เรื่องเงิน ๆ ทองๆ Archives - Bolttech Blog - News & Updates Bolttech Blog - News & Updates Thu, 22 Feb 2024 08:01:29 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0.3 https://www.bolttech.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/02/favicon.ico เรื่องเงิน ๆ ทองๆ Archives - Bolttech Blog - News & Updates 32 32 TrueMoney แอปเดียวจบ ครบเรื่องการเงิน https://www.bolttech.co.th/blog/truemoney%e0%b8%88%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=truemoney%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599 Wed, 20 Dec 2023 08:30:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=31229 ทรูมันนี่ (TrueMoney) กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ของคนยุคใหม่! เป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่ให้บริการครบวงจร สะดวก สบาย เชื่อมต่อการชำระเงินกับ 7-Eleven ทั่วประเทศด้วยแอปทรูมันนี่ นำไปใช้จ่ายแทนเงินสดได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถใช้จ่ายได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน สินเชื่อ หรือซื้อประกันภัยออนไลน์ง่ายๆ ผ่านแอปพ

The post TrueMoney แอปเดียวจบ ครบเรื่องการเงิน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ทรูมันนี่ (TrueMoney) กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ของคนยุคใหม่! เป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่ให้บริการครบวงจร สะดวก สบาย เชื่อมต่อการชำระเงินกับ 7-Eleven ทั่วประเทศด้วยแอปทรูมันนี่ นำไปใช้จ่ายแทนเงินสดได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถใช้จ่ายได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน สินเชื่อ หรือซื้อประกันภัยออนไลน์ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney ที่ให้ความคุ้มครองครบครัน เลือกแผนได้ตามที่คุณต้องการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

TrueMoney

แอปพลิเคชัน TrueMoney มีแผนประกันภัยให้เลือกมากมาย เช่น ประกันชีวิต ประกันรถยนต์ พ.ร.บ.รถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ประกันเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันชดเชยรายได้ ประกันบ้าน และประกันอื่นๆ ที่รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที! ซื้อประกันออนไลน์ได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก พร้อมรับกรมธรรม์ได้ผ่านทางอีเมล จบ ครบ ภายในที่เดียว

TrueMoney

พิเศษ!! รับส่วนลด โปรโมชันต่างๆ เมื่อซื้อประกันภัยออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ร่วมรายการอีกมากมาย สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าทรูมันนี่เท่านั้น! ประหยัด คุ้มค่า ในราคาสบายกระเป๋า สำหรับใครที่สนใจซื้อประกันภัยออนไลน์ สามารถลงทะเบียนสมัครใช้งานผ่านแอปทรูมันนี่ได้เลย

TrueMoney

เพียงเริ่มต้นใช้งานง่ายๆ ดาวโหลดแอป TrueMoney สมัครสมาชิก หลังจากนั้นเติมเงินเข้าทรูมันนี่วอลเล็ท (True Wallet) ได้หลากหลายช่องทาง แบบไม่มีขั้นต่ำและมีขั้นต่ำ ได้แก่ เติมเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตู้ ATM ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11 หรือผ่านตู้เติมเงิน เป็นต้น สามารถเติมเงินใช้ได้ทุกเครือข่ายมือถือ เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน

ผูกแค่ครั้งเดียว ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตใดๆ สามารถเพลิดเพลินกับการชำระค่าบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ บิลบัตรเครดิต โอนเงิน เติมแพ็กเกจเน็ตทรู เติมเงินมือถือ Google Play ซื้อบัตรเติมเงิน ช็อปสินค้าออนไลน์ ซื้อประกันออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย  มาพร้อมระบบความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวโดนดูดเงิน เติมจ่ายได้ตามที่คุณต้องการ สะดวก รวดเร็ว ตลอดการใช้งานผ่านทรูมันนี่

ประกันออนไลน์

The post TrueMoney แอปเดียวจบ ครบเรื่องการเงิน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เทคนิคดีๆ รีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่าน https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258b%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%259c%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 Tue, 14 Mar 2023 08:15:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=26262 หลายคนต่างก็รู้จักกันดี กับคำว่า รีไฟแนนซ์รถยนต์ ถือเป็นหนึ่งวิธีนำเงินมาหมุนเวียน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือปิดภาระหนี้สินที่คงอยู่ สามารถนำเงินทุนไปใช้ต่อยอดได้ หากใครที่กำลังวางแผนที่จะรีไฟแนนซ์รถ แล้วอยากรีไฟแนนซ์ให้ผ่านฉลุย เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากทุกคนด้วยนะ 1. เตรียมเอกสารให้ครบ สิ่งที่สำคัญสุดคือ เอกสาร

The post เทคนิคดีๆ รีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่าน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
หลายคนต่างก็รู้จักกันดี กับคำว่า รีไฟแนนซ์รถยนต์ ถือเป็นหนึ่งวิธีนำเงินมาหมุนเวียน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือปิดภาระหนี้สินที่คงอยู่ สามารถนำเงินทุนไปใช้ต่อยอดได้ หากใครที่กำลังวางแผนที่จะรีไฟแนนซ์รถ แล้วอยากรีไฟแนนซ์ให้ผ่านฉลุย เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากทุกคนด้วยนะ

1. เตรียมเอกสารให้ครบ

รีไฟแนนซ์รถยนต์

สิ่งที่สำคัญสุดคือ เอกสารยื่นรีไฟแนนซ์รถ เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนรถ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาสเตทเม้น (Statement) ธนาคารย้อนหลัง และอื่นๆ ตามที่สถานบันรีไฟแนนซ์กำหนด ให้เตรียมทุกอย่างจนครบ เป็นเกณฑ์ในการอนุมัติให้ง่ายขึ้น

2. มีหลักฐานการเงินที่มีเงินเก็บประจำ เป็นรายเดือน

รีไฟแนนซ์รถยนต์

หลักฐานการเงิน ถือเป็นเอกสารที่สำคัญมากๆ ในการอนุมัติว่ารีไฟแนนซ์รถยนต์ผ่านหรือไม่ เคล็ดลับรีไฟแนนซ์รถให้ผ่านฉลุย คุณควรมีเงินฝากบัญชีธนาคารประจำเดือน และควรมีเงินเก็บไว้เสมอ เนื่องจากทางสถาบันการเงินจะมองว่าคุณมีความสามารถในการเก็บเงินระดับหนึ่ง ช่วยในการอนุมัติขอสินเชื่อรถของคุณ

3. เลือกวงเงินที่เหมาะสม

รีไฟแนนซ์รถยนต์

คุณควรเลือกวงเงินที่เหมาะสมหรือใกล้เคียงกับรถของคุณ เพราะหากคุณเลือกวงเงินที่สูงเกินไป อาจส่งผลให้รีไฟแนนซ์รถยนต์ไม่ผ่าน  แล้วที่สำคัญจะได้ไม่เป็นหนี้สินจนเกินไป โดยการนำสินทรัพย์ (รถยนต์ของคุณ) มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้ ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารจะประเมินสภาพรถ ณ. ปัจจุบันโดนยึดตามราคากลางของรุ่นรถนั้นๆ

4. เลือกระยะเวลาและค่างวดผ่อนชำระได้

รีไฟแนนซ์รถยนต์

อยากจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่าน ต้องดูระยะเวลา และค่างวดผ่อนชำระเช่นเดียวกัน  หากคุณเลือกผ่อนนานดอกเบี้ยอาจเเพง แต่ถ้าคุณเลือกผ่อนสั้นหมดไวดอกเบี้ยอาจน้อย โดยระยะเวลาผ่อนต้องดูด้วยว่าค่างวดผ่อนชำระไหวหรือไม่ ให้พิจารณาตามนี้ให้ดีเลย บางสถาบันก็อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลง สามารถเลือกผ่อนยาวนานขึ้น

5. เปรียบเทียบหลายๆ สถานบันการเงิน

รีไฟแนนซ์รถยนต์

ปัจจุบันนี้มีตัวเลือกสถาบันการเงินหรือธนาคาร ที่รับเรื่องรีไฟแนนซ์รถยนต์เยอะมาก ถึงแม้คุณจะต้องเสียเวลาในการติดต่อ ดำเนินเรื่องเอกสาร หรืออาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องบ้าง แต่ข้อดีคือ คุณสามารถเปรียบเทียบได้ว่าที่ไหนให้ดอกเบี้ยถูกกว่า วงเงินดี และมีแนวโน้มว่าจะมีสิทธิ์ได้รับการอนุมัติ

