใช้แล้ว ขัดถูจนคราบขี้เกลือหายไปหมด
  • หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดขั้วแบตเตอรี่ให้แห้งสนิท ห้ามปล่อยให้ความชื้นเหลืออยู่ เพราะจะทำให้เกิดสนิมได้
  • ใช้น้ำยาเคลือบขั้วแบตเตอรี่ ขั้วสายไฟ หรือน้ำมันหล่อลื่นเอนกประสงค์เช็ด

เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วละค่ะ อย่างไรลองไปทำกันดูนะ! นอกจากการดูแลรักษารถเพื่อใช้งานเองแล้ว สิ่งเหล่านี้ยังมีผลกระทบถึงราคารถยนต์ของคุณเมื่อต้องการตัดสินใจขายรถมือสองด้วย เอาเป็นว่า ถ้าอยากให้รถใช้งานไปนานๆ และมีประสิทธิภาพก็จะต้องคอยตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์อยู่เสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้งก็ยังดีครับ

Rewrite by Butter Cutter

The post ขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่ เพราะใช้รถเก่าจริงหรือ ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อยากทำความสะอาดรถยนต์ด้วยตัวเอง ต้องเริ่มจากอะไรนะ? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%b0?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587-%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b0 Tue, 08 Jan 2019 01:16:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=4963 อยากมีรถเสมือนใหม่ แต่ไม่อยากเสียเงินเข้าร้านคาร์แคร์ราคาแพง ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ แม้จะเป็นรถมือสอง วันนี้ Frank.co.th ได้รับบทความจากทีมงาน Carsome Thailand มาบอกเล่าวิธีล้างรถด้วยตัวเองมาฝาก นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินราคาแพงแล้วยังได้สุขภาพที่ดีไปในตัวอีกด้วย ทราบหรือไม่คะว่า การทำความสะอาดรถยนต์ที่ดีนั้น ไม่ใช่ทำแต่ภายน

The post อยากทำความสะอาดรถยนต์ด้วยตัวเอง ต้องเริ่มจากอะไรนะ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
อยากมีรถเสมือนใหม่ แต่ไม่อยากเสียเงินเข้าร้านคาร์แคร์ราคาแพง ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ แม้จะเป็นรถมือสอง วันนี้ Frank.co.th ได้รับบทความจากทีมงาน Carsome Thailand มาบอกเล่าวิธีล้างรถด้วยตัวเองมาฝาก นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินราคาแพงแล้วยังได้สุขภาพที่ดีไปในตัวอีกด้วย ทราบหรือไม่คะว่า การทำความสะอาดรถยนต์ที่ดีนั้น ไม่ใช่ทำแต่ภายนอกเท่านั้น ภายในก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดเบาะ คอนโซลหน้ารถ หรือแม้แต่พรม เป็นต้น ซึ่งแต่ละอย่างนั้นก็มีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกันออกไป เราไปไล่ดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

  • การทำความสะอาดเบาะภายในรถยนต์ ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนค่ะว่า เบาะรถยนต์นั้นส่วนใหญ่แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
    • เบาะหนัง สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ฟองน้ำชุบสบู่อ่อนหรือน้ำยาเช็ดรถเอนกประสงค์ โดยบิดหมาด ๆ แล้วนำมาเช็ดเบาะ หลังจากนั้นเช็ดออกด้วยฟองน้ำที่จุ่มน้ำบิดหมาด เสร็จแล้วพอเบาะแห้งจึงค่อยใช้ผ้าชุบน้ำยาเคลือบเงาเช็ดเบาะให้ทั่ว จากนั้นก็คอยให้น้ำยาเคลือบเงาแห้ง
    • เบาะผ้า แนะนำให้เอารถไปจอดไว้กลางแดดค่ะ เสร็จแล้วเปิดประตูรถทุกบาน และให้ยืนอยู่ต้นลม หลังจากนั้นใช้ไม้ตีที่นอนที่ทำจากหวายมาตีเบาะ และพนักพิงให้ทั่ว
  • คอนโซลหน้ารถ วิธีการทำความสะอาดทำได้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่ใช้น้ำยาเคลือบเงาเช็ดให้ทั่ว ๆ เท่านั้นเอง
  • การทำความสะอาดพรม แนะนำว่า พยายามดูแลไม่ให้พรมเช็ดเท้าเปียก หรือถ้าหากเปียกอย่ารอช้านะคะ ให้รีบใช้ทิชชู่หรือผ้าซับหรือซับน้ำออกทันที หลังจากนั้นก็เอารถไปตากแดด พร้อมแง้มกระจกเล็กน้อยเพื่อใช้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้พรมแห้ง
  • กลิ่นภายในรถยนต์ หากพบว่ารถของคุณมีกลิ่นเหม็น ให้นำรถไปจอดตากแดดแล้วปิดกระตกไว้สักชั่วโมงก่อน หนังจากนั้นก็เปิดประตูรถทุกบาน เพื่อให้ลมนำกลิ่นออกไปพร้อมกับความร้อน ที่สำคัญอย่าลืมนำน้ำหอมดับกลิ่นมาไว้ในรถด้วยนะคะ

อยากทำความสะอาดรถด้วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร

นอกเหนือจากนี้ ความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมทำสิ่งเหล่านี้กันด้วยนะคะ

  • เก็บขยะภายในรถให้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำ กระดาษทิชชู่
  • หมั่นดูดฝุ่นในรถสม่ำเสมอ
  • จัดเก็บของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยการทำกล่องมาใส่เรียงไว้ให้เรียบร้อย
  • ถ้าหากเลี่ยงได้พยายามเลี่ยงไม่รับประทานอาหารหรือขนมในรถนะคะ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามอย่าทำให้หกค่ะ หรือถ้ารถยนต์คันไหนมีเด็ก ๆ นั่งประจำละก็ หากลูก ๆ ทำหกแล้วต้องรีบเก็บทันทีนะคะ มิเช่นนั้นละก็มดได้มาขออาศัยนั่งรถเที่ยวด้วยแน่ ๆ

ว่าแต่เอ…แล้วเกี่ยวกับสุขภาพที่ดีได้อย่างไร? นั่นเป็นเพราะเมื่อไรก็ตามที่รถยนต์ของคุณสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรค เราก็จะได้สุขภาพดีไปด้วย และยังได้ออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพแข็งแรง!
Rewrite by Butter Cutter
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์
 

The post อยากทำความสะอาดรถยนต์ด้วยตัวเอง ต้องเริ่มจากอะไรนะ? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>