รีไฟแนนซ์รถยนต์

เทคนิคง่ายๆ รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ ดูแลรถให้ดูใหม่เสมอ เพราะทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบรถที่นำมารีไฟแนนซ์ ว่ามีความเหมาะสมกับวงเงินที่ขอหรือไม่ หากรถดูเก่า เครื่องยนต์ทรุดโทรม มีโอกาสที่จะได้รับอนุมัติยาก และควรเลือกสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อด้วย สุดท้ายการรีไฟแนนซ์ที่ดีนั้น ควรทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้กู้ ให้มองภาพรวมทั้งการผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อน ไม่สร้างหนี้ให้กับตัวเองในอนาคต  

ซื้อประกันรถยนต bolttech.co.th ประกันรถยนต์ออนไลน์ ซื้อง่าย รับความคุ้มครองอุ่นใจ มีให้เลือกหลายบริษัทชั้นนำ เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที เพียงกรอกข้อมูลไม่กี่ขั้นตอน มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษจากเรา

ประกันรถยนต์

The post เทคนิคดีๆ รีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่าน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 ทริควางเเผนเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%87%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%93?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2593 Wed, 05 May 2021 05:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog/?p=15683 เมื่อวันนึงที่เราทุกคนเข้าถึงในช่วง “วัยเกษียณ”  ก็คงใกล้ถึงบั้นปลายของชีวิตที่เราจะต้องหยุดทำงานกันแล้ว แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในช่วงสุดท้ายของเรานั้น เราจะมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายเมื่อยามเกษียณหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องรู้จักวิธีออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย พร้อมกับตั้งเป้าหมายระยะยาวให้ดีๆ ก็จะช่วยให้คุณม

The post 5 ทริควางเเผนเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อวันนึงที่เราทุกคนเข้าถึงในช่วง วัยเกษียณ  ก็คงใกล้ถึงบั้นปลายของชีวิตที่เราจะต้องหยุดทำงานกันแล้ว แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในช่วงสุดท้ายของเรานั้น เราจะมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายเมื่อยามเกษียณหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องรู้จักวิธีออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย พร้อมกับตั้งเป้าหมายระยะยาวให้ดี ก็จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ในอนาคตนั่นเอง 

1. กำหนดอายุที่ต้องการเกษียณ

วิธีออมเงิน

ตามปกติแล้วในช่วงเกษียณอายุ มักจะกำหนดให้ทำงานได้ถึงอายุ 60 ปี แต่อย่างไรก็ตามคนที่มีสุขภาพแข็งแรงก็สามารถทำงานได้ถึง 65-70 ปี ซึ่งเราเองก็จะต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า เราอยากเกษียณตอนอายุเท่าไหร่?  เพื่อจะได้เตรียมวางแผนออมเงินเกษียณในระยะยาว 

2. คำนวณเงินที่ใช้หลังเกษียณ

วิธีออมเงิน

หากเรารู้แล้วว่าเราต้องการเกษียณอายุเมื่อไหร่ และวางแผนใช้ชีวิตประมาณกี่ปี เราก็สามารถคำนวณเงินที่ใช้หลังวัยเกษียณได้ โดยให้พิจารณาจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณ เช่น ค่ากินอยู่ทั่วไป ค่าที่อยู่อาศัยและค่าบำรุงทรัพย์สิน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าท่องเที่ยว ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น หลังจากนั้นเราก็จะทราบค่าใช้จ่ายต่างๆ ต่อเดือน แล้วให้นำมาคิดเป็นเงินก้อนที่ต้องการใช้ในวัยเกษียณด้วย 

ยกตัวอย่าง คุณมีอายุ 30 ปี ต้องการเกษียณตอนอายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีอายุอยู่ถึง 85 ปี โดยจะใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด คำนวณแล้วมีค่าใช้จ่าย 20,000 บาท/เดือน จะคิดเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด 240,000 บาทต่อปี ดังนั้นคุณจะต้องมีเงินทั้งหมด ณ วันที่เกษียณ เท่ากับ 240,000 x 30 คิดเป็นเงินทั้งหมด 7,200,000 บาท  

ซึ่งหมายความว่า คุณจะต้องมีเงินก้อนสะสมให้ครบ 7,200,000 บาท เอาไว้ใช้หลังเกษียณอายุนั่นเอง

3. ออมเงินให้ได้มากที่สุด

วิธีออมเงิน

เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ เราควรวางแผนเก็บเงินตั้งแต่อายุน้อยๆ หรือทำงานเก็บเงินให้ชีวิตดีแต่มีเงินออม อย่างน้อย ก็ควรแบ่งเงินออม 20% ของเงินเดือน หรือเก็บมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี โดยจะต้องตั้งเป้าหมายกับตัวเองให้ชัดเจนว่า เราจะแบ่งเงินออมจำนวนเท่าไหร่ เพื่อเอาไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น ส่วนใครที่เป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก็สามารถสร้างวินัยสอนลูกให้รู้จักวิธีออมเงินได้ เพราะเด็กจะได้ฝึกออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย

4มองหาประกันสะสมทรัพย์ไว้

วิธีออมเงิน

นอกจากเราจะเลือกออมเงินบัญชีออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยเงินฝากสูง หรือเก็บออมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทฯ เป็นประจำทุกเดือนแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อน ก็คือ “ประกันสะสมทรัพย์  นั่นเอง ซึ่งข้อดีของการทำประกันสะสมทรัพย์ มีดังต่อไปนี้ 

  • เป็นการออมเงินที่มีผลตอบแทนชัดเจน 
  • คุ้มครองชีวิตเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จึงสร้างความมั่นคงให้กับคนในครอบครัวของคุณ  
  • ผลตอบแทนของประกันชีวิตไม่ต้องเสียภาษีต่างจากเงินฝากในธนาคา 
  • นำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย มั่นใจว่าคุณจะมีเงินเก็บในอนาคตแน่นอน 

5ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน

วิธีออมเงิน

สำหรับวิธีเก็บเงินให้ดีที่สุด เราจะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายแต่ละเดือน  เพื่อเป็นตัวช่วยในการควบคุมการเงินของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะมีรายได้จากแหล่งต่างๆ หรือได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ถ้าเราไม่คำนวณให้ดีแล้วใช้จ่ายมากเกินไป ก็จะส่งผลเสียกับการออมเงินของคุณได้ ดังนั้น เราจะต้องวางแผนบัญชีให้เหมาะสม และอย่าลืมหมั่นปรับปรุงแผนการเงินสม่ำเสมอ จะได้มีเงินเก็บไว้ใช้สบายๆ ไปจนแก่ 

เห็นไหมว่า วิธีเก็บเงินไว้ใช้เมื่อยามเกษียณไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราจะต้องวางแผนรายรับรายจ่ายตั้งแต่เนิ่นๆ และหาช่องทางการลงทุนที่ดีอย่างประกันสะสมทรัพย์ เอฟดับบลิวดี ฟอร์ เซฟวิ่ง 20/10 ก็จะช่วยให้คุณมีเงินก้อนไว้ใช้ข้างหน้า พร้อมคุ้มครองชีวิตหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใการออมเงินเกษียณของคุณในอนาคตด้วย ทำให้เรามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น 

CTA ประกันสะสมทรัพย์

The post 5 ทริควางเเผนเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b5-2564-%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b5-2564-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Sat, 14 Nov 2020 03:29:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14001 วางแผนลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 สำหรับผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถยื่นได้ที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์

The post สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วางแผนลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 สำหรับมนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพียงรวบรวมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน จากนั้นยื่นที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์ ก็จะช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลง แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ว่าสิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆ มาให้แล้ว เพื่อจะได้เตรียมตัวลดหย่อนภาษีต่อไป

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว

  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีรายได้แต่เลือกคำนวณภาษีพร้อมกัน
  • ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี ทั้งนี้สามีสามารถลดหย่อนภาษีได้กรณีภรรยาไม่มีเงินได้
  • ค่าลดหย่อนบุตร สิทธิลดหย่อนภาษีบุตรคนแรกได้ 30,000 บาท สำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปสามารถลดหย่อนเพิ่มอีก 30,000 บาท แต่จะต้องเป็นบุตรโดยชอบตามกฎหมายสามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัด และบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่เกิน 3 คน (นับเฉพาะที่มีชีวิตอยู่)
  • ค่าลดหย่อนบิดามารดา สำหรับเลี้ยงดูพ่อแม่ และพ่อแม่คู่สมรสที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน โดยสิทธิลดหย่อนบิดามารดาใช้ได้ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องระบุลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนจะเป็นคนเลี้ยงดู
  • ค่าอุปการะคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน แต่ผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และมีบัตรประจำตัวคนพิการ พร้อมหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ

2. ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน

  • ประกันสังคม ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันชีวิต สามารถหักได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท (จากแต่เดิมได้เพียง 15,000 บาทต่อปี) กรณีทำประกันสุขภาพพ่วงกับประกันชีวิตจะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ หักได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
  • เบี้ยประกันชีวิตคู่สมรส  หักได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้
  • เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาทจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษี
  • เงินสะสมกองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 500,000 บาท
  • เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้ตามที่จ่ายจริงไม่เกินจำนวน 13,200 บาท
  • กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หักภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
  • เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 ได้สูงสุด 200,000 บาท

3. ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์

  • ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย สิทธิลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ซื้อบ้านหลังแรกปี พ.ศ. 2558 ลดหย่อนได้ 20% ของราคาบ้าน โดยนำไปลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี (เฉลี่ยปีละ 4%) แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 3,000,000 บาท
  • ซื้อบ้านหลังแรกในปี พ.ศ. 2562 ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค

  • เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา การกีฬา และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคทั่วไป หักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และเงินบริจาค 2 กลุ่มแรกข้างต้น
  • เงินบริจาคให้พรรคการเมือง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

5. ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

  • สินค้าการศึกษาและกีฬา หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท
  • สินค้าหนังสือ ไม่เกิน 15,000 บาท
  • สินค้ากลุ่มช้อปช่วยชาติ สินค้า OTOP ไม่เกิน 15,000 บาท
  • ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท
  • ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ 20,000 บาท
  • ค่าเสียหายจากพายุปาบึก ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถไม่เกิน 30,000 บาท
  • ค่าเสียหายจากพายุโพดุล พายุคาจิกิ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถอื่นๆ ไม่เกิน 30,000 บาท

สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

สำหรับบุคคลที่มีรายได้ ให้เตรียมลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 โดยรูปแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ ภ.ง.ด.90 ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือเงินเดือนที่ได้รับ และแบบ ภ.ง.ด.91 ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยไม่มีรายได้เสริมอื่น ซึ่งเราจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นจ่ายภาษี ดังนี้

  • หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) 
  • รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา
  • เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เพื่อกรอกแบบฟอร์มการยื่นจ่ายภาษี

แล้วทำการยื่นภาษีที่ไหน?

ทั้งนี้คุณสามารถยื่นภาษีได้หลายช่องทาง หากเราเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว ให้รีบทำการยื่นจ่ายภาษีให้เร็วที่สุด โดยสามารถยื่นได้หลายช่องทาง ได้แก่

  • ยื่นภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพกร
  • ยื่นภาษีออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th
  • ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน

หลังจากเช็ก สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 เตรียมเอกสารภาษีทุกอย่างครบแล้ว ก็ให้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กรมสรรพากร หรือยื่นภาษีออนไลน์ได้เลย ซึ่งค่าลดหย่อนภาษีเหล่านี้จะช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลง

เห็นไหมครับว่า ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ด้วย ไม่ว่าจะซื้อให้ตัวเองหรือซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ ก็ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 นี้ได้เลย นอกจากเราจะมีประกันสุขภาพดีๆ ให้ดูแลเมื่อยามเจ็บไข้แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคตด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.itax.in.th

ประกันสุขภาพ

The post สิทธิลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สลิปเงินเดือนสำคัญอย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%aa%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3-%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Wed, 11 Nov 2020 03:00:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14094 มนุษย์เงินเดือนทุกคนอาจคุ้นเคยกับใบสลิปเงินเดือนหรือ Payslip กันเป็นอย่างดี เพราะเราจะได้ใบนี้เป็นประจำในวันเงินออกสิ้นเดือน แต่มีใครสงสัยกันหรือไม่ว่าใบสลิปเงินเดือนนอกจากจะเอาไว้ดูยอดเงินเข้ารายเดือนแล้วยังใช้ทำอะไรได้อีก ซึ่งในวันนี้เราจะมาเฉลยให้ฟังอย่างละเอียด แล้วคุณจะรู้ว่าควรเก็บสลิปเงินเดือนไว้ให้ดี เพราะจะมีป

The post สลิปเงินเดือนสำคัญอย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
มนุษย์เงินเดือนทุกคนอาจคุ้นเคยกับใบสลิปเงินเดือนหรือ Payslip กันเป็นอย่างดี เพราะเราจะได้ใบนี้เป็นประจำในวันเงินออกสิ้นเดือน แต่มีใครสงสัยกันหรือไม่ว่าใบสลิปเงินเดือนนอกจากจะเอาไว้ดูยอดเงินเข้ารายเดือนแล้วยังใช้ทำอะไรได้อีก ซึ่งในวันนี้เราจะมาเฉลยให้ฟังอย่างละเอียด แล้วคุณจะรู้ว่าควรเก็บสลิปเงินเดือนไว้ให้ดี เพราะจะมีประโยชน์กับชีวิตคุณอย่างแน่นอน!

สลิปเงินเดือนคืออะไร

สลิปเงินเดือน

สลิปเงินเดือนหรือ Payslip เป็นใบกระดาษ ที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทจะพิมพ์ให้กับพนักงานเป็นประจำในช่วงสิ้นเดือน เพื่อเป็นการแจ้งยอดเงินเดือนของเรารวมถึงรายได้อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น การทำงานล่วงเวลา หรือค่าคอมมิชชั่น ฯลฯ ให้ได้รับทราบ ซึ่งใบสลิปเงินเดือนจะถูกปิดผนึกไว้เป็นอย่างดี เพื่อปกปิดข้อมูลรายรับของพนักงาน ถ้าคุณได้ใบสลิปจากฝ่ายบุคคลให้เตรียมดีใจไว้ได้เลยเพราะเงินเดือนคุณกำลังจะเข้าในไม่ช้า

ทั้งนี้สลิปเงินเดือนจะมีหลัก ๆ สองแบบคือ สลิปเงินเดือนที่ปริ้นออกมาจาากกระดาษคาร์บอนซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า กับสลิปเงินเดือนที่เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคุณสามารถพิมพ์ออกมาเก็บไว้เป็นเอกสารสำคัญก็ได้เช่นกันแต่ความน่าเชื่อถือจะน้อยกว่า แต่ถ้าบริษัทไหนไม่ได้ให้สลิปเงินเดือนกับคุณเลย คุณสามารถร้องขอสลิปกับทางฝ่ายบุคคลได้เช่นกันครับ 

ส่วนใครที่ทำสลิปเงินเดือนหาย ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะคุณสามารถขอย้อนหลังกับฝ่าบบุคคลได้เช่นกัน

สลิปเงินเดือนใช้ทำอะไรได้บ้าง

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้คงอยากรู้แล้วว่าสลิปเงินเดือนใช้ทำอะไรบ้าง และทำไมเราถึงต้องเก็บสลิปเงินเดือนไว้ให้ดี เราจะมาเฉลยข้อสงสัยดังนี้

1. สลิปเงินเดือนไว้ใช้ทำบัตรเครดิต

เพราะสลิปเงินเดือนเป็นเสมือนหลักฐานถึงความมั่นคงด้านการงานและรายรับประจำเดือน การที่เรามีสลิปเงินเดือนแสดงว่าเราได้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทจริง ดังนั้นก่อนที่ธนาคารจะให้เครดิตเรา ทางธนาคารจะต้องตรวจสอบความมั่นคงในอาชีพของเราด้วย ว่าจะสามารถใช้หนี้บัครเครดิตได้หรือเปล่า

2. ใช้ขอสินเชื่อ รีไฟแนนซ์ หรือกู้เงินกับธนาคาร

ด้วยเหตุผลเดียวกับการทำบัตรเครดิต การขอกู้เงินกับทางธนาคาร หรือรีไฟแนนซ์ จะต้อใช้สลิปเงินเดือนด้วย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงความมั่นคงทางการเงินนั่นเอง

3. ใช้ขอ Statement จากธนาคาร

 Statement เป็นเสมือนรายการเดินบัญชีในธนาคาร ซึ่งการทำธุรกรรมทางการเงินส่วนมาก ทางบริษัทจะขอ Statement จากเราด้วยครับ ซึ่งการขอ Statement  นั้น จะต้องใช้สลิปเงินเดือนของเราเป็นหลักฐานว่าเงินรายได้เราเข้าธนาคารเดือนละเท่าใดนั่นเอง

4. ใช้สมัครงาน

เนื่องจากการสมัครงานบางครั้ง ทางบริษัทที่รับสมัครจะขอเรียกดูสลิปเงินเดือนย้อนหลังด้วย เพื่อดูรายละเอียดประกอบว่าเราทำงานบริษัทเก่าได้เงินเดือนตรงกับที่ระบุไว้ในใบสมัครงานหรือไม่ รวมถึงการพิจารณาให้เงินเดือนกับเรา ดังนั้นหากเราจะสมัครงานเราควรกรอกฐานเงินเดือนจริงจากบริษัทเดิม เพื่อให้ยอดเงินตรงกับสลิปเงินเดือนที่ได้รับมาครับ

5. ใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี

เมื่อเราเป็นบุคคลที่มีเงินได้เราก็ต้องมีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อเรายื่นภาษีประจำปีไปบางครั้งสรรพภากรอาจจะเรียกให้เราแสดงหลักฐานที่มาของเงินได้เพิ่มเติมครับ ถ้าเราเก็บสลิปเงินเดือนไว้ เราก็สามารถนำส่งเป็นหลักฐานให้สรรพากรได้ครับ

สลิปเงินเดือน

รายละเอียดของสลิปเงินเดือน

โดยปกติแล้วสลิปเงินเดือนจะพิมพ์จากกระดาษคาร์บอน เพราะจะปลอมแปลงเอกสารได้ยาก ดังนั้นหากเราจะทำเรื่องธุรกรรมการเงินเราจึงควรใช้สลิปเงินเดือนที่เป็นกระดาษคาร์บอนดีที่สุดครับ ธุรกรรมจะได้อนุมัติผ่านง่าย ๆ หากบริษัทเราให้สลิปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เราอาจปริ้นท์ไปเป็นหลักฐานเองแต่ความน่าเชื่อถือก็จะถูกลดลงมา

อ่านเพิ่มเติม : 5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือน

สลิปเงินเดือนที่ดีจะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งของพนักงาน
  2. ข้อมูลชื่อบริษัท และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  3. ข้อมูลวัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน
  4. แจกแจงรายละเอียดของรายได้ เช่น เงินเดือนเท่าไหร่ ได้โอทีหรือค่าคอมมิชชั่นเท่าใด รวมถึงการหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ประกันสังคม หรือกองทุน
  5. แสดงสรุปรายได้สุทธิที่พนักงานได้รับของเดือน รวมถึงรายได้สะสมที่เคยทำงานมา

สลิปเงินเดือน

มาถึง ณ ตอนนี้ เราคงจะเข้าใจกันแล้วนะครับ ว่าสลิปเงินเดือนที่เราได้รับนั้นสำคัญเพียงใด อย่าเอาแต่เปิดอ่านดูรายได้แล้วทิ้งปล่อยไปนะครับ เพราะถ้าถึงวันที่เราต้องการใช้สลิปเงินเดือนขึ้นมา เราอาจจะรู้สึกเสียดายที่ไม่เก็บสลิปเงินเดือนให้ดีก็ได้

อ่านเพิ่มเติม : วัยทำงาน เก็บเงินอย่างไรให้ชีวิตดี๊ดีแต่มีเงินออม

ประกันกลุ่ม

The post สลิปเงินเดือนสำคัญอย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ https://www.bolttech.co.th/blog/14126?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=14126 Tue, 10 Nov 2020 02:10:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=14126 ใกล้สิ้นปี 2020 แล้ว วางแผนจะทำอะไรพิเศษดีในปีนี้นะ หากใครที่กำลังจะลงมือทำอะไรสักอย่าง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราจะมาให้คำตอบทุกคนกัน!!

The post ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับปี 2020 เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะลงความคิดเห็นเหมือนกันว่าเป็นปีที่สร้างความลำบากใจ และไม่ได้รู้สึกพิเศษเหมือนปีก่อนๆ เพราะเป็นปีที่เริ่มพบเจอวิกฤตกาลต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ต้นปีเลย จนบางคนเริ่มภาวนาให้หมดปีนี้ไว ๆ จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมในปีหน้า แต่แน่นอนว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ให้คิดซะว่าเป็นเวลาที่เหลือที่เราควรเอาไปลงทุน ใส่ใจเป็นพิเศษดีกว่า เผื่อว่าปีหน้าของเราจะได้ใช้ชีวิตดีขึ้น

1. ดูแลสุขภาพ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนยกให้เรื่องของ “สุขภาพ” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ลองนึกดูว่าตั้งแต่ต้นปีที่เราประสบกับวิกฤติของการระบาดของไวรัสโคโรนา อย่างโควิด-19 เราใช้ร่างกายมากน้อยแค่ไหน เกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือการเจ็บป่วย กับร่างกายของเราถี่แค่ไหน ดังนั้นควรเลือกการใส่ใจด้านสุขภาพให้มากขึ้นในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อการออกกำลังกายอย่างจริงจัง หรือการเลือกซื้อประกันสุขภาพดี ๆ ก็จะช่วยให้เราอุ่นใจได้มากขึ้นในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา เพราะว่าสุขภาพที่แสนดีนั้นไม่มีขาย เพียงแต่เราควรต้องลงมือทำเองเท่านั้น

2. หาทักษะเสริม

คนที่พร้อมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาจะพัฒนาตัวเองได้ก้าวไกลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านทัศนคติตัวเอง หรือทักษะสกิลต่าง ๆ ที่ติดตัวกับตัวเรา การหาความรู้เพิ่มเติมจะเป็นอาหารให้สมองของเราได้ แล้วตัวเราจะได้รับการพัฒนามากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันของเราก้าวกระโดดไปไกลมาก และมีมากมาย ทำให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่าง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการอ่านหนังสือ E-Book ออนไลน์ การฟัง Podcast การดูวิดีโอตามหลักสูตร หรือคอร์สต่าง ๆ ทางออนไลน์ ให้เราเลือกสรรได้ตามความเหมาะสมของตัวเราเลย เพราะสุดท้ายแล้วเราทุกคนสามารถเป็นคนเก่งได้เหมือนกัน

3. ออมเงิน

เรื่องการเงินนั้นก็สำคัญเช่นกัน ใครที่ใช้ประโยคปลุกใจในการออม หรือใครที่พูดกันตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้เราจะจริงจังกับการออมเงิน แต่ว่าไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ ก็ถือซะว่าไม่เป็นไรนะ เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ลองหันมาจริงจังเด็ดขาดกับตัวเองสักครั้ง จัดระเบียบแบบแผนทางการเงินว่าเราจะออมเงินเท่าไร จะนำเงินไปฝากธนาคารเท่าไร ซึ่งอาจจะทำได้ยากในช่วงแรก ๆ แต่ถ้าหากเราทำเป็นประจำแล้ว การได้เห็นยอดเงินออมที่สูงมากขึ้นคงช่วยทำให้เรามีกำลังใจ และมีเป้าหมายในการออมเงินได้อย่างชัดเจน

4. ทบทวบสิ่งที่ผ่านมา

อาจจะมีใครหลายคนที่รู้ตัวว่าเราเองมีข้อเสียอะไรที่เราอยากแก้ไข รู้ตัวว่าสิ่งไหนที่ทำให้เราไม่ชอบตัวเอง การที่เปลี่ยนแปลงตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นนั้น มันไม่ใช่การแก้ไขเพื่อให้คนอื่นประทับใจนะ แต่มันเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่ตัวเรามากกว่า เช่น การเปลี่ยนแปลงนิสัย เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ลดของหวานเพื่อสุขภาพ คิดก่อนพูดเพื่อคำพูดของเราจะได้ไม่ไปทำร้ายจิตใจคนอื่น หรือการหันมาชมตัวเองในทุก ๆ เช้า เชื่อเถอะว่า ถ้าเราสามารถแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้ในปีหน้า เราจะเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกและรักตัวเองมากกว่าเดิม หากสิ้นปีนี้ใครที่กำลังลังเล หรือมีความกลัวที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง ทางเราอยากแนะนำให้ทุกคนเริ่มลงมือทำกันเลย เพราะถ้าช้าจนเกินไป เราอาจจะมาเสียดายภายหลังได้ สุดท้ายแล้วก็หวังว่าวันนี้และปีหน้าของทุกคน พบเจอแต่เรื่องดี ๆ ตลอดไปด้วยนะ

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com

The post ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สิ่งไหนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด https://www.bolttech.co.th/blog/5%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%94?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259e%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594 Mon, 03 Aug 2020 03:42:00 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=12546 เมื่อสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนา ทำให้หลายกิจการมีผลกระทบต่อรายได้มหาศาล อย่างเช่น ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองหลายบริษัทจึงมีนโยบายลดเงินเดือนพนักงาน หรือปลดพนักงานออก เพื่อหวังที่จะให้รายจ่ายต่อเดือนน้อยลง

The post 5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เมื่อสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนา ทำให้หลายกิจการมีผลกระทบต่อรายได้มหาศาล อย่างเช่น ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองหลายบริษัทจึงมีนโยบายลดเงินเดือนพนักงาน หรือปลดพนักงานออก เพื่อหวังที่จะให้รายจ่ายต่อเดือนน้อยลง สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่ตกอยู่ในสภาวะลำบากเช่นนี้ ลองปรับเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสกันดีว่า เพราะธุรกิจบางประเภทก็มีรายได้เสริมดี แถมไม่ต้องลงทุนมากด้วย

1. รับจ้างส่งอาหาร เดลิเวอรี่

หารายได้เสริม
อย่างที่รู้กันดีว่า “อาหารการกิน” เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน การทำงานพาร์ทไทม์เสาร์อาทิตย์อย่างอาชีพรับจ้างส่งอาหารเดลิเวอรี่ถือเป็นนาทีทองเลย มีรายได้เสริมเฉลี่ย 15,000 - 30,000 บาทต่อเดือน  โดยอาจจะขึ้นอยู่กับการรับออเดอร์และความขยัน ยิ่งถ้าคุณส่งอาหารหลายๆ รอบต่อวัน หรือเพิ่มระยะทางของลูกค้าในช่วงเวลานั้นๆ ก็จะเพิ่มรายได้เสริมพิเศษไปด้วย บอกเลยว่าบางพาร์ทเนอร์ก็สมัครฟรีนะ ไม่มีค่าใช้จ่าย

เคล็ดลับเพิ่มรายได้รับจ้างส่งอาหาร (เดลิเวอรี่) :

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะหารายได้เสริมอย่างรับจ้างส่งอาหาร จะต้องศึกษาแพลตฟอร์มการรับ-ส่งอาหารกับพาร์ทเนอร์ให้ดีก่อน ทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เราจะได้รับ เช่น มองเห็นรายได้ก่อนรับงาน เลือกเวลาทำงานได้ มีสวัดิการให้พนักงาน เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องมีระบบการจ่ายงานให้ชัดเจน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แล้วที่สำคัญจะต้องรักษามาตรฐานในการบริการของคุณเสมอ เพราะบางบริษัทอาจจะมีโบนัสขยันและตั้งใจทำงานให้ด้วยนะ

แอปฯ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • Grabfood (สมัครฟรี)
  • Get (สมัครฟรี)
  • Happyfresh (สมัครฟรี)
  • Foodpanda (ค่าสมัคร 100 บาท) *เหมาะสำหรับงานประจำมากกว่า
  • Skootar (ค่าสมัคร 100 บาท)
  • Lineman (ค่าสมัคร 400 บาท)

หมายเหตุ : อัตราค่าสมัครผู้ให้บริการของแต่ละแอปพลิเคชั่น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบราคากับทางแอปฯ ก่อนได้

2. ขายของแฮนด์เมดออนไลน์

หารายได้เสริม
แต่ถ้าคุณมีฝือในการครีเอทงานแฮนด์เมดเก๋ๆ ก็สามารถหารายได้เสริมควบคู่กับงานประจำได้ เพียงนำเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นงานแฮนด์เมดอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กำไลข้อมือ หรือหน้ากากอนามัยที่กำลังเป็นที่ต้องการในท้องตลาดในช่วงโควิด 19 เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็ลองครีเอทลายน่ารักๆ ให้ได้คุณภาพตามที่ต้องการเลย แถมยังได้ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ลงทุนไม่มากแต่สร้างรายได้เสริมดี

เคล็ดลับในการขายของแฮนด์เมด :

ทราบหรือไหมว่า? งานแฮนด์เมด (Handmade) เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมรายได้ดีไม่แพ้งานประจำ สามารถเปลี่ยนเป็นธุรกิจเล็กๆ ให้เป็นธุรกิจใหญ่ตามความฝันได้ สำหรับใครที่เริ่มต้นจะหารายได้เสริมด้วยงานแฮนด์เมด จะต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐานในการทำธุรกิจขนาดเล็กก่อน ตามดังนี้

  • ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน 
  • มีกลุ่มลูกค้าที่แน่นอน 
  • วางแผนการทำงานให้เป็นระบบ 
  • ลงมือทำอย่างตั้งใจเพื่อให้ได้สินค้ามีคุณภาพ 
  • ศึกษาสินค้าตามกระแส
  • สำรวจคู่แข่งในตลาด 
  • มองหาเทคนิคขายของต่างๆ 
  • กระตุ้นยอดขายทางสื่อออนไลน์ 

ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มรายได้ให้กับคุณมากขึ้น ซึ่งเราจะต้องขยันโปรโมทสินค้า คุยเป็นกันเอง คอยให้คำแนะนำสินค้าพร้อมบริการอย่างดีที่สุด จะช่วยดึงลูกค้าให้กลับเข้ามาที่ร้านของคุณอีกครั้ง

ช่องทางเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ ฟรี!

  • Facebook
  • Instagram
  • Line@
  • Youtube
  • lnwshop
  • Weloveshopping
  • Kaidee
  • ShopUp
  • tarad.com
  • makewebeasy.com

3. ทำอาหารคลีน เดลิเวอรี่

หารายได้เสริม
พอหลังจากโควิด 19 ระบาด หลายคนก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งออกกำลังกาย ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้เองการ ทำอาหารคลีน ในรูปแบบเดลิเวอรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมทําที่บ้านแล้วน่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝีมือด้านการทำอาหารเฉพาะ ข้อดีก็คือทำง่าย ต้นทุนไม่สูงมากนัก  และเป็นที่ต้องการในตลาดด้วย แนะนำให้ลองทำอาหารส่งลูกค้าในย่านใกล้เคียงก่อน หรือจะใช้สื่อออนไลน์ทำการตลาด เช่น ถ่ายรูปอาหารสวยๆ โพสต์ลง พร้อมกับระบุชื่อเมนู ราคา คำบรรยาย และพลังงานแคลอรี่ให้ชัดเจน รับรองทั้งสนุกทั้งได้เงินแน่นอน

เคล็ดลับเพิ่มยอดขายอาหารคลีน :

พอหลังจากธุรกิจอาหารคลีนมาแรงแซงโค้ง หลายคนก็เริ่มอยากทำอาหารคลีน เพื่อหารายได้เสริมกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงยุคโควิด 19 ก็ยิ่งเหมาะกับเมนูอาหารเพื่อคนรักสุขภาพลดพุงเฉพาะ แต่การทำอาหารคลีนดีๆ ขายผ่านสื่อออนไลน์นั้นเราจะต้องจับธุรกิจให้ถูกทางจะช่วยให้ธุกิจของคุณเติบโตและมั่นคงในอนาคต ไม่ผิดหวังแน่นอน!

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
  • นำเสนอเมนูหลากหลาย
  • รสชาติดี วัตถุดิบมีคุณภาพ
  • ราคาคุ้มค่า เป็นมิตร
  • จัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า
  • ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ
  • ส่งอาหารให้ตรงเวลา
  • บรรจุภัณฑ์ออกแบบดูดี
  • โปรโมทอาหารให้เป็นที่รู้จัก

4. เขียนบทความออนไลน์

หารายได้เสริม
สำหรับใครที่กำลังหางานพาร์ทไทม์อย่าง การเขียนบล็อก หรือเขียนบทความต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว อาหาร สุขภาพ ครอบครัว แฟชั่น หรือไลฟสไตล์ ก็สามารถขายผ่านทางออนไลน์ได้ด้วย ถึงคุณจะไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษก็ลองทำได้นะ ไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแค่เขียนบทความให้น่าสนใจตามสไตล์ของตัวเรา ถ้าขยันหน่อยลองทำสัก 3-4 Content ต่อสัปดาห์จะช่วยหารายได้เสริมมากขึ้น บางคนได้ถึง 1,000 บาทต่อวันเลยนะ  เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากหาอาชีพเสริมทำที่บ้านก็ลองนำบทความ พร้อมภาพสวยๆ ลงเว็บไซต์ฟรีได้เลย

เคล็ดลับเขียนบทความออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้ :

ถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน Content เพื่อเป็นอาชีพเสริมทําที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรเลย เพียงใช้เทคนิคง่ายๆ ตามนี้ก็หาเงินเลี้ยงตัวเองได้

  • กำหนดวัตถุประสงค์การเขียน
  • ศึกษาบทความเป็นที่นิยม
  • ศึกษาข้อมูลที่จะเขียนให้เข้าใจ
  • เรียนรู้การใช้คำและการใช้ภาษา
  • ตั้งชื่อเรื่องให้น่าสนใจ
  • ตกแต่งบทความให้น่าอ่าน (มีภาพประกอบ)
  • เขียนบทความใหม่ๆ ไม่จำเจ
  • มีบทสรุปให้คนอ่านติดตาม
  • เผยแพร่บทความให้รู้จักมากขึ้น

แล้วหารายได้การเขียนบทความจากที่ไหน?

จริงๆ แล้วการเขียนบทความเพื่อสร้างรายได้ สามารถทำได้หลายวิธีเลย แต่สำหรับนักเขียนมือใหม่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ลองมาศึกษาพร้อมๆ กันเลย

  • สร้างบล็อกหรือสร้างเพจของตัวเอง ถ่ายทอดเนื้อหา Conntent ตามสไตล์ของตัวเอง อาจจะมีภาพประกอบ วิดีโอ และโฆษณาเพื่อหารายได้เสริม เช่น บล็อกท่องเที่ยว บล็อกอาหาร บล็อกสุขภาพ เป็นต้น
  • รับเขียนบทความแบบฟรีแลนซ์ แนะนำให้สมัครจากเว็บไซต์หรือตามบริษัทรับจ้างเขียนบทความต่างๆ 
  • สมัครเขียนบทความตามสื่อออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีบทความที่รับจ้างโพสต์ตามสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Network) เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาเงินอีกด้วย

5. ขายประกันสุขภาพ ประกันโควิด 19

หารายได้เสริม
เนื่องจากทุกคนยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด 19  หลายคนต่างกำลังมองหาประกันสุขภาพ ประกันโควิด 19 มากขึ้น มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ สามารถเป็นตัวแทน นายหน้าขายประกันสุขภาพ หรือประกันโควิดควบคู่งานประจำได้ ทั้งนี้คุณจะได้รับรายได้จากค่าตอบแทน ยิ่งถ้าคุณขายได้มากเท่าไหร่ก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น แล้วคุณยังสามารถเข้าร่วมขายประกันผ่านทางออนไลน์ในช่วงยุคโควิดอีกด้วย ถือเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ไม่จำกัดเลยล่ะ 

เป็นตัวแทนขายประกันสุขภาพทำยังไง?

อย่างแรกจะต้องศึกษาบริษัทประกันที่ต้องการ แล้วไปสมัครเป็นตัวแทนขาย อาจจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ การอบรมสินค้าและระบบการทำงานภายในก่อน แล้วไปสอบใบอนุญาตขายกับประกันตามขั้นตอนที่บริษัทประกันนั้นๆ แนะนำมาให้ พอหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้วก็สามารถขายได้เลย โดยเทคนิคการขายอาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน จะลองทำเป็นงานอดิเรกหรือสร้างรายได้เสริมก็สนุกไปอีกแบบ
หากคุณสนใจสมัครเป็นตัวแทนประกันกับ frank.co.th สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-106-5810 (จ-ศ : 9.00 - 18.00) หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่จาก Frank ติดต่อกลับอย่างเร็วที่สุด
ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 อาชีพเสริมรายได้ในช่วงโควิด รายได้ดีไม่ขาดมือ แถมยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แน่นอน นอกจากนี้หากใครที่กำลังอยู่ช่วงวิกกฤติ ตกงานกะทันหัน ก็ยังมีมาตรการจากประกันสังคม ชดเชยกรณีหยุดงาน ออกจากงาน ตกงาน จาก COVID-19 ให้ด้วยนะ อย่างน้อยจะได้ช่วยเยียวยาสู้วิกกฤติโควิดในครั้งนี้ แล้วที่สำคัญเพื่อนๆ ชาวแฟรงค์อย่าลืมดูแลตัวเอง ซื้อประกันสุขภาพ  กับ frank.co.th เพื่อให้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกันด้วย ซึ่งวงเงินค่ารักษาจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเลย ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาแพงๆ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ก็รับกรมธรรม์ผ่านอีเมลทันที

ประกันออนไลน์

The post 5 อาชีพเสริมรายได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิด appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%87?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587 Mon, 01 Jun 2020 05:05:10 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11883 ต่อจากลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกัน  ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร ทางครม.ได้เห็นผลกระทบโควิด 19 ที่หลายคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ จึงมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจำนวน 13 ล้านคน เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นกลุ่มคนท

The post เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
ต่อจากลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกัน  ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร ทางครม.ได้เห็นผลกระทบโควิด 19 ที่หลายคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ จึงมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจำนวน 13 ล้านคน เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่เคยได้รับเงิน 15,000 บาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน หรือเยียวยาเกษตรกรก่อนหน้านี้ แล้วใครบ้างที่จะได้รับสิทธิ์เยียวยากลุ่มเปราะบาง พร้อมจะได้รับเงินช่วยเหลือตอนไหน มาเช็คสิทธิ์กลุ่มเปราะบางกันเลย!! (อัพเดตข้อมูลวันที่ 08/07/2563)

ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปาะบาง 3,000 บาท

เยียวยากลุ่มเปราะบาง

  • เด็ก คือ กลุ่มเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุครบ 6 ปี
  • ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป
  • ผู้พิการ

เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินเท่าไหร่

สำหรับใครที่เข้าข่ายกลุ่มข้างต้น ก็สามารถตรวจสอบเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง เพื่อรับเงินเยียวยาได้เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 บาท  ทั้งนี้จะจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางรวมกับเงินตามสิทธิที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม เช่น เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยยังชีพคนพิการ เอาเป็นว่า!! เรามาตรวจสอบเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางแต่ละกลุ่มกันเลย

1. เงินเยียวยาเด็กแรกเกิด

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
การเงินเยียวยากลุ่มเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จะได้รับ เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท + เงินเยียวยาเด็ก 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มเด็กแรกเกิดจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,600 บาทต่อคน แต่ถ้าท่านต้องการตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตร สามารถเช็กสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตรได้ที่โครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยคุณพ่อคุณแม่เด็กจะต้องเตรียมข้อมูล ตามนี้

  • บัตรประชาชนของแม่เด็กที่ใช้ยื่นรับสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชนเด็กที่ใช้ยื่นรับสิทธิ์เงินอุดหนุนบุตร

2. เงินเยียวยากลุ่มผู้สูงอายุ

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
ส่วนเงินเยียวยาผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 - 1,000 บาท  (ตามช่วงอายุ) + เงินเยียวยาผู้สูงอายุ 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,600-4,000 บาทต่อคน โดยท่านสามารถตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม หรือเช็คสิทธิ์กลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุกันก่อนได้ เพื่อตรวจสอบว่าท่านมีสวัดิการสังคมหรือไม่ 
หมายเหตุ : เบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุจะในรับเงินช่วยเหลือตามปกติทุกๆ เดือน ดังต่อไปนี้

  • อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาทต่อเดือน
  • อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาทต่อเดือน
  • อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

3. เงินเยียวยากลุ่มคนพิการ

นอกจากนี้กลุ่มคนพิการที่เคยได้รับสวัสดิการสังคมอยู่แล้ว ก็จะได้รับ เบี้ยเงินพิการ 800 บาท + เงินเยียวยาคนพิการ 1,000 บาท  ดังนั้น กลุ่มคนพิการจะได้รับเงินสมทบทั้งหมด 3,800 บาทต่อคน โดยไม่ต้องลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากท่านจะได้รับเบี้ยคนพิการผ่านทางบัญชีธนาคารรวมกับเงินเยียวยากลุ่มคนพิการ แต่ถ้าท่านยังไม่เคยลงทะเบียนคนพิการก็สามารถยื่นคำขอบัตรประจำตัวคนพิการ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ลงทะเบียนเยียวยากลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินตอนไหน?

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
จากที่มีมาตราการช่วยเหลือเงินเยียวยากลุ่มผู้เปราะบาง อย่างเช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ อัพเดท! ทางภาครัฐมีมติว่าจะจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางคนละ 3,000 บาท ภายในวันที่ 20 ก.ค.63  โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แล้วจะเข้าเงินบัญชีเดียวกับที่เคยได้รับเงินอุดหนุนเด็ก เบื้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการตามสิทธิที่มีอยู่แล้ว หรือจะเลือกรับเป็นสดโดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเยียวยาให้องค์กรส่วนท้องถิ่นเป็นคนจัดสรรต่อไป
** ในกรณีท่านยังไม่ได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3,000 บาท หลังจากวันที่ 20 ก.ค. 63 แนะนำให้ติดต่อไปที่สายด่วน พม. 1300 หรือติดต่อที่สำนักงานสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ

ถ้าได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาไหม

เยียวยากลุ่มเปราะบาง
หากท่านที่เคยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ เช่น เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยคนพิการ เบี้ยผู้สูงอายุ มีได้รับสิทธิ์เงินเยียวยากลุ่มเปราะบางแน่นอน เพราะเป็นเงินที่ช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาตรการในช่วงโควิด 19 แต่ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3,000 บาท จะต้องอยู่ในเกณฑ์ตามเงื่อนไข ดังนี้

  • ผู้มีสิทธิจะต้องมีฐานข้อมูลของกระทรางฯ ที่เคยได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว
  • ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้รับเงิน 5,000 บาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เยียวยาเกษตรกร
  • ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ม.33 (กรณีโควิด 19)

แล้วเราจะตรวจสอบสิทธิสวัสดิการอย่างไร

หากไม่แน่ใจว่าเรามีสวัสดิการแห่งรัฐและสวัสดิการสังคมหรือไม่ ให้ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคมเบื้องต้นด้วยการกรอกหมายเลขบัตรประชาชน แล้วกดปุ่มตรวจสอบสิทธิ์ ถ้าท่านเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิจะปรากฎสวัสดิการต่างๆ ที่ท่านได้รับ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้พิการ เป็นต้น
แต่ถ้าท่านยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ได้แก่ เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุและคนพิการจะต้องไปลงทะเบียนที่สำนักงานเขต อบต หรือเทศบาลก่อน  เพื่อให้ทางกระทรวงการคลังเข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
เพนกวิน frank.co.th ขอเป็นส่วนหนึ่งให้กำลังใจทุกคนผ่านวิกฤตโควิด 19 ไปด้วยดี สิ่งสำคัญตอนนี้เราจะต้องดูแลสุขภาพให้ และเป็นกำลังใจให้กัน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคภัยไข้เจ็บมาเยือน เมื่อร่างกายเราเเข็งแรงดีแล้ว จิตใจเราก็จะมีความสุขตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ดีที่สุดก็คือสุขภาพตัวเรานั่นเอง  สุดท้ายแล้วอย่าลืมนึกถึงประกันสุขภาพกับ Frank หรือประกันภัยออนไลน์ที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณด้วยนะ แฟรงค์พร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ

ประกันสุขภาพ

The post เยียวยากลุ่มเปราะบาง เด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ มีสิทธิ์ได้เงิน 3,000 บาท appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
วิธีลงทะเบียนว่างงาน หยุดงานเพราะโควิด-19 กับประกันสังคม https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a1 Thu, 14 May 2020 02:50:48 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=11674 สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ลาออกจากงานเอง จะได้รับสิทธิประกันสังคมชดเชยกรณีลาออกจากงานอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ช่วงโควิด-19 ระบาดหนักเช่นนี้ ภาคธุกิจหลายแห่งกำลังประสบปัญหารายได้ขาดทุน บ้างก็ต้องปิดตัวธุรกิจลง บ้างก็เลิกจ้างลูกจ้าง พนักงานชั่วคราว เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน หากคุณต้องอยู่ในสถานะตกงานกะทันหัน หางานก็ลำบาก ราย

The post วิธีลงทะเบียนว่างงาน หยุดงานเพราะโควิด-19 กับประกันสังคม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ลาออกจากงานเอง จะได้รับสิทธิประกันสังคมชดเชยกรณีลาออกจากงานอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ช่วงโควิด-19 ระบาดหนักเช่นนี้ ภาคธุกิจหลายแห่งกำลังประสบปัญหารายได้ขาดทุน บ้างก็ต้องปิดตัวธุรกิจลง บ้างก็เลิกจ้างลูกจ้าง พนักงานชั่วคราว เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน หากคุณต้องอยู่ในสถานะตกงานกะทันหัน หางานก็ลำบาก รายได้ต่อเดือนก็ไม่มีเพราะโควิด 19 ในฐานะผู้ประกันตนมาตรา 33 จะใช้สิทธิ์ลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ได้ไหมนะ? คำตอบก็คือได้เหมือนกัน เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ก็รับเงินเยียวยาไปเลย

ขั้นตอนลงทะเบียนคนว่างงานประกันสังคม (เพราะโควิด-19)

อย่างแรกผู้ประกันตนมาตรา 33 ต้องให้เข้าใจก่อนว่า การลงทะเบียนว่างงานของผู้ประกันตนกรณีเลิกจ้าง/ลาออกตามปกติให้ลงทะเบียนที่ (https://empui.doe.go.th/auth/index) ภายใน 30 วันนับจากวันที่ลาออก เฉพาะกรณีว่างงานเลิกจ้างจากเหตุโควิด-19  หรือเหตุจำเป็นต้องหยุดกักตัวเพราะโควิดให้ลงทะเบียนคนว่างงานประกันสังคมที่ (https://www.sso.go.th) ตามขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : เข้าเว็บไซต์

ลงทะเบียนว่างงาน
สำหรับวิธีลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ (เหตุ Covid-19) อันดับแรกให้คุณเข้าไปยังเว็บไซต์หลัก  www.sso.go.th ซึ่งสามารถลงทะเบียนคนว่างงานจากเหตุโควิด 19 ผ่านเว็บไซต์นี้ได้เลย แล้วให้คลิกกรอกแบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทน

ขั้นตอนที่ 2 : เลือกหัวข้อกรณีว่างงาน

ลงทะเบียนว่างงาน
ต่อมาให้ เลือกหัวข้อกรณีว่างงาน  “แบบฟอร์มรับประโยชน์ ​กรณีว่างงาน (สำหรับลูกจ้าง/ผู้ประกันตน)

ขั้นตอนที่ 3 : กรอกชื่อ-นามสกุล

ลงทะเบียนว่างงาน
พอหลังจากเลือกหัวข้อที่ต้องการแล้ว จะขึ้นหน้าแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์  ขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคมกรณีว่างงาน (มาตรา 33) ให้ท่านกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน (13 หลัก) ชื่อ-นามสกุล และกรอกรหัสให้ตรงกับรูปภาพ แล้วให้กด “ตรวจสอบสิทธิ์”

ขั้นตอนที่ 4 : กรอกข้อมูลแบบฟอร์มให้ครบ

ลงทะเบียนว่างงาน
หลังจากนั้นเลื่อนลงมา แล้วกรอกข้อมูลตามช่องที่ระบุไว้  เช่น เบอร์มือถือ อีเมล สถานที่ทำงาน สาเหตุจากการออกจากงาน และชื่อบัญชีธนาคารสำหรับขอรับเงิน เป็นต้น เพื่อทำการลงทะเบียนว่างงานประกันสังคมออนไลน์

ขั้นตอนที่ 5 : รับรองข้อมูล แล้วเสร็จสิ้น

ลงทะเบียนว่างงาน
เมื่อกรอกครบแล้วให้ติ๊กถูกที่ช่องรับรองและ ยินยอมตามข้อความข้างต้นทั้งหมด ให้กดปุ่ม “บันทึกข้อมูล”  ก็เป็นอันเสร็จสิ้นวิธีลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ (ถ้าช่องไหนยังใส่ข้อมูลไม่ครบ ก็ให้กลับไปใส่ให้ครบนะจ๊ะ)
หมายเหตุ : ส่วนนายจ้างให้กรอกแบบรับรองยืนยันในกรณีหยุดงานของลูกจ้าง อันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย (สำหรับนายจ้าง) ด้วย เพราะนายจ้างต้องให้ข้อมูลรับรองในส่วนตรงนี้เพื่อยื่นประกอบกัน แล้วอย่าลืมเข้ามาเช็กสิทธิประกันสังคม หยุดงาน ออกจากงาน ตกงานจาก COVID-19 กันด้วยนะ 

เงื่อนไขลงทะเบียนว่างงาน (ผู้ประกันตนมาตรา 33)

ลงทะเบียนว่างงาน

  • เมื่อผู้ประกันตนจ่ายเงินสบทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนว่างงาน
  • ถูกเลิกจ้างหรือลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา โดยถูกต้องตามกฎหมาย
  • ผู้ว่างงานจะต้องลงทะเบียนว่างงานของภาครัฐภายใน 30 วันนับตั้งแต่ที่ว่างงาน (ไม่ต้องรอหนังสือออกจากงาน)
  • ผู้ว่างงานจะต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำหนักจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
  • ไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือผู้ประกันตนมาตรา 40

ส่วนใครที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ก็สามารถลงทะเบียนรับเงินเยียวยาโครงการเราไม่ทิ้งกันจากกระทรวงการคลังได้ที่เว็บไซต์  www.เราไม่ทิ้งกัน.com หากมีคุณสมบัติผ่านตามเกณฑ์ก็จะได้รับเงิน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 15,000 บาท โดยเฉพาะอาชีพฟรีแลนซ์ ไม่มีนายจ้างก็ได้รับสิทธิประกันสังคมต่างหากด้วย
เพราะฉะนั้นใครที่ว่างงาน ตกงาน หรือหยุดงานเพราะโควิด ก็สามารถลงทะเบียนคนว่างงานประกันสังคมได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญเราจะต้องมีสติ อย่าเพิ่งหมดหวังกับทุกปัญหา แฟรงค์เชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ 

ขอบคุณที่มา : www.sso.go.th

The post วิธีลงทะเบียนว่างงาน หยุดงานเพราะโควิด-19 กับประกันสังคม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? https://www.bolttech.co.th/blog/%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%87%e0%b8%88%e0%b8%9a%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%8d%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a1?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%258d%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a1 Mon, 04 May 2020 03:01:12 +0000 https://www.bolttech.co.th/blog?p=10566 รู้หรือไม่ว่า? นอกจากเราจะได้รับ ประกันสังคมว่างงาน ประกันสังคมค่ารักษากรณีบาดเจ็บ และประกันสังคมคนท้องแล้ว เงินประกันสังคมที่เราจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือนนั้น เรายังสามารถรับเงินเมื่อยามแก่ชราได้ด้วย หรือเรียกกันว่า “เงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพ” นั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อให้เก็บเงินเอาไว้ใช้หลังเกษีย

The post เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>
รู้หรือไม่ว่า? นอกจากเราจะได้รับ ประกันสังคมว่างงาน ประกันสังคมค่ารักษากรณีบาดเจ็บ และประกันสังคมคนท้องแล้ว เงินประกันสังคมที่เราจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือนนั้น เรายังสามารถรับเงินเมื่อยามแก่ชราได้ด้วย หรือเรียกกันว่า “เงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพ” นั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเพื่อให้เก็บเงินเอาไว้ใช้หลังเกษียณ ถึงแม้ในอนาคตคุณจะไม่มีรายได้ก็ตาม แต่ทั้งนี้สิทธิประกันสังคมกรณีชราภาพ เราจะได้รับเงินคืนตอนอายุเท่าไหร่ แล้วคำนวณอย่างไรบ้าง ลองมาเช็คสิทธิประกันสังคมเลย....

ประกันสังคมกรณีชราภาพ คืออะไร?

เงินสมทบชราภาพ
คำว่า เงินชราภาพประกันสังคม” หมายถึง กองทุนที่ผู้ประกันตนเลือกจ่ายสมทบให้ทางประกันสังคมตามที่กำหนด เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำบาญยามชราภาพ  ทั้งนี้สามารถใช้สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 (มนุษย์เงินเดือน) หรือผู้ประกันตนมาตรา 39  (คนที่ลาออกจากงานประจำแล้ว) ได้เหมือนกัน แต่การเบิกประกันสังคมชราภาพก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่ายสมทบ อายุ และสถานะความเป็นผู้ประกันตนด้วย

การเบิกเงินสมทบชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่า “เงินสมทบชราภาพ” จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เงินบำเหน็จที่จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว กับเงินบำนาญชราภาพที่จ่ายให้รายเดือนตลอดชีวิต  ซึ่งจะมีการเบิกจ่ายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประกันสังคมแตกต่างกัน

1. เงินบำเหน็จชราภาพ ประกันสังคม

หากใครที่ต้องการรับเงินก้อนโตทีเดียวเป็นเงินบำเหน็จ ผู้ประกันตนสามารถเบิกประกันสังคมชราภาพ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการทำงานเมื่อยามเกษียนได้ แต่ผู้ประกันตนต้องมีคุณสมบัติตามที่ประกันสังคมกำหนดไว้
1.1 เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย

1.2 ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ 
ถึงแม้จะอยู่ในเงื่อนไขประกันสังคมชราภาพตามที่กำหนดข้างต้น ผลประโยชน์ในการได้รับเงินบำเหน็จ  แต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันด้วย ดังต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสบทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินที่เราจ่ายสมทบเท่านั้น 
  • กรณีจ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้เงินบำเหน็จมาจากเงินสบทบที่เราจ่าย เงินสมทบของนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
  • กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับครั้งสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย

1.3 การคำนวณเงินบำเหน็จชราภาพ
เอาเป็นว่า!! เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น เราลองมาเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำเหน็จ) กันเถอะ สมมติว่านายกวิ้นเป็นผู้ประกันตนอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นลูกจ้าง ซึ่งนายกวิ้นจ่ายเงินสบทบ 450 บาทต่อเดือน เป็นเวลารวม 10 เดือน (น้อยกว่า 12 เดือน) ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินเงินบำเหน็จ 450x10 = 4,500 บาท
แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และอายุครบ 55 ปี จะได้รับได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับจำนวนเงินสมทบของตนเอง + เงินสมทบของนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน (ผลกำไรจากกองทุนประกันสังคมนำเงินไปลงทุน) 
อย่างเช่น นายกวิ้นจ่ายเงินสมทบเดือนละ 450 บาท ส่วนนายจ้างสบทบให้อีกเดือนละ 450 บาท แล้วนายกวิ้นจ่ายเงินสมทบชราภาพมา 10 ปี ดังนั้น นายกวิ้นจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เป็นจำนวน (450 + 450) x 12 เดือน x 10 ปี = 108,000 บาท และบวกกับผลดอกจากการลงทุนประกันสังคม

2. เงินบำนาญชราภาพ ประกันสังคม

เงินสมทบชราภาพ
แต่ถ้าใครที่อยากได้เงินบำนาญชราภาพ เพื่อแบ่งใช้เป็นรายเดือนยาวๆ ตลอดชีวิต ก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ่ายเงินสบทบและฐานเงินเดือนเป็นหลัก รวมถึงข้อตกลงที่ทางประกันสังคมกำหนดไว้เช่นกัน
2.1 เงื่อนไขการรับเงินบำนาญตามสิทธิประกันสังคม

  • จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
  • ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

2.2 ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ
หลังจากอ่านสิทธิการรับเงินบำนาญ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็ต้องศึกษา ผลประโยชน์ในการรับเงินบำนาญชราภาพ  เพื่อเอาไว้ใช้เมื่อยามเกษียณด้วยนะ ผลประโยชน์การรับสิทธิ์จะแบ่งออกเป็น 3 กรณีต่อไปนี้

  • กรณีจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนพอดี มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคมเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง 
  • กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
  • กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน

2.3 การคำนวณเงินบำนาญชราภาพ
ทั้งนี้เราสามารถเช็คเงินชราภาพประกันสังคม (เงินบำนาญ) ได้เหมือนกัน หากคุณเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มนุษย์เงินเดือน จะกำหนดฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท แต่ถ้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 คนที่ลาออกจากงานประจำ คิดเป็นเงินเดือน 4,800 บาท

  • กรณีที่คุณจ่ายเงินสมทบ 180 เดือนเป๊ะ ตามสูตรก็คือ 20% x ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 

ตัวอย่างเช่น : นายแฟรงค์ เป็นผู้ประกันตนมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป จ่ายเงินสบทบ 180 เดือนพอดี ครบอายุ 55 ปี และสิ้นสุดเป็นผู้ประกันตน นายแฟรงค์จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็น 20% x 15,000 = 3,000 บาทต่อเดือน

  • แต่ถ้าจ่ายเงินสบทบเกิน 180 เดือน ใช้สูตร 20% + [1.5% x (จำนวนปีจ่ายเงินสมทบ - 15 ปี)]

ตัวอย่างเช่น : กรณีจ่ายเงินสบทบมาแล้ว 20 ปี จะคิดเป็น 20% + [1.5x(20-15)] = 20% + [1.5x5] เท่ากับ 27.5% แล้วนำมาคูณกับฐานเงินเดือนอีกครั้ง เช่น นางจริงใจมีรายได้ 15,000 บาท/เดือนขึ้นไป = 15,000 x 27.5% = 4,125 บาท/เดือนตลอดชีวิต
หรือกรณีที่นางจริงใจได้รับเงินบำนาญชราภาพ แล้วเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน คิดเป็น 4,125 x 10 เท่า เป็นเงินทั้งหมด 41,250 บาท

การรับเงินเกษียณต้องทำเมื่อไหร่?

เงินสมทบชราภาพ
หากคุณจ่ายเงินสมทบประกันสังคมตามที่กำหนด พออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ คุณก็ต้องลาออกจากประกันสังคมก่อน  แล้วยื่นเรื่องเบิกเงินค่าบำเหน็จหรือบำนาญภายใน 1 ปีหลังจากลาออกจากกองทุนประกันสังคม นั่นหมายความว่าคุณจะหมดสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลบาดเจ็บ ค่าทำฟัน และค่าคลอดบุตร เป็นต้น ดังนั้น กรณีประสบอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเอง หรือเลือกทำประกันอุบัติเหตุเพื่อช่วยให้ดูแลค่ารักษาพยาบาลของคุณได้ 
เพราะฉะนั้น การจ่ายเงินประกันสังคมชราภาพทุกๆ เดือนนั้น ถือเป็นประโยชน์ให้กับคุณในอนาคตได้ดีเลยล่ะ ยามวัยเกษียณก็มีเงินบำเหน็จก้อนโตไว้ใช้ หรือเงินบำนาญเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อุ่นใจเท่าคุณมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับ Frank.co.th ให้ช่วยดูแลอีกทาง หากเกิดประสบอุบัติเหตุ ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ทันทีกว่า 400 แห่งในโรงพยาบาล (ไม่ต้องสำรองจ่าย) แถมยังคุ้มครองกรณีกระดูกหัก ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีความเสี่ยงมากๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่ามีคนช่วยคุ้มครองคุณนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sso.go.th

ประกันอุบัติเหตุ

The post เกษียนแล้วเบิกเงินบำเหน็จบำนาญ ประกันสังคมยังไง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

]]